[EXO] Separate วิปโยค [Chanbaek]
เขียนโดย หนูมาลีมีหนุ่มหล่อๆ
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.03 น.
แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558 19.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) Inside
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ ไม่ได้สร้างความผิดแปลกให้กับโรงพยาบาลเลยแม้แต่น้อย ทุกคนยังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สร้างความหงุดหงิดให้กับแบคฮยอนมาก เพราะทุกคนดูไม่ระแคะระคายเรื่องนี้เลย หากถามว่ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นบ้างไหม คงจะได้คำตอบแบบนี้มา
'เอ๋.. มีเด็กชื่อแบบนั้นด้วยหรอคะ??'
คนเราช่างน่ากลัวจริงๆ
ในช่วงเช้ามืด แบคฮยอนหลังจากช่วยจัดยาตามที่แพทย์ได้สั่งไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาก็เลยว่างทั้งวัน เลยคิดว่าเขาควรจะใช้เวลาตรงนี้ในการไปตรวจเช็คอาการป่วยชานยอล
เมื่อประตูห้องคนไข้ถูกเปิดออก ในห้องมีแต่เพลงแจ๊สที่ถูกเปิดโดยเครื่องเล่นแผ่นเสียงอยู่ตลอดเวลา แบคฮยอนค่อยๆปิดประตูห้องช้า เพราะเหมือนอีกฝ่ายกำลังอยู่ในอาการสะลึมสะลือใกล้หลับนั่งอยู่บนเตียงนอน อีกฝ่ายค่อยๆเดินไปใกล้ๆชานยอลที่อยู่บนเตียงนอน
"ชานยอล.. ชานยอล.." แบคฮยอนก้มหน้าลงไปเข้าใกล้ อีกฝ่ายถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นใบหน้าของแบคฮยอน
"อ-เอ่อ... มีธุระอะไรกับผมหรอครับ??"
"ทำมาถาม นายนั้นแหละ เมื่อวานหายไปไหนมา!!??"
"ห่ะ... ผมอยู่นอนอยู่บนห้องตลอดเลยนะครับ?..."
"ใช่ที่ไหนเล่า! เมื่อวานนายเพิ่งลงไปข้างล่างกับฉัน แล้วจู่ๆนายก็หายตัวไป ฉันถามว่า หาย! ไป!! ไหน!!! มา!!!!"
"ผ-ผม... ผม..."
"อย่ามาโกหกฉัน เมื่อวานนายยังดูตื่นเต้นมาก ดูสดชื่น อารมณ์ดีร่าเริง อยู่เลย!"
แบคฮยอนสีหน้าเคร่งเครียด หวังว่ามันจะน่ากลัวพอที่จะทำให้อีกฝ่ายยอมบอกเขามาซักทีนะ
ชานยอลถอนหายใจอย่างหมดหนทาง
"เรื่องเมื่อวาน ผมต้องขอโทษแทนตัวผมด้วยที่ทำแบบนั้น.."
'ทำไมต้องขอโทษแทนตัวเอง??'
"ผมมีเรื่องบางอย่างที่จะเล่าให้คุณฟัง.. แต่คุณต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกใคร.."
อีกฝ่ายพยักหน้ารับช้าๆ ชานยอลลุกขึ้นจากเตียง เดินไปปิดเครื่องเล่นแผ่นเสียงและยกเก้าอี้มาให้อีกฝ่ายนั่งลงตรงหน้า
"เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 2-3เดือนก่อนหน้าที่ผมจะมาอยู่ที่นี้..."
รถสปอร์ตสีดำขลับ แล่นฝ่าฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักด้วยความเร็ว ชานยอลเหยียบคันเร่งจนมิด เขามีอาการที่ร้อนรนกว่าปกติ ที่จริงเวลานี้เขาควรจะต้องอยู่ในงานเลี้ยงฉลองของครบรอบวันก่อตั้งบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของกิจการอยู่ แต่เพราะว่ามีเรื่องด่วนจึงทำให้เขาต้องรีบบึ่งกลับบ้านทันที
รถจอดกระทันหันที่หน้าคฤหาสน์หลังงาม เขาเดินฝ่าฝนไปเปิดประตูรั้วเหล็ก ก่อนจะขับรถให้เขาไปจอดที่ลานหน้าบ้าน วิ่งรถจากรถคันหรูเขาไม่สนใจว่าตัวเองจะเนื้อตัวเปียกฝนมากแค่ไหน เดินไปเปิดประตูบ้านอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น
ภายในบ้านเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่แม่ผู้คน ไฟเปิดอยู่แค่บางดวงเท่านั้น บรรยากาศเย็นยะเยือกเพราะเครื่องทำความร้อนไม่ทำงาน ชานยอลรีบวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดอย่างแรง ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยดอกไม้ปลอมหลากหลายชนิด มีกลุ่มควันจางๆลอยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณห้อง แสงไฟในห้องที่มาจากโคมไฟสีนวลอ่อนชวนเคลิ้ม มีเด็กหนุ่มร่างบางผมสีเทานอนนิ่งอยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยหมอนและผงสีขาวโรยทั่วเตียง เด็กหนุ่มคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นมองมาที่ชานยอล ใบหน้าของเขาช่างเหมือนกับชานยอลทุกประการ เขาสวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวบางตัวเดียว และท่อนล่างที่เปลือยเปล่า
"ฮะๆ พี่ชานยอล.." เด็กหนุ่มร่างบางเอ่อยทัก ดวงตาเขาดูลอยๆ ร่างกายโงนเงนไปมา
"ยองชาง.. นายเป็นอะไร!?"
ชานยอลเดินเข้าไปหายองชาง สองมือจับไหล่พยายามเรียกสติน้องชายตัวเอง แต่เหมือนฤทธิ์ยาที่เสพไปจะยังไม่หมด
ยองชางหัวเราะคิกคัก เลียริมฝีปากสีชาดอวบอิ่มไปมา ชานยอลเห็นท่าไม่ดีกับน้องตัวเอง จึงพยายามอุ้มน้องตัวเองให้ออกจากห้องนอน
"ยองชาง เราลงไปข้างล่างกันเถอะ เดี๋ยวพี่จะพาไปหาหมอ.." เมื่อยองชางได้ยินคำว่าหมอ ถึงกับสะบัดตัวให้ออกจากมือของชานยอล
"ไม่เอา! ไม่ไปหาหมอ!" ยองชางตะคอก ทำหน้าหงิกงอใส่
"พี่ชานยอล อยู่ในห้องก่อนได้ไหม.. อยู่กับผมเถอะนะ... " ยองชางค่อยๆดันตัวเองให้แนบกับแผ่นหน้าอกที่เปียกชื้นด้วยน้ำฝน ชานยอลตื่นเต้นทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดอย่างแรง ยิ่งน้องชายตัวเองอยู่สภาพที่ท่อนล่างไม่ได้ใส่อะไรเลยและใบหน้าที่เย้ายวนใจ ทำให้ชานยอลเริ่มอ่อนไหว ตัวเขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะทนอะไรได้กับเรื่องแบบนี้ ยองชางส่งยิ้มหวานให้และลูบคางของอีกฝ่ายด้วยนิ้วเรียว
"ผมรักพี่ชานยอลนะ..."
ทันทีที่สิ้นเสียงบอกรัก ชานยอลจับน้องชายแท้ๆของตัวเองนอนลงบนเตียง ทำให้ผงสีขาวกระเด็นฟุ้งทั่วห้อง ชานยอลเผลอสูดผงสีขาวเข้าไปเต็มปอด มันเข้าสู่กระแสเลือดและส่งผลไปถึงสมองอย่างรวดเร็ว
ทำให้ชานยอลหน้ามืดตามัว ทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุมของสมอง
ยองชางทำเป็นอิดออดเล็กน้อย ชานยอลก้มหน้าลงไปสูดดมซอกคอ ระดมจูบลงไปทั่วเรือนร่าง ตัวเขาไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ ยาผงสีขาวมีฤทธิ์มากจนตัวของชานยอลสั่นและมือสั่น ฟันกระทบกันจนเกิดเสียงดัง
"ทำให้ผมเป็นของพี่สิครับ.."
ยองชางเอ่ยเชื้อเชิญ แต่ถึงแม้ไม่พูดชานยอลก็จะทำมันอยู่แล้ว
ความรักที่บิดเบี้ยว ความสัมพันธ์อันวิปโยค รักร่วมสายเลือดระหว่างพี่น้อง
ชานยอลถอดเสื้อและปลดเข็มขัดของตัวเองลงอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นท่อนองคชาติที่มีขนาดกำลังพอดีมือ แต่คงจะใหญ่เกินไปสำหรับรูของยองชาน ชานยอลไม่ปล่อยให้ตัวเองหมดอารมณ์เสียก่อน จูบแลกลิ้นกับยองชางอย่างดูดดื่ม มือรูดท่อนเอ็นขึ้นลงไปมา เล่นกับหัวท่อนเอ็นกลมอมชมพู จนมันสั่นระริก น้ำหล่อลื่นไหลออกมาเล็กน้อย ชานยอลจับตัวน้องชายให้คว่ำหน้าลง ยองชางยกบั้นท้ายขึ้นอย่างรู้งาน
เสียงครางกระเส่ายามอีกฝ่ายกระแทกแก่นกายเข้ามา นิ้วเรียวจิกเข้าที่ผ้าปูที่นอนจนหลุดลุ่ยไม่เหลือชิ้นดี
ชานยอลยังคงดันแท่งร้อนเข้ามาไม่ยอมหยุด มือสองข้างจิกเข้าที่แก้มก้นเนียนจนเป็นรอยแดง
"ฮ่ะๆ.. อ๊ะ.. อ๊า.. พ-พี่ชานยอล.. ผ-ผม.."
"เลิกเรียกชื่อฉัน แล้วก็ครางเป็นหมาต่อไปซะ.." ชานยอลตะคอก แต่ยองชางก็ไม่ได้โกรธอะไร เขากลับดีใจด้วยซ้ำที่พี่ชานยอลทำแบบนี้ ยองชางครางต่อไปตามที่พี่ชายสั่ง เสียงครางนั้นช่างไพเราะ นั้นยิ่งทำให้ชานยอลรู้สึกสนุกกับการสอดใส่มากยิ่งขึ้น แท่งร้อนของชานยอลพองตัวขึ้นและระเบิดน้ำสีขาวขุ่นออกมา สารอะดรีนาลินสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ชานยอลค่อยๆดึงแท่งร้อนนั้นออก ทำให้น้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักออกมานอกรู ยองชางหายใจหอบ เขาค่อยพลิกตัวให้กลับมานอนหงายท่าปกติ ชานยอลช่องทางสีหวานที่มีน้ำกามไหลออกมาเหมือนน้ำตก
ไม่..
มันยังไม่พอ..
ชานยอลอยากได้อีก..
เขาอยากได้มัน..
มากกว่านี้..
มากกว่านี้..
มากกว่านี้..
ยองชางเหมือนรู้ทันถึงความต้องการของอีกฝ่าย เขาเอื้อมมือไปหยิบซองยาใสที่วางอยู่ที่หัวเตียง
“พี่ชานยอลอยากได้มากกว่านี้ไหม??”
แม้จะไร้ซึ่งคำตอบ แต่ยองชางรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องไม่ปฏิเสธความต้องการอันแรงกล้าของตัวเองแน่นอน
“ยานี้เป็นยาตัวไหม.. ผมเพิ่งได้มา เห็นเขาบอกกันว่าสุดยอดมากเลยนะ ฮ่ะๆ” ยองชางแกะยาออกจากซองแล้วชูให้อีกฝ่ายดู ยามีขนาดเท่ากับเหรียญบาท มีสีชมพูหวาน หากมองผิวเผินคงนึกว่าเป็นลูกอมอัดเม็ด แต่สรรพคุณของมันยากที่จะบรรยาย มันถูกปั้มรอยหัวใจไว้บนเม็ด ยองชางหักให้เหลือครึ่งเม็ด
"ผมครึ่งหนึ่ง.. พี่ครึ่งหนึ่ง.."
ทั้งคู่เอาเม็ดยาสีชมพูใส่ปาก ทันทีที่ยาเข้าไปสัมผัสกับลิ้น เหมือนกลืนกินถ่านเข้าไปทั้งก้อน มันแผดเผาจนแทบทำให้ปากมอดไหม้ ร่างกายของทั้งคู่กระตุก ชานยอลรู้สึกโลกหมุนเคว้ง มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีดำและสีชมพูที่ดูเหมือนมีคลื่นความถี่อยู่รอบตัว เมื่อหันมาสบตากับน้องชาย เหมือนกับมีแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างทั้งสอง ทั้งสองหัวเราะดังลั่น สวมกอดและโยกตัวไปมา ชานยอลบดขยี้จูบที่ปากยองชางอย่างโหยหา ทันทีที่แท่งร้อนของทั้งสองเสียดสีกัน ทำให้น้ำแห่งความสุขพุ่งออกมาทันที
"คิกๆๆๆๆๆๆๆฮึๆๆๆๆๆฮ่ะๆๆๆๆฮ่าๆๆๆๆ"
ทั้งชานยอลและยอลชางยังคงสวมกอดกันอยู่อย่างนั้น รอบข้างเหมือนมีแผ่นดินไหว มีแสงคล้ายๆออโรร่าปรากฏอยู่บนเพดาน ชานยอลลูบหัวน้องชายของตัวเองเบาๆ ทุกครั้งที่ร่างกายของทั้งสองได้เสียดสีกัน เหมือนถูกไฟฟ้าอ่อนๆช็อตเข้าที่ผิวหนัง ร่างกายของยอลชางสั่นระริกระรี่ ชานยอลฉีกยิ้มจนเห็นว่ากำลังกัดฟันกรอด
"เราจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วนะครับ..พี่ชานยอล.."
ชานยอลไม่สามารถโต้ตอบบทสนทนาของยองชางได้ เขาผลักให้น้องชายตัวเองลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
"อยากทำเท่าไหร่ก็เชิญเลย ร่างกายของผมจิตใจของผม มันเป็นของพี่แล้ว.." ยองชางยิ้มแป้น แต่ชานยอลกลับมีสีหน้าเรียบเฉย เขาจัดการยัดแท่งร้อนกลับเข้าไปอีกรอบ แต่คราวนี้ยอลชางถึงกับเผลอร้องอุทานออกมาด้วยเจ็บปวด เขากรีดร้องออกมาด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้
มันไม่ได้มีแค่แท่งร้อนของชานยอล
แต่มันมีมีดแทงเข้ามาที่ท้องด้วย
ชานยอลแทงมีดเข้าที่บริเวณหน้าท้องของยอลชางอย่างแรง ทุกครั้งที่มีการกระแทก มีดจะเสียบเข้าไปในช่องท้องด้วย
เลือดกระเซ็นจนเลอะหน้าของยองชาง แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากใบมีดอันคมกริบเลย ถึงแม้น้ำตามันไหลออกมาก็ตาม ตอนแรกเขาดูไม่เข้าใจในสิ่งที่ชานยอลทำ แต่พอเห็นอีกฝ่ายดูมีความสุขเมื่อเห็นเลือดของตัวเองนั้น เขาก็เข้าใจมันทันที
"ฮ่ะๆๆๆๆๆ.. แทงเข้ามาแรงๆ เลยครับ แทงแรงๆเลย ถ้าผมทำให้พี่มีความสุขได้มากขนาดนี้ ถึงโดนพี่ชานยอลฆ่าก็ไม่เสียดายเลยสักนิด.." แท่งร้อนของชานยอลยังคงคาอยู่ในรู มีดก็ยังคงกระหน่ำแทงเข้ามาเรื่อยๆ ยองชางเอาแต่หัวเราะทั้งน้ำตา
เลือดสีแดงสดไหลท่วมเตียง ชานยอลยังคงกระหน่ำแทงมีดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนยองชางสิ้นลมหายใจ เขาค่อยๆถอยออกมาจากเตียง มองร่างไร้ลมหายใจที่อยู่ตรงหน้า เครื่องในกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมห้อง ผ้าสีขาวเปื้อนเลือดถูกห่อหุ้มร่างกายของยอลชางไว้ ชานยอลก้มมองมือตัวเองที่เต็มไปด้วยเลือด มีดร่วงหล่นจากมือ
"นี้.. มัน.. เกิดอะไรขึ้น.."
ชานยอลรู้สึกหัวตัวเองหมุนเคว้งอย่างหนัก ภาพตรงหน้าเริ่มเลือนลาง ทันใดนั้นเองเขาก็เป็นลมหมดสติจนล้มลงกับพื้น
.
.
แบคฮยอนปาดเหงื่อที่ไหลออกมา บรรยากาศในห้องเริ่มตึงเครียด ชานยอลจ้องมองอีกฝ่ายทีดูมีท่าทีตื่นกลัวกับเรื่องราวในอดีตไม่ใช่น้อย
"หลังจากฟื้นขึ้นมา ผมก็จำอะไรไม่ได้เลย.. มารู้ตัวอีกทีก็ฆ่าน้องชายแท้ๆของตัวเองไปแล้ว นับตั้งแต่นั้นมาผมก็เฝ้าโทษตัวเองตลอด หน้าที่การงานที่กำลังไปได้สวยกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า อนาคตผมจบลง ผมเอาแต่เก็บตัว ไม่ยอมสุงสิงกับใคร ผมนึกว่าตัวเองเป็นแค่โรคซึมเศร้า แต่ไม่เลย..
ผมเป็นBipolar..
คุณเป็นบุรุษพยาบาลคงอาจจะพอรู้มาบ้างว่าอาการเป็นยังไงบ้าง แต่อาการของผมนั้นไม่เหมือนผู้ป่วยรายอื่นๆ อาการมันซับซ้อนเกินกว่าที่ใครหลายคนจะเข้าใจ ยามผมหลับ ผมจะไปอยู่ในที่ที่หนึ่งที่มีแต่ควมมืด กับกระจกบานใหญ่สีขาวตั้งอยู่ ในกระจกผมเห็นเงาของตัวเอง แต่มันไม่ใช่ตัวผม มันเหมือนเป็นตัวตนด้านมืดของจิตใจ มันมีผมสีหม่นควันบุหรี่และรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว มันบอกให้เรียกตัวมันเองว่า'โจ๊กเกอร์'มันเฝ้าหลอกหลอนผมในความฝันตลอดเวลา มันบอกว่าจะขึ้นมายืนแทนที่ผม.. คุณแบคฮยอนอาจจะคิดว่านี้มันปัญญาอ่อน แต่โจ๊กเกอร์เคยเกือบยึดร่างผมได้หลายต่อหลายครั้ง ก็ต่อเมื่อมันถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้า ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งเร้านั้นมีมากมายแค่ไหน แต่คุณวางใจได้ครับ ตราบใดที่ยังไม่สิ่งกระตุ้น ผมก็สามารถควบคุมตัวเองได้"
แบคฮยอนนึกภาพไม่ออกเลยว่า ยามบุคลิกด้านมืดของชานยอลปรากฎตัว มันจะน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน
"ล-แล้ว จะต้องทำยังไง ถึงจะควบคุมมันได้??"
"ผมยังไม่รู้.."
"..."
"แต่ขอแค่คุณคิดซะว่าผมป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รักษาและให้ยาตามอาการ ถ้าใครถามว่าผมเป็นอะไร บอกแค่ว่าซึมเศร้าก็พอ"
"แล้วถ้าเกิด.. ไอ้.. ไอ้โจ๊กเกอร์นั้นมัน.."
"เรื่องนั้นผมจะเป็นคนจัดการเอง.. แต่ถ้ามันเกินควบคุมแล้ว.. ก็ฆ่าผมซะ ก่อนที่โจ๊กเกอร์จะฆ่าคุณ.." ชานยอลดูไม่ลังเลเลยที่จะพูดแบบนั้นไป แบคฮยอนพยายามเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้
ช่วงเวลากลางดึก แบคฮยอนชอบไปยืนรับลมบนดาดฟ้าเสมอ คืนนี้ก็เช่นกัน แบคฮยอนค่อยๆแง้มประตูดาดฟ้า เขาเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่ที่รั้วกั้นบนดาดฟ้าตึกหอพักของหมอ
"นี้.. คุณ!! คุณ!!" แบคฮยอนตะโกนเรียก แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาให้เห็นได้เพียงแค่ด้านหลัง แบคฮยอนค่อยๆ เดินเข้าไปหาอย่างกล้ากลัวๆ ร่างตรงหน้าตัวสั่นเทา แบคฮยอนค่อยๆเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่ของคนตรงหน้า
มันค่อยๆหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
"ช-ชานยอล!!!???"
ชานยอลร้องไห้ฟูมฟาย แบคฮยอนตกใจมากที่อีกฝ่ายขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าตึกนี้
"ท-ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้??!!"
"ม-ม-เมื่อกี้ มีคนตกลงไป.. มีคนตกลงไป"
"ว-ว่าไงนะ!!!??"
ชานยอลชี้นิ้วไปยังข้างล่าง แบคฮยอนชะโงกหน้าลงไปมองข้างล่างด้วยสีหน้าหวั่นใจ แต่ข้างล่างเป็นเพียงแค่พื้นสนามสีเขียวธรรมดาเท่านั้น
"นี้ชานยอล.. ไม่เห็นจะ--"
จู่ๆ ชานยอลก็ล็อกข้อมือของแบคฮยอนไว้
"น-นายทำอะไรหน่ะ!! ปล่อย!!"
"อย่าทำตัวเสียมารยาทแบบนี้สิครับ.. ผมขอแนะนำตัวก่อนนะ ผมเป็นบุคคลิกด้านแสนดีของชานยอล มีนามว่าโจ๊กเกอร์ครับ.." เสียงของชานยอลเปลี่ยนไปเป็นเสียงแหลมฟังแล้วปวดประสาท
"ดีกับผีสิ!! ปล่อย!" แบคฮยอนดิ้นรนสุดฤทธิ์ ชานยอลหัวเราะคิกคัก
"คุณชานยอลเจ้าของร่างนี้คงเล่าเรื่องผมให้คุณฟังแล้วหล่ะสิ แหม่ๆ.. ยิ่งดิ้นอย่างนี้ยิ่งน่ารักนะรู้ไหม.." ชานยอลเลียเข้าที่แก้มของแบคฮยอนที่พยายามเบือนหน้าหนีด้วยความขยะแขยง
"แกต้องการอะไร?!!"
"คุณชานยอลคงเล่าถึงวิธีรักษาแล้วสินะครับ แต่ตัวผมเนี่ยก็ต้องการการรักษาเหมือนกันน๊า.." ชานยอลปล่อยแบคฮยอน เขาอาศัยจังหวะนี้วิ่งหนี แต่ดูเหมือนมันไร้ประโยชน์เพราะเขาโดนสวนด้วยมัดเข้าที่ท้องอย่างแรง แบคฮยอนจุกจนล้มลงไปกับพื้น ชานยอลเดินวนไปรอบตัวแบค เขาหยุดลงตรงข้างหน้า นั่งยองๆแล้วจิกผมแบคขึ้นมา อีกฝ่ายมองหน้าของโจ๊กเกอร์แทบจะกินเลือดกินเนื้อ
"การรักษาของผมมันง่ายนิดเดียว คุณก็แค่เอาร่างกายที่สมบูรณ์ของคุณ มาบำเรอกามของผม.."
แบคฮยอนถุยน้ำลายใส่หน้าชานยอล อีกฝ่ายเริ่มเหลืออดแล้ว ชานยอลบีบแก้มของอีกฝ่ายขึ้นมาและบดขยี้ริมฝีปากลงไป แบคฮยอนไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนเพราะยังเจ็บหน้าท้องอยู่ ชานยอลผละริมฝีปากออก
"ดูท่าจะไม่เข้าใจ สงสัยต้องสอนให้ก่อนแล้วหล่ะม้างง" ชานยอลจิกผมลากแบคฮยอนให้เคลื่อนไปรั้วกั้น เขาจัดการต่อยท้องอีกรอบเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมีแรงขัดขืน ก่อนจะจัดการปลดกางเกงของแบคฮยอนออก
"อื้อฮื่อ.. ก้นสวยดีนะ" ชานยอลตีแก้มก้นของแบคฮยอนจนเป็นรอยแดง เขาสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ชานยอลส่ายหน้าเบาๆ
"ครั้งแรกหรอเนี่ย..ฮ่ะๆๆ ไม่เป็นไรหรอก ฉันทำไม่เจ็บ เดี๋ยวก็สนุก.."
ชานยอลเตรียมตัวปลดกางเกงลง แบคฮยอนน้ำตาไหลพราก เขาก้มหน้าก้มตาร้องไห้
"ดีใจจนพูดไม่ออกเลยหรอ??"
"ทำไม..ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย??"
"นี้.. คนเรามันก็ต้องการที่จะปลดปล่อยกันบ้าง ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ผมก็จะฆ่าคุณทิ้งซะ เพราะมันก็ทำให้ผมมีอารมณ์ได้เหมือนกัน"
แบคฮยอนตกใจกับคำตอบ ชานยอลหุบยิ้ม แววตาฉายแววความเย็นชาที่เห็นชีวิตคนเป็นของเล่น
"โอเค ไม่ตอบ งั้นผมทำเลยนะ" ชานยอลเลียปากตัวเอง ก่อนจะค่อยๆยัดแท่งร้อนเข้าไปในรู แบคฮยอนร้องเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด แบคฮยอนร้องไห้ไม่หยุด มือเกาะที่รั้วแน่น อ้าปากค้างเมื่อยามท่อนนั้นถูกดันเข้ามาจนสุดลำ
"ไม่นึกเลยว่าจะเอาสนุกขนาดนี้ ชักติดใจแล้วสิครับ" ชานยอลเพิ่มความเร็ว จนแบคเผลอร้องซี้ดออกมา ชานยอลบีบที่ก้นของอีกฝ่ายจนเป็นรอยเล็บ
"ชอบหล่ะสิ บอกแล้วเจ็บนิดเดียว ที่เหลือเสียว.."
แบคฮยอนพยายามควบคุมสติตัวเอง แต่ทว่าความเสียวอยู่เหนือสติและความถูกต้องทั้งหมดเข้าเสียแล้ว
ชานยอลรัวแท่งร้อนเข้ามาไม่หยุดหย่อน ท่อนอันเล็กของแบคฮยอนเกิดปล่อยน้ำกามออกมา ทำเอาชานยอลหลุดขำออกมา
"แหม่.. รีบหรอ ผมก็ใกล้จะเสร็จแล้วเหมือนกัน.. ฮ่ะๆ" ชานยอลหัวเราะเสียงกระเส่าติดขัด ทันทีที่น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมา ชานยอลร้องตะโกนด้วยความดีใจ เขาระเบิดเสียงหัวเราะเล็กแหลมออกมาอย่างบ้าคลั่ง แบคฮยอนหายใจหอบ เขาถึงกับท่อนร่างทรุดลงไปกองกับพื้น ชานยอลจัดการกับตัวเองและคราบน้ำที่หกบนพื้น ก่อนจะบิดขี้เกียจเหมือนเพิ่งตื่นนอนมา
"เฮ้อ~ ดีชะมัดเลย ไม่เคยทำใครแล้วสนุกเท่านี้มาก่อน" ชานยอลเอ่ยปากชมแบคฮยอนที่ยังนั่งหมดแรงอยู่กับพื้น
"ครั้งหน้าผมจะมาใหม่น้า~ สัญญาเลย" ชานยอลดึงหน้าของอีกฝ่ายให้ขึ้นมาเพื่อจูบหน้าผาก ก่อนที่ชานยอลจะเดินจากไป
แบคฮยอนนั่งหมดแรงกองอยู่บนพื้น มองสภาพตัวเองที่เละเทะไม่มีชิ้นดี ร่างกายเปื้อนด้วยน้ำกามจากชานยอล เขากลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจนร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
----------------------------------------
//ช่วงบ่นยาว.. by หนูมาลี
หายไปนานเลยค่ะ(ขอโทษอย่างแรงค่า ; - ;)
คงเพราะตอนนี้ต้องทำตั้งสองเรื่องก็คือวิปลาสและวิปโยค+เรียนหนัก
นี้ยังไม่รวมถึงเรื่องที่สามที่กำลังจะตามมานะคะ.. orz..
ขอให้ทุกคนอ่านกันให้สนุกนะคะ รับรองจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ!
สกรีมผ่าน #ฟิคชานยอลวิปโยค พูดคุยผ่าน @Beam_Minami
(เข้ามาสกรีมกันหน่อยนะ เราอยากรู้จริงๆว่าเนื้อเรื่องดีไหม มีอะไรต้องแก้
รึเปล่า จะได้พัฒนางานให้ดียิ่งขึ้นเพื่อผู้อ่านนะค่าา เลิฟๆ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ