พ่อตาที่รัก

-

เขียนโดย sunyo

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.11 น.

  3 ตอน
  22 วิจารณ์
  6,808 อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) งานศพ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
                    ห้องดับจิต หลังจากที่เกลี่ยกล่อมหว่านล้อมจนแก้วยอมกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ผู้กองเท่ก็เดินเข้ามาดูศพท่านอิทธิอีกครั้ง ใบหน้าของเขาที่เขียวช้ำจากการถูกทำร้าย ตามเรือนร่างของเขาที่ม่วงช้ำเหมือนถูกตีด้วยของแข็ง ร่างกายบางจุดถูกยิงและถูกแทงด้วยของแหลมหลายแห่งจนเขาเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ แต่กลับไม่มีหลักฐานที่จะสาวถึงตัวคนร้ายได้เลย
 
 
 
 
                    " ใครมันทำกับท่านได้ขนาดนี้ครับ " ผู้กองเท่จ้องมองใบหน้าท่านอิทธิด้วยความสงสัยอย่างที่สุด และเขาเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างท่านอิทธิจะมาเจอชะตากรรมแบบนี้
 
 
 
 
                    " แปลกนะครับผู้กอง ผู้ติดตามของท่านก็หายตัวไป โทรศัพท์ของท่านเองก็หายไป แล้วท่านไปอยุ่ในที่เกิดเหตุนั่นได้ยังไง " หมวดเดชาตั้งข้อสงสัย ผู้กองเท่คิดตาม
 
 
 
 
 
                    " นั่นสิ " 
 
 
 
 
                    ณ จุดเกิดเหตุ ศพชายกลางวัยนอนจมกองเลือดอยู่ในป่าข้างหนองน้ำในสภาพคว่ำหน้า แขนอีกข้างนึงห้อยจมลงไปในหนองน้ำ 
                    บริเวณทางเข้า มีรถตำรวจและรถมูลนิธิรวมสองคันจอดเรียงกันอยู่ ผู้กองเท่ หมวดเดชาและเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิอีกสามคนได้เดินเข้ามาในป่าลึกและพบเจอกับศพของชายดังกล่าว   ผู้กองเท่พลิกร่างถ้วมของชายคนนั่นช้าๆจนร่างพลิกมานอนหงาย
 
 
                    "ท่านอิทธิ " เขาตกอยู่ในอาการช็อคทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของคนดังกล่าว ทั้งห้าหันมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็น
 
 
 
                    " หมวด ตรวจดูหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุ " ผู้กองเท่ออกคำสั่งอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะเริ่มหาหลักฐานจากตัวของท่านอิทธิ แต่กลับพบเจอแต่ความว่างเปล่า ในที่เกิดเหตุแทบจะไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย มันเป็นไปได้ยังไง 
 
 
 
                    " ไม่เจออะไรเลยครับผู้กอง มันเก็บหลักฐานเร็วมาก ราวกับมีการวางแผนมาก่อนหน้านี้ "
 
 
 
                    " ใช่ และคงจะไม่ได้ทำคนเดียว มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เราคิดแน่ๆ "
 
 
 
 
                    
 
 
 
                    " ตามหาผู้ติดตามของท่านอิทธิให้เจอ เผื่อจะรู้ข้อมูลมากกว่านี้ "ผู้กองพูด หมวดเดชาพยักหน้า ทั้งคู่เดิมออกจากห้องดับจิตไป 
 
 
 
 
 
 
                    ที่บ้านของแก้ว 
 
 
 
 
 
                    " ไม่มีป๋า แล้วเราจะอยู่กันยังไงค่ะแม่ "เธอนอนโอบกอดผู้เป็นแม่ไว้แน่นทั้งน้ำตาดวงตาหวานแดงกล่ำและบวมจากการร้องไห้มาทั้งวัน ใจของเธอแทบสลายเมื่อได้รับข่าวร้ายในวันนี้ 
 
 
 
 
 
                    "ป๋าบอกให้เราเข้มแข็ง หนูจำไม่ได้หรอลูก " อามารินเองก็ใช่ว่าจะเสียใจแต่หากเธอทุกข์ให้แก้วเห็น แก้วคงจะแย่มากกว่านี้
 
 
 
 
                    " แม่จะไม่จากหนูไปเหมือนป๋าใช่มั้ยคะ" เธอพลิกตัวมองหน้าแม่อย่างอ้อนวอน เธอไม่คิดเลยว่าถ้าแม่จากเธอไปอีกคน เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรกัน
 
 
 
 
 
                    " ไม่หรอกลูก แม่จะอยู่กับหนูไปจนหนูเบื่อแม่นู้นแหละ "อามารินพูดทั้งน้ำตาก่อนจะโอบกอดยอดดวงใจของเธอไว้แน่นยิ่งขึ้น 
 
 
 
 
 
                    ' บอกชั้ลว่าใครทำร้ายคุณ ชั้ลจะไปจัดการกับมันให้ถึงที่สุด 'ดวงตาคมของอามารินจ้องมองไปที่รูปภาพแต่งงานทั้งน้ำตา 
 
 
 
 
 
 
 
                    ป่าที่เกิดเหตุ
 
 
 
 
 
                    "เฮียยย ทำไมไม่มาตอนกลางวันเนี่ยย " ม่อนลูกสมุนคนสนิทของจิ๊กโก๋ เดินหันหน้าหันหลังอ่างระแวง เมื่อตัวเองถูกลูกพี่ลากจากเตียงเข้ามาในที่เกิดเหตุ
 
                    บรรยากาศมืดๆกับอากาศที่หนาวสั่น ทำให้คนทั้งกลุ่มขนลุกฟูไปตามๆกัน
 
 
 
                    "นั่นสิเฮีย มาป่านนี้ถ้าเจอท่านฮะจะทำยังไงเนี่ย "เม่นลูบแขนตัวเองไปมาแล้วเดินเกาะกลุ่มไปติดๆ 
 
 
 
 
                    " มึงพูดเชี้ยไรเนี่ยไอ้เม่น ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย " มาร๋กเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเม่นสักเท่าไหร่ 
 
 
 
 
 
                    " พวกมึงจะกลัวห่าอะไรนักหนาวะ เดินให้มันดีๆ ใกล้จะถึงแล้ว " จิ๊กโก๋ชักสีหน้าใส่ทั้งสามคนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินนำเข้าไปในป่า 
 
 
 
 
 
                    " ตรงนี้แหละ แยกย้ายกันหาหลักฐานให้ทั่ว " และทั้งหมดก็มายังจุดเกิดเหตุ จุดที่ท่านอิทธิถูกทำร้ายตาย 
 
 
 
 
 
                    " มันยิ่งท่านฮะ แล้วมันเก็บปลอกกระสุนปืนไปด้วย ทำไมมันละเอียดรอบคอบแบบนี้วะ " จิ๊กโก๋ตั้งข้อสงสัย
 
 
 
 
                    "นัั่นสิเฮีย มันไม่เหมือนโจรกระจอกเลยนะเฮีย " ม่อนเสริม
 
 
 
 
 
                    "มันคงไม่ได้ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์เหมือนที่ชาวบ้านสงสัยแน่นอน เพราะท่านฮะไม่เคยพกของมีค่าติดตัว " เม่นเสริม
 
 
 
 
 
                    " แต่ท่านฮะไม่เคยขัดผลประโยชน์กับใครหนิ " จิ๊กโก๋แย้ง
 
 
 
 
 
                    "นั่นสิ แล้วมันจะฆ่าท่านฮะของพวกเราทำไม " มาร์กพูด 
 
 
 
 
 
                    "หรือมันจะข่มขืนท่านฮะ "เม่นพูด 
 
 
 
 
 
                    เพลี๊ยะ ! เพลี๊ยะ ! เพลี๊ยะ ! ทั้งสามผลัดกันตบหัวเรียกสติของเม่น 
 
 
 
 
 
                    " คดีนี้ยากวะ กูจะทำยังไงให้รู้ตัวคนทำวะ ในเมื่อหลักฐานก็ไม่มีอะไรให้สาวถึงตัวคนร้ายได้เลย " จิ๊กโก๋เครียด 
 
 
 
 
                    " มันต้องมีสักอย่างแหละเฮีย ยังไงมันก็ต้องมี "ม่อนพูดอย่างมั่นใจ
 
 
 
 
 
                    " เออ งั้นลอกแยกย้ายกันหาหลักฐานดูดิ " จิ๊กโก๋ออกคำสั่ง
 
 
 
 
 
 
                    ทั้งสี่เริ่มแยกย้ายกันออกหาหลักฐานในบริเวณที่เกิดเหตุอย่างมุ่งมั่นตั้งใจจนรุ่งสาง
 
 
 
 
 
                    "เฮียยยยยยยยย !!!! "แล้วเสียงของมาร์กก็ดังขึ้นมาจากอีกฝากนึงของป่า ไม่นานนักเจ้าตัวก็วิ่งเ็นกระตายตื่นตูมมาหาจิ๊กโก๋
 
 
 
 
 
                    "อะไรของมึงวะไอ้มาร์ก " 
 
 
 
 
 
 
                    "ลุงดำลุงดำ  ลุงดำถูกฆ่าตายแล้ว " มาร์กน้ำตาคลอ ตัวสั่นทอนไปด้วยความตกใจ เสียงเขาสั่นคลอไปหมดจนแทบจะจับใจความไม่ได้ 
 
 
 
 
                    ทั้งสี่คนวิ่งกรู่กลับไปทางที่มาร์กวิ่งมา และเจอกับศพของลุงดำในสภาพที่ไม่ต่างจากศพของท่านอิทธิเท่าไหร่นัก 
 
 
 
 
 
                    "เห้ยย ทำไมมันโหดร้ายอย่างนี้วะ " ทั้งสี่ตกอยู่ในอาการช็อคกับสิ่งที่เห็น 
 
 
 
 
 
                    "ไอ้เม่นโทรหาผู้กองดิ " จิ๊กโก๋ยื่นจ้องมองสบลุงดำที่นอนหงายมีครอบเลือดเต็มตัว ก่อนจะลูบหน้าล้างตาตัวเอง แล้วหันหลังให้กับศพ
 
 
 
 
 
                    ไม่นานนัก ผู้กองเท่ก็มายังที่เกิดเหตุพร้อมกับหมวดเดชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย
 
 
 
 
 
 
                    "ผมกำลังตามหาเค้าอยู่พอดี เพื่อจะได้เอาข้อมูลการตายของท่านอิทธิจากเค้าได้บ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอศพเค้าแบบนี้ " ผู้กองเท่หนักใจ
 
 
 
 
 
                    " ยากแล้วหละฮะผู้กอง มันเก็บหลักฐานไปไม่เหลือเลย " จิ๊กโก๋ก็เช่นกัน
 
 
 
 
 
                    " ใช่ มันเป็นคดีที่ซับซ้อนจริงๆ บอกตรงๆเลย ผมยังหาสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้ไม่ได้เลย จะว่าชิงทรัพย์ปล้นทรัพท์ก็ไม่ใช่ จะขัดผลประดยชน์กับใคร ท่านก็ไม่เคย" ผู้กองพูด
 
 
 
 
 
                    " แต่บางครั้งเราอาจจะไม่รู้เรื่องของท่านทั้งหมดก็ได้นะฮะ ท่านอาจจะไปขัดแย้งกับใคร โดยที่ไม่ได้บอกให้ใครรู้ แม้กระทั้งคุณนายและพวกเรา " จิ๊กโก๋ตั้งข้อสงสัย ผู้กองพยักหน้าเห็นด้วย 
 
 
 
 
 
                    "แล้วถ้าคนใกล้ตัวไม่รู้เรื่องนี้ แล้วใครหละที่รู้ " ผู้กองตั้งคำถาม
 
 
 
 
 
                    " นั่นแหละฮะ เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องช่วยกันสืบ " จิ๊กโก๋พูด 
 
 
 
 
 
                    " อื้ม " ผู้กองหนักใจ
 
 
 
 
 
                    " ผมจะช่วยผู้กองอีกแรงนะฮะ " จิ๊กโก๋อาสา 
 
 
 
 
 
                    " ขอบใจมาก ช่วยกันหลายๆฝ่าย จะได้หาตัวคนร้ายเร็วขึ้น " ผู้กองเท่พูด 
 
 
 
 
 
 
                    ศพของท่านอิธิเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลมาที่วัดในสลัม บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีคนมาเคารพศพของท่านอิทธิจำนวนมาก ทั้งพนักงานในบริษัท พ่องเพื่อน และเพื่อนในวงการธุรกิจ รวมมึงผู้คนในสลัมทุกบ้านเพื่อน ต่างมาช่วยงานกันอย่างเต็มที่ 
 
 
 
 
 
                    " ผมขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับคุณนาย " พวงหรีดจากเพื่อนนักธุรกิจถูกยื่นให้กับอามาริน
 
 
 
 
                    " ขอบคุณมากนะคะ เชิญข้างในคะ " อามารินเดินนำแขกสำคัญเข้าไปในงาน 
 
 
 
 
 
                    " แก้ว " เสียงแผ่วๆของผู้ชายหน้าตาดีคนนั่งดังขึ้นมา ก่อนที่เขาจะปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าของเธอ 
 
 
 
 
 
                    " ตะ วัน " เธอเสียงสั่นคลอเมื่อได้เห็นใบหน้าของหนุ่มคนนั้น น้ำตาเธอนองตาและไหลรินออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ หญิงสาวโผล่เข้ากอดชายตรงหน้าไว้แน่น ร่างกายเธอสั่นทอนในอ้อมกอดของเขา
 
 
 
 
                    " ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร " มือหนาลูบหลังของคนในอ้อมกอดเบาๆอย่างทะนุถนอม เธอคลายกอดออกอย่างช้าๆแล้วมองหน้าชายหนุ่มทั้งน้ำตา
 
 
 
 
 
                    " ไม่รู้ใครทำกับป๋าแบบนี้  ไม่มีป๋าแล้วแก้วไม่รู้จะอยู่ยังไง "เธอพูดทั้งน้ำตาก่อนจะโผล่เข้ากอดเขาอีกครั้ง
 
 
 
 
 
                    " แก้วยังมีตะวันอยู่นะ ยังไงตะวันก็จะอยู่เคียงข้างแก้วเสมอ " ตะวันโอบกอดแก้วไว้แน่นหมายจะใหกำลังใจ 
 
 
 
 
 
                    " โห้ยยยย จะกอดอะไรนักหนาา นี่มันในวัดนะคุณหนู ทำอะไรเกรงใจพระท่านบ้าง " และหนุ่มหน้าหล่ออมไม้จิ๋มฟันคนเดิมที่แอบมองทั้งคู่อยู่พักใหญ่ๆก็แสดงตัวออกมา พร้อมกันสมุนอีกสามคน 
 
 
 
 
 
                    " มันเรื่องอะไรของนายฮะ ไอ้จิ๊กโก๋ " แก้วมองหน้าเอาเรื่อง
 
 
 
 
 
                    " ก็หัดเกรงใจสถานที่บ้างสิฮะ ถ้าจะกอดกันกลมขนาดนี้ ก็กลับบ้านไปซะจะดีกว่า " จิ๊กโก๋เองก็ยังไม่ลดละ
 
 
 
 
 
                    "นี่มึงเป็นอะไรมากหรือเปล่า มาพูดจาหาเรื่องแก้วทำไม เค้ากำลังเศร้าอยู่นะ " ตะวันออกโรงปกป้องแก้ว 
 
 
 
 
 
                     " โห้ยยย นิคุณ มันคนละเรื่องกันครับ เศร้าก็ส่วนเศร้า มีกาละเทศะก็อีกเรื่องนึงอย่าเอามาปนกันครับ ถ้าเศร้าแต่ทำอะไรไม่รู้จักกาละเทศะ ก็ควรได้รับคำตำหนิ "จิ๊กโก๋พูด 
 
 
 
 
 
                    " อะไรกันโทโมะ มีอะไรหรือเปล่า ฮะ ตะวัน " อามารินที่อยู่ในงานเมื่อเห็นท่าไม่ดีเลยเดินออกมาห้าม
 
 
 
 
 
                    " ก็ไอ้จิ๊กโก๋นี่สิ ชอบมาหาเรื่องแก้ว "แก้วฟ้อง
 
 
 
 
                    " ลูกแก้วว เค้าชื่อโทโมะ ไม่ได้ชื่อจิ๊กโก๋ 'อามารินมองค้อน
 
 
 
 
                    " ก็หนูจะเรียกมันว่าไอ้จิ๊กโก๋ " แก้วไม่ยอม 
 
 
 
 
 
                    "งั้นผมจะเรียกคุณหนูว่าไอ้ขี้วีนนนนน " จิ๊กโก๋ทำหน้าทำตาล้อเลียนใส่แก้ว จนแก้วเริ่มจะปี๊ดแตก
 
 
 
 
                    " อ้ายยย ! ไอ้จิ๊กโก๋!!! " แก้วโวยวายเสียงดังจนอามารินต้องลากแยกออกจากกัน
 
 
 
 
                    " แหมะๆๆ ไอ้จิ๊กโก๋ กะไอ้ขี้วีนน  มุ้งมิ้งหวะเฮีย 5555555 " ม่อนเม่นและมาร์ก แซวลูกพี่  จิ๊กโก๋อมยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินตามอามารินเข้าไปในงาน 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา