C H A N G E .
เขียนโดย Omoji
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) เช้งค์เจ็ด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHANGE
ป๊อปปี้เร่งฝีเท้ารีบเดินหน้าเพื่อไปหากวิน ยังไงเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไม..ทำไมกวินถึงยอมเอาเรื่องเขาแล้วยังกลับมาช่วยเหลือวงเขาอยู่เหมือนเดิม ทั้งๆที่มีเรื่องกันวันนั้นและดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมเสียด้วย แต่นี่อะไรผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์กวินก็ยอมกลับมา..
มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่…
“พี่กวิน!” หากแต่ระหว่างทางป๊อปปี้กลับเจอร่างสูงที่กำลังเดินอยู่แถวนี้พอดี
“หึ ”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับพี่ เรื่องที่พี่…” พูดไม่ทันจบ กวินก็พูดตัดบทขึ้น
“เรื่องที่ฉันกลับไปช่วยวงนายหนะหรอ หึ แค่ฉันอยากกลับไปช่วยเหมือนเดิม..มันน่าแปลกตรงไหน” ร่างสูงพูดแล้วหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาเตรียมท่าจะสูบส่งผลให้คนตรงหน้าส่ายหน้าเอือมๆ
“พี่ยังไม่เลิกสูบอีกหรอ บุหรี่นี่น่ะ..” ป๊อปปี้พูดขึ้น กวินหยุดชะงักแล้วหันมามองหน้าป๊อปปี้อีกครั้ง
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายงั้นหรอ”
“ก็ไม่เกี่ยวหรอกครับ ช่างเถอะ ยังไงผมก็คงต้องขอบคุณพี่ที่กลับมาช่วยวงของเรา” ป๊อปปี้พูดขึ้น แล้วยื่นมือเตรียมจะจับมือขอบคุณ
“ไม่ต้อง” แต่อีกฝ่ายกลับปัดมือเขาอย่างไม่แยแส
“ถึงผมจะไม่รู้ว่าความจริงแล้วพี่ต้องการอะไรจากวงของผม..ถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้..แต่ผมอยากบอกอะไรกับพี่ไว้ก่อนเลย..” ป๊อปปี้ค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายก่อนจะหยิบบุหรี่จากมือกวินมาแล้วปามันลงพื้นหนำซ้ำยังเหยียบมันอย่างไม่ใยดีต่อหน้าต่อตา
“ป๊อปปี้!..”
“พี่คิดจะทำอะไรก็เชิญ..แต่ผมไม่มีวันกลัว..”
“นาย..!!!” กวินกระชากคอเสื้อของป๊อปปี้ จนร่างสูงเซเล็กน้อย ป๊อปมองหน้าศัตรูอย่างท้าทาย เขาไม่กลัวกวิน ไม่เคยกลัวและจะไม่มีวันที่จะกลัวแน่..
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม…
“แค่ก แค่ก” ปิดจมูกแล้วยังคงทำความสะอาดต่อ ตอนนี้ห้องซ้อมก็เริ่มดูดีขึ้นมากกว่าเดิม ฟางพยายามที่จะทำมันให้กลายเป็นห้องที่สบายแล้วไม่สกปรก แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองนั้นแพ้ฝุ่นถ้าหากยังฝืนทำต่อไปคงไม่ใช่เรื่องดี
เมื่อเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีร่างเล็กเลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อโทรหาแก้ว คนตัวเล็กล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงแล้วค่อยๆเลื่อนดูรายชื่อล่าสุด ก่อนจะกดโทรออก
“ฮัลโหลแก้ว แค่กๆ”
[พี่ฟาง!เป็นอะไรไปอ่ะ!]
“พี่รู้สึก…แค่ก ไม่ค่อยดีน่ะ แก้วมาหาพี่หน่อยได้ไหม”
[ตอนนี้แก้ว..เอ่อ] ปลายสายพูดตะกุกตะกักจะให้เธอไปหาได้ไง ก็ตอนนี้เธอกำลังเรียนว่ายน้ำแล้วก็ไม่มีเสื้อใส่ยืดใส่จะให้วิ่งออกไปแบบนี้คงไม่ดีแน่
“ไม่ว่างหรอแก้ว แค่กๆ ขะ..ขอโทษนะ” ฟางเสียงแหบลงอย่างเห็นได้ชัด
[พี่ฟาง..เดี๋ยวแก้วไปหานะ!รอก่อนนะ…]
ตู้ดๆๆๆ
ฟางเหมือนสำลักฝุ่นตั้งแต่แรกแล้ว แต่ถ้าทนเห็นห้องซ้อมของป๊อปปี้สกปรกแบบนี้เธอก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน ฟางทุบหน้าอกตัวเองให้ทนต่อไปเมื่อรู้สึกถึงอาการแน่นหน้าอกหลังจากที่ทำความสะอาดไปได้เกือบครึ่ง ก่อนที่ร่างเล็กจะถลาลงไปกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ฟางไอออกมาสองสามครั้งก่อนที่สติจะค่อยหายไปทีละนิด
“ฟาง...” เมื่อเปลือกตากำลังจะปิดลงภาพเบื้องหน้าที่กำลังจะเลือนรางหายไป เธอกลับเห็นใครคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้อง เพียงแค่นั้นสติของฟางก็หมดไปพร้อมกับเปลือกตาที่ปิดสนิท
ในขณะเดียวกันที่แก้วแทบจะเก็บสำภาระขอตัวเองได้ลำบากเหลือเกินกว่าจะเสร็จร่างเล็กคิดว่าต้องไม่ทันเป็นแน่..
ร่างเล็กรวบๆของใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนที่อาจารย์จะเรียกรวมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วปล่อยแยกกันไป..
“แก้ว! จะไปไหน” เพื่อนสนิทอย่างเฟย์เอ่ยเรียกขึ้น
“ฉันมีธุระว่ะ วันนี้แกไปกินข้าวคนเดียวก่อนนะเฟย์!” แก้วตะโกนกลับมา
“อ…โอเค!”
ก็คงต้องตอบไปแบบนั้นแหละ…แม้ความจริงเฟย์ไม่ชอบการต้องทานข้าวคนเดียวเพราะเธอมักจะโดนเพื่อนแกล้งเสมอ แต่วันนี้แก้วไม่ว่างจริงๆมันก็ช่วยไม่ได้..
แก้วแทบอยากจะกระโดดตึกตายก็ตอนนี้แหละ! ก็ในตอนนี้แก้วเหมือนคิดว่าตัวเองกำลังเป็นเต่า ทำไมก็ไม่รู้…ไหนจะสัมภระที่รุงรังไปหมดยิ่งลำบากต่อการวิ่งของเธอ
“โอ้ย!/โอ๊ย!” วิ่งชนอีกต่างหากTT
“นี่! ไม่มีตารึไงวะ” ฝ่ายนึงพูดขึ้น
“นี่! นายต่างหาก! ตัวโตซะเปล่าไม่เห็นรึไงว่าฉันรีบ!” แก้วเถียงกลับ
คนตัวเล็กปัดฝุ่นที่กำลังเลอะกระโปรง เธอในตอนนี้แล้วนึกหงุดหงิดใจ ทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้!
แต่เพียงแค่แก้วเงยหน้าขึ้นมาก็ทำให้เธอแทบอยากจะกรีดร้องซะตอนนี้ด้วยซ้ำ…
“ไอญี่ปุ่น!!/ยัยทอม!” ทั้งคู่ต่างอึ้งเมื่อได้เจอหน้ากัน
“นายนี่เอง..ฉันว่าแล้วไม่มีผิด! ปากหมาไม่แดกแบบนี้น่ะ!”
“โหยยย นี่เธอคิดว่าเธอพูดเพราะมากรึไง? พูดทีนึงฉันก็นึกว่าเลี้ยงนกเอี้ยงไว้ในปาก” โทโมะพูดหน้าตาย ปล่อยให้แก้วนึกแค้นในใจ
“ อ…ไอ้!...โอ้ยยยย ฉันไม่มีเวลามากวนประสาทกับนายหรอกนะ!”
“สำหรับฉันเวลามันมีค่ากว่าการมาเถียงกับเธอเหมือนกันแหละน่า!”
“ไอเชื้อราในร่มผ้า!”
“ไอทอมไม่เจียม”
“ไอไขมันกบ”
“ไอหมาขาสั้น!”
“ไอบ้าเอ้ยยยย! คุยกับคนอย่างนายก็เหมือนคุยกับควาย! พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่อง” แก้วพูดอย่างหมดความอดทนถึงที่สุด
“ขึ้นเลยนะเนี่ย! ขึ้นเลย! ว่าแต่เธอเถอะ มีสมองไว้กั้นหูอย่างเดียวรึไงฮะ หัดคิดบ้างสิว่าฉันชอบมากรึไงกับการต้องมาทะเลาะกับเธอเนี่ย! ” โทโมะเองก็เช่นกัน
“เออ! ฉันก็โคตรไม่ชอบเลยเว้ย! จะไปตายที่ไหนก็ไปเลยไป!” แก้วว่าจบก็เดินกระแทกไหล่โทโมะออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยทอม” โทโมะมองตามแผ่นหลังบางที่วิ่งลับหายไปเสียแล้ว
การที่ต้องมาทะเลาะกับลูกพี่ลูกน้องของป๊อปปี้เนี่ยมันเป็นเหมือนตัวปัญหาและอุปสรรคในการใช้ชีวิตอย่างนึงสำหรับโทโมะเลยก็ว่าได้…ไม่ใช่ว่าแก้วไม่น่ารักแต่ดันปากจัดซะได้ แบบนี้เขาก็ไม่ไหวจะเคลียร์…
เจอกันทีไรเป็นต้องมีเรื่องกันทุกทีมันเป็นอะไรที่ไม่สุกขั้วที่สุดสำหรับโทโมะ ตั้งแต่เกิดมาก็มีแค่แก้วนี่แหละที่กล้าด่าเขามากมายขนาดนี้…
แสงแดดส่องเข้ามาด้านในห้องพัก ก่อนจะพบหญิงสาวที่เหยียดตัวนอนบนฟูกเตียงนุ่ม ข้างๆเป็นอาจารย์หมอที่คอยตรวจอาการอย่างใกล้ชิด
“เธอไม่เป็นไรมากหรอก นายไม่ต้องเป็นห่วงนะป๊อป” อาจารย์หมอเอ่ยแล้วตบบ่าของร่างสูงสองทีให้คลายความกังวล
“ผมไม่ได้เป็นห่วงสักหน่อย” เจ้าของชื่อเอ่ยด้วยเสียงเรียบ แต่สายตาดันมองแต่ร่างเล็กที่อยู่บนเตียง เรียกเสียงหัวเราะให้อาจารย์หมออย่างมาก
“ฮ่าฮ่า อย่างนั้นหรอ เธอแค่แพ้ฝุ่นก็เลยสลบไปเดี๋ยวสักพักก็ฟื้นแล้วล่ะ”
“แพ้ฝุ่น?” เกิดคำถามขึ้นในหัวของป๊อปปี้ ความจริงเขาก็สงสัยตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ..ตอนที่แก้วโทรมา
ย้อนกลับไป..
ป๊อปปี้และกวินที่มองหน้ากันอย่างไม่ยอมใครในขณะนั้นกลับมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ป๊อปปี้ละจากใบหน้าคมของอีกคน แล้วล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นก่อนจะกดรับ หากแต่เขาไม่ทันได้เอ่ยประโยคอะไร ปลายสายก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
[ป๊อป!นายไปช่วยพี่ฟางที่ห้องซ้อมหน่อยสิ!] คำพูดของแก้วเรียกสติ ก่อนจะมีคำถามมากมายเขามาในหัว ..ฟางมาได้ยังไง
“ฟาง..ยัยนั่นมาได้...”
[ไม่ต้องถามมากจะได้ไหม!นายรีบไปช่วยพี่ฟางที่ห้องซ้อมเดี๋ยวนี้เลยนะ!ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงแล้วเนี่ย!] เมื่อพูดจบ ป๊อปปี้ก็ไม่รีรออะไร ขายาวๆเร็วเท่าความคิดร่างสูงวิ่งออกมาจากตรงนั้นอย่างเร่งรีบ
คำที่พูดว่า ‘เป็นตายร้ายดี ’กำลังมาก่อกวนใจของเขาเป็นอย่างมาก แต่ถ้าขืนมัวแต่คิดอะไรให้ปวดสมองคงจะช่วยอะไรไม่ได้ ป๊อปปี้แค่รู้สึกใจกระตุกอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อถึงหน้าห้องซ้อมร่างสูงก็ไม่รีรออะไร คว้าลูกบิดแล้วหมุนมันก่อนจะเปิดเข้าไปในห้อง สิ่งที่เห็นสร้างความแปลกใจไม่น้อยเมื่อห้องดนตรีดูใหม่และสะอาดกว่าเดิมขึ้นเยอะ ก่อนที่ป๊อปจะละสายตาจากโดยรอบแล้วมองไปยังบนพื้นที่มีร่างเล็กนอนตะแคงข้างอยู่ อีกทั้งในมือยังถือโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
“ฟาง!” ป๊อปปี้เข้าไปหาร่างเล็กแล้วย่อตัวลงก่อนจะวาดแขนใต้ขาทั้งสองข้างของอีกคนแล้วอุ้มฟางไว้แนบอก ไม่รอช้าร่างสูงก็รีบพาร่างเล็กออกมอย่างรวดเร็ว
เขาก็คงไม่รู้ว่าภาพตรงหน้าภาพความเป็นห่วงเป็นใย แววตาและน้ำเสียงที่ดูก็รู้ว่าป๊อปปี้แคร์ผู้หญิงร่างเล็กคนนั้นมากแค่ไหน มันถูกจับจ้องโดยผู้ชายอีกคน ผู้ชายที่มีเรื่องกับป๊อปปี้เมื่อครู่..กวินมองทั้งสองแล้วยกยิ้มขึ้น
บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสที่เขาจะทำให้ป๊อปปี้เจ็บปวดอีกทางก็ได้…เด็กผู้หญิงคนนั้น ถ้าเขาจำชื่อไม่ผิด ‘ฟาง’
ปัง!
ประตูห้องพยาบาลถูกเปิดออกพร้อมกับร่างแก้วที่เข้ามาหอบอยู่ภายในห้องพยาบาล ก่อนที่ร่างเล็กจะรีบเข้าไปใกล้ฟางแล้วเข้ากอบกุมมือเล็กนั่นไว้
“พี่ฟาง…แก้วขอโทษนะ” แก้วเอ่ยขึ้นพร้อมร่างที่รีบวิ่งไปใกล้ฟางอย่างเร็ว
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกแก้ว ครูจะอยู่เฝ้าเอง พวกเธอสองคนกลับไปเรียนเถอะ เดี๋ยวถ้าฟางฟื้นครูจะพาไปส่งที่บ้านนายเองป๊อปปี้” อาจารย์หมอว่าจบก็เดินไปที่โต๊ะทำงานต่อ
ทิ้งไว้เพียงแก้วและป๊อปปี้ที่ยืนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้นก่อนที่จะเป็นร่างสูงเอ่ยขึ้นในความเงียบ…
“เรามีเรื่องต้องคุยกันแก้ว”
ไม่นานนักกว่าที่ป๊อปปี้และแก้วจะเดินออกมาจากห้องพยาบาลจากนั้นทั้งคู่ก็หามุมสงบนั่งคุยกันเคลียร์เรื่องที่ป๊อปปี้อยากรู้..
“ยัยนั่นมาที่นี่ได้ยังไง” ป๊อปปี้เริ่มบทสนทนาขึ้น
“เอ่อ…คือ…”
“นี่ยัยนั่นคิดบ้าอะไรอยู่ห้ะ ถึงลากสังขารมาที่นี่ได้ โง่ว่ะ” ร่างสูงพูดอย่างหัวเสีย ให้ตาย!
“นี่! ป๊อปปี้! ถ้านายไม่รู้นายอย่ามาพูดดีกว่า! พี่ฟางเธอหวังดีกับนายมากแค่ไหนไม่คิดจะเห็นค่าบ้างรึไง!” แก้วก็เหนื่อยเต็มที่ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ
“แล้วยัยนั่นจะพยายามไปเพื่ออะ!…”
“ก็เพื่อนายไงป๊อปปี้! พี่ฟางยอมทำความสะอาดห้องซ้อมของนาย!เพื่อที่นายจะได้ซ้อมได้เล่นดนตรีอย่างที่นายชอบ พี่ฟางยังฝืนทำทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองแพ้ฝุ่น แต่ที่เธอทำทุกอย่างก็เพราะนาย!ป๊อปปี้!” คนฟังเงียบไปชั่วขณะ ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้คำถึงคิดคำพูดที่จะพูดต่อไม่ออกเสียอย่างนั้น
“…”
“ฉันขอตัวล่ะ..เพราะฉันพอจะรู้ว่าถึงจะบอกนายยังไงนายก็คงไม่เก็บไปคิดหรอกใช่มั้ยล่ะ..” แก้วพูด ก็เดินกระแทกไหล่อีกฝ่ายไป ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนอยู่กับที่แล้วความคิดมากมายก็ผสมกันจนมั่วไปหมด..
โกรธกันแล้วใช่ม้ายยยยยยย
อย่าเพิ่งดิๆ คือสมองไรต์ตอนนี้มันตื้อไปหมดแล้ววว
อยากได้กำลังใจเยอะง่าาาา ไรต์จะได้มาแต่งต่อได้
**อยากได้ตอนไหนบ้าง เม้นบอกกันได้ ถือว่าช่วยคิดพล๊อตไรต์ได้เลยยยย**
[อันนี้จริงจังเว้ยย ช่วยเสนอไรต์มาได้เลยนะ จะคอยอ่านและตอบเม้นด้วย]
**ไม่แน่พล๊อตของคุณอาจจะถูกนำมาแต่งในฟิคเรื่องนี้นะ**
เม้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน
โหวตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต
ถ้าชอบก็กดติดตามมมมมมมมมมมม
สนุกต้องบอกต่อกดแนะนำกันได้นะงิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ