[EXO] Separate วิปโยค [Chanbaek]
-
เขียนโดย หนูมาลีมีหนุ่มหล่อๆ
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.03 น.
6 chapter
0 วิจารณ์
14.88K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558 19.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) TAKE CARE
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมนุษย์เป็นสัตว์ที่ช่างสงสัยใคร่ที่จะรู้ พวกมันพยายามหาคำตอบและแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วงไปด้วยดี แต่ใครจะรู้ หากความช่างสงสัยของมนุษย์มีมากเกินไป อาจนำมาซึ่งหายนะก็เป็นได้
ความขี้สงสัยของแบคฮยอนก็เช่นกัน มักจะเป็นแบบนี้ประจำ ถ้าหากเขาอยากรู้อะไรเขาจะต้องรู้มันให้ได้เดี๋ยวนี้ และตอนนี้
เช่นเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับชานยอลเมื่อคืนที่แบคฮยอนพยายามหาคำตอบ ถึงแม้เขาจะไม่มีความรู้ในเรื่องจิตวิทยามากนัก แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็พอจะเป็นข้อมูลดีๆให้กับแบคฮยอนได้พอสมควร
เขาเริ่มจากค้นหาข้อมูลในหนังสืออ้างอิงที่ไปยืมมาจากห้องของหมอคยองซู จากอาการของชานยอลเทาที่เขาสังเกตเห็น คิดว่าน่าจะเป็นโรคจิตทางอารมณ์ แบบผสม คือเป็นได้ทั้งแบบคลั่งและแบบซึมเศร้า หรือที่เรียกกันว่า Bipolar นั้นเอง อาการแบบคลั่งคือ อารมณ์ดีร่าเริงมากกว่าที่เคยเป็น กระตือรือร้นที่จะทำความรู้จักและเกี่ยวข้องกับผู้อื่น อาจมีอาการหงุดหงิดเกิดขึ้นเมื่อถูกขัดใจ แข็งขันมากกว่าเดิมทั้งในด้านหน้าสังคม การเมือง อาชีพหรือแม้แต่กระทั่งเรื่องเพศที่ดูเหมือนจะมีอาการชัดที่สุด เช่น มีกิจกรรมทางเพศมากขึ้น มีแผนการที่จะทำอะไรบางอย่างแต่ไม่คิดถึงผลเสียที่จะตามมา เช่น การใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยเกินตัวหรือพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม มีการกระทำที่ไร้ระเบียบ ช่างพูด พูดเสียงดัง พูดเร็ว พูดไม่หยุดกว่าปกติ อาจชอบเล่นมุขตลก มีอาการ flight of idea คือพูดออกมามากและเร็ว มีการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างกะทันหันตามสิ่งเร้าจากทั้งภายในและภายนอก อาจฟังไม่ได้ความชัดเจน ไม่มีสมาธิหรือความตั้งใจ มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก มักหลงผิดว่าตัวเองสำคัญเหนือกว่าคนอื่น ต้องการนอนหลับที่น้อยลงหรือบางครั้งอาจไม่นอนเลยก็มี บางครั้งมีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนร่วมด้วย ส่วนแบบเศร้า จะมีอาการขาดความสนใจในกิจกรรมแทบทุกอย่างที่ตัวเองทำประจำ ผู้ป่วยมักอธิบายว่าตัวเองเศร้าเสียใจ ท้อแท้ รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยและไร้ค่า อาจมีมากจนถึงขั้นตำหนิตัวเองจากความผิดพลาดหรือความผิดหวังเพียงเล็กน้อย บางรายอาจมีปฏิกิริยากับความผิดพลาดของตัวเองในอดีตหรือในปัจจุบันจนอาจแสดงความรับผิดชอบออกมามากเกินไป สมาธิมักต่ำ ตัดสินใจช้า มีความคิดเกี่ยวกับความตายหรือการฆ่าตัวตาย อาจเชื่อว่าตนเองตายแล้วเสียยังดีกว่า มีความรู้สึกอยากตายหรือไม่ก็มีแผนฆ่าตัวตาย ขาดความสุข แยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อน ครอบครัวหรือคนในสังคม มีอาการกระสับกระส่ายหรือเชื่องช้าประกอบกัน ไม่สามารถ้านั่งเฉยๆ มักย่ำเท้า บิดมือ ดึงหรือถูผม ถูผิวหนังหรือเสื้อผ้าอื่นๆ เสียงดัง พูดมาก ยากแก่การขัดจังหวะ ถ้ามีอาการเชื่องช้าคือ พูดช้า ต้องคิดอยู่นานก่อนจะพูดออกมา เคลื่อนไหวช้า อาจไม่พูดเลยก็มี พูดเสียงต่ำและเสียงอยู่ในระดับเดียวกันหมด รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลาทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลย มีควมผิดปกติในการนอนและการกิน ในด้านการรักษาต้องมีการให้ยา ซึ่งแบคฮยอนมีความรู้ในเรื่องการจัดยาพอสมควรเพราะหน้าที่ประจำของเขาคือการจัดยาให้ตามแพทย์สั่ง แต่วิธีการรักษาที่สำคัญที่สุดคือการให้คำปรึกษาแนะนำ แบคฮยอนไม่เคยทำการรักษาใครมาก่อน เขาจึงตัดสินใจเอาเองว่าการดึงบุคลิกภาพด้านดีของชานยอลออกมา น่าจะเป็นวิธีการรักษาได้ดีที่สุด
เหมือนครั้งนี้แบคฮยอนจะคิดผิด เพราะเขาไม่รู้เรื่องบางอย่างที่ตัวชานยอลเก็บงำเป็นความลับไว้...
เขารวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่หามาได้จากหนังสือในเรื่องการปรับปรุงบุคลิกภาพให้ได้มากที่สุด"หวังว่าความพยายามในครั้งนี้จะมากพอที่จะช่วยไอหูกางนั้นได้นะ..." เขารำพึงรำพันกับตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
แบคฮยอนเปิดประตู้ห้องคนไข้ไป พบชานยอลกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารที่ถูกปูด้วยผ้าสีขาวหรูที่ถูกตกแต่งอย่างงดงาม เช่นเดียวกับอาหารที่ชานยอลจะได้แต่ละครั้ง จะเป็นอาหารหรูราคาแพงเท่านั้น จะไม่เหมือนคนไข้คนอื่นๆที่ได้แต่อาหารบ้านๆ ชานยอลนั่งรอเหมือนรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องมาหาเขาแน่นอน
"อรุณสวัสดิ์นะครับ คุณแบคฮยอน..""อ-อื้ม.. สวัสดี.." แบคฮยอนไม่ชินกับการทักทายที่เป็นพิธีรีตองมากนัก"เชิญคุณมาทานอาหารเช้าด้วยกันสิครับ..""เอ่อ.. ม-ไม่เป็นไรหรอก""แต่ผมจัดเตรียมเผื่อไว้ให้แล้วนะครับ จะไม่มาทานด้วยกันหน่อยหรอครับ??" ชานยอลทำหน้าตาเว้าวอน ด้วยความที่แบคฮยอนไม่อยากเสียมารยาทต่ออีกฝ่าย จึงตกลงที่จะร่วมรับประทานอาหารกับชานยอล เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้กับเก้าอี้ ชานยอลรีบลุกขึ้นมาดึงเก้าอี้ให้อีกฝ่ายนั่ง แบคฮยอนดูงงเล็กน้อยกับลักษณะความเป็นสุภาพบุรุษของชานยอล
อาหารเช้าวันนี้เป็นสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสกับเบค่อนถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆที่ถูกหั่นโรยเป็นท็อปปิ้งด้านบน แบคฮยอนดูตะลึงกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า ชานยอลแอบมองอีกฝ่ายทุกครั้งที่มีโอกาส
"เชิญตามสบายเลยนะครับ" ชานยอลยิ้มอีกฝ่ายลงมือทานอาหาร เขาค่อยๆม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ให้พอดีคำก่อนนำเข้าปาก แบคฮยอนละเลียดรสชาติของมัน เขาถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อทานไปได้เพียงคำแรก
ทำไมรสชาติมันแปลกๆ??
จะว่ามันเค็มหรือเลี่ยนก็ไม่เชิง สัมผัสของซอสกลับลื่นและหนืดเล็กน้อย มันออกจะมีรสหวานปนอยู่ด้วยซ้ำ
จะไม่ให้หวานได้ยังไง??
ก็ในนั้นมันมีน้ำอสุจิของชานยอลผสมอยู่ด้วย
น้ำกามสีขาวขุ่นถูกคลุกเคล้าให้เข้ากับเส้นสปาเก็ตตี้อย่างทั่วถึง แต่ดูเหมือนว่าน้ำจะออกมามากเกินไปหน่อย ทำให้น้ำซอสมีปริมาณมากกว่าปกติ
ก็แหม่.. ก็แค่เพิ่มรสชาติให้อาหารเอง
ชานยอลจ้องมองอีกฝ่ายละเลียดน้ำกามรสเลิศของตัวเองอย่างใจจ่ดใจจ่อ แบคฮยอนด่ำดื่มกับน้ำซอสสีขาวขุ่นจนหยดสุดท้าย
"อ-อร่อยมากเลย..""แน่นอนครับ เพราะนี้เป็นน้ำซอสสูตรพิเศษของผมเอง.." ชานยอลส่งยิ้มหวานให้อีกฝ่าย"ว่าแต่..ที่มาหาผมวันนี้มีอะไรรึเปล่าครับ?""เอ่อ.. ก็นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะรักษานายแทนก่อนที่นายจะมีหมอประจำ วิธีการรักษาของฉันอาจจะไม่ได้ดีเท่าหมอตัวจริงเท่าไหร่นัก แต่ฉันก็จะพยายามช่วยนายให้กลับเป็นปกตินะ.." แบคฮยอนดูเขินเล็กน้อยที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้ เพราะปกติเขาไม่ค่อยพูดจาดีให้กับใครเป็นพิเศษ
"งั้นหรอ?? หวังว่าคงจะดีขึ้นจริงๆนะครับ ตอนนี้ผมชักเบื่อแล้วสิ ออกไปเดินเล่นได้ไหมครับ??" มีหรือที่อีกฝ่ายจะกล้าปฏิเสธคำขอร้องของชานยอล คนไข้พิเศษของโรงพยาบาล"ได้ๆ ตอนนี้คนไข้คนอื่นๆก็กำลังออกกำลังกายกันอยู่" แบคฮยอนอนุญาต เพราะการที่คนไข้ต้องการออกไปเจอสังคมหรือโลกภายนอก นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
สนามหญ้าค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยเหล่าคนไข้หลากหลายช่วงอายุ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนไข้มากมายที่เหมือนได้หลุดพ้นจากกรงขัง ออกมาสัมผัสโลกข้างนอก แต่รอบข้างนั้นกลับเต็มไปด้วยเหล่าบุรุษพยาบาลที่ยืนเฝ้าคอยดูแลเรื่องความปลอดภัย
ชานยอลดูตื่นเต้นกับการออกมาเจอผู้คน เขาตรงหรี่ไปคุยกับผู้คนที่ไม่รู้จักโดยที่ไม่มีอาการเขินอายและทำเหมือนว่ารู้จักกันมานานนับปี ชานยอลเหมือนภแม่เหล็ก เขาดูมีเสน่ห์มากเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนรายล้อมรอบตัว ชานยอลเหมือนเป็นซุปเปอร์สตาร์ดังระดับโลก เสียงหัวเราะด้วยความสนุกสนานดังมาจากกลุ่มคนไข้ คนไข้นางหนึ่งตะโกนว่าชื่นชอบในมุขตลกของชานยอล เธอไม่เคยได้ยินอะไรที่ทำให้ตลกเท่านี้มาก่อน คนไข้หนุ่มบางคนถึงกับร้องไห้ เขาตะโกนว่าเรื่องที่ชานยอลเศร้ามากจนหัวใจเขาแทบแหลกสลาย ผู้คนรอบข้างบ้างหัวเราะและกรีดร้องโหยหวน บ้างร้องไห้สวดมนต์อ้อนวอนกับพระผู้เป็นเจ้า นั้นยิ่งทำให้เหล่าบุรุษพยาบาลเริ่มเห็นท่าไม่ดีกับอาการของคนไข้ ก่อนจะช่วยกันจับคนไข้ทั้งหมดให้แยกขึ้นตึกทำให้ทุกคนแตกตื่นสร้างความวุ่นวายให้กับบุรุษพยาบาลในการตามจับตัว แบคฮยอนพยายามสอดส่องหาชานยอล แต่ด้วยผู้คนที่มีจำนวนมาก ทำให้เหมือนกับอีกฝ่ายหายตัวไปกับฝูงชนที่กำลังพลุกพล่าน
"ชานยอล!! ชานยอล!!!"เขาตะโกนเรียกเสียงดังวิ่งฝ่าฝูงชนแบคฮยอนเริ่มกังวลแล้วว่าชานยอลจะหายไป
หาไม่เจอ..
แบคฮยอนยืนเคว้งคว้างอยู่กลางสนาม หันมองรอบกาย มันว่างเปล่า ชานยอลหายไปไหนกัน!!??
"คุณบุรุษพยาบาลคะ!!" เสียงของสาววัยกลางคนดังขึ้นด้านหลัง ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเกรอะกรัง
"คุณคะ ลูกสาวฉันหาย!!" เธอกุมมือของอีกฝ่ายและเขย่าอย่างแรง"ลองหาดูดีๆรึยังครับ??""ลูกสาวฉันอายุ 14 เธอชื่อโซรา ตอนอยู่กลางสนามฉันยังจับมือเธอไว้อยู่เลย แต่แล้ว แต่แล้ว..." หญิงวัยกลางคนปล่อยโฮออกมาเสียงดัง แบคฮยอนเริ่มลนลานและตัดสินใจทำอะไรไม่ถูก "อ-เอ่อ... งั้นผมจะช่วยคุณหานะครับ.."เขารับปาก แบคฮยอนรีบวิ่งไปดูที่รอบๆตึกคนไข้ ลานจอดรถ ตึกของหมอและบุรุษพยาบาล ห้องเก็บของหรือแม้แต่ด่านฟ้าก็ตาม กลับไม่พบซึ่งวี่แววของเด็กน้อยวัย 14เลย
"จ-จ-จะทำยังไงดีคะ??? จะทำยังดี!?!? ฮือ.." คุณแม่วัยกลางคนโอดครวญ เธอทิ้งตัวเองไปนั่งลงบนพื้นหญ้า ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเสียที แบคฮยอนรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย แต่เหมือนเขาฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า ยังไม่อีกที่หนึ่งที่ยังไม่ได้ไปหา
ห้องน้ำเก่าหลังโรงพยาบาล
"พ-พี่ชายจะพาหนูมาที่นี้ทำไมหรอคะ??"น้ำเสียงหวาดกลัวของโซราดังขึ้น เธอกำเสื้อชานยอลเสียจนยับ ชานยอลลูบผมของเด็กหญิงอย่างแผ่วเบา ในห้องน้ำเก่ามีแสงจากหลอดไฟที่ห้อยต่องแต่งทำท่าเหมือนจะหลุด แสงของมันริบรี่ มีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งมาจากโถส้วมที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ กระจกบางบานแตกร้าวหรือมีคราบน้ำสีแปลกๆกระจายทั่วบาน ชานยอลพาโซราเดินเข้าไปในห้องน้ำ อาศัยช่วงจังหวะเผลอ ผลักเธอให้ล้มลง
"โอ๊ย!! พี่จะทำอะไรเนี่ย??!!""อยู่เฉยๆเถอะ.." ชานยอลจัดการดึงเศษผ้าผืนยาวออกมามัดข้อมือของอีกฝ่าย "พี่จ๋า.. ป-ปล่อยหนูไปเถอะนะ.."ชานยอลไม่สนใจเสียงขอร้องของเด็กสาวเลยสักนิด มือแกร่งลูบผมยาวของเด็กสาวไปมา กระชากผมจนหลุดออกมาเป็นกระจุก สูดดมกลิ่นหอมของผมสวยจนตัวสั่น โซรายังคงร้องขอชีวิตของตัวเองอยู่อย่างนั้น เขาควักมีดเล่มโตออกมา ชานยอลค่อยๆเฉือนใบหูของเด็กสาวออกมา เขาไม่ลังเลสักนิดที่จะทำ ใบมีดคมฝังเข้าใบทำให้ใบหูแหว่งเป็นบางส่วน เลือดสดไหลท่วม
"โอ๋ๆ ย-อย่าร้องสิครับ เดี๋ยวไม่สวยนะ.."เขาลูบหัวโซราที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ ชานยอลจัดการเดินไปรองน้ำจากก๊อกน้ำใส่ถังน้ำ ก่อนจะราดท่วมตัวของโซรา
"เรามาทำความสะอาดร่างกายกันดีกว่าเนอะ.." ชานยอลใช้มีดกรีดเสื้อและกางเกงให้ขาด เผยให้เห็นเรือนร่างที่สมส่วนได้รูปของเด็กวัยเจริญพันธ์ ปทุมถันงดงามได้รูปสวยและเต่งตึงดั่งดอกบัวตูม ชานยอลแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาเผลอกำหน้าอกของเด็กสาวเสียเต็มแรง ทั้งบีบ ทั้งเค้นด้วยความหื่นกระหาย โซราพยายามดิ้นขัดขืน แต่ไม่มีผลอะไรต่อชานยอล
"ขอร้องเถอะค่ะ อย่าทำอะไรหนูเลย.."โซราร้องไห้ระงมฟังไม่ได้ศัพท์ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย ชานยอลใช้นิ้วปาดน้ำตาให้
"ฉันขอตัวเธอนะ.." เขาเอียงคอให้และยิ้มแย้ม ชานยอลคว้านท้องโซรา เด็กสาวครวญครางและแผดเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและทรมาน เครื่องในไหลทะลักออกมา กลิ่นคาวเลือดทำให้ชานยอลรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ชานยอลร้องครางออกมาอย่างสุขสม น้ำตาแห่งความดีใจไหลออกมา ชานยอลหัวเราะคิกคัก ดมมือตัวเองที่เปื้อนด้วยเลือดใบหน้าเคลิบเคลิ้ม
ปัง!!!เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น แบรฮยอนหายใจเหนื่อยหอบ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือเด็กหญิงที่อยู่ในสภาพเปลือยกาย เลือดท่วมกาย หน้าท้องถูกกรีดและเหมือนมีรอยถูกกระชากให้เปิดออก แบคฮยอนเข่าอ่อน น้ำตาพรั่งพรูออกมา ฝ่ามือกุมปากพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้
'ใครกันที่กล้าทำแบบนี้??'
เสียงรถตำรวจดังอยู่ทั่วโรงพยาบาล ศพของโซราถูกขนย้ายอย่างเงียบๆ ตำรวจหลายนายตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อหาฆาตกรที่ทำการฆาตกรรม แต่ประหลาดที่ไม่พบแม้แต่รอยนิ้วมือของคนร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้ แม่ของเธอเป็นลมหมดสติไปเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ขนศพเธอออกมา แบคฮยอนได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดอย่างเงียบๆ เขารู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ตำรวจหนุ่มร่างสูงเดินตรงมาหาแบคฮยอนจากด้านหลัง
"คุณแบคฮยอนเป็นคนพบศพใช่ไหมครับ?" "ครับ.. ผมเอง" "งั้น ผมอยากจะสอบปากคำคุณสักหน่อยจะได้ไหมครับ??"เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามตำรวจไปยังห้องที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้เป็นห้องสอบปากคำ
ใช้เวลาไปประมาณชั่วโมงกว่าในการสอบปากคำ ส่วนมากคำถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับคนอื่น แต่แบคฮยอนก็ตอบอะไรมากไม่ได้เพราะเขาไม่ได้สนิทอะไรมากกับเด็กน้อยคนนั้น เขาแสร้งบอกไปว่า เธอเป็นเด็กเรียบร้อยและน่ารัก กินยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างว่าง่าย เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองบอกนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เพื่อให้ตัวเองไม่ถูกมองเป็นผู้ต้องสงสัย การโกหกก็ช่วยได้เสมอ
แบคฮยอนรู้สึกเพลียและปวดหัวมากนี้เรื่องบ้าอะไรกัน?? เหตุการณ์ในวันนี้เป็นข้อข้องใจให้กับตัวเขาเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าคงจะเป็นพวกคนนอกที่ทำแบบนี้ เป็นไปได้ยากถ้าเกิดจะเป็นแพทย์หรือคนไข้ของโรงพยาบาล
หรือว่าที่ชานยอลหายไปเขาจะ??...
ไม่หรอก.. คนแบบชานยอลจะไปกล้าทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ได้ยังไง
ใช่ไหมครับ..
---------------------------------
สกรีมผ่านในทวิตที่ #ฟิคชานยอลวิปโยค ตามมาทวงฟิคหรือพูดคุยกันได้ที่ @Beam_Minami นะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่า ^^
ความขี้สงสัยของแบคฮยอนก็เช่นกัน มักจะเป็นแบบนี้ประจำ ถ้าหากเขาอยากรู้อะไรเขาจะต้องรู้มันให้ได้เดี๋ยวนี้ และตอนนี้
เช่นเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับชานยอลเมื่อคืนที่แบคฮยอนพยายามหาคำตอบ ถึงแม้เขาจะไม่มีความรู้ในเรื่องจิตวิทยามากนัก แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็พอจะเป็นข้อมูลดีๆให้กับแบคฮยอนได้พอสมควร
เขาเริ่มจากค้นหาข้อมูลในหนังสืออ้างอิงที่ไปยืมมาจากห้องของหมอคยองซู จากอาการของชานยอลเทาที่เขาสังเกตเห็น คิดว่าน่าจะเป็นโรคจิตทางอารมณ์ แบบผสม คือเป็นได้ทั้งแบบคลั่งและแบบซึมเศร้า หรือที่เรียกกันว่า Bipolar นั้นเอง อาการแบบคลั่งคือ อารมณ์ดีร่าเริงมากกว่าที่เคยเป็น กระตือรือร้นที่จะทำความรู้จักและเกี่ยวข้องกับผู้อื่น อาจมีอาการหงุดหงิดเกิดขึ้นเมื่อถูกขัดใจ แข็งขันมากกว่าเดิมทั้งในด้านหน้าสังคม การเมือง อาชีพหรือแม้แต่กระทั่งเรื่องเพศที่ดูเหมือนจะมีอาการชัดที่สุด เช่น มีกิจกรรมทางเพศมากขึ้น มีแผนการที่จะทำอะไรบางอย่างแต่ไม่คิดถึงผลเสียที่จะตามมา เช่น การใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยเกินตัวหรือพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม มีการกระทำที่ไร้ระเบียบ ช่างพูด พูดเสียงดัง พูดเร็ว พูดไม่หยุดกว่าปกติ อาจชอบเล่นมุขตลก มีอาการ flight of idea คือพูดออกมามากและเร็ว มีการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างกะทันหันตามสิ่งเร้าจากทั้งภายในและภายนอก อาจฟังไม่ได้ความชัดเจน ไม่มีสมาธิหรือความตั้งใจ มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก มักหลงผิดว่าตัวเองสำคัญเหนือกว่าคนอื่น ต้องการนอนหลับที่น้อยลงหรือบางครั้งอาจไม่นอนเลยก็มี บางครั้งมีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนร่วมด้วย ส่วนแบบเศร้า จะมีอาการขาดความสนใจในกิจกรรมแทบทุกอย่างที่ตัวเองทำประจำ ผู้ป่วยมักอธิบายว่าตัวเองเศร้าเสียใจ ท้อแท้ รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยและไร้ค่า อาจมีมากจนถึงขั้นตำหนิตัวเองจากความผิดพลาดหรือความผิดหวังเพียงเล็กน้อย บางรายอาจมีปฏิกิริยากับความผิดพลาดของตัวเองในอดีตหรือในปัจจุบันจนอาจแสดงความรับผิดชอบออกมามากเกินไป สมาธิมักต่ำ ตัดสินใจช้า มีความคิดเกี่ยวกับความตายหรือการฆ่าตัวตาย อาจเชื่อว่าตนเองตายแล้วเสียยังดีกว่า มีความรู้สึกอยากตายหรือไม่ก็มีแผนฆ่าตัวตาย ขาดความสุข แยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อน ครอบครัวหรือคนในสังคม มีอาการกระสับกระส่ายหรือเชื่องช้าประกอบกัน ไม่สามารถ้านั่งเฉยๆ มักย่ำเท้า บิดมือ ดึงหรือถูผม ถูผิวหนังหรือเสื้อผ้าอื่นๆ เสียงดัง พูดมาก ยากแก่การขัดจังหวะ ถ้ามีอาการเชื่องช้าคือ พูดช้า ต้องคิดอยู่นานก่อนจะพูดออกมา เคลื่อนไหวช้า อาจไม่พูดเลยก็มี พูดเสียงต่ำและเสียงอยู่ในระดับเดียวกันหมด รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลาทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลย มีควมผิดปกติในการนอนและการกิน ในด้านการรักษาต้องมีการให้ยา ซึ่งแบคฮยอนมีความรู้ในเรื่องการจัดยาพอสมควรเพราะหน้าที่ประจำของเขาคือการจัดยาให้ตามแพทย์สั่ง แต่วิธีการรักษาที่สำคัญที่สุดคือการให้คำปรึกษาแนะนำ แบคฮยอนไม่เคยทำการรักษาใครมาก่อน เขาจึงตัดสินใจเอาเองว่าการดึงบุคลิกภาพด้านดีของชานยอลออกมา น่าจะเป็นวิธีการรักษาได้ดีที่สุด
เหมือนครั้งนี้แบคฮยอนจะคิดผิด เพราะเขาไม่รู้เรื่องบางอย่างที่ตัวชานยอลเก็บงำเป็นความลับไว้...
เขารวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่หามาได้จากหนังสือในเรื่องการปรับปรุงบุคลิกภาพให้ได้มากที่สุด"หวังว่าความพยายามในครั้งนี้จะมากพอที่จะช่วยไอหูกางนั้นได้นะ..." เขารำพึงรำพันกับตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
แบคฮยอนเปิดประตู้ห้องคนไข้ไป พบชานยอลกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารที่ถูกปูด้วยผ้าสีขาวหรูที่ถูกตกแต่งอย่างงดงาม เช่นเดียวกับอาหารที่ชานยอลจะได้แต่ละครั้ง จะเป็นอาหารหรูราคาแพงเท่านั้น จะไม่เหมือนคนไข้คนอื่นๆที่ได้แต่อาหารบ้านๆ ชานยอลนั่งรอเหมือนรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องมาหาเขาแน่นอน
"อรุณสวัสดิ์นะครับ คุณแบคฮยอน..""อ-อื้ม.. สวัสดี.." แบคฮยอนไม่ชินกับการทักทายที่เป็นพิธีรีตองมากนัก"เชิญคุณมาทานอาหารเช้าด้วยกันสิครับ..""เอ่อ.. ม-ไม่เป็นไรหรอก""แต่ผมจัดเตรียมเผื่อไว้ให้แล้วนะครับ จะไม่มาทานด้วยกันหน่อยหรอครับ??" ชานยอลทำหน้าตาเว้าวอน ด้วยความที่แบคฮยอนไม่อยากเสียมารยาทต่ออีกฝ่าย จึงตกลงที่จะร่วมรับประทานอาหารกับชานยอล เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้กับเก้าอี้ ชานยอลรีบลุกขึ้นมาดึงเก้าอี้ให้อีกฝ่ายนั่ง แบคฮยอนดูงงเล็กน้อยกับลักษณะความเป็นสุภาพบุรุษของชานยอล
อาหารเช้าวันนี้เป็นสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสกับเบค่อนถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆที่ถูกหั่นโรยเป็นท็อปปิ้งด้านบน แบคฮยอนดูตะลึงกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า ชานยอลแอบมองอีกฝ่ายทุกครั้งที่มีโอกาส
"เชิญตามสบายเลยนะครับ" ชานยอลยิ้มอีกฝ่ายลงมือทานอาหาร เขาค่อยๆม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ให้พอดีคำก่อนนำเข้าปาก แบคฮยอนละเลียดรสชาติของมัน เขาถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อทานไปได้เพียงคำแรก
ทำไมรสชาติมันแปลกๆ??
จะว่ามันเค็มหรือเลี่ยนก็ไม่เชิง สัมผัสของซอสกลับลื่นและหนืดเล็กน้อย มันออกจะมีรสหวานปนอยู่ด้วยซ้ำ
จะไม่ให้หวานได้ยังไง??
ก็ในนั้นมันมีน้ำอสุจิของชานยอลผสมอยู่ด้วย
น้ำกามสีขาวขุ่นถูกคลุกเคล้าให้เข้ากับเส้นสปาเก็ตตี้อย่างทั่วถึง แต่ดูเหมือนว่าน้ำจะออกมามากเกินไปหน่อย ทำให้น้ำซอสมีปริมาณมากกว่าปกติ
ก็แหม่.. ก็แค่เพิ่มรสชาติให้อาหารเอง
ชานยอลจ้องมองอีกฝ่ายละเลียดน้ำกามรสเลิศของตัวเองอย่างใจจ่ดใจจ่อ แบคฮยอนด่ำดื่มกับน้ำซอสสีขาวขุ่นจนหยดสุดท้าย
"อ-อร่อยมากเลย..""แน่นอนครับ เพราะนี้เป็นน้ำซอสสูตรพิเศษของผมเอง.." ชานยอลส่งยิ้มหวานให้อีกฝ่าย"ว่าแต่..ที่มาหาผมวันนี้มีอะไรรึเปล่าครับ?""เอ่อ.. ก็นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะรักษานายแทนก่อนที่นายจะมีหมอประจำ วิธีการรักษาของฉันอาจจะไม่ได้ดีเท่าหมอตัวจริงเท่าไหร่นัก แต่ฉันก็จะพยายามช่วยนายให้กลับเป็นปกตินะ.." แบคฮยอนดูเขินเล็กน้อยที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้ เพราะปกติเขาไม่ค่อยพูดจาดีให้กับใครเป็นพิเศษ
"งั้นหรอ?? หวังว่าคงจะดีขึ้นจริงๆนะครับ ตอนนี้ผมชักเบื่อแล้วสิ ออกไปเดินเล่นได้ไหมครับ??" มีหรือที่อีกฝ่ายจะกล้าปฏิเสธคำขอร้องของชานยอล คนไข้พิเศษของโรงพยาบาล"ได้ๆ ตอนนี้คนไข้คนอื่นๆก็กำลังออกกำลังกายกันอยู่" แบคฮยอนอนุญาต เพราะการที่คนไข้ต้องการออกไปเจอสังคมหรือโลกภายนอก นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
สนามหญ้าค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยเหล่าคนไข้หลากหลายช่วงอายุ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนไข้มากมายที่เหมือนได้หลุดพ้นจากกรงขัง ออกมาสัมผัสโลกข้างนอก แต่รอบข้างนั้นกลับเต็มไปด้วยเหล่าบุรุษพยาบาลที่ยืนเฝ้าคอยดูแลเรื่องความปลอดภัย
ชานยอลดูตื่นเต้นกับการออกมาเจอผู้คน เขาตรงหรี่ไปคุยกับผู้คนที่ไม่รู้จักโดยที่ไม่มีอาการเขินอายและทำเหมือนว่ารู้จักกันมานานนับปี ชานยอลเหมือนภแม่เหล็ก เขาดูมีเสน่ห์มากเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนรายล้อมรอบตัว ชานยอลเหมือนเป็นซุปเปอร์สตาร์ดังระดับโลก เสียงหัวเราะด้วยความสนุกสนานดังมาจากกลุ่มคนไข้ คนไข้นางหนึ่งตะโกนว่าชื่นชอบในมุขตลกของชานยอล เธอไม่เคยได้ยินอะไรที่ทำให้ตลกเท่านี้มาก่อน คนไข้หนุ่มบางคนถึงกับร้องไห้ เขาตะโกนว่าเรื่องที่ชานยอลเศร้ามากจนหัวใจเขาแทบแหลกสลาย ผู้คนรอบข้างบ้างหัวเราะและกรีดร้องโหยหวน บ้างร้องไห้สวดมนต์อ้อนวอนกับพระผู้เป็นเจ้า นั้นยิ่งทำให้เหล่าบุรุษพยาบาลเริ่มเห็นท่าไม่ดีกับอาการของคนไข้ ก่อนจะช่วยกันจับคนไข้ทั้งหมดให้แยกขึ้นตึกทำให้ทุกคนแตกตื่นสร้างความวุ่นวายให้กับบุรุษพยาบาลในการตามจับตัว แบคฮยอนพยายามสอดส่องหาชานยอล แต่ด้วยผู้คนที่มีจำนวนมาก ทำให้เหมือนกับอีกฝ่ายหายตัวไปกับฝูงชนที่กำลังพลุกพล่าน
"ชานยอล!! ชานยอล!!!"เขาตะโกนเรียกเสียงดังวิ่งฝ่าฝูงชนแบคฮยอนเริ่มกังวลแล้วว่าชานยอลจะหายไป
หาไม่เจอ..
แบคฮยอนยืนเคว้งคว้างอยู่กลางสนาม หันมองรอบกาย มันว่างเปล่า ชานยอลหายไปไหนกัน!!??
"คุณบุรุษพยาบาลคะ!!" เสียงของสาววัยกลางคนดังขึ้นด้านหลัง ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเกรอะกรัง
"คุณคะ ลูกสาวฉันหาย!!" เธอกุมมือของอีกฝ่ายและเขย่าอย่างแรง"ลองหาดูดีๆรึยังครับ??""ลูกสาวฉันอายุ 14 เธอชื่อโซรา ตอนอยู่กลางสนามฉันยังจับมือเธอไว้อยู่เลย แต่แล้ว แต่แล้ว..." หญิงวัยกลางคนปล่อยโฮออกมาเสียงดัง แบคฮยอนเริ่มลนลานและตัดสินใจทำอะไรไม่ถูก "อ-เอ่อ... งั้นผมจะช่วยคุณหานะครับ.."เขารับปาก แบคฮยอนรีบวิ่งไปดูที่รอบๆตึกคนไข้ ลานจอดรถ ตึกของหมอและบุรุษพยาบาล ห้องเก็บของหรือแม้แต่ด่านฟ้าก็ตาม กลับไม่พบซึ่งวี่แววของเด็กน้อยวัย 14เลย
"จ-จ-จะทำยังไงดีคะ??? จะทำยังดี!?!? ฮือ.." คุณแม่วัยกลางคนโอดครวญ เธอทิ้งตัวเองไปนั่งลงบนพื้นหญ้า ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเสียที แบคฮยอนรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย แต่เหมือนเขาฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า ยังไม่อีกที่หนึ่งที่ยังไม่ได้ไปหา
ห้องน้ำเก่าหลังโรงพยาบาล
"พ-พี่ชายจะพาหนูมาที่นี้ทำไมหรอคะ??"น้ำเสียงหวาดกลัวของโซราดังขึ้น เธอกำเสื้อชานยอลเสียจนยับ ชานยอลลูบผมของเด็กหญิงอย่างแผ่วเบา ในห้องน้ำเก่ามีแสงจากหลอดไฟที่ห้อยต่องแต่งทำท่าเหมือนจะหลุด แสงของมันริบรี่ มีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งมาจากโถส้วมที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ กระจกบางบานแตกร้าวหรือมีคราบน้ำสีแปลกๆกระจายทั่วบาน ชานยอลพาโซราเดินเข้าไปในห้องน้ำ อาศัยช่วงจังหวะเผลอ ผลักเธอให้ล้มลง
"โอ๊ย!! พี่จะทำอะไรเนี่ย??!!""อยู่เฉยๆเถอะ.." ชานยอลจัดการดึงเศษผ้าผืนยาวออกมามัดข้อมือของอีกฝ่าย "พี่จ๋า.. ป-ปล่อยหนูไปเถอะนะ.."ชานยอลไม่สนใจเสียงขอร้องของเด็กสาวเลยสักนิด มือแกร่งลูบผมยาวของเด็กสาวไปมา กระชากผมจนหลุดออกมาเป็นกระจุก สูดดมกลิ่นหอมของผมสวยจนตัวสั่น โซรายังคงร้องขอชีวิตของตัวเองอยู่อย่างนั้น เขาควักมีดเล่มโตออกมา ชานยอลค่อยๆเฉือนใบหูของเด็กสาวออกมา เขาไม่ลังเลสักนิดที่จะทำ ใบมีดคมฝังเข้าใบทำให้ใบหูแหว่งเป็นบางส่วน เลือดสดไหลท่วม
"โอ๋ๆ ย-อย่าร้องสิครับ เดี๋ยวไม่สวยนะ.."เขาลูบหัวโซราที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ ชานยอลจัดการเดินไปรองน้ำจากก๊อกน้ำใส่ถังน้ำ ก่อนจะราดท่วมตัวของโซรา
"เรามาทำความสะอาดร่างกายกันดีกว่าเนอะ.." ชานยอลใช้มีดกรีดเสื้อและกางเกงให้ขาด เผยให้เห็นเรือนร่างที่สมส่วนได้รูปของเด็กวัยเจริญพันธ์ ปทุมถันงดงามได้รูปสวยและเต่งตึงดั่งดอกบัวตูม ชานยอลแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาเผลอกำหน้าอกของเด็กสาวเสียเต็มแรง ทั้งบีบ ทั้งเค้นด้วยความหื่นกระหาย โซราพยายามดิ้นขัดขืน แต่ไม่มีผลอะไรต่อชานยอล
"ขอร้องเถอะค่ะ อย่าทำอะไรหนูเลย.."โซราร้องไห้ระงมฟังไม่ได้ศัพท์ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย ชานยอลใช้นิ้วปาดน้ำตาให้
"ฉันขอตัวเธอนะ.." เขาเอียงคอให้และยิ้มแย้ม ชานยอลคว้านท้องโซรา เด็กสาวครวญครางและแผดเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและทรมาน เครื่องในไหลทะลักออกมา กลิ่นคาวเลือดทำให้ชานยอลรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ชานยอลร้องครางออกมาอย่างสุขสม น้ำตาแห่งความดีใจไหลออกมา ชานยอลหัวเราะคิกคัก ดมมือตัวเองที่เปื้อนด้วยเลือดใบหน้าเคลิบเคลิ้ม
ปัง!!!เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น แบรฮยอนหายใจเหนื่อยหอบ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือเด็กหญิงที่อยู่ในสภาพเปลือยกาย เลือดท่วมกาย หน้าท้องถูกกรีดและเหมือนมีรอยถูกกระชากให้เปิดออก แบคฮยอนเข่าอ่อน น้ำตาพรั่งพรูออกมา ฝ่ามือกุมปากพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้
'ใครกันที่กล้าทำแบบนี้??'
เสียงรถตำรวจดังอยู่ทั่วโรงพยาบาล ศพของโซราถูกขนย้ายอย่างเงียบๆ ตำรวจหลายนายตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อหาฆาตกรที่ทำการฆาตกรรม แต่ประหลาดที่ไม่พบแม้แต่รอยนิ้วมือของคนร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้ แม่ของเธอเป็นลมหมดสติไปเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ขนศพเธอออกมา แบคฮยอนได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดอย่างเงียบๆ เขารู้สึกผิดมากที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ตำรวจหนุ่มร่างสูงเดินตรงมาหาแบคฮยอนจากด้านหลัง
"คุณแบคฮยอนเป็นคนพบศพใช่ไหมครับ?" "ครับ.. ผมเอง" "งั้น ผมอยากจะสอบปากคำคุณสักหน่อยจะได้ไหมครับ??"เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามตำรวจไปยังห้องที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้เป็นห้องสอบปากคำ
ใช้เวลาไปประมาณชั่วโมงกว่าในการสอบปากคำ ส่วนมากคำถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับคนอื่น แต่แบคฮยอนก็ตอบอะไรมากไม่ได้เพราะเขาไม่ได้สนิทอะไรมากกับเด็กน้อยคนนั้น เขาแสร้งบอกไปว่า เธอเป็นเด็กเรียบร้อยและน่ารัก กินยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างว่าง่าย เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองบอกนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เพื่อให้ตัวเองไม่ถูกมองเป็นผู้ต้องสงสัย การโกหกก็ช่วยได้เสมอ
แบคฮยอนรู้สึกเพลียและปวดหัวมากนี้เรื่องบ้าอะไรกัน?? เหตุการณ์ในวันนี้เป็นข้อข้องใจให้กับตัวเขาเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าคงจะเป็นพวกคนนอกที่ทำแบบนี้ เป็นไปได้ยากถ้าเกิดจะเป็นแพทย์หรือคนไข้ของโรงพยาบาล
หรือว่าที่ชานยอลหายไปเขาจะ??...
ไม่หรอก.. คนแบบชานยอลจะไปกล้าทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ได้ยังไง
ใช่ไหมครับ..
---------------------------------
สกรีมผ่านในทวิตที่ #ฟิคชานยอลวิปโยค ตามมาทวงฟิคหรือพูดคุยกันได้ที่ @Beam_Minami นะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่า ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ