Because of his love. เพราะรัก...ถึงร้าย
9.7
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.33 น.
35 ตอน
474 วิจารณ์
46.62K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 18.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
33) ลาก่อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความที่จริงแล้วฉันน่าจะยอมรับความจริงได้แล้ว เขา..อาจจะพูดถูก เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ สองวันมานี้ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับทำเอาคนรอบข้างเป็นห่วงกันไปหมด แม่ของฉันเองก็คอยทำอาหารอร่อยๆที่ฉันชอบให้ทาน แต่ฉันทานอะไรไม่ลงจริง ๆ ทุกอย่างมันดูตื้อไปหมด ฉันร้องไห้ตาบวมจนแทบจะไม่มีน้ำตาให้ไหลอีกแล้ว ความรู้สึกด้านชาเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดอย่างช้า ๆ
"เฮ ~"
ฉันหันหน้าไปมองทางต้นเสียงที่ดังกระหึ่ม พวกตัวซีและเคโอติคกำลังเล่นโบว์ลิ่งกันอยู่อย่างสนุกสนานในห้างชื่อดัง แห่งหนึ่งที่พวกเรานึกครึ้มพากันมาถล่ม ทุกคนอาจจะคิดว่าทำไมพวกมันถึงได้ทำตัวเหมือนปกติ ?
แต่คุณรู้จักมั้ย ความปกติที่ผิดปิกติ หรือจะพูดง่ายๆก็คือ พวกมันเสแสร้งแกล้งทำตัวให้ร่าเริงเพราะไม่อยากให้ฉันดูเศร้าหรือแย่ไปกว่า เดิมนั่นเอง ฉันรู้.. ว่าพวกมันเองก็คงจะเสียใจเรื่องของ'ผู้ชายคนนั้น'เหมือนกัน
ตุบ !
เสียงทิ้งตัวของใครบางคนนั่งลงที่ข้างๆฉัน พอหันหน้าไปมองก็พบเจอกันใบหน้าหล่อๆที่ส่งยิ้มหวานมาให้ฉันอย่างน่ารัก ... ฮาร่า
และรอยยิ้มน่ารักก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันทีที่ฉันไม่ยิ้มตอบแล้วก้มหน้ามอง พูดแทน เสียงพูดตัดเพ้อจากคนข้างตัวดังขึ้นทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองอีกรอบ
"เธอทำยิ้มฉันเป็นหม้ายขันหมากหมดเลย :("
หึหึ อยากได้ยิ้มจากฉันงั้นเหรอ ? ฉันยิ้มจนริมฝีปากเป็นเส้นตรงส่งไปให้ ฮาร่าทำเสียงจิ๊จ้ะแล้วบอกว่า
"ยิ้มให้มันจริงใจหน่อยได้ปะ- -"
เวรกรรม - -* นู้นก็ไม่เอานี่ก็ไม่ชอบ คนยิ่งกำลังเซ็งๆอยู่นะ ! ฉันหลุบตาลงต่ำบ่งบอกถึงความไม่อยากสนทนา จริงสิ.. ตั้งแต่วันนั้นฉันไม่เคยยิ้มอีกเลย ความรู้สึกมันตายด้านไปหมดแล้วหรือยังนะ?
"นี่แก้ว มองหน้าฉัน จ้องตาฉันไว้"
มือของฮาร่าประครองหน้าฉันแล้วดันขึ้นให้สบสายตาจริงจังของเขา ทันทีที่สบตาความรู้สึกแปลกๆก็พุ่งตรงเข้ามา ทำไมใจฉันสั่นขนาดนี้นะ มันไม่ใช่ความรู้สึกเขินอาย ... โอเค เขินนิดนึง แต่ความรู้สึกอยากจะร้องไห้มันมีมากกว่านั้นเยอะ คงเป็นเพราะฮาร่า ฉันถึงได้กล้าเปิดใจด้วยละมั้ง
โอ้ยให้ตายเถอะ แค่คิดน้ำตาก็รื้นขึ้นมาอีกแล้ว ฮาร่าทำหน้าตกใจเมื่อฉันตั้งท่าจะร้องไห้ เขารวบตัวฉันเข้าไปกอดและลูบหัวเบา ๆ
"โอ๋ ๆ อย่าร้องนะอย่าร้อง เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ชอบเสียงร้องไห้ของผู้หญิง ฟังแล้วรู้สึกหดหู่ชะมัด"
ส่วนฉันที่ยิ่งเจอฮาร่าปลอบใจ(หรือเปล่า?)ก็ยิ่งสะอึกสะอื้นหนักมากขึ้น ฉันกำชายเสื้อนักเรียนของเขาแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ฉะฉันเสียใจ ..."
''ฉันรู้ ๆ เพราะฉันเองก็เสียใจ และจะยิ่งเสียใจมากกว่านี้ถ้าอาเมะยังเป็นแบบนี้อยู่ แก้วรู้มั้ยว่าคนรอบข้างกำลังย่ำแย่ตามเธอแล้วนะ ถ้าเธอเศร้า คนรอบข้างก็จะพลอยรู้สึกแย่ไปด้วย"
"ฉันทำให้ทุกคน.."
"อือฮึ แก้วคงไม่อยากให้ทุกคนเป็นแบบนั้นใช่มั้ย?"
ฮาร่าดันฉันออกจากอ้อมกอดเพื่อให้มองหน้าได้ถนัด ฉันพยักหน้าแรงๆหลายที ฉันไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ใคร...
"ฟังฉันนะ ถ้าเธอไม่อยากให้คนรอบข้างเสียใจ เธอจะต้องทำในสิ่งที่คนรอบข้างต้องการมากที่สุด รู้มั้ยว่าสิ่งนั้นคืออะไร"
"....(ส่ายหน้า)"
"สิ่งๆนั้นก็คือรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริงของเธอยังไงละ"
รอยยิ้มอย่างนั้นเหรอ ..
"ตอนนี้อาจจะยากไปสักหน่อย แต่เวลาจะช่วยเธอได้ เชื่อฉันสิ"
ฮาร่าพูดตบท้ายด้วยรอยยิ้มกว้าง ฉันนั่งนิ่งครุนคิดสักพักก่อนจะลุกพรึบขึ้น ฮาร่าทำหน้าเหวองุนงง ฉันส่งมือไปให้ฮาร่าจับ เขาทำหน้างงหนักกว่าเก่า ฉันทำเสียงจิ๊จ้ะ
"เอ้า จับซะสิ เดี๋ยวจะดึงขึ้นมา"
หมับ
ฉันออกแรงดึงแขนฮาร่าให้ลุกขึ้นยืน ด้วยความที่เขาสูงกว่ามากทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นคุย
"ก็นายบอกว่าอยากได้รอยยิ้มจากฉันไง ฉันกำลังจะพยายามทำให้ได้นี่ไง เริ่มจากนู้น (ชี้นิ้วไปที่กลุ่มตัวซี) เล่นกับพวกนั้น :)" พูดเสร็จก็หันไปตะโกนบอกพวกนั้นเสียงดัง
"เฮ้ ~ พวกนายฉันเล่นด้วยสิ"
"อะเอ่อ.. มา ๆ ^^"
พวกนั้นกวักมือเรียกแม้ว่าตอนแรกๆจะงงอยู่นิดๆที่ฉันเป็นคนออกปากขอ ก็แน่ละ นั่งหงอยมาหลายวัน -.- ฉันที่กำลังจะเดินเข้าไปรวมกลุ่มหันมาดุฮาร่าที่ยืนนิ่งเพราะยังคงอึน ๆ -*-
"นี่ ! จะไปเล่นด้วยมั้ยห๊า เดี๋ยวก็ไม่รอหรอก !!" ฮาร่าได้สติรีบจ้ำตามฉันทันที
"เฮ้ย!รอด้วยสิแก้ว ><" 2 ชั่วโมงต่อมา ~
"แก้ว เอาน้ำมั้ย ?"
ฉันพยักหน้าขณะที่กำลังใช้หลังมือปาดเหงื่อออกฟางส่งแก้วน้ำให้ฉันดื่ม ทุกคนนั่งพักภายในโต๊ะที่สั่งจองอย่างหมดสภาพ ที่จริงไม่ได้เหนื่อยเพราะโยนโบว์ลิ่งหรอกคะ แต่เหนื่อยเพราะอยู่ ๆ พวกเราก็มาเล่นวิ่งไล่จับกันมากกว่า ดีนะที่พนักงานไม่เดินมาไล่ -.- แม้จะเป็นเวลาแค่ 2 ชม. แต่ฉันก็ตระหนักได้ว่า ฉันยังสามารถยิ้มได้ .. ความรู้สึกผ่อนคลายทำให้ฉันรู้สึกสงบขึ้นอีกครั้ง
แต่เอ๊ะ ทำไมทุกคนดูลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ กันนักละ ? ฉันขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย
"นี่ พวกนายมีนัดอะไรกันหรือเปล่า ?"
"ทะทำไมเธอถึงคิดยังงั้นละ -0-"
เขื่อนถามด้วยสีหน้าเหวอ ๆ -*- จองเบกดหัวขื่อนให้นอนราบไปกับโต๊ะแล้วพูดขึ้นมาโดยไม่สนใจเสียงโวย วายของเขื่อนเลยสักนิด หายใจออกมั้ยละนั่น - -
"แก้ว คือว่า.. ถ้าฉันพูดอะไรไปเธออย่าโกรธนะ"
"แล้วทำไมฉันจะต้องโกรธด้วยละ -*-"
"เออน่า.. ห้ามโกรธแล้วกัน คือพวกฉันทุกคนรวมทั้งพวกเพื่อนๆของเธอด้วย (ฉันหันไปมองหน้าพวกตัวซีที่ก้มหน้างุดหลบสายตากันเป็นแถว) พวกเรา ... เอ่อ ..มีความคิดเห็นกันว่าจะไปส่งโทโมะที่สนามบินในอีก 40 นาทีนี้ "
"คือพวกเรากลัวว่าเธอจะ .." ป๊อปปี้พูดขึ้นไม่ทันจบ ฉันก็แทรกขึ้นมาเบา ๆ
"ก็ไปสิ.."
"ห๊ะ o-O"
ทุกคนทำสีหน้าตกใจ ฉันถอนหายใจแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆอีกครั้ง
"ก็ไปสิ ยังไง..เขาก็เป็น 'เพื่อน' ของพวกเรา"
"แก้ว ถ้าเธอลำบากใจ กลับบ้านก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวฉันจะไปส่ง"
ฉัน ... จะทำยังไงดี จะกลับตามที่ฮาร่าบอกดีมั้ยนะ ? เมื่อทุกคนเห็นว่าฉันเงียบไปก็ถึงกับเงียบตามเพราะกำลังรอฟังคำตอบจากฉัน สมองในหัวกำลังทำงานครุ่นคิดอย่างหนักได้สักพักฉันก็ได้คำตอบ นี่คงจะไปครั้งสุดท้ายแล้ว ที่เราจะได้พบกัน .. คิดได้ดังนั้นฉันก็เงยหน้าขึ้นมองทุกคนแล้วพูดประกอบรอยยิ้มเล็ก ๆที่ออกมาจากใจ
"ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะไปส่งโทโมะ ^^"
แสงไฟตระการตายามเย็นของสนามบินสุวรรณถูมิสาดส่องวูบวาบสะท้อนไปทั่วบริเวณ เพื่อเตรียมที่จะต้อนรับท้องฟ้ายามราตรีที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาในไม่อีกกี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ฉันแหงนใบหน้าขึ้นมองสิ่งก่อสร้างที่ขาวภายในตึกสนามบินที่ใหญ่โตโอ่อ่า ผู้คนเดินไปมาสวนทางกันแลดูวุ่นวาย บางคนที่เพิ่งจะเดินทางกลับมาจากต่างประเทศต่างพากันยิ้มปรีดามีความสุขโดย ถูกเหล่าญาติพี่น้องรุมล้อมไว้
ช่างดูแตกต่างจากกลุ่มของฉันอย่างสิ้นเชิง พวกเราทั้งเก้าคนกำลังซ้อนความเศร้าไว้ภายใต้หน้ากากอันเรียบเฉย เพียงเวลาแค่ 1 เทอมทำให้ความผูกพันของพวกเราแน่นแฟ้นราวกับคบกันมาหลายปี
ความรู้สึกอุ่นๆที่ฝ่ามือทำให้ฉันรู้สึกตัวว่ามีใครสักคนมากุมมือฉันไว้ ฮาร่าบีบเบาๆราวกับให้กำลังใจ .. กลุ่มของเราหยุดนิ่งอยู่กับที่เพราะยังไม่ทราบจุดหมายปลายทางที่จะไป ซื่อบื้อกันจริง ๆ พากันถ่อสังขารมายกแก๊งส์แต่ดันไม่รู้ว่าจะไปหา'เขา'ได้ที่ไหน - - ป๊อปปี้ต่อสายหาใครบางคนด้วยความร้อนรน เวลาดีเลย์เครื่องใกล้เข้ามาในไม่อีกกี่นาทีนี้
"ฮัลโหล เออกูเอง นี่มึงอยู่ไหนเนี่ย ? ... เฮ้ย อย่าโยกโย้สิวะ รีบบอกเร็วๆเลย ! ... โอเค รออยู่ตรงนั้นนะ" ป๊อปปี้วางสายโทรศัพท์แล้วหันมาบอกพวกเราทุกคนว่า
"ไอ้โมะอยู่ตรงทางเข้าผู้โดยสารขาออก"
ทะทางเข้าผู้โดยสารขาออก ใกล้เวลามากขึ้นทุกทีแล้วสินะ เร็ว ... ช่างเร็วเหลือเกิน หัวใจของฉันบีบรัดตัวถี่รัวตามกาลเวลาที่เราทั้งสองคนจะต้องพรากจากกันในไม่ช้า
พวกเราทุกคนทยอยเดินตามป๊อปปี้ที่เป็นผู้นำ เดินมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เจอกับบานประตูกระจกขนาดใหญ่ที่เขียนว่า 'ผู้โดยสารขาออก' ข้าในด้านหน้าประตูมีเจ้าหน้าที่อยู่ 2 คนประจำการอยู่ โต๊ะไม่ตัวยาวถูกวางไว้ข้าง ๆประตูปรากฏร่างสูงๆของผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคมคายที่นั่งรออย่างสงบ ทันทีที่เขาคนนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเรา ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนทันที เหล่าเคโอติคต่างพากันกรู่เข้าไป ตบหลังบ้าง ตบหัวบ้าง เป็นการอำลาในแบบของพวกเขาเอง คำพูดต่าง ๆ นาๆ พรุ่งพรูออกจากปากของเจ้าพวกนั้น
ฉัน ฮาร่า (แน่นอนเขายังจับมือฉันอยู่) และเดอะควีน อยู่มองดูพวกเคโอติคคุยกันนิ่ง ๆ พอเหล่าเคโอติคถอยออกมา เหล่าเดอะควีนก็เดินเข้าไปร่ำลาบ้าง (และฉันกับฮาร่าก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน) ไม่กล้า .. ไม่กล้าที่จะเข้าไปพูดคุยเพราะกลัวตัวเองจะรั้งเขาไว้ ไม่ให้ไป .. และฮาร่าเองก็คงจะเข้าใจฉัน ...
"นายอย่าลืมพวกฉันเชี่ยวนะ ส่งข่าวมาบอกกันบ้าง แล้วถ้าคราวหน้านายกลับมาเมืองไทยอย่าลืมหิ้วหนุ่มนอกกลับมาฝากด้วยละ คิก ๆ >0<"
พวกตัวซีหัวเราะคิกคักไปกับคำพูดของตัวเองโดยไม่ใส่ใจสายตาอาฆาตของพวกเคโอติคเลยสักนิด -*-
"ลองพวกเธอทำแบบนั้นดูสิ ได้เห็นดีกันแน่ - -^^^"
เขื่อนร้องบอกพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมาขู่ จองเบเดินเข้ามายืนข้าง ๆตัวซีด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ฉันรู้สึกได้นะว่าหมอนี่กำลังปล่อยรังสีอำมหิตอยู่ -0-; โทโมะหัวเราะเบา ๆแล้วพูดว่า
"ไม่ต้องห่วงหรอกว่าฉันจะหิ้วหรือว่าไม่หิ้วใครกลับมา เพราะฉันไม่คิดที่จะกลับมาที่นี่อีกแล้วละ"
ไม่กลับมาอีกแล้ว .. เขาจะทำแบบนี้จริงๆน่ะเหรอ นี่เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วใช่มั้ย ? และฉันยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ เพราะสายตาของเขา ของโทโมะที่มองมายังฉันหยุดทุกอย่างไว้ ความรุ้สึกลมหายใจติดขัดเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ก่อนจะดับลงเพราะสายตาคม ๆคู่นั้นมองผ่านฉันไปยังคนที่อยู่ข้างตัวแทน โทโมะกำลังมองฮาร่าด้วยสายตาที่ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เฉกเช่นเดียวกันกับฮาร่าที่มองตอบกลับด้วยความเรียบเฉย ความเงียบเข้าครอบงำสักพักและริมฝีปากบางๆถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง
"ฮาร่า ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก"
เจ้าของชื่อพยักหน้าตกลงแล้วปล่อยมือที่กุมฉันไว้ออกโดยไม่ลืมที่จะ ใช้มือข้างนั้นมาขยี้หัวฉันเบา ๆด้วยความเอ็นดู และเพียงแว๊บเดียวที่ฉันหันไปมองโทโมะ เขา..กำลังมองฉันกับฮาร่าด้วยสายตาเจ็บปวด แต่เพียงแว๊บสั้น ๆ เท่านั้น ...
พวกเขาพูดคุยเรื่องอะไรสักอย่างที่คนอื่นไม่สามารถได้ยินได้อยู่สัก พัก จากใบหน้าเคร่งเครียดค่อยๆกลับกลายเป็นคลี่ยิ้มนิด ๆที่มุมปากของทั้งคู่
"ฉันสัญญา"
ประโยคสุดท้ายที่ออกจากปากของฮาร่าทำให้ฉันเกิดความสงสัยอย่างหนัก เอ๊~ พูดอะไรกันนะ ? พวกเขาทั้งคู่จบบทสนทนาเพียงเท่านั้นแล้วผลักออกจากกัน โทโมะก้มลงมองนาฬิกาข้อมือแล้วพูดว่า
"ฉันต้องไปแล้ว ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยละทุกคน ลาก่อน"
โทโมะพูดทิ้งท้ายแล้วเดินไปยังหน้าประตูรอให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูออกเพื่อ ให้เขาเข้าไปยังด้านใน ฉันก้มหน้าลงมองดูพื้นที่ตนเหยียบเพราะไม่อยากจะจดจำภาพเหล่านี้ไว้ ให้เจ็บปวดมากขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว เพียงแค่ได้มาส่ง ได้มาเห็นหน้าครั้งสุดท้าย ฉันก็ดีใจมาก ๆแล้วละ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจฉันแม้แต่นิดก็ตาม
"แก้ว"
น้ำเสียงคุ้นเคยของโทโมะเรียกชื่อของฉันทำให้ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมามองด้วย ความตกใจ โทโมะยืนอยู่หน้าประตูไม่ยอมเข้าไปโดยที่เจ้าหน้าที่ยังคงเปิดประตูค้างไว้ให้ในท่านั้น แถมที่สำคัญ เขากำลังยิ้มให้ฉัน !
รอยยิ้มกว้างในแบบฉบับของเขาที่มีเพียงเราสองคนเท่านั้นที่เข้าใจทำให้ฉันเต็มใจที่จะส่งยิ้มกลับไป โทโมะป้องปากแล้วตะโกนว่า
"ดูแลตัวเองดีๆนะ ยัยตุ๊กตาผี!!:)"
"อื้อ ^^"
ฉันยิ้มกว้างพยักหน้าตอบรับ เขาทำตามแล้วเดินหายเข้าไปในประตู
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉันจางหายไปอย่างรวดเร็ว หยาดน้ำตามากมายเข้ามาแทนที่พวกเพื่อน ๆทุกคนต่างเข้ามากอดตัวฉันเอาไว้ พวกเราทั้งหมดกอดกันจนกลายเป็นก้อนกลม ๆ ก้อนที่กำลังเสียใจไปไม่น้อยกว่ากัน
เขาไปแล้ว ... โทโมะของฉันได้จากไปแล้ว ...
___________________________________________________________________
อัพแล้วนะเม้นโหวตกันหน่อยจ้าาา
เรื่องนี้ใกล้จบแล้วน๊าาา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ