Because of his love. เพราะรัก...ถึงร้าย
9.7
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.33 น.
35 ตอน
474 วิจารณ์
46.62K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 18.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
22) แก้วที่แตกหัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[kaew said ]
ตึก ตึก ตึก
ฉันวิ่งหน้าตั้งตรงดิ่งไปที่ห้องลับทันทีที่รู้จากป๊อปปี้ว่าโทโมะอาจจะโดด เรียนไปอยู่ในห้องลับหลังจากที่ฉันสังเกตุว่าโทโมะไม่อยู่ตอนที่เดินสวน เปลี่ยนวิชาเรียน ทุกคนรู้อะไรมั้ย ? ฉันลงทุนโดดเรียนคะ ! วันนี้ไม่มีโอกาสได้พูดกับเขาสักที จะมีก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ !
แฮก แฮก แฮก
ฉันหอบแฮก ๆ ยืนทำใจอยู่หน้าประตูห้องลับ ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นรัวชะมัดเลยให้ตายสิ!ฉันยกห่อพาสติกที่แสนสำคัญ มากในชีวิตฉันขึ้นมากอดไว้แนบอก จากนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนประตูเปิดออก
แอดดดดดดด
เสียงประตูดังแอดจนฉันคิดว่าจะต้องหาน้ำมันมาใส่ให้สะแล้ว -*- ฉันละสายตาจากประตูแล้วมองเข้าไปในห้องก็เป็นอันต้องตกใจมือไม้สั่นจนห่อพา ติกที่ทะนุถนอมมาทั้งวันเกือบจะร่วงลงพื้นเพราะดันเกิดอาการมือไม้อ่อน กระทันหัน
ตำแหน่งโซฟาที่มุมห้องมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนัวเนียกันอยู่ แทนที่พวกเขาได้ยินเสียงประตูก็น่าจะผลักออกจากกันได้แล้ว ! แต่นี้อะไรกััน ! ปล่อยให้ฉันยืนมองต่อไปงั้นเหรอ !!!
ตัวฉันสั่น อย่างรุนแรงด้วยความโกรธ ก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไปกระชากแขนยัยหน้าไม่อายออก ยัยพิมพ์!! ฉันง้างมือตบไปที่หน้าของยัยนี่ด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เพี๊ยะ !
หมับ !
โทโมะจับมือฉันเอาไว้เมื่อฉันกำลังจะฟาดฝ่ามือครั้งที่สองลงไป ฉันสะบัดแขนออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย
"ปล่อย!"
"ปล่อยไม่ได้ เธอกำลังจะทำร้ายคู่หมั้นฉัน" คำตอบนิ่งๆกับสายตาเย็นชาที่จ้องมองมาที่ฉันทำให้ฉันรู้สึกหมดแรงจนทิ้ง น้ำหนักที่แขนลง
เมื่อโทโมะเห็นว่าฉันไม่โต้ตอบก็ปล่อยมือฉันแล้วเดินเข้าไปหายัยหนองโพที่กำลังทำหน้าเยาะเย้ยสะใจ ยัยนั่นควงแขนโทโมะ
"ไงละ ทีนี้แกจะได้ตาสว่างสักทีว่าโมะเลือกใครกันแน่ ถ้าไม่รู้ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ โมะเลือกฉัน!"
"ตอแหล"
"ห๊ะ!"
"ฉันบอกว่าแกตอแหล! โทโมะเขายังไม่ได้พูดสักคำ!! " ฉันตอกกลับ ยัยนั่นเหวอไปนิดหน่อยก่อนจะหันไปถามคนข้าง ๆ
"โมะคะ บอกมันไปสิคะ ว่าโมะเลือกใคร!" โทโมะหันไปสบตากับยัยหนองโพเล็กน้อยก่อนจะเบนสายตากลับมาที่ฉัน พูดคำพูดที่แสนใจหาย
"แก้ว เธอเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันได้แล้ว " ไม่จริง... สายตาที่เย็นชากับคำพูดนิ่งๆของเขาทำให้ฉันไม่เชื่อ ! ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วผลักอกเขาเรื่อยๆจนเขาต้องถอยหลังหนีตามแรงผลัก
"นี่นายเป็นอะไรของนาย! ยังมีสติอยู่มั้ย? ที่พูดออกมาน่ะได้คิดบ้างหรือเปล่า" โทโมะรวบแขนทั้งสองข้างของฉันไว้ ฉันพยายามกระพริบตาปริบๆเพื่อไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมา ภาพตรงหน้าพล่ามัว
"เธอได้ยินชัดแล้วนี่ อย่าให้ฉันต้องพูดคำนั้นซ้ำสอง"
"ใช่ แกน่ะรู้ตัวได้แล้วนะว่าผู้ชายเขาไม่รัก ยังจะหน้าด้านตามต้อย ๆ" ยัยพิมพ์แหลมหน้าออกมาพูดจาเยาะเย้ยอยู่ข้าง ๆ ดีเลยอยู่ใกล้ ๆแบบนี้ ถึงมือไปไม่ถึงแต่ส้นตรีนฉันถึง! ฉันตัดสินใจยันเท้าใส่กลางตัวยัยนั่นเต็มแรง
พลั่ก !
กรี๊ดดดดด !
"หุบปาก! โอ้ย!" เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นไวมาก ๆ เมื่อฉันถีบยัยนั่นให้กระเด็นออกไป โทโมะที่รวบแขนฉันอยู่ก็เหวี่ยงฉันลงไปที่กองพื้นแล้ววิ่งเข้าไปพยุงพิมพ์ ขึ้นมา
"โทโมะ..." ฉันครางชื่อเขาออก มาด้วยความไม่เชื่อ โทโมะปลายตาขวางๆมองมาที่ฉันขณะที่พยุงยัยนั่นขึ้นมาแล้ว เขาเปล่งเสียงออกมาช้า ๆ แต่ลึกลงไปสุดขั้วหัวใจของฉัน
"ฉันเกียดเธอ"
ความรู้สึกราวกับมีใครมาตบหน้าฉันฉาดใหญ่ รู้สึกชาไปทั้งหน้าลามไปถึงหัวใจ ...
โทโมะพาพิมพ์เดินออกจากห้องไปขณะที่ฉันกำลังนั่งบื้องุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา
แอดดดดด
ปัง !
เสียงประตูปิดลงดังขึ้นมาทำให้ฉันมีสติจึงรีบลุกขึ้นถึงแม้ว่าขาจะรู้สึกอ่อนแรงเพียงไหนก็ตาม ไม่นะ! โทโมะ อย่าไป ได้โปรด ...
ฉันวิ่งออกมาข้างนอก เห็นหลังไวๆของโทโมะจึงรีบวิ่งเข้าไปขวางไว้ โทโมะมองฉันที่กำลังหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เมื่อหายเหนื่อยแล้วฉันค่อยๆเดินเข้าไปกอดโทโมะที่ตัวแข็งทื่อไปแล้ว ยัยพิมพ์โวยวายเมื่อเห็นว่าฉันกำลังกอดคู่หมั้นของเธอ แต่โทษที นี่ผู้ชายของฉัน! เขาเป็นของฉันมาตั้งนานแล้ว !
"โทโมะ ... ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นอะไรหรือใครบังคับให้นายเป็นแบบนี้ แต่ฉันไม่ชอบใจเลยที่นายทำแบบนี้ เพราะฉะนั้นนายอย่าทำแบบเมื่อกี้อีก ฉันจะให้อภัยแล้วคิดสะว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของนาย" ฉันพยายามมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของเขา เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นที่แววตาของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมาก่อนจะแปรเปลี่ยนกลับไปเย็นชาเหมือนเดิม ฉันไม่เข้าใจ...
โทโมะแกะมือของฉันที่กำลังโอบกอดเขาออก แล้วจ้องฉันกลับด้วยสายตาแข็งกราว
"มันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ แต่มันเป็นการตัดสินใจของฉัน ! อีกอย่างนี่ก็ใกล้ครบกำหนดเวลาสองเดือนแล้ว เธอทำตามที่ให้ไว้ไม่ได้เธอก็ต้องไปจากชีวิตของฉัน ! "
"ฉันไม่เข้าใจเลย นายเป็นบ้าอะไร! เหลือเวลาอีกตั้งเป็นอาทิตย์ๆนายจะรีบไล่ฉันไปไหน!"
"เธอมันน่ารำคาญ! ได้ยินมั้ยว่ามันน่ารำคาญ! เธอรู้มั้ยตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันต้องปั้นหน้าใส่เธอมันน่าเบื่อแค่ไหน! ไปซะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก ! แค่นี้เธอก็ทำลายช่วงเวลาแสนสุขของเรามามากพอแล้ว!!"
โทโมะปล่อยมือออกจากแขนของฉันแล้วไปโอบไหล่ยัยพิมพ์พากันเดินหนีฉัน ตอนนี้สายตาผู้คนในบริเวรนั้นจ้องมองมาที่ฉัน แต่ใครสนกันละ ! คนที่ฉันรักกำลังจะจากไปแล้ว ฉันวิ่งเข้าไปกอดโทโมะทางด้านหลังทำให้พวกเขาทั้งคู่หยุดเดิน ฉันเอาหน้าซบของไปที่กลางหลัง ส่งเสียงอ้อนวอนอู้อี้เพราะหน้ายังติดแนบกับหลังของโทโมะ พร้อมกับที่น้ำตากำลังไหลลงมา
"ได้โปรด.. ฮึก นายอย่าไปจากฉัน ได้โปรดอย่าไล่ฉันอีกเลย แค่นี้ฉันก็ .. ฮึก ใจจะขาดอยู่แล้ว ฮือ..." น้ำตา มากมายไหลลงมาจนฉันไม่คิดที่จะเช็ด โทโมะค่อยๆหันกลับมามองฉัน เขาเอื้อมมือขึ้นมาราวกับจะเช็ดหยาดน้ำตาให้แต่ก็ชะงักค้างไป
แต่เขากลับทำสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด ! เขาเหวี่ยงฉันลงไปที่พื้นรอบสอง!!!
ตุบ !
"น่า สะอิดสะเอียน! เธออย่ามาทำมารยาใส่ฉัน!! ผู้หญิงที่ไม่รู้จักคุณค่าตัวเองน่ะฉันเกียดที่สุด!!! ถ้าเธอไม่อยากจะให้ฉันทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ก็เลิกยุ่งกับฉันสักที!!! "
"ฮ่ะฮ่ะ ..."
ฉันแค่นหัวเราะออกมาให้กับความโง่เขลาของตัวเองที่ยอมให้ผู้ชายตรงหน้า เหวี่ยงลงพื้นถึงสองรอบก่อนจะปาห่อพาสติกใส่ตัวเขา ห่อพาสติกนั้นฝ่าอากาศไปกระทบตัวร่างสูงแล้วร่วงหล่นลง ลูกแก้วนับสิบๆลูกโบว์ผูกผม กิ๊บรูปผีเสื้อ และแหวนของเล่น สิ่งของต่าง ๆในวัยเด็กที่โทโมะให้ฉันไว้ ฉันไม่เคยทิ้งเลย ...
"วันนี้ฉันกะจะเอาของพวกนี้มาให้นาย แต่ตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้ว ... ฉันจะทิ้งมันไปให้หมด ! ทิ้งมันเหมือนที่นายกำลังจะทิ้งฉัน ! "ฉันปล่อยโฮออกมาทันทีที่พูดประโยคนี้จบ
ฉันต้องการใครสักคนมาพยุงฉันเดินออกไปจากที่นี่ แม้แต่จะยืนฉันยังไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ หัวใจฉันถูกมีดเป็นร้อยด้ามกรีดแทงเข้ามาจนนับไม่ถ้วน เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของฉันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
"แก้ว !"
เสียงบุคลที่สามดังขึ้น ฉันจำได้มันเป็นเสียงของฮาร่า แม้ว่าภาพตรงหน้าจะพล่ามัวไปด้วยม่านน้ำตา แต่ฉันก็เห็นว่าพวกป๊ฮปปี้และพวกตัวซีมากันครบ และพวกมันต้องกำลังตกใจอยู่แน่ ๆ ฮาร่าคุกเข่าลงตรงหน้าของฉันด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ
"ไอ้โมะ เกิดอะไรขึ้นวะ!" เขื่อนส่งเสียงถาม โทโมะยักไหล่ไม่ยี่ระแล้วตอบ
"พวกมึงมาก็ดีแล้ว จับยัยนี่ไว้หน่อยก็แล้วกัน กูรำคาญลูกตาวะ" คำพูดของเขาทำให้ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิม สะอื้นจนตัวโหยงจนสายตาทุกคนมองมาด้วยความสงสาร
ใจร้าย ... เขาใจร้ายเกินไปแล้ว ...
"ไอ้เหี้ยโมะ !!!"
ผวัะ !
ความชุลมุนเกิดขึ้นเมื่อฮาร่าลุกพรวดขึ้นไปชกโทโมะจนล้มไปกอง ทั้งคู่แลกหมัดกันนัวเนียจนจองเบ ป๊อปปี้ และเขื่อนเข้าไปห้าม พวกตัวซีเดินมาพยุงฉันขึ้นยืน พิมพ์ส่งเสียงวี๊ดว้ายด้วยความตกใจ พอจับโทโมะกับฮาร่าแยกกันเสร็จ ยัยพิมพ์ก็เสนอหน้าเข้าไปดูบาดแผลให้โทโมะ ฉันหันไปพยักหน้าให้เพื่อนๆว่าฉันยังโอเค ก่อนจะเดินเข้าไปแตะแขนฮาร่า ฉันกัดริมฝีปากไม่ให้สั่น สกัดกั้นอารมณ์เต็มที่ พร่ำบอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็งได้แล้ว ...
"ฮา ร่า พอเถอะ แล้วนาย ...โทโมะ นายไปได้แล้ว ฉันจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของนายอีก ขอให้นายจงจำไว้ ฉันคนเดิมได้ตายไปแล้ว ... "
ฉันพูดได้เพียงเท่านี้ เพราะกลัวว่าความเข้มแข็งที่สร้างขึ้นจะพังทลายลงเสียก่อน ฮาร่าสะบัดตัวออกจากการจับกุมของเขื่อนกับจองเบเดินเข้าคว้าตัวฉันมากอดไว้แน่นและเบนสายตาน่ากลัวไปทางโทโมะ พูดคำพูดที่แม้แต่ฉันยังต้องอึ้ง ทุกคนในบริเวณพากันเงียบกริบตกใจ
"มึงจำได้มั้ยที่กูเคยพูดไว้ ถ้ามึงไม่ต้องการแก้วกูก็จะแย่งมา แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นที่กูจะต้องทำแบบนั้นแล้ว ... กูขอคืน!!!”
หัวใจที่แตกสลายไปแล้ว ก็เหมือนแก้วที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนไม่สามารถนำมาต่อได้ ต่อให้มีกาววิเศษชนิดไหนในโลกมาหยอดแล้วประกอบกลับให้เป็นเหมือนเดิม มันก็ยังคงจะต่อกันไม่สนิท เพราะ ... มันยังมีร่องรอยของความร้าวรานอยู่ทุกรอบด้าน ...
สายลมยามเย็นของสวนสาธารณะแถวบ้านปะทะใบหน้าทำให้ผมยาวๆที่ปล่อยตรงพลิ้วสไว ตามแรงลม ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากที่เสียน้ำตามาเป็นเวลาหลายชั่วโมง
"ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?" คนพูดเอื้อมมือมาลูบหัวฉันเบา ๆ ฉันหันไปมองแล้วส่งยิ้มจริงใจให้พลางจับมือหนาที่วางอยู่บนหัวขึ้นมากุมแน่น ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างมากขึ้นประกอบกับพูดประจบ
" ขอบคุณนะ มีฮาร่าคอยอยู่เคียงข้างแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ^0^" ฮ่าร่าทำหน้าดุแล้วดึงมือของเขาออกจากมือฉันเพื่อแจกมะเหงกเคาะหน้าผากเบา ๆ เป็นการลงโทษ
"นี่ แน่ะ ! อย่าทำมาเป็นพูดประจบไปหน่อยเลย - -^ ป่ะ ถ้าเลิกขี้แยก็กลับเข้าบ้านไปได้แล้ว อาบน้ำกินข้าวแล้วเข้านอนเลยจะได้ไม่ต้องคิดมาก จำไว้ด้วยละ อย่างน้อยเธอก็ ... มีฉัน "
"....." ฉันที่กำลังลูบหัวปอย ๆ ชะงักข้างกับประโยคของเขา ฮาร่าไม่ปล่อยให้ฉันมีโอกาสจะถามอะไรออกมา เขาจูงมือลากฉันออกเดิน
ประโยคเมื่อกี้ทำให้แวบหนึ่งฉันกลับคิดว่าเขากำลังสร้างบรรยากาศมากกว่า เพื่อนซะแล้ว ตกใจหมดเลย -0-; ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรือไม่ชอบที่เขาแสดงออกมานะ แต่ฮาร่าเป็นคนตรงๆ คิดยังไงก็แสดงออกมาอย่างนั้น และฉันเองก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าเขาชอบฉัน เพียงแต่ว่าฉันคิดกับฮาร่ามากกว่าเพื่อนไม่ได้หรอก ถ้าในหัวใจของฉันยังมีใครอีกคนอยู่ ...
"ยืนบื้ออยู่อีก - - เข้าบ้านไปได้แล้ว"
เสียง ฮาร่าเรียกสติของฉัน เออแฮะ นี่ฉันมายืนอยู่หน้าบ้านแล้ว - -* ฉันล้วงมือเข้าไปในซอกประตูเพื่อดึงที่ล็อกประตูออกแล้วเดินเข้าไป ข้างในโดยที่ไม่ลืมพูดขอบคุณที่เขาอยู่เป็นเพื่อนยามที่ฉันร้องไห้ขี้มูก โป่งเมื่อครู่
" งั้นฉันเข้าบ้านแล้วนะ กลับบ้านดีๆนะ แล้วก็ขอบคุณมากนะฮาร่า ^_^ "
"เดี๋ยว !" ฮาร่ายันมือขวางประตูไว้ขณะที่ฉันกำลังจะปิด ฉันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม 'มีอะไรเหรอ?' ฮาร่าทำท่าอึกอักยกมือขึ้นเกาหัวเก้อๆ
"เอ่อ ... คือ ... ที่เธอบอกว่ามีฉันอยู่เคียงข้างแล้วรู้สึกดีน่ะ ... พูดจริงหรือเปล่า ?"
พรืดดดด
ฉันหลุดหัวเราะออกมาอย่างเสียมารยาท โธ่ ! ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องอะไร -*- ฉันยิ้มกว้างยืนยันคำตอบ
"ก็จริงน่ะสิ ! อยู่กับนายแล้วรู้สึกสงบขึ้นเยอะ ^__^" ฮาร่าพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างโล่งอก ดูแล้วน่ารักชะมัด >< เขายกมือขึ้นลูบท้ายท้อย อีท่าแบบนี้แสดงว่าเขินอยู่ใช้มั้ยเนี่ย - -; (เขื่อนเคยพูดไว้ว่าฮาร่าเวลาเขินจะชอบเอามือลูบท้ายท้อย^^)
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูด
" งั้น ... เธอก็ช่วยอยู่เคียงข้างฉันด้วยก็แล้วกัน เพราะหัวใจของฉันก็รู้สึกสงบทุกครั้งที่มีเธอ "
"ฮะฮาร่า..."
"เข้าบ้านไปได้แล้ว กู๊ดไนท์ครับ ^^"ฮาร่าพูดจบก็ปิดประตูให้เสร็จสรรพ ฉันยืนค้างมองเขาที่หันหลังออกเดินไปได้ 4-5 ก้าว เขาก็หันกลับมายิ้มและโบกมือบ๊ายบายให้ฉันแล้วออกวิ่งหายลับไปจากสายตา
ฉันยกมือขึ้นมาวางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจ ถึงจะโกหกคนอื่นได้แต่ฉันโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้ที่รู้สึกหวั่นไหวไปกับใคร อีกคน ก็หัวใจมันออกอาการเต้นแรงขนาดนี้... ฮาร่าดีกับฉันมาก วันนี้เขายอมมาส่งฉันและนั่งดูฉันร้องไห้อย่างเงียบ ๆ แต่ฉันแอบเห็นว่าเขาแสดงออกทางแววตายามที่มองมายังฉันเหมือนกับเขา กำลังสื่อว่า 'ฉันเจ็บ เขาก็เจ็บ' ฉันมองไปยังทิศทางที่เห็นฮาร่าครั้งสุดท้ายก่อนจะพูดฝากไปกับสายลม
"จะให้อยู่ข้าง ๆ นายงั้นเหรอ ... " ถ้าฉันสามารถตัดใจและลืม'เขา'คนนั้นได้สนิทใจเมื่อไหร่ ฉันจะยืนเคียงข้างนาย... ฮาร่า
" ฉันจะพยายาม ..."
ห่างจากตัวบ้านแก้วไปไม่ไกล ... มีร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนพิงท้ายรถปอร์เช่สีดำเงางาม เขาทอดสายตามองไปยังหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังปิดประตูแล้วเดินกลับเข้า ไปในบ้าน ทันทีที่เขาส่งหญิงสาวอีกคนเสร็จเขาก็รีบขับรถมาที่นี่ ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองเธอด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกผิด พอเธอพ้นจากสายตาไปแล้ว เขาก็ใช้มือข้างที่ล้วงกระเป๋าหยิบสิ่งของบางอย่างออกมาดู ลูกแก้ว โบว์ผูกผมเส้นเล็ก กิ๊บรูปผีเสื้อ และแหวนของเด็กเล่น ที่ถูกมัดรวมกันอยู่ในถุงพาสติกใบใหม่ เขาเก็บมันมาหลังจากที่ทุกคนกลับไปหมดแล้ว
"ฉัน...อั่ก!" โทโมะจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็กลับยกมือขึ้นกุมหัวทรุดตัวลงนั่งดิ้นทุรนทุรายที่พื้น
"อั่ก ! ... แฮก แฮก" ปวด ปวดหัว ปวดเหลือเกิน ปวดราวกับสมองจะระเบิดออกมา
"ว้าย ช่วยด้วย ๆ มีคนเจ็บอยู่ทางนี้ ! พ่อหนุ่มทำใจดีๆไว้นะ ช่วยด้วย ! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที" โทโมะพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามองอย่างยากลำบาก ตรงหน้าคนมีผู้คนเข้ามามุงดูราว 5-6 คน ทุกคนต่างช่วยกันพยุงตัวเขาให้ลุกขึ้นยืน ป้าแก่ๆคนหนึ่งประคองเขาไว้และร้องเรียกหารถพยาบาล
"อ๊ากกก !" โทโมะใช้มือกุมหัวตัวเองอย่างทรมาณ สายตาเริ่มเลือนรางลงเรื่อย ๆ เสียงทุกอย่างเริ่มดังออกไปไกลมากขึ้น ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง …
"โทโมะ โทโมะ" เสียงแหลมเล็กกังวานสดใสดังขึ้น
ใคร ?
ความคิดนี้ดังขึ้นในหัว
เสียงมาจากไหนกัน ? ที่นี่ที่ไหน ทำไมถึงได้มืดขนาดนี้ ???
"โทโมะ โทโมะ โทโมะ" เสียงเล็กๆยังคงร้องเรียกชื่อเขาต่อเนื่อง จากที่ภาพตรงหน้ามืด ๆ ก็ปรากฏแสงสว่างขึ้น ร่างเล็ก ๆ ของเด็กสาวผิวขาวแก้มใสคนหนึ่งวิ่งมาหาเขาอย่างร่าเริง ฉากแปรเปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่น เด็กคนนี้ ? คุ้นจัง ...
"โทโมะ ดูสิ ๆ กิ๊บที่โทโมะซื้อให้ละ เห็นมั้ยนี้ ๆ " เด็กสาวพยายามชี้ไปที่บนหัวทุยเล็ก ๆ ของตนเอง จิ้มนิ้วชี้ไปที่กิ๊บรูปผีเสื้ออย่างโอ้อวด
"สวยใช่มั้ยละ แก้วชอบมากๆเลยนะ ^0^ ซ้วยสวย วันหลังซื้อให้อีกนะ แก้วละช้อบชอบ >.<"
ไม่จริงน่า เด็กคนนี้ ... แก้ว !!!!!
___________________________________________________________อัพแล้วนะ เม้นโหวตให้หน่อยค่ะ
ตึก ตึก ตึก
ฉันวิ่งหน้าตั้งตรงดิ่งไปที่ห้องลับทันทีที่รู้จากป๊อปปี้ว่าโทโมะอาจจะโดด เรียนไปอยู่ในห้องลับหลังจากที่ฉันสังเกตุว่าโทโมะไม่อยู่ตอนที่เดินสวน เปลี่ยนวิชาเรียน ทุกคนรู้อะไรมั้ย ? ฉันลงทุนโดดเรียนคะ ! วันนี้ไม่มีโอกาสได้พูดกับเขาสักที จะมีก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ !
แฮก แฮก แฮก
ฉันหอบแฮก ๆ ยืนทำใจอยู่หน้าประตูห้องลับ ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นรัวชะมัดเลยให้ตายสิ!ฉันยกห่อพาสติกที่แสนสำคัญ มากในชีวิตฉันขึ้นมากอดไว้แนบอก จากนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนประตูเปิดออก
แอดดดดดดด
เสียงประตูดังแอดจนฉันคิดว่าจะต้องหาน้ำมันมาใส่ให้สะแล้ว -*- ฉันละสายตาจากประตูแล้วมองเข้าไปในห้องก็เป็นอันต้องตกใจมือไม้สั่นจนห่อพา ติกที่ทะนุถนอมมาทั้งวันเกือบจะร่วงลงพื้นเพราะดันเกิดอาการมือไม้อ่อน กระทันหัน
ตำแหน่งโซฟาที่มุมห้องมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนัวเนียกันอยู่ แทนที่พวกเขาได้ยินเสียงประตูก็น่าจะผลักออกจากกันได้แล้ว ! แต่นี้อะไรกััน ! ปล่อยให้ฉันยืนมองต่อไปงั้นเหรอ !!!
ตัวฉันสั่น อย่างรุนแรงด้วยความโกรธ ก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไปกระชากแขนยัยหน้าไม่อายออก ยัยพิมพ์!! ฉันง้างมือตบไปที่หน้าของยัยนี่ด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เพี๊ยะ !
หมับ !
โทโมะจับมือฉันเอาไว้เมื่อฉันกำลังจะฟาดฝ่ามือครั้งที่สองลงไป ฉันสะบัดแขนออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย
"ปล่อย!"
"ปล่อยไม่ได้ เธอกำลังจะทำร้ายคู่หมั้นฉัน" คำตอบนิ่งๆกับสายตาเย็นชาที่จ้องมองมาที่ฉันทำให้ฉันรู้สึกหมดแรงจนทิ้ง น้ำหนักที่แขนลง
เมื่อโทโมะเห็นว่าฉันไม่โต้ตอบก็ปล่อยมือฉันแล้วเดินเข้าไปหายัยหนองโพที่กำลังทำหน้าเยาะเย้ยสะใจ ยัยนั่นควงแขนโทโมะ
"ไงละ ทีนี้แกจะได้ตาสว่างสักทีว่าโมะเลือกใครกันแน่ ถ้าไม่รู้ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ โมะเลือกฉัน!"
"ตอแหล"
"ห๊ะ!"
"ฉันบอกว่าแกตอแหล! โทโมะเขายังไม่ได้พูดสักคำ!! " ฉันตอกกลับ ยัยนั่นเหวอไปนิดหน่อยก่อนจะหันไปถามคนข้าง ๆ
"โมะคะ บอกมันไปสิคะ ว่าโมะเลือกใคร!" โทโมะหันไปสบตากับยัยหนองโพเล็กน้อยก่อนจะเบนสายตากลับมาที่ฉัน พูดคำพูดที่แสนใจหาย
"แก้ว เธอเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันได้แล้ว " ไม่จริง... สายตาที่เย็นชากับคำพูดนิ่งๆของเขาทำให้ฉันไม่เชื่อ ! ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วผลักอกเขาเรื่อยๆจนเขาต้องถอยหลังหนีตามแรงผลัก
"นี่นายเป็นอะไรของนาย! ยังมีสติอยู่มั้ย? ที่พูดออกมาน่ะได้คิดบ้างหรือเปล่า" โทโมะรวบแขนทั้งสองข้างของฉันไว้ ฉันพยายามกระพริบตาปริบๆเพื่อไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมา ภาพตรงหน้าพล่ามัว
"เธอได้ยินชัดแล้วนี่ อย่าให้ฉันต้องพูดคำนั้นซ้ำสอง"
"ใช่ แกน่ะรู้ตัวได้แล้วนะว่าผู้ชายเขาไม่รัก ยังจะหน้าด้านตามต้อย ๆ" ยัยพิมพ์แหลมหน้าออกมาพูดจาเยาะเย้ยอยู่ข้าง ๆ ดีเลยอยู่ใกล้ ๆแบบนี้ ถึงมือไปไม่ถึงแต่ส้นตรีนฉันถึง! ฉันตัดสินใจยันเท้าใส่กลางตัวยัยนั่นเต็มแรง
พลั่ก !
กรี๊ดดดดด !
"หุบปาก! โอ้ย!" เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นไวมาก ๆ เมื่อฉันถีบยัยนั่นให้กระเด็นออกไป โทโมะที่รวบแขนฉันอยู่ก็เหวี่ยงฉันลงไปที่กองพื้นแล้ววิ่งเข้าไปพยุงพิมพ์ ขึ้นมา
"โทโมะ..." ฉันครางชื่อเขาออก มาด้วยความไม่เชื่อ โทโมะปลายตาขวางๆมองมาที่ฉันขณะที่พยุงยัยนั่นขึ้นมาแล้ว เขาเปล่งเสียงออกมาช้า ๆ แต่ลึกลงไปสุดขั้วหัวใจของฉัน
"ฉันเกียดเธอ"
ความรู้สึกราวกับมีใครมาตบหน้าฉันฉาดใหญ่ รู้สึกชาไปทั้งหน้าลามไปถึงหัวใจ ...
โทโมะพาพิมพ์เดินออกจากห้องไปขณะที่ฉันกำลังนั่งบื้องุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา
แอดดดดด
ปัง !
เสียงประตูปิดลงดังขึ้นมาทำให้ฉันมีสติจึงรีบลุกขึ้นถึงแม้ว่าขาจะรู้สึกอ่อนแรงเพียงไหนก็ตาม ไม่นะ! โทโมะ อย่าไป ได้โปรด ...
ฉันวิ่งออกมาข้างนอก เห็นหลังไวๆของโทโมะจึงรีบวิ่งเข้าไปขวางไว้ โทโมะมองฉันที่กำลังหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เมื่อหายเหนื่อยแล้วฉันค่อยๆเดินเข้าไปกอดโทโมะที่ตัวแข็งทื่อไปแล้ว ยัยพิมพ์โวยวายเมื่อเห็นว่าฉันกำลังกอดคู่หมั้นของเธอ แต่โทษที นี่ผู้ชายของฉัน! เขาเป็นของฉันมาตั้งนานแล้ว !
"โทโมะ ... ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นอะไรหรือใครบังคับให้นายเป็นแบบนี้ แต่ฉันไม่ชอบใจเลยที่นายทำแบบนี้ เพราะฉะนั้นนายอย่าทำแบบเมื่อกี้อีก ฉันจะให้อภัยแล้วคิดสะว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของนาย" ฉันพยายามมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของเขา เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นที่แววตาของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมาก่อนจะแปรเปลี่ยนกลับไปเย็นชาเหมือนเดิม ฉันไม่เข้าใจ...
โทโมะแกะมือของฉันที่กำลังโอบกอดเขาออก แล้วจ้องฉันกลับด้วยสายตาแข็งกราว
"มันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ แต่มันเป็นการตัดสินใจของฉัน ! อีกอย่างนี่ก็ใกล้ครบกำหนดเวลาสองเดือนแล้ว เธอทำตามที่ให้ไว้ไม่ได้เธอก็ต้องไปจากชีวิตของฉัน ! "
"ฉันไม่เข้าใจเลย นายเป็นบ้าอะไร! เหลือเวลาอีกตั้งเป็นอาทิตย์ๆนายจะรีบไล่ฉันไปไหน!"
"เธอมันน่ารำคาญ! ได้ยินมั้ยว่ามันน่ารำคาญ! เธอรู้มั้ยตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันต้องปั้นหน้าใส่เธอมันน่าเบื่อแค่ไหน! ไปซะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก ! แค่นี้เธอก็ทำลายช่วงเวลาแสนสุขของเรามามากพอแล้ว!!"
โทโมะปล่อยมือออกจากแขนของฉันแล้วไปโอบไหล่ยัยพิมพ์พากันเดินหนีฉัน ตอนนี้สายตาผู้คนในบริเวรนั้นจ้องมองมาที่ฉัน แต่ใครสนกันละ ! คนที่ฉันรักกำลังจะจากไปแล้ว ฉันวิ่งเข้าไปกอดโทโมะทางด้านหลังทำให้พวกเขาทั้งคู่หยุดเดิน ฉันเอาหน้าซบของไปที่กลางหลัง ส่งเสียงอ้อนวอนอู้อี้เพราะหน้ายังติดแนบกับหลังของโทโมะ พร้อมกับที่น้ำตากำลังไหลลงมา
"ได้โปรด.. ฮึก นายอย่าไปจากฉัน ได้โปรดอย่าไล่ฉันอีกเลย แค่นี้ฉันก็ .. ฮึก ใจจะขาดอยู่แล้ว ฮือ..." น้ำตา มากมายไหลลงมาจนฉันไม่คิดที่จะเช็ด โทโมะค่อยๆหันกลับมามองฉัน เขาเอื้อมมือขึ้นมาราวกับจะเช็ดหยาดน้ำตาให้แต่ก็ชะงักค้างไป
แต่เขากลับทำสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด ! เขาเหวี่ยงฉันลงไปที่พื้นรอบสอง!!!
ตุบ !
"น่า สะอิดสะเอียน! เธออย่ามาทำมารยาใส่ฉัน!! ผู้หญิงที่ไม่รู้จักคุณค่าตัวเองน่ะฉันเกียดที่สุด!!! ถ้าเธอไม่อยากจะให้ฉันทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ก็เลิกยุ่งกับฉันสักที!!! "
"ฮ่ะฮ่ะ ..."
ฉันแค่นหัวเราะออกมาให้กับความโง่เขลาของตัวเองที่ยอมให้ผู้ชายตรงหน้า เหวี่ยงลงพื้นถึงสองรอบก่อนจะปาห่อพาสติกใส่ตัวเขา ห่อพาสติกนั้นฝ่าอากาศไปกระทบตัวร่างสูงแล้วร่วงหล่นลง ลูกแก้วนับสิบๆลูกโบว์ผูกผม กิ๊บรูปผีเสื้อ และแหวนของเล่น สิ่งของต่าง ๆในวัยเด็กที่โทโมะให้ฉันไว้ ฉันไม่เคยทิ้งเลย ...
"วันนี้ฉันกะจะเอาของพวกนี้มาให้นาย แต่ตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้ว ... ฉันจะทิ้งมันไปให้หมด ! ทิ้งมันเหมือนที่นายกำลังจะทิ้งฉัน ! "ฉันปล่อยโฮออกมาทันทีที่พูดประโยคนี้จบ
ฉันต้องการใครสักคนมาพยุงฉันเดินออกไปจากที่นี่ แม้แต่จะยืนฉันยังไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ หัวใจฉันถูกมีดเป็นร้อยด้ามกรีดแทงเข้ามาจนนับไม่ถ้วน เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของฉันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
"แก้ว !"
เสียงบุคลที่สามดังขึ้น ฉันจำได้มันเป็นเสียงของฮาร่า แม้ว่าภาพตรงหน้าจะพล่ามัวไปด้วยม่านน้ำตา แต่ฉันก็เห็นว่าพวกป๊ฮปปี้และพวกตัวซีมากันครบ และพวกมันต้องกำลังตกใจอยู่แน่ ๆ ฮาร่าคุกเข่าลงตรงหน้าของฉันด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ
"ไอ้โมะ เกิดอะไรขึ้นวะ!" เขื่อนส่งเสียงถาม โทโมะยักไหล่ไม่ยี่ระแล้วตอบ
"พวกมึงมาก็ดีแล้ว จับยัยนี่ไว้หน่อยก็แล้วกัน กูรำคาญลูกตาวะ" คำพูดของเขาทำให้ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิม สะอื้นจนตัวโหยงจนสายตาทุกคนมองมาด้วยความสงสาร
ใจร้าย ... เขาใจร้ายเกินไปแล้ว ...
"ไอ้เหี้ยโมะ !!!"
ผวัะ !
ความชุลมุนเกิดขึ้นเมื่อฮาร่าลุกพรวดขึ้นไปชกโทโมะจนล้มไปกอง ทั้งคู่แลกหมัดกันนัวเนียจนจองเบ ป๊อปปี้ และเขื่อนเข้าไปห้าม พวกตัวซีเดินมาพยุงฉันขึ้นยืน พิมพ์ส่งเสียงวี๊ดว้ายด้วยความตกใจ พอจับโทโมะกับฮาร่าแยกกันเสร็จ ยัยพิมพ์ก็เสนอหน้าเข้าไปดูบาดแผลให้โทโมะ ฉันหันไปพยักหน้าให้เพื่อนๆว่าฉันยังโอเค ก่อนจะเดินเข้าไปแตะแขนฮาร่า ฉันกัดริมฝีปากไม่ให้สั่น สกัดกั้นอารมณ์เต็มที่ พร่ำบอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็งได้แล้ว ...
"ฮา ร่า พอเถอะ แล้วนาย ...โทโมะ นายไปได้แล้ว ฉันจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของนายอีก ขอให้นายจงจำไว้ ฉันคนเดิมได้ตายไปแล้ว ... "
ฉันพูดได้เพียงเท่านี้ เพราะกลัวว่าความเข้มแข็งที่สร้างขึ้นจะพังทลายลงเสียก่อน ฮาร่าสะบัดตัวออกจากการจับกุมของเขื่อนกับจองเบเดินเข้าคว้าตัวฉันมากอดไว้แน่นและเบนสายตาน่ากลัวไปทางโทโมะ พูดคำพูดที่แม้แต่ฉันยังต้องอึ้ง ทุกคนในบริเวณพากันเงียบกริบตกใจ
"มึงจำได้มั้ยที่กูเคยพูดไว้ ถ้ามึงไม่ต้องการแก้วกูก็จะแย่งมา แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นที่กูจะต้องทำแบบนั้นแล้ว ... กูขอคืน!!!”
หัวใจที่แตกสลายไปแล้ว ก็เหมือนแก้วที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนไม่สามารถนำมาต่อได้ ต่อให้มีกาววิเศษชนิดไหนในโลกมาหยอดแล้วประกอบกลับให้เป็นเหมือนเดิม มันก็ยังคงจะต่อกันไม่สนิท เพราะ ... มันยังมีร่องรอยของความร้าวรานอยู่ทุกรอบด้าน ...
สายลมยามเย็นของสวนสาธารณะแถวบ้านปะทะใบหน้าทำให้ผมยาวๆที่ปล่อยตรงพลิ้วสไว ตามแรงลม ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากที่เสียน้ำตามาเป็นเวลาหลายชั่วโมง
"ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?" คนพูดเอื้อมมือมาลูบหัวฉันเบา ๆ ฉันหันไปมองแล้วส่งยิ้มจริงใจให้พลางจับมือหนาที่วางอยู่บนหัวขึ้นมากุมแน่น ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างมากขึ้นประกอบกับพูดประจบ
" ขอบคุณนะ มีฮาร่าคอยอยู่เคียงข้างแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ^0^" ฮ่าร่าทำหน้าดุแล้วดึงมือของเขาออกจากมือฉันเพื่อแจกมะเหงกเคาะหน้าผากเบา ๆ เป็นการลงโทษ
"นี่ แน่ะ ! อย่าทำมาเป็นพูดประจบไปหน่อยเลย - -^ ป่ะ ถ้าเลิกขี้แยก็กลับเข้าบ้านไปได้แล้ว อาบน้ำกินข้าวแล้วเข้านอนเลยจะได้ไม่ต้องคิดมาก จำไว้ด้วยละ อย่างน้อยเธอก็ ... มีฉัน "
"....." ฉันที่กำลังลูบหัวปอย ๆ ชะงักข้างกับประโยคของเขา ฮาร่าไม่ปล่อยให้ฉันมีโอกาสจะถามอะไรออกมา เขาจูงมือลากฉันออกเดิน
ประโยคเมื่อกี้ทำให้แวบหนึ่งฉันกลับคิดว่าเขากำลังสร้างบรรยากาศมากกว่า เพื่อนซะแล้ว ตกใจหมดเลย -0-; ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรือไม่ชอบที่เขาแสดงออกมานะ แต่ฮาร่าเป็นคนตรงๆ คิดยังไงก็แสดงออกมาอย่างนั้น และฉันเองก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าเขาชอบฉัน เพียงแต่ว่าฉันคิดกับฮาร่ามากกว่าเพื่อนไม่ได้หรอก ถ้าในหัวใจของฉันยังมีใครอีกคนอยู่ ...
"ยืนบื้ออยู่อีก - - เข้าบ้านไปได้แล้ว"
เสียง ฮาร่าเรียกสติของฉัน เออแฮะ นี่ฉันมายืนอยู่หน้าบ้านแล้ว - -* ฉันล้วงมือเข้าไปในซอกประตูเพื่อดึงที่ล็อกประตูออกแล้วเดินเข้าไป ข้างในโดยที่ไม่ลืมพูดขอบคุณที่เขาอยู่เป็นเพื่อนยามที่ฉันร้องไห้ขี้มูก โป่งเมื่อครู่
" งั้นฉันเข้าบ้านแล้วนะ กลับบ้านดีๆนะ แล้วก็ขอบคุณมากนะฮาร่า ^_^ "
"เดี๋ยว !" ฮาร่ายันมือขวางประตูไว้ขณะที่ฉันกำลังจะปิด ฉันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม 'มีอะไรเหรอ?' ฮาร่าทำท่าอึกอักยกมือขึ้นเกาหัวเก้อๆ
"เอ่อ ... คือ ... ที่เธอบอกว่ามีฉันอยู่เคียงข้างแล้วรู้สึกดีน่ะ ... พูดจริงหรือเปล่า ?"
พรืดดดด
ฉันหลุดหัวเราะออกมาอย่างเสียมารยาท โธ่ ! ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องอะไร -*- ฉันยิ้มกว้างยืนยันคำตอบ
"ก็จริงน่ะสิ ! อยู่กับนายแล้วรู้สึกสงบขึ้นเยอะ ^__^" ฮาร่าพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างโล่งอก ดูแล้วน่ารักชะมัด >< เขายกมือขึ้นลูบท้ายท้อย อีท่าแบบนี้แสดงว่าเขินอยู่ใช้มั้ยเนี่ย - -; (เขื่อนเคยพูดไว้ว่าฮาร่าเวลาเขินจะชอบเอามือลูบท้ายท้อย^^)
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูด
" งั้น ... เธอก็ช่วยอยู่เคียงข้างฉันด้วยก็แล้วกัน เพราะหัวใจของฉันก็รู้สึกสงบทุกครั้งที่มีเธอ "
"ฮะฮาร่า..."
"เข้าบ้านไปได้แล้ว กู๊ดไนท์ครับ ^^"ฮาร่าพูดจบก็ปิดประตูให้เสร็จสรรพ ฉันยืนค้างมองเขาที่หันหลังออกเดินไปได้ 4-5 ก้าว เขาก็หันกลับมายิ้มและโบกมือบ๊ายบายให้ฉันแล้วออกวิ่งหายลับไปจากสายตา
ฉันยกมือขึ้นมาวางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจ ถึงจะโกหกคนอื่นได้แต่ฉันโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้ที่รู้สึกหวั่นไหวไปกับใคร อีกคน ก็หัวใจมันออกอาการเต้นแรงขนาดนี้... ฮาร่าดีกับฉันมาก วันนี้เขายอมมาส่งฉันและนั่งดูฉันร้องไห้อย่างเงียบ ๆ แต่ฉันแอบเห็นว่าเขาแสดงออกทางแววตายามที่มองมายังฉันเหมือนกับเขา กำลังสื่อว่า 'ฉันเจ็บ เขาก็เจ็บ' ฉันมองไปยังทิศทางที่เห็นฮาร่าครั้งสุดท้ายก่อนจะพูดฝากไปกับสายลม
"จะให้อยู่ข้าง ๆ นายงั้นเหรอ ... " ถ้าฉันสามารถตัดใจและลืม'เขา'คนนั้นได้สนิทใจเมื่อไหร่ ฉันจะยืนเคียงข้างนาย... ฮาร่า
" ฉันจะพยายาม ..."
ห่างจากตัวบ้านแก้วไปไม่ไกล ... มีร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนพิงท้ายรถปอร์เช่สีดำเงางาม เขาทอดสายตามองไปยังหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังปิดประตูแล้วเดินกลับเข้า ไปในบ้าน ทันทีที่เขาส่งหญิงสาวอีกคนเสร็จเขาก็รีบขับรถมาที่นี่ ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองเธอด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกผิด พอเธอพ้นจากสายตาไปแล้ว เขาก็ใช้มือข้างที่ล้วงกระเป๋าหยิบสิ่งของบางอย่างออกมาดู ลูกแก้ว โบว์ผูกผมเส้นเล็ก กิ๊บรูปผีเสื้อ และแหวนของเด็กเล่น ที่ถูกมัดรวมกันอยู่ในถุงพาสติกใบใหม่ เขาเก็บมันมาหลังจากที่ทุกคนกลับไปหมดแล้ว
"ฉัน...อั่ก!" โทโมะจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็กลับยกมือขึ้นกุมหัวทรุดตัวลงนั่งดิ้นทุรนทุรายที่พื้น
"อั่ก ! ... แฮก แฮก" ปวด ปวดหัว ปวดเหลือเกิน ปวดราวกับสมองจะระเบิดออกมา
"ว้าย ช่วยด้วย ๆ มีคนเจ็บอยู่ทางนี้ ! พ่อหนุ่มทำใจดีๆไว้นะ ช่วยด้วย ! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที" โทโมะพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามองอย่างยากลำบาก ตรงหน้าคนมีผู้คนเข้ามามุงดูราว 5-6 คน ทุกคนต่างช่วยกันพยุงตัวเขาให้ลุกขึ้นยืน ป้าแก่ๆคนหนึ่งประคองเขาไว้และร้องเรียกหารถพยาบาล
"อ๊ากกก !" โทโมะใช้มือกุมหัวตัวเองอย่างทรมาณ สายตาเริ่มเลือนรางลงเรื่อย ๆ เสียงทุกอย่างเริ่มดังออกไปไกลมากขึ้น ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง …
"โทโมะ โทโมะ" เสียงแหลมเล็กกังวานสดใสดังขึ้น
ใคร ?
ความคิดนี้ดังขึ้นในหัว
เสียงมาจากไหนกัน ? ที่นี่ที่ไหน ทำไมถึงได้มืดขนาดนี้ ???
"โทโมะ โทโมะ โทโมะ" เสียงเล็กๆยังคงร้องเรียกชื่อเขาต่อเนื่อง จากที่ภาพตรงหน้ามืด ๆ ก็ปรากฏแสงสว่างขึ้น ร่างเล็ก ๆ ของเด็กสาวผิวขาวแก้มใสคนหนึ่งวิ่งมาหาเขาอย่างร่าเริง ฉากแปรเปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่น เด็กคนนี้ ? คุ้นจัง ...
"โทโมะ ดูสิ ๆ กิ๊บที่โทโมะซื้อให้ละ เห็นมั้ยนี้ ๆ " เด็กสาวพยายามชี้ไปที่บนหัวทุยเล็ก ๆ ของตนเอง จิ้มนิ้วชี้ไปที่กิ๊บรูปผีเสื้ออย่างโอ้อวด
"สวยใช่มั้ยละ แก้วชอบมากๆเลยนะ ^0^ ซ้วยสวย วันหลังซื้อให้อีกนะ แก้วละช้อบชอบ >.<"
ไม่จริงน่า เด็กคนนี้ ... แก้ว !!!!!
___________________________________________________________อัพแล้วนะ เม้นโหวตให้หน่อยค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ