Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.
แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) - Begins To Change - ( เริ่มเปลี่ยนแปลง )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- Begins To Change -
( เริ่มเปลี่ยนแปลง )
หกโมงครึ่ง
บ้านโทโมะ
“แก้ว พ่อว่าจะถามตั้งแต่เรากลับบ้านและ ปากเรากับขาไปโดนอะไรมา”
กึก!
หลัง จากที่ฉันกำลังก้มหน้าก้มตาทานข้าวอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับโทโมะ พ่อจากที่คุยๆอยู่กับลุงอากิโอะกับน้ามาซากิก็ถามขึ้นมาจนฉันไม่ทันตั้งตัวแต่ก็เงยหน้าขึ้นไปมองพ่อที่นั่งอยู่ข้างๆ
โอยตายยยยยย ถามแบบกะทันหันแบบนี้จะตอบว่าอะไรดีเนี่ย >_<?!
“คือ...”
ตอน นี้ฉันเริ่มกดดันหน่อยๆเพราะทุกคนละสายตาจานอาหารมาสนใจที่ฉันกันหมด โทโมะเองก็เช่นกัน เขามองฉันนิ่งๆเหมือนกับว่าเขาคงอยากจะรู้ล่ะมั้งว่าฉันจะตอบพ่อยังไงกันแน่ เพราะเขารู้เรื่องนี่นาว่าฉันโดนอะไรมา
อ่า...ให้ตาย Y_Y
“นั่นสิหนูแก้ว ไปทำอะไรมาปากถึงได้แตกแบบนั้น” น้ามาซากิถามอย่างเป็นห่วง
“คือ...วันนี้แก้วเดินสะดุดล้มน่ะค่ะ ปากกระแทกหัวเข่าถลอก แต่ก็ไปทำแผลที่ห้องพยาบาลเรียบร้อยแล้วตอนนี้ก็ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แล้วค่ะ ^^” ฉันตอบไปแบบเนียนๆเพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต
“วันหลังก็เดินระวังๆหน่อยนะลูก ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากไปกว่านี้”
“พี่แก้วซุ่มซ่ามอ่ะ ฮ่าๆๆ ^O^”
“พิชชี่ = =!” ฉันหันไปดุพิชชี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ และพยายามไม่สบตากับโทโมะที่กำลังมองมา
ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่แต่...สิ่งที่ฉันพูดไป ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหก แต่ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วงเพราะว่ามันไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับฉันมาก่อน เลยจนกระทั่งวันนี้ บอกตรงๆนะว่าฉันไม่สบายใจเลยที่จะอยู่ใกล้ๆโทโมะ เพราะว่าฉันไม่อยากมีเรื่องกับพิมพ์อีก
แต่อย่างว่า...ก็เราเป็นเพื่อนบ้านกัน การเจอกันบ่อยๆคงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร
แล้วก็เมื่อเย็นนี้...ฉันกับโทโมะไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว มันเกิดความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน และโทโมะก็ไม่มีท่าทีว่าจะพูดกับฉันเหมือนเมื่อตอนกลางวันพอกลับมาถึงบ้านลุงอากิโอะก็ชวนมาทานข้าวด้วยกัน ฉันไม่ได้พูดอะไรกับโทโมะบนโต๊ะอาหารถึงแม้พ่อกับลุงอากิโอะจะพยายามชงเราต่างๆนาๆ ก็ตาม = =;;;;
เราต่างคนต่างเงียบ...ซึ่งฉันว่ามันแปลกๆยังไงไม่รู้แต่ก็ช่างเหอะ! คนอย่างโทโมะน่ะไม่มีทางเดาความรู้สึกออกอยู่แล้วนี่อย่างทีฟางเคยบอกกับฉันว่าเขา‘ลึกลับเดาใจยาก’
“จะว่าไปแล้วลุงก็มีเรื่องอยากจะถามหนูนะแก้ว ^^”
“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองลุงอากิโอะที่กำลังมองมายิ้มๆ
“ลุงถามพ่อหนู พ่อหนูบอกว่าหนูไม่เคยมีแฟนเลยเหรอลูก?”
“อ่อ...ไม่เคยค่ะ =//////=” ฉันตอบเสียงอายๆพลางก้มหน้าลงนิดๆ
ลุงอากิโอะนึกยังถึงถามแบบนี้นะเนี่ย ><//////
“จริงป๊าวววว”
“จริงสิวะ ลูกฉันเกิดมายังไม่เคยพูดถึงผู้ชายสักคน ><” พ่อฉันพูด
“แก้ว โทโมะยังก็โสดนะลูก ^^”
“แน่ะ! พ่อก็แซวโทโมะกับแก้วจริงๆเลยนะ”
น้ามาซากิตีไหล่ลุงอากิโอะไปทีนึงที่ลุงอากิโอะพูดชงฉันกับโทโมะอีกแล้ว แล้วบรรยากาศของฉันกับโทโมะเริ่มแปลกๆขึ้นมาฉันเลยขอตัวเอาจานไปล้างก่อนจะเดิน ออกไปนั่งเล่นข้างนอกบ้านที่มีเก้าอี้ไม้หินอ่อนไว้ให้นั่งชมพระจันทร์ซึ่ง มันอยู่ตรงหน้าบ้านโทโมะพอดีเลย แถมยังเต็มดวงซะด้วย
พอนั่งไปสักพักหนึ่งเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นมาพอฉัน หยิบออกมาดูเบอร์ก็พบว่าเป็น...
+ Fang +
“ฮัลโหลว่าไงฟาง” ฉันกดรับก่อนจะพูดทักไปยังปลายสาย
[ แก้วพรุ่งนี้วันเสาร์ว่างป่าว O_O?] ฟางถาม
“ว่างๆไม่ได้ไปไหน ปกติฉันก็อยู่บ้าน”
[ ถ้าว่างไปโรงเรียนเป็นเพื่อนฉันหน่อยจิ ]
“ไปทำอะไรอ่ะ”
[ อ๋อ จะเอารายงานเข้าแถวไปส่งอาจารย์ที่ห้องพักครูอ่ะดิปังปอร์นมันกลับบ้านต่างจังหวัดเสาร์ – อาทิตย์แล้วมันดั๋นนนนน ลืมเอาส่งให้อาจารย์เมื่อวาน เลยวานให้ฉันเอาไปส่งให้อ่ะดิ =[]=;;;]
“เออจริงสิ! พรุ่งนี้ฉันต้องเอาชุดนักเรียนไปคืนคลอรีนด้วยนิ คลอรีนบอกว่าพรุ่งนี้คลอรีนอยู่โรงเรียน”
ฉัน พูดขึ้นมาเพราะนึกขึ้นได้พอดีว่าคลอรีนบอกว่าค่อยเอาชุดมาคืนเธอพรุ่งนี้ และเธอคงจำเป็นต้องใส่ ฉันเองก็เกรงใจเธอนะที่ให้ฉันยืมใส่ ฉะนั้นใส่เสร็จก็รีบเอาไปคืนเลยดีกว่าจะได้ไม่ลืม ( คือฉันเป็นคนขี้ลืมกระปิดกระปอยน่ะ = =;;; )
[ งั้นดีเลยยยยยย พรุ่งนี้แกไปกับฉัน แล้วเดี๋ยวฉันพาเอาชุดไปคืน เค๊?]
“อื้ม แล้วใส่ชุดอะไรไปอ่ะ ต้องนักเรียนป๊ะ?”
[ ไม่ต้องหรอก โรงเรียนเราไม่เคร่งครัดขนาดนั้น ฮ่าๆๆ เออ! พรุ่งนี้เตรียมตังไปด้วยนะ เดี๋ยวแวะไปเที่ยวไปดูหนังกัน ^O^// ]
“เรื่อง?”
[ ไม่รู้อ่ะ ค่อยไปเลือกเอาทีหลัง ]
“อื้ม โอเค เจอกัน ^^” ฉันพูดแล้วยิ้มๆก่อนจะถามฟางอีกรอบ “แล้วนี่ รู้บ้านฉันมั้ยเนี่ย?”
[ โหย ยยยย ฉันเนี่ยฟางนะเว้ยยยยย มีที่ไหนไม่รู้บ้านเพื่อน ฉันเตรียมแผนที่ไว้เรียบร้อยเดี๋ยวประมาณ 10 โมงไปรับหน้าบ้าน รับรองตรงเวลาไม่มีขาดไม่มีเกิน ฮ่าๆๆๆ ]
“อ่ะจ้า ^O^”
[ บายๆๆๆ ]
“บาย...”
ติ๊ด!
“อะฮึ่ม”
กึก!
ขวับ!
ฉัน หันไปมองเสียงกระแอมเบาๆที่ดังมาจากด้านหลังก็พบว่าโทโมะกำลังถือกล่องนมจืด อยู่สองกล่องแล้วมองมาทางนี้ เขามองฉันขณะที่เดินมาเงียบๆแล้วมานั่งลงข้างๆ เอิ่มมมมม เก้าอี้ไม้หินอ่อนตัวนี้มันไม่ได้ยาวเลยนะ เพราะว่าโทโมะนั่งลงข้างๆฉันมันก็เกือบเต็มแล้ว
หรือสรุปง่ายๆเลยคือ...เรานั่งใกล้จนไหล่ติดกันแล้ววววววววว >//////////<
“อ่ะ” โทโมะพูดแล้วยื่นกล่องนมจืดมาให้ฉันกล่องหนึ่ง ฉันมองหน้าเขากลับกล่องนมสลับกันจนโทโมะต้องพูดต่อ “นมจืดไม่ใช่ยาพิษ เธอกลัวอะไร = =!”
“เราไม่ได้ว่าอะไรสักคำ...แต่ก็...ขอบคุณนะ” ฉันรับกล่องนมจืดมา โทโมะก็หันไปเขย่าๆกล่องนมของตัวเองก่อนจะเจาะหลอดดูด ฉันเองก็ทำเหมือนกัน
“ไปขอบคุณแม่ฉันดีกว่า เพราะแม่บอกว่าให้เอามาเผื่อเธอด้วย”
โธ่! ฉันก็ไม่ได้คิดว่านายจะตั้งใจเอามาให้ฉันเองหรอกนะ ชิ! - ^ -!
ว่าแต่...โทโมะเขาออกมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านนานเท่าไหร่แล้วนะ แล้วเขาได้ยินที่ฉันคุยกับฟางเมื่อกี้รึปล่าว? เพราะ ฉันสังเกตจากกล่องนมจืดว่าเหมือนมันถูกเอาออกจากตู้เย็นมาสักพักแล้วนะ เพราะน้ำตรงกล่องมันละลายไหลลงมา ติ๊งๆๆถ้าโทโมะมายืนอยู่นานแล้ว เขาก็คงจะได้ยินแหละ
แต่ก็ช่าง! เพราะโทโมะคงไม่ได้สนใจหรอกว่าฉันจะคุยกับใครนี่นา...
“ทำไมไม่บอกความจริงกับพ่อเธอไปว่าเธอไปโดนอะไรมา”
คำ ถามนั้นทำเอาฉันเงียบไปสักพักก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆเพราะมันเหมือนกับว่า ความอึดอัดมันเริ่มก่อตัวอยู่ข้างในกับคำถามนั้น แต่แล้วฉันก็พูดบอกกับโทโมะไปตรงๆว่าเพราะอะไรฉันถึงไม่บอกความจริงกับพ่อไป
“เราไม่อยากให้พ่อรู้เพราะไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง” ฉันพูดโดยไม่ได้มองโทโมะ
“...”
“ตั้งแต่เกิดมาเราก็เพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เองกับตัว ถ้าพ่อรู้ท่านต้องเป็นห่วงเราจนเครียดแน่ๆ...”
“...”
“...”
“ได้จักรยานรึยัง” โทโมะเริ่มพูดก่อนหลังจากที่เราเงียบกันไปสักพัก
“ยังเลย พรุ่งนี้คงได้”
น่าแปลกที่โทโมะถามแบบนั้น ฉันไม่รู้ทำไม เพราะฉันสามารถพูดได้แบบปกติไม่ค่อยเกรงเหมือนแรกๆเท่าไหร่แล้ว คงอาจเป็นเพราะว่าโทโมะเริ่มบทสนทนาเพื่อคลายความอึดอัดก่อนล่ะมั้ง เพราะฉันเองก็ไม่ค่อยเก่งเรื่องชวนคุยก่อนส่วนใหญ่จะชอบให้มีคนถามอะไรก่อน หรือชวนคุยก่อนมากกว่า
หลัง จบคำพูดนั้นฉันกับวีนั่งกินนมจืดเงียบๆกันอยู่สองคนส่วนในบ้านพวกผู้ใหญ่เขา ก็กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เพราะฟังได้จากเสียงเฮฮา
ฉันไม่รู้ว่าที่เรานั่งเงียบกันแบบนี้เพราะไม่มีจะอะไรที่จะต้องพูดกันหรือ ว่ามันมีแต่ไม่อยากจะพูดกันแน่นะ
‘ ได้จักรยานรึยัง ’
แค่ คำถามธรรมดาคำถามเดียวทำไมฉันจะต้องรู้สึกแปลกๆกับมันด้วยนะ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าหลังจากวันจันทร์หน้าฉันคงไม่ได้เดินกลับกับโทโมะ เหมือนสองวันที่ผ่านมาแล้วล่ะมั้ง?
ที่น่าดีใจสำหรับฉันคือได้ลูกรักจักรยานคันโปรดกลับคืนสู่บ้านแล้ว ฮิ้ววววววว แต่ไม่รู้สิมันก็แอบเสียใจนิดๆนะที่จะไม่ได้เดินกลับบ้านพร้อมโทโมะ แต่...ก็ดีแล้วนี่ ใช่มั้ย? ฉันจะได้ไม่ต้องไปใกล้ชิดกับเขาจนหวั่นไหวไปมากกว่านี้แถมยังปลอดภัยสำหรับหัวใจตัวเองอีกด้วย
แต่ถึงแม้พยายามจะคิดแบบนั้นในใจฉันก็ยังคงเหวงๆอยู่ดี...
ประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ
“...”
“...”
“ปกตินายนอนดึกแบบนี้ทุกคืนเลยเหรอ?”
ฉันถามขึ้นมาขณะที่กำลังนั่งดูหนังอยู่กับโทโมะแล้วก็พิชชี่ที่บ้านของเขา ตอนที่โทโมะออกมานั่งข้างนอกสักพักพิชชี่ก็วิ่งออกมาบอกโทโมะว่าเลือกหนังที่อยากจะดูได้แล้วโทโมะเลยไปเปิดให้พิชชี่ดูในห้องรับแขกแล้วก็ให้ฉันนั่งดูด้วยกันจนตอน นี้หนังก็ใกล้จะจบแล้ว เพราะเรานั่งดูกันมาตั้งแต่สองทุ่มกว่าๆ
ส่วนพ่อก็กลับบ้านไปตั้งแต่ตอนนั้นแหละ ลุงอากิโอะก็บอกว่าให้ดูให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับบ้านก็ได้เพราะพิชชี่ก็ทำท่า ง้องแง้งอยากจะอยู่กับโทโมะ โทโมะเห็นเย็นชาๆแบบนี้น่ะเล่นกับพิชชี่อย่างกับเป็นพี่น้องกันแท้ๆเลยนะจะบอก ให้
“ฉันไม่ค่อยชอบนอน ถึงนอนก็กึ่งหลับกึ่งตื่น”
พอโทโมะพูดจบหนังก็จบพอดีเลย ฉันเห็นจึงหันไปจะสะกิดพิชชี่ว่าให้กลับบ้านกันแต่...
“ZzzZzz...”
“พิชชี่ พิชชี่...” ฉันเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นสงสัยคงจะหลับจริงๆสิน่า = =;;;
“หลับแล้วเหรอ”
โทโมะ ที่เพิ่งลุกไปปิดทีวีหันมาถามฉันขณะที่เดินมาดูว่าพิชชี่หลับครอกไปแล้ว ฉันพยักหน้าแล้วก็จับพิชชี่อุ้มขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขนพลางลูบหัวพิชชี่ไปด้วย เพราะกลัวว่าพิชชี่จะตื่นขึ้นมา
“เรากลับก่อนนะ” ฉันพูดแล้วยิ้มให้โทโมะนิดๆแล้วทำท่าจะเดินออกมา แต่โทโมะเรียกไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว”
“??? อะไรเหรอ?” ฉันถามเมื่อโทโมะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“เดี๋ยวฉันไปเปิดรั้วบ้านให้ เธอเดินไปแบบนี้คงเปิดเองลำบาก”
โทโมะ พูดแล้วเดินนำออกไปพิชชี่ที่กำลังหลับปุ๋ยก็เขยิบหัวมาซบที่ไหล่ของฉันเบาๆ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนแม่อุ้มลูกเลยยังไงก็ไม่รู้สิ ฮ่าๆๆ ( แล้วใครเป็นพ่อล่ะแก้ว >///////< )
“หลับง่ายจริงๆเลยนะน้องเธอเนี่ย”
“พิชชี่ก็เป็นแบบนี้แหละ ^^” โทโมะเปิดประตูรั้วเสร็จก็หันมาพูดกับฉัน ฉันก็พูดแล้วขำออกมานิดๆ ก่อนจะเดินผ่านเขาไปแต่ก็ยังคงไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณ “ขอบคุณนะ”
“เรื่อง?”
“ก็...ทุกเรื่อง”
“...อืม เข้าบ้านแล้วก็ล็อคบ้านให้ดีตอนจะนอน...” ดูเหมือนว่าคำหลังโทโมะกำลังจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็ชะงักไว้
“...”
“...ก็...ห่มผ้าให้น้องชายเธอด้วย จะได้อุ่นๆ”
“อื้ม”
ฉันพยักหน้า แต่วินาทีนั้นตอนที่หันหลังเดินไปเข้าบ้านตัวเอง ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนๆอุ่นๆยังไงก็ไม่รู้สิ ‘...ก็...ห่มผ้าให้น้องชายเธอด้วย จะได้อุ่นๆ’ไม่รู้ทำไมคำพูดนั้นของโทโมะทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาเฉยเลย
เฮ้ๆๆๆๆ เขาบอกให้ฉันห่มผ้าให้พิชชี่ไม่ได้บอกให้ตัวฉันเองสักหน่อยจะเขินทำไมเนี่ยยยยยย >//////< เฮ้อ...รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
อีกฝั่ง
ปึง...
โทโมะ ปิดประตูบ้านของเขาเข้ามาก่อนจะจัดการล็อคแล้วก็กดปิดไฟหน้าบ้าน แล้วก็ทำท่าว่าจะเดินขึ้นห้องไป แต่ระหว่างที่เขากำลังสังเกตของในบ้านไปด้วยว่าเก็บอะไรเรียบร้อยแล้วรึยัง สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือของใครก็ไม่รู้วางอยู่บนโซฟาหน้าทีวี
‘ โทรศัพท์พ่อเหรอ?’
แต่ ถึงแม้โทโมะจะคิดแบบนั้นแต่...เขาจำได้ว่านั่นไม่น่าจะใช่โทรศัพท์ของพ่อเขา แน่ๆ เลยเดินไปหยิบมาดูแล้วกดเลื่อนเปิดหน้าจอจนพบว่าโทรศัพท์นั้นไม่ใช่ของพ่อ จริงๆ
แต่เป็นของ...แก้ว!
ที่โทโมะรู้ว่าเป็นของเธอเพราะว่ารู้หน้าจอเป็นรู้ที่เธอถ่ายกับฟางสองคนแล้วยิ้มกันอย่างมีความสุข...
“ยัยนั่นลืมไว้เหรอเนี่ย” โทโมะ พูดกับตัวแล้วทำท่านึกแต่ก็ทำท่าว่าจะเดินไปเปิดประตูแล้วเอาโทรศัพท์ไปคืน แก้วแต่ทว่า...โทโมะก้มลงมองโทรศัพท์นั้นอีกครั้งเหมือนกับคิดอะไรซักอย่าง “...ค่อยคืนพรุ่งนี้ดีกว่า”
พูด จบโทโมะก็เดินขึ้นบันไดไปยังห้องของตัวเอง แต่ก็เอาโทรศัพท์ของแก้วไปด้วยกะว่าพรุ่งนี้ค่อยเอาไปคืน เขาเดินขึ้นมาจนถึงห้องของตัวเองแล้ววางโทรศัพท์ของแก้วไว้บนโต๊ะคอม
ฟิ้ว...
ลมหนาวที่พัดเข้ามาทางผ้าม่านของประตูที่เปิดออกไปก็จะเป็นระเบียงไว้ให้คุย กับคนอีกฝั่งได้อย่างสบายๆ เช่นว่า ปีนข้ามฟากไปหากันก็ยังได้เลย เห๋อ เห๋อ
โทโมะกะว่าจะเดินไปปิดประตูกระจกใสที่ถูกเปิดค้างไว้ให้ลมมันเข้ามาแต่พอเดินไป ผ้าม่านที่ถูกลมพัดเข้ามามันก็ทำให้วีเห็นว่า‘คนอีกฝั่ง’ยังไม่นอน อ่าห้ะ! แก้วเพิ่งจะเดินเปิดประตูเข้าห้องมาแล้วก็เปิดไฟจนเห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียวว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
โทโมะ ซึ่งไม่อยากให้แก้วเห็นว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่เขาเลยดึงผ้าม่านมาบังตัว ไว้เล็กน้อย แก้วที่มัวแต่เอามือตบปากหาวๆก็ไม่ได้สังเกตว่ามีคนกำลังแอบมองอยู่
“สงสัยจะมีการบ้าน”
โทโมะ พูดแล้วหัวเราะอยู่ในลำคอ ตอนที่เขาแอบมองแก้วที่กำลังเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงโต๊ะทำงานของตัวเองแล้ว หยิบกองหนังสือขึ้นมาท่าทางจะเป็นการบ้านที่เยอะเอาการเลยนะนั่นน่ะ
“ขยันเกิ๊น!...อุบ!”
ดู ท่าทางว่าโทโมะจะลืมตัวว่ากำลังแอบมองแก้วอยู่จึงเผลอพูดเสียงดังออกไป และด้วยความที่เพิ่งนึกได้จึงรีบเอามือปิดปากตัวเองไว้ได้ทัน และดูเหมือนว่าคำพูดของโทโมะเมื่อกี้จะทำให้แก้วได้ยินแว๊บๆหรืออย่างไรเธอจึง หันขวับมาทางนี้แต่คงไม่เห็นโทโมะหรอก
แก้วทำหน้างงๆจนโทโมะแน่ใจได้เลยว่าเธอคิดว่าตัวเองหูฝาดไปแน่ๆ แต่สุดท้ายคงจะคิดว่าเสียงนั้นเป็นเสียง ‘บางอย่างลี้ลับ’ = =;;;; แก้วเลยเดินออกมานอกระเบียงแล้วจัดการปิดประตูกระจกใสอย่างกล้าๆกลัวเพราะนี่ มันดึกมากแล้วจากนั้นเธอก็รูดผ้าม่านปิดจนโทโมะไม่สามารถมองเห็นเธอได้อีก
“เสียงฉันเหมือนเสียงผีขนาดนั้นเลยเหรอวะ เห๊อะ! ยัยทึ่มเอ๋ยยยย” โทโมะพูดพลางหัวเราะแล้วส่ายหัวหน่อยๆ
เขาเดินมาหยิบโทรศัพท์ของแก้วบนโต๊ะคอมก่อนจะนั่งลงบนเตียงของตัวเองจาก นั้นเขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูแล้วล้มตัวลงนอนกดเลื่อนดูโน่นนี่แบบสบายๆ มันอาจจะเสียมารยาทแต่...ถ้าเขาไม่บอกใครจะรู้ล่ะว่าเขาแอบดู? ( อีโทโมะร้ายยยยย ><!! )
“ถ่ายอะไรนักหนาเนี่ย”
โทโมะเขาจะรู้ตัวมั้ยนะว่าตัวเองเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นรูปแก้วที่ดูเหมือนว่า ฟางจะเอาโทรศัพท์แก้วไปเล่นแล้วแอบถ่ายรูปของแก้วไว้ตอนทีเผลอละมั้งเพราะ แต่ละรูปและดูว่าแก้วนั้นจะไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองโดน‘แอบถ่าย’
แต่ว่าแต่ละรูปนั้นไม่ใช้รูปภาพทุเรศๆฮาๆนะ อย่าได้คิดเช่นนั้น ไม่เอาๆ ฮ่าๆๆๆๆ^O^//
“หือ?”
โทโมะงงนิดๆเมื่อเลื่อนดูๆรูปไปเพลินๆก็พบว่ามีรูปตัวเองอยู่ในโทรศัพท์ของแก้วด้วย เขาขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างงงๆว่าแก้วมีรูปเขาได้ยังไงกัน มันเป็นรูปภาพตอนที่เขากำลังเดินกลับบ้านพร้อมเธอในตอนเย็นแล้วแก้วเดินตาม หลัง ถึงแม้ว่าจะเป็นรูปที่โทโมะกำลังเดินหันหลังให้แก้วอยู่
มันก็ทำให้โทโมะเริ่มรู้สึก‘แปลกๆ’ว่าแก้วถ่ายเก็บว่าทำไมกัน...ใช่! บางทีเธออาจจะถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย แต่ว่าภาพนี้มันเจาะจงถ่ายโทโมะชัดๆเลย
โทโมะ ไม่อยากจะคิดอะไรมากไปกว่านี้เลยเอาโทรศัพท์ของแก้วไว้ใต้หมอนอีกใบหนึ่ง ที่อยู่ข้างๆแล้วพยายามข่มตาหลับ แต่มันก็ไม่หลับเพราะว่าเรื่องรูปถ่ายนั่น โทโมะนอนพลิกตัวตะแคงไปอีกทางแล้วก็หันไปเห็นเจ้าตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆนั่นเขาจึง หยิบมันมาดู
ความคิดของเขาวกวนว่า ‘ทำไมแก้วอยากจะซื้อตุ๊กตาอีกตัวที่เป็นคู่กับตุ๊กตาตัวนี้?’และ ‘คุณยายถูกชะตาอะไรกับเธอถึงได้ให้ตุ๊กตาตัวนั้นกับแก้ว’สุดท้ายก็เรื่อง ‘รูปภาพโทโมะ’
ให้ตายเถอะ...มันคงเป็นเรื่องบังเอิญใช่มั้ย?
' เฮ้ย...ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตอ่ะ บางคนเราอยู่เฉยๆเขาก็มาเองแบบจงใจ บางคนเราก็เข้าไปหาเขาเองโดยไม่มีเหตุผล หรือไม่! บางคนที่เข้ามาในชีวิตของเราโดยบังเอิญก็อาจจะเป็นพรหมลิขิตส่งมาก็ได้’
คำพูดนั้นของป๊อปปี้ดันวนเข้ามาอยู่ในหัวโทโมะจนโทโมะต้องสั่นหัวของตัวเองเบาๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่นะ?
“มันคง...เป็นแค่เรื่องบังเอิญ...”
_______________________________________________
อัพแล้วนะเม้นโหวตให้ไรต์หน่อยนะค่าา ว่าแต่แก้วถ่ายรูปโทโมะไว้ทำไมกัน?
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ