Because of his love. เพราะรัก...ถึงร้าย
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.33 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2559 18.33 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
22) แก้วที่แตกหัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[kaew said ]
ตึก ตึก ตึก
ฉันวิ่งหน้าตั้งตรงดิ่งไปที่ห้องลับทันทีที่รู้จากป๊อปปี้ว่าโทโมะอาจจะโดด เรียนไปอยู่ในห้องลับหลังจากที่ฉันสังเกตุว่าโทโมะไม่อยู่ตอนที่เดินสวน เปลี่ยนวิชาเรียน ทุกคนรู้อะไรมั้ย ? ฉันลงทุนโดดเรียนคะ ! วันนี้ไม่มีโอกาสได้พูดกับเขาสักที จะมีก็แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ !
แฮก แฮก แฮก
ฉันหอบแฮก ๆ ยืนทำใจอยู่หน้าประตูห้องลับ ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นรัวชะมัดเลยให้ตายสิ!ฉันยกห่อพาสติกที่แสนสำคัญ มากในชีวิตฉันขึ้นมากอดไว้แนบอก จากนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนประตูเปิดออก
แอดดดดดดด
เสียงประตูดังแอดจนฉันคิดว่าจะต้องหาน้ำมันมาใส่ให้สะแล้ว -*- ฉันละสายตาจากประตูแล้วมองเข้าไปในห้องก็เป็นอันต้องตกใจมือไม้สั่นจนห่อพา ติกที่ทะนุถนอมมาทั้งวันเกือบจะร่วงลงพื้นเพราะดันเกิดอาการมือไม้อ่อน กระทันหัน
ตำแหน่งโซฟาที่มุมห้องมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนัวเนียกันอยู่ แทนที่พวกเขาได้ยินเสียงประตูก็น่าจะผลักออกจากกันได้แล้ว ! แต่นี้อะไรกััน ! ปล่อยให้ฉันยืนมองต่อไปงั้นเหรอ !!!
ตัวฉันสั่น อย่างรุนแรงด้วยความโกรธ ก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไปกระชากแขนยัยหน้าไม่อายออก ยัยพิมพ์!! ฉันง้างมือตบไปที่หน้าของยัยนี่ด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เพี๊ยะ !
หมับ !
โทโมะจับมือฉันเอาไว้เมื่อฉันกำลังจะฟาดฝ่ามือครั้งที่สองลงไป ฉันสะบัดแขนออกแต่เขาไม่ยอมปล่อย
"ปล่อย!"
"ปล่อยไม่ได้ เธอกำลังจะทำร้ายคู่หมั้นฉัน" คำตอบนิ่งๆกับสายตาเย็นชาที่จ้องมองมาที่ฉันทำให้ฉันรู้สึกหมดแรงจนทิ้ง น้ำหนักที่แขนลง
เมื่อโทโมะเห็นว่าฉันไม่โต้ตอบก็ปล่อยมือฉันแล้วเดินเข้าไปหายัยหนองโพที่กำลังทำหน้าเยาะเย้ยสะใจ ยัยนั่นควงแขนโทโมะ
"ไงละ ทีนี้แกจะได้ตาสว่างสักทีว่าโมะเลือกใครกันแน่ ถ้าไม่รู้ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ โมะเลือกฉัน!"
"ตอแหล"
"ห๊ะ!"
"ฉันบอกว่าแกตอแหล! โทโมะเขายังไม่ได้พูดสักคำ!! " ฉันตอกกลับ ยัยนั่นเหวอไปนิดหน่อยก่อนจะหันไปถามคนข้าง ๆ
"โมะคะ บอกมันไปสิคะ ว่าโมะเลือกใคร!" โทโมะหันไปสบตากับยัยหนองโพเล็กน้อยก่อนจะเบนสายตากลับมาที่ฉัน พูดคำพูดที่แสนใจหาย
"แก้ว เธอเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันได้แล้ว " ไม่จริง... สายตาที่เย็นชากับคำพูดนิ่งๆของเขาทำให้ฉันไม่เชื่อ ! ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วผลักอกเขาเรื่อยๆจนเขาต้องถอยหลังหนีตามแรงผลัก
"นี่นายเป็นอะไรของนาย! ยังมีสติอยู่มั้ย? ที่พูดออกมาน่ะได้คิดบ้างหรือเปล่า" โทโมะรวบแขนทั้งสองข้างของฉันไว้ ฉันพยายามกระพริบตาปริบๆเพื่อไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมา ภาพตรงหน้าพล่ามัว
"เธอได้ยินชัดแล้วนี่ อย่าให้ฉันต้องพูดคำนั้นซ้ำสอง"
"ใช่ แกน่ะรู้ตัวได้แล้วนะว่าผู้ชายเขาไม่รัก ยังจะหน้าด้านตามต้อย ๆ" ยัยพิมพ์แหลมหน้าออกมาพูดจาเยาะเย้ยอยู่ข้าง ๆ ดีเลยอยู่ใกล้ ๆแบบนี้ ถึงมือไปไม่ถึงแต่ส้นตรีนฉันถึง! ฉันตัดสินใจยันเท้าใส่กลางตัวยัยนั่นเต็มแรง
พลั่ก !
กรี๊ดดดดด !
"หุบปาก! โอ้ย!" เหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นไวมาก ๆ เมื่อฉันถีบยัยนั่นให้กระเด็นออกไป โทโมะที่รวบแขนฉันอยู่ก็เหวี่ยงฉันลงไปที่กองพื้นแล้ววิ่งเข้าไปพยุงพิมพ์ ขึ้นมา
"โทโมะ..." ฉันครางชื่อเขาออก มาด้วยความไม่เชื่อ โทโมะปลายตาขวางๆมองมาที่ฉันขณะที่พยุงยัยนั่นขึ้นมาแล้ว เขาเปล่งเสียงออกมาช้า ๆ แต่ลึกลงไปสุดขั้วหัวใจของฉัน
"ฉันเกียดเธอ"
ความรู้สึกราวกับมีใครมาตบหน้าฉันฉาดใหญ่ รู้สึกชาไปทั้งหน้าลามไปถึงหัวใจ ...
โทโมะพาพิมพ์เดินออกจากห้องไปขณะที่ฉันกำลังนั่งบื้องุนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา
แอดดดดด
ปัง !
เสียงประตูปิดลงดังขึ้นมาทำให้ฉันมีสติจึงรีบลุกขึ้นถึงแม้ว่าขาจะรู้สึกอ่อนแรงเพียงไหนก็ตาม ไม่นะ! โทโมะ อย่าไป ได้โปรด ...
ฉันวิ่งออกมาข้างนอก เห็นหลังไวๆของโทโมะจึงรีบวิ่งเข้าไปขวางไว้ โทโมะมองฉันที่กำลังหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เมื่อหายเหนื่อยแล้วฉันค่อยๆเดินเข้าไปกอดโทโมะที่ตัวแข็งทื่อไปแล้ว ยัยพิมพ์โวยวายเมื่อเห็นว่าฉันกำลังกอดคู่หมั้นของเธอ แต่โทษที นี่ผู้ชายของฉัน! เขาเป็นของฉันมาตั้งนานแล้ว !
"โทโมะ ... ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นอะไรหรือใครบังคับให้นายเป็นแบบนี้ แต่ฉันไม่ชอบใจเลยที่นายทำแบบนี้ เพราะฉะนั้นนายอย่าทำแบบเมื่อกี้อีก ฉันจะให้อภัยแล้วคิดสะว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของนาย" ฉันพยายามมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของเขา เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นที่แววตาของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมาก่อนจะแปรเปลี่ยนกลับไปเย็นชาเหมือนเดิม ฉันไม่เข้าใจ...
โทโมะแกะมือของฉันที่กำลังโอบกอดเขาออก แล้วจ้องฉันกลับด้วยสายตาแข็งกราว
"มันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ แต่มันเป็นการตัดสินใจของฉัน ! อีกอย่างนี่ก็ใกล้ครบกำหนดเวลาสองเดือนแล้ว เธอทำตามที่ให้ไว้ไม่ได้เธอก็ต้องไปจากชีวิตของฉัน ! "
"ฉันไม่เข้าใจเลย นายเป็นบ้าอะไร! เหลือเวลาอีกตั้งเป็นอาทิตย์ๆนายจะรีบไล่ฉันไปไหน!"
"เธอมันน่ารำคาญ! ได้ยินมั้ยว่ามันน่ารำคาญ! เธอรู้มั้ยตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันต้องปั้นหน้าใส่เธอมันน่าเบื่อแค่ไหน! ไปซะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก ! แค่นี้เธอก็ทำลายช่วงเวลาแสนสุขของเรามามากพอแล้ว!!"
โทโมะปล่อยมือออกจากแขนของฉันแล้วไปโอบไหล่ยัยพิมพ์พากันเดินหนีฉัน ตอนนี้สายตาผู้คนในบริเวรนั้นจ้องมองมาที่ฉัน แต่ใครสนกันละ ! คนที่ฉันรักกำลังจะจากไปแล้ว ฉันวิ่งเข้าไปกอดโทโมะทางด้านหลังทำให้พวกเขาทั้งคู่หยุดเดิน ฉันเอาหน้าซบของไปที่กลางหลัง ส่งเสียงอ้อนวอนอู้อี้เพราะหน้ายังติดแนบกับหลังของโทโมะ พร้อมกับที่น้ำตากำลังไหลลงมา
"ได้โปรด.. ฮึก นายอย่าไปจากฉัน ได้โปรดอย่าไล่ฉันอีกเลย แค่นี้ฉันก็ .. ฮึก ใจจะขาดอยู่แล้ว ฮือ..." น้ำตา มากมายไหลลงมาจนฉันไม่คิดที่จะเช็ด โทโมะค่อยๆหันกลับมามองฉัน เขาเอื้อมมือขึ้นมาราวกับจะเช็ดหยาดน้ำตาให้แต่ก็ชะงักค้างไป
แต่เขากลับทำสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด ! เขาเหวี่ยงฉันลงไปที่พื้นรอบสอง!!!
ตุบ !
"น่า สะอิดสะเอียน! เธออย่ามาทำมารยาใส่ฉัน!! ผู้หญิงที่ไม่รู้จักคุณค่าตัวเองน่ะฉันเกียดที่สุด!!! ถ้าเธอไม่อยากจะให้ฉันทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ก็เลิกยุ่งกับฉันสักที!!! "
"ฮ่ะฮ่ะ ..."
ฉันแค่นหัวเราะออกมาให้กับความโง่เขลาของตัวเองที่ยอมให้ผู้ชายตรงหน้า เหวี่ยงลงพื้นถึงสองรอบก่อนจะปาห่อพาสติกใส่ตัวเขา ห่อพาสติกนั้นฝ่าอากาศไปกระทบตัวร่างสูงแล้วร่วงหล่นลง ลูกแก้วนับสิบๆลูกโบว์ผูกผม กิ๊บรูปผีเสื้อ และแหวนของเล่น สิ่งของต่าง ๆในวัยเด็กที่โทโมะให้ฉันไว้ ฉันไม่เคยทิ้งเลย ...
"วันนี้ฉันกะจะเอาของพวกนี้มาให้นาย แต่ตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้ว ... ฉันจะทิ้งมันไปให้หมด ! ทิ้งมันเหมือนที่นายกำลังจะทิ้งฉัน ! "ฉันปล่อยโฮออกมาทันทีที่พูดประโยคนี้จบ
ฉันต้องการใครสักคนมาพยุงฉันเดินออกไปจากที่นี่ แม้แต่จะยืนฉันยังไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ หัวใจฉันถูกมีดเป็นร้อยด้ามกรีดแทงเข้ามาจนนับไม่ถ้วน เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของฉันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
"แก้ว !"
เสียงบุคลที่สามดังขึ้น ฉันจำได้มันเป็นเสียงของฮาร่า แม้ว่าภาพตรงหน้าจะพล่ามัวไปด้วยม่านน้ำตา แต่ฉันก็เห็นว่าพวกป๊ฮปปี้และพวกตัวซีมากันครบ และพวกมันต้องกำลังตกใจอยู่แน่ ๆ ฮาร่าคุกเข่าลงตรงหน้าของฉันด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ
"ไอ้โมะ เกิดอะไรขึ้นวะ!" เขื่อนส่งเสียงถาม โทโมะยักไหล่ไม่ยี่ระแล้วตอบ
"พวกมึงมาก็ดีแล้ว จับยัยนี่ไว้หน่อยก็แล้วกัน กูรำคาญลูกตาวะ" คำพูดของเขาทำให้ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิม สะอื้นจนตัวโหยงจนสายตาทุกคนมองมาด้วยความสงสาร
ใจร้าย ... เขาใจร้ายเกินไปแล้ว ...
"ไอ้เหี้ยโมะ !!!"
ผวัะ !
ความชุลมุนเกิดขึ้นเมื่อฮาร่าลุกพรวดขึ้นไปชกโทโมะจนล้มไปกอง ทั้งคู่แลกหมัดกันนัวเนียจนจองเบ ป๊อปปี้ และเขื่อนเข้าไปห้าม พวกตัวซีเดินมาพยุงฉันขึ้นยืน พิมพ์ส่งเสียงวี๊ดว้ายด้วยความตกใจ พอจับโทโมะกับฮาร่าแยกกันเสร็จ ยัยพิมพ์ก็เสนอหน้าเข้าไปดูบาดแผลให้โทโมะ ฉันหันไปพยักหน้าให้เพื่อนๆว่าฉันยังโอเค ก่อนจะเดินเข้าไปแตะแขนฮาร่า ฉันกัดริมฝีปากไม่ให้สั่น สกัดกั้นอารมณ์เต็มที่ พร่ำบอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็งได้แล้ว ...
"ฮา ร่า พอเถอะ แล้วนาย ...โทโมะ นายไปได้แล้ว ฉันจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของนายอีก ขอให้นายจงจำไว้ ฉันคนเดิมได้ตายไปแล้ว ... "
ฉันพูดได้เพียงเท่านี้ เพราะกลัวว่าความเข้มแข็งที่สร้างขึ้นจะพังทลายลงเสียก่อน ฮาร่าสะบัดตัวออกจากการจับกุมของเขื่อนกับจองเบเดินเข้าคว้าตัวฉันมากอดไว้แน่นและเบนสายตาน่ากลัวไปทางโทโมะ พูดคำพูดที่แม้แต่ฉันยังต้องอึ้ง ทุกคนในบริเวณพากันเงียบกริบตกใจ
"มึงจำได้มั้ยที่กูเคยพูดไว้ ถ้ามึงไม่ต้องการแก้วกูก็จะแย่งมา แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นที่กูจะต้องทำแบบนั้นแล้ว ... กูขอคืน!!!”
หัวใจที่แตกสลายไปแล้ว ก็เหมือนแก้วที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนไม่สามารถนำมาต่อได้ ต่อให้มีกาววิเศษชนิดไหนในโลกมาหยอดแล้วประกอบกลับให้เป็นเหมือนเดิม มันก็ยังคงจะต่อกันไม่สนิท เพราะ ... มันยังมีร่องรอยของความร้าวรานอยู่ทุกรอบด้าน ...
สายลมยามเย็นของสวนสาธารณะแถวบ้านปะทะใบหน้าทำให้ผมยาวๆที่ปล่อยตรงพลิ้วสไว ตามแรงลม ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากที่เสียน้ำตามาเป็นเวลาหลายชั่วโมง
"ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?" คนพูดเอื้อมมือมาลูบหัวฉันเบา ๆ ฉันหันไปมองแล้วส่งยิ้มจริงใจให้พลางจับมือหนาที่วางอยู่บนหัวขึ้นมากุมแน่น ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างมากขึ้นประกอบกับพูดประจบ
" ขอบคุณนะ มีฮาร่าคอยอยู่เคียงข้างแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ^0^" ฮ่าร่าทำหน้าดุแล้วดึงมือของเขาออกจากมือฉันเพื่อแจกมะเหงกเคาะหน้าผากเบา ๆ เป็นการลงโทษ
"นี่ แน่ะ ! อย่าทำมาเป็นพูดประจบไปหน่อยเลย - -^ ป่ะ ถ้าเลิกขี้แยก็กลับเข้าบ้านไปได้แล้ว อาบน้ำกินข้าวแล้วเข้านอนเลยจะได้ไม่ต้องคิดมาก จำไว้ด้วยละ อย่างน้อยเธอก็ ... มีฉัน "
"....." ฉันที่กำลังลูบหัวปอย ๆ ชะงักข้างกับประโยคของเขา ฮาร่าไม่ปล่อยให้ฉันมีโอกาสจะถามอะไรออกมา เขาจูงมือลากฉันออกเดิน
ประโยคเมื่อกี้ทำให้แวบหนึ่งฉันกลับคิดว่าเขากำลังสร้างบรรยากาศมากกว่า เพื่อนซะแล้ว ตกใจหมดเลย -0-; ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรือไม่ชอบที่เขาแสดงออกมานะ แต่ฮาร่าเป็นคนตรงๆ คิดยังไงก็แสดงออกมาอย่างนั้น และฉันเองก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าเขาชอบฉัน เพียงแต่ว่าฉันคิดกับฮาร่ามากกว่าเพื่อนไม่ได้หรอก ถ้าในหัวใจของฉันยังมีใครอีกคนอยู่ ...
"ยืนบื้ออยู่อีก - - เข้าบ้านไปได้แล้ว"
เสียง ฮาร่าเรียกสติของฉัน เออแฮะ นี่ฉันมายืนอยู่หน้าบ้านแล้ว - -* ฉันล้วงมือเข้าไปในซอกประตูเพื่อดึงที่ล็อกประตูออกแล้วเดินเข้าไป ข้างในโดยที่ไม่ลืมพูดขอบคุณที่เขาอยู่เป็นเพื่อนยามที่ฉันร้องไห้ขี้มูก โป่งเมื่อครู่
" งั้นฉันเข้าบ้านแล้วนะ กลับบ้านดีๆนะ แล้วก็ขอบคุณมากนะฮาร่า ^_^ "
"เดี๋ยว !" ฮาร่ายันมือขวางประตูไว้ขณะที่ฉันกำลังจะปิด ฉันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม 'มีอะไรเหรอ?' ฮาร่าทำท่าอึกอักยกมือขึ้นเกาหัวเก้อๆ
"เอ่อ ... คือ ... ที่เธอบอกว่ามีฉันอยู่เคียงข้างแล้วรู้สึกดีน่ะ ... พูดจริงหรือเปล่า ?"
พรืดดดด
ฉันหลุดหัวเราะออกมาอย่างเสียมารยาท โธ่ ! ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องอะไร -*- ฉันยิ้มกว้างยืนยันคำตอบ
"ก็จริงน่ะสิ ! อยู่กับนายแล้วรู้สึกสงบขึ้นเยอะ ^__^" ฮาร่าพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างโล่งอก ดูแล้วน่ารักชะมัด >< เขายกมือขึ้นลูบท้ายท้อย อีท่าแบบนี้แสดงว่าเขินอยู่ใช้มั้ยเนี่ย - -; (เขื่อนเคยพูดไว้ว่าฮาร่าเวลาเขินจะชอบเอามือลูบท้ายท้อย^^)
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูด
" งั้น ... เธอก็ช่วยอยู่เคียงข้างฉันด้วยก็แล้วกัน เพราะหัวใจของฉันก็รู้สึกสงบทุกครั้งที่มีเธอ "
"ฮะฮาร่า..."
"เข้าบ้านไปได้แล้ว กู๊ดไนท์ครับ ^^"ฮาร่าพูดจบก็ปิดประตูให้เสร็จสรรพ ฉันยืนค้างมองเขาที่หันหลังออกเดินไปได้ 4-5 ก้าว เขาก็หันกลับมายิ้มและโบกมือบ๊ายบายให้ฉันแล้วออกวิ่งหายลับไปจากสายตา
ฉันยกมือขึ้นมาวางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจ ถึงจะโกหกคนอื่นได้แต่ฉันโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้ที่รู้สึกหวั่นไหวไปกับใคร อีกคน ก็หัวใจมันออกอาการเต้นแรงขนาดนี้... ฮาร่าดีกับฉันมาก วันนี้เขายอมมาส่งฉันและนั่งดูฉันร้องไห้อย่างเงียบ ๆ แต่ฉันแอบเห็นว่าเขาแสดงออกทางแววตายามที่มองมายังฉันเหมือนกับเขา กำลังสื่อว่า 'ฉันเจ็บ เขาก็เจ็บ' ฉันมองไปยังทิศทางที่เห็นฮาร่าครั้งสุดท้ายก่อนจะพูดฝากไปกับสายลม
"จะให้อยู่ข้าง ๆ นายงั้นเหรอ ... " ถ้าฉันสามารถตัดใจและลืม'เขา'คนนั้นได้สนิทใจเมื่อไหร่ ฉันจะยืนเคียงข้างนาย... ฮาร่า
" ฉันจะพยายาม ..."
ห่างจากตัวบ้านแก้วไปไม่ไกล ... มีร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนพิงท้ายรถปอร์เช่สีดำเงางาม เขาทอดสายตามองไปยังหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังปิดประตูแล้วเดินกลับเข้า ไปในบ้าน ทันทีที่เขาส่งหญิงสาวอีกคนเสร็จเขาก็รีบขับรถมาที่นี่ ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองเธอด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกผิด พอเธอพ้นจากสายตาไปแล้ว เขาก็ใช้มือข้างที่ล้วงกระเป๋าหยิบสิ่งของบางอย่างออกมาดู ลูกแก้ว โบว์ผูกผมเส้นเล็ก กิ๊บรูปผีเสื้อ และแหวนของเด็กเล่น ที่ถูกมัดรวมกันอยู่ในถุงพาสติกใบใหม่ เขาเก็บมันมาหลังจากที่ทุกคนกลับไปหมดแล้ว
"ฉัน...อั่ก!" โทโมะจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็กลับยกมือขึ้นกุมหัวทรุดตัวลงนั่งดิ้นทุรนทุรายที่พื้น
"อั่ก ! ... แฮก แฮก" ปวด ปวดหัว ปวดเหลือเกิน ปวดราวกับสมองจะระเบิดออกมา
"ว้าย ช่วยด้วย ๆ มีคนเจ็บอยู่ทางนี้ ! พ่อหนุ่มทำใจดีๆไว้นะ ช่วยด้วย ! ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที" โทโมะพยายามที่จะลืมตาขึ้นมามองอย่างยากลำบาก ตรงหน้าคนมีผู้คนเข้ามามุงดูราว 5-6 คน ทุกคนต่างช่วยกันพยุงตัวเขาให้ลุกขึ้นยืน ป้าแก่ๆคนหนึ่งประคองเขาไว้และร้องเรียกหารถพยาบาล
"อ๊ากกก !" โทโมะใช้มือกุมหัวตัวเองอย่างทรมาณ สายตาเริ่มเลือนรางลงเรื่อย ๆ เสียงทุกอย่างเริ่มดังออกไปไกลมากขึ้น ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง …
"โทโมะ โทโมะ" เสียงแหลมเล็กกังวานสดใสดังขึ้น
ใคร ?
ความคิดนี้ดังขึ้นในหัว
เสียงมาจากไหนกัน ? ที่นี่ที่ไหน ทำไมถึงได้มืดขนาดนี้ ???
"โทโมะ โทโมะ โทโมะ" เสียงเล็กๆยังคงร้องเรียกชื่อเขาต่อเนื่อง จากที่ภาพตรงหน้ามืด ๆ ก็ปรากฏแสงสว่างขึ้น ร่างเล็ก ๆ ของเด็กสาวผิวขาวแก้มใสคนหนึ่งวิ่งมาหาเขาอย่างร่าเริง ฉากแปรเปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่น เด็กคนนี้ ? คุ้นจัง ...
"โทโมะ ดูสิ ๆ กิ๊บที่โทโมะซื้อให้ละ เห็นมั้ยนี้ ๆ " เด็กสาวพยายามชี้ไปที่บนหัวทุยเล็ก ๆ ของตนเอง จิ้มนิ้วชี้ไปที่กิ๊บรูปผีเสื้ออย่างโอ้อวด
"สวยใช่มั้ยละ แก้วชอบมากๆเลยนะ ^0^ ซ้วยสวย วันหลังซื้อให้อีกนะ แก้วละช้อบชอบ >.<"
ไม่จริงน่า เด็กคนนี้ ... แก้ว !!!!!
___________________________________________________________อัพแล้วนะ เม้นโหวตให้หน่อยค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ