C H A N G E .
เขียนโดย Omoji
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) เช้งค์หก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Change
เสียงเพลงที่ดังออกจากห้องป๊อปปี้ ภายในห้องต่างก็ซ้อมกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดนตรีก็ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามีความสุขกับมันสมองไม่วอกแวกคิดถึงเรื่องอื่น..
“กูว่าพอเท่านี้เหอะ นี่ก็ดึกมากแล้วเดี๋ยวแม่กูด่าอีก” โทโมะเอ่ยขึ้น
“เออๆ กูเห็นด้วยกับไอโมะ..งั้นพวกกูกลับก่อนนะ” เขื่อนเสริม
“อืม กูไม่ไปส่งหรอกนะ” เจ้าของบ้านพูดทั้งๆที่ยังคงสำรวจความเรียบร้อยของเบส
“คร้าบบบบบ กูรู้อยู่หรอก -_-“
เมื่อทุกอย่างเก็บเสร็จสิ้นจนครบทั้งโทโมะและเขื่อนก็เปิดประตูออกจากห้องไป…
“โอ๊ะ?”
ป๊อปปี้ที่นั่งอยู่ในห้องหันมาตามเสียงของโทโมะแล้วเดินออกไปหาทั้งสองในทันที
“อะไรวะ”
“มึงดูนี่..”
ทุกคนมองไปยังน้ำส้มสามแก้วที่วางอยู่บนพื้นตอนนี้คงจืดหมดแล้ว… ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่าน้ำส้มสามแก้วนี้เป็นฝีมือของใคร..
“กูว่าฟางแน่ๆว่ะ” โทโมะหยิบน้ำส้มนั้นขึ้นมาสองแก้ว คือของเขื่อน
“เอามึงรีบแดกเข้า เค้าอุตส่าห์ทำมาให้เดี๋ยวก็กลับแล้ว”
“เออๆ” เขื่อนหยิบน้ำส้มอีกแก้วในมือของโทโมะแล้วซดมันทั้งแก้วจนหมดซึ่งไม่ต่างจากโทโมะเลยสักนิด
เมื่อเขื่อนและโทโมะเดินลงไปชั้นล่างก็ออกจากบ้าไปในทันทีเนื่องจากเขาไม่เจอฟาง ก็ตอนแรกกะว่าจะมาขอบคุณสักหน่อยแต่ก็ไม่พบ ทั้งสองจึงตัดสินใจกลับบ้านทันที
ป๊อปปี้ยืนมองน้ำส้มบนพื้นที่วางอยู่ด้วยแววตาเรียบนิ่งแต่ในใจมันรู้สึกแปลก…เขาก้มลงหยิบน้ำส้มแก้วนั้นขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังห้องของฟาง..
ทางฟากของฟางที่หลังจากคุยโทรศัพท์กับแก้วเสร็จเรียบร้อย..และในวันพรุ่งนี้เช้าแก้วจะมาบ้านฟางหลังจากป๊อปปี้ไปโรงเรียนแล้ว เธอจะไม่บอกป๊อปว่าเธอกำลังจะทำอะไร แต่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี…
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แต่แล้วเสียงประตูห้องของตัวเองก็ดังขึ้น…ฟางยันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงดิ่งไปยังประตูห้อง..
แอ๊ดดดด
“นี่เป็นฝีมือของเธอใช่มั๊ย” ร่างสูงชูน้ำส้มในมือให้ฟางดู
“อือ”
“ไม่รู้รึไงว่าฉันไม่ชอบกินน้ำส้ม”
“ห้ะ? นายไม่ชอบกินน้ำส้ม?!” ฟางอึ้งไม่น้อยกับคำพูดของคนตรงหน้า
“อือ งั้นเธอก็…เอาน้ำส้มของเธอไปซะ” ร่างสูงเอียงแก้วน้ำส้มในมือจนน้ำในแก้วหกจนหมดเกลี้ยง ฟางมองดูแล้วนึกแค้นในใจ มือสองข้างกำแน่น..เธออุตส่าห์คั้นน้ำส้มกับมือแต่ดูสิ่งที่เด็กนี่ทำสิ!
“ป๊อปปี้!!! มันจะมากไปแล้วนะ! นายเทน้ำส้มของฉันแบบนี้ได้ยังไงห้ะ!” ฟางเลือดขึ้นหน้าเมื่อคนตรงหน้าทำแบบนี้กับตน
การที่ไม่กินน้ำส้มก็ถือว่าน้อยใจมากแล้วแล้วยิ่งเทน้ำส้มทิ้งเหมือนมันเป็นน้ำส้วมแบบนี้เธอยิ่งรู้สึกเจ็บใจเข้าไปอีก
“ก็ฉันไม่กิน” ป๊อปปี้ตอบหน้านิ่งอย่างเคย แววตาที่สื่ออกมาด้วยความไม่สนใจ
“ไอเด็กบ้า! นายไม่รู้รึไงว่ากว่าฉันจะคั้นน้ำส้มได้แต่ละแก้วมันเหนื่อยแค่ไหน! ฉันก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้นายกลับมาเป็นคนเดิม! นายคิดว่าฉันอยากอยู่มากรึไงบ้านหลังนี้น่ะห้ะ! ฉันบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันอยากจะหนีให้รู้แล้วรู้รอดไปด้วยซ้ำ!”
“ก็ไปเส้! ฉันไม่ได้อยากให้เธออยู่ตั้งแต่แรกแล้ว! ยังไม่รู้อีกหรอว่าฉันคนเดิม…มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว!”
“ถ้าการที่ฉันอดทนกับคนอย่างนายแล้วนายไม่ยอมเปลี่ยนอะไรเลยฉันจะทนไปทำไมห้ะ! ฉันมั่นใจว่าสักวันนายจะต้องกลับมาเป็นคนเดิมแน่!” ฟางเดินกระแทกไหล่ของอีกคนไปทันที
ป๊อปปี้มองตามแผ่นหลังบางที่เดินลับหายไป..การที่เขาทำแบบนี้ลงไปเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบทำให้อีกคนเจ็บปวด รู้แค่ว่าเขาไม่อยากเห็นหน้าฟาง..มันเหมือนมีความรู้สึกบางอย่าง…
ความรู้สึกที่เขาเอง..
…ไม่อยากยอมรับมัน
ฟางเดินเก็บอารมณ์สุดๆไปยังห้องเก็บของ เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ทำคือการเดินเข้าไปหยิบม็อบไว้ถูพื้น แต่เพียงแค่เขาจับมันร่างกายก็แทบจะทรุดลง…
“ฮึก..ฮืออ..ฮึก” ร่างเล็กปิดปากร้องไห้โดยร่างกายยังยืนนิ่งจับไม้ม็อบอยู่แบบนั้น..เพราะมันกำลังเป็นเหมือนที่ยึดเกาะ
กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องแสดงว่าไม่เป็นอะไร…กี่ครั้งที่ต้องทำตัวว่าตัวเองเข้มแข็งมากแค่ไหน..ถึงภายนอกจะดูร่าเริงก็จริงแต่ภายในมันก็เจ็บหนักไม่ใช่เล่น..
เพียงเพราะเธอแค่อยากให้ป๊อปปี้กลับมาเป็นคนเดิมและมันก็ยากเหลือเกิน…เธอเองก็ไม่รู้ว่าถ้ายิ่งอยู่ไปแบบนี้ ป๊อปปี้จะดีขึ้นบ้างมั๊ย..แต่เธอคิดว่าสักวันเธอต้องทำมันสำเร็จ
“ไม่..เราต้องไม่เป็นแบบนี้” ฟางพยายามกักกั้นน้ำตาโดยการยกแขนมาปาดน้ำตาของตัวเองให้หายไป สองมือหยิบม๊อบถูพื้นขึ้นอีกครั้งก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกไป
แต่เมื่อมาถึงหน้าห้องเธอกลับไม่เจอป๊อปปี้แล้ว ฟางถอนหายใจออกมาขืนเจออีกก็คงมีเรื่องกันอีกแน่ ร่างเล็กบ่นพึมพำในใจก่อนจะเช็ดน้ำส้มที่เลอะเกลื่อนบนพื้นไปหมด นึกเสียดายน้ำส้มที่เธอตั้งใจคั้นมาให้ผู้ชายคนนั้นก็ต้องถูกไม่ถูพื้นเช็ดไปอย่างไม่ใยดี
เซฮุนใจร้ายเกินไป…
“ไอคนไม่มีหัวใจ! ฮึก ที่ฉันทนแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะนายหรอกเหรอ ทำอะไรก็ไม่เคยเห็นค่ากันบ้างเลย! นิสัยไม่ดี!แย่ๆๆๆๆ! ฮึก” พูดไปถูพื้นไปเหมือนคนบ้า ก็มันน่าน้อยใจ ฟางต้องเสียน้ำตาเพราะเด็กคนนั้นอยู่ทุกวัน
….เพราะป๊อปปี้คนเดียว
หากแต่เสียงนั้นกลับทำให้คนที่ยืนพิงประตูได้ยินมันชัดเจน ป๊อปปี้เอี้ยวหน้าดูทั้งๆที่อยู่ในห้อง เขาแค่ได้ยินคำพูดของฟางโดยบังเอิญ ถามว่าลึกๆรู้สึกผิดบ้างไหม บอกได้เลยว่ามาก เขารู้สึกผิดอยู่ลึกๆที่ทำให้ฟางต้องร้องไห้
“มันเป็นอย่างนี้ถูกต้องแล้วฟาง มันควรเป็นอย่างนี้” ป๊อปปี้พูดจบก็เดินกลับไปยังที่นอนของตัวเองแล้วเหยียดกายลงนอนอย่างอ่อนล้า แหงนหน้ามองขึ้นไปบนเพดานทำให้หวนนึกถึงภาพเมื่อครู่และคำพูดที่มันกำลังตามหลอกหลอนเขาอีกครั้ง
“ไอเด็กบ้า! นายไม่รู้รึไงว่ากว่าฉันจะคั้นน้ำส้มได้แต่ละแก้วมันเหนื่อยแค่ไหน! ฉันก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้นายกลับมาเป็นคนเดิม! นายคิดว่าฉันอยากอยู่มากรึไงบ้านหลังนี้น่ะฮะ! ฉันบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันอยากจะหนีให้รู้แล้วรู้รอดไปด้วยซ้ำ!”
“ก็ไปเส้! ฉันไม่ได้อยากให้เธออยู่นิ! ยังไม่รู้อีกหรอว่าฉันคนเดิม…มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว!”
“ถ้าการที่ฉันอดทนกับคนอย่างนายแล้วนายไม่ยอมเปลี่ยนอะไรเลยฉันจะทนไปทำไมฮะ! ฉันมั่นใจว่าสักวันนายจะต้องกลับมาเป็นคนเดิมแน่!”
ป๊อปปี้ค่อยๆปิดเปลือกตาลงก่อนจะก่ายแขนไว้บนหน้าผากของตัวเอง แล้วถอนหายใจออกมาครั้งที่ร้อย ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขามักจะนึกถึงคำพูดของฟางอยู่หลายคืนที่ผ่านมา และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เพิ่งรู้ว่า….
…..ฟางเข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจเขามากมายขนาดนี้
เช่นเดียวกับฟางที่เดินเข้ามาด้วยร่างกายที่อ่อนล้า เหนื่อยนะ..ที่ต้องมาดูแลเด็กที่ไม่เอาไหนอย่างป๊อปปี้ เขาไม่คิดว่าจะเป็นมากนาดนี้ ไม่คิดว่าป๊อปปี้จะรักผู้หญิงคนนั้นมากเหลือเกิน
ฟางเอนตัวลงกับโซฟาแล้วค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ภาพป๊อปปี้ก็ลอยมาตั้งแต่อดีต เด็กน้อยผู้น่ารักคนนั้นมันหายไปไหน ตอนนี้เหลือแค่เด็กใจร้ายใจดำ สำหรับฟางแล้วเธอคงไม่มีค่าอะไรในสายตาป๊อปปี้หรอกใช่มั้ย…
---- CHANGE ----
เช้าวันต่อมาฟางเดินเข้ามาในห้องครัวเหมือนเช้าของทุกวันและก็ยังต้องทนจำใจทำอาหารอยู่เหมือนเดิมแม้จะรู้ก็เถอะว่าคนอย่างป๊อปปี้ต้องไม่กินของเธอเป็นแน่…
“ฉันจะทำมันไปเพื่ออะไรวะเนี่ยยย โถ่เอ้ยยย” บ่นไปทำไป มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก
แต่แล้วเสียงเท้ากระทบขั้นบันไดก็ดังขึ้นพร้อมร่างของป๊อปปี้ที่เดินลงมาจากบันไดชั้นบนจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าฟาง
“วันนี้ฉันกลับบ้านดึกหน่อย อาหารเย็นไม่ต้อง” ป๊อปปี้บอก
“….”
“นี่นายได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่าฟาง”
“อือ ฉันไม่ได้หูหนวก” ฟางตอบโดยในมือก็ยังทำอาหารอยู่แบบนั้น
“ก็ดี” ว่าจบป๊อปปี้ก็ก้าวเท้าเตรียมตัวจะออกจากบ้านไปถ้าไม่ติดตรงประโยคหลังจากอีกคน…
“อย่ากลับดึกมากก็แล้วกัน…มันอันตราย” ประโยคหลังถึงจะแผ่วเบาแค่ไหนเขากลับได้ยินมันชัดเจน
“…” ป๊อปปี้กระตุกยิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
เมื่อรถร่างสูงเคลื่อนตัวออกจากบ้านไป…ก็มีรถอีกคันวิ่งเข้ามาแทนที่โดยเร็ว…และฟางก็รู้ดีว่านั้นเป็นรถใคร
“แก้ว!” ฟางโบกมือให้กับคนที่อยู่หน้าบ้านก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูบ้านทันที
“ป๊อปล่ะคะ ไปโรงเรียนแล้วใช่มั๊ย”
“อื้อ พึ่งออกไปเมื่อกี้เอง…แล้วเรื่อง…”
“ไม่ต้องห่วง แก้วเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว” ร่างเล็กยิ้มอย่างมีเลศนัย
“โอเค ไปกันเถอะ” ฟางหยิบถุงพลาสติกจากมือของแก้วแล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในบ้าน
มันคืออะไรกับการที่ป๊อปปี้ต้องมาโรงเรียนแล้วโดนส่องแฟรชมากมายแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ ก็อย่างที่เคยบอกเขาฮ๊อตมากแค่ไหนหลังจากที่เขามาเรียนก็กลายเป็นประเด็กร้อนในเว็บโรงเรียน ติดท๊อปอันดับหนึ่งไปเสียได้ และคำถามที่ใครๆต่างก็อยากรู้คือ..
…..ทำไมป๊อปปี้ถึงยอมมาเรียนล่ะ?
ถึงจะถามอย่างนั้นแต่เจ้าตัวก็ไม่เคยเปิดปากบอกใครเลยสักคนแม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม สองวันที่ผ่านมานี้เขาเหมือนจะเริ่มชินกับการมาเรียนแล้วคนถูกจับจ้องอย่างเช่นตอนนี้
“เอ้ามึง! มานี่เร็ว!” เสียงโทโมะดังขึ้นแล้วโบกมือเรียกเพื่อนสนิท
“อะไรของมึง” ป๊อปปี้ถามเสียงเรียบ
“มึงดูในเว็บโรงเรียนนี่ดิ” โทโมะยื่นไอพ็อทของตัวเองให้อีกคนดู
“กวินยืนยันจะกลับไปเป็นสปอนเซอร์วงดนตรีทูมูนอีกครั้งส่วนเรื่องเหตุผลยังไม่พร้อมเปิดเผย” ป๊อปปี้อ่านหัวข้อข่าวอย่างอึ้งๆ
“คือไรวะ?! นี่ก็หมายความว่าพี่กวินยอมเป็นสปอนเซอร์ให้เราอีกครั้งใช่ป่าววะมึง!”
“กูว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ..” ป๊อปปี้พูดพลางใช้ความคิดไปด้วย
“โห่ มึงอ่ะ! ไม่ต้องคิดเหี้ยอะไรหรอก แค่เขากลับมาก็ดีแค่ไหนแล้ว” โทโมะว่าพลางสไลค์ไอพ๊อตเรื่อยๆ
“มึงอย่าลืมดิ ว่าเราต้องไปอ้อนวอนกี่ครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้งแล้วไหงคราวนี้กลายเป็นว่ายอมกันง่ายๆแบบนี้วะ”
“….”
“กูต้องไปหาพี่เขา”
“ไอป๊อป! ไอป๊อป!” โทโมะไม่ทันที่จะรั้งเพื่อนสนิทได้ เขาจึงยอมให้ป๊อปปี้ไปแต่โดยดี
เอี๊ยดดด!!
รถเบรกกะทันหันพร้อมร่างของแก้วและฟางที่ลงจากรถหน้าโรงเรียน เมื่อทั้งสองลงจากรถแน่นอนว่าทุกสายตาต่างจดจ้องมาทางเธอทั้งคู่..แก้วไม่แปลกหรอกแต่คนที่มากับเธอนี่สิแปลก
“แก้วทำไมเขามองพี่อย่างนั้นล่ะ” ฟางจับแขนแก้วแล้วมองดูคนรอบๆที่บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็ซุบซิบนินทากันอย่างนั้น
“พวกนั้นคงไม่เคยเห็นคนสวยมั้งพี่ฟาง” แก้วเอ่ยติดตลก ก่อนจะโดนฝ่ามือเล็กตีเข้าที่แขน
ฟางในวันนี้มาในชุดนักเรียนของโรงเรียน เธอไม่เคยใส่หรอกชุดนักเรียนของที่นี่ พอได้ใส่ก็รู้สึกแปลกๆดีเหมือนกัน เข้าเรื่องเลยที่ว่าฟางมาโรงเรียนแล้วต้องใส่ชุดเครื่องแบบนี่ก็เพราะเธอมีเรื่องที่ต้องทำ…
“อะไรแก้ว!พี่ว่าเรารีบไปกันเหอะ เดี๋ยวถ้าป๊อปมาเห็นพี่จะแย่เอา” ฟางเกาท้ายทอยตัวเอง ก่อนที่แก้วจะเป็นคนพาฟางเดินไปยังห้องซ้อมของโรงเรียน
ทั้งสองเดินมาถึงหน้าห้องซ้อมวงทูมูนก่อนจะหยุดเดินตรงหน้าประตูเมื่อเสียงโทรศัพท์แก้วดังขึ้น
ติ๊ดๆๆ
“ฮัลโหล..เคๆ เฟย์รอตรงนั้นแหละเดี๋ยวไปหา” เมื่อคุยเสร็จแก้วก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า
“มีธุระด่วนหรอแก้ว”
“ใช่ค่ะ แก้วคงต้องรีบไปก่อน..ถ้าพี่ฟางเสร็จเมื่อไหร่ก็โทรมาหาแก้วเลยนะ”
“ได้ๆ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง”
จากนั้นแก้วก็รีบวิ่งไปหาเฟย์เพื่อนรักในทันที ทิ้งไว้ก็เพียงแต่ฟางที่ยืนมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะตัดสินใจ แง้มประตูเข้าไปภายในห้องซ้อม..
“โหยยยยยยยยยยยย นี่มันห้องร้างชัดๆ” ร่างเล็กเดินเข้าไปภายในห้องกวาดสายตาไปรอบพบเพียงเฟอร์นิเจอร์ที่ฝุ่นเกาะเป็นที่อยู่ให้พวกแมงมุมซะแล้ว
“เห้ออออ เอาวะ!” ร่างเล็กวางกระเป๋าเป้ลงพื้นแล้วหยิบเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดเกือบสิบชิ้นมา
“เริ่ม!”
ใช่แล้วล่ะ…ทั้งหมดนี่เป็นแผนการของฟางเองเพียงคนเดียว เธอแค่รู้สึกอยากช่วยป๊อปปี้ถึงยังไงเรื่องดนตรีมันก็ทำให้เขากลับมาร่าเริงได้ แค่ทำความสะอาดนิดหน่อยฟางคิดว่าไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร…
และที่สำคัญต้องขอบคุณแก้วที่เอาเสื้อผ้าชุดนักเรียนให้ฟางยืมใส่ก่อน …
“แค่กๆ! แค่ก! โห้ยย ฝุ่นเยอะชะมัด” ในขณะที่ฟางปัดกวาดหยากไย่มันก็เต็มไปหมดแล้วยิ่งเข้าจมูกเจ้าตัวอีกไม่รู้กี่หน
“ฮัดเช้ววว!”
ฟางแพ้ฝุ่น..
ห่างหายไปนานมากค่ะ ขอโทษด้วย TT
ตอนนี้อาจจะอัพช้าเพราะอยกได้กำลังใจ
ช่วยเม้นนนนนนนนนนนนนนนนน
ช่วยโหวตตตตตตตตตตตตตตตต
แล้วไรต์จะดีใจมากค่าาาาาา
สปอยต์ตอนหน้า
“นี่ยัยนั่นคิดบ้าอะไรอยู่ฮะ ถึงลากสังขารมาที่นี่ได้ โง่ว่ะ” ร่างสูงพูดอย่างหัวเสีย ให้ตาย!
“นี่! ป๊อปปี้! ถ้านายไม่รู้นายอย่ามาพูดดีกว่า! พี่ฟางเธอหวังดีกับนายมากแค่ไหนไม่คิดจะเห็นค่าบ้างรึไง!” แก้วก็เหนื่อยเต็มที่ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ
“แล้วยัยนั่นจะพยายามไปเพื่ออะ!…”
“ก็เพื่อนายไงป๊อปปี้! พี่ฟางยอมทำความสะอาดห้องซ้อมของนาย!เพื่อที่นายจะได้ซ้อมได้เล่นดนตรีอย่างที่นายชอบ พี่ฟางยังฝืนทำทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองแพ้ฝุ่น แต่ที่เธอทำทุกอย่างก็เพราะนาย!ป๊อปปี้!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ