รักเธอ never Die
-
เขียนโดย Smile_Gray
วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.36 น.
18 ตอน
14 วิจารณ์
21.92K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 02.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) ฮีโร่หรืออันธพาล
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากปาร์ตี้แสนสนุกผ่านพ้นไป ทุกคนก็ต่างแยกย้ายและใช้ชีวิตตามปกติ สำหรับคนที่ยังเรียนก็ยังคงเรียนต่อไป แต่บางคนที่เรียนจบ ก็ทำงานอย่างโทโมะที่กลับมาเมืองไทยเพื่อมาบริหารบริษัทของครอบครัว ส่วนเขื่อนก็เปิดธุรกิจเล็กของตัวเองเป็นร้านไอติม สำหรับคนที่ยังเรียนอยู่อย่าง เฟย์ แก้ว แจม แล้วก็ หวาย ก็ยังคงทำหน้าที่ตั้งใจเรียนต่อไป แต่สำหรับบางคนที่เพิ่งจะจบมาอย่างเขาคนนี้
"ป๊อป ลุกขึ้นได้แล้วลูก วันนี้ป๊อปต้องไปดูงานที่บริษัทกับคุณพ่อ" เสียงแม่ที่ขึ้นมาปลุกลูกชายตัวดี ที่ยังนอนไม่ยอมตื่น ทำให้ป๊อปปี้งัวเงีย และรู้สึกหงุดหงิดแม่นิดหน่อย
"โฮ้แม่ เดี๋ยวป๊อปไปเที่ยงๆก็ได้ ป๊อปรู้จักทางไปบริษัทคุณพ่อแล่ะหน่า ขอนอนต่ออีกแป๊ป" สิ้นเสียงชายหนุ่มก็หมอนปิดหูและคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่ม จนคนเป็นแม่จำต้องยอมเดินออกไปจากห้อง
"เฮ้อ !! ขี้เกียจชะมัด ยังไม่ทันได้รับปริญญาเลย จะรีบให้ไปดูงานทำไมเนี่ย" ป๊อปปี้ลุกขึ้นบ่นเมื่อรู้สึกตัวสงสัยจะนอนอิ่มแล้วล่ะมั่งถึงได้ยอมลุกขึ้น แต่กว่าชายหนุ่มจะลุกก็เที่ยงซะแล้ว
ป๊อปปี้อาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถไปยังบริษัทของครอบครัวซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบ้านที่ทำให้ครอบครัวของเขาเป็นใหญ่เป็นโตมีหน้ามีตาทางสังคมจนถึงปัจจุบัน
ณ.ห้างสรรพสินค้า พีทูพี กรุ๊ป จำกัดมหาชน
รถคันหรูวิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ ทันทีที่เครื่องดับสนิทป๊อปปี้ก็ก้าวลงจากรถแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
เมื่อเข้าไปในห้างพนักงานทุกคนก็ทำการต้อนรับอย่างดี พวกเธอรู้อยู่แล้วแหละว่าป๊อปปี้จะมา เพียงแต่เดาใจไม่ถูกว่าจะชายหนุ่มจะมาตอนไหน แว่นดำสนิทถูกถอดออกจากตาที่เรียบเฉย พนักงานสาวหลายคนพากันแอบมองป๊อปปี้ต่างก็หลงเสน่ห์ในความหล่อของชายหนุ่มแต่ไม่มีใครกล้าสบตาหรือมองหน้าเขาตรงๆ ทุกคนให้ความเคารพกับป๊อปปี้เหมือนที่ให้ความเคารพกับท่านประธานบริษัทก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะป๊อปปี้คือท่านประธานคนต่อไปหลังจากที่ชายหนุ่มได้รับใบปริญญาและนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป๊อปปี้ต้องมาศึกษาดูงานในช่วงนี้
"คุณป๊อปค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ ท่านประธานรออยู่" เสียงของหัวหน้าฝ่ายจัดการและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพนักงานเอ่ยทักป๊อปปี้พลางปลายตามองพนักงานสาวที่แอบมองป๊อปปี้ ทำให้พนักงานต่างก็วิ่งกันไปทำงานของตัวเอง
ป๊อปปี้ก้าวเดินตามหลังหัวหน้าฝ่ายจัดการโดยไม่สนใจพนักงานที่แอบมองเขาอยู่ เมื่อมาถึงชั้นที่ทำงานของผู้บริหารหัวหน้าฝ่ายทุกคนก็ต่างทำความเคารพ ป๊อปปี้เพียงแค่พยักหน้าเป็นการสื่อว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานบริษัท
เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เจอกับผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่านประธานจึงพยักหน้าให้กับหัวหน้าฝ่ายจัดการเป็นการสื่อว่าให้ออกไปได้
"นั่งก่อนสิตาป๊อป พ่อมีเรื่องจะคุยกับแกหลายเรื่อง" ป๊อปปี้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับพ่อของเขา
"เป็นไง ห้องทำงานสบายถูกใจแกมั้ย" ผู้เป็นพ่อเริ่มเปิดประเด็นก่อนที่คิ้วของป๊อปปี้จะขมวดเข้าหากัน
"หมายความว่าไงครับพ่อ ผมงงไปหมดแล้ว นี่พ่ออย่าบอกนะว่าจะให้ผม..." ไม่ทันที่ป๊อปปี้จะเอ่ยผู้เป็นพ่อก็พูดขึ้นมาซะก่อน
"พ่อจะให้แกเป็นประธานคนต่อไปของบริษัท พ่อเองก็แก่แล้ว แกเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนะตาป๊อป แกคือความหวังเดียวของครอบครัว" ใช่เขารู้ว่าเขาต้องมาทำงานที่บริษัทนี้แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจะต้องมาเป็นประธานบริษัท มันเร็วเกินไป เขายังไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งนี้ แต่ก็จริงในสิ่งที่พ่อเขาพูดเขาคือความหวังเดียวของครอบครัว และคือลูกชายคนเดียว !!!!
หลังจากที่ดูงานเสร็จป๊อปปี้ก็เดินออกไปหน้าห้างสรรพสินค้า แล้วบังเอิญเห็นใครบางคนแต่ก่อนที่จะสนใจใครคนนั้นอยู่ ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
"เฮ้ย !!! ระวังรถ" เอียดดดดดดดดดดดด !!!! เสียงล้อรถเบียดเข้ากับถนน ร่างสองร่างทับกันอยู่ริมฟุตบาศทำให้เป็นจุดสนใจของคนบริเวณนั้น
"น้องเดินประสาอะไร ทำไมไม่ดูรถ" ชายวัยรุ่นเปิดประตูรถออกมาแล้วชี้หน้าด่าคนที่เกือบจะโดนรถของเขาชน
"เอ่อ ขอโท.../แล้วพี่ขับรถประสาอะไรทำไมไม่ดูคน ถ้าเพื่อนผมเป็นอะไรไปพี่จะว่ายังไง" ก่อนคนที่เกือบโดนรถชนจะพูดอะไร ป๊อปปี้ก็พูดขึ้นด้วยอารมณ์โมโห ทำเอาคนข้างกายชายหนุ่มออกอาการงงทันที
"ก็เพื่อนแกผิด ไม่เห็นบ้างรึไง เดินออกมาอยากตายรึไงห๊าาา !!!" ผวั๊ะ!! สิ้นเสียงตะคอกของหนุ่มคนนั้นป๊อปปี้ก็กำมือแล้วปล่อยมัดลงบนหน้าของหนุ่มคนนั้นทันที
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกลับกลายเป็นการวางมวยกันซะงั้น แต่ไม่ใช่บนสังเวียนนะ แต่เป็นบนถนนริมฟุตบาศ ซึ่งเรียกความสนใจให้กับคนแถวนั้นเป็นอย่างดี ที่มีทั้งเสียงเชียร์และเสียงร้องห้ามดังเช่นหญิงสาวคนนี้
"ป๊อปปี้ ฉันบอกให้หยุด พอได้แล้ว หยุด ป๊อปปี้ พอแล้ว" แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งตำรวจจะมา ณ ที่เกิดเหตุทำให้ทั้งสองยอมหยุดต่อยกัน
ณ. สำนักงานตำรวจ
"อีกแล้วนะตาป๊อป นี่บันทึกมันไม่ว่างจะให้ลงชื่อแกแล้วนะ เรื่องมันเป็นยังไงว่ามา" นายตำรวจวัยกลางคนพูดกับป๊อปปี้ก่อนจะหันไปมองหน้าคู่กรณีของชายหนุ่มที่โดนอัดซะเละเลยบนใบหน้าที่ขาวเนียนของชายคนนั้นกลับเต็มไปด้วยรอยช้ำ คิ้วแตก เลือดกบมุมปาก ซึ่งต่างจากป๊อปปี้ที่แค่มีรอยช้ำที่ข้างตา แก้ม แล้วก็มุมปากเท่านั้น ดูแล้วก็ไม่ได้เยอะอะไร
"ก็ใอ่หมอเนี่ยมันขับรถเร็วแล้วจะชนเพื่อนผมแถมยังมาชี้หน้าด่าผู้หญิงอีกหน้าตัวเมียชัดๆ ครั้งนี้ ป๊อปไม่ผิดนะอา ถ้าไม่เชื่อก็ถามคนแถวนั้นก็ได้" ป๊อปปี้ที่ยังไม่วายก็กัดชายคนนั้นอีกทำให้ชายคนนั้นลุกขึ้นจะต่อยป๊อปปี้อีกรอบ แต่ตำรวจห้ามไว้ซะก่อน
"นี่ถ้าคุณไม่หยุด คุณโดนอีกข้อหานะครับ เพราะทางเราได้รับแจ้งว่าคุณขับรถเร็ว เพราะสัญญานตอนนั้นเป็นสัญญาณไฟส้ม เขาให้ลดความเร็ว ไปจ่ายค่าปรับแล้วลงบันทึกประจำวันทั้งสองคนนั้นแหละ" นายตำรวจสั่งเสร็จทั้งสองก็ลุกไปจ่ายค่าปรับพร้อมกับบันทึกประจำวันก่อนที่ป๊อปปี้จะเดินไปหาคนที่มาด้วยกับเขา
"โทษนะ ที่ให้รอนาน พอดีเคลียร์ยาวหน่อยน่ะ แล้วเธอเจ็บตรงไหนรึเปล่าเนี่ย ฟาง" ป๊อปปี้มองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้บึงตรึงจนเดาอารมณ์ได้ไม่อยาก
"เรื่องแค่นี้เอง ทำไมชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ฉันไม่ได้เป็นไรสักหน่อยขอโทษเขาก็จบนายก็ไม่ต้องมาขึ้นโรงพักนี่ด้วย" ฟางบ่นจนป๊อปปี้ที่ยืนฟังทนไม่ไหวจึงเดินออกไปจากโรงพักฟางที่เห็นดังนั้นจึงเดินตามออกไปแต่ก็ไม่วายจะเลิกบ่น
"นี่ นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย ทำไมถึงต้องใช้กำลังด้วย แค่พูดกันดีๆ ก็จบ นายนี่มัน.." พูดไม่ทันจบป๊อปปี้ก็หันขวับมาหาฟางทำเอาฟางไม่กล้าพูดต่อ
"นี่ถ้าเธอยังไม่เลิกบ่นนะ ฉันจูบเธอจริงๆด้วย แล้วที่ฉันทำไปเนี่ยเพราะฉันปกป้องเธอ ฉันไม่ชอบให้ใครมารังแกผู้หญิง แล้วอีกอย่างหมอนั่นผิดเต็มๆเลยแหละ นี่มันยังน้อยไปถ้าเธอเป็นไรไปฉันจะอัดหมอให้ตายคามือฉันนี่แหละ" นี่เขาไม่รู้ใช่มั้ยว่ากำลังพูดอะไรออกไปถึงแม้น้ำเสียงจะดูเรียบเฉย ไม่รู้ว่าเขาพูดด้วยอารมณ์ไหน แต่มันก็ทำให้คนฟังอย่างเธอคนนี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วแหละ
"นี่เธอเอารถมามั้ย ฟาง ฟาง ยัยเตี้ย !!!!" เสียงป๊อปปี้ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งหลุดจากภวังทันที
"ฮะ อะไรนะ เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าเตี้ยหรอ หนอยย ไอ่บ้าป๊อป ปากหมาไม่เปลี่ยนเลยนะ นี่แน่ะๆๆ" ฟางเอากระเป๋าฝาดป๊อปปี้แบบไม่หยั้ง
"นี่ถ้าเธอไม่หยุดฉันจูบเธอแน่ แล้วตกลงเอารถมามั้ย ถ้าไม่เอามาฉันจะไปส่ง" ป๊อปปี้จับข้อมือฟางก่อนจะทำหน้าเอาจริงเอาจังทำให้ฟางหยุดตีทันที
"ไม่ได้เอามา ให้คนขับรถมาส่ง ตอนแรกว่าจะโทรให้พี่โมะมารับอ่ะ" ฟางพูดตะกุกตะกักจนป๊อปปี้สังเกตุได้
รถคันหรูเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป
"นี่ทำไมนายถึงกลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลังแบบนี้อ่ะ" ฟางพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบมาสักพักหลังจากที่เธอและเขานั่งอยู่บนรถคันหรู
"ก็ฉันเป็นฮีโร่ไง คอยปกป้องคนอื่น เรียกร้องความยุติธรรม ไม่ดีรึไง" ป๊อปปี้ที่ยังคงมองทางข้างหน้าพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนชายหนุ่มก็ไม่เคยเปลี่ยนน้ำเสียงของตัวเองเลยเว้นแต่อารมณ์โกรธตอนที่มีเรื่องกับชายคนนั้น
"ฮีโร่หรืออันธพาล กันแน่ จากที่ฟังคุณอาตำรวจเขาบอกเนี่ยนายคงชอบมีเรื่องบ่อยสินะ" ก็จริงนะเขาเป็นคนปกป้องเธอ แถมยังเรียกร้องความยุติธรรมให้เธออีก แต่บางที 'ฮีโร่กับอันธพาล' มันก็ใกล้กันนิดเดียวเองเนอะ
"ป๊อป ลุกขึ้นได้แล้วลูก วันนี้ป๊อปต้องไปดูงานที่บริษัทกับคุณพ่อ" เสียงแม่ที่ขึ้นมาปลุกลูกชายตัวดี ที่ยังนอนไม่ยอมตื่น ทำให้ป๊อปปี้งัวเงีย และรู้สึกหงุดหงิดแม่นิดหน่อย
"โฮ้แม่ เดี๋ยวป๊อปไปเที่ยงๆก็ได้ ป๊อปรู้จักทางไปบริษัทคุณพ่อแล่ะหน่า ขอนอนต่ออีกแป๊ป" สิ้นเสียงชายหนุ่มก็หมอนปิดหูและคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่ม จนคนเป็นแม่จำต้องยอมเดินออกไปจากห้อง
"เฮ้อ !! ขี้เกียจชะมัด ยังไม่ทันได้รับปริญญาเลย จะรีบให้ไปดูงานทำไมเนี่ย" ป๊อปปี้ลุกขึ้นบ่นเมื่อรู้สึกตัวสงสัยจะนอนอิ่มแล้วล่ะมั่งถึงได้ยอมลุกขึ้น แต่กว่าชายหนุ่มจะลุกก็เที่ยงซะแล้ว
ป๊อปปี้อาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถไปยังบริษัทของครอบครัวซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบ้านที่ทำให้ครอบครัวของเขาเป็นใหญ่เป็นโตมีหน้ามีตาทางสังคมจนถึงปัจจุบัน
ณ.ห้างสรรพสินค้า พีทูพี กรุ๊ป จำกัดมหาชน
รถคันหรูวิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ ทันทีที่เครื่องดับสนิทป๊อปปี้ก็ก้าวลงจากรถแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
เมื่อเข้าไปในห้างพนักงานทุกคนก็ทำการต้อนรับอย่างดี พวกเธอรู้อยู่แล้วแหละว่าป๊อปปี้จะมา เพียงแต่เดาใจไม่ถูกว่าจะชายหนุ่มจะมาตอนไหน แว่นดำสนิทถูกถอดออกจากตาที่เรียบเฉย พนักงานสาวหลายคนพากันแอบมองป๊อปปี้ต่างก็หลงเสน่ห์ในความหล่อของชายหนุ่มแต่ไม่มีใครกล้าสบตาหรือมองหน้าเขาตรงๆ ทุกคนให้ความเคารพกับป๊อปปี้เหมือนที่ให้ความเคารพกับท่านประธานบริษัทก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะป๊อปปี้คือท่านประธานคนต่อไปหลังจากที่ชายหนุ่มได้รับใบปริญญาและนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป๊อปปี้ต้องมาศึกษาดูงานในช่วงนี้
"คุณป๊อปค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ ท่านประธานรออยู่" เสียงของหัวหน้าฝ่ายจัดการและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพนักงานเอ่ยทักป๊อปปี้พลางปลายตามองพนักงานสาวที่แอบมองป๊อปปี้ ทำให้พนักงานต่างก็วิ่งกันไปทำงานของตัวเอง
ป๊อปปี้ก้าวเดินตามหลังหัวหน้าฝ่ายจัดการโดยไม่สนใจพนักงานที่แอบมองเขาอยู่ เมื่อมาถึงชั้นที่ทำงานของผู้บริหารหัวหน้าฝ่ายทุกคนก็ต่างทำความเคารพ ป๊อปปี้เพียงแค่พยักหน้าเป็นการสื่อว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานบริษัท
เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เจอกับผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่านประธานจึงพยักหน้าให้กับหัวหน้าฝ่ายจัดการเป็นการสื่อว่าให้ออกไปได้
"นั่งก่อนสิตาป๊อป พ่อมีเรื่องจะคุยกับแกหลายเรื่อง" ป๊อปปี้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับพ่อของเขา
"เป็นไง ห้องทำงานสบายถูกใจแกมั้ย" ผู้เป็นพ่อเริ่มเปิดประเด็นก่อนที่คิ้วของป๊อปปี้จะขมวดเข้าหากัน
"หมายความว่าไงครับพ่อ ผมงงไปหมดแล้ว นี่พ่ออย่าบอกนะว่าจะให้ผม..." ไม่ทันที่ป๊อปปี้จะเอ่ยผู้เป็นพ่อก็พูดขึ้นมาซะก่อน
"พ่อจะให้แกเป็นประธานคนต่อไปของบริษัท พ่อเองก็แก่แล้ว แกเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนะตาป๊อป แกคือความหวังเดียวของครอบครัว" ใช่เขารู้ว่าเขาต้องมาทำงานที่บริษัทนี้แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจะต้องมาเป็นประธานบริษัท มันเร็วเกินไป เขายังไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งนี้ แต่ก็จริงในสิ่งที่พ่อเขาพูดเขาคือความหวังเดียวของครอบครัว และคือลูกชายคนเดียว !!!!
หลังจากที่ดูงานเสร็จป๊อปปี้ก็เดินออกไปหน้าห้างสรรพสินค้า แล้วบังเอิญเห็นใครบางคนแต่ก่อนที่จะสนใจใครคนนั้นอยู่ ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
"เฮ้ย !!! ระวังรถ" เอียดดดดดดดดดดดด !!!! เสียงล้อรถเบียดเข้ากับถนน ร่างสองร่างทับกันอยู่ริมฟุตบาศทำให้เป็นจุดสนใจของคนบริเวณนั้น
"น้องเดินประสาอะไร ทำไมไม่ดูรถ" ชายวัยรุ่นเปิดประตูรถออกมาแล้วชี้หน้าด่าคนที่เกือบจะโดนรถของเขาชน
"เอ่อ ขอโท.../แล้วพี่ขับรถประสาอะไรทำไมไม่ดูคน ถ้าเพื่อนผมเป็นอะไรไปพี่จะว่ายังไง" ก่อนคนที่เกือบโดนรถชนจะพูดอะไร ป๊อปปี้ก็พูดขึ้นด้วยอารมณ์โมโห ทำเอาคนข้างกายชายหนุ่มออกอาการงงทันที
"ก็เพื่อนแกผิด ไม่เห็นบ้างรึไง เดินออกมาอยากตายรึไงห๊าาา !!!" ผวั๊ะ!! สิ้นเสียงตะคอกของหนุ่มคนนั้นป๊อปปี้ก็กำมือแล้วปล่อยมัดลงบนหน้าของหนุ่มคนนั้นทันที
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกลับกลายเป็นการวางมวยกันซะงั้น แต่ไม่ใช่บนสังเวียนนะ แต่เป็นบนถนนริมฟุตบาศ ซึ่งเรียกความสนใจให้กับคนแถวนั้นเป็นอย่างดี ที่มีทั้งเสียงเชียร์และเสียงร้องห้ามดังเช่นหญิงสาวคนนี้
"ป๊อปปี้ ฉันบอกให้หยุด พอได้แล้ว หยุด ป๊อปปี้ พอแล้ว" แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งตำรวจจะมา ณ ที่เกิดเหตุทำให้ทั้งสองยอมหยุดต่อยกัน
ณ. สำนักงานตำรวจ
"อีกแล้วนะตาป๊อป นี่บันทึกมันไม่ว่างจะให้ลงชื่อแกแล้วนะ เรื่องมันเป็นยังไงว่ามา" นายตำรวจวัยกลางคนพูดกับป๊อปปี้ก่อนจะหันไปมองหน้าคู่กรณีของชายหนุ่มที่โดนอัดซะเละเลยบนใบหน้าที่ขาวเนียนของชายคนนั้นกลับเต็มไปด้วยรอยช้ำ คิ้วแตก เลือดกบมุมปาก ซึ่งต่างจากป๊อปปี้ที่แค่มีรอยช้ำที่ข้างตา แก้ม แล้วก็มุมปากเท่านั้น ดูแล้วก็ไม่ได้เยอะอะไร
"ก็ใอ่หมอเนี่ยมันขับรถเร็วแล้วจะชนเพื่อนผมแถมยังมาชี้หน้าด่าผู้หญิงอีกหน้าตัวเมียชัดๆ ครั้งนี้ ป๊อปไม่ผิดนะอา ถ้าไม่เชื่อก็ถามคนแถวนั้นก็ได้" ป๊อปปี้ที่ยังไม่วายก็กัดชายคนนั้นอีกทำให้ชายคนนั้นลุกขึ้นจะต่อยป๊อปปี้อีกรอบ แต่ตำรวจห้ามไว้ซะก่อน
"นี่ถ้าคุณไม่หยุด คุณโดนอีกข้อหานะครับ เพราะทางเราได้รับแจ้งว่าคุณขับรถเร็ว เพราะสัญญานตอนนั้นเป็นสัญญาณไฟส้ม เขาให้ลดความเร็ว ไปจ่ายค่าปรับแล้วลงบันทึกประจำวันทั้งสองคนนั้นแหละ" นายตำรวจสั่งเสร็จทั้งสองก็ลุกไปจ่ายค่าปรับพร้อมกับบันทึกประจำวันก่อนที่ป๊อปปี้จะเดินไปหาคนที่มาด้วยกับเขา
"โทษนะ ที่ให้รอนาน พอดีเคลียร์ยาวหน่อยน่ะ แล้วเธอเจ็บตรงไหนรึเปล่าเนี่ย ฟาง" ป๊อปปี้มองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้บึงตรึงจนเดาอารมณ์ได้ไม่อยาก
"เรื่องแค่นี้เอง ทำไมชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ฉันไม่ได้เป็นไรสักหน่อยขอโทษเขาก็จบนายก็ไม่ต้องมาขึ้นโรงพักนี่ด้วย" ฟางบ่นจนป๊อปปี้ที่ยืนฟังทนไม่ไหวจึงเดินออกไปจากโรงพักฟางที่เห็นดังนั้นจึงเดินตามออกไปแต่ก็ไม่วายจะเลิกบ่น
"นี่ นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย ทำไมถึงต้องใช้กำลังด้วย แค่พูดกันดีๆ ก็จบ นายนี่มัน.." พูดไม่ทันจบป๊อปปี้ก็หันขวับมาหาฟางทำเอาฟางไม่กล้าพูดต่อ
"นี่ถ้าเธอยังไม่เลิกบ่นนะ ฉันจูบเธอจริงๆด้วย แล้วที่ฉันทำไปเนี่ยเพราะฉันปกป้องเธอ ฉันไม่ชอบให้ใครมารังแกผู้หญิง แล้วอีกอย่างหมอนั่นผิดเต็มๆเลยแหละ นี่มันยังน้อยไปถ้าเธอเป็นไรไปฉันจะอัดหมอให้ตายคามือฉันนี่แหละ" นี่เขาไม่รู้ใช่มั้ยว่ากำลังพูดอะไรออกไปถึงแม้น้ำเสียงจะดูเรียบเฉย ไม่รู้ว่าเขาพูดด้วยอารมณ์ไหน แต่มันก็ทำให้คนฟังอย่างเธอคนนี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วแหละ
"นี่เธอเอารถมามั้ย ฟาง ฟาง ยัยเตี้ย !!!!" เสียงป๊อปปี้ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งหลุดจากภวังทันที
"ฮะ อะไรนะ เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าเตี้ยหรอ หนอยย ไอ่บ้าป๊อป ปากหมาไม่เปลี่ยนเลยนะ นี่แน่ะๆๆ" ฟางเอากระเป๋าฝาดป๊อปปี้แบบไม่หยั้ง
"นี่ถ้าเธอไม่หยุดฉันจูบเธอแน่ แล้วตกลงเอารถมามั้ย ถ้าไม่เอามาฉันจะไปส่ง" ป๊อปปี้จับข้อมือฟางก่อนจะทำหน้าเอาจริงเอาจังทำให้ฟางหยุดตีทันที
"ไม่ได้เอามา ให้คนขับรถมาส่ง ตอนแรกว่าจะโทรให้พี่โมะมารับอ่ะ" ฟางพูดตะกุกตะกักจนป๊อปปี้สังเกตุได้
รถคันหรูเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป
"นี่ทำไมนายถึงกลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลังแบบนี้อ่ะ" ฟางพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบมาสักพักหลังจากที่เธอและเขานั่งอยู่บนรถคันหรู
"ก็ฉันเป็นฮีโร่ไง คอยปกป้องคนอื่น เรียกร้องความยุติธรรม ไม่ดีรึไง" ป๊อปปี้ที่ยังคงมองทางข้างหน้าพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนชายหนุ่มก็ไม่เคยเปลี่ยนน้ำเสียงของตัวเองเลยเว้นแต่อารมณ์โกรธตอนที่มีเรื่องกับชายคนนั้น
"ฮีโร่หรืออันธพาล กันแน่ จากที่ฟังคุณอาตำรวจเขาบอกเนี่ยนายคงชอบมีเรื่องบ่อยสินะ" ก็จริงนะเขาเป็นคนปกป้องเธอ แถมยังเรียกร้องความยุติธรรมให้เธออีก แต่บางที 'ฮีโร่กับอันธพาล' มันก็ใกล้กันนิดเดียวเองเนอะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ