C H A N G E .
เขียนโดย Omoji
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
19) เช้งค์สิบเก้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCHANGE 19
(เปิดเพลงคลอๆได้นร้าาา )
“เอาล่ะนักเรียนทุกคนนนนน! ฟังทางนี้นะจ้ะ วันนี้ครูจะมีกิจกรรมให้ทำกัน โดยเราจะจับคู่สองคน ครูจะจับให้พวกเธอเองดังนั้นอย่าเกี่ยงเป็นอันขาด! แล้วกติกาครูจะอธิบายให้ฟังอีกที!”
เมื่อพูดจบผลการจับคู่ก็ออกมาอย่างเท่าเทียมแต่เสียดาย…มันก็มียุติธรรมบ้างไม่ยุติธรรมบ้างสำหรับใครบางคน…แก้วมองดูกระดาษในมือของตัวเองแล้วกระทืบเท้าหัวเสีย มันเกิดจากชื่อรอยปากกาที่เขียนในกระดาษแผ่นนั้น
“ซวยๆๆๆๆๆๆ ฉันเริ่มจะเบื่อหน้านายขึ้นมาก็ตอนนี้แหละ” แก้วฉุนหนัก เมื่อเธอดันต้องมาคู่กับศัตรูปากอย่างโทโมะ
“เธอคิดว่าฉันดีใจมากไง? ฉันเบื่อหน้าเธอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ด้วยซ้ำ” โทโมะก็หงุดหงิดไม่แพ้กัน เขาเบะปากอย่างเซ็งๆ
“ฉันเกลียดหน้านาย! รวมถึงเกลียดนายด้วย”
“ฉันเนี่ยรังเกียจหน้าเธอมากกกกกก ไม่ใช่เกลียดนะรังเกียจจจจจจ เข้าใจมั๊ยรังเกียจน่ะห้ะ!” แสดงสีหน้าขยักแขยงเต็มที
“หนอยยยยย ไอปากปีจอ!”
“ยัยทอม”
“ฉันไม่ใช่ทอมนะเว้ย!” แก้วจากที่ของขึ้นอยู่แล้วคราวนี้หนักเข้าไปอีก
“ไม่เชื่อ”
“ฮึ่ยยยย!”
ดูเหมือนทั้งสองคนจะเล่นสงครามประสาทแทนการทะเลาะออกเสียง เพราะสายตาที่คนอื่นๆมองมาแล้วก็อายไม่ใช่เล่น…-_-
“เศร้าเลยดิได้คู่กับฉัน” ป๊อปปี้พูดลอยๆออกมา ก็เพราะดันได้ฟางเป็นคู่ซะงั้น เขาเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยู่ปากนอยด์ นึกโมโหในใจคงจะอยากคู่กับกวินมากสินะ
“ใช่” ฟางตอบโดยไม่ได้มองหน้าอีกคนแม้แต่น้อย
“….”
“….”
เกิดความเงียบระหว่างสองคน…มันน่าอึดอัดที่ต้องเป็นแบบนี้ ป๊อปปี้อยากจะโกรธ แต่เขาก็แสดงออกไม่ได้ในเมื่อก่อนหน้านี้ดันทำผิดกับฟางไว้และเขาก็รู้ตัวดี
“ฉันดีใจนะที่ได้คู่กับเฟย์” เขื่อนเอ่ยยิ้มกว้างเมื่อได้รู้ว่าคู่กับคนตัวเล็ก แต่ทำไมเฟย์ถึงได้ฝืนยิ้มออกมาอย่างนั้นกัน เขื่อนเกาท้ายทอยตัวเองแก้เก้อเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำตัวยังไงกับเฟย์
“เขื่อนไม่น่าคู่กับเราเลยนะ…” น้ำเสียงสิ้นหวัง
“ฉันขอโทษนะ…ฉันไม่รู้ว่าเธอจะไม่ชอบฉันมากขนาดนี้” เขื่อนฝืนยิ้มให้อีกคนไม่อยากให้คนตัวเล็กคิดมาก
“…เราไม่ได้ไม่ชอบเขื่อน แต่เวลาเขื่อนอยู่กับเราเขื่อนอาจจะเจ็บตัวอีก เราไม่อยากให้เขื่อนต้องเจ็บตัวเพราะเราอีกแล้ว” เฟย์ก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่เธอก็ไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองส่งผลให้คนข้างๆยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง มือหนาค่อยๆจับไหล่ของเฟย์ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้
“ก็ฉันชอบเฟย์ ฉันเลยอยากปกป้องเธอไง..ฉันชอบ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบมาก” เขื่อนว่าจบก็สบตากับคนที่ตัวเล็กกว่า ใบหน้าหวานกำลังขึ้นสีจัด บ่งบอกให้รู้ว่าเฟย์กำลังเขินมากแค่ไหน
“ทำไมเขื่อนพูดมากจัง _///_” เขินหนักมาก เฟย์หลุบตาลงต่ำ เธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายตรงหน้าจะปากหวานแบบนี้
ให้ตาย…แล้วบอกนี้เธอจะควบคุมหัวใจของตัวเองได้ยังไง
CHANGE
ซ่าซ่า
เสียงน้ำกระทบกับก้อนหินทั้งเล็กใหญ่ผสมกันจนดังก้องกังวาน ป๊อปปี้และลู่หานเดินมาตามแผนที่ที่ได้รับ เขาไม่รู้ว่าไอมิชชั่นบ้าๆนี่ต้องการให้เขาหาอะไรกันแน่ ถึงได้มาโผล่ที่น้ำตกได้ ฟางที่จับแขนป๊อปปี้มาตลอดทางก็เหลียวซ้ายแลขวา เมื่อพบนักเรียนอีกสองสามกลุ่มที่มาที่เดียวกันกับเขา
“ฉันว่าตรงนี้ถูกแล้วล่ะป๊อป แต่…ครูให้เรามาหาสมบัติอะไรกันอ่ะ ที่น้ำตกเนี่ยนะ” ฟางมองปลายทางเบื้องหน้า เสียงน้ำจากที่สูงไหลลงไปด้านล่างจนเกิดเสียง น้ำตกตรงนี้เป็นที่สูงและไม่ค่อยมีคนไปเล่น อาจจะมีบ้างแต่ก็มีน้อยนิด
“เดี๋ยวเราเดินไปทางนี้แล้วก็คงเจอไอสมบัติบ้าๆนั่นสักที” ป๊อปปี้เอี้ยวตัวไปทางซ้าย แต่ก็ถูกมือเล็กนั่นเขย่าแขนเหมือนต้องการให้เขาหันไปสนใจ ฟางชี้ไปยังน้ำตกด้านหน้าแล้วพูดขึ้น
“ป๊อปฉันว่าเราไปทางนี้ดีมั้ยอ่ะ ทำไมคนอื่นเขาไปทางนั้นกันหมดเลย” ฟางชั่งใจมองไปยังกลุ่มเด็กนักเรียนที่เดินข้ามน้ำตกไปอีกฝั่งกันหมด เว้นแต่เขาสองคนที่จะไปอีกทาง ยังไงซะถ้าไปพร้อมๆกับคนอื่นคงจะปลอดภัยกว่าไปกันแค่สองคน
“…พวกนั้นคงไปเล่นน้ำกันมากกว่า ไม่เห็นรึไงตรงนั้นน่ะเป็นบ่อน้ำตกเล็กๆ คนส่วนใหญ่เขาก็เล่นน้ำกันทั้งนั้น ไปเหอะ” ป๊อปปี้ว่าจบก็เดินนำออกไปก่อน ที่เขารู้เพราะเขาก็เคยไปตรงนั้นมาเหมือนกัน และอีกอย่างที่เขาไม่อยากให้ฟางไปก็เพราะมันอันตราย อย่างที่บอกไปว่าน้ำตกตรงนั้นเป็นที่สูงถ้าตกลงไปล่ะก็คงไม่ดีแน่
“….”
ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ป๊อปปี้ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เมื่อจะเหลียวกลับไปมองด้านหลังด้วยความสงสัย ความคิดนั้นก็พลันหายไปทันทีที่เกิดมีเสียงร้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนของนักเรียนคนอื่นๆ
“เห้ย!คนตกน้ำ!!!!”
“ป๊อปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป!!!!!!!!”
ตู้ม!!!!!!!
ขายาวเร็วเท่าความคิด ป๊อปปี้ไม่รีรอทันทีที่ได้ยินเสียงเด็กพวกนั้น เขาวิ่งไปยังน้ำตกอย่างชำนาญ มองออกไปตรงน้ำตกที่มีกระแสน้ำเชี่ยวกราด ร่างเล็กที่ร้องขอความช่วยเหลือทำเอาใจเสีย ป๊อปปี้ไม่รีรอเขากระโดดลงน้ำโดยไม่คิด รู้แค่ว่าเขาต้องไปช่วยฟาง ต้องช่วยผู้ชายคนนั้น ถ้าปล่อยไว้ล่ะก็..เขาคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่
ตู้ม!
ร่างทั้งร่างตกลงไปในน้ำกันทั้งคู่ หากแต่กระแสน้ำตกไหลเชี่ยวจนร่างทั้งสองอยู่ห่างกันมาก ฟางดำผุดดำว่ายท่ามกลางเกลียวคลื่นที่กระทบกันเข้ามาตลอดเวลา ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ ป๊อปปี้เองที่คอยส่งเสียงตะโกนบอกอีกคนอยู่ห่าง
“ฟาง!..โขดหิน!..ข้างหน้า!” ป๊อปปี้เองก็ไม่ได้ต่างกันทั้งๆที่ตัวเองก็ใช่ว่าจะไหว แต่ก็ยังคงส่งเสียงตะโกนแบบนี้ตลอดทาง
“ป๊อปปี้! อึก!” ตะโกนเรียกอีกคนแต่ก็กินน้ำเข้าไปหลายอึกจนอิ่ม ฟางที่เชื่อฟังป๊อปปี้อย่างดีเหมือนเขารู้ว่ายังไงป๊อปปี้ก็คงไม่ปล่อยให้เขาต้องเป็นอันตรายแน่ จึงได้แค่รอโขดหินที่เขาจะสามารถจับได้ง่ายๆและมันต้องแข็งพอ
เมื่อทั้งสองร่างไหลตามกระแสน้ำไปได้สักพักใหญ่ ก็เหมือนมีโชคช่วยเมื่อเห็นโขดหินที่พอจะแข็งแรงอยู่เพียงแค่เอื้อม ฟางเห็นอย่างนั้นจึงรีบตะเกียดตะกายไปทางกิ่งไม้ตรงหน้าอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ขวับ!
“อ๊ะ!” เพียงแค่ได้เกาะโขดหินนั้นคนตัวเล็กก็เหมือนได้ที่ทรงตัวและสามารถหยุดรออีกคนได้อย่างดี ฟางรอบมองดูป๊อปปี้ที่กระแสน้ำพัดมาทางเขาพอดิบพอดี เพียงแค่นิดเดียวที่มือยาวๆของเขาทั้งสองจับกันโขดหินก็เริ่มลื่นมากขึ้นไป
ผลุ้บ!
“ฟาง!” เมื่อเห็นร่างเล็กที่เริ่มถูกกระแสน้ำพัดไปอีกรอบ แขนยาวๆของป๊อปปี้ก็รวบเอวบางเข้าแนบอกทันทีที่อีกคนพลัดตกลงมาในเวลาที่เขาอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม
“ป๊อป…” ทันทีที่ฟางแหงนหน้ามองอีกคนที่ช่วยเขาสำเร็จ รอยยิ้มบางก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานแม้จะเปียกไปด้วยน้ำ แต่ยังไงเขาก็ดีใจที่ฟางปลอดภัย ป๊อปปี้รวบเอวบางไว้แน่นเกรงว่าอีกคนจะหลุดออกไปอีกครั้ง
แค่เห็นฟางปลอดภัย…เขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วล่ะ
CHANGE
“นี่ไอ้โรคจิต! นี่นายจะไปไหนของนายเนี่ย!ฉันเดินจนเมื่อยหมดแล้ว! ถามจริงนี่นายมั่วป่ะวะ แล้วไหงมาอยู่กันแค่สองคนงี้ล่ะห้ะ! ไหนบอกชำนาญไงถ้านายพาฉันหลงล่ะก็..”
“โอ้ยยยยย!!!! เงียบสักทีดิวะยัยเสาไฟฟ้า ก็เพราะเธอเสียงดังแบบนี้ไง!ฉันเลยไม่มีสมาธิอ่ะ!”
โทโมะตอกกลับไปยังแก้วที่บ่นตั้งแต่เดินเข้ามาในนี้แล้ว โทโมะไม่รู้หรอกว่าไอสมบัติอะไรนั่นมันอยู่ที่ไหนบ้างแต่ตามที่เขาตามแผนที่มาล่ะก็..ก็คงอยู่แถวนี้แหละ ถ้ามองไปรอบๆแล้วมันก็มีแค่เขาสองคน มันก็คงเป็นอย่างนั้นเพราะจู่ๆเขาก็มาออกป่าได้นี่
“นายแน่ใจหรอว่ามาถูกทางอ่ะ แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ในป่าได้!เดินไปเดินมาจนฉันคิดว่าเดินกลับมาทีเดิม..” ว่าแล้วคนตัวสูงที่เดินนำก็หยุดกึกอยู่กับที่..
“…เราต้องไปทางนี้” เมื่อแน่ใจแล้วขายาวๆก็เตรียมตัวเดินออกไปถ้าไม่ติดอยู่ที่แก้วกลับส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอีกครา
“ไม่! ฉันไม่เชื่อนายหรอกโทโมะ! นายบอกแบบนี้มากี่ครั้งแล้วอ่ะ!” แก้วพูดอย่างเอาแต่ใจ เชิดหน้าแล้วยืนกอดอกใส่คนตัวสูง
“เธอแค่ตามฉันมาก็แค่นั้น…หรือถ้าเธอไม่เชื่อฉันล่ะก็!ไปตามทางของเธอเลย แต่ถ้าหลงป่าเมื่อไหร่ล่ะก็ฉันจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลยคอยดู” โทโมะว่าจบก็กลับหลังแล้วเดินต่อไปด้านหน้า แอบขำเล็กน้องเมื่อเห็นดวงตาคู่มลที่กำลังสั่นระริก คงกลัวว่าเขาจะทำอย่างนั้นจริงๆแน่
ความจริงโทโมะก็แค่แกล้งเล่นเท่านั้นเอง เพราะเขารู้ว่าแก้วน่ะ..ไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายแน่
“นี่เธอกลัวที่ฉันพูดเมื่อกี้หรอ 55555 ไม่อยากเชื่อเลยว่ะ” ว่าแล้วก็เดินต่อไป หากแต่คนตัวสูงต้องชะงักเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ อีกทั้งความรู้สึกโหวงเหวงด้านหลังของเขาก็ทำเอาใจสั่นระรัว
“…”
“แก้ว” เรียกชื่ออีกคนเพื่อความแน่ใจว่ายังอยู่ด้วย แต่ไม่…ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาอย่างเคย หัวใจของเขากำลังทำงานอย่างหนัก ค่อยๆหันหลังกลับมาดูอีกคนที่คาดว่าจะตามมาด้วย เพียงแค่นั้นความว่างเปล่าที่บ่งบอกว่าเขากำลัง…คิดผิด
“เธอนี่จริงๆเลย!..แก้ว!” โทโมะยีหัวตัวเองเพื่อคลายอารมณ์โมโหของตัวเอง ขายาวที่จะก้าวไปยังปลายทางต้องวนกลับไปที่เดิมอีกครั้งด้วยความเร็ว
ว่าแล้วคนตัวสูงก็วิ่งกลับมาที่เดิมซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่ามันคือที่เดิมหรือที่ไหนกันแน่..โทโมะไม่ได้ชำนาญเรื่องการเข้าป่าก็แค่เคยเข้ามาบ้างสองสามครั้ง
“นี่เธอ! เธอไม่ฟังฉันเองนะแก้ว!อยู่ไหนน่ะห้ะ!” เดินไปพลางตะโกนเรียกชื่อของอีกคนไปด้วย หวังแค่ว่าอาจจะมีเสียงตอบกลับมาบ้าง แต่ก็มีเพียงแค่เสียงสัตว์ในป่าที่ส่งเสียงคลายความเงียบเพียงแค่นั้น
“แก้ว!เธออยู่ไหนวะ!อย่าอวดเก่งมากจะได้มั้ย! ออกมา!” ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่โทโมะก็ยิ่งเป็นห่วงอีกคนมากขึ้นเท่านั้น แต่ความพยายามของเขาจะไม่จบลงแค่นี้ ขายาวๆยังคงก้าวต่อไปทั้งๆที่ตอนนี้เขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าอยู่ส่วนไหนของป่านี้กันแน่
“อ๊ากกกกก!!!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่โทโมะยืนอยู่ เพียงไม่นานที่เขาจะวิ่งออกไปตามต้นเสียง
“แก้ว! ได้ยินฉันมั๊ย!” วิ่งไปเรื่อยๆ ในเวลานี้เขาควรจะเจอแก้วได้แล้ว แค่เสียงเขาก็จำได้ว่านั่นคือเสียงของใคร
“ยัยหมาบ้า! ฉันไม่ตลกนะเว้ย! ฉันอยู่นี่เธอได้ยินมั๊ย!!! ” ตะโกนเหมือนคนบ้า ในอกมันแน่นไปหมด..เขาเหมือนตัวเองกำลังจะตาย หัวใจเต้นรัวแรงจนน่ากลัว
เพียงไม่นานที่ชานยอลมาหยุดอยู่ด้านหลังคนตัวเล็กที่ค่อยๆถอยหลังมาเรื่อยๆ จนชนเข้ากับแผงอกกว้าง เหมือนคนขี้กลัวจะรู้ว่าชนเข้ากับใครเข้า เขาไม่รีรอที่จะถามหรือหันไปให้ความสนใจ แต่ตอนนี้ที่เขาอยากทำมากที่สุดคือไปให้พ้นสัตว์ที่อยู่ด้านหน้า
พรึ่บ!
ไม่ได้รู้ว่าอีกคนจะตกใจแค่ไหนที่ตัวเองกระโดดขี้หลังอีกคนด้วยความกลัว แก้วในตอนนี้เกาะอยู่บนหลังของคนตัวสูงด้วยความกลัวกับสิ่งตรงหน้า
“อะไรๆ ไหน มันอยู่ไหน” โทโมะมองไปด้านหน้าอย่างกล้าๆกลัว เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าสัตว์นั้นมันอันตรายแค่ไหน ไม่แน่อาจจะเป็นเสือหรืองูก็ได้ทั้งนั้น
“บนต้นไม้…” แก้วชี้ไปยังต้นไม้ด้านหน้าทั้งๆที่ยังคงหลับตาปี๋ ไม่กล้าแม้แต่จะมองเลยสักนิด
“ตรงไหน..งูหรอ” โทโมะจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แถวต้นไม้ที่อีกคนว่า
“กิ้งก่า..มันน่ากลัวมากเลยนะ TT”
“นี่!นี่เธอกลัวอะไรกะอีแค่กิ้งก่าเนี่ยนะ?!” โทโมะเบะปากพูดอ่างเอือมๆ คำตอบที่ได้จากแก้วคือพยักหน้าเบาๆแต่น้ำตาของคนบนหลังก็เปื้อนแผ่นหลังเขาแล้วเช่นกัน
โทโมะผ่อนลมหายใจออกมา โล่งอกไปหน่อยที่แก้วไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาจึงได้แค่แบกอีกคนที่ยังคงขี่หลังเขาเป็นที่พักพิงไปเสียแล้ว โทโมะเดินมาเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าตอนนี้มาอยู่ตรงไหนแล้ว สิ่งที่เขาสนใจคือแก้วที่กำลังฝันหวานอยู่บนหลังเขานี่แหละ
“อวดเก่งนักนะ…” ว่าแล้วก็มองเสี้ยวหน้าของคนบนหลังด้วยใบหน้าง้องุ้มเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
“….”
“แต่ก็ดีแล้วล่ะ…ที่เธอไม่เป็นอะไร”
“…”
“เธอคงจะหัวเราะฉันแน่ ถ้ารู้ว่าตอนนั้น ฉัน…เป็นห่วงเธอมากแค่ไหน” พูดแล้วอมยิ้มน้อยๆ หัวใจของเขามันกำลังเต้นรัว เขาไม่รู้ว่าอีกคนจะได้ยินเขาบ้างมั้ย แต่มันคงจะดีถ้าแก้ว
“รู้ได้ไง…ว่าฉันจะหัวเราะนาย”
ขายาวหยุดอยู่กับที่ทันทีที่แก้วพูดขึ้นกลางคัน โทโมะรีบปรับสีหน้าของตัวเองให้ปกติที่สุด ก่อนจะหันไปชักสีหน้าให้คนบนหลังอย่างเซ็งๆ
“เธอแกล้งฉันหรอ”
เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมาจากคนบนหลัง แก้วเอี้ยวใบหน้าของตัวเองไปหาใบหน้าคมที่หันมาพอดี ณ เวลานั้นทั้งสองหน้าใกล้กันมากที่สุด ไม่มีเสียงใดเอ่ยประโยคต่อมา อาจเป็นเพราะบรรยากาศหรือไม่ก็สายตาคู่นั้นที่เขาไม่สามารถละได้
“ขอบใจนะ..ที่กลับมาหาฉัน” เอ่ยออกไปทั้งๆที่ดวงตาคู่สวยยังคงจับจ้องกันอย่างเดิม รอยยิ้มหวานค่อยๆเปื้อนใบหน้าของคนตัวเล็ก
โทโมะมองดูรอยยิ้มนั้นแล้วหัวใจก็แทบจะทะลักออกมาเสียให้ได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่แก้วจะยิ้มแบบนี้ให้เขา และโทโมะก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นด้วย
“ทีหลังก็อย่าอวดเก่งให้มาก..เพราะฉันไม่ได้ช่วยเธอได้ตลอด”
“เป็นห่วงฉันอ่ะดิ..” ไม่ว่าเปล่านิ้วเรียวแตะที่ปลายจมูกของอีกคนอย่างนึกสนุก แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มขี้เล่นของโทโมะส่งกลับมา
“หึ อยากให้เป็นห่วงปะล่ะ” ถามกลับไปบ้าง ใบหน้าหวานเบี่ยงสายตาไปทางอื่นแทนเมื่อเห็นสายตาเจ้าเล่ห์นั่น ยังไม่รวมรอยยิ้มขี้เล่นที่ทำเอาใจสั่นไหวอีก
“ไโรคจิต..เดินต่อไปเลยนะ!” แก้วชี้ไปด้านหน้าแล้วเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว ต้องคอยเม้มปากตัวเองไม่ให้หลุดยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าโทโมะออกตัวเดินต่อไปแก้วเลยได้แต่อมยิ้มกับตัวเอง เหลียวตามองเสี้ยวหน้าของอีกคนที่เขาไม่เคยได้เห็นใกล้ๆแบบนี้
ดูไปแล้วไอโรคจิต ก็หล่อเหมือนกันนะ…
ขอโต๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด -^- หายไปแสนนานจนบางคนคงคิดว่าไรต์คงไม่แต่งแล้ว5555 จริงๆก็คิดอยู่แหละเพราะไม่ค่อยมีเวลาเลย แต่ก็นะเห็นแก่ส่วนรวมมากว่าส่วนตน ถถถถ อัพแล้วก็เม้นกันเหมือนเดิมนร้าาา
ตอนหน้าสปอยหวานๆจ้าาา
“..ทำไมยังไม่นอน” ป๊อปปี้ถามกลับบ้าง
“คือ..ความจริงแล้วฉัน…ฉัน…”
“อะไร ทำไมไม่พูด”
“ฉันขอกอดนายหน่อยได้มั้ย”
พอเถอะ55555555 รอค่ะรออออออ 5555 ขอบคุณงับ ><
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ