C H A N G E .

8.2

เขียนโดย Omoji

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.

  25 ตอน
  138 วิจารณ์
  37.07K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) เช้งค์หก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 Change    

เว็บขีดเขียน 

 

 

          เสียงเพลงที่ดังออกจากห้องป๊อปปี้ ภายในห้องต่างก็ซ้อมกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดนตรีก็ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามีความสุขกับมันสมองไม่วอกแวกคิดถึงเรื่องอื่น..

 

กูว่าพอเท่านี้เหอะ นี่ก็ดึกมากแล้วเดี๋ยวแม่กูด่าอีกโทโมะเอ่ยขึ้น

 

เออๆ กูเห็นด้วยกับไอโมะ..งั้นพวกกูกลับก่อนนะเขื่อนเสริม

 

อืม กูไม่ไปส่งหรอกนะเจ้าของบ้านพูดทั้งๆที่ยังคงสำรวจความเรียบร้อยของเบส

 

คร้าบบบบบ กูรู้อยู่หรอก -_-“ 

 

            เมื่อทุกอย่างเก็บเสร็จสิ้นจนครบทั้งโทโมะและเขื่อนก็เปิดประตูออกจากห้องไป

 

โอ๊ะ?

 

            ป๊อปปี้ที่นั่งอยู่ในห้องหันมาตามเสียงของโทโมะแล้วเดินออกไปหาทั้งสองในทันที

 

อะไรวะ

 

มึงดูนี่..” 

 

            ทุกคนมองไปยังน้ำส้มสามแก้วที่วางอยู่บนพื้นตอนนี้คงจืดหมดแล้ว… ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่าน้ำส้มสามแก้วนี้เป็นฝีมือของใคร..

 

กูว่าฟางแน่ๆว่ะโทโมะหยิบน้ำส้มนั้นขึ้นมาสองแก้ว คือของเขื่อน

 

เอามึงรีบแดกเข้า เค้าอุตส่าห์ทำมาให้เดี๋ยวก็กลับแล้ว

 

เออๆเขื่อนหยิบน้ำส้มอีกแก้วในมือของโทโมะแล้วซดมันทั้งแก้วจนหมดซึ่งไม่ต่างจากโทโมะเลยสักนิด

 

            เมื่อเขื่อนและโทโมะเดินลงไปชั้นล่างก็ออกจากบ้าไปในทันทีเนื่องจากเขาไม่เจอฟาง ก็ตอนแรกกะว่าจะมาขอบคุณสักหน่อยแต่ก็ไม่พบ ทั้งสองจึงตัดสินใจกลับบ้านทันที

 

            ป๊อปปี้ยืนมองน้ำส้มบนพื้นที่วางอยู่ด้วยแววตาเรียบนิ่งแต่ในใจมันรู้สึกแปลกเขาก้มลงหยิบน้ำส้มแก้วนั้นขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังห้องของฟาง..

 

 ทางฟากของฟางที่หลังจากคุยโทรศัพท์กับแก้วเสร็จเรียบร้อย..และในวันพรุ่งนี้เช้าแก้วจะมาบ้านฟางหลังจากป๊อปปี้ไปโรงเรียนแล้ว เธอจะไม่บอกป๊อปว่าเธอกำลังจะทำอะไร แต่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี

 

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

 

            แต่แล้วเสียงประตูห้องของตัวเองก็ดังขึ้นฟางยันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงดิ่งไปยังประตูห้อง..

 

 

แอ๊ดดดด

 

นี่เป็นฝีมือของเธอใช่มั๊ยร่างสูงชูน้ำส้มในมือให้ฟางดู

 

อือ

 

ไม่รู้รึไงว่าฉันไม่ชอบกินน้ำส้ม

 

ห้ะนายไม่ชอบกินน้ำส้ม?!” ฟางอึ้งไม่น้อยกับคำพูดของคนตรงหน้า

 

อือ งั้นเธอก็เอาน้ำส้มของเธอไปซะร่างสูงเอียงแก้วน้ำส้มในมือจนน้ำในแก้วหกจนหมดเกลี้ยง ฟางมองดูแล้วนึกแค้นในใจ มือสองข้างกำแน่น..เธออุตส่าห์คั้นน้ำส้มกับมือแต่ดูสิ่งที่เด็กนี่ทำสิ!

 

 

ป๊อปปี้!!! มันจะมากไปแล้วนะนายเทน้ำส้มของฉันแบบนี้ได้ยังไงห้ะ!” ฟางเลือดขึ้นหน้าเมื่อคนตรงหน้าทำแบบนี้กับตน

 

 

            การที่ไม่กินน้ำส้มก็ถือว่าน้อยใจมากแล้วแล้วยิ่งเทน้ำส้มทิ้งเหมือนมันเป็นน้ำส้วมแบบนี้เธอยิ่งรู้สึกเจ็บใจเข้าไปอีก

 

 

ก็ฉันไม่กินป๊อปปี้ตอบหน้านิ่งอย่างเคย แววตาที่สื่ออกมาด้วยความไม่สนใจ

 

 

ไอเด็กบ้านายไม่รู้รึไงว่ากว่าฉันจะคั้นน้ำส้มได้แต่ละแก้วมันเหนื่อยแค่ไหนฉันก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้นายกลับมาเป็นคนเดิมนายคิดว่าฉันอยากอยู่มากรึไงบ้านหลังนี้น่ะห้ะฉันบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันอยากจะหนีให้รู้แล้วรู้รอดไปด้วยซ้ำ!

 

ก็ไปเส้ฉันไม่ได้อยากให้เธออยู่ตั้งแต่แรกแล้วยังไม่รู้อีกหรอว่าฉันคนเดิมมันไม่มีอีกต่อไปแล้ว!

 

ถ้าการที่ฉันอดทนกับคนอย่างนายแล้วนายไม่ยอมเปลี่ยนอะไรเลยฉันจะทนไปทำไมห้ะฉันมั่นใจว่าสักวันนายจะต้องกลับมาเป็นคนเดิมแน่!” ฟางเดินกระแทกไหล่ของอีกคนไปทันที

           

ป๊อปปี้มองตามแผ่นหลังบางที่เดินลับหายไป..การที่เขาทำแบบนี้ลงไปเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบทำให้อีกคนเจ็บปวด รู้แค่ว่าเขาไม่อยากเห็นหน้าฟาง..มันเหมือนมีความรู้สึกบางอย่าง

 

 

 

 

 

ความรู้สึกที่เขาเอง..

 

 

 

 

ไม่อยากยอมรับมัน

 

 

 

            ฟางเดินเก็บอารมณ์สุดๆไปยังห้องเก็บของ เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ทำคือการเดินเข้าไปหยิบม็อบไว้ถูพื้น แต่เพียงแค่เขาจับมันร่างกายก็แทบจะทรุดลง

 

 

ฮึก..ฮืออ..ฮึกร่างเล็กปิดปากร้องไห้โดยร่างกายยังยืนนิ่งจับไม้ม็อบอยู่แบบนั้น..เพราะมันกำลังเป็นเหมือนที่ยึดเกาะ

 

 

            กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องแสดงว่าไม่เป็นอะไรกี่ครั้งที่ต้องทำตัวว่าตัวเองเข้มแข็งมากแค่ไหน..ถึงภายนอกจะดูร่าเริงก็จริงแต่ภายในมันก็เจ็บหนักไม่ใช่เล่น..

 

 

            เพียงเพราะเธอแค่อยากให้ป๊อปปี้กลับมาเป็นคนเดิมและมันก็ยากเหลือเกินเธอเองก็ไม่รู้ว่าถ้ายิ่งอยู่ไปแบบนี้ ป๊อปปี้จะดีขึ้นบ้างมั๊ย..แต่เธอคิดว่าสักวันเธอต้องทำมันสำเร็จ

 

 

ไม่..เราต้องไม่เป็นแบบนี้ฟางพยายามกักกั้นน้ำตาโดยการยกแขนมาปาดน้ำตาของตัวเองให้หายไป สองมือหยิบม๊อบถูพื้นขึ้นอีกครั้งก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกไป

 

 

            แต่เมื่อมาถึงหน้าห้องเธอกลับไม่เจอป๊อปปี้แล้ว ฟางถอนหายใจออกมาขืนเจออีกก็คงมีเรื่องกันอีกแน่ ร่างเล็กบ่นพึมพำในใจก่อนจะเช็ดน้ำส้มที่เลอะเกลื่อนบนพื้นไปหมด นึกเสียดายน้ำส้มที่เธอตั้งใจคั้นมาให้ผู้ชายคนนั้นก็ต้องถูกไม่ถูพื้นเช็ดไปอย่างไม่ใยดี

 

 

 

 

 

 

            เซฮุนใจร้ายเกินไป

 

 

 

 

 

 

ไอคนไม่มีหัวใจฮึก ที่ฉันทนแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะนายหรอกเหรอ ทำอะไรก็ไม่เคยเห็นค่ากันบ้างเลยนิสัยไม่ดี!แย่ๆๆๆๆฮึก” พูดไปถูพื้นไปเหมือนคนบ้า ก็มันน่าน้อยใจ ฟางต้องเสียน้ำตาเพราะเด็กคนนั้นอยู่ทุกวัน

 

 

 

 

 

….เพราะป๊อปปี้คนเดียว

 

 

 

 

 

 

 

            หากแต่เสียงนั้นกลับทำให้คนที่ยืนพิงประตูได้ยินมันชัดเจน ป๊อปปี้เอี้ยวหน้าดูทั้งๆที่อยู่ในห้อง เขาแค่ได้ยินคำพูดของฟางโดยบังเอิญ ถามว่าลึกๆรู้สึกผิดบ้างไหม บอกได้เลยว่ามาก เขารู้สึกผิดอยู่ลึกๆที่ทำให้ฟางต้องร้องไห้

 

มันเป็นอย่างนี้ถูกต้องแล้วฟาง มันควรเป็นอย่างนี้” ป๊อปปี้พูดจบก็เดินกลับไปยังที่นอนของตัวเองแล้วเหยียดกายลงนอนอย่างอ่อนล้า แหงนหน้ามองขึ้นไปบนเพดานทำให้หวนนึกถึงภาพเมื่อครู่และคำพูดที่มันกำลังตามหลอกหลอนเขาอีกครั้ง

 

 

ไอเด็กบ้านายไม่รู้รึไงว่ากว่าฉันจะคั้นน้ำส้มได้แต่ละแก้วมันเหนื่อยแค่ไหนฉันก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้นายกลับมาเป็นคนเดิมนายคิดว่าฉันอยากอยู่มากรึไงบ้านหลังนี้น่ะฮะฉันบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันอยากจะหนีให้รู้แล้วรู้รอดไปด้วยซ้ำ!

 

ก็ไปเส้ฉันไม่ได้อยากให้เธออยู่นิยังไม่รู้อีกหรอว่าฉันคนเดิมมันไม่มีอีกต่อไปแล้ว!

 

ถ้าการที่ฉันอดทนกับคนอย่างนายแล้วนายไม่ยอมเปลี่ยนอะไรเลยฉันจะทนไปทำไมฮะฉันมั่นใจว่าสักวันนายจะต้องกลับมาเป็นคนเดิมแน่!

 

            ป๊อปปี้ค่อยๆปิดเปลือกตาลงก่อนจะก่ายแขนไว้บนหน้าผากของตัวเอง แล้วถอนหายใจออกมาครั้งที่ร้อย ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขามักจะนึกถึงคำพูดของฟางอยู่หลายคืนที่ผ่านมา และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เพิ่งรู้ว่า….

 

 

 

 

 

 

…..ฟางเข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจเขามากมายขนาดนี้

 

 

 

 

 

            เช่นเดียวกับฟางที่เดินเข้ามาด้วยร่างกายที่อ่อนล้า เหนื่อยนะ..ที่ต้องมาดูแลเด็กที่ไม่เอาไหนอย่างป๊อปปี้ เขาไม่คิดว่าจะเป็นมากนาดนี้ ไม่คิดว่าป๊อปปี้จะรักผู้หญิงคนนั้นมากเหลือเกิน

 

ฟางเอนตัวลงกับโซฟาแล้วค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ภาพป๊อปปี้ก็ลอยมาตั้งแต่อดีต เด็กน้อยผู้น่ารักคนนั้นมันหายไปไหน ตอนนี้เหลือแค่เด็กใจร้ายใจดำ สำหรับฟางแล้วเธอคงไม่มีค่าอะไรในสายตาป๊อปปี้หรอกใช่มั้ย

 

 

 

---- CHANGE ----

 

 

            เช้าวันต่อมาฟางเดินเข้ามาในห้องครัวเหมือนเช้าของทุกวันและก็ยังต้องทนจำใจทำอาหารอยู่เหมือนเดิมแม้จะรู้ก็เถอะว่าคนอย่างป๊อปปี้ต้องไม่กินของเธอเป็นแน่

“ฉันจะทำมันไปเพื่ออะไรวะเนี่ยยย โถ่เอ้ยยย” บ่นไปทำไป มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก

 

            แต่แล้วเสียงเท้ากระทบขั้นบันไดก็ดังขึ้นพร้อมร่างของป๊อปปี้ที่เดินลงมาจากบันไดชั้นบนจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าฟาง

 

“วันนี้ฉันกลับบ้านดึกหน่อย อาหารเย็นไม่ต้อง” ป๊อปปี้บอก

 

….

 

“นี่นายได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่าฟาง”

 

“อือ ฉันไม่ได้หูหนวก” ฟางตอบโดยในมือก็ยังทำอาหารอยู่แบบนั้น

 

“ก็ดี” ว่าจบป๊อปปี้ก็ก้าวเท้าเตรียมตัวจะออกจากบ้านไปถ้าไม่ติดตรงประโยคหลังจากอีกคน

 

อย่ากลับดึกมากก็แล้วกันมันอันตราย” ประโยคหลังถึงจะแผ่วเบาแค่ไหนเขากลับได้ยินมันชัดเจน

 

” ป๊อปปี้กระตุกยิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป

                        เมื่อรถร่างสูงเคลื่อนตัวออกจากบ้านไปก็มีรถอีกคันวิ่งเข้ามาแทนที่โดยเร็วและฟางก็รู้ดีว่านั้นเป็นรถใคร

 

“แก้ว!” ฟางโบกมือให้กับคนที่อยู่หน้าบ้านก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูบ้านทันที

 

“ป๊อปล่ะคะ ไปโรงเรียนแล้วใช่มั๊ย”

 

“อื้อ พึ่งออกไปเมื่อกี้เองแล้วเรื่อง

 

“ไม่ต้องห่วง แก้วเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว”  ร่างเล็กยิ้มอย่างมีเลศนัย

 

“โอเค ไปกันเถอะ” ฟางหยิบถุงพลาสติกจากมือของแก้วแล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในบ้าน       

 

 

            มันคืออะไรกับการที่ป๊อปปี้ต้องมาโรงเรียนแล้วโดนส่องแฟรชมากมายแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ ก็อย่างที่เคยบอกเขาฮ๊อตมากแค่ไหนหลังจากที่เขามาเรียนก็กลายเป็นประเด็กร้อนในเว็บโรงเรียน ติดท๊อปอันดับหนึ่งไปเสียได้ และคำถามที่ใครๆต่างก็อยากรู้คือ..

 

 

 

 

 

…..ทำไมป๊อปปี้ถึงยอมมาเรียนล่ะ?

 

 

 

 

 

            ถึงจะถามอย่างนั้นแต่เจ้าตัวก็ไม่เคยเปิดปากบอกใครเลยสักคนแม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม สองวันที่ผ่านมานี้เขาเหมือนจะเริ่มชินกับการมาเรียนแล้วคนถูกจับจ้องอย่างเช่นตอนนี้

 

“เอ้ามึง! มานี่เร็ว!” เสียงโทโมะดังขึ้นแล้วโบกมือเรียกเพื่อนสนิท

 

“อะไรของมึง” ป๊อปปี้ถามเสียงเรียบ

 

“มึงดูในเว็บโรงเรียนนี่ดิ” โทโมะยื่นไอพ็อทของตัวเองให้อีกคนดู

 

“กวินยืนยันจะกลับไปเป็นสปอนเซอร์วงดนตรีทูมูนอีกครั้งส่วนเรื่องเหตุผลยังไม่พร้อมเปิดเผย”  ป๊อปปี้อ่านหัวข้อข่าวอย่างอึ้งๆ

 

“คือไรวะ?! นี่ก็หมายความว่าพี่กวินยอมเป็นสปอนเซอร์ให้เราอีกครั้งใช่ป่าววะมึง!

 

“กูว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ..” ป๊อปปี้พูดพลางใช้ความคิดไปด้วย

 

“โห่ มึงอ่ะ! ไม่ต้องคิดเหี้ยอะไรหรอก แค่เขากลับมาก็ดีแค่ไหนแล้ว” โทโมะว่าพลางสไลค์ไอพ๊อตเรื่อยๆ

 

“มึงอย่าลืมดิ ว่าเราต้องไปอ้อนวอนกี่ครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้งแล้วไหงคราวนี้กลายเป็นว่ายอมกันง่ายๆแบบนี้วะ”

 

….

 

“กูต้องไปหาพี่เขา”

 

“ไอป๊อป! ไอป๊อป!” โทโมะไม่ทันที่จะรั้งเพื่อนสนิทได้ เขาจึงยอมให้ป๊อปปี้ไปแต่โดยดี

 

 

            เอี๊ยดดด!!

            รถเบรกกะทันหันพร้อมร่างของแก้วและฟางที่ลงจากรถหน้าโรงเรียน เมื่อทั้งสองลงจากรถแน่นอนว่าทุกสายตาต่างจดจ้องมาทางเธอทั้งคู่..แก้วไม่แปลกหรอกแต่คนที่มากับเธอนี่สิแปลก

 

แก้วทำไมเขามองพี่อย่างนั้นล่ะ ฟางจับแขนแก้วแล้วมองดูคนรอบๆที่บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็ซุบซิบนินทากันอย่างนั้น

 

พวกนั้นคงไม่เคยเห็นคนสวยมั้งพี่ฟาง แก้วเอ่ยติดตลก ก่อนจะโดนฝ่ามือเล็กตีเข้าที่แขน

 

            ฟางในวันนี้มาในชุดนักเรียนของโรงเรียน เธอไม่เคยใส่หรอกชุดนักเรียนของที่นี่ พอได้ใส่ก็รู้สึกแปลกๆดีเหมือนกัน เข้าเรื่องเลยที่ว่าฟางมาโรงเรียนแล้วต้องใส่ชุดเครื่องแบบนี่ก็เพราะเธอมีเรื่องที่ต้องทำ

 

อะไรแก้ว!พี่ว่าเรารีบไปกันเหอะ เดี๋ยวถ้าป๊อปมาเห็นพี่จะแย่เอา  ฟางเกาท้ายทอยตัวเอง ก่อนที่แก้วจะเป็นคนพาฟางเดินไปยังห้องซ้อมของโรงเรียน

 

            ทั้งสองเดินมาถึงหน้าห้องซ้อมวงทูมูนก่อนจะหยุดเดินตรงหน้าประตูเมื่อเสียงโทรศัพท์แก้วดังขึ้น

 

ติ๊ดๆๆ

 

“ฮัลโหล..เคๆ เฟย์รอตรงนั้นแหละเดี๋ยวไปหา” เมื่อคุยเสร็จแก้วก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า

 

“มีธุระด่วนหรอแก้ว”

 

“ใช่ค่ะ แก้วคงต้องรีบไปก่อน..ถ้าพี่ฟางเสร็จเมื่อไหร่ก็โทรมาหาแก้วเลยนะ”

 

“ได้ๆ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง”

 

            จากนั้นแก้วก็รีบวิ่งไปหาเฟย์เพื่อนรักในทันที ทิ้งไว้ก็เพียงแต่ฟางที่ยืนมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะตัดสินใจ แง้มประตูเข้าไปภายในห้องซ้อม..

 

“โหยยยยยยยยยยยย นี่มันห้องร้างชัดๆ” ร่างเล็กเดินเข้าไปภายในห้องกวาดสายตาไปรอบพบเพียงเฟอร์นิเจอร์ที่ฝุ่นเกาะเป็นที่อยู่ให้พวกแมงมุมซะแล้ว

 

“เห้ออออ เอาวะ!” ร่างเล็กวางกระเป๋าเป้ลงพื้นแล้วหยิบเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดเกือบสิบชิ้นมา

 

“เริ่ม!” 

 

            ใช่แล้วล่ะทั้งหมดนี่เป็นแผนการของฟางเองเพียงคนเดียว เธอแค่รู้สึกอยากช่วยป๊อปปี้ถึงยังไงเรื่องดนตรีมันก็ทำให้เขากลับมาร่าเริงได้ แค่ทำความสะอาดนิดหน่อยฟางคิดว่าไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร

 

 

 

            และที่สำคัญต้องขอบคุณแก้วที่เอาเสื้อผ้าชุดนักเรียนให้ฟางยืมใส่ก่อน

 

 

 

 

“แค่กๆ! แค่ก! โห้ยย ฝุ่นเยอะชะมัด” ในขณะที่ฟางปัดกวาดหยากไย่มันก็เต็มไปหมดแล้วยิ่งเข้าจมูกเจ้าตัวอีกไม่รู้กี่หน

 

“ฮัดเช้ววว!

 

 

ฟางแพ้ฝุ่น..

 

 


ห่างหายไปนานมากค่ะ ขอโทษด้วย TT

ตอนนี้อาจจะอัพช้าเพราะอยกได้กำลังใจ

ช่วยเม้นนนนนนนนนนนนนนนนน

ช่วยโหวตตตตตตตตตตตตตตตต

 

แล้วไรต์จะดีใจมากค่าาาาาา

 

สปอยต์ตอนหน้า

“นี่ยัยนั่นคิดบ้าอะไรอยู่ฮะ ถึงลากสังขารมาที่นี่ได้ โง่ว่ะ” ร่างสูงพูดอย่างหัวเสีย ให้ตาย!

“นี่! ป๊อปปี้! ถ้านายไม่รู้นายอย่ามาพูดดีกว่า! พี่ฟางเธอหวังดีกับนายมากแค่ไหนไม่คิดจะเห็นค่าบ้างรึไง!” แก้วก็เหนื่อยเต็มที่ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ

“แล้วยัยนั่นจะพยายามไปเพื่ออะ!…

“ก็เพื่อนายไงป๊อปปี้! พี่ฟางยอมทำความสะอาดห้องซ้อมของนาย!เพื่อที่นายจะได้ซ้อมได้เล่นดนตรีอย่างที่นายชอบ พี่ฟางยังฝืนทำทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองแพ้ฝุ่น แต่ที่เธอทำทุกอย่างก็เพราะนาย!ป๊อปปี้!” 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา