Because of his love. เพราะรัก...ถึงร้าย
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.33 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 18.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
27) คำตัดสินของแก้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่ในรถปอร์โยสีขาวคนเดิมด้วยใบหน้าเรียบเฉยทั้งๆที่ในใจกำลังว้าวุ่น โทโมะที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับก็ลอบมองเหลือบสายตามองมาที่ฉันเป็นระยะๆ บรรยากาศภายในรถอึดอัด(สาหัสเอาการ)มาก ๆ เพราะพึ่งจะผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่มาหมาด ๆ เมื่อฉันได้ตอบทำลายบรรยากาศสุดซึ้งไปแค่ว่า
'ฉันจะกลับบ้าน'
น่าแปลกมากที่โทโมะไม่รบเร่าอะไรต่อเขาแค่ตอบตกลงแล้วเดินตามฉันกลับมาที่ รถโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาคงจะเข้าใจว่าตอนนี้ฉันเองก็กำลังสับสนมาก ๆ ไม่ใช่ไม่ดีใจว่าเขาจำเรื่องราวทั้งหมดได้(ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำในวันนี้ มันก็เหลือเชื่อแล้ว) แต่เป็นเพราะว่าฉันไม่คิดที่จะให้อภัยในสิ่งที่เขาเคยทำกับฉันน่ะสิ
น่าแปลกมากที่โทโมะไม่รบเร่าอะไรต่อเขาแค่ตอบตกลงแล้วเดินตามฉันกลับมาที่ รถโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาคงจะเข้าใจว่าตอนนี้ฉันเองก็กำลังสับสนมาก ๆ ไม่ใช่ไม่ดีใจว่าเขาจำเรื่องราวทั้งหมดได้(ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำในวันนี้ มันก็เหลือเชื่อแล้ว) แต่เป็นเพราะว่าฉันไม่คิดที่จะให้อภัยในสิ่งที่เขาเคยทำกับฉันน่ะสิ
เพียงแค่ว่าเขาจำได้แล้วฉันจะยอมให้อภัยง่ายๆอย่างงั้นเหรอ นั่นมันไม่ใช่ฉันเลยสักนิด .... ทันทีที่รถปอร์โยชะลอจอดที่หน้าบ้าน ฉันก็เปิดประตูรถค้างไว้แล้วหันไปพูดกับเขาที่กำลังทำสีหน้างงงวยที่ ฉันทำท่าจะลงจากรถแต่ก็ไม่ลงซักที
ยังลงไม่ได้หรอกถ้าฉันไม่ได้พูดประโยคนี้กับเขาซะก่อน..
"ถ้านายอยากได้ฉันคืนจริง ๆ นายก็ต้องทำอะไรๆด้วยตัวของนายเอง อย่าได้ไปเที่ยวจ้างคนอื่นเหมือนวันนี้อีก อ่อ แล้วก็อย่าลืม ... นายเคยเหวี่ยงฉันลงพื้นสองรอบ !"
พูดจบฉันก็ก้าวลงจากรถทันที จะรอให้เขาตอบไปทำไมกัน ในเมื่อมันมีอยู่แค่สองทางเลือกเท่านั้น
อยากให้ฉันคืนดีก็ต้องง้อ ถ้าไม่ก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกก็แค่นั้น ...
ฉันรู้ว่าเขาต้องเลือกข้อแรกแน่นอน^^ แล้วพอดีว่าฉันมันเป็นไอ้พวกคนเจ้าคิดเจ้าแค้นด้วยละสิ ขอแก้แค้นอะไรนิดหน่อยแล้วกันนะโทโมะหึหึ ~
"ขอให้นายรอดบททดสอบนี้ไปให้ได้แล้วกัน! "
ฉันพูดฝากสายลมหวังว่ามันคงจะส่งไปถึงเขา แน่นอนว่าบททดสอบของฉันเอานายตายแน่ เตรียมตัวไว้ให้ดีๆแล้วจะหาว่าหนูแก้วไม่เตือน!!!วันต่อมา
"แกโม้ปะเนี่ย โทโมะเนี่ยนะความทรงจำกลับมาแล้ว"
ฟืดดดดดด
ฉันดูดน้ำปั้นในแก้วฟืดใหญ่แล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบตัวซี ขณะนี้พวกเราสี่ตัว เอ้ย สี่คน! กำลังนั่งอยู่ภายในโรงอาหารคะ อย่าถามเชียวว่ามาทำอะไรที่นี่ -*- ก็มารับประทานอาหารกลางวันไงคะ!!!
"เออ เรื่องจริง! "
"หึ้ย~ แม่งเหลือเชื่ออะ ><" ฟางทำท่าย่นคอเหมือนมีคนมาจั๊กจี้ เฟย์ที่กำลังเขี่ยเส้นสปาเก็ตตี้ไปมาพูดขึ้น
"แล้วรู้ปะ ว่าความทรงจำกลับมาได้ไง "
"เอิ่ม ไม่รู้วะไม่ได้ถาม -0-;; "
"= =*"
"เห้ยยย พวกแกอย่าทำหน้าแบบนั่นสิ ! เดี่ยวค่อยถามวันหลังก็ได้ มีเวลาอีกเยอะ ^^+"
"พูดแบบนี้หมายความว่าไง แกมีแผนอะไรในใจ บอกมานะ!-*-"
พวกมันประสานเสียงถาม ฉันแสยะยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์กวาดสายตามองพวกมันทุกๆคนอย่างร้ายกาจก่อน จะกวักมือเรียกพวกมันให้เข้ามาใกล้ ๆ มานี่ ๆ
ซุบซิบ ๆๆๆ
พวกเราล้อมวงกัน ฉันเล่าให้พวกมันฟังเบาๆ ไม่ปลอดภัยถ้ารู้เยอะ ! หลังจากที่เล่าให้ฟังเสร็จ พวกมันก็เอามือปิดปากอย่างเหลือเชื่อ (เอ่อ เวอร์ไป-*-)
"แกจะทำแบบนั้นจริงดิ !"
"ชู่วววว จะตะโกนหาพระแสงอะไรยัยฟาง -0-! ฉันแค่แก้แค้นนิดๆหน่อยๆไม่ได้จะฆ่าใครตายซักกะหน่อย! -.,-"
"แก ฉันรู้ว่าแกยังเคืองเรื่องที่เขาทำ แต่แบบนี้มันก็เกินไปนะ - - "
"ฉันคิดว่าแก้วมันทำถูกแล้วนะซี ผู้ชายแบบนั้นสมควรได้รับการลงโทษ อีกอย่างจะได้พิสูจน์กันไปเลยว่ามันรักอาเมะจริงหรือเปล่า "
แจ่มมากเฟย์เพื่อนรัก! พูดอย่างนี้ฉันจะคิดว่าแกอยู่ข้างฉันแล้วนะ >.< ตัวซีและฟางทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วพวกมันก็หันไปมองหน้ากัน เองอย่างจนใจ ส่วนฉันเองก็ไม่ทุกข์ไม่ร้อนนั่งดูดน้ำฟืดๆอย่างสบายใจ หุหุ
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด"
เสียงกรีดกร๊าดฮือฮาดังขึ้นกลางโรงอาหารทำให้พวกเรามองหน้ากันอย่างงงงวย มีเรื่องอะไรกันน่ะ ดารามาโรงเรียนเรอะ - -* เอ่อ แล้วทำไมรู้สึกว่าหางตาฉันกระตุกยิบๆหว่า
"หลีกทางหน่อยครับ ๆ "
เสียงทุ้ม ๆ แสนคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมๆกับนักเรียนหญิงเริ่มตีวงแวกทางให้เจ้าชายขี่ม้าขาวเข้ามา เจ้าชาย เอ้ยไม่ใช่! โทโมะเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าของฉัน วันนี้หมอนี่แต่งตัวมาสะหล่อเชี่ยว *-* แถมยังมีป้ายอะไรก็ไม่รู้ขนาดประมาณกระดาษเอสี่ต่อกันสองแผ่นแขวนห้อย คอมาด้วย ผู้คนในโรงอาหารต่างมามุงดูด้วยความสนใจ
นี่นายจะทำอะไรน่ะ !
"นะนาย ..."
ขณะที่ฉันกำลังติดอ่างด้วยความงุนงง โทโมะก็ยิ้มหวานแล้วเอาปลายนิ้วชี้ขึ้นมาจรดริมฝีปากบางๆนั่นราวกับ บอกให้ฉันเงียบ จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ตาของฉันแล้วก็ชี้ไปที่แผ่นกระดาษที่ห้อยคอเขาอยู่ คงจะบอกให้ฉันดูแผ่นกระดาษนี่ละมั้ง นี่นายจะเล่นภาษาใบ้กับฉันงั้นเหรอ !
พึบ
เขาค่อย ๆ ดึงแผ่นกระดาษออกทีละใบ้ ๆอย่างช้าๆเพื่อให้ฉันได้อ่านข้อความทัน ตัวหนังสือที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็นลายมือของเขาเขียนไว้ว่า
'สวัสดี ตั้งใจอ่านให้ดีๆนะ^^'
'รู้มั้ย ว่าทุกวันฉันทรมาณมากแค่ไหน'
'รู้สึกผิดมากกับการกระทำโง่ๆของตัวเอง'
'อยากกอด อยากพูดคุย แต่ก็ทำไม่ได้'
'ได้โปรดให้โอกาสแก้ตัวอีกสักครั้ง'
'ที่หน้าคราวหลังจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก'
'สัญญาว่าทำได้เชื่อเถอะนะคนดี'
'เรื่องทุกเรื่องฉันจะเคลียร์ให้มันชัดเจน'
ยิ่งแผ่นกระดาษผ่านไปมากเท่าไหร่ ใบหน้าของโทโมะก็ยิ่งแดงก่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งพอมาถึงกระดาษแผ่นสุดท้ายทันทีที่ข้อความปรากฏสู่สายตา ประกอบกับคำพูดของโทโมะยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดของผู้คนรอบข้างดังระงม
'ให้อภัยโมะเถอะนะแก้วใจจ๋า และสุดท้ายโมะอยากจะบอกว่า...'
"โทโมะขอโทษนะที่รัก^^"
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด>0<"
ผู้คนในบริเวณนี้พากันกรี๊ดหูดับตับใหม้ หลังจากที่ผู้คนตะเบ็งเสียงกรี๊ดกันจนหน่ำใจก็หันมาให้ความสนใจมาที่ฉัน แทน แล้วยิ่งสายตาของพวกตัวซีที่มองมาที่ฉันนะ โครตจะกดดันกันเลย T0T
แง้ ~ เขาน่ารักอะ ทำร้ายไม่ลง T^T แต่ไม่ได้! เพื่อความบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ฉันจำเป็นจะต้องทำ ><!!! (กำหมัดขึ้นมาซูฮกในใจอย่างมาดมั่น)
ฟืดดดดดดด
ฉันหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดูดยาว ๆ โชว์พลังเสียงดังจนทุกคนเงียบกริบทั้งโรงอาหาร เพื่อที่จะทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาแล้วปรายตามองโทโมะนิ่ง ๆ ก่อนจะเปิดปากพูด
"ทำได้แค่นี้เองเหรอ นี่น่ะเหรอวิธีง้อของนาย ไม่ได้เรื่อง ! - -"
ฉันลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินหนีไปให้พ้นจากบริเวณนี้ แต่ก็โดนโทโมะคว้าแขนเอาไว้ เขากระตุกแขนฉันเพื่อให้หันกลับไปมองไม่พอดันกลายเป็นว่าตัวฉันกำลังอยู่ใน อ้อมกอดของเขา! ปล่อยฉานนนน๊า ! T_T โทโมะก้มลงมากระซิบที่หูของฉันเบา ๆ
"ฉันไม่ยอมแพ้แน่ ! เตรียมใจเอาไว้เลย^^"
จุบ ! กรี๊ดดดดด หมอนี่มันหอมแก้มฉัน -0- !
ฉันรีบสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของเขา แล้วชี้หน้าด่า
"นะนาย ! ไอ้บ้า !!!"
เขาทำท่าส่งจูบแถมท้ายก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าจากไปปล่อยให้ฉันยืนชี้ นิ้วข้างอยู่อย่างนั้น ตัวซีลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมากอดคอฉันไว้ แล้วมันก็เริ่มปากเสียทันที
"ไง กะจะหักหน้าเขาแต่ดันโดนเขาตลบหลังกลับ รู้สึกดีมั้ยละ ^^"
"เงียบไปเลยแก แล้วจะมองอะไรกันนักหนาวะ ใครมองอีกฉันจิ้มตาบอดแน่!!! "
ฉันพูดกับยัยซีแล้วหันไปพูดใส่บรรดาไทยมุงทั้งหลาย ! พอเห็นว่าทุกคนสลายตัวไปแล้วฉันก็ลงมานั่งที่เดิมด้วยความหงุดหงิด มีหวังข่าวนี้ได้กระจายไปทั่วโรงเรียนแน่!
หยึ้ย !!!
เพื่อนๆต่างก็มองมาที่ฉันด้วยความเป็นห่วง
"พวกแกคอยดูนะ ฉันจะต้องชนะ !"
ใช่ ตอนนี้ความรู้สึกของฉันกำลังเล่นเกมส์อยู่เลย แถมเป็นเกมส์ที่จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด โทโมะ... ฉันอยากจะรู้นักเชียวว่านายจะทนไปได้สักกี่น้ำ!
ฟืดดดดดดดดดดดด (ดูดน้ำส่งท้ายด้วยความโหโมและทำสายตาขึงขังมุ่งมั่่นเกินร้อย!)
ภายในห้องเรียนเกรด 11 ห้อง 4
เหล่านักเรียนตาดำ ๆ ภายในห้องต่างก้มหน้าก้มตาจดงานที่มิสเตอร์เอ็ดมาร์ล อาจาร์ยชาวอิตาลีประจำวิชาประวัติศาตร์สังคมยุโรปได้สั่งไว้ ภายในห้องมีนักเรียนหัวดำหัวแดงคละเคล้ากันไปอย่างเป็นธรรมชาติของโรงเรียน อินเตอร์ ห้องนี้ก็เหมือนห้องเรียนทั่วๆไป โดยที่เด็กแก่เรียนทั้งหลายแหล่จะนั่งหน้า ส่วนพวกชอบสังสรรค์โต๊ะจีน (หรือพวกใจแตกไม่เรียนหนังสือ) นั่งด้านหลัง
เหล่านักเรียนตาดำ ๆ ภายในห้องต่างก้มหน้าก้มตาจดงานที่มิสเตอร์เอ็ดมาร์ล อาจาร์ยชาวอิตาลีประจำวิชาประวัติศาตร์สังคมยุโรปได้สั่งไว้ ภายในห้องมีนักเรียนหัวดำหัวแดงคละเคล้ากันไปอย่างเป็นธรรมชาติของโรงเรียน อินเตอร์ ห้องนี้ก็เหมือนห้องเรียนทั่วๆไป โดยที่เด็กแก่เรียนทั้งหลายแหล่จะนั่งหน้า ส่วนพวกชอบสังสรรค์โต๊ะจีน (หรือพวกใจแตกไม่เรียนหนังสือ) นั่งด้านหลัง
เหล่านักเรียนตาดำ ๆ ภายในห้องต่างก้มหน้าก้มตาจดงานที่มิสเตอร์เอ็ดมาร์ล อาจาร์ยชาวอิตาลีประจำวิชาประวัติศาตร์สังคมยุโรปได้สั่งไว้ ภายในห้องมีนักเรียนหัวดำหัวแดงคละเคล้ากันไปอย่างเป็นธรรมชาติของโรงเรียน อินเตอร์ ห้องนี้ก็เหมือนห้องเรียนทั่วๆไป โดยที่เด็กแก่เรียนทั้งหลายแหล่จะนั่งหน้า ส่วนพวกชอบสังสรรค์โต๊ะจีน (หรือพวกใจแตกไม่เรียนหนังสือ) นั่งด้านหลัง
พิมพ์ หญิงสาว เลือกที่จะนั่งด้านหลังซึ่งเป็นตำแหน่งประจำของเธอทุกวิชา มือเรียวใช้ปลายนิ้วเขี่ยโทรศัทพ์ไปมาอย่างเหม่อลอย สำหรับเธอแล้วชีวิตที่ประเทศไทยมันช่างน่าเบื่อเอามาก ๆ ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะกลับอเมริกาให้รู้แล้วรู้รอดซะเลย ถ้าไม่ติดว่าคู่หมั้นของเธอยังอยู่ที่นี่ละก็นะ !
เมื่อสมัยก่อนพิมพ์เป็นเด็กสาวที่แสนเกเรหัวรั้นและเอาแต่ใจตามประสาเด็ก เมืองนอก ถ้าใครจะพูดว่าเด็กฝรั่งโตเร็วจะไม่เถียงสักคำ ซึ้งนั้นมันคือความจริง เธอชอบการเที่ยวกลางคืน(แม้อายุจะไม่ถึงแต่ถ้ามีเงินก็ใช้มันฟาดหัวเข้าไปสิ !) ชอบและรักสิ่งของมึนเมาเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนจากนั้นก็ตามมาด้วยการมั่วผู้ชาย ใครคนไหนที่เธอชอบและถูกใจมักจะไม่มาตกหลุมเธอแถบทุกครั้ง เธอสวยและรวยหรือจะพูดง่ายๆก็คือฮอตมากยามอยู่ที่นู้น แต่เธอก็ไม่เคยชายตาแลใครจริงๆจังๆสักที เพราะผู้ชายเปรียบสเหมือนของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ยามเบื่อก็พร้อมที่จะเขี่ยทิ้งเสมอ!
เด็กมีปัญหา ? ใครๆก็มักจะบอกว่าเธอเป็นแบบนั้น มันยากที่จะยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะนั่นคือความจริง แม่เสียไปตั้งแต่เธออายุได้เพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นพ่อของเธอก็นำผู้หญิงเข้าบ้านไม่ซ้ำหน้าเลยสักวัน แถมนังผู้หญิงพวกนั้นก็ยังจะพยายามขึ้นมาแทนที่แม่ของเธอ
ฮึ ! พวกอยากจะรวยทางลัดสินะ อย่าหวังเลยว่าเธอจะยอม ! เพราะสาเหตุนี้ยังไงละ ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ เธอจะต้องทำตัวเป็นนางร้ายวันละสามเวลาเพื่อต้องคอยสู้รบปรบมือกันนัง พวกนั้น!!!
แต่พอมีเขาคนนั้นที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอแล้ว เธอก็ไม่อยากจะปล่อยเขาให้หลุดมืออีกต่อไป เขาคนนั้นทำให้เธอเลิกนิสัยเหล่านี้ได้ และเขาทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกแล้ว ไม่มีวันที่เธอจะปล่อยเขาให้หลุดมือไปเด็ดขาด ผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธอ !!!
เมื่อสองปีก่อนก่อนคุณพ่อของเธอได้พาเธอเข้าไปยังบริษัทของพ่อโทโมะเป็น ครั้งแรก ซึ่งวันนั้นพ่อของเธอได้ตัดสินใจร่วมหุ้นด้วย 33% เป็นหุ้นที่พ่อถืออยู่ ถ้าไม่มีพ่อของเธอบริษัทของพ่อโทโมะก็คงไม่เติบโตจนมาถึงทุกวันนี้ ในตอนนั้นตัวเธอเองก็ได้เขาไปนั่งรอคุณพ่ออยู่ในห้องข้าง ๆ โดยที่คุณพ่อได้หลอกล่อบอกเธอว่าถ้าไปรอในห้องนั้นแล้วเธอจะได้เพื่อนใหม่ แต่ไม่ใช่เพราะเธออยากได้เพื่อนหรอกนะถึงได้ยอมเข้าไป แต่เพราะเธอไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงต่างหาก อีกอย่างคนอย่างเธอมีเพื่อนไม่เป็น !
ทันทีที่เธอเข้าไป เธอก็พบกับคุณน้าที่ยังสาวยังสวยพร้อมด้วยผู้ชายหน้าตาดีท่าทางจะอายุเท่าๆ กับเธอที่กำลังเขี้ยวขนมจนแก้มตุ้ย โดยมีคุณน้าคนนั้นที่ดูแล้วคงจะเป็นแม่ป้อนขนมอยู่
'โตแล้วยังติดแม่อีกเหรอเนี่ย- -*'
นี่คือความคิดของเธอในตอนนั้น พวกเขาต่างหันมามองเธอที่นั่งลงตรงโซฟาแถวๆนั้นแล้วหยิบเกมส์กดขนาดพกพาใน กระเป๋าขึ้นมาเล่น คุณน้าหันมายิ้มให้แล้วพูด
"อ้าว ลูกคุณคราว์ใช่มั้ยจ๊ะ หน้าถอดแบบกันมาเลย ^^"
รู้จักคุณพ่อด้วย ?
เธอมองคุณน้านิ่งๆ แล้วก้มหน้าก้มตาลงไปกดเล่นเกมส์ต่อ (ช่างเป็นเด็กที่ไม่มีสัมมาคารวะเอาซะเลย -*-) ไม่ต้องมองก็รู้ว่าคุณน้าคนนั้นหน้าเจือกไปแล้ว ระหว่างที่เธอกำลังสนใจกับสิ่งของในมืออยู่นั้น ก็รู้สึกถึงแรงเบียดนิดๆจากทางด้านขวา พอหันไปมองก็พบกับหน้าของผู้ชายหน้าตาดีคนนั้นกำลังนั่งเบียดเธอเพื่อ จะดูจอภาพเกมส์ที่ตัวเธอถืออยู่นั้นเอง พิมพ์ชักมือหลบด้วยความตกใจ
"ขี้งกชะมัด :("
ผู้ชายคนนี้พูดกับเธอ คุณน้าพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้
"เด็กคนนี้ชื่อโทโมะ เป็นลูกชายคนเดียวของฉันเอง โทโมะพิ่งประสบอุบัติเหตุความทรงจำไม่ค่อยจะดี หวังว่าหนูคงจะไม่ถือสาใช่มั้ยจ๊ะ ^^"
"ความทรงจำเสื่อมน่ะเหรอคะ ?"
"ใช่จ๊ะ"
เป็นประโยคแรกที่พิมพ์ยอมเปิดปากพูด เธอเบนสายตากลับมาจ้องโทโมะที่ฉกเกมส์ของเธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ รู้ เหมือนกับว่าโทโมะรู้ว่าโทโมะมองดูอยู่จึงกระเถิบตัวเข้าไปนั่ง ใกล้ๆ แล้วยื่นเกมส์กดไปให้ปากก็พูดว่า
"มีเครื่องเดียวงั้นแบ่งกันเล่นนะ^_^"
แปลกจริงพูดยังกับตัวเองเป็นเจ้าของเกมส์เลย - - พิมพ์ยิ้มกลับไปให้เล็กน้อยในความแปลกของคนตรงหน้า ทั้งสองผลัดกันเล่นเกมส์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพ่อของเธอมาตามให้กลับบ้าน ตอนนั้นเธอไม่รู้สึกอยากจะกลับเอาซะเลย ทุกๆวันหลังเลิกเรียนพิมพ์มักจะคอยแวะเวียนไปหาโทโมะเป็นประจำ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันนะที่เธอตามติดโทโมะแจ้ขนาดนั้น รู้แต่ว่าเขาเป็นรักแรกที่เธอมี เป็นรักที่เธอจะไม่มีวันให้ใคร ...
“พิมพ์! พักเที่ยงแล้ว มัวเหม่ออะไรอยู่?"
แรงเขย่าพร้อมกับเสียงของเดซี่ดังขึ้นทำให้เธอรู้สึกตัว พิมพ์ลุกขึ้นยืนและกวาดสายตาไปรอบๆห้อง ภายในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากตัวเธอกับเดซี่ นี่เธอเหม่อนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ?
ครืดดดด ครืดดดด
โทรศัพท์ที่ว่างอยู่บนโต๊ะสั่นครืดๆจนเธอต้องเอือมไปหยิบขึ้นมาดู
"ใครส่งอะไรมาน่ะ"
"เอ็มมี่ส่งข้อความมาน่ะเดซี่"
พิมพ์บอกพร้อมกับใช้ปลายนิ้วสัมผัสไปที่หน้าจอเพื่อเปิดดูสิ่งที่ เอ็มมี่เพื่อนอีกคนส่งมาให้ ดูท่าว่าจะเป็นคลิบอะไรสักอย่าง เธอรอมันดาวน์โหลดสักพัก ก่อนที่ภาพในคลิบจะฉายขึ้นมา O-O นี่มัน !!!
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง มือไม้ สั่นจนมือที่ถือโทรศัพท์อยู่แทบร่วง เดซี่ที่ยืนอยู่ข้างๆพอเห็นภาพในคลิบก็เอามือปิดปาก ภาพกลางโรงอาหารที่โทโมะกำลังง้อแก้ว ซึ้งมันหักหน้าพิมพ์เพื่อนของเธออย่างแรง !
พิมพ์กำโทรศัพท์ในมือแน่น ตัวสั่นเทิ่มด้วยความโกรธ แววตาของพิมพ์ฉายความโมโหขึ้นอย่างชัดเจนจนตัวเดซี่ต้องก้าวเท้าถอยหลังหนี อย่างไม่รู้ตัว
'โทโมะ ! นายผิดคำสัญญา! ได้ ... แล้วเราจะได้เห็นดีกัน !!!'
ทันทีที่คิดแบบนี้ พิมพ์ก็กดโทรศัพท์ต่อสายข้ามประเทศทันที พอปลายสายรับเท่านั้นละ เธอก็เสแสร้งทำเป็นสะอึกสะอื้นทันที ขนาดเดซี่ที่เป็นเพื่อนยังอดจะอึ้งไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริง ๆ T^T
"ฮึก แด๊ดดี้คะ ฮือออ พิมพ์มีเรื่องจะบอก แด๊ดดี้ช่วยพิมพ์ด้วยนะคะ ......"
ริมฝีปากบางแสยะยิ้มเย้ยหยันอย่างร้ายกาจให้กับสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ขณะ ที่กำลังใส่สีตีไข่สร้างเรื่องราวให้อีกฝ่ายเดือดร้อน แต่ใครจะเดือดร้อนเธอก็ไม่สน ขอเพียงแต่โทโมะต้องเป็นของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น !
'หึ ! ต่อไปนี้นายจะทำจัดการเรื่องทั้งหมดยังไงกันนะ โทโมะ !'
____________________________________________________
อัพแล้วนะเม้นโหวต=1กำลังใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ