None

10.0

เขียนโดย katem

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.29 น.

  10 ตอน
  2 วิจารณ์
  12.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 21.32 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

-----------------------------------------------------

นั่งนิ่งคิดเรื่องที่พี่สาวพูด แอร์ในรถเย็นฉ่ำแต่ทำไมร่างบางมีเม็ดเหงื่อผุดเต็มใบหน้าหวาน สายตามทอดนิ่งมองทางด้านข้าง คิดตรึกตรองทุกคำของพี่สาว ใช่จะรังเกียจเดียดฉันท์คนที่รังแก ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ต้องคิดมาก แต่ตอนนี้ไม่ได้ในเมื่อเธอมีเค้าอีกคน ก็รู้อยู่ว่าเรื่องคราวนี้มันร้ายแรงแต่จะให้บอกพี่ชายคนสนิทตรงๆ ก็ไม่ได้ในเมื่อเค้าไม่ได้ทำอะไรผิด ยังไงเอาวันนี้ให้ผ่านไปได้ก่อนแล้วกัน มือเรียวกดหมายเลขที่โทรหา แล้วก็ต้องผิดหวัง เมื่อเค้าปิดเครื่อง นั่งก้มหน้านิ่งใช้ความคิดกับตัวเอง รอ ... เวลาเผชิญหน้า

-----------------------------------------------------

รถคันใหญ่สีขาวจอดสนิทที่จอดรถของบริษัทตอนนี้ก็เกือบ 1 ทุ่มแล้ว หันมองหน้าสาวด้านข้าง ก่อนจะกดหมายเลขโทรศัพท์ของคนด้านใน

“กิ่งถึงไหนแล้ว” ไม่ทันได้ทักทาย ปลายสายก็ถามเสียงร้อนรน

“อยู่หน้าบริษัท กำลังจะเข้าไป ด้านนายเป็นไงบ้าง”

“อย่าเพิ่งเข้ามาตอนนี้ไอ้โมะมันนั่งรออยู่ในห้องแต่งตัว ไม่ยอมออกมาข้างนอกเดี๋ยวเคนจะไปตามป๊อปมาช่วยอีกแรง”

“เดี๋ยวนายเคนจิ อย่าบอกนะว่าป๊อปรู้เรื่องแล้ว”

“ยังครับ แต่จะให้มาช่วยลากมันออกไปไง เอาเป็นว่าอีก 10 นาทีกิ่งกับน้องค่อยเข้ามาแล้วกัน”

“เอางั้นก็ได้ แล้วตอนนี้คนมาเยอะรึยัง ยัยแก้วของฉันจะสายไหม”

“มาเยอะแล้ว เฟย์ฟางก็มาแล้ว แต่อย่าห่วงเรื่องสายเลย ห่วงเรื่องอายดีกว่าเอาตามนี้นะ” บอกแค่นั้นก่อนชิงวางสาย เอาว่ะยังไงต้องหาตัวช่วยก่อน.....ป๊อปปี้

----------------------------------------------------

“อีก 10 นาทีเราค่อยเข้าไปกันนะ”

“ทำไรเหรอ มีอะไรรึป่าว”

“โทโมะอยู่ในห้องแต่งตัว เจ๊ยังไม่อยากให้เจอกัน” บอกเสียงเรียบก่อนจะเตรียมสัมภาระสำหรับวันนี้ ไม่รู้ทีมงานเตรียมอะไรไว้ให้น้องสาวบ้างเพราะฉะนั้นเตรียมพร้อมไว้เลยดีกว่า แต่ยังไม่ทันที่จะได้เก็บอะไรมากเสียงโทรศัพท์น้องสาวก็ดังลั่น หันมองเบอร์แล้วโล่งใจ เพื่อนสาวตัวแสบโทรมา

“ฮัลโหล ว่าไงฟาง”

“แก้วถึงไหนแล้วเนี๊ยะ งานจะเริ่มแล้วนะไม่กลัวเฮียด่าเหรอ”

“อยู่หน้าบริษัทนี่แหละ กำลังจะเข้าไป”

“งั้นรีบเข้ามาเลยเร็วๆนะเดี๋ยวไม่ทัน เราแสดงต่อเคโอจ้า อ่ออีกอย่าง วันนี้โทโมะน่ากลัวมากอ่ะ”

“แล้วฟางบอกแก้วทำไม” ได้ยินเสียงเพื่อนสาวบอกแล้วหวั่นใจ แต่ก็ผืนใจถามหยั่งเชิง

“ไม่มีอะไรหรอก เผื่อแก้วเห็นแล้วจะอึ้งอ่ะ แค่เค้าก็อึ้งกันทั้งงานแล้ว ขนาดเขื่อนยังไม่กล้าเล่นด้วยเลย รีบเข้ามานะ ฟางรออยู่ในห้องแต่งตัว” เสียงเจื้อยแจ่วบอกอารมณ์ดี แต่มันช่างแตกต่างกับคนได้ยิน หันมองหน้าพี่สาวอีกครั้งก่อนจะคว้าสัมภาระลงไป

“แก้ว เดี๋ยวเจ๊บอกอีก 10 นาทีไง”

“ไม่ทันแล้วเจ๊ เฮียจะลงมาแล้วช่างเถอะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด งานสำคัญกว่าแล้วอีกอย่างแก้วไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”

“เอางั้นก็ได้ มาเจ๊พาเข้าไป”

สองพี่น้องเดินจูงมือกันเข้าไปยังสถานที่จัดงาน ยังไม่ทันได้ทักทายใครก็ต้องถูกจับแยก น้องสาวโดนดึงไปห้องแต่งตัวโดยทีมสตาฟของงาน มันก็สมควรในเมื่อสายขนาดนี้ สายตาคมสอดส่องมองหาคนสำคัญ ก่อนต้องผงะกับสายตาเหยี่ยวภายใต้แว่นหนาสีดำยืนกอดอกจ้องตั้งแต่เดินเข้ามา พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนมุมปาก อยากจะเข้าไปด่าแต่ก็ทำได้แค่มองในเมื่อคนเป็นพี่ขอร้องไว้แล้วอีกอย่างก็ไม่ได้อยากสร้างปัญหาให้น้องสาวเพราะแค่นี้ก็มากพออยู่แล้ว

“กิ่ง มานานแล้วเหรอ น้องแก้วเข้าไปแล้วสิ ..... บอกว่าอีก 10 นาทีค่อยเข้ามารีบเข้ามาทำไม” เห็นสายตาคนทั้งคู่แล้วทนไม่ไหว แก้สถานการณ์ร้องทักเสียงดังในประโยคแรก ก่อนจะเดินประชิดตัวกระซิบถามรอดไรฟัน ยัยกิ่งตัวแสบเตือนอะไรไม่เคยเชื่อ

“มาสักพักแล้วอ่ะ ว่าแต่เคนจินั่งตรงไหนอ่ะเดี๋ยวกิ่งไปนั่งด้วย แก้วแสดงเสร็จจะได้พากลับเลยเห็นน้องบ่นปวดหัว” พูดเสียงดังหวังให้อีกคนได้ยิน

“ไปสิเดี๋ยวเคนจิพาเข้าไป” บอกเสียงเรียบก่อนจะชิงเดินนำหน้า ขืนปล่อยไว้นานได้มีสงครามประสาทย่อมๆเกิดขึ้นแน่ แต่แล้วก็เป็นไปตามคาด

“หึ หึ ได้กลับแน่แต่ไม่ใช่ที่บ้าน” เสียงปริศนาดังขัดจังหวะก่อนเจ้าของเสียงจะเดินเฉียดเข้าไปในงานทำเอาหญิงสาวโกรธตัวสั่น กำมือแน่น

“นายได้ยินที่น้องนายพูดใช่ไหม หะ” เพราะทำอะไรคนพูดไม่ได้ ความซวยจึงตกกับคนเป็นพี่ชาย

“ได้ยินเต็มสองหู บอกว่าอย่าเพิ่งเข้ามาก็ไม่เชื่อแล้วเป็นไง” บอกหัวเสียเช่นเดียวกันเมื่อสิ่งที่เกิดไม่เป็นไปตามที่คิด

“ก็มันสาย เข้าใจคำว่าสายไหม แล้วนายทำไมไม่กันไว้ .... หะ”

“ก็กำลังกันอยู่ ที่บอกว่าอีก 10 นาทีให้เข้ามาเพราะจะลากมันเข้างานอยู่นี่ไง ใครจะรู้ว่าแม่คุณเล่นลากน้องสาวเข้ามาตอนนี้ ทีนี้ทำไงมันเห็นแล้วแต่ก็ยังโชคดีอยู่ที่มันไม่เข้าไปลากตัวน้องแก้วออกมา เห้อ!.....

“พี่ๆ ครับ เถียงกันแบบนี้ไม่ทันไอ้โมะมันหรอกครับ มันเดินไปนู่นแล้ว” เสียงหนุ่มอีกคนเตือนสติให้พี่ของเพื่อนทั้งสองหยุดเถียงเพื่อหาทางแก้

“ป๊อป นายแอบฟังพวกฉันคุยกันเหรอ”

“ไม่ได้แอบ เธอเสียงดังขนาดนั้นฉันได้ยินเต็มสองหู แล้วอีกอย่างเธอเถียงกับพี่เคนไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกว่าไงจะให้ฉันช่วยไหม”

“ขอบคุณนะป๊อปช่วยพี่กับยัยกิ่งหน่อยแล้วกัน”

“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะแต่ผมก็จะช่วยเต็มที่ แต่พี่ก็น่าจะรู้นิสัยมัน ไอ้นี่เวลาดื้อ ดื้อหัวชนฝา แต่ก็เอาเถอะ ตอนนี้เข้าไปรอด้านในดีกว่า ไปได้แล้วยัยกิ่งจอมโวยวาย”

“เออ รู้แล้วน่า” จิ๊ปากก่อนจะเดินตามเข้าไปอย่างเสียไม่ได้

-------------------------------------------

นั่งรอเวลาแสดงกับอีกสองสาว ทั้งเหนื่อยทั้งกังวลแต่ไม่อยากทำให้เพื่อนไม่สบายใจสุดท้ายก็ต้องฝืนยิ้มร่าเริง แต่ตลอดเวลารับรู้ได้ถึงสายตาที่จับจ้อง ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมอง รอเวลาขึ้นแสดง วันนี้จะได้จบๆสักที และแล้วความปลอดโปร่งก็เกิดขึ้นเมื่อเคโอติคต้องขึ้นแสดง ทำให้สายตาที่จับจ้องหายไป คุยยิ้มสนุกได้เต็มที่ อย่างน้อยวันนี้ก็ยังมีเรื่องดีๆ แล้วอีกอย่างก็รู้ว่าวันนี้เค้าไม่งี่เง่าเอาแต่ใจทำให้เรื่องที่กังวลหายเป็นปลิดทิ้ง

FFK อีก 5 นาทีพร้อมโชว์นะคะ”

---------------------------------------------

ใช้เวลาร่วม ชั่วโมงกว่าการแสดงจะจบ แซวกันไปแซวกันมาบนเวทีเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย แต่ก็ต้องสะดุดกับสายตาอีกคู่ทุกครั้ง ที่นั่งมองนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบรับหรือปฏิเสธ มือหนายกน้ำสีองุ่นดื่มไปเรื่อย รวดเดียวหมดแก้ว จนเป็นที่ผิดสังเกตของชายหนุ่มที่นั่งด้านข้าง

“เห้ยโทโมะ วันนี้แกดื่มเยอะไปแล้วนะ” หันมองเพื่อนสนิทถามด้วยความเป็นห่วง ไอ้นี่มันจะรีบไปไหน

“ไม่มีอะไรป๊อป แล้วอีกอย่างนี่มันไวท์ไม่ใช่เหล้า ฉันไม่เมาง่ายๆหรอก” บอกกลับเสียงเรียบแต่ยังคงจ้องสาวบนเวทีไม่วางตา

“เออ ตามใจยังไงแกก็เพลาๆบ้างนะ ข้าขี้เกียจลากแกกลับบ้านหว่ะ” ตบบ่าเพื่อนชายปล่อยให้ดื่มตามใจ

-------------------------------------------

“ขอบคุณ ขอตัวแปบนึงนะเดี๋ยวมา” กระดกรวดเดียวหมดแก้วก่อนจะขอตัวเดินตัวปลิวไปด้านหลังเวที เล่นเอาคนด้านข้างใจหายนึกว่าจะไปดักหญิงสาวบนเวทีกลัวมีเรื่องเป็นที่สุด แต่ก็ต้องโล่งใจเมื่อเพื่อนเจ้าปัญหาเข้าไปได้สักครู่ก็เดินออมมาพร้อมสัมภาระเต็มมือ ไอ้นี่ไปเก็บของนี่เอง .... โล่งแล้วครับ

“แกจะรีบเก็บของไปไหนวะ รีบกลับเหรอ” เห็นเดินดิ่งมานั่ง ก็ร้องถาม งงครับปกติสัมภาระไอ้โทโมะมันไม่เยอะขนาดนี้

“เปล่าไม่ได้รีบ” ตอนหน้านิ่ง ก่อนจะนั่งนิ่งมองคนด้านบน ยกแก้วน้ำสีองุ่นขึ้นดื่มเหมือนเดิม

“เออ ถามคำตอบคำ ... เห้ยขยับไปหน่อยฟางลงเวทีมาแล้ว” บอกหน่ายๆ ก่อนจะจัดที่นั่งให้แฟนสาวที่แสดงเสร็จ แน่แหละนานๆจะได้ทำอะไรโดยไม่ต้องปิดบังก็ขอหน่อยแล้วกัน ในเมื่อวันนี้มันงานเลี้ยงภายในนี่ครับ

สองสาวเดินลงเวทีมาหาแฟนหนุ่ม ก่อนที่อีกหนึ่งสาวจะขอตัวแยกไป ไม่ใช่ว่าอยากจะหลบหน้าใคร แต่ไอ้กางเกงสั้นๆ แบบนี้ไม่เคยใส่ เดินก้าวยาวหลบเข้าไปในห้องแต่งตัวไม่กลัวว่าจะมีใครอีกคนตามมา ในเมื่อคนเยอะขนาดนี้เค้าคงไม่กล้า แล้วอีกอย่างดื่นมากขนาดนั้นป่านนี้คงเมาไม่เป็นท่า เดินเข้ามาในห้องก็ต้องงงในเมื่อสัมภาระเสื้อผ้าชุดเก่งที่ใส่มาของเธอหายหมดสิ้น ไม่เหลือแม้กระทั่งรองเท้า เดินดิ่งหาทีมสตาฟ ก่อนได้รับคำตอบสุดอึ้ง

“โทโมะเอาไปแล้วนี่คะเห็นบอกหนูแก้วฝากให้มาเอา”

“เอาไปหมดเลยเหรอคะ”

“ใช่คะ เห็นหอบไปหมดเลย”

“รองเท้าด้วยเหรอคะ”

“อันนี้พี่ก็ไม่ทราบคะ ไม่เห็นนะ หนูแก้วลองไปถามโทโมะด้านหน้าดีกว่าคะ” สิ้นเสียงสตาฟทำเอาคิ้วบางขมวด จะโทรหาพี่สาวก็ไม่ได้ในเมื่อโทรศัพท์เธออยู่กับพี่สาว จะไปหาคนเอาแต่ใจก็กลัวเกินกว่าจะกล้าไปคนเดียว แต่ที่ห่วงที่สุดเห็นจะเป็นรองเท้าคู่เก่งแสนรักที่ใส่อยู่ประจำและหาซื้อที่ไหนไม่ได้อีกแล้วเรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง แต่ทำสำคัญกว่าคือคุณค่าทางจิตใจในเมื่อมารดาเป็นคนที่ซื้อให้ พะวงทั้งคนเอาแต่ใจแต่ของรักของหวงก็สำคัญ ตัดสินใจเดินหน้านิ่งเข้าหาคู่กรณี

---------------------------------

ชายหนุ่มนั่งมองสาวหน้าหวานที่กำลังเดินเข้ามาหาไม่ละสายตา อยากรู้ว่าเธอจะว่าอย่างไง ก่อนกระตุกยิ้มมุมปาก เล่นเอาคนรอบข้างอ้าปากค้าง โดยเฉพาะคนเป็นพี่ของคนทั้งสอง อยากจะลุกห้ามแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งมองถ้าเกิดอะไรรุนแรงมีหวังความแตกแน่ๆ

“.........” เลือกที่จะเงียบไม่ทักร่างบางสูงโปร่งที่เดินมาหยุดตรงหน้า ก่อนจะถอดแว่นมองสาวหน้าหวาน กระตุกข้อมือเล็กทีเดียว ร่างสูงโปร่งตรงหน้าก็ล้มลงไปกองที่ตัก มือแกร่งโอบกอดรอบเอวบางแน่น เรียกเสียงฮือฮาลั่นงาน แต่ที่ไม่สนุกด้วยเห็นจะเป็นพี่สาวของหญิงสาวผู้ถูกกระทำ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอเจ้าพี่ชายของหนุ่มผู้กระทำกระตุกข้อมือไว้ พร้อมส่งสายตาดุกระซิบบอกรอดไรฟันห้ามไว้เช่นกัน

 “อย่าวู่วาม ดูเฉยๆกิ่ง ครั้งนี้แก้วเป็นคนเลือกน้องเค้าต้องมีแผนอะไรดีๆ อย่าทำเสียเรื่อง”

-----------------------------

สาวที่อยู่บนตักไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืน หรือตอบรับ หันมองหน้าคนเอาแต่ใจนิ่ง

“เอาเสื้อผ้ามาหมดเลยใช่ไหม” เอ่ยถามคนที่กอดรัดเสียงเรียบ คิ้วบางขมวดเป็นปม

“ใช่ ทำไมผัวเก็บเสื้อผ้าให้เมียมันผิดตรงไหน ร้ายมากนะที่กล้าหนีเป็นรอบที่สองแก้วใจ” ส่งสายตาดุดันก่อนจะกระซิบเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่นข้างใบหู จนจมูกโด่งสัมผัสแก้มนวลโดยไม่ตั้งใจ วางคางเกินบนไหล่เนียนก่อนจะกอดแน่นกว่าเดิม

“เอารองเท้าแก้วมาหรือป่าว” ถามเสียงเรียบไม่มีแม้แต่ปฏิกิริยากลัวเกรงอาการคนเอาแต่ใจ ใบหน้าหวานบงบอกอาการโกรธ จับจ้องใบหน้าหล่อของคนที่โอบกอด

เห็นใบหน้าหวานบูดบึ้งเล่นเอาอารมณ์โกรธหายเป็นปลิดทิ้ง กลัวอย่างเดียวกลัวคนบนตักจะโกรธมากกว่า

“พี่ไม่ได้เอามาครับเอาแต่เสื้อผ้ากับกระเป๋าแก้วมา แล้ววันนี้แก้วไม่ได้ใส่คู่นี้มาเหรอคะ” บอกน้ำเสียงนุ่นนวลผิดไปจากเมื่อครู่ลิบลับเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน หน้านิ่วคิ้วขมวดหายไปจากใบหน้าหล่อจนหมดสิ้นเหลือเพียงแววตาหวานส่งผ่านมาให้สาวบนตัก …. ผิดคาดนอกจากคนสวยจะไม่ขัดขืนแล้วยังทำให้ผมกลัวกับอาการของที่รักได้อีก ในเมื่อรองเท้าคู่โปรดของที่รักผมไม่ได้ถือมาเพราะฉะนั้นแสดงว่า...........หาย ซวยแล้วครับ

“ไม่ได้ใส่ คู่นี้ทีมงานจัดให้ ….ปล่อยก่อน แก้วจะไปหารองเท้า” ได้ยินเสียงคนเอาแต่ใจบอกถึงกับหน้าเสีย เมื่อรองเท้าคู่เก่งแสนรักหาย ค่อยๆเกาะมือเหนียวออกช้าๆ แต่ก็ไม่วายโดนคนเอาแต่ใจดึงไว้อีกจนได้

“พี่ไปช่วยหานะคะ”

“........” ไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าตอบรับ อย่างน้อยหา 2 คนก็ยังดีกว่าหาคนเดียว ลุกเดินลิ่วนำหน้า ก่อนที่ร่างสูงจะรีบลุกเดินตามโอบเอวบางแสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าทุกคน

“ไอ้โมะแกจะพาแก้วไปไหน เฮ้ยคู่จิ้นจะกลายเป็นคู่ Real แล้วหรือไงวะ” เสียงหนุ่มอารมณ์ดีแซวลั่น ทั้งอึ้งทั้งงงกับภาพที่เห็นเมื่อคู่ มันทำยังกับคนรักกันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเพื่อนสาวยังมีพี่ชายอีกคน แต่ยังไม่ได้ต้องการคำตอบตอนนี้ ขอแค่แซวให้หน้านิ่งๆของไอ้เพื่อนตัวแสบเปื้อนยิ้มบ้างก็พอ

-------------------------------------------

เลือกที่จะไม่ตอบ ก่อนจะหันหน้าส่งสายตากวนๆ พร้อมรอยยิ้มกริ่มกลับมาให้ ชี้หน้าคาดโทษเพื่อนตัวแสบ

“ฉันว่ามันต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นแน่ ฉันจะตามไปดู” เสียงหญิงสาวกระซิบบอกชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ยัยแก้วจะเป็นอย่างไงบ้านฉันจะตามไปดู

“ไม่ต้องไป รอดูอยู่เฉยๆไม่ได้รึไง” เสียงแกร่งกระซิบรอดไรฟัน บอกคนด้านข้างก่อนจะกระตุกข้อมือเป็นเชิงบอกว่า “ห้ามไป” ส่งผลให้สาวด้านข้างส่งสายตาดุค้อนขวับ ก่อนจะกระตุกข้อมือจากการเกาะกุม นั่งกอดอกเชิดหน้าหนีไปอีกทาง

“ถ้าน้องนายทำอะไรน้องฉัน นายตาย”

“เออ รู้แล้วน่าอยู่เฉยๆบ้างได้ไหม”

-------------------------------------------------------

เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว สร้างความประหลาดใจให้ทีมงานที่กำลังเก็บของ ในเมื่อศิลปินควรอยู่ข้างนอกไม่ใช่ในนี้ แต่ที่อึ้งมากกว่าเห็นจะเป็นหญิงสาวในเมื่อสภาพเปลี่ยนไปขนาดนี้

“น้องแก้ว น้องโทโมะทำไมไม่ออกไปสนุกกับเพื่อนหล่ะคะ ในนี้พวกพี่กำลังเก็บเสร็จก็จะออกไปรวมด้านนอกแล้วคะ”

“พี่เห็นรองเท้าผ้าใบคู่สีขาวรึป่าวครับ” เอ่ยถามทีมงานหน้ายิ้มๆ ยกมือลูบผมปอยๆ มืออีกข้างกอดเอวบางแน่น เห็นหน้าที่รักแล้วผมกลัวยังไงก็ไม่รู้

“ยังไม่เห็นเลยนะ รองเท้าน้องโทโมะเหรอ”

“ของแก้วครับ พวกพี่เก็บของดูทั่วแล้วใช่ไหมครับ”

“คะ ไม่เห็นจริงๆ ถึงว่าหน้าน้องแก้วบึ้งจัง ไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวถ้าพี่เจอพี่จะเก็บไว้ให้ ขอตัวก่อนนะคะ”

-------------------------------------------------------

รั้งร่างบางให้หันหน้าเข้าหาตัว กอดเอวบางหลวมๆ ดูหน้าก็รู้ว่าความรู้สึกแย่แค่ไหน

“ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวก็เจอเชื่อพี่นะ” ผมไม่อยากเห็นหน้ามุ่ยๆของที่รักเลย ให้ตายเถอะ ดูสินอกจากจะไม่ยิ้มแล้วยังเบี่ยงหน้าหนีอีก จะร้องไห้อีกแล้วครับที่รักของผม

“.......”

“ไม่ร้องนะครับ ....”

“......”

“อย่าเงียบสิครับ ออกไปด้านนอกกันดีกว่าเดี๋ยวพวกพี่เค้าเป็นห่วงนะครับ”

“ไปหาเจ๊ อยากกลับบ้าน” บอกเสียงเรียบ หน้ามุ่ยเหมือนเดิม

“กลับได้อย่างไงงานเพิ่มเริ่มเอง ไม่เอา.....ห้ามงองแงนะคะไปเดี๋ยวพี่พาไปหากิ่ง” โอบเอวบางให้เดิมตามออกไปด้านนอกซึ่งทุกคนกำลังสนุกกันเต็มที่ เดินลัดเลาะก่อนมาหยุดที่พี่สาวของที่รัก

---------------------------------------------------------

เห็นหน้าน้องสาวขอบตาแดงๆ เอาแล้วไงไอ้โทโมะ นายรังแกน้องสาวฉันอีกแล้วใช่ไหม

“แก้ว แก้วเป็นอะไรบอกเจ๊มา นายโทโมะรังแกอีกแล้วใช่ไหม” ตรงดิ่งเข้าไปกระชากน้องสาวออกจากการเกาะกุม คว้าร่างบางกอดแน่น สายตาดุส่งผ่านไปให้ชายหนุ่มคนที่ยืนด้านข้าง

“เปล่าเจ๊ แต่รองเท้าที่ม๊าซื้อให้หาย”

“หะ ... โห่เจ๊ก็นึกว่านาย .......รังแกอีก ไม่เป็นไรหรอกนะเดี๋ยวเจ๊บอกม๊า ให้ม๊าซื้อให้ใหม่”

“อยากกลับบ้านแล้ว”

“งั้นกลับก็ได้ ไปเดี๋ยวเจ๊พาไปลาเฮียแล้วกลับบ้านกัน” คว้าข้อมือน้องสาวจะเดินออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีร่างสูงเดินมาขวางหน้าแกะมือหญิงสาวออก ก่อนจะเกาะกุมข้อมือบางไว้แทน

“งองแงอีกแล้วนะจะหนีพี่ไปไหนอีก ปล่อยกิ่งให้พี่เคนจิดูแลไปก่อนนะครับ พี่เคนจิฝากยังกิ่งด้วยนะ” หันบอกร่างบางเสียงหวาน ก่อนหันบอกเสียงเข้มฝากพี่ชายให้ดูแลยัยตัวแสบ ชอบพาที่รักผมหนีเรื่อย ดึงข้อมือเล็กให้เดินตามออกมา ตอนแรกก็ดื้อจนสุดท้ายเปลี่ยนจากการจับข้อมือเป็นโอบเอวถึงจะยอม มันน่าตีนัก

“ไอ้โทโมะ ไอ้บ้าแกจะมากไปแล้วนะ แก .......” ตะโกนด่าไล่หลังเสียงดัง แต่แล้วเสียงก็ถูกกลืนหายเมื่อมือแกร่งอีกคู่ปิดปาก นี่สรุปนายจะมาช่วยฉันหรือช่วยน้องนายกันแน่

“จะเสียงดังให้คนเค้าแห่มาฟังรึไงหะ โชคดีนะที่เปิดเพลงดัง มานี่เลยมานั่นนี่ ยัยตัวแสบ” ลากร่างสูงโปร่งให้ออกมาห่างๆ ก่อนจะกดให้นั่งด้างข้าง

“นี่ สรุปนายอยู่ข้างไหนกันแน่หะ” ส่งเสียงแว้ด หน้ามุ่ยใส่หน้าหนุ่มด้านข้าง

“เลิกดุซะทีได้ไหม ก็อยู่ข้างเธอนั่นแหละ แต่กิ่งก็เห็นไม่ใช่รึไงว่าไอ้โมะมันดูแลน้องแก้วดีไม่ได้รังแก ก็ปล่อยมันไปสิหรือกิ่งจะขวางให้มันอาระวาทหะ”

“ฝากไว้ก่อนนาย ....” ไม่ทันได้ด่าก็โดนใส้กรอกยัดใส่ปาก ฝีมือชายด้านข้าง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อร่อยไหม อร่อยก็กินเยอะนะ วันนี้เคนจิจะดูแลกิ่งเอง”

เคี้ยวตุ้ยๆส่งสายตาอาฆาตแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากในเมื่อโดนคุมขนาดนี้ ฝากไว้ก่อนทั้งพี่ทั้งน้องเลย

-----------------------------------------------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา