Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา
9.6
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.
43 chapter
860 วิจารณ์
67.60K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) - Heart Palpitation- ( ใจที่สั่นระรัว )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- Heart Palpitation -
( ใจที่สั่นระรัว )
สักพักต่อมา...
ฉันเดินตามโทโมะมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปากทางเข้าหมู่บ้านพอดี ฉันไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองรึปล่าวเพราะตลอดทางที่เดินกลับ โทโมะเหมือนจะชะลอการเดินตลอดเวลาเหมือนๆกับจะให้ฉันเดินให้ทันเขาหรืออย่างไร
เอ่อ...คือฉันไม่อยากคิดไปเองและก็เข้าข้างตัวเองหรอกนะแต่มันรู้สึกได้ จริงๆนะ
กึก!
ไม่ รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใดโทโมะถึงได้หยุดเดินแล้วหันมามองฉันก่อนที่เขาจะถอน หายใจออกมาเหมือนไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่ ( อะไรของเขาอีกเนี่ย? ทำไมชอบทำหน้าตาหงุดหงิดกับฉันอยู่เรื่อยเลย ฉันไปทำอะไรให้? = =;;; )
“นะ...นายหยุดเดินทำไมเหรอ O_O?”
“ขอถามอะไรหน่อย”
โทโมะ พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆและแลดูจริงจังแต่นั่นทำให้ฉันเกิดอาการกลัวหน่อยๆ เพราะไม่พูดปล่าวโทโมะยังเดินเข้ามาหาฉันช้าๆจนฉันต้องถอยออกมาจากเขาก้าวหนึ่ง เพื่อไม่ให้ใกล้จนเกินไป
แต่นั่นเหมือนทำให้โทโมะหงุดหงิดกว่าเดิมเสียอีกโดยการสาวเท้าเข้ามาหา โดยที่ฉันไม่ทันตั้งด้วยอีกแล้ว แถมยังมาคว้ามือฉันให้เขาไปหาเขาใกล้ๆอีกต่างหากจนฉันตกใจกว่าเดิมกับการ กระทำของเขา
หมับ!
เฮือก!
O//////O!!
“...”
“จะ...จะทำอะไร”
ฉัน ถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆพลางมองไปรอบๆว่ามีใครอยู่แถวนี้มั้ย เพราะถ้าเกิดโทโมะทำอะไรฉันขึ้นมาจะได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเลยสักคน! มันเงียบเชียบไปหมดเลย ขนาดใบไม้ยังไม่กระดิกสักใบลมก็ไม่พัด หลอนนะเนี่ย! >O<!
“เธอ...” โทโมะเริ่มมีสีหน้าที่จริงจังเมื่อกระตุกข้อมือฉันว่าให้สนใจเขาในสิ่งที่เขาจะพูด ( ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย =[]=??? ) “...กลัวฉันจับกินรึไงฮะ?”
“หา?” ฉันพูดด้วยสีหน้างงๆ แต่โทโมะก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือฉันเลย
“เดินเร็วๆหน่อยได้มั้ยอุตส่าห์เห็นใจที่เห็นว่าขาเธอสั้นเลยเดินช้าๆให้เธอตามทันแต่สุดท้ายก็ยังช้าเหมือนเดิม - -!”
“แล้วนายจะมาสนใจทำไมเล่า นายก็เดินของนายไปสิ...”
“พ่อเธอฝากเธอไว้กับฉัน ขืนเดินห่างกันแบบนี้ ถ้าเธอโดนฉุดแล้วฉันไม่รู้ จะทำไง?”
แปลกแห๊ะ! หมอ นี่ถ้าเย็นชาก็แทบไม่พูดเลย แต่พอพูดทีนี่เป็นบ่นยาวเลยเหอะ ให้ตาย เขานี่ประหลาดอย่างที่เปาบอกจริงๆด้วย ตามจริงไอ้เรื่องเดินนี่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลยนะ
แต่หมอนี่นิ = =;;;;
“งั้นให้เราเดินไปก่อนมั้ย” ฉันออกความเห็น เพราะถ้าเขามีปัญหาที่ฉันเดินช้า ให้ฉันเดินไปก่อนเลยฉันจะได้เดินนำไปก่อน จะได้หมดเรื่อง!
แต่คำตอบทีได้คือ...
“ไม่ต้อง เดินไปด้วยกันนี่แหละ” โทโมะพูดพร้อมกับพาฉันเดินแต่เขายังไม่ปล่อยมือฉันเล้ย! นี่มันเป็นแผนแกล้งให้ฉันเขินอาย หรืออย่างไร ทำไมต้องจับมือด้วยเล่า เดี๋ยวก็มีคนเข้าใจผิดหรอก =////////=
“ตามจริงนายควรปล่อยมะ...”
“เงียบเหอะน่า”
โทโมะ พูดขัดขึ้นก่อนที่ฉันจะพูดจบ และจังหวะที่เราเดินเข้ามาจนถึงสวนหน้าหมู่บ้านฉันก็สังเกตเห็นว่ามีพวก กลุ่มวัยรุ่นในเครื่องแบบนักเรียนมัธยมโรงเรียนอื่นที่มารวมตัวอะไรกันไม่ รู้แล้วก็กำลังมองมาทางนี้
วินาทีนั้นโทโมะเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ทว่า...เขากลับจับมือที่จับมือฉันอยู่ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
ตึกตักๆๆๆๆๆ
ตอนนั้นรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนวาบแล้วก็มีเหงื่อซิบๆตรงหน้าผาก ด้วยนะ ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันเริ่มหายใจไม่ออก อาจจะเป็นเพราะว่าได้เดินกับคนที่ตัวเองกำลังชอบเขาอยู่ลางๆและมันก็เริ่ม มากขึ้นๆก็เมื่อตอนที่เขาจับมือฉันแล้ว
เราเดินกันมาจนถึงร้านขายน้ำโทโมะก็หยุดเดินแล้วหันมาถามฉันว่า...
“เอาน้ำอะไรรึปล่าว”
คำถามโทโมะทำฉันสตั๊นไปหนึ่งวิแต่ฉันก็ส่ายหน้าเป็นอันบอก‘ไม่เอา’
ฉันว่า...เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นาแค่เย็นชา ขี้เก๊ก ขี้บ่น หยิ่งบ้างในบางครั้ง ( นี่คือไม่เลวร้ายเท่าไหร่นะ = =;;; ) แต่ในโรงเรียนทำไมเขาต้องทำท่าทางหาเรื่องๆอย่างนั้นด้วยนะไม่เข้าใจเลย
“อ้าว วันนี้เดินกลับกับแฟนเหรอโทโมะ ^^”
ขวับ!
ฉัน หันไปตามเสียงนั้นก็พบว่าลุงคนขายน้ำพูดขึ้นขณะที่โทโมะกำลังจะจ่ายเงิน ลุงคนนั้นมองมาที่ฉันยิ้มๆ ฉันก็ยิ้มตอบไป และหันหน้าไปทางอื่นช้าๆเพราะรู้สึกว่าคำพูดของลุงคนนั้นทำให้ฉันทำตัวไม่ ถูกจนต้องกำมือสองข้างแล้วยืนตัวเกร็งเลยทีเดียว Y_Y
แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นฉันก็พยายามแอบฟังอยู่เหมือนกันว่าโทโมะจะตอบลุงคนขายน้ำนั้นว่าอะไร...
“แฟนน่ารักนะน่ะ”
“ไม่ใช่แฟนหรอกครับ เพื่อนบ้านกัน เธอเพิ่งย้ายเข้ามา”
อ่า...รู้สึกโล่งทันทีที่โทโมะตอบออกไป ไม่งั้นฉันคงอึดอัดอยู่แบบนี้แหละนะ บางทีถ้าอึดอัดมากๆก็จะเก็บไปฝันเอาได้เลยล่ะ = =;;;;
และ เมื่อฉันรู้สึกได้ว่าเสียงฝีเท้าของโทโมะกำลังเดินออกจากร้านมาฉันจึงทำตัวให้ ดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันไม่อยากให้เขาสังเกตเห็นว่าฉันกำลังรู้สึกแปลกๆอยู่
“ไม่ต้องกังวลนะว่าฉันจะคิดอะไร” คำพูดของโทโมะทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยความสงสัยนิดๆ และโทโมะก็หันมามองฉันพร้อมกับคำพูดต่อไป “ฉะนั้น...เธอสบายใจได้เลย”
เมื่อ โทโมะพูดจบเขาก็เดินไปเลยและปล่อยให้ฉันยืนมองแผ่นหลังที่กำลังเดินไกลออกไป คำพูดนั้น...เฮ้อ...ฉันควรจะเสียใจมั้ยนะเพราะไม่รู้จริงๆ โทโมะเดินห่างออกไปแล้วทิ้งความเงียบงันไว้ให้ฉันแล้วดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจ กันอีกเลย
“เราก็ไม่ได้หวังเลยสักนิด...” ฉันพูดกับตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา เพราะคำพูดฉันโทโมะไม่มีทางได้ยินหรอกเพราะเขาเดินห่างไปพอสมควรแล้ว จากนั้นแหละฉันจึงเริ่มเดินตามไป
‘ ไม่ต้องกังวลนะว่าฉันจะคิดอะไร...ฉะนั้น...เธอสบายใจได้เลย’
คำ พูดขวานผ่าซากของเขานั้นทำให้ฉันหมดหวังไปเรียบเลย โทโมะเขาทำเหมือนไม่รู้ แต่ฉันว่าเขารู้แน่ๆเพราะท่าทางเขาฉลาดหลักแหลมสุดๆ เขาต้องมองออกถึงแม้ฉันไม่พูดว่าฉันกำลังรู้สึกอะไร เขาเลยพูดเข้าตรงจุดเหมือนกับตัดความคิดของฉันไปเลย
เมื่อฉันเดินมาจนถึงหน้าบ้านของตัวเองและกำลังจะเข้าบ้าน สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นว่าโทโมะกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หินอ่อนหน้าบ้านของเขา และเมื่อเขาเห็นฉันเดินมาถึงหน้าบ้านแล้วเขาก็เดินไปเปิดประตูแล้วก้าวเข้า บ้านของตัวเองไปอย่างไม่พูดอะไร ส่วนฉันเองก็ก้มหน้าก้มตาไขกุญแจเข้าบ้านไปเช่นกัน...
วันต่อมา...
“เมื่อวานหมอนั่นทำอะไรแกรึปล่าว?”ฟางถามทันทีที่ฉันมาถึงโรงอาหารโต๊ะประจำที่นั่งกินข้าวด้วยกัน ทุกครั้งที่มีเรียนสายเราจะมาเจอกันที่นี่ก่อน
เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเลยทั้งคืนมันกึ่งหลับกึ่ง ตื่นไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร พลิกตัวนอนไปมันก็ไม่หลับเลย ใบหน้าโทโมะมันยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์เมื่อวานมันทำให้ฉันเก็บเอาไปคิดจริงๆจากที่ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้ มาก่อน
“ปล่าว ไม่ได้ทำอะไร” ฉันตอบฟางไปขณะนั่งลงฝั่งตรงกันข้าม
“แน่ใจนะ”
“แน่สิ เพราะมันไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่เราต้องคุยกันนี่นา” ฉันตอบฟางไปอย่างแนบเนียนฟางก็พยักหน้ารับ ตามจริงฉันก็อยากจะบอกนะว่าโทโมะทำอะไร แต่ไม่รู้สิ...มันเหมือนกับไม่อยากจะพูดออกมา “ฉันจะไปซื้อไอติม เอาด้วยป่าว?”
“เลี้ยงหรา ^O^”
“อื้ม ^^”
“เฮ้ย เลี้ยงจริงดิ O_o?”
“ก็จริงน่ะสิไม่เห็นแปลกเลย” ฉันพูดแล้วขำไปด้วยหน่อยๆ ดูท่าทางฟางจะแปลกใจที่มีคนเลี้ยงไอติม? แต่ก็น่ารักใช่ย่อยนะ ^^ “เอารสอะไรว่ามา”
“ขอช็อคโกแลต ขอบใจมากที่เลี้ยง ^^”
“ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนกัน ^^”
ฉัน บอกฟางก่อนจะเดินตรงไปยังร้านขายไอศกรีมที่อยู่ติดกับร้านขายเครื่องเขียน ของโรงเรียน ตอนนี้ก็มีนักเรียนกำลังทานข้าวกันอยู่เป็นกลุ่มๆและท่าทางดูวุ่นวาย เมื่อมาถึงร้านขายไอศกรีมฉันก็ยืนต่อแถวรอคิวที่ยาวพอสมควร
สักพักต่อมาจู่ๆก็มีคนมาสะกิดที่หัวไหล่ พอฉันหันไปก็พบว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นคนนั้นอีกแล้ว เขาชื่ออะไรนะ? จำได้ลางๆว่าตอนนั้นเขาบอกกับฉันว่าเขาชื่อ...มะ...อ๋อ!
“มะ…มิณท์”
“ฮ่าๆ นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว ^O^//” มิณท์พูดยิ้มๆแล้วใช้มือขยับแว่นของเขาให้เข้าที่
“มีอะไรเหรอ?”
“ปล่าวเราแค่ทักเฉยๆ”
มิณท์พูดแล้วเกาคอตัวเอง เขาขาวมากๆจนสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าหูของเขากำลังแดงแต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร ต่อเพียงแค่ยิ้มให้เขานิดๆ จากนั้นเราก็ไม่ได้พูด อะไรกันต่อจนกระทั่งฉันซื้อไอติมเสร็จแล้วฉันกำลังจะเดินกลับที่แต่มิณท์ บอกว่าให้รอเขาก่อนเพราะมีเรื่องจะคุยด้วย
“รอนานมั้ย?” เมื่อมิณท์ซื้อไอติมรสมะนาวเสร็จเขาเลยรีบวิ่งมาถามฉันที่ยืนรออยู่ตรงต้นเสาใกล้ๆ
“ไม่นานหรอก ว่าแต่...มีเรื่องอะไรจะคุยกับเราเหรอ?”
“เอ่อคือ...พรุ่งนี้วันเสาร์...เธอว่างมั้ย?”
“ว่าง ปกติเราอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”
“งั้นพรุ่งนี้...ถ้าเราจะชวนเธอไป...”
ฟิ้ว!
ตุ้บ!
มิณท์ยังพูดไม่ทันจบจู่ๆก็มีขวดน้ำที่ถูกปาผ่านหน้าของฉันกับมิณท์ไปตกลง ตรงถังที่อยู่ใกล้ๆเราสองคนจนฉันกับมิณท์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองต้นทางที่ขวดน้ำถูกปามาก็พบว่าคนที่ปาคงหนีไม่พ้นใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มที่ได้ ขึ้นชื่อว่า‘มีอิทธิพล’ที่สุดในโรงเรียนแน่ๆ
ใช่! พวกกลุ่มเคโอติคทั้งกลุ่ม ย้ำ! ทั้งกลุ่ม! กำลัง มองมาที่ฉันกับมิณท์ด้วยสีหน้าแววตาแปลกๆ ไม่เว้นแม้แต่โทโมะที่ก็มองมาด้วย ฉันเองก็ไม่ได้สังเกตว่าพวกนั่งอยู่ตรงนั้นเพราะคิดว่ารีบซื้อแล้วรีบกลับดี กว่า
แล้วทำไมวันนี้พวกเขาไม่นั่งที่ประจำของพวกเขาล่ะ?
“นายมีคนนั่งคนนั่งกินข้าวด้วยมั้ย...”
ไม่ รู้เป็นเพราะอะไรที่ทำให้มิณท์หน้าซีดแล้วไม่สดใสหลังจากที่ฉันหันกลับมา มองเขา ฉันจึงเอ่ยปากถามออกไป เหตุการณ์เมื่อกี้เหมือนทำนองหาเรื่องยังไม่รู้ ฉันเองก็ติดใจตั้งแต่วันนั้นแล้ว ที่ฉันเจอมิณท์ครั้งแรกแล้วกลุ่มเคโอติคถีบรถจักรยานจนล้มเป็นแถว
พวกเขาไม่พอใจอะไรมิณท์รึปล่าวนะ? ถ้าแค่ไม่ถูกชะตาก็ไม่เห็นต้องทำกันขนาดนี้เลยนี่นา
“เรา...”
“ถ้านั่นไปนั่งกับเราแล้วก็ฟางก็ได้นะ” ฉันพูดอย่างเป็นห่วง
“ขอบคุณนะแต่ไม่เป็นไรหรอก” ถึงเขาจะพูดแบบนั้นแต่ดูจากสีหน้าแล้วเป็นแน่ๆ “ไว้เราค่อยคุยกับเธอวันหลังนะ” พอพูดจบมิณท์ก็เดินออกไปเลย ฉันยืนมองเขาอยู่สักพักก่อนที่จะเดินกลับที่ไป
ท่าทางเขาแปลกๆนะ แลดูเขากลัวกลุ่มโทโมะมากๆเลย แต่ฉันเองก็ไม่พอใจเหมือนกันนะที่ฉันกำลังคุยกับมิณท์ยู่แล้วพวกนั้นปา ขวดน้ำผ่านหน้ามันแลดูจงใจมาก
กลุ่มเคโอติคไม่พอใจอะไรมิณท์ขนาดนั้นนะ...
“เป็นไรป่าวเนี่ยสีหน้าเซ็งมาเชียว” ฟางถามทันทีเมื่อฉันมาถึงที่โต๊ะ ฉันก็นั่งลงฝั่นตรงข้ามแล้วไอติมให้เปาก่อนจะถอนหายใจ
“รู้จักคนที่ชื่อมิณท์รึปล่าว"ฉันถามขณะมองฟางไปด้วย ฟางทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า
“รู้จักสิ หมอนั่นอยู่ห้อง 5/1 ทำไมเหรอ”
“คือฉันไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึปล่าว แต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยถูกกับกลุ่มบังโทโมะหรือว่ายังไงเลย”
“ทำไม ไปเห็นอะไรมา O_O?”
คราวนี้ฟางทำท่าเหมือนจะตกใจนิดๆ ฉันก็เลยเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอมิณท์กลุ่มเคโอติคทำอะไรจนมาถึงเหตุการณ์ที่โรงอาหารฟางจึงตัดสินใจเล่าให้ฉันฟัง
“มิณท์อ่ะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวเหมือนกับฉันเนี่ยแหละ คือ ไม่ค่อยมีเพื่อนเยอะ ถึงมีก็ไม่ผูกมัดอะไรทำนองนี้แต่ว่าเขาเป็นคนดีนะ เวลาไปไหนเท่าที่ฉันสังเกตเขาจะไปคนเดียวตลอดแถมเรียนเก่งขั้นเทพทำงานอะไร ก็ไม่เคยทำให้อาจารย์ผิดหวังถือว่าเขาเป็นผู้ชายเพอร์เฟคคนหนึ่งล่ะ อาจจะเป็นไปได้ว่าพวกเคโอติคคิดว่าเขาอยากโชว์ความเจ๋งละมั้งเลยหมั่นไส้”
“แต่มันต้องทำท่าทีหาเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย มันไม่เกินไม่หน่อยเหรอ”
“โรงเรียนนี้ไม่มีอะไรที่เกินไปสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะกับพวกเคโอติค”
อีกฝั่ง
“นี่ๆๆๆๆพวกแก๊! ฉันมีอะไรเด็ดๆมาให้พวกแกดูล่ะ><!”
“อะไรของแกเนี่ยจินนี่”
‘พิมพ์’สาวสวยลูกครึ่งอเมริกันผู้มีเรือนผมสีแดงละจากการมองใบหน้าอันสง่างามของเธอจากกล้อง I Phone สีทองของเธอมามองจินนี่ที่วิ่งมาด้วยสีหน้ารีบร้อนพร้อมกับคำพูดชวนลุ้นนั่น
“ถ้าไม่เด็ดแกตายแน่” ‘เฟื้องฟ้า’ สาว สวยเรือนผมน้ำตาลทองเริ่ดเชิดลูกครึ่งอังกฤษเอ่ยบอก
ขณะที่จินนี่ก็ตื่นเต้น จนเวอร์ ขณะที่โชว์รูปถ่ายในโทรศัพท์ให้พิมพ์กับพิ้งดู แล้วสองคนนั้นก็เบิกตากว้างทันทีที่เห็นมัน
“นี่มันอะไรเนี่ย!?!” >>> พิมพ์
“โทโมะเดินจับมือกับใครอ่ะ?” >>> พิ้ง
“บอกแล้วไงว่าเด็ด ^^”
“อีผู้หญิงในรูปคนนี้เป็นใครกัน? บอกมา!”
พิมพ์ตะโกนใส่หน้าจินนี่จนจินนี่สะดุ้งเพราะอาการแรงหึงและหวงโทโมะอย่างมาก! กลุ่มนี้น่ะจ้องจะจับเคโอติคทั้งกลุ่มแต่คนที่หมายตามีเพียง 1 เดียว และพิมพ์ก็ ‘จ้อง’ โทโมะไว้แล้วด้วยพอเห็นรูปนี้เธอถึงโมโหขึ้นมา
“ฉันถามคนที่รู้จักเขาบอกว่าเป็นเด็กใหม่ห้อง 5/2 ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว” จินนี่พูดอย่างกล้าๆกลัว
“ฉันว่าหล่อนก็หน้าตาไม่ได้ขี้เหร่อะไร บางทีโทโมะอาจจะควงเล่นๆเฉยๆก็ได้” เฟื้องฟ้าพูด
“แต่โทโมะไม่เคยควงใคร! เขาไม่เคยมีข่าวคบหรือควงใครเลยด้วยซ้ำ ถ้าจะควงหรือว่าคบ ฉันต้องเป็นคนแรก!”
“แต่ยัยนี่มันโดนควงก่อนแกซะแล้วสิ” เฟื้องฟ้าพูดแต่แฝงไปด้วยคำยุยงให้พิมพ์โมโหขึ้นไปอีก
“ฮึ่ย!...!!”
จังหวะ นั้นนั่นเองที่สายตาของพิมพ์ก็ดันไปสะดุดเข้ากับผู้หญิงหน้าไม่คุ้นตาคนหนึ่ง ที่กำลังลุกขึ้นสะพายเป้แล้วกำลังจะเดินออกจากโรงอาหารกับเพื่อนสาวอีกคน และเมื่อพิมพ์มองเทียบผู้หญิงคนนั้นในโทรสัพท์ I Phone ของจินนี่แล้ว
มันก็คือคนๆเดียวกัน!!!
“จินนี่ เฟื้องฟ้า ”
“ว่า?” จินนี่กับเฟื้องฟ้าพูดพร้อมกับพร้อมกับให้ความสนใจกับใบหน้าของพิมพ์ว่าเหมือนว่าคิดอะไรดีๆออกแล้วหน้าถึงได้เผยรอยยิ้มออกมา
“ยัยนั่นเป็นเด็กใหม่...ฉันว่า...เรามารับน้องใหม่กันซักหน่อยมั้ย?” พิมพ์พูดขณะที่สายตายังคงมองผู้หญิงที่เธอกำลังจะทำการ ‘รับน้องใหม่’ที่อยู่ไม่ไกลนัก จินนี่กับเฟื้องฟ้าก็มองตามสายพิมพ์ไปก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วยิ้ม
“จัดไปสิ” เฟื้องฟ้าว่า
“จินนี่ น้ำกระเจี๊ยบถ้าแกไม่เอาแล้ว...ฉันขอ!” พิมพ์พูดจบก็ลุงขึ้นจากเก้าอี้ตัวเองแล้วคว้าแก้วน้ำกระเจี๊ยบก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่เป้าหมายทันที
“งานนี้สนุกแน่” จินนี่กับเฟื้องฟ้าพูดก่อนจะลุกตามพิมพ์ไป
“แกว่าไงแก้วมันโอเคป๊ะ ฮ่าๆๆๆ”
“ก็โออยู่นะ ฮ่าๆๆน่ารักดี”
“เห้ยยย ประชดปล่าวเนี่ย เอาดีๆเด้ >O<//”
“นี่เธอ!”
ฉัน กำลังเดินคุยยิ้มๆกับฟางอยู่ขณะเดินออกจากโรงอาหาร จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเรียกไว้ พอฉันหันไปเธอคนนั้นก็เหยียดยิ้มให้ฉันแล้วมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะทำ ในสิ่งที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเพราะอยู่ๆเธอก็สาดน้ำกระเจี๊ยบที่อยู่ในมือเธอมาใส่หน้าฉันเต็มๆ!
ซ่า!!
“อุ๊ย! ตายแล้ว! Sorry มากๆนะ เผอิญว่า...ฉันตั้งใจ!”
________________________________________
ไรต์มาอัพแล้วฮ่ะ อยากให้อัพไวๆก็เม้น โหวตสักนิดน้าาา ><
( ใจที่สั่นระรัว )
สักพักต่อมา...
ฉันเดินตามโทโมะมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปากทางเข้าหมู่บ้านพอดี ฉันไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองรึปล่าวเพราะตลอดทางที่เดินกลับ โทโมะเหมือนจะชะลอการเดินตลอดเวลาเหมือนๆกับจะให้ฉันเดินให้ทันเขาหรืออย่างไร
เอ่อ...คือฉันไม่อยากคิดไปเองและก็เข้าข้างตัวเองหรอกนะแต่มันรู้สึกได้ จริงๆนะ
กึก!
ไม่ รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใดโทโมะถึงได้หยุดเดินแล้วหันมามองฉันก่อนที่เขาจะถอน หายใจออกมาเหมือนไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่ ( อะไรของเขาอีกเนี่ย? ทำไมชอบทำหน้าตาหงุดหงิดกับฉันอยู่เรื่อยเลย ฉันไปทำอะไรให้? = =;;; )
“นะ...นายหยุดเดินทำไมเหรอ O_O?”
“ขอถามอะไรหน่อย”
โทโมะ พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆและแลดูจริงจังแต่นั่นทำให้ฉันเกิดอาการกลัวหน่อยๆ เพราะไม่พูดปล่าวโทโมะยังเดินเข้ามาหาฉันช้าๆจนฉันต้องถอยออกมาจากเขาก้าวหนึ่ง เพื่อไม่ให้ใกล้จนเกินไป
แต่นั่นเหมือนทำให้โทโมะหงุดหงิดกว่าเดิมเสียอีกโดยการสาวเท้าเข้ามาหา โดยที่ฉันไม่ทันตั้งด้วยอีกแล้ว แถมยังมาคว้ามือฉันให้เขาไปหาเขาใกล้ๆอีกต่างหากจนฉันตกใจกว่าเดิมกับการ กระทำของเขา
หมับ!
เฮือก!
O//////O!!
“...”
“จะ...จะทำอะไร”
ฉัน ถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆพลางมองไปรอบๆว่ามีใครอยู่แถวนี้มั้ย เพราะถ้าเกิดโทโมะทำอะไรฉันขึ้นมาจะได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเลยสักคน! มันเงียบเชียบไปหมดเลย ขนาดใบไม้ยังไม่กระดิกสักใบลมก็ไม่พัด หลอนนะเนี่ย! >O<!
“เธอ...” โทโมะเริ่มมีสีหน้าที่จริงจังเมื่อกระตุกข้อมือฉันว่าให้สนใจเขาในสิ่งที่เขาจะพูด ( ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย =[]=??? ) “...กลัวฉันจับกินรึไงฮะ?”
“หา?” ฉันพูดด้วยสีหน้างงๆ แต่โทโมะก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือฉันเลย
“เดินเร็วๆหน่อยได้มั้ยอุตส่าห์เห็นใจที่เห็นว่าขาเธอสั้นเลยเดินช้าๆให้เธอตามทันแต่สุดท้ายก็ยังช้าเหมือนเดิม - -!”
“แล้วนายจะมาสนใจทำไมเล่า นายก็เดินของนายไปสิ...”
“พ่อเธอฝากเธอไว้กับฉัน ขืนเดินห่างกันแบบนี้ ถ้าเธอโดนฉุดแล้วฉันไม่รู้ จะทำไง?”
แปลกแห๊ะ! หมอ นี่ถ้าเย็นชาก็แทบไม่พูดเลย แต่พอพูดทีนี่เป็นบ่นยาวเลยเหอะ ให้ตาย เขานี่ประหลาดอย่างที่เปาบอกจริงๆด้วย ตามจริงไอ้เรื่องเดินนี่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลยนะ
แต่หมอนี่นิ = =;;;;
“งั้นให้เราเดินไปก่อนมั้ย” ฉันออกความเห็น เพราะถ้าเขามีปัญหาที่ฉันเดินช้า ให้ฉันเดินไปก่อนเลยฉันจะได้เดินนำไปก่อน จะได้หมดเรื่อง!
แต่คำตอบทีได้คือ...
“ไม่ต้อง เดินไปด้วยกันนี่แหละ” โทโมะพูดพร้อมกับพาฉันเดินแต่เขายังไม่ปล่อยมือฉันเล้ย! นี่มันเป็นแผนแกล้งให้ฉันเขินอาย หรืออย่างไร ทำไมต้องจับมือด้วยเล่า เดี๋ยวก็มีคนเข้าใจผิดหรอก =////////=
“ตามจริงนายควรปล่อยมะ...”
“เงียบเหอะน่า”
โทโมะ พูดขัดขึ้นก่อนที่ฉันจะพูดจบ และจังหวะที่เราเดินเข้ามาจนถึงสวนหน้าหมู่บ้านฉันก็สังเกตเห็นว่ามีพวก กลุ่มวัยรุ่นในเครื่องแบบนักเรียนมัธยมโรงเรียนอื่นที่มารวมตัวอะไรกันไม่ รู้แล้วก็กำลังมองมาทางนี้
วินาทีนั้นโทโมะเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ทว่า...เขากลับจับมือที่จับมือฉันอยู่ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
ตึกตักๆๆๆๆๆ
ตอนนั้นรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนวาบแล้วก็มีเหงื่อซิบๆตรงหน้าผาก ด้วยนะ ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันเริ่มหายใจไม่ออก อาจจะเป็นเพราะว่าได้เดินกับคนที่ตัวเองกำลังชอบเขาอยู่ลางๆและมันก็เริ่ม มากขึ้นๆก็เมื่อตอนที่เขาจับมือฉันแล้ว
เราเดินกันมาจนถึงร้านขายน้ำโทโมะก็หยุดเดินแล้วหันมาถามฉันว่า...
“เอาน้ำอะไรรึปล่าว”
คำถามโทโมะทำฉันสตั๊นไปหนึ่งวิแต่ฉันก็ส่ายหน้าเป็นอันบอก‘ไม่เอา’
ฉันว่า...เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นาแค่เย็นชา ขี้เก๊ก ขี้บ่น หยิ่งบ้างในบางครั้ง ( นี่คือไม่เลวร้ายเท่าไหร่นะ = =;;; ) แต่ในโรงเรียนทำไมเขาต้องทำท่าทางหาเรื่องๆอย่างนั้นด้วยนะไม่เข้าใจเลย
“อ้าว วันนี้เดินกลับกับแฟนเหรอโทโมะ ^^”
ขวับ!
ฉัน หันไปตามเสียงนั้นก็พบว่าลุงคนขายน้ำพูดขึ้นขณะที่โทโมะกำลังจะจ่ายเงิน ลุงคนนั้นมองมาที่ฉันยิ้มๆ ฉันก็ยิ้มตอบไป และหันหน้าไปทางอื่นช้าๆเพราะรู้สึกว่าคำพูดของลุงคนนั้นทำให้ฉันทำตัวไม่ ถูกจนต้องกำมือสองข้างแล้วยืนตัวเกร็งเลยทีเดียว Y_Y
แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นฉันก็พยายามแอบฟังอยู่เหมือนกันว่าโทโมะจะตอบลุงคนขายน้ำนั้นว่าอะไร...
“แฟนน่ารักนะน่ะ”
“ไม่ใช่แฟนหรอกครับ เพื่อนบ้านกัน เธอเพิ่งย้ายเข้ามา”
อ่า...รู้สึกโล่งทันทีที่โทโมะตอบออกไป ไม่งั้นฉันคงอึดอัดอยู่แบบนี้แหละนะ บางทีถ้าอึดอัดมากๆก็จะเก็บไปฝันเอาได้เลยล่ะ = =;;;;
และ เมื่อฉันรู้สึกได้ว่าเสียงฝีเท้าของโทโมะกำลังเดินออกจากร้านมาฉันจึงทำตัวให้ ดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันไม่อยากให้เขาสังเกตเห็นว่าฉันกำลังรู้สึกแปลกๆอยู่
“ไม่ต้องกังวลนะว่าฉันจะคิดอะไร” คำพูดของโทโมะทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยความสงสัยนิดๆ และโทโมะก็หันมามองฉันพร้อมกับคำพูดต่อไป “ฉะนั้น...เธอสบายใจได้เลย”
เมื่อ โทโมะพูดจบเขาก็เดินไปเลยและปล่อยให้ฉันยืนมองแผ่นหลังที่กำลังเดินไกลออกไป คำพูดนั้น...เฮ้อ...ฉันควรจะเสียใจมั้ยนะเพราะไม่รู้จริงๆ โทโมะเดินห่างออกไปแล้วทิ้งความเงียบงันไว้ให้ฉันแล้วดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจ กันอีกเลย
“เราก็ไม่ได้หวังเลยสักนิด...” ฉันพูดกับตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา เพราะคำพูดฉันโทโมะไม่มีทางได้ยินหรอกเพราะเขาเดินห่างไปพอสมควรแล้ว จากนั้นแหละฉันจึงเริ่มเดินตามไป
‘ ไม่ต้องกังวลนะว่าฉันจะคิดอะไร...ฉะนั้น...เธอสบายใจได้เลย’
คำ พูดขวานผ่าซากของเขานั้นทำให้ฉันหมดหวังไปเรียบเลย โทโมะเขาทำเหมือนไม่รู้ แต่ฉันว่าเขารู้แน่ๆเพราะท่าทางเขาฉลาดหลักแหลมสุดๆ เขาต้องมองออกถึงแม้ฉันไม่พูดว่าฉันกำลังรู้สึกอะไร เขาเลยพูดเข้าตรงจุดเหมือนกับตัดความคิดของฉันไปเลย
เมื่อฉันเดินมาจนถึงหน้าบ้านของตัวเองและกำลังจะเข้าบ้าน สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นว่าโทโมะกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หินอ่อนหน้าบ้านของเขา และเมื่อเขาเห็นฉันเดินมาถึงหน้าบ้านแล้วเขาก็เดินไปเปิดประตูแล้วก้าวเข้า บ้านของตัวเองไปอย่างไม่พูดอะไร ส่วนฉันเองก็ก้มหน้าก้มตาไขกุญแจเข้าบ้านไปเช่นกัน...
วันต่อมา...
“เมื่อวานหมอนั่นทำอะไรแกรึปล่าว?”ฟางถามทันทีที่ฉันมาถึงโรงอาหารโต๊ะประจำที่นั่งกินข้าวด้วยกัน ทุกครั้งที่มีเรียนสายเราจะมาเจอกันที่นี่ก่อน
เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเลยทั้งคืนมันกึ่งหลับกึ่ง ตื่นไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร พลิกตัวนอนไปมันก็ไม่หลับเลย ใบหน้าโทโมะมันยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์เมื่อวานมันทำให้ฉันเก็บเอาไปคิดจริงๆจากที่ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้ มาก่อน
“ปล่าว ไม่ได้ทำอะไร” ฉันตอบฟางไปขณะนั่งลงฝั่งตรงกันข้าม
“แน่ใจนะ”
“แน่สิ เพราะมันไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่เราต้องคุยกันนี่นา” ฉันตอบฟางไปอย่างแนบเนียนฟางก็พยักหน้ารับ ตามจริงฉันก็อยากจะบอกนะว่าโทโมะทำอะไร แต่ไม่รู้สิ...มันเหมือนกับไม่อยากจะพูดออกมา “ฉันจะไปซื้อไอติม เอาด้วยป่าว?”
“เลี้ยงหรา ^O^”
“อื้ม ^^”
“เฮ้ย เลี้ยงจริงดิ O_o?”
“ก็จริงน่ะสิไม่เห็นแปลกเลย” ฉันพูดแล้วขำไปด้วยหน่อยๆ ดูท่าทางฟางจะแปลกใจที่มีคนเลี้ยงไอติม? แต่ก็น่ารักใช่ย่อยนะ ^^ “เอารสอะไรว่ามา”
“ขอช็อคโกแลต ขอบใจมากที่เลี้ยง ^^”
“ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนกัน ^^”
ฉัน บอกฟางก่อนจะเดินตรงไปยังร้านขายไอศกรีมที่อยู่ติดกับร้านขายเครื่องเขียน ของโรงเรียน ตอนนี้ก็มีนักเรียนกำลังทานข้าวกันอยู่เป็นกลุ่มๆและท่าทางดูวุ่นวาย เมื่อมาถึงร้านขายไอศกรีมฉันก็ยืนต่อแถวรอคิวที่ยาวพอสมควร
สักพักต่อมาจู่ๆก็มีคนมาสะกิดที่หัวไหล่ พอฉันหันไปก็พบว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นคนนั้นอีกแล้ว เขาชื่ออะไรนะ? จำได้ลางๆว่าตอนนั้นเขาบอกกับฉันว่าเขาชื่อ...มะ...อ๋อ!
“มะ…มิณท์”
“ฮ่าๆ นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว ^O^//” มิณท์พูดยิ้มๆแล้วใช้มือขยับแว่นของเขาให้เข้าที่
“มีอะไรเหรอ?”
“ปล่าวเราแค่ทักเฉยๆ”
มิณท์พูดแล้วเกาคอตัวเอง เขาขาวมากๆจนสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าหูของเขากำลังแดงแต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร ต่อเพียงแค่ยิ้มให้เขานิดๆ จากนั้นเราก็ไม่ได้พูด อะไรกันต่อจนกระทั่งฉันซื้อไอติมเสร็จแล้วฉันกำลังจะเดินกลับที่แต่มิณท์ บอกว่าให้รอเขาก่อนเพราะมีเรื่องจะคุยด้วย
“รอนานมั้ย?” เมื่อมิณท์ซื้อไอติมรสมะนาวเสร็จเขาเลยรีบวิ่งมาถามฉันที่ยืนรออยู่ตรงต้นเสาใกล้ๆ
“ไม่นานหรอก ว่าแต่...มีเรื่องอะไรจะคุยกับเราเหรอ?”
“เอ่อคือ...พรุ่งนี้วันเสาร์...เธอว่างมั้ย?”
“ว่าง ปกติเราอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”
“งั้นพรุ่งนี้...ถ้าเราจะชวนเธอไป...”
ฟิ้ว!
ตุ้บ!
มิณท์ยังพูดไม่ทันจบจู่ๆก็มีขวดน้ำที่ถูกปาผ่านหน้าของฉันกับมิณท์ไปตกลง ตรงถังที่อยู่ใกล้ๆเราสองคนจนฉันกับมิณท์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองต้นทางที่ขวดน้ำถูกปามาก็พบว่าคนที่ปาคงหนีไม่พ้นใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มที่ได้ ขึ้นชื่อว่า‘มีอิทธิพล’ที่สุดในโรงเรียนแน่ๆ
ใช่! พวกกลุ่มเคโอติคทั้งกลุ่ม ย้ำ! ทั้งกลุ่ม! กำลัง มองมาที่ฉันกับมิณท์ด้วยสีหน้าแววตาแปลกๆ ไม่เว้นแม้แต่โทโมะที่ก็มองมาด้วย ฉันเองก็ไม่ได้สังเกตว่าพวกนั่งอยู่ตรงนั้นเพราะคิดว่ารีบซื้อแล้วรีบกลับดี กว่า
แล้วทำไมวันนี้พวกเขาไม่นั่งที่ประจำของพวกเขาล่ะ?
“นายมีคนนั่งคนนั่งกินข้าวด้วยมั้ย...”
ไม่ รู้เป็นเพราะอะไรที่ทำให้มิณท์หน้าซีดแล้วไม่สดใสหลังจากที่ฉันหันกลับมา มองเขา ฉันจึงเอ่ยปากถามออกไป เหตุการณ์เมื่อกี้เหมือนทำนองหาเรื่องยังไม่รู้ ฉันเองก็ติดใจตั้งแต่วันนั้นแล้ว ที่ฉันเจอมิณท์ครั้งแรกแล้วกลุ่มเคโอติคถีบรถจักรยานจนล้มเป็นแถว
พวกเขาไม่พอใจอะไรมิณท์รึปล่าวนะ? ถ้าแค่ไม่ถูกชะตาก็ไม่เห็นต้องทำกันขนาดนี้เลยนี่นา
“เรา...”
“ถ้านั่นไปนั่งกับเราแล้วก็ฟางก็ได้นะ” ฉันพูดอย่างเป็นห่วง
“ขอบคุณนะแต่ไม่เป็นไรหรอก” ถึงเขาจะพูดแบบนั้นแต่ดูจากสีหน้าแล้วเป็นแน่ๆ “ไว้เราค่อยคุยกับเธอวันหลังนะ” พอพูดจบมิณท์ก็เดินออกไปเลย ฉันยืนมองเขาอยู่สักพักก่อนที่จะเดินกลับที่ไป
ท่าทางเขาแปลกๆนะ แลดูเขากลัวกลุ่มโทโมะมากๆเลย แต่ฉันเองก็ไม่พอใจเหมือนกันนะที่ฉันกำลังคุยกับมิณท์ยู่แล้วพวกนั้นปา ขวดน้ำผ่านหน้ามันแลดูจงใจมาก
กลุ่มเคโอติคไม่พอใจอะไรมิณท์ขนาดนั้นนะ...
“เป็นไรป่าวเนี่ยสีหน้าเซ็งมาเชียว” ฟางถามทันทีเมื่อฉันมาถึงที่โต๊ะ ฉันก็นั่งลงฝั่นตรงข้ามแล้วไอติมให้เปาก่อนจะถอนหายใจ
“รู้จักคนที่ชื่อมิณท์รึปล่าว"ฉันถามขณะมองฟางไปด้วย ฟางทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า
“รู้จักสิ หมอนั่นอยู่ห้อง 5/1 ทำไมเหรอ”
“คือฉันไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึปล่าว แต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยถูกกับกลุ่มบังโทโมะหรือว่ายังไงเลย”
“ทำไม ไปเห็นอะไรมา O_O?”
คราวนี้ฟางทำท่าเหมือนจะตกใจนิดๆ ฉันก็เลยเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอมิณท์กลุ่มเคโอติคทำอะไรจนมาถึงเหตุการณ์ที่โรงอาหารฟางจึงตัดสินใจเล่าให้ฉันฟัง
“มิณท์อ่ะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวเหมือนกับฉันเนี่ยแหละ คือ ไม่ค่อยมีเพื่อนเยอะ ถึงมีก็ไม่ผูกมัดอะไรทำนองนี้แต่ว่าเขาเป็นคนดีนะ เวลาไปไหนเท่าที่ฉันสังเกตเขาจะไปคนเดียวตลอดแถมเรียนเก่งขั้นเทพทำงานอะไร ก็ไม่เคยทำให้อาจารย์ผิดหวังถือว่าเขาเป็นผู้ชายเพอร์เฟคคนหนึ่งล่ะ อาจจะเป็นไปได้ว่าพวกเคโอติคคิดว่าเขาอยากโชว์ความเจ๋งละมั้งเลยหมั่นไส้”
“แต่มันต้องทำท่าทีหาเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย มันไม่เกินไม่หน่อยเหรอ”
“โรงเรียนนี้ไม่มีอะไรที่เกินไปสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะกับพวกเคโอติค”
อีกฝั่ง
“นี่ๆๆๆๆพวกแก๊! ฉันมีอะไรเด็ดๆมาให้พวกแกดูล่ะ><!”
“อะไรของแกเนี่ยจินนี่”
‘พิมพ์’สาวสวยลูกครึ่งอเมริกันผู้มีเรือนผมสีแดงละจากการมองใบหน้าอันสง่างามของเธอจากกล้อง I Phone สีทองของเธอมามองจินนี่ที่วิ่งมาด้วยสีหน้ารีบร้อนพร้อมกับคำพูดชวนลุ้นนั่น
“ถ้าไม่เด็ดแกตายแน่” ‘เฟื้องฟ้า’ สาว สวยเรือนผมน้ำตาลทองเริ่ดเชิดลูกครึ่งอังกฤษเอ่ยบอก
ขณะที่จินนี่ก็ตื่นเต้น จนเวอร์ ขณะที่โชว์รูปถ่ายในโทรศัพท์ให้พิมพ์กับพิ้งดู แล้วสองคนนั้นก็เบิกตากว้างทันทีที่เห็นมัน
“นี่มันอะไรเนี่ย!?!” >>> พิมพ์
“โทโมะเดินจับมือกับใครอ่ะ?” >>> พิ้ง
“บอกแล้วไงว่าเด็ด ^^”
“อีผู้หญิงในรูปคนนี้เป็นใครกัน? บอกมา!”
พิมพ์ตะโกนใส่หน้าจินนี่จนจินนี่สะดุ้งเพราะอาการแรงหึงและหวงโทโมะอย่างมาก! กลุ่มนี้น่ะจ้องจะจับเคโอติคทั้งกลุ่มแต่คนที่หมายตามีเพียง 1 เดียว และพิมพ์ก็ ‘จ้อง’ โทโมะไว้แล้วด้วยพอเห็นรูปนี้เธอถึงโมโหขึ้นมา
“ฉันถามคนที่รู้จักเขาบอกว่าเป็นเด็กใหม่ห้อง 5/2 ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว” จินนี่พูดอย่างกล้าๆกลัว
“ฉันว่าหล่อนก็หน้าตาไม่ได้ขี้เหร่อะไร บางทีโทโมะอาจจะควงเล่นๆเฉยๆก็ได้” เฟื้องฟ้าพูด
“แต่โทโมะไม่เคยควงใคร! เขาไม่เคยมีข่าวคบหรือควงใครเลยด้วยซ้ำ ถ้าจะควงหรือว่าคบ ฉันต้องเป็นคนแรก!”
“แต่ยัยนี่มันโดนควงก่อนแกซะแล้วสิ” เฟื้องฟ้าพูดแต่แฝงไปด้วยคำยุยงให้พิมพ์โมโหขึ้นไปอีก
“ฮึ่ย!...!!”
จังหวะ นั้นนั่นเองที่สายตาของพิมพ์ก็ดันไปสะดุดเข้ากับผู้หญิงหน้าไม่คุ้นตาคนหนึ่ง ที่กำลังลุกขึ้นสะพายเป้แล้วกำลังจะเดินออกจากโรงอาหารกับเพื่อนสาวอีกคน และเมื่อพิมพ์มองเทียบผู้หญิงคนนั้นในโทรสัพท์ I Phone ของจินนี่แล้ว
มันก็คือคนๆเดียวกัน!!!
“จินนี่ เฟื้องฟ้า ”
“ว่า?” จินนี่กับเฟื้องฟ้าพูดพร้อมกับพร้อมกับให้ความสนใจกับใบหน้าของพิมพ์ว่าเหมือนว่าคิดอะไรดีๆออกแล้วหน้าถึงได้เผยรอยยิ้มออกมา
“ยัยนั่นเป็นเด็กใหม่...ฉันว่า...เรามารับน้องใหม่กันซักหน่อยมั้ย?” พิมพ์พูดขณะที่สายตายังคงมองผู้หญิงที่เธอกำลังจะทำการ ‘รับน้องใหม่’ที่อยู่ไม่ไกลนัก จินนี่กับเฟื้องฟ้าก็มองตามสายพิมพ์ไปก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วยิ้ม
“จัดไปสิ” เฟื้องฟ้าว่า
“จินนี่ น้ำกระเจี๊ยบถ้าแกไม่เอาแล้ว...ฉันขอ!” พิมพ์พูดจบก็ลุงขึ้นจากเก้าอี้ตัวเองแล้วคว้าแก้วน้ำกระเจี๊ยบก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่เป้าหมายทันที
“งานนี้สนุกแน่” จินนี่กับเฟื้องฟ้าพูดก่อนจะลุกตามพิมพ์ไป
“แกว่าไงแก้วมันโอเคป๊ะ ฮ่าๆๆๆ”
“ก็โออยู่นะ ฮ่าๆๆน่ารักดี”
“เห้ยยย ประชดปล่าวเนี่ย เอาดีๆเด้ >O<//”
“นี่เธอ!”
ฉัน กำลังเดินคุยยิ้มๆกับฟางอยู่ขณะเดินออกจากโรงอาหาร จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเรียกไว้ พอฉันหันไปเธอคนนั้นก็เหยียดยิ้มให้ฉันแล้วมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะทำ ในสิ่งที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเพราะอยู่ๆเธอก็สาดน้ำกระเจี๊ยบที่อยู่ในมือเธอมาใส่หน้าฉันเต็มๆ!
ซ่า!!
“อุ๊ย! ตายแล้ว! Sorry มากๆนะ เผอิญว่า...ฉันตั้งใจ!”
________________________________________
ไรต์มาอัพแล้วฮ่ะ อยากให้อัพไวๆก็เม้น โหวตสักนิดน้าาา ><
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ