C H A N G E .
เขียนโดย Omoji
วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
20) เช้งค์ยี่สิบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCHANGE 20
“ฉันขอกอดนายหน่อยได้มั้ย” ดวงตาเล็กที่เคยลอกแลกตอนนี้กลับกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคนตรงหน้าอีกครั้ง
ฟางไม่รู้ว่าคำตอบจากอีกคนคืออะไรรู้แค่ว่าแรงกระตุกมุมปากตรงหน้าพร้อมๆกับแขนยาวๆที่ยกขึ้นแล้วโอบรอบกายบางก่อนจะดึงเข้ามาแนบกับอกแกร่ง
“…”
“…ขอบคุณนะ” ฟางเอื้อมแขนของตัวเองกอดป๊อปปี้กลับเช่นเดียวกัน แรงกอดที่แนบแน่นกว่าครั้งไหนๆ
ป๊อปปี้วางศีรษะตัวเองบนศีรษะเล็กแขนอีกข้างที่วางกลายเป็นหมอนของคนตัวเล็กโดยปริยาย
อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้จัง…
เฟย์เดินกลับมาพร้อมๆกับเขื่อนที่อยู่ข้างๆ ตั้งแต่ออกตามหาเพื่อนสนิทและฟาง เขาก็ไม่ยังไม่ได้นอน ก็เพราะตอนนี้ทุกคนกลับมาหมดแต่มีรายงานที่แจ้งมาว่าเพื่อนอีกสองกลุ่มได้หายไป กลุ่มหนึ่งตกน้ำและอีกกลุ่มหลงป่า ซึ่งเฟย์แน่ใจว่าสองกลุ่มนั้นคือกลุ่มของแก้วและกลุ่มของป๊อปปี้
“ป่านนี้สองกลุ่มนั้นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ แก้วยิ่งเป็นคนเอาแต่ใจอยู่ด้วย” น้ำเสียงอ่อนที่เอ่ยขึ้นเพราะความเป็นห่วง
“เมื่อไหร่ที่มีไอป๊อปกับไอโมะ ฟางกับแก้วจะไม่เป็นไรแน่” เขื่อนที่ปลอบใจเฟย์อยู่ข้างๆ
“เราก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้น แต่เขื่อนไม่เหนื่อยบ้างหรอ มากับเราแบบนี้”
“ไม่เหนื่อยหรอก มีเฟย์อยู่ข้างๆฉันไม่เหนื่อยอยู่แล้ว”
“…” ร่างบางเผยยิ้มกว้าง ไม่อยากจะคิดอะไรเลยจริงแต่มันก็ทำยากเหลือเกิน เธอขอใช้เวลาที่มีค่านี้กับคนตรงหน้าซะยังจะดีกว่า
“เฟย์ไปนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้สี่คนนั้นก็คงกลับมา” เขื่อนจับไหล่เฟย์แล้วลูบเบาๆเหมือนช่วยผ่อนคลายไม่ให้คิดมาก ถึงอย่างนั้นสีหน้าของเฟย์ก็ยังคงเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัดอยู่ดี
“เราจะพยายามนะ…”
CHANGE
“อื้อออ” เสียงใหญ่ดังขึ้นอย่างงัวเงีย โทโมะค่อยๆปรือตาขึ้นมาเพราะแสงแดดที่ยีตา รู้สึกหนักๆที่แขนเหมือนใครมานอนทับ เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว
แก้วที่นอนแนบกายของเขานิ่ง อยากตะโกนด่าออกไปแต่ก็กลัวว่าจะรบกวนนิทราอันแสนหวานของอีกคน ที่รู้ได้ก็เพราะใบหน้าหวานที่เปื้อนรอยยิ้มบางๆนั้นคงฝันดีสิท่า
“…”
“เงียบแบบนี้..ยังน่ามองกว่าเยอะ” ดวงตาคมจดจ้องแก้วที่นอนแนบอกไม่ลดละ มือหนาที่ค่อยๆยกขึ้นเกลี่ยผมหน้าม้าของอีกคนเบาๆเคลื่อนลงต่ำไปลูบแก้มเนียนอย่างลืมตัว
“อื้ออ” เสียงหวานดังขึ้น โทโมะหลับตาลงแทบไม่ทัน ได้ยินเสียงงัวเงียของอีกคนเหมือนหมาน้อยเพิ่งตื่นนอน แก้วคงไม่รู้ว่าเขากำลังกลั้นขำสุดๆ
“…”
“โทโมะ…ห้ะ!...เดี๋ยวนะ..ไอโรคจิตตตตต!!!!!!!!!!!!!!” แก้วสะดุ้งตัวออกห่างแทบจะกระโดดออกเหมือนโทโมะเป็นตัวอันตรายอย่างนั้น ทันทีที่เสียงร้องของแก้วดังขึ้นเหมือนเรียกสติให้โทโมะที่(แกล้ง)หลับตื่นขึ้น
“อะไรวะ เสียงดังว่ะ” แกล้งทำเป็นเหมือนเพิ่งตื่นเช่นกัน ทั้งๆที่ตัวเองตื่นก่อนอีกคนแล้ว
“นายมากอดฉันหรอ!” นิ้วเรียวชี้หน้าอีกคนอย่างคาดโทษ
“ใคร..ฉันหรอ? ฉันเนี่ยนะ? ฉันไปนอนกอดเธอ? เธอเองไม่ใช่รึไงที่เขยิบเข้ามาใกล้ฉันแล้วคิดว่าฉันเป็นหมอนข้างรูหนอนของเธอน่ะห้ะ” เบะปากพูด
“หมอน..ข…ข้าง ร…รู…หนอนหรอ” แก้วอยากจะเขกกบาลตัวเองสักร้อยรอบ ไปพูดอะไรที่หน้าอายแบบนั้นได้ไง แล้วยิ่งเป็นไอโรคจิตอีก
ให้ตายเถอะ!
“อะไร…ไม่กล้าเถียงฉันเลยอะดิ 555555 ป่ะๆเราต้องไปหาทางออกอีก” โทโมะว่าแล้วก็หยัดตัวเองให้ลุกขึ้นเต็มความสูง ปัดกางเกงที่เปื้อนดินให้ออก ไม่ลืมที่จะส่งมือไปช่วยแก้วที่ยังคงทำหน้าข่มใจ
“ไม่ต้อง!ไปไกลๆฉันเลยนะ!” แก้วปัดมืออย่างไม่แยแส ก่อนจะลุกขึ้นเองแต่สายตากลับไม่กล้ามองอีกคนเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากสำหรับแก้ว! เหลียวตาไปมองคนตัวสูงที่รอบยิ้มอยู่คนเดียวสงสัยคงขำเขาล่ะสิท่า เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงกระทืบเท้าเดินนำหน้าไปก่อน
“จะไปไหนของเธอ เราต้องไปทางนี้..ไปทางนั้นเดี๋ยวก็ได้เจอกิ้งก่าอีกหรอก” ว่าแล้วโทโมะก็ชี้ไปทางด้านขวา แก้วยืนนิ่งเหมือนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ตัดสินใจหันหลังกลับ แล้วเดินตัดหน้าอีกคนไปโดยไม่คิดจะสนใจอีกครั้ง
“หึ่ย!” แแก้วเดินออกไปอย่างหัวเสีย
“วิศวะ! จริญญา!” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังทั้งสอง ฝีเท้าจำต้องหยุดชะงัก คนทั้งสองหันไปตามเสียงเรียกชื่อตัวเอง
แก้วแทบอยากจะร่ำไห้ก็ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้อยู่ในชุดเครื่องแบบพร้อมๆกับอาจารย์ผู้ชายที่มาด้วยอีกคน ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งเข้าไปให้เจ้าหน้าที่อย่างรีบเร่ง
“พี่!ขอบคุณมากนะคะ!ดีใจจังอ่ะที่ได้เจอพี่ๆ!” ว่าแล้วก็เข้าไปเขย่าแขนอย่างขาดใจ
“ไม่เป็นไรๆ กลับกันเถอะ ทุกคนเป็นห่วงมากเลยนะ” เจ้าหน้าที่ป่าว่าแบบนั้นก่อนที่จะตบไหล่โทโมะและแก้วให้คลายความกังวล
ดวงตาคมของโทโมะเหลียวมองแก้วที่ยังคงยิ้มกว้างพร้อมๆกับตาตี่ๆที่ดูน่ารัก คนมองอย่างเขาก็อดยิ้มตามไม่ได้ แม้จะปากจัดแค่ไหนแต่แก้วก็น่ารักอยู่ดี นานวันเข้าความคิดของโทโมะที่อคติต่อแก้วก็เหมือนจะเริ่มลดน้อยลงไป ความจริงแล้วที่ผ่านมาใช่ว่าโทโมะจะเกลียดแก้วมากขนาดนั้น ก็แค่นึกหมั่นไส้ก็แค่นั้นเอง
“แก้วววววว” เฟย์รีบวิ่งกรูเข้ามาหาเพื่อนสนิทที่มาพร้อมๆกับเจ้าหน้าที่ป่า ข้างๆคือโทโมะที่ตามมาด้วย
“โอยยยย ฉันจะตายก็เพราะแกเนี่ยแหละเฟย์” เอ่ยออกไปแต่ในใจก็รู้สึกดีที่ได้กลับมาอย่างปลอดภัยแบบนี้
“555 ฉันดีใจที่แกไม่เป็นไรฉันเป็นห่วงแกจริงๆนะแก้ว”
“รู้แล้ว” แก้วกระตุกยิ้มน้อยๆกับท่าทางน่ารักของเฟย์ มองไปทางซ้ายคือภาพของโทโมะที่มีรอยฟกช้ำอยู่ตามตัวและใบหน้า แต่เขายังคงเผยรอยยิ้มให้เพื่อนสนิทที่มารับ พลันนึกถึงรอยยิ้มที่เธอเห็นเมื่อวาน…มันดูดีจริงๆนะ
“ไปกันเถอะ พี่ฟางอยู่บนห้อง นอนพักอยู่” เฟย์เอ่ยไป ก่อนจะจูงมือแก้วเดินตามไป
“พี่ฟางไม่สบายหรอ”
“อื้ม เมื่อวานพี่เขาตกน้ำน่ะ โชคดีที่ป๊อปปี้ไปช่วยได้เลยนอนพักอยู่ในป่าแถวๆนั้น” เฟย์พูดแล้วถอนหายใจ เมื่อเห็นสภาพของฟางเมื่อเช้าเช่นเดียวกัน
คนหน้าหวานมาพร้อมๆกับป๊อปปี้แต่ดูเหนื่อยล้ากว่ามาก หน้าสีแดงและตัวก็ร้อนมาก กลับมาก็เห็นป๊อปปี้ประคองร่างมาแล้ว
โชคดีไปหน่อย…ที่อยู่กับป๊อปปี้
CHANGE
“เป็นไงพวกมึง โลกเป็นสีชมพูเลยดิ” เขื่อนเอ่ยทักหลังจากกลับเข้ามาในห้อง
“ชมพูพ่อง” โทโมะแขวะกลับมา ก็แหมะตอนแรกกับแก้วยังดีๆกันอยู่แหละแต่พอวันกลับเนี่ยสิ ทะเลาะกันแบบน้ำไหลไฟดับกันอีกรอบ เวลาความสุขมันช่างสั้นอะไรแบบนี้
ป๊อปปี้ที่นั่งทำแผลให้ตัวเองหลังจากมีรอยขีดข่วนจากก้อนหินใต้น้ำ ใบหน้านิ่งที่ส่งผลให้เพื่อนสนิทมองด้วยความสงสัย หลังจากที่กลับมาจากป่าป๊อปปี้ก็ดูนั่งเหม่อไม่พูดไม่คุยกับใคร ทั้งโทโมะและเขื่อนที่มองดูเพื่อนสนิทแล้วถอนหายใจ
“เป็นไรวะไอป๊อป มึงดูแปลกๆไปนะ” เขื่อนถามขึ้นแล้วเขยิบไปนั่งข้างๆ
“เปล่า”
“มึงเป็นห่วง…ฟางหรอวะ” โทโมะถามกลับไปบ้าง เพียงแค่เอ่ยชื่ออีกคนมือหนาที่ทำแผลตัวเองก็หยุดชะงัก แล้วหันไปสบตากับโทโมะที่เป็นคนพูด
“เขาเป็นไงบ้าง” ถามออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว โทโมะกับเขื่อนมองหน้าเข้าหากันก่อนจะพยักหน้ารู้เรื่อง ว่าจริงๆแล้วป๊อปปี้กำลังเป็นห่วงฟาง แต่แค่ไม่แสดงออกเท่านั้นเอง
“เขานอนพักอยู่ที่ห้อง เห็นว่าตัวร้อนมาก เฟย์เพิ่งให้ยาแก้ปวดไปจนหลับไปแล้วว่ะ” เขื่อนพูดขึ้น ก่อนที่คนฟังจะพยักหน้าเข้าใจ
“กูไม่น่าปล่อยให้เขาคลาดสายตา..ถ้ากูไม่เห็นว่าเขาตกน้ำ ป่านนี้กูคงไม่ให้อภัยตัวเอง" ป๊อปปี้ว่าแล้วก็เบือนหน้าไปนอกหน้าต่างอีกครา ภายในใจของเขากำลังสับสน ตั้งแต่ที่ฟางออกจากป่า ฟางก็ตัวร้อนและนั่นยิ่งทำให้เขานึกโมโหตัวเอง
“เป็นห่วงเขามากขนาดนี้ ทำไมไม่ไปหาเลยวะ” เขื่อนพูดขึ้นแล้วตบบ่าป๊อปปี้เหมือนผลักไสให้เขาไปให้ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือการส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“กูไม่อยากไปหาเขา…กูไม่อยากให้มันเลยเถิดไปมากกว่านี้”
“เลยเถิด? มึงหมายความว่าไงวะไอป๊อป” โทโมะถามขึ้นบ้าง ริมฝีปากหนาของป๊อปปี้กระตุกขึ้นเหมือนให้ยอมรับความจริง หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับปะปนไปด้วยความเจ็บปวดเช่นเดียวกัน
“กูไม่ควรรู้สึกดีไปมากกว่านี้…กูไม่อยากให้ฟางเป็นตัวแทนมายด์”
ก่อนอื่นเลย ไรท์ต้องกราบขอโทษรีดเดอร์ทุกคนค่ะ ที่เว้นการอัพเกือบเดือน ความจริงช่วงนี้ไรท์ไม่ว่างเลยแม้แต่วันเดียวแล้วตั้งแต่วันที่ 5-10 ไรท์ก็ไปต่างประเทศ ทำให้ขาดการอัพระยะยาว ช่วงก่อนไป คิดไว้แล้วว่าจะอัพให้สักสองถึงสามตอนแต่เวลาไม่อำนวย ไรท์ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเป็นกองภูเขา หนำซ้ำยังต้องเรียนพิเสดเลิกดึก พอกลับมาก็เคลียร์การบ้านงานค้าง มันเลยยากมากที่จะหาเวลามาอัพลงให้
รู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดมากๆ แต่ที่อยากขอบคุณจากใจเลยก็คือคนที่ยังติดตามและเม้นบอก วันนี้เป็นวันแรกที่เข้าเว็บเพื่ออัพลงจากหายไปนานหลายอาทิตย์ ดีใจที่ยังมีคนคอยสนับสนุนอยู่ ต่อจากนี้ไรท์ก็ขอบอกเลยว่าไรท์ไม่สามารถสัญญากับรีดเดอร์ได้ว่าจะอัพลงวันไหน แต่ยังอยากให้รอกันค่ะ จะพยายามหาเวลามาอัพลงไห้บ่อยที่สุด
ตอนนี้แต่งเรื่องใหม่เอาไว้อยากให้ทุกคนช่วยซัพพอร์ตหน่อยนร้าา ^^ ก็กำลังแต่งอยู่ก็แหวกแนวจากที่เคยแต่งมาเหมือนกัน ฝากติดตามกันด้วยนร้าา
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ