Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา
9.6
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.
43 chapter
860 วิจารณ์
67.53K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
42) - This Is Battle! - ( นี่คือการปะทะ! )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- This Is Battle! -
( นี่คือการปะทะ! )
“พ่อมึงตาย!”
ความเดือดดาลในใจมันทนไม่ไหวจริงๆจึงทำให้ผมเผลอพ่นคำด่าออกมาทั้งๆที่อยาก จะเงียบแล้วรอฟังมันต่อว่ามันจะเย้ยผมว่ายังไงต่อ แต่ไอ้ห่านี่ท่าจะบ้าว่ะ = =;;; ผมไปทำอะไรให้มันนักหนาจนถึงขนาดที่ว่ามันจับแฟนผมไปเนี่ยนะ? เท่าที่รู้ก็คือแค่มันไม่ถูกกับไอ้จองเบแล้วก็เพื่อนๆกลุ่มเคโอติค
แต่ไอ้จองเบแข่งชนะมันตั้งหลายครั้ง ผมแข่งกับพวกมันครั้งแรกแล้วชนะนี่มันแค้นฝังหุ่นผมขนาดนี้เลยเหรอ? ( มีเหตุผลโค – ตะ – ระ = =;;; )แต่ถ้าให้เดา...ผมว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องนั้นแน่ๆ แต่ว่ามันจะต้องมีเหตุดลใจอะไรมัน‘มากกว่านั้น’ จึงได้จับแก้วแฟนผมไป! มันเล็งเธออ่ะ แถมเล็งผมด้วย
สรุปคือ...อะไรของมันวะเนี่ยยยยย โอ๊ยยยย ประสาทจะกินนนนน >O<!!!!!!
บ้าฉิบเลย! แม่งกำลังเล่นอะไรอยู่วะ! ไอ้...! ไอ้หัวเทา! โอ๊ย! โทโมะเครียดดดดด ><!
[ ถึงกับด่าพ่อ? หึ คงของขึ้นมากงั้นสิน้า อิ อิ ]
“อิ อิ พ่อง - -+”
นั่นเป็นเสียงของไอ้ป๊อปปี้ที่กำลังนั่งฟังอยู่อย่างไม่สบอารมณ์นัก
เออ ขอบใจที่ด่าแทนกันนะ
[ โห ท่าทางจะอยู่กันหลายคนเลยนะเนี่ย แหม่! แบบนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย ^^]
สนุกห่าอะไรล่ะ!
ไฟท์นี่มันออกแนวร้ายโรคจิตนะผมว่า อายุแค่ 17 จะ 18 แล้ว แต่ความคิดนี่...เลวเลยเหอะ! บ่องตงเกิดมาไม่เคยอยากด่าใครเท่ามันอ่ะแล้วในตอนนี้ ><!
กลุ่มเคโอติค ถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มที่อันตรายทั้งในและนอกโรงเรียน แต่กลุ่มเราก็ไม่เคยไปทำร้ายใครก่อน ไม่เคยไปเรื่องใครก่อน จะมีก็แต่ไอ้พวกกลุ่มอื่นนั่นแหละที่มาหาเรื่องพวกผมจนมีเรื่องชกต่อยกันแต่ เรื่องก็ไม่ถึงหูผู้ปกครองหรอกจะมีก็แค่พวกนักเรียนเท่านั้นที่รู้
มันเป็นเหมือนกับว่า‘เรื่องของพวกเราเคลียร์เองได้ผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว’
แอ๊ด
“นี่ทะ...!”
ขวับ!
O/\O
“อุ๊บ! O*O”
พวก ผมรีบหันไปแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากบอกให้ฟางเงียบไว้ก่อนเพราะตอนนี้เธอ กำลังยืนอยู่ตรงประตูห้องด้วยความร้อนรน และเธอก็มากับไอ้แว่นมิณท์เน่านั่นเอ๊ง! ( โทษทีที่เรียกแบบนั้นแต่มันติดจริงๆครับ Y^Y ) ให้ตายสิ เห็นหมอนั่นแล้วสงสารว่ะ
ผมว่ามันน่ะสู้คนไม่เป็นหรอกดูๆแล้วเด็กเรียนสุภาพซะขนาดนั้น แถมยังมาโดยต่อยจนหน้าช้ำแบบนี้อีก เฮ้อ!
“...”จังหวะ นั้นนั่นเองที่เขื่อนลุกจากขอบโต๊ะเดินไปเปิดประตูพาฟางกับมิณท์เข้ามาในห้องนี้ก่อนจะกดล็อคประตูเอาไว้เพื่อ ไม่ให้คนอื่นเข้ามาได้ยินเข้า
ฟางก็เดินเข้ามายืนอยู่ตรงโซฟาตรงที่ไอ้ป๊อปปี้นั่ง เธอก้มลงมองหน้ากันกับป๊อปปี้ที่กำลังเงยหน้ามองเธอเช่นกัน แต่...อย่าได้คิดเชียวว่าฟางกับไอ้ป๊อปปี้จะมาสบตากันปิ๊งๆแบบพระเอกนางเอก ละครนะครับ เพราะว่ามันเรียกว่าเป็นการมองหน้าแบบคู่อริเจอกันเสียมากกว่า อะไรประมาณนั้นน่ะ =[]=;;;
นั่น! คิดได้ไม่ทันไร เขื่อนก็รีบลุกขึ้นมาจับฟางออกไปห่างๆป๊อปปี้เพราะกลัวว่าจะทะเลาะกันอีกสาเหตุ คือเพราะว่าเมื่อกี้ไอ้ป๊อปปี้มันเพิ่งแลบลิ้นใส่ฟางไปจนฟางนั้นกำหมัดแน่น พร้อมกับกัดฟันไปด้วย ( ก็...ถ้าสองคนนี้มีเรื่องกันก็ไม่ต้องเดากันนะครับว่าใครเป็นคนเริ่ม = =;;; )
“แกกำลังจะเล่นเกมอะไรกับเพื่อนฉัน”ไอ้จองเบเอ่ยถามอย่างใจเย็นตามสไตล์ของมัน ที่ถึงแม้เรื่องนั้นจะเครียดแต่พยายามเย็นไว้ให้ดีที่สุด
แต่ผมนี่ถ้านิ่งก็นิ่งนะครับ ไม่พูดคือไม่พูด แต่ถ้าโมโหขึ้นมาล่ะก็...ผมก็ขอไม่ไว้หน้าเลยละกัน!
[ อยากออกโรงแทนเพื่อนเหรอไอ้จองเบ? ] ฮึ่ย! เสียงแม่งกวนส้นเท้าฉิบ ( หาย )
“ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น แต่ที่สนคือแกกำลังเล่นสกปรกอะไรอยู่ถึงได้จับแฟนเพื่อนฉันไป ไอ้โทโมะมันไปทำอะไรให้คุณมึงเหรอวะครับ?”
เอาแล้วไง คนที่สุภาพที่สุดในกลุ่มอย่างไอ้จองเบก็เริ่มของขึ้นเช่นกันถึงได้พูดคำว่า‘มึง’ ออก มา ทั้งๆที่ปกติมันจะไม่พูดถ้าไม่โมโหจริงๆน่ะ เพราะว่าไอ้จองเบมันเป็นลูกคุณหนูแต่ชอบทำตัวติดดินน่ะครับ บ้านมันก็เป็นคฤหาสน์เสียด้วยสิ ( ในกลุ่มเคโอติคไอ้จองเบรวยสุดแล้ว ) มันอยู่ที่นั่นก็อยู่กับพ่อกับป้าแม่บ้านแค่นั้น
[ งั้นถ้าอยากรู้ก็มาที่สนามแข่งฉันสิเพราะว่าถ้ามาช้า...ยัยนี่ได้ไปถูกมัดโชว์ตัวอยู่กลางสนามเป็นของพนันฉันก็ไม่รู้ด้วยน้าาา คิก คิก ]
เดี๋ยวนะ...เมื่อกี๊ไอ้ไฟท์มันพูดเกี่ยวกับเรื่อง‘ของพนัน’ อย่างงั้นเหรอ?
นี่อย่าบอกนะว่ามันจะเอาแก้วไปเป็นของพนันให้ไอ้พวกนั้นถ้าผมไปช้าน่ะ บ้าแล้ว!
“นี่! หัวเราะให้แมนๆกว่านี้หน่อยก็ดีนะครับคุณไฟท์” ไอ้เคนตะเอ่ยขึ้นมาเสียงดังจนปลายสายเงียบไป หึ คงหน้าเสียล่ะสิที่เห็นว่าพวกผมไม่เครียดไปกับมันเท่าไหร่
แน่สิ! พวกผมไม่กลัวมันหรอกจะบอกให้ แต่ที่กลัวคือ...แก้วเนี่ยสิ!
[โทโมะเพื่อนแกพูดแบบนั้น...หรือว่าฉันจะเปลี่ยนเวลาเปิดสนามแข่งดี? เผื่อแฟนแกจะได้ไปเป็นของพนันได้เร็วขึ้น ^^]
“ไอ้...!”ตอนนั้นไอ้จองเบหันมามองหน้าผมแล้วส่ายหน้าเพื่อไม่ให้ผมพ่นอะไรออกไป
โอเคๆๆ ใจเย็นๆโทโมะ ใจเย็น! แก้วไม่เป็นอะไรหรอกน่าาาาา ปัดโถ่เว้ย!!!
เพียง แค่ผมคิดถึงตอนที่แก้วไปอยู่กลางสนามแข่งใหญ่โตนั่นผมนี่ก็แทบบ้าแล้วว่ะ คิดดูสิว่ามันจะมีดวงตาแสนหื่นกี่คู่จ้องมาที่ยัยตัวเล็กนั่นน่ะ แถมที่นั่นน่ะบอกเลยว่า...เถื่อนกว่าสนามแข่งของไอ้จองเบเยอะ! พ่อไอ้ไฟท์เส้นใหญ่ไงรู้จักคนเยอะทำอะไรก็ได้ เห๊อะ!
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นสนามแข่งมันก็ยังเป็นรองสนามแข่งของเพื่อนผมอยู่ดีนั่นแหละวะ
[ มาไม่มา มาไม่มาดีน้าาาา ]
“ฉันไปแน่”ผมพูดแล้วพยายามข่มเสียงต่ำเอาไว้เพื่อไม่ให้มันแลดูกังวลจนเกินไป
ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้นทั้งๆที่ผมห่วงแก้วมากน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าถ้าแสดงความรู้สึกออกไปมากๆเดี๋ยวไอ้บ้านั่นมันจะได้ใจแล้วทำให้ผมเดือดมากกว่าเก่าน่ะสิ ผมรู้! รู้ว่าไอ้ไฟท์น่ะมันฉลาด( ฉลาดแต่เรื่องบ้าๆ - -* )
[ อ๊ะๆๆๆ เดี๋ยวก่อน ]
“...”วินาทีนั้นผมกับเพื่อนๆทุกเงียบสนิทรอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ “อะไร”ผมเอ่ยถามแล้วกำโทรศัพท์ I Phone สีดำที่ถืออยู่ในมือแน่น
[ ที่ฉันอยากเจอไม่ใช่ ‘เคโอติค’ ]
ฮะ? ไม่ใช่เคโอติค? อะไรของมัน = =?
“...”
[ แต่เป็นแก...ไอ้โทโมะ ]
“...”
[ แล้วก็...มาคนเดียวนะครับ...คุณโทโมะ ^^ ]
ติ๊ด!
ผม ชิงตัดสายทันทีเมื่อมันพูดจบ จากนั้นก็เงยหน้าจากจอมือถือแล้วมองหน้ากับเพื่อนๆในกลุ่มว่าจะเอายังไงกัน ดี เพราะว่าประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆสนามของไอ้จองเบก็จะเริ่มแข่งแล้วสนามไอ้ไฟท์ด้วยเช่นกัน และเมื่อผมก้มลงมองที่หน้าปัดนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่ามันปาไป 6 โมงกว่าแล้ว
และถ้าผมพาแก้วกลับไม่ได้ เธอคงจะถูกไอ้ไฟท์พาไปเป็นของพนันอะไรบ้าบอนั่นแน่ๆ ซึ่งผมไม่ได้ของการให้เป็นแบบนั้นอย่างเด็ดขาด! ผมต้องช่วยเธอให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!
“โทโมะ หมอนั่นมันเป็นใครอ่ะ แล้ว...ทำไมมันต้องจับแก้วไปด้วย?”ฟางถามทันทีแล้วมองหน้าผมอย่างสงสัย
“มันชื่อไฟท์ เป็นคู่อริกลุ่มเคโอติค”ผมบอกเพียงแค่นั้นฟางก็ทำสีหน้าเครียดทันทีแล้วยกมือเสยผมของเธอ “ถ้าเธอจำได้ตอนนั้นฉันเคยแข่งรถกับคนของมันด้วย”
“อ๋อออ จำได้ละ หมอนั่นใช่ป่ะที่ท้าแข่งอีกรอบอ่ะ”ฟางถามแล้วชี้นิ้วมหาผมผมก็พยักหน้าตอบแทนคำพูด “แล้วนี่พวกเราจะช่วยแก้วยังไงดี”เธอถาม
“ไอ้จองเบฉันขอยืมรถหน่อย”ผมหันไปหาไอ้จองเบที่กำลังมองผมอยู่แล้วแบมือขอยืมรถมัน เพราะว่าผมจะไปที่นั่น...ไปคนเดียวน่ะ
“...”
มันไม่พูดเอ่ยปากอะไรแล้วล้วงเข้ากระเปาเสื้อกันหนาวที่สวมทับกับ เสื้อนักเรียนนั่นแล้วยื่นเอากุญแจรถรุ่น CBRมาวางไว้บนมือผมที่แบอยู่บนหน้ามัน( ที่บ้านมันมีรถหลายคนมากเลยขอบอก แถมแต่ละคันสีดำทั้งน้านนนน )
“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่...”เมื่อวางกุญแจลงบนมือผมแล้วมันก็พูดขึ้น “ไอ้โทโมะ...ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้แกไปลุยเดี่ยว”มันพูดบอกแล้วมองจ้องหน้าผม
“ใช่ พวกเราเคโอติคไม่เคยปล่อยให้เพื่อนลุยคนเดียวอยู่แล้ว”พวกเพื่อนผมพากันพูดมองก็หันไปมองหน้ากับพวกมันทุกคนที่คอยอยู่เคียงข้างกันในยามที่เพื่อนๆเดือดร้อนไม่ว่าจะยังก็ตามแต่
“ขอบใจพวกแกมาก แต่คราวนี้ฉันคงต้องไปคนเดียวว่ะ”ผมบอกกับพวกมันเพื่อให้มันนึกถึงสิ่งที่ไฟท์บอกว่าให้ผมไปคนเดียวเพราะถ้าผมไม่ทำตามที่มันบอก มันอาจจะเล่นบ้าอะไรของมันอีกก็ได้ใครจะรู้
และถ้าเรื่องนี้มันมีผมเกี่ยวแค่คนเดียวอย่างที่ไอ้ไฟท์พูด ผมก็ไม่อยากจะให้เพื่อนไปเสี่ยงด้วยกันเท่าไหร่นัก
“พวกฉันไม่ยอมแกก็รู้”ไอ้จองเบบอกนั่นทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันจากนั้นมันก็หยักยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปมองฟาง “ฟาง เธอมีเบอร์พ่อแก้วมั้ย”
“มีๆ”ฟางรีบพยักหน้าตอบ
“งั้นโทรบอกพ่อแก้วว่าเย็นนี้แก้วอาจจะกลับบ้านดึกเพราะมีอะไร บลาๆๆ ก็ว่าไป เขาจะได้ไม่กังวลว่าทำไมแก้วยังไม่กลับบ้าน”
จริงสิ! ถ้าพ่อของแก้วรู้ท่านคงจะกังวลสุดๆเลย ไม่มีทาง! ให้พวกเขารู้ไม่ได้เด็ดขาด พ่อแม่ผมก็ห้ามรู้ด้วย เดี๋ยวเรื่องมันใหญ่โตไปถึงตำรวจเอาได้
“ใช่ๆๆๆ โทรศัพท์ๆๆๆ เฮ้ยยย แบตหมด YOY!”เมื่อฟางหยิบโทรศัพท์ของเธออดมาดูปรากฏว่าแบตหมดเลยทำเอาเธอหน้าเสียเลย
“มัวแต่เอาไปเล่นยิงเกาะใครรึปล่าวแบตเลยหมด น่ะ :P”
“นี่นาย!”
“งั้นฟางใช้โทรศัพท์ฉันก็ได้”มิณท์รีบเอาโทรศัพท์ของตัวเองยื่นให้ฟางทันทีที่เห็นว่าฟางกำลังจะทะเลาะกับป๊อปปี้ เออ ขอบใจมาก
ฟางเห็นแบบนั้นก็รีบเอาโทรศัพท์ของมิณท์กดโทรเบอร์พ่อแก้วทันทีเลย แต่เธอคงคิดว่าพวกผมจะคุยกันเรื่องช่วยแก้วนี่แหละเลยเดินออกไปคุยโทรศัพท์ ข้างนอกห้องนี้มิณท์ก็เดินตามออกไปด้วยเช่นกัน
“เอาไงดี”ไอ้ป๊อปปี้ลุกขึ้นยืนจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาหาไอ้จองเบกับผมพวกเพื่อนๆที่เหลือก็เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน
“นั่นดิ”เขื่อนเอ่ย
“มันบอกให้ไอ้โทโมะไปคนเดียวด้วย แล้วถ้าเกิดมันเห็นพวกเราไปด้วยมันจะเล่นเกมอะไรต่อก็ไม่รู้ ไอ้ห่านี่มันต้องมีแผนสำรองอยู่แล้ว”เขื่อนบอกพลางคิดไปด้วย
“มันมีแผน เราก็ต้องมีแผน”
“แผนอะไรของแกวะไอ้จองเบ =[]=?”
“ไอ้เคนตะ แกเชื่อฉันเถอะ ไอ้ไฟท์น่ะอ่อนกว่าพวกเราเยอะ โดยเฉพาะความ‘เกรียน’ ” ป๊อปพูดบอกอย่างมั่นใจสุดๆ
“สรุป ง่ายๆเลยคือถ้าจะช่วยแก้ว...ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยก่อน 1 ทุ่ม เพราะนั่นคือเวลาที่เสี่ยงน้อยที่สุด เพราะ 1 ทุ่มพวกแกก็รู้ว่าสนามแข่งจะเปิดให้คนเข้าแล้ว และถ้าถึงเวลานั้นช่วยแก้วไม่ได้ไอ้ไฟท์ก็จะเล่นเกมแรงขึ้นแน่นอนไม่ต้อง ห่วงหรอก”
“...”
“แต่ถ้าช่วยได้ก่อน 1 ทุ่มแล้วพวกเรากลับมาที่สนามแข่งฉันทันก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าสงสัย”
ใช่ ถ้าเป็นแบบที่ไอ้จองเบบอกมามันก็จะดีมากถ้าไอ้จองเบมันกลับมาที่นี่ทันเพราะว่า มันยกเลิกไม่ด้วยสิ เพราะนั่นจะทำให้หลายๆคนสงสัยว่ากลุ่มพวกผมไปไหนจนถึงขนาดที่ว่าไปสืบมาเลย แหละว่าทำไมพวกเขาบอกว่าจะลงแข่งวันนี้ทำไมถึงไม่มา แล้วถ้าพวกนั้นรู้ว่าพวกผมไปที่สนามแข่งไฟท์ข่าวมันก็จะต้องกระจายไปทั่ว แน่ๆเลยว่ากลุ่มเคโอติคไปมีเรื่อง
ไม่ได้ห่วงภาพพจน์อะไรของกลุ่มหรอก แต่ห่วงยัยตัวเล็กมากกว่าที่จะต้องมาเครียดกับอะไรแบบนั้นทั้งๆที่ทุกอย่าง มันเริ่มดีขึ้นแล้ว
เพราะฉะนั้น...เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ผมจะไม่มีทางให้คนภายนอกได้รู้เป็นอันขาด!
“แล้วแกมีแผนป๊ะล่ะ”ผมถามไอ้จองเบก็หันมามองหน้ากับผมแล้วมันก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ
“มี”
“มี? แผนอะไรว่ะ =[]=?” >> ป๊อปปี้
“พวกแกจำตอน ม.3 ที่กลุ่มเรามีเรื่องได้ป่ะ”เมื่อไอ้จองเบเอ่ยแบบนั้นพวกผมก็ครุ่นคิดถึงตอน ม.3 ทันที ที่ตอนนั้นมีเรื่องกับเด็กนักเรียนโรงเรียนอื่น น่ะ...นี่อย่าบอกนะว่ามันจะ ‘เล่นแบบนั้น’ อีกน่ะ เห๊อะ! นึกแล้วขำ ให้ตายสิ
“เอิ่มมมม นั่นมันตอน ม.3 แล้วนะเว้ยยยยย แกจะเอาแบบนั้นจริงอ่ะ ><?”เคนตะพูดแล้วมองหน้าไอ้จองเบ ไอ้จองเบก็ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แล้วเงยหน้าขึ้นนิดๆเป็นเชิง
“ก็ถ้าไอ้ไฟท์มันอยากเล่นอะไร‘สนุกๆ’ ฉันก็อยากจัดให้มันสักหน่อย หมั่นไส้เกิ๊น หรือว่าพวกแกไม่อยาก O_o?”
“ใครว่าไม่อยาก แต่ถ้าจะเล่นแผนนั้นมันต้องมี‘อุปกรณ์’ นะเว้ย” ป๊อปปี้พูดแล้วขำออกมา ให้ตายสิวะครับ เอาจริงดิ? แผนนั้นจริงอ้ะ? เฮ้ย คิดแล้วทำไมหายเครียดเลย ><!
“หึ งานนี้ ‘รัง’ ไอ้ไฟท์สนุกแน่ แกว่ามั้ยโทโมะ”ไอ้จองเบหันมาถามผมอย่างขอความเห็น แล้วผมจะตอบอย่างอื่นได้งั้นเหรอครับถ้าไม่ใช่คำว่า...
“เห็นด้วยอย่างแรงเลยครับคุณเพื่อนจองเบ ^^”
เวลาตอนนี้ 6.30 น.
[ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการช่วยแก้วออกจากที่นั่น! ]
อีกด้านหนึ่ง
“จะเอาไงต่อ”
“หึ ถามมาได้นะไอ้ดีโอ ก็ต้องรอมันมาสิวะ” ไฟท์พูดบอกกับดีโอแล้วหัวเราะออกมาทหน่อยๆ ดีโอก็เหยียดยิ้มแล้วส่ายหัวไปมาขณะที่กำลงยืนพิงกำแพงห้อง ส่วนไฟท์ก็นั่งอยู่ที่ปลายเตียงอย่างสบายอารมณณ์หลังจากที่เมื่อสักพักที่ ผ่านมาได้ใช้โทรศัพท์ของแก้วโทรไปหาโทโมะนั่นเอง
และหลังจากที่เขาโทรเสร็จเขาก็ได้จัดการเอาโทรศัพท์ของแก้วไปเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเป้ของเธอตามเดิม
“ฉันว่าอีกไม่นานมันก็คงมาถึงที่นี่แหละ ก็แกเล่นขู่มันซะขนาดนั้นนี่หว่า”
“จะว่าไปแล้ว...แผนที่แกคิดนี่ก็สนุกดีว่ะ ฉันล่ะสะใจที่ได้เห็นไอ้พวกเคโอติคของขึ้นแบบนั้น หึสม”
“แล้ว...ยัยนั่นน่ะ แกว่าเป็นไง”
เมื่อ ดีโอถามแบบนั้นไฟท์ก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วหันไปมองร่างบางในชุดเครื่องแบบนัก เรียนของโรงเรียนเธอที่มีเสื้อสูทคลุมเรียบร้อยกระโปรงไม่ได้สั้นเกินไปเสมอ แค่หัวเข่ากับรองเท้าผ้าใบและถุงเท้าสีขาว ผมสีน้ำตาลแอลมอนที่ถูกมัดเป็นเปียแกะสองข้างยาวลงมานั่นยิ่งทำให้ร่างบาง ที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงนั้นดูเป็นผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกใน สายตาของไฟท์ไปเลยโดยปริยาย
เพราะจากการแต่งตัวที่เรียบร้อยแบบนี้ดูก็รู้แล้วว่าแก้วน่ะเป็นคน ใสๆซื่อๆ ไม่ใช่ผู้หญิงแรงๆอย่างแน่นอน
“ก็ใช้ได้”ไฟท์พูดแต่ก็ไม่ละสายตาจากร่างของแก้วเลยเพราะเขากำลังประเมินรูปร่าง ( ภายนอก ) ของเธออยู่นั่นเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า‘สแกน’“ไอ้โทโมะนี่ได้แฟนใสๆแบบนี้เหรอวะ หึ แต่ตอนที่ฉันไปดักก็ดูท่าทางรักเดียวใจเดียวจริงๆ”
“ทำไมวะ”
“ก็เพราะว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเห็นฉันทำแบบนั้นมันก็ต้องมี ‘อ่อย’ กันบ้างแต่กับยัยนี่ฉันไม่เห็นว่าจะมีอาการแบบนั้นกับฉันเลย หนำซ้ำยังเลี่ยงการคุยกับฉันอีก แถมพูดย้ำอีกด้วยนะเว้ยว่าตัวเอง‘มีแฟนแล้ว’ เห๊อะ! โคตรรักไอ้โทโมะอ่ะ”
“รักกันก็ดี แต่...ถ้าวันนี้ไอ้โทโมะมันมาช้า แฟนมันคงเป็น‘ของรัก’ ของคนอื่นแน่ๆอ่ะ”
“ก็ มาดูกันว่ามันจะมาถึงที่นี่ตอนไหน แต่ฉันว่าตอนนี้ไอ้หมอนั่นกับพวกเคโอติคมันก็คงเครียดจนหัวหดแล้วล่ะว่ะว่าจะ มาช่วยยัยนี่ยังไง แต่ที่แน่ๆฉันไม่มีทางยอมปล่อยยัยนี่เด็ดขาดจนกว่าไอ้โทโมะจะตอบตกลงมาอยู่ กลุ่มเราเพื่อหักหน้าไอ้จองเบ”
“ก็ดีนะถ้ามันตกลงเพราะนอกจากจะหักหน้าไอ้จองเบแล้ว มันก็ยังจะถูกตราหน้าด้วยนะว่าออกจากลุ่มเพราะผู้หญิงแค่คนเดียว หึ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันล่ะโคตรสะใจอ่ะ”
ไฟท์พูดแล้วใช้ลิ้นกระดุงกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างก่อนจะแลบริมฝีปากล่างของตัวเองแล้วมองร่างของแก้วอีกครั้ง ด้วยความ ‘อยาก’ นิดๆ ( มั้ง ) และสุดท้ายเขาก็ได้หันไปมองดีโอที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ก่อนเอ่ยพูดขึ้นว่า...
“แกออกไปก่อน”เมื่อไฟท์พูดจบดีโอก็หยักยิ้มอย่างรู้หน้าที่เลยว่าไฟท์จะทำอะไรกับร่างบางบนเตียงคนนั้น
ปึง
ประตูของห้องนี้ได้ถูกปิดลงหลังจากที่ดีโอเดินออกไปแล้ว สายตาของไฟท์จ้องมองร่างบางก่อนจะลุกขึ้นจากปลายเตียงแล้วยืนเต็มความสูง เขายืนกอดอกมองร่างของแก้วตั้งแต่หัวจรดเท้าไปยังเท้าจรดหัวอย่างเชี่ยงช้า สายตาของเขานี่บ่งบอกได้ถึงความเจ้าเล่ห์ทันทีทันใด
“ท่าทางจะยังซิงอยู่”ไฟท์ พูดแล้วฉีกยิ้มออกมาก่อนจะเดินมาตรงหัวเตียงแล้วโน้มหน้าของเขาลงไปมองหน้า ของแก้วใกล้ๆแล้วใช้นิ้วมือไล่เลี่ยไปตามเปียที่ถูกถักเอาไว้ของเธอด้วย “ให้ตาย...หน้าซื่อเกิ๊น”
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้นแต่หากทว่าใบหน้าของเขาก็เริ่มโน้มลงต่ำลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆร้อนๆของแก้วที่กำลังหายใจรินรดอยู่บนปลายจมูก เขานั่นเอง บ้าที่สุด! เพราะว่าไฟท์เขากำลังจะทำเรื่องที่ไม่ดีกับแก้วน่ะสิ!
“ZzzZzzz”แก้วยังคงหลับเพราะฤทธิ์ยาสลบไม่รู้เรื่องอะไรเลยจึงทำให้ไฟท์หัวเราะออกมา
“บอกเลยนะ...ฉันจัดการเธอเสร็จก่อนไอ้โทโมะมาก็ยังได้เลย”เขาเอ่ยพูดกระซิบเบาๆแล้วเริ่มโน้มใบหน้าต่ำลงเรื่อยๆจนอีกไม่ถึงเซนริมฝีปากปากของเขากับแก้วก็จะโดนกันอยู่แล้ว!
แต่หากทว่า...
ปึง! ปึง! ปึง!
“พี่ไฟท์ครับ! พี่ดีโอให้มาตามลงไปข้างล่างด่วนเลยครับ”
“Shit! เออ! กำลังจะลงไป”ไฟท์ รู้สึกอารมณ์เสียอย่างแรงเหมือนกับกำลังดูหนังฉากสำคัญแล้วไฟมาดับซะได้ที่ ได้ยินเสียงขัดแบบนั้นของลูกน้องที่อายุน้อยกว่า จากนั้นเขาก็ละใบหน้าออกห่างจากแก้วแล้วหันหลังเดินไปที่ประตูพร้อมกับเอ่ย ถ้อยคำหนึ่ง “มาแล้วสินะ...ไอ้โทโมะ”
บรื๊นนนนน
เมื่อไฟท์เดินลงมาจากห้องส่วนตัวก็ได้เห็นว่ากำลังมีมอเตอร์ไซด์สีดำ CBR กำลัง ขับเข้ามาในนามแข่งของเขาที่ตอนนี้ยังไม่มีใครนอกจากพวกลูกน้องเขาเองเพราะ มันยังไม่เปิดให้เข้า จะต้องรอจนถึง 1 ทุ่มก่อน แต่ทว่านี่คือ ‘แขกพิเศษ’ จึงสามารถเข้ามาที่นี่ได้อย่างสบายๆ
ตอนนี้คนที่กำลังขับขี่มอเตอร์ไซด์นั่นได้สวมชุดเครื่องแบบนักเรียนพร้อมกับ สวมใส่หมวกกันน็อคสีดำแล้วก็ถุงมือหนังสีดำสองข้างก็กำลังเร่งเครื่องรถมา ตรงจุดที่ไฟท์กับคนของเขานั้นกำลังยืนมองอยู่
ไฟท์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเป็นการหยั่งเชิงเมื่อรถ CBR นั่นขับมาจนถึงจุดที่เขายืนแล้ว
บรืนนนน...
เครื่องยนต์ได้ถูกดับลงก่อนที่เจ้าของรถนั่นจะลงมาจากรถ CBR คันนั้นแล้วถอดหมวกกันน็อคนั่นออก นั่นจึงทำให้ไฟท์พอใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นว่าคนที่เขาต้องการจะเจอมาที่นี่เพียง‘คนเดียว’ อย่างที่เขาได้พูดบอกเอาไว้
“แน่มากนะที่มาคนเดียว ไม่กลัวโดนรุมเหรอ ^^”ไฟท์เอ่ยแล้วมองร่างสูงของ‘โทโมะ ’ ที่กำลังยืนถอดถุงมือสีดำออกหลังจากที่ถอดหมวกกันน็อคอย่างใจเย็น
แต่ท่าทีของโทโมะที่ทำให้ไฟท์งงคือ...เขาดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะว่าตอนที่คุยโทรศัพท์เสียงของโทโมะนั้นแลดูห่วงแฟนของ เขาอย่างแก้วมากจนไฟท์นั้นแอบสะใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทำไมตอนนี้อารมณ์ของโทโมะมันดูไม่มีอะไรเลยล่ะ? เพราะว่าเขาดูใจเย็นสุดๆ แบบเจ้าชายน้ำแข็งดั่งเดิมเหมือนกับที่เคยเป็นทั้งๆที่ปกติโทโมะน่ะเป็นคนอ่านความรู้สึกยากอยู่แล้ว ( ถ้าไม่สนิทจริงๆโทโมะจะไม่เผยตัวตน สังเกตได้จากตอนเริ่มรู้จักนางเอกแรกๆ โทโมะนางก็เก๊กเกิ๊น ^^ )
“ถ้ากลัวฉันคงไม่มาว่ะ”โทโมะพูดแล้วยิ้มตอบกลับไปจนไฟท์จากที่กำลังยิ้มอยู่รอยยิ้มนั้นก็ได้เจื่อนลงในทันที
หึ! ก็เล่นกับใครไม่เล่นนะไฟท์ มาเล่นกับคนที่ ‘ไม่ธรรมดา’ ที่สุดแห่งกลุ่มเคโอติค นี่มันก็...เดาอารมณ์ยากหน่อยนะ ^^
[ บันทึกพิเศษ :โทโมะ]
‘ หึ! แปลกใจล่ะสิที่ว่าทำไมฉันถึงไม่ออกอาการกังวลกระวนกระวายอย่างที่แกอยากให้เป็นน่ะไอ้ไฟท์! ’
ผม คิดขณะกำลังยืนมองหน้าไอ้ไฟท์ด้วยสายตาที่ว่างปล่าวไม่มีความกังวลแต่อย่าง ใดเลย มันช่างแตกต่างจากตอนที่ผมคุยโทรศัพท์กับมันมากที่แสดงออกไปว่าผมนั้นเครียด มากแค่ไหนที่รู้ว่ามันจับแก้วมาแบบนี้ แต่แหม๋! คิดจะเล่นกับกลุ่มเคโอติคนี่มันก็ต้องเจออะไรหลายๆมุมหน่อยนะ ^^
และถ้าทุกคนคิดว่าผมมาเดี่ยว...มันไม่ใช่
เพราะว่าไอ้จองเบได้บอกไว้ว่า‘พวกมันมีแผน เราก็ต้องมีแผน’ ที่ผมกับพวกเคโอติคกำลังทำอยู่นี่แหละคือ ‘แผน’ ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเอาวิธีตอน ม.3 มาใช้น่ะ
: ก่อนหน้านี้ :
‘ โห่ นี่แกจะเอาจริงดิ แล้วไปซื้อมาขนาดนี้จะใช้หมดเหรอวะ =[]=?’
‘ ไอ้เขื่อน นี่แกอย่ามาพูดแบบนี้เลย ตอนม.3 ฉันจำได้นะว่าแกน่ะใช้หมดเกลี้ยงจนไอ้พวกนั้นวิ่งหางจุกตูดน่ะ ฮ่าๆๆๆ’
‘ ไอ้ป๊อปปี้! แกหยุดแซะฉันเลยนะเว้ย!’
‘ โอเคๆ แต่ทั้งหมดนี่ที่ฉันซื้อมา ฟาง แล้วก็มิณท์จะเป็นคนจัดการ ส่วนพวกเราคอยช่วยไอ้โทโมะตามที่ฉันบอกไว้ในแผน’
‘ ไฟเย็นปะทัดพลุควัน พลุแท่งกระเทียม ลูกแก้ว? บลาๆๆ นะ...นี่พวกนายจะใช้ของพวกนี้จัดการกับไฟท์จริงๆน่ะนะ O_o?’
‘ นี่ๆๆ อย่าได้ดูถูกของเล่นสมัยยังเอ๊าะๆ ของพวกฉันเชียวนะสาวน้อยฟางถ้าอยากช่วยแก้วเธอต้องเชื่อพวกฉันโอเคมั้ย?’
‘อะ...โอเค ฉันเชื่อ ’
นั่นล่ะสิ่งที่พวกผมจดจำมาตลอดกับของเล่นสุดเจ๋งพวกนั้น ให้ตายสิ! ได้กลับมาใช้มันอีกครั้งแล้วแลดูน่าสนุกยังไงไม่รู้สินะ แต่ผมไม่ได้ใช้หรอกเพราะหน้าที่ผมไม่ใช่คนใช้อุปกรณ์พวกนั้น น่าเสียดายจุง Y^Y เพราะของพวกนั้นตั้งแต่ตอน ม.3 พวกผมก็ไม่ได้เล่นมันอีกเลยล่ะ แต่อย่าได้ดูถูกเชียว ( แล้วห้ามทำเลียนแบบด้วย! )เพราะว่ามันใช้จัดการพวกนี้ได้จริงๆถ้ามันตุกติกผมน่ะพวกคุณรอดูได้เลย!
และที่สำคัญนะ พวกกลุ่มผมน่ะได้รอผมอยู่ด้านนอกของสนามแข่งนี่โดยที่พวกไอ้ไฟท์มันไม่รู้ ไอ้จองเบกับพวกผมได้วางแผนกันเอาไว้ว่าให้ผมทำเป็นมาที่นี่คนเดียวแล้วกดเปิด โทรหาไอ้จองเบเอาไว้เพื่อให้มันได้ฟังเสียงตอนที่ผมนั้นคุยกับไอ้ไฟท์ถึง เหตุผลที่มันจับตัวของแก้วมายังไงล่ะ
และถ้าไอ้ไฟท์มันมีเล่ห์เหลี่ยมนักล่ะก็พวกผมจะจัดการมันด้วยของเล่นเด็กๆ ของพวกผมเคโอติคนี่แหละ!
“โอเคๆ รู้แล้วว่าแน่”มัน ทำพูดแล้วยกมือสองข้างขึ้นเสมอบ่าแบบยอมๆ จนผมนี้ต้องแอบหมั่นไส้อยู่ข้างในห้ามแสดงออกเด็ดขาดถึงแม้จะอยากต่อยมันแค่ ไหน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเดี๋ยวแผนแตกก่อนได้คำตอบจากปากมัน
และตอนนี้ผมก็เดาได้เลยว่าแก้วจะต้องอยู่บนห้องนอนของไอ้ไฟท์แน่นอน!
“อ่าห้ะ งั้นก็เข้าเรื่องเลยสิ”ผม พูดเป็นการหยั่งเชิงไอ้ไฟท์แล้วมองลูกน้องของมันทีละคนก่อนจะเลื่อนสายตามา สะดุดอยู่กับไอ้คนตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆไอ้ไฟท์ที่ก็กำลังมองมาที่ผมเช่นเดียว กัน
แต่เมื่อผมเห็นแบบนั้นผมก็เลื่อนสายตาจากหน้ามันไปมองที่อื่นช้าๆทำเหมือน กับว่ามันไม่มีตัวตนไปเลย
และที่สำคัญนะผมก็อยากให้ไอ้ไฟท์มันรีบๆพูดเหตุผลของมันออกมา เร็วๆด้วยเพราะว่าไอ้จองเบบอกว่าทำยังไงก็ได้ให้มันพูดบอก เพราะเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงที่จะช่วยแก้วแล้ว แล้วถ้าช่วยไม่ทัน ไอ้ไฟท์มันจะเล่นบ้าอะไรของมันต่อก็ไม่รู้
เพราะว่ามันน่ะถ้าทำอะไรแล้วสนุกสะใจผมว่ามันก็คงจะต้องทำให้แรงขึ้นนั่น แหละครับ เฮ้อ...ให้ตายเหอะ = =;;;
“อยากรู้ขนาดนั้นเชียว”
“อย่าลีลาเหอะว่ะ - -!” ถามไม่ได้นะไอ้นี่ ถ้าผมไม่อยากรู้แล้วจะรีบถามทำไม = =;;;
“โอเค๊! จะบอกให้ก็ได้ว่าทำไมฉันถึงได้จับแฟนสาวสุดน่ารักน่าขย้ำของแกมา ^^”
นะ...น่ารักน่าขย้ำงั้นเรอะ!?
ช่วยบอกหน่อยสิว่ามันไม่ได้ตั้งใจพูดให้ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าน่ะ! ( ใจเย็นๆๆๆ โทโมะ เย็นไว้เว้ยๆ ><! )
“อ่าห้ะ”ผมพยายามข่มเสียงให้ดูเฉยๆเข้าไว้ ( มันฝืนมากอ่ะ จริงๆ ( _ _)!! )
“ก็...เผอิญว่าฉันอยากได้คนเข้ากลุ่มมาแข่งรถทำเงินให้กับสนามแข่งเพิ่ม ฉันก็เลยนึกถึงแกตอนที่แข่งกับเพื่อนฉันที่สนามแข่งไอ้จองเบฉันก็เลยจับยัยนี่มาเป็นข้อต่อรองชัดป่ะ...”
อ๋อ...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองงั้นสินะ = =!
นี่...ทะ...ที่มันจับแก้วมาที่นี่เพราะเรื่องขี้ประติ๋วแค่เนี๊ยะ? โอ้โห...ความคิดนี่ดีเป็นเลิศเลยว่ะ ( ผมประชดนะ =[]=;;; )
“เพื่อให้ฉันตอบตกลงมาทำเงินให้สนามแข่งแกแค่นั้น?”ผู้พูดย้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เตือนตัวเองว่าไม่ได้ฟังอะไรผิดไปจากปากไอ้ไฟท์แน่ๆ
“ใช่ และในความคิดของฉัน ฉันก็หวังว่าแกจะตอบได้ถูกใจฉันนะ”
หูยยยย มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอออ?
“ตอบถูกใจ? อ้อ! พอดีว่า...ฉันมันเป็นพวกเดาทางยากซะด้วยสิ ^^”ผมพูดแล้วฉีกยิ้มให้มันเพราะว่าอยากจะดูว่าไอ้ไฟท์มันจะยังไงต่อที่เห็นผมไม่ของขึ้น ( ทั้งๆที่อยากจะต่อยมันมาก! )
“แต่ฉันคิดว่าแกคงไม่มีทางเลือกแล้วแหละนะ ^^”
หึ พูดแบบนี้แสดงว่ามันคิดผมคงหมดทางจนต้องตอบคำว่า‘ตกลง’ สินะ
แต่เสียใจด้วยว่ะ! เพราะคนอย่างผมคนนี้ไม่มีทางที่จะทิ้งเพื่อนที่อยู่ด้วยกันเพราะมิตรภาพมา นาน มาอยู่กลุ่มกับไอ้พวกนี้ด้วยเหตุผลของมันก็คืออยากได้เงินเพิ่มหรอกนะ และผมว่าคงไม่ใช่แค่นั้นหรอก เพราะเหตุของมันคงจะมีไอ้จองเบมาเกี่ยวด้วยแหงๆล่ะ เซ้นต์ข้างในมันบอกอยู่ลึกๆน่ะ
และขอบอกเลยว่ามันเป็นเหตุผลที่...ปัญญาอ่อน! และผมจะไม่มีทางไปตอบอะไรปัญญาอ่อนๆแบบนั้นเด็ดขาด
“อืมมมม แต่มันก็ติดอยู่นิดนึงนะไฟท์”ผมพูดแล้วมองหน้ามันตรงๆจากนั้นก็หรี่ตาเป็นการคาดเดา “การ ที่แกจะเรียกเงินก้อนโตกลับมาเพราะเพิ่มคนเข้ากลุ่ม อืมมม จะว่าไปแล้วประชากรบนโลกนี้มันมีตั้ง 7 พันล้านกว่าคนแล้วทำไมคุณมึงไม่ไปหาล่ะ ทำไมต้องมาเจาะจงคุณกูด้วยล่ะครับ ^^?” ผมเริ่มพูดจากวนตีนจนไอ้ไฟท์ต้องกำหมัดในมือแน่น
เออดี! อยากเห็นมันของขึ้น!
“ไอ้โทโมะ แกรู้มั้ยว่าตอนนี้แกเป็นรองฉันอยู่ แกไม่มีสิทธิ์ถาม เพราะว่าแกมีสิทธิ์แค่อย่างเดียวคือตอบคำว่า ‘ตกลง’ ฉันรู้ว่าพวกแกน่ะคำไหนคำนั้นไม่เคยผิดคำพูดถ้าแกตกลงแกก็เอาแฟนแกกลับไป โอเค๊?”
พูดเหมือนว่าจะให้แฟนฉันคืนง่ายๆอย่างงั้นแหละนะ รู้หรอกน่าว่าเล่ห์เหลี่ยมแกมันเยอะ! และถ้าฉันตอบตกลงพวกแกฉันก็ต้องเป็นรองพวกแกไปเลยดิ หึ ไม่มีทาง เพราะว่าฉันจะเอาแฟนของฉันกลับโดยที่ไม่มีการตกลงอะไรใดๆทั้งนั้น...ไอไฟท์!
“ง่ายขนาดนั้นเลย? งั้นก็พาแฟนฉันมาให้เห็นหน้าก่อนสิ”ผมบอกแล้วเอียงคอมองมันแล้วเอามือทั้งสองข้างล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง
และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ...!
“ตอนนี้แฟนแกอยู่บนเตียงของฉัน และถ้าแกไม่ตกลงก่อนเย็นนี้แกก็ไม่ได้เห็นหน้าแฟนแกหรอกว่ะ ฮ่าๆๆๆ”มันกับพวกจงใจหัวเราะเยาะผมเพราะคิดว่าผมกำลังมีทางตันแล้ว
แต่ไม่ใช่...เพราะผมมี ‘เพื่อนที่เป็นครอบครัว’ รอให้ความช่วยเหลือผมอยู่!
ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!!
ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!!
ขวับ!
“เฮ้ย! เสียงอะไรวะ?!”ช่วง จังหวะนั้นนั่นเองที่ไอ้ไฟท์ตกใจเสียงบางอย่างที่อยู่ตรงอีกด้านหนึ่งของ สนามแข่ง จนพวกของมันที่ยืนอยู่ตรงนี้หันไปมองทางต้นตอของเสียงนั่นก่อนจะรีบพากัน วิ่งไปดูทันที ก็จะมีเหลือแค่ไอ้ไฟท์กับไอ้ตัวเล็กเนี่ย! แค่นั้น หึ เข้าทางล่ะ!
เพราะว่าเสียงเมื่อกี้มันก็คือเสียง ‘ประทัด’ ที่ใช้จุดในวันตรุษจีนยังไงล่ะ!
แล้ว คนที่จุดก็คือไอ้เขื่อนกับไอ้ป๊อปปี้นั่นเอง เพราะเมื่อตอน ม.3 จำได้เลยว่าพวกมันใช้แผนนี้จนนักเรียนอีกโรงเรียนถึงกับวิ่งหนีกันกระเจิง เลย
“ไอ้โทโมะ เสียงนั่นมันอะไร นี่แกอย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือของเพื่อนแกน่ะ!”ไฟท์ชี้หน้าผมทันที เอิ่มมมมม รู้ช้าไปนะ นึกว่าจะรู้ไวกว่านี้ซะอีก ^^
“ม๊าย ไม่ใช่ ‘เพื่อน’ แต่เป็น‘ครอบครัว’ ของฉัน!”
ผัวะ!!!
หมัดของผมได้ซัดเข้าใส่หน้าไอ้ไฟท์เข้าอย่างจังจนทำให้หน้ามันหันไปอีกทาง ใช่! แผนเมื่อกี๊ก็คือ ‘แผนล่อลูกเสือออกจากนายเสือ’ ให้ คนของไอ้ไฟท์ไปอยู่อีกที่ผมจะได้จัดการกับมันง่ายขึ้นยังไงล่ะ โอเค มาถึงแผนต่อไปที่จะทำให้ที่นี่เละตุ้มเป๊ะถ้าหากว่ามันยังไม่ยอมคืนแก้วให้ ผมดีๆ!
“ไอ้โทโมะ!”เมื่อ ไฟท์ตั้งหลักได้จึงจะตรงเข้ามาต่อยผมกลับ แต่ว่าผมก็หลบอ้อมทันไปทางด้านหลังมันก่อนจะใช้ฝ่าตีนอรหันต์ถีบเข้าบั้น ท้ายของมันจนมันหกล้มไปนอนกองอยู่กับพื้น
ผัวะ!!!
ตุ้บ!!
“โอ๊ย!! ไอ้เชี่_!”
“นี่แก! กล้าทำไอ้ไฟท์อย่างงั้นเหรอ”ไอ้คนตัวเล็กที่กำลังยืนมองด้วยควมมึนงงกับเหตุการณ์นี้เพราะคงไม่คาดคิดว่าผมจะมี ‘แผน’เหมือนกันงั้นสินะ หึ!
ขอโทษทีนะ...ไม่ได้โง่ จบป๊ะ?
“เอ๋าไม่กล้าแล้วจะทำเหรอ?”ผมมองหน้ามันกวนตีนแล้วเลียลิ้นไปตามริมฝีปากของตัวเองด้วยที่เห็นว่ามันหน้าเสียจนซีดไปเลย ฮ่าๆๆ สะใจ!
“ไอ้ดีโอ! จัดการมันสิวะ!”ไอ้ไฟท์ที่กำลังนอนอยู่กับพื้นเอ่ยสั่งไอ้ดีโอนั่น โห รับฟังคำสั่งดีมากอ่ะสั่งปุ๊บ! แล้วกำลังจะตรงเข้ามาต่อยผมปั๊บ! แต่เสียใจ! เพราะแค่ส่วนสูงมันก็สู้ผมไม่ได้ละ!
หมับ!
“ตัวเล็กแล้วอย่าทำเก่งมันน่าจะดีกว่ามั้ย?”จังหวะ นั้นที่มันง้างหมัดจะต่อยเข้ามาที่หน้าผมผมก็ได้รับหมับของมันเอาไว้ได้ทัน แต่ที่ไม่คาดคิดไอ้ไฟท์มันกำลังใช้ของสู้จนผมไม่ทันตั้งตัว!
ผัวะ!
“อั๊ก!”ผม ร้องเสียงหลงออกมาเพราะว่าแผ่นหลังรับรู้ได้ถึงแรงฟาดจากของบางสิ่ง ซึ่งพอหันไปมองก็พบว่าไอ้ไฟท์มันกำลังใช้ท่อแป๊ปสีฟ้าเป็นอาวุธในการทำร้าย ผมนั่นเอง
ท่อแป๊ปงั้นเหรอ? งั้นเจอนี่หน่อยละกัน!
ผลั่ก!
จังหวะ นั้นผมใช้แรงที่มีผลักไอ้ดีโอจนมันเซล้มไปกองอยู่กับพื้นอย่างแรงจากนั้นผม จะหันกลับไปมองไอ้ไฟท์ที่กำลังตรงเข้ามาแล้วกำลังจะเอาท่อแป๊ปฟาดเข้าที่ หน้าของผม
“มึง!”
หมับ!
“ฉันต่างหากที่ต้องเรียกแกว่า‘มึง!’ ”เมื่อผมจับท่อแป๊ปได้ผมก็พยายามดันให้มันออกไปจากใบหน้าด้วยความโมโหที่มีอยู่ข้างใน “ไอ้ห่า! จับแฟนชาวบ้านมาเพราะเรื่องปัญญาอ่อนแค่เนี๊ยะ!? บอกตรงๆเลย ควายยังฉลาดมากกว่าแกด้วยซ้ำไอ้ไฟท์!”
ผมพ่นคำด่าที่เก็บมานานด่ากราดใส่หน้าไอ้ไฟท์อย่างเจ็บแสบ แล้วจ้องมองมันด้วยสายตาโกรธเคืองแล้วแข็งกร้าวไปด้วย
ผัวะ!
“โอ๊ย!!”ที่มันร้องแบบนั้นเพราะว่าผมนั้นได้ใช้ตีนถีบเข้าที่ ‘เจ้าชายน้อย’ ของ มันนั่นเอง ก่อนจะแย่งท่อแป๊ปออกมาจากมือมันแล้วก็โยนไปทางอื่นให้ไกลๆจากตรงนี้ เพราะผมเกลียดการใช้อาวุธในการสู้แต่สิ่งที่พวกผมเคโอติคมีมันไม่เรียกว่า อาวุธอ่ะ เพราะมันเรียกว่า‘อุปกรณ์’
เอาล่ะ คราวนี้ล่ะ ที่ผมกับพวกเพื่อนๆจะต้องจัดการกับมันสักที!
[ จบบันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
อีกด้าน
“ไอ้จองเบพวกมันไปอยู่ฝั่งที่ไอ้เขื่อนกะไอ้ป๊อปจุดประทัดแล้วเว้ย เอาไงต่อ”เคนตะถามทันทีเพราะว่าแผนแรกเสร็จไปแล้วหนึ่งคือการล่อไอ้พวกนั้นให้ออกห่างจากโทโมะโทโมะจะได้จัดการไฟท์ง่ายขึ้นยังไงล่ะ
และ ตอนนี้กลุ่มเคโอติคก็ได้แยกกระจายกันออกไป เขื่อนไปกับป๊อปปี้ไปอยู่ข้างสนามอีกฝั่งโดยปีนกำแพงเข้าไป แล้วเมื่อล่อพวกนั้นมาติดกับป๊อปปี้กับเขื่อนก็จะถ่วงเวลาเอาไว้ให้ทางนี้นั่น เอง แล้วตอนนี้เคนตะกับจองเบก็กำลังอยู่นอกสนามแข่งแล้วแอบมองเข้าไป ด้านในก็เห็นว่าหน้าประตูทางเข้านั้นยังมีพวกไอ้ไฟท์ยืนคุมอยู่
แต่พวกมันก็คงไม่รู้หรอกว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นบ้างน่ะ คราวนี้ล่ะ!
“เดี๋ยวๆๆๆ เคนตะๆๆ เอาพลุควันมาก่อน”จองเบ รีบดึงกระเป๋าของเคนตะเอาไว้เมื่อเห็นว่าเขื่อนกำลังจะลุกขึ้นกับฟาง จากนั้นจองเบก็รีบหยิบเอาพลุควันออกมาจากกระเป๋าก่อนจะทำการจุดมันจนควันขึ้น แล้วโยนเข้าไปด้านในอีกฝั่งจนควันสีชมพูลอยฟุ้งเต็มไปหมด
“เฮ้ย! ควันอะไรวะ! ”
“ไอ้พวกนั้นไปแล้ว ไปๆๆๆ เข้าไปเร็วๆ”จองเบ รีบบอกฟางและมิณท์จากนั้นพวกฟางก็เลยรีบวิ่งเข้าไปยังฝั่งที่มัน เป็นพวกห้องพักพนักงานของพวกไฟท์จากนั้นจองเบ เคนตะ ก็ไปยังอีกทางก็คือทางเข้าไปทางสนามแข่งนั่นเองเพื่อช่วยโทโมะ
“เฮ้ย เข้ามาได้ไงวะ”เมื่อ พวกจองเบเดินเข้ามาเรื่อยแล้วพวกลูกน้องของไฟท์ที่กำลังยืนอยู่แถวๆนั้นเห็น เข้าจึงรีบเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาทันทีด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรแบบสุดๆ
“อ๋อ มาหาเพื่อนน่ะ ^^”จองเบทำเป็นแสแสร้งแกล้งพูดแต่แฝงไปด้วยความกวนประสาท
“เพื่อนอะไรวะ! ไม่มีหรอก! ที่นี่มีแต่พวกฉัน พวกแกกลับไปได้แล้ว”
“จะไม่มีห่าอะไรล่ะก็เพื่อนกูอยู่ในน้านนนน ><!” เขื่อนพูดบอกอย่างกวนๆ
“ก็บอกว่าให้กลับไปไม่เข้าใจรึไงวะ”
ผัวะ!!
“อั่ก!”หน้าของเขื่อนหันไปยังอีกทางเมื่อไอ้คนพูดัมนต่อยเข้ามาที่ใบหน้าของเขื่อนอย่างแรงจนถึงกับเลือดออก
“เฮ้ย ทำเพื่อนฉันเหรอวะ”เมื่อป๊อปปี้เห็นแบบนั้นก็ถึงกับของขึ้น
“ทำพ่อมึงมั้ง”
“กวนตีนละ”
ผัวะ!!
ป๊อปปี้ได้จังหวะก็ต่อยเข้าที่ใบหน้าก็ไอ้บ้านั่นทันที แถมมันยังมีมาอีกสองคนด้วยจนพวกเขาต้องใช้ไม้เด็ดออกมา!
“เฮ้ย ทำอะไรกันวะ!?”
“เจอนี่หน่อยยยยย”
โป๊ะ!
โป๊ะ!
โป๊ะ!
โป๊ะ!
“โอ๊ย!! อะไรวะเนี่ยยย”
“เอ้า ไม่รู้จักระเบิดกระเทียมเหรอเพ่!”เขื่อนเอ่ยปากบอกขณะที่จองเบกับป๊อปปี้ก็เล่นปาระเบิดกระเทียมใส่ตัวไอ้พวกนั้นจนพวก นั้นดันทำท่าแต๋วแตกออกมากันเลยทีเดียว เห็นแบนี้แล้วพวกเขาก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้“ดิ้น ดิ้น ดิ้นใหญ่”
โป๊ะ!
“โอ๊ย! ไอ้บ้านี่ พวกแกหยุดปานะเว้ย >O<!”
“ไม่หยุด! จะปาแม่งให้หมดซองนี่แหละ ร้ายกันดีนัก ร้ายยันเจ้านายถึงลูกน้อง โว๊ะ!”เขื่อนพูดแล้วก็ปาระเบิดกระเทียมใส่พวกนั้นรัวๆๆๆ จนกระทั่งหมดซองเลยทีเดียว
โป๊ะ!
ตุ้บ!
“เฮ้ยๆๆๆ พวกมันล้มแล้ว ไอ้ป๊อปเอาเชือกมาเร็ว!”เมื่อ เขื่อนเอ่ยบอกม่อนหลังจากที่พวกนั้นเอาแต่ดิ้นๆจนล้มลงพื้นม่อนก็ได้จัดการ เอาเชือกสีดำที่พกติดตัวมาด้วยมาจัดการมันเจ้าสามคนนั้นเข้าด้วยกัน “มัดๆๆๆเร็วๆเด้”
“ฉันมัดอยู่เว้ย ><!”
“เร็วๆๆ เดี๋ยวไอ้โทโมะแย่”จองเบบอกอย่างร้อนรนพลางมองไปที่โทโมะที่กำลังต่อยอยู่กับไฟท์แล้วก็ดีโอตั้งสองคนแหน่ะ
แล้วเขาจะต้องรีบไปช่วยเพื่อนของเขาเดี๋ยวนี้!
“ไอ้โทโมะโว๊ยยยย ฉันมาแล้ววววว”
ในขณะเดียวกัน
ฝั่ง > ฟาง> มิณท์
ตึกๆๆๆ
“ฟางเบาๆสิ พวกมันอยู่ข้างบนรึปล่าว?”มิณท์เอ่ยเตือนเมื่อเห็นฟางรีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสองแล้วมิณท์ก็เดินตามขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆด้วย “ฟาง ถ้าเห็นใครรีบบอกเลยนะ”
“โอเค”ฟางบอกแล้วพยักหน้า
“แก้วอยู่ห้องไหนเนี่ย”เมื่อ ขึ้นมาถึงพวกเขาก็พากันดูรอบๆเพราะว่ามันมีหลายห้องมาบนชั้นนี้ และตอนนี้พวกเขาก็เดินมาถึงทางยาวชะเง้อมองห้องข้างๆแอบเปิดดูห้องต่างๆก็ ไม่เจอเลย
จนกระทั่งมาเจอเข้ากับ!
“เฮ้ย! ขึ้นมาได้ยังไงกัน พวกแกเป็นใครวะ!” ขวับ! ( O_o)! ( OoO)!
“เวร / เวร /”ฟาง > มิณท์
ฟิ้ว!
ตึกๆๆๆๆๆ
ฟางและมิณท์รีบวิ่งหนีกันสุดตีนทันทีเพราะว่ายังไม่ทันได้ตั้งหลักอะไรเลยแถมพวกนั้นก็มีประมาณ 3 4 คนได้ ให้ตายสิ! อีกไม่ถึง 20 นาทีคนก็จะเริ่มมาสนามแข่งนี่แล้วนะ! ><!
“เอาไงดีๆๆๆ ><!”ฟางรีบพูดเพราะว่าพวกเขานั้นได้วิ่งมาหลบอยู่ข้างหลังกำแพงตรงทางลงบันไดขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของไอ้พวกนั้นกำลังตามมา
“ใช้นี่ๆๆ อยากใช้”มิณท์พูดแล้วถอดกระเป๋าเป้ออกมาแล้วรีบหยิบถุงลูกแก้วขนาดกำลังดีขึ้นมา “ฟางถือเป้ให้หน่อย”เขารีบพูดบอกแล้วชะเง้อหน้าไปแอบดูก็เห็นว่าไอ้พวกนั้นกำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว“เสร็จแน่ ฮ่าๆ ^O^//”
จังหวะนี้ล่ะ!
กรวดดดดดดด
กรวดดดดดดด
“ย๊ากกกกกกกก”
ตุ้บ ตะ ลุบ ตุ้บ ตั้บ!!!( โปรดร้องเป็นจังหวะเพลง ฮ่าๆๆๆ )
“เจ๋ง!”มิณท์รู้สึกดีใจที่ได้เห็นไอ้พวกนั้นพากันล้มหน้าทิ่มเพราะว่าเหยียบลูกแก้วที่เขาเทมันหมดถุงจนลื่นไปตามๆกันเลยทีเดียว“ทางสะดวกแล้ว ไปกันเถอะ”
“ป่ะ ว๊ากกกกก”ฟางที่กำลังจะวิ่งตามมิณท์ไปจำต้องร้องออกมาเมื่อขาของเธอถูกจับดึงจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
“ฟาง!”ตกใจมากเมื่อหันมาเห็นภาพนั้นแล้วกำลังวิ่งกลับมาช่วย
“ไป! ไปหาแก้วก่อนทางนี้ฉันจัดการได้!”
“แต่...”
“ไปสิเดี๋ยวไม่ทัน!”ฟางรีบตะโกนบอกทันทีมิณท์ก็เลยพากันวิ่งหาแก้วตามห้องต่างๆในนี้ อีกครั้ง“โอ๊ย!!ปล่อยขาฉันได้มั้ยวะเนี่ย>O<?” นี่ดีนะที่ไอ้คนที่จับขาฟางมีแค่คนเดียว เพราะอีกสองคนสลบคาที่ไปเรียบร้อย
“ไม่ปล่อยเว้ย!”มันตะโกนบอกแล้วจับดึงขาฟางแน่น
“ไม่ปล่อยใช่มั้ย? ได้!”
ปึก!!
“โอ๊ย! ยัย...!!! อั๊ก!!”ไอ้ บ้านั่นร้องออกมาเพราะว่าหน้าของมันนั้นอยู่ตรงส้นเท้าของฟางพอดิบพอดีฟาง จึงใช้เท้าถีบหน้ามันจนมันปล่อยมือออกจากขาฟางในที่สุด จังหวะนั้นเธอก็เลยลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบล้วงแท่งไฟเย็นขึ้นมาถือไว้พร้อม กับใช้ไฟแช็คที่จองเบได้ให้เอาไว้ขึ้นมาจุดเจ้าไฟเย็นนั่น
ตอน นั้นนั่นเองเมื่อฟางได้จุดแท่งไฟเย็นได้แล้วเธอจึงเดินไปย่อตัวลงตรงขาของ ไอ้บ้านั่นที่พยายามจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาแต่ก็ยากเหลือเกินเพราะลูก แก้วอยู่เต็มไปหมด แต่ฟางเธอก็ยืนได้อย่างระวัง
“ฉันจำหน้าแกได้นะ! แกมันไอ้หมอนั่นที่ผลักฉันจนหัวทิ่ม”
“เออ แล้วจะทำไมวะ!”
“หึ จับเพื่อนฉันมาใช่มั้ย! พวกแก๊! ”ใช่! ที่ฟางขึ้นเสียงแบบนี้เพราะว่าไอ้พวกนี้แหละที่ผลักเธอจนหน้าทิ่มพื้นตอนที่พวกมันจับแก้วยังไงล่ะ “บอกเลยว่าแค้นเว้ย! ผลักฉันหน้าทิ่มพื้นตั้งสองรอบ งั้นเจอนี่หน่อย ย่า!!! >O<!”
จึก!
“อ๊ากกกกก ร้อนๆๆๆๆ” สาเหตุ ที่ไอ้บ้านั่นร้องออกมาว่าร้อนแบบนั้นเพราะว่าฟางนั้นได้จัดการเอาไฟเย็น จิ้มเข้าที่รูก้นตรงกลางกางเกงของหมอนั่นเขาอย่างจังๆยังไงล่ะ!
“ร้อนทำไมชื่อมันก็บอกอยู่ว่าคือ‘ไฟเย็น’ แบร่ๆๆ สม! ไอ้บ้า!”ฟาง ลุกขึ้นยืนแล้วแลบลิ้นใส่ไอ้บ้านั่นที่กำลังเอามือถูก้นอยู่ก่อนจะรีบวิ่งไป ตามทางมิณท์วิ่งไปแล้วก็ปรากฏว่าเห็นว่ามิณท์ ออกมาจากห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่ตรงด้านในสุดเดินออกมาพร้อมกับร่างของแก้วที่กำลังสลบอยู่ในอ้อมแขนของเขานั่นเอง!
“ฟางเจอแก้วแล้ว!!”มิณท์รีบตะโกนบอก
“โอเค งั้นไปหาพวกเคโอติคด่วนเลย! เราต้องรีบออกจากที่นี่ก่อนพวกคนดูจะมา! เร็วๆๆๆ”ฟาง รีบกวักมือมิณท์ก็รีบวิ่งมาพร้อมกับพยุงร่างของแก้วไปด้วยแล้วพวกเขาก็ รีบพากันวิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปเจอกับกลุ่มเคโอติค!
ตึกๆๆๆๆๆ
“ฟางผมโทรบอกเขื่อนกับป๊อปปี้แล้ว พวกเขาจัดการไอ้พวกนั้นเรียบร้อย เดี๋ยวจะไปเอารถมารับพวกเรา”เมื่อมิณท์บอกตอนที่เดินลงมาถึงชั้นล่างฟางก็พยักหน้าให้ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังมองหน้ากลุ่มของจองเบที่แยกออกไปช่วยโทโมะนั่นเอง!
แต่ตอนนี่พวกเขาอยู่ไหน!?
“อยู่ไหนอ่ะ”ฟางพูดขณะที่กำลังมองไปรอบ
“นั่นๆ อยู่ตรงนั้น”มิณท์พูดบอกฟางเพราะว่าเขาดันมองไปเห็นว่าโทโมะ จองเบ กับเคนตะกำลังยืนเคลียร์กับไฟท์อยู่นั่นเอง
[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
ผลั่ก!
“อย่าทำแบบนี้อีก”ไอ้ จองเบเอ่ยบอกหลังจากที่ช่วยผมรับมือกับไอ้ไฟท์จนไอ้ไฟท์นั้นสู้ไม่ไหว แต่พวกผมไม่ได้ทำอะไรมันจนหนักหนาสาหัสนะ ไม่ใช่แบบนั้น แต่พวกไอ้จองเบก็แค่ช่วยรั้งมันให้หยุดเข้ามาทำร้ายผมแค่นั้นเอง รวมถึงไอ้ดีโอด้วยที่ตอนนี้ก็กำลังยืนหมดแรงอยู่ข้างๆไอ้ไฟท์หลังจากที่พวก ผมจัดการผลักมันเข้าชิดกำแพง
เอาล่ะ มาเคลียร์กันสักทีสินะ
“ไอ้ขี้โกง! ไหนว่ามาคนเดียวไงฮะ? ที่ไหนได้ พวกแกมันก็ขี้โกงนี่เอง!”ไฟท์ตะคอกใส่แล้วใช้สายตาอันโกรธเกรี้ยวนั่นมองพวกผมทีล่ะคน เห๊อะ ท่าทางแบบนี้มันเหมือนกับยัยพิมพ์ในร่างผู้ชายเลยว่ะ
“แกต่างหากที่โกง ฉันอยู่ของฉันดีๆแล้วมาทำแบบนี้ได้ไง ถ้าอยากได้คนเพิ่มเข้ากลุ่มก็ไปประกาศรับสมัครสิวะ ไม่ใช่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้”ผมชี้หน้าด่ามันบ้าง เหลืออดแล้วจริงๆ
“ใช่ อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน และอย่ามายุ่งกับพวกเรา ต่อจากนี้ต่างคนต่างอยู่”ไอ้เคนตะที่ยืนข้างๆผมก็พูดขึ้นเช่นกัน
“ง่ายไปมั้ง?”
“ไอ้ไฟท์ ถ้าขืนแกยังไม่จบฉัน จะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อของแก อย่าลืมซี่ พ่อฉันกับพ่อรู้จักกัน ฉะนั้น...แกก็น่าจะรู้นะว่าถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อแกมันจะเป็นยังไง เพราะครั้งนี้ฉันจะถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะมาเหยียบที่นี่”ไอ้จองเบร่ายมายาวเหยียดจนทำเอาไฟท์ทำได้แค่ถอนหายใจแต่สุดท้ายมันก็ยังจะ...
“อย่าเอาพ่อฉันมาขู่เลยดีกว่า”
“ไม่ได้ขู่ เพราะฉันเอาจริง”จองเบบอกเสียงเข้มผมกับเคนตะจึงมองหน้ากัน “ไอ้โทโมะน่ะ มันไม่เคยทำอะไรให้แก เพราะฉะนั้นอย่ามาทำแบบนี้ พวกฉันก็อยู่เฉยๆไม่เคยเข้าไปยุ่งอะไรแกและถ้าแกจะเอาข้ออ้างที่ว่าอยากจะชนะฉันเรื่องรถ ก็ขอบอกเลยว่าแกเป็นคนมาหาฉันถึงที่เอง”
“...”
“อย่ามาทำแบบนี้ เพราะเรื่องที่แกทำมันเป็นเพราะตัวแกเอง แกมาท้าฉัน ฉันแข่งโดยไม่มีการโกงแล้วชนะมันก็ถูกแล้วนี่? แล้วแกจะมาโทษฉันได้ไง เพราะถ้าแกไม่ท้าแข่งแกจะเสียเงินก้อนของแกให้ฉันมั้ย? ก็ไม่”
“เออๆๆๆ! ฉันยอม! พวกแกชนะเคป๊ะ!” ดูมัน - -!
“นี่มันไม่ใช่การแข่งขันเพื่อชนะ”ผมเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าไอ้ไฟท์ “เพราะการแข่งขันคือสิ่งที่ไม่มีการปะปนกับเรื่องสกปรกแบบนี้ เพราะฉะนั้นขอร้อง อย่ามายุ่งกับชีวิตของฉันอีก หวังว่าแกคงจะเข้าใจนะ”
“Shit”
“โทโมะ!”จังหวะนั้นนั่นเองที่เสียงของฟางดังขัดขึ้นเสียก่อนพอโทโมะหันกลับไปมองเขาก็ยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าพวกฟางช่วยแก้วได้แล้ว
บรื๊นนนนน
แล้วในตอนนั้นป๊อปปี้กับเขื่อนก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามาที่สนามแข่งนี้คนละ คันเพราะว่าพวกมันคงจะจัดการคนของไอ้ไฟท์ไปเรียบร้อยแล้วน่ะสิ
จบแล้วสินะ...
“หวังว่าแกจะไม่ลืมนะไฟท์ ที่ฉันบอกน่ะ”ไอ้จองเบย้ำอีกครั้ง
“เออๆๆๆ เชิญพวกแกออกไปจากสนามแข่งของฉันได้แล้ว! แค่นี้คนของฉันก็เละพอแล้ว!”ไฟท์บอกแล้วเอามือยกขึ้นเสยผมสีควันบุหรี่ด้วยความอารมณ์เสียอย่างแรว๊ง
“เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆๆ มีอีกอย่างที่ยังไม่ได้ใช้เลยอ่า”
“อะไรของแกวะไอ้เขื่อน =[]=?”พวกผมมองไอ้เขื่อนงงๆเพราะว่ามันวิ่งไปค้นกระเป๋าเป้ของมิณท์ก็พบว่ายังมีบางสิ่งที่ยังไม่ได้ใช้เลย
อะไรของมันวะ?
“สายรุ้งไง๊ ^=^”
“พอเลย!! ออกไปจากสนามแข่งของฉันได้แล้ว!”ไอ้ไฟท์ไล่ เห๊อะ! ที่นั่นทำเป็นเหนือกว่า สุดท้ายเป็นไง อับอาย? ขายขี้หน้า? เยอะอ่ะ! เพราะสิ่งที่พวกผมทำมันก็คงทำให้ไอ้ไฟท์ไม่กล้าทำอะไรแบบนี้อีก
“งั้น...”
ฟึ่บ!
จังหวะนั้นไอ้เขื่อนได้โยนขวดสายรุ้งนั่นมาที่ไฟท์ ไฟท์ก็รับมันแล้วทำหน้าตางงๆว่าไอ้เขื่อนมันต้องการจะสื่ออะไรของมันกันแน่?
“อะไรของแก”
“ฝากเอาสายรุ้งพ่นใส่หัวตัวแกเองด้วยนะ โทษฐานจับแฟนเพื่อนฉันมา :P”
“ไอ้สลัดผัก!”ไฟท์ด่าแล้วทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องไอ้เขื่อนอีกรอบแต่ไอ้ดีโอก็ดึงคอเสื้อมันเอาไว้เป็นทำนองว่า‘อย่าดีกว่า’
“แกสิสลัด! ไม่ใช่สลัดที่กินได้นะแต่ฉันกำลังหมายถึง Animal ”
“พอแล้วไอ้เขื่อน จบเรื่องแล้ว กลับถิ่นกันเถอะ”
เมื่อ ไอ้จองเบพูดจบมันก็มองไอ้ไฟท์เพียงนิดเดียวก่อนที่พวกผมจะพากันเดินออกมาจาก ตรงนั้น ส่วนผมก็เดินไปที่ไอ้มิณท์ที่มันกำลังอุ้มแก้วเอาไว้ในอ้อมแขน ในหัวผมในตอนนี้มันไม่ได้มีความหึงหวงหรือไม่พอใจอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่มันมีแต่คำว่า...
“ขอบใจนะ”ผม มองหน้ามิณท์แล้วเอ่ยบอก มิณท์ก็ยิ้มให้ผมนิดๆแล้วก็จัดการส่งร่างของแก้วเอามาไว้ในอ้อมแขนของผม แทน และตอนนี้แก้วเธอก็กำลังหลับปุยเพราะฤทธิ์ยาสลบนั่งเอง( ฟางบอกผมว่าเธอโดนโปะยาตอนเธอโดนพาตัวขึ้นรถ )
“จบเรื่องสักทีสิน่า เฮ้อ!”ไอ้ป๊อปปี้เอ่ยพูดขณะที่กำลังนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ซึ่งคันที่พวกมันเอามาเป็น รถของไอ้จองเบที่อยู่ที่สนามแข่งนั่นเอง มันก็ขับมาที่นี่ตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ
“บททดสอบแกจบแล้วเพื่อน ครั้งนี้คงเป็นอุปสรรคสุดท้ายแล้วสำหรับแก ต่อจากนี้ก็ดูแลแก้วให้ดีนะเว้ย เพราะโชคดีไม่ได้มีเสมอไป”ไอ้จองเบเอามือขึ้นมาจับบ่าของผมเอาไว้แล้วเอ่ยบอกเพื่อนๆผมก็เดินมาอยู่ล้อมรอบตัวผมแล้วมองผมยิ้มๆผมก็ยิ้มตอบพวกมันเช่นกัน
“ฉันขอบใจพวกแกมากนะเว้ยที่ช่วย ถ้าไม่มีพวกแก...ฉันคง...”
“ไม่มีวันไหนที่แกจะไม่มีพวกฉันไอ้โทโมะ เพราะพวกเราเคโอติคจะเป็นเคโอติคที่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือกันและกันตลอดไปชัดนะเว้ย”หัวหน้ากลุ่มอย่างป๊อปปี้เอ่ยขึ้นจนทำเอาผมพูดไม่ออกเลย
“โทโมะ เรื่องจบแล้วแกก็พาแก้วกลับไปบ้านซะ วันนี้แกไม่ต้องไปที่สนามแข่งฉันหรอก อยู่ดูแลแฟนแกเหอะ เพราะว่ายาสลบถ้าเกิดเพิ่งโดนเป็นครั้งแรกคนที่โดนจะมีผลข้างเคียงบ้างน่ะ”
“ข้างเคียง? ข้างเคียงยังไงอ่ะ? =[]=?”ฟางที่ยืนอยู่ข้างๆผมเอ่ยถามอย่างงงๆ
นั่นสิข้างเคียงยังไงวะ = =?
“โทโมะมี่งี่เง่าาาา นายต้องโดนเราเตะ ฮ๋าๆๆๆๆ”
“เย้ย!”พวกผมร้องขึ้นมาเมื่อแก้วดันละเมอพูดอะไรก็ไม่รู้อยู่ในอ้อมแขนของผมซะงั้น
ให้ตายสิ! เมื่อกี๊อะไร? ‘ โทโมะมี่’ เนี่ยนะ?
เอิ่มมม มันมาจากผลข้างเคียงใช่มั้ย = =?
“โทโมะมี่งั้นเหรอ? อ๊ากกกก ไอ้โทโมะเปลี่ยนชื่อแล้วเว้ยยย”
“นี่ พวกแกหยุดล้อฉันเลยนะเว้ยยย ><!” สาบาญได้เลยถ้าไม่ติดว่าพวกมันช่วยผมเอาไว้แล้วผมไม่ได้อุ้มแก้วอยู่ ผมกระโดดถีบพวกมันไปแล้ว ><!
สุด ท้ายกลุ่มของพวกผมก็พากันออกมาจากสนามแข่งของไฟท์โดยที่ผมให้ฟางไปกับผมด้วย พวกไอ้จองเบก็กลับไปที่สนามแข่งกัน และฟางเธอบอกว่าเดี๋ยวคืนนี้จะไปนอนค้างที่บ้านแก้วเผื่อว่าแก้วละเมออะไร อีก ผมก็ว่าดีเธอจะได้มีคนดูแลเธอแถมพ่อแก้วจะได้ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก
และตลอดตั้งแต่ออกมาจากที่นั่น ที่สนามแข่งของไอ้ไฟท์มันทำให้ผมได้อะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน
เพราะมันทำให้ผมได้รู้ว่าเพื่อนๆของผมเป็น‘ครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ’ และ เป็นเพื่อนที่ดีมาก และผมก็หวังว่าพวกเราจะรักกันมากขึ้นหลังจากนี้เพราะว่าอุปสรรคหลายๆอย่าง ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่ผมเจอกับแก้วมันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จริงๆมันมีทั้ง ความรัก มิตรภาพ และอีกเยอะซึ่งผมเองก็บอกได้ไม่หมดหรอก
และสุดท้าย...ผมก็อยากจะพูดบอกกับทุกๆคนว่าขอบคุณมากๆนะครับที่อยู่ เคียงข้างผมมาตลอด จนถึงตอนนี้ ขอบคุณที่ช่วยผลักดันให้ผมได้รู้ถึงการใช้ชีวิตมากมาย และการเปิดใจลืมอดีตที่ผ่านมาแล้วพบกับเรื่องใหม่ๆ
แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะบอกกับทุกคนก็คือ... ‘ทุกคนก็เป็นครอบครัวของผมเช่นกัน’...รักมากมายนะครับ >_O!
___________________________________________________________พรุ่งนี้ตอบจบแล้วน้าาา ^^ เม้นกันหน่อยย
( นี่คือการปะทะ! )
“พ่อมึงตาย!”
ความเดือดดาลในใจมันทนไม่ไหวจริงๆจึงทำให้ผมเผลอพ่นคำด่าออกมาทั้งๆที่อยาก จะเงียบแล้วรอฟังมันต่อว่ามันจะเย้ยผมว่ายังไงต่อ แต่ไอ้ห่านี่ท่าจะบ้าว่ะ = =;;; ผมไปทำอะไรให้มันนักหนาจนถึงขนาดที่ว่ามันจับแฟนผมไปเนี่ยนะ? เท่าที่รู้ก็คือแค่มันไม่ถูกกับไอ้จองเบแล้วก็เพื่อนๆกลุ่มเคโอติค
แต่ไอ้จองเบแข่งชนะมันตั้งหลายครั้ง ผมแข่งกับพวกมันครั้งแรกแล้วชนะนี่มันแค้นฝังหุ่นผมขนาดนี้เลยเหรอ? ( มีเหตุผลโค – ตะ – ระ = =;;; )แต่ถ้าให้เดา...ผมว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องนั้นแน่ๆ แต่ว่ามันจะต้องมีเหตุดลใจอะไรมัน‘มากกว่านั้น’ จึงได้จับแก้วแฟนผมไป! มันเล็งเธออ่ะ แถมเล็งผมด้วย
สรุปคือ...อะไรของมันวะเนี่ยยยยย โอ๊ยยยย ประสาทจะกินนนนน >O<!!!!!!
บ้าฉิบเลย! แม่งกำลังเล่นอะไรอยู่วะ! ไอ้...! ไอ้หัวเทา! โอ๊ย! โทโมะเครียดดดดด ><!
[ ถึงกับด่าพ่อ? หึ คงของขึ้นมากงั้นสิน้า อิ อิ ]
“อิ อิ พ่อง - -+”
นั่นเป็นเสียงของไอ้ป๊อปปี้ที่กำลังนั่งฟังอยู่อย่างไม่สบอารมณ์นัก
เออ ขอบใจที่ด่าแทนกันนะ
[ โห ท่าทางจะอยู่กันหลายคนเลยนะเนี่ย แหม่! แบบนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย ^^]
สนุกห่าอะไรล่ะ!
ไฟท์นี่มันออกแนวร้ายโรคจิตนะผมว่า อายุแค่ 17 จะ 18 แล้ว แต่ความคิดนี่...เลวเลยเหอะ! บ่องตงเกิดมาไม่เคยอยากด่าใครเท่ามันอ่ะแล้วในตอนนี้ ><!
กลุ่มเคโอติค ถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มที่อันตรายทั้งในและนอกโรงเรียน แต่กลุ่มเราก็ไม่เคยไปทำร้ายใครก่อน ไม่เคยไปเรื่องใครก่อน จะมีก็แต่ไอ้พวกกลุ่มอื่นนั่นแหละที่มาหาเรื่องพวกผมจนมีเรื่องชกต่อยกันแต่ เรื่องก็ไม่ถึงหูผู้ปกครองหรอกจะมีก็แค่พวกนักเรียนเท่านั้นที่รู้
มันเป็นเหมือนกับว่า‘เรื่องของพวกเราเคลียร์เองได้ผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว’
แอ๊ด
“นี่ทะ...!”
ขวับ!
O/\O
“อุ๊บ! O*O”
พวก ผมรีบหันไปแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากบอกให้ฟางเงียบไว้ก่อนเพราะตอนนี้เธอ กำลังยืนอยู่ตรงประตูห้องด้วยความร้อนรน และเธอก็มากับไอ้แว่นมิณท์เน่านั่นเอ๊ง! ( โทษทีที่เรียกแบบนั้นแต่มันติดจริงๆครับ Y^Y ) ให้ตายสิ เห็นหมอนั่นแล้วสงสารว่ะ
ผมว่ามันน่ะสู้คนไม่เป็นหรอกดูๆแล้วเด็กเรียนสุภาพซะขนาดนั้น แถมยังมาโดยต่อยจนหน้าช้ำแบบนี้อีก เฮ้อ!
“...”จังหวะ นั้นนั่นเองที่เขื่อนลุกจากขอบโต๊ะเดินไปเปิดประตูพาฟางกับมิณท์เข้ามาในห้องนี้ก่อนจะกดล็อคประตูเอาไว้เพื่อ ไม่ให้คนอื่นเข้ามาได้ยินเข้า
ฟางก็เดินเข้ามายืนอยู่ตรงโซฟาตรงที่ไอ้ป๊อปปี้นั่ง เธอก้มลงมองหน้ากันกับป๊อปปี้ที่กำลังเงยหน้ามองเธอเช่นกัน แต่...อย่าได้คิดเชียวว่าฟางกับไอ้ป๊อปปี้จะมาสบตากันปิ๊งๆแบบพระเอกนางเอก ละครนะครับ เพราะว่ามันเรียกว่าเป็นการมองหน้าแบบคู่อริเจอกันเสียมากกว่า อะไรประมาณนั้นน่ะ =[]=;;;
นั่น! คิดได้ไม่ทันไร เขื่อนก็รีบลุกขึ้นมาจับฟางออกไปห่างๆป๊อปปี้เพราะกลัวว่าจะทะเลาะกันอีกสาเหตุ คือเพราะว่าเมื่อกี้ไอ้ป๊อปปี้มันเพิ่งแลบลิ้นใส่ฟางไปจนฟางนั้นกำหมัดแน่น พร้อมกับกัดฟันไปด้วย ( ก็...ถ้าสองคนนี้มีเรื่องกันก็ไม่ต้องเดากันนะครับว่าใครเป็นคนเริ่ม = =;;; )
“แกกำลังจะเล่นเกมอะไรกับเพื่อนฉัน”ไอ้จองเบเอ่ยถามอย่างใจเย็นตามสไตล์ของมัน ที่ถึงแม้เรื่องนั้นจะเครียดแต่พยายามเย็นไว้ให้ดีที่สุด
แต่ผมนี่ถ้านิ่งก็นิ่งนะครับ ไม่พูดคือไม่พูด แต่ถ้าโมโหขึ้นมาล่ะก็...ผมก็ขอไม่ไว้หน้าเลยละกัน!
[ อยากออกโรงแทนเพื่อนเหรอไอ้จองเบ? ] ฮึ่ย! เสียงแม่งกวนส้นเท้าฉิบ ( หาย )
“ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น แต่ที่สนคือแกกำลังเล่นสกปรกอะไรอยู่ถึงได้จับแฟนเพื่อนฉันไป ไอ้โทโมะมันไปทำอะไรให้คุณมึงเหรอวะครับ?”
เอาแล้วไง คนที่สุภาพที่สุดในกลุ่มอย่างไอ้จองเบก็เริ่มของขึ้นเช่นกันถึงได้พูดคำว่า‘มึง’ ออก มา ทั้งๆที่ปกติมันจะไม่พูดถ้าไม่โมโหจริงๆน่ะ เพราะว่าไอ้จองเบมันเป็นลูกคุณหนูแต่ชอบทำตัวติดดินน่ะครับ บ้านมันก็เป็นคฤหาสน์เสียด้วยสิ ( ในกลุ่มเคโอติคไอ้จองเบรวยสุดแล้ว ) มันอยู่ที่นั่นก็อยู่กับพ่อกับป้าแม่บ้านแค่นั้น
[ งั้นถ้าอยากรู้ก็มาที่สนามแข่งฉันสิเพราะว่าถ้ามาช้า...ยัยนี่ได้ไปถูกมัดโชว์ตัวอยู่กลางสนามเป็นของพนันฉันก็ไม่รู้ด้วยน้าาา คิก คิก ]
เดี๋ยวนะ...เมื่อกี๊ไอ้ไฟท์มันพูดเกี่ยวกับเรื่อง‘ของพนัน’ อย่างงั้นเหรอ?
นี่อย่าบอกนะว่ามันจะเอาแก้วไปเป็นของพนันให้ไอ้พวกนั้นถ้าผมไปช้าน่ะ บ้าแล้ว!
“นี่! หัวเราะให้แมนๆกว่านี้หน่อยก็ดีนะครับคุณไฟท์” ไอ้เคนตะเอ่ยขึ้นมาเสียงดังจนปลายสายเงียบไป หึ คงหน้าเสียล่ะสิที่เห็นว่าพวกผมไม่เครียดไปกับมันเท่าไหร่
แน่สิ! พวกผมไม่กลัวมันหรอกจะบอกให้ แต่ที่กลัวคือ...แก้วเนี่ยสิ!
[โทโมะเพื่อนแกพูดแบบนั้น...หรือว่าฉันจะเปลี่ยนเวลาเปิดสนามแข่งดี? เผื่อแฟนแกจะได้ไปเป็นของพนันได้เร็วขึ้น ^^]
“ไอ้...!”ตอนนั้นไอ้จองเบหันมามองหน้าผมแล้วส่ายหน้าเพื่อไม่ให้ผมพ่นอะไรออกไป
โอเคๆๆ ใจเย็นๆโทโมะ ใจเย็น! แก้วไม่เป็นอะไรหรอกน่าาาาา ปัดโถ่เว้ย!!!
เพียง แค่ผมคิดถึงตอนที่แก้วไปอยู่กลางสนามแข่งใหญ่โตนั่นผมนี่ก็แทบบ้าแล้วว่ะ คิดดูสิว่ามันจะมีดวงตาแสนหื่นกี่คู่จ้องมาที่ยัยตัวเล็กนั่นน่ะ แถมที่นั่นน่ะบอกเลยว่า...เถื่อนกว่าสนามแข่งของไอ้จองเบเยอะ! พ่อไอ้ไฟท์เส้นใหญ่ไงรู้จักคนเยอะทำอะไรก็ได้ เห๊อะ!
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นสนามแข่งมันก็ยังเป็นรองสนามแข่งของเพื่อนผมอยู่ดีนั่นแหละวะ
[ มาไม่มา มาไม่มาดีน้าาาา ]
“ฉันไปแน่”ผมพูดแล้วพยายามข่มเสียงต่ำเอาไว้เพื่อไม่ให้มันแลดูกังวลจนเกินไป
ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้นทั้งๆที่ผมห่วงแก้วมากน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าถ้าแสดงความรู้สึกออกไปมากๆเดี๋ยวไอ้บ้านั่นมันจะได้ใจแล้วทำให้ผมเดือดมากกว่าเก่าน่ะสิ ผมรู้! รู้ว่าไอ้ไฟท์น่ะมันฉลาด( ฉลาดแต่เรื่องบ้าๆ - -* )
[ อ๊ะๆๆๆ เดี๋ยวก่อน ]
“...”วินาทีนั้นผมกับเพื่อนๆทุกเงียบสนิทรอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ “อะไร”ผมเอ่ยถามแล้วกำโทรศัพท์ I Phone สีดำที่ถืออยู่ในมือแน่น
[ ที่ฉันอยากเจอไม่ใช่ ‘เคโอติค’ ]
ฮะ? ไม่ใช่เคโอติค? อะไรของมัน = =?
“...”
[ แต่เป็นแก...ไอ้โทโมะ ]
“...”
[ แล้วก็...มาคนเดียวนะครับ...คุณโทโมะ ^^ ]
ติ๊ด!
ผม ชิงตัดสายทันทีเมื่อมันพูดจบ จากนั้นก็เงยหน้าจากจอมือถือแล้วมองหน้ากับเพื่อนๆในกลุ่มว่าจะเอายังไงกัน ดี เพราะว่าประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆสนามของไอ้จองเบก็จะเริ่มแข่งแล้วสนามไอ้ไฟท์ด้วยเช่นกัน และเมื่อผมก้มลงมองที่หน้าปัดนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่ามันปาไป 6 โมงกว่าแล้ว
และถ้าผมพาแก้วกลับไม่ได้ เธอคงจะถูกไอ้ไฟท์พาไปเป็นของพนันอะไรบ้าบอนั่นแน่ๆ ซึ่งผมไม่ได้ของการให้เป็นแบบนั้นอย่างเด็ดขาด! ผมต้องช่วยเธอให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!
“โทโมะ หมอนั่นมันเป็นใครอ่ะ แล้ว...ทำไมมันต้องจับแก้วไปด้วย?”ฟางถามทันทีแล้วมองหน้าผมอย่างสงสัย
“มันชื่อไฟท์ เป็นคู่อริกลุ่มเคโอติค”ผมบอกเพียงแค่นั้นฟางก็ทำสีหน้าเครียดทันทีแล้วยกมือเสยผมของเธอ “ถ้าเธอจำได้ตอนนั้นฉันเคยแข่งรถกับคนของมันด้วย”
“อ๋อออ จำได้ละ หมอนั่นใช่ป่ะที่ท้าแข่งอีกรอบอ่ะ”ฟางถามแล้วชี้นิ้วมหาผมผมก็พยักหน้าตอบแทนคำพูด “แล้วนี่พวกเราจะช่วยแก้วยังไงดี”เธอถาม
“ไอ้จองเบฉันขอยืมรถหน่อย”ผมหันไปหาไอ้จองเบที่กำลังมองผมอยู่แล้วแบมือขอยืมรถมัน เพราะว่าผมจะไปที่นั่น...ไปคนเดียวน่ะ
“...”
มันไม่พูดเอ่ยปากอะไรแล้วล้วงเข้ากระเปาเสื้อกันหนาวที่สวมทับกับ เสื้อนักเรียนนั่นแล้วยื่นเอากุญแจรถรุ่น CBRมาวางไว้บนมือผมที่แบอยู่บนหน้ามัน( ที่บ้านมันมีรถหลายคนมากเลยขอบอก แถมแต่ละคันสีดำทั้งน้านนนน )
“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่...”เมื่อวางกุญแจลงบนมือผมแล้วมันก็พูดขึ้น “ไอ้โทโมะ...ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้แกไปลุยเดี่ยว”มันพูดบอกแล้วมองจ้องหน้าผม
“ใช่ พวกเราเคโอติคไม่เคยปล่อยให้เพื่อนลุยคนเดียวอยู่แล้ว”พวกเพื่อนผมพากันพูดมองก็หันไปมองหน้ากับพวกมันทุกคนที่คอยอยู่เคียงข้างกันในยามที่เพื่อนๆเดือดร้อนไม่ว่าจะยังก็ตามแต่
“ขอบใจพวกแกมาก แต่คราวนี้ฉันคงต้องไปคนเดียวว่ะ”ผมบอกกับพวกมันเพื่อให้มันนึกถึงสิ่งที่ไฟท์บอกว่าให้ผมไปคนเดียวเพราะถ้าผมไม่ทำตามที่มันบอก มันอาจจะเล่นบ้าอะไรของมันอีกก็ได้ใครจะรู้
และถ้าเรื่องนี้มันมีผมเกี่ยวแค่คนเดียวอย่างที่ไอ้ไฟท์พูด ผมก็ไม่อยากจะให้เพื่อนไปเสี่ยงด้วยกันเท่าไหร่นัก
“พวกฉันไม่ยอมแกก็รู้”ไอ้จองเบบอกนั่นทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันจากนั้นมันก็หยักยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปมองฟาง “ฟาง เธอมีเบอร์พ่อแก้วมั้ย”
“มีๆ”ฟางรีบพยักหน้าตอบ
“งั้นโทรบอกพ่อแก้วว่าเย็นนี้แก้วอาจจะกลับบ้านดึกเพราะมีอะไร บลาๆๆ ก็ว่าไป เขาจะได้ไม่กังวลว่าทำไมแก้วยังไม่กลับบ้าน”
จริงสิ! ถ้าพ่อของแก้วรู้ท่านคงจะกังวลสุดๆเลย ไม่มีทาง! ให้พวกเขารู้ไม่ได้เด็ดขาด พ่อแม่ผมก็ห้ามรู้ด้วย เดี๋ยวเรื่องมันใหญ่โตไปถึงตำรวจเอาได้
“ใช่ๆๆๆ โทรศัพท์ๆๆๆ เฮ้ยยย แบตหมด YOY!”เมื่อฟางหยิบโทรศัพท์ของเธออดมาดูปรากฏว่าแบตหมดเลยทำเอาเธอหน้าเสียเลย
“มัวแต่เอาไปเล่นยิงเกาะใครรึปล่าวแบตเลยหมด น่ะ :P”
“นี่นาย!”
“งั้นฟางใช้โทรศัพท์ฉันก็ได้”มิณท์รีบเอาโทรศัพท์ของตัวเองยื่นให้ฟางทันทีที่เห็นว่าฟางกำลังจะทะเลาะกับป๊อปปี้ เออ ขอบใจมาก
ฟางเห็นแบบนั้นก็รีบเอาโทรศัพท์ของมิณท์กดโทรเบอร์พ่อแก้วทันทีเลย แต่เธอคงคิดว่าพวกผมจะคุยกันเรื่องช่วยแก้วนี่แหละเลยเดินออกไปคุยโทรศัพท์ ข้างนอกห้องนี้มิณท์ก็เดินตามออกไปด้วยเช่นกัน
“เอาไงดี”ไอ้ป๊อปปี้ลุกขึ้นยืนจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาหาไอ้จองเบกับผมพวกเพื่อนๆที่เหลือก็เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน
“นั่นดิ”เขื่อนเอ่ย
“มันบอกให้ไอ้โทโมะไปคนเดียวด้วย แล้วถ้าเกิดมันเห็นพวกเราไปด้วยมันจะเล่นเกมอะไรต่อก็ไม่รู้ ไอ้ห่านี่มันต้องมีแผนสำรองอยู่แล้ว”เขื่อนบอกพลางคิดไปด้วย
“มันมีแผน เราก็ต้องมีแผน”
“แผนอะไรของแกวะไอ้จองเบ =[]=?”
“ไอ้เคนตะ แกเชื่อฉันเถอะ ไอ้ไฟท์น่ะอ่อนกว่าพวกเราเยอะ โดยเฉพาะความ‘เกรียน’ ” ป๊อปพูดบอกอย่างมั่นใจสุดๆ
“สรุป ง่ายๆเลยคือถ้าจะช่วยแก้ว...ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยก่อน 1 ทุ่ม เพราะนั่นคือเวลาที่เสี่ยงน้อยที่สุด เพราะ 1 ทุ่มพวกแกก็รู้ว่าสนามแข่งจะเปิดให้คนเข้าแล้ว และถ้าถึงเวลานั้นช่วยแก้วไม่ได้ไอ้ไฟท์ก็จะเล่นเกมแรงขึ้นแน่นอนไม่ต้อง ห่วงหรอก”
“...”
“แต่ถ้าช่วยได้ก่อน 1 ทุ่มแล้วพวกเรากลับมาที่สนามแข่งฉันทันก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าสงสัย”
ใช่ ถ้าเป็นแบบที่ไอ้จองเบบอกมามันก็จะดีมากถ้าไอ้จองเบมันกลับมาที่นี่ทันเพราะว่า มันยกเลิกไม่ด้วยสิ เพราะนั่นจะทำให้หลายๆคนสงสัยว่ากลุ่มพวกผมไปไหนจนถึงขนาดที่ว่าไปสืบมาเลย แหละว่าทำไมพวกเขาบอกว่าจะลงแข่งวันนี้ทำไมถึงไม่มา แล้วถ้าพวกนั้นรู้ว่าพวกผมไปที่สนามแข่งไฟท์ข่าวมันก็จะต้องกระจายไปทั่ว แน่ๆเลยว่ากลุ่มเคโอติคไปมีเรื่อง
ไม่ได้ห่วงภาพพจน์อะไรของกลุ่มหรอก แต่ห่วงยัยตัวเล็กมากกว่าที่จะต้องมาเครียดกับอะไรแบบนั้นทั้งๆที่ทุกอย่าง มันเริ่มดีขึ้นแล้ว
เพราะฉะนั้น...เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ผมจะไม่มีทางให้คนภายนอกได้รู้เป็นอันขาด!
“แล้วแกมีแผนป๊ะล่ะ”ผมถามไอ้จองเบก็หันมามองหน้ากับผมแล้วมันก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ
“มี”
“มี? แผนอะไรว่ะ =[]=?” >> ป๊อปปี้
“พวกแกจำตอน ม.3 ที่กลุ่มเรามีเรื่องได้ป่ะ”เมื่อไอ้จองเบเอ่ยแบบนั้นพวกผมก็ครุ่นคิดถึงตอน ม.3 ทันที ที่ตอนนั้นมีเรื่องกับเด็กนักเรียนโรงเรียนอื่น น่ะ...นี่อย่าบอกนะว่ามันจะ ‘เล่นแบบนั้น’ อีกน่ะ เห๊อะ! นึกแล้วขำ ให้ตายสิ
“เอิ่มมมม นั่นมันตอน ม.3 แล้วนะเว้ยยยยย แกจะเอาแบบนั้นจริงอ่ะ ><?”เคนตะพูดแล้วมองหน้าไอ้จองเบ ไอ้จองเบก็ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แล้วเงยหน้าขึ้นนิดๆเป็นเชิง
“ก็ถ้าไอ้ไฟท์มันอยากเล่นอะไร‘สนุกๆ’ ฉันก็อยากจัดให้มันสักหน่อย หมั่นไส้เกิ๊น หรือว่าพวกแกไม่อยาก O_o?”
“ใครว่าไม่อยาก แต่ถ้าจะเล่นแผนนั้นมันต้องมี‘อุปกรณ์’ นะเว้ย” ป๊อปปี้พูดแล้วขำออกมา ให้ตายสิวะครับ เอาจริงดิ? แผนนั้นจริงอ้ะ? เฮ้ย คิดแล้วทำไมหายเครียดเลย ><!
“หึ งานนี้ ‘รัง’ ไอ้ไฟท์สนุกแน่ แกว่ามั้ยโทโมะ”ไอ้จองเบหันมาถามผมอย่างขอความเห็น แล้วผมจะตอบอย่างอื่นได้งั้นเหรอครับถ้าไม่ใช่คำว่า...
“เห็นด้วยอย่างแรงเลยครับคุณเพื่อนจองเบ ^^”
เวลาตอนนี้ 6.30 น.
[ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการช่วยแก้วออกจากที่นั่น! ]
อีกด้านหนึ่ง
“จะเอาไงต่อ”
“หึ ถามมาได้นะไอ้ดีโอ ก็ต้องรอมันมาสิวะ” ไฟท์พูดบอกกับดีโอแล้วหัวเราะออกมาทหน่อยๆ ดีโอก็เหยียดยิ้มแล้วส่ายหัวไปมาขณะที่กำลงยืนพิงกำแพงห้อง ส่วนไฟท์ก็นั่งอยู่ที่ปลายเตียงอย่างสบายอารมณณ์หลังจากที่เมื่อสักพักที่ ผ่านมาได้ใช้โทรศัพท์ของแก้วโทรไปหาโทโมะนั่นเอง
และหลังจากที่เขาโทรเสร็จเขาก็ได้จัดการเอาโทรศัพท์ของแก้วไปเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเป้ของเธอตามเดิม
“ฉันว่าอีกไม่นานมันก็คงมาถึงที่นี่แหละ ก็แกเล่นขู่มันซะขนาดนั้นนี่หว่า”
“จะว่าไปแล้ว...แผนที่แกคิดนี่ก็สนุกดีว่ะ ฉันล่ะสะใจที่ได้เห็นไอ้พวกเคโอติคของขึ้นแบบนั้น หึสม”
“แล้ว...ยัยนั่นน่ะ แกว่าเป็นไง”
เมื่อ ดีโอถามแบบนั้นไฟท์ก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วหันไปมองร่างบางในชุดเครื่องแบบนัก เรียนของโรงเรียนเธอที่มีเสื้อสูทคลุมเรียบร้อยกระโปรงไม่ได้สั้นเกินไปเสมอ แค่หัวเข่ากับรองเท้าผ้าใบและถุงเท้าสีขาว ผมสีน้ำตาลแอลมอนที่ถูกมัดเป็นเปียแกะสองข้างยาวลงมานั่นยิ่งทำให้ร่างบาง ที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงนั้นดูเป็นผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกใน สายตาของไฟท์ไปเลยโดยปริยาย
เพราะจากการแต่งตัวที่เรียบร้อยแบบนี้ดูก็รู้แล้วว่าแก้วน่ะเป็นคน ใสๆซื่อๆ ไม่ใช่ผู้หญิงแรงๆอย่างแน่นอน
“ก็ใช้ได้”ไฟท์พูดแต่ก็ไม่ละสายตาจากร่างของแก้วเลยเพราะเขากำลังประเมินรูปร่าง ( ภายนอก ) ของเธออยู่นั่นเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า‘สแกน’“ไอ้โทโมะนี่ได้แฟนใสๆแบบนี้เหรอวะ หึ แต่ตอนที่ฉันไปดักก็ดูท่าทางรักเดียวใจเดียวจริงๆ”
“ทำไมวะ”
“ก็เพราะว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเห็นฉันทำแบบนั้นมันก็ต้องมี ‘อ่อย’ กันบ้างแต่กับยัยนี่ฉันไม่เห็นว่าจะมีอาการแบบนั้นกับฉันเลย หนำซ้ำยังเลี่ยงการคุยกับฉันอีก แถมพูดย้ำอีกด้วยนะเว้ยว่าตัวเอง‘มีแฟนแล้ว’ เห๊อะ! โคตรรักไอ้โทโมะอ่ะ”
“รักกันก็ดี แต่...ถ้าวันนี้ไอ้โทโมะมันมาช้า แฟนมันคงเป็น‘ของรัก’ ของคนอื่นแน่ๆอ่ะ”
“ก็ มาดูกันว่ามันจะมาถึงที่นี่ตอนไหน แต่ฉันว่าตอนนี้ไอ้หมอนั่นกับพวกเคโอติคมันก็คงเครียดจนหัวหดแล้วล่ะว่ะว่าจะ มาช่วยยัยนี่ยังไง แต่ที่แน่ๆฉันไม่มีทางยอมปล่อยยัยนี่เด็ดขาดจนกว่าไอ้โทโมะจะตอบตกลงมาอยู่ กลุ่มเราเพื่อหักหน้าไอ้จองเบ”
“ก็ดีนะถ้ามันตกลงเพราะนอกจากจะหักหน้าไอ้จองเบแล้ว มันก็ยังจะถูกตราหน้าด้วยนะว่าออกจากลุ่มเพราะผู้หญิงแค่คนเดียว หึ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันล่ะโคตรสะใจอ่ะ”
ไฟท์พูดแล้วใช้ลิ้นกระดุงกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างก่อนจะแลบริมฝีปากล่างของตัวเองแล้วมองร่างของแก้วอีกครั้ง ด้วยความ ‘อยาก’ นิดๆ ( มั้ง ) และสุดท้ายเขาก็ได้หันไปมองดีโอที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ก่อนเอ่ยพูดขึ้นว่า...
“แกออกไปก่อน”เมื่อไฟท์พูดจบดีโอก็หยักยิ้มอย่างรู้หน้าที่เลยว่าไฟท์จะทำอะไรกับร่างบางบนเตียงคนนั้น
ปึง
ประตูของห้องนี้ได้ถูกปิดลงหลังจากที่ดีโอเดินออกไปแล้ว สายตาของไฟท์จ้องมองร่างบางก่อนจะลุกขึ้นจากปลายเตียงแล้วยืนเต็มความสูง เขายืนกอดอกมองร่างของแก้วตั้งแต่หัวจรดเท้าไปยังเท้าจรดหัวอย่างเชี่ยงช้า สายตาของเขานี่บ่งบอกได้ถึงความเจ้าเล่ห์ทันทีทันใด
“ท่าทางจะยังซิงอยู่”ไฟท์ พูดแล้วฉีกยิ้มออกมาก่อนจะเดินมาตรงหัวเตียงแล้วโน้มหน้าของเขาลงไปมองหน้า ของแก้วใกล้ๆแล้วใช้นิ้วมือไล่เลี่ยไปตามเปียที่ถูกถักเอาไว้ของเธอด้วย “ให้ตาย...หน้าซื่อเกิ๊น”
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้นแต่หากทว่าใบหน้าของเขาก็เริ่มโน้มลงต่ำลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆร้อนๆของแก้วที่กำลังหายใจรินรดอยู่บนปลายจมูก เขานั่นเอง บ้าที่สุด! เพราะว่าไฟท์เขากำลังจะทำเรื่องที่ไม่ดีกับแก้วน่ะสิ!
“ZzzZzzz”แก้วยังคงหลับเพราะฤทธิ์ยาสลบไม่รู้เรื่องอะไรเลยจึงทำให้ไฟท์หัวเราะออกมา
“บอกเลยนะ...ฉันจัดการเธอเสร็จก่อนไอ้โทโมะมาก็ยังได้เลย”เขาเอ่ยพูดกระซิบเบาๆแล้วเริ่มโน้มใบหน้าต่ำลงเรื่อยๆจนอีกไม่ถึงเซนริมฝีปากปากของเขากับแก้วก็จะโดนกันอยู่แล้ว!
แต่หากทว่า...
ปึง! ปึง! ปึง!
“พี่ไฟท์ครับ! พี่ดีโอให้มาตามลงไปข้างล่างด่วนเลยครับ”
“Shit! เออ! กำลังจะลงไป”ไฟท์ รู้สึกอารมณ์เสียอย่างแรงเหมือนกับกำลังดูหนังฉากสำคัญแล้วไฟมาดับซะได้ที่ ได้ยินเสียงขัดแบบนั้นของลูกน้องที่อายุน้อยกว่า จากนั้นเขาก็ละใบหน้าออกห่างจากแก้วแล้วหันหลังเดินไปที่ประตูพร้อมกับเอ่ย ถ้อยคำหนึ่ง “มาแล้วสินะ...ไอ้โทโมะ”
บรื๊นนนนน
เมื่อไฟท์เดินลงมาจากห้องส่วนตัวก็ได้เห็นว่ากำลังมีมอเตอร์ไซด์สีดำ CBR กำลัง ขับเข้ามาในนามแข่งของเขาที่ตอนนี้ยังไม่มีใครนอกจากพวกลูกน้องเขาเองเพราะ มันยังไม่เปิดให้เข้า จะต้องรอจนถึง 1 ทุ่มก่อน แต่ทว่านี่คือ ‘แขกพิเศษ’ จึงสามารถเข้ามาที่นี่ได้อย่างสบายๆ
ตอนนี้คนที่กำลังขับขี่มอเตอร์ไซด์นั่นได้สวมชุดเครื่องแบบนักเรียนพร้อมกับ สวมใส่หมวกกันน็อคสีดำแล้วก็ถุงมือหนังสีดำสองข้างก็กำลังเร่งเครื่องรถมา ตรงจุดที่ไฟท์กับคนของเขานั้นกำลังยืนมองอยู่
ไฟท์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเป็นการหยั่งเชิงเมื่อรถ CBR นั่นขับมาจนถึงจุดที่เขายืนแล้ว
บรืนนนน...
เครื่องยนต์ได้ถูกดับลงก่อนที่เจ้าของรถนั่นจะลงมาจากรถ CBR คันนั้นแล้วถอดหมวกกันน็อคนั่นออก นั่นจึงทำให้ไฟท์พอใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นว่าคนที่เขาต้องการจะเจอมาที่นี่เพียง‘คนเดียว’ อย่างที่เขาได้พูดบอกเอาไว้
“แน่มากนะที่มาคนเดียว ไม่กลัวโดนรุมเหรอ ^^”ไฟท์เอ่ยแล้วมองร่างสูงของ‘โทโมะ ’ ที่กำลังยืนถอดถุงมือสีดำออกหลังจากที่ถอดหมวกกันน็อคอย่างใจเย็น
แต่ท่าทีของโทโมะที่ทำให้ไฟท์งงคือ...เขาดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะว่าตอนที่คุยโทรศัพท์เสียงของโทโมะนั้นแลดูห่วงแฟนของ เขาอย่างแก้วมากจนไฟท์นั้นแอบสะใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทำไมตอนนี้อารมณ์ของโทโมะมันดูไม่มีอะไรเลยล่ะ? เพราะว่าเขาดูใจเย็นสุดๆ แบบเจ้าชายน้ำแข็งดั่งเดิมเหมือนกับที่เคยเป็นทั้งๆที่ปกติโทโมะน่ะเป็นคนอ่านความรู้สึกยากอยู่แล้ว ( ถ้าไม่สนิทจริงๆโทโมะจะไม่เผยตัวตน สังเกตได้จากตอนเริ่มรู้จักนางเอกแรกๆ โทโมะนางก็เก๊กเกิ๊น ^^ )
“ถ้ากลัวฉันคงไม่มาว่ะ”โทโมะพูดแล้วยิ้มตอบกลับไปจนไฟท์จากที่กำลังยิ้มอยู่รอยยิ้มนั้นก็ได้เจื่อนลงในทันที
หึ! ก็เล่นกับใครไม่เล่นนะไฟท์ มาเล่นกับคนที่ ‘ไม่ธรรมดา’ ที่สุดแห่งกลุ่มเคโอติค นี่มันก็...เดาอารมณ์ยากหน่อยนะ ^^
[ บันทึกพิเศษ :โทโมะ]
‘ หึ! แปลกใจล่ะสิที่ว่าทำไมฉันถึงไม่ออกอาการกังวลกระวนกระวายอย่างที่แกอยากให้เป็นน่ะไอ้ไฟท์! ’
ผม คิดขณะกำลังยืนมองหน้าไอ้ไฟท์ด้วยสายตาที่ว่างปล่าวไม่มีความกังวลแต่อย่าง ใดเลย มันช่างแตกต่างจากตอนที่ผมคุยโทรศัพท์กับมันมากที่แสดงออกไปว่าผมนั้นเครียด มากแค่ไหนที่รู้ว่ามันจับแก้วมาแบบนี้ แต่แหม๋! คิดจะเล่นกับกลุ่มเคโอติคนี่มันก็ต้องเจออะไรหลายๆมุมหน่อยนะ ^^
และถ้าทุกคนคิดว่าผมมาเดี่ยว...มันไม่ใช่
เพราะว่าไอ้จองเบได้บอกไว้ว่า‘พวกมันมีแผน เราก็ต้องมีแผน’ ที่ผมกับพวกเคโอติคกำลังทำอยู่นี่แหละคือ ‘แผน’ ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเอาวิธีตอน ม.3 มาใช้น่ะ
: ก่อนหน้านี้ :
‘ โห่ นี่แกจะเอาจริงดิ แล้วไปซื้อมาขนาดนี้จะใช้หมดเหรอวะ =[]=?’
‘ ไอ้เขื่อน นี่แกอย่ามาพูดแบบนี้เลย ตอนม.3 ฉันจำได้นะว่าแกน่ะใช้หมดเกลี้ยงจนไอ้พวกนั้นวิ่งหางจุกตูดน่ะ ฮ่าๆๆๆ’
‘ ไอ้ป๊อปปี้! แกหยุดแซะฉันเลยนะเว้ย!’
‘ โอเคๆ แต่ทั้งหมดนี่ที่ฉันซื้อมา ฟาง แล้วก็มิณท์จะเป็นคนจัดการ ส่วนพวกเราคอยช่วยไอ้โทโมะตามที่ฉันบอกไว้ในแผน’
‘ ไฟเย็นปะทัดพลุควัน พลุแท่งกระเทียม ลูกแก้ว? บลาๆๆ นะ...นี่พวกนายจะใช้ของพวกนี้จัดการกับไฟท์จริงๆน่ะนะ O_o?’
‘ นี่ๆๆ อย่าได้ดูถูกของเล่นสมัยยังเอ๊าะๆ ของพวกฉันเชียวนะสาวน้อยฟางถ้าอยากช่วยแก้วเธอต้องเชื่อพวกฉันโอเคมั้ย?’
‘อะ...โอเค ฉันเชื่อ ’
นั่นล่ะสิ่งที่พวกผมจดจำมาตลอดกับของเล่นสุดเจ๋งพวกนั้น ให้ตายสิ! ได้กลับมาใช้มันอีกครั้งแล้วแลดูน่าสนุกยังไงไม่รู้สินะ แต่ผมไม่ได้ใช้หรอกเพราะหน้าที่ผมไม่ใช่คนใช้อุปกรณ์พวกนั้น น่าเสียดายจุง Y^Y เพราะของพวกนั้นตั้งแต่ตอน ม.3 พวกผมก็ไม่ได้เล่นมันอีกเลยล่ะ แต่อย่าได้ดูถูกเชียว ( แล้วห้ามทำเลียนแบบด้วย! )เพราะว่ามันใช้จัดการพวกนี้ได้จริงๆถ้ามันตุกติกผมน่ะพวกคุณรอดูได้เลย!
และที่สำคัญนะ พวกกลุ่มผมน่ะได้รอผมอยู่ด้านนอกของสนามแข่งนี่โดยที่พวกไอ้ไฟท์มันไม่รู้ ไอ้จองเบกับพวกผมได้วางแผนกันเอาไว้ว่าให้ผมทำเป็นมาที่นี่คนเดียวแล้วกดเปิด โทรหาไอ้จองเบเอาไว้เพื่อให้มันได้ฟังเสียงตอนที่ผมนั้นคุยกับไอ้ไฟท์ถึง เหตุผลที่มันจับตัวของแก้วมายังไงล่ะ
และถ้าไอ้ไฟท์มันมีเล่ห์เหลี่ยมนักล่ะก็พวกผมจะจัดการมันด้วยของเล่นเด็กๆ ของพวกผมเคโอติคนี่แหละ!
“โอเคๆ รู้แล้วว่าแน่”มัน ทำพูดแล้วยกมือสองข้างขึ้นเสมอบ่าแบบยอมๆ จนผมนี้ต้องแอบหมั่นไส้อยู่ข้างในห้ามแสดงออกเด็ดขาดถึงแม้จะอยากต่อยมันแค่ ไหน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเดี๋ยวแผนแตกก่อนได้คำตอบจากปากมัน
และตอนนี้ผมก็เดาได้เลยว่าแก้วจะต้องอยู่บนห้องนอนของไอ้ไฟท์แน่นอน!
“อ่าห้ะ งั้นก็เข้าเรื่องเลยสิ”ผม พูดเป็นการหยั่งเชิงไอ้ไฟท์แล้วมองลูกน้องของมันทีละคนก่อนจะเลื่อนสายตามา สะดุดอยู่กับไอ้คนตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆไอ้ไฟท์ที่ก็กำลังมองมาที่ผมเช่นเดียว กัน
แต่เมื่อผมเห็นแบบนั้นผมก็เลื่อนสายตาจากหน้ามันไปมองที่อื่นช้าๆทำเหมือน กับว่ามันไม่มีตัวตนไปเลย
และที่สำคัญนะผมก็อยากให้ไอ้ไฟท์มันรีบๆพูดเหตุผลของมันออกมา เร็วๆด้วยเพราะว่าไอ้จองเบบอกว่าทำยังไงก็ได้ให้มันพูดบอก เพราะเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงที่จะช่วยแก้วแล้ว แล้วถ้าช่วยไม่ทัน ไอ้ไฟท์มันจะเล่นบ้าอะไรของมันต่อก็ไม่รู้
เพราะว่ามันน่ะถ้าทำอะไรแล้วสนุกสะใจผมว่ามันก็คงจะต้องทำให้แรงขึ้นนั่น แหละครับ เฮ้อ...ให้ตายเหอะ = =;;;
“อยากรู้ขนาดนั้นเชียว”
“อย่าลีลาเหอะว่ะ - -!” ถามไม่ได้นะไอ้นี่ ถ้าผมไม่อยากรู้แล้วจะรีบถามทำไม = =;;;
“โอเค๊! จะบอกให้ก็ได้ว่าทำไมฉันถึงได้จับแฟนสาวสุดน่ารักน่าขย้ำของแกมา ^^”
นะ...น่ารักน่าขย้ำงั้นเรอะ!?
ช่วยบอกหน่อยสิว่ามันไม่ได้ตั้งใจพูดให้ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าน่ะ! ( ใจเย็นๆๆๆ โทโมะ เย็นไว้เว้ยๆ ><! )
“อ่าห้ะ”ผมพยายามข่มเสียงให้ดูเฉยๆเข้าไว้ ( มันฝืนมากอ่ะ จริงๆ ( _ _)!! )
“ก็...เผอิญว่าฉันอยากได้คนเข้ากลุ่มมาแข่งรถทำเงินให้กับสนามแข่งเพิ่ม ฉันก็เลยนึกถึงแกตอนที่แข่งกับเพื่อนฉันที่สนามแข่งไอ้จองเบฉันก็เลยจับยัยนี่มาเป็นข้อต่อรองชัดป่ะ...”
อ๋อ...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองงั้นสินะ = =!
นี่...ทะ...ที่มันจับแก้วมาที่นี่เพราะเรื่องขี้ประติ๋วแค่เนี๊ยะ? โอ้โห...ความคิดนี่ดีเป็นเลิศเลยว่ะ ( ผมประชดนะ =[]=;;; )
“เพื่อให้ฉันตอบตกลงมาทำเงินให้สนามแข่งแกแค่นั้น?”ผู้พูดย้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เตือนตัวเองว่าไม่ได้ฟังอะไรผิดไปจากปากไอ้ไฟท์แน่ๆ
“ใช่ และในความคิดของฉัน ฉันก็หวังว่าแกจะตอบได้ถูกใจฉันนะ”
หูยยยย มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอออ?
“ตอบถูกใจ? อ้อ! พอดีว่า...ฉันมันเป็นพวกเดาทางยากซะด้วยสิ ^^”ผมพูดแล้วฉีกยิ้มให้มันเพราะว่าอยากจะดูว่าไอ้ไฟท์มันจะยังไงต่อที่เห็นผมไม่ของขึ้น ( ทั้งๆที่อยากจะต่อยมันมาก! )
“แต่ฉันคิดว่าแกคงไม่มีทางเลือกแล้วแหละนะ ^^”
หึ พูดแบบนี้แสดงว่ามันคิดผมคงหมดทางจนต้องตอบคำว่า‘ตกลง’ สินะ
แต่เสียใจด้วยว่ะ! เพราะคนอย่างผมคนนี้ไม่มีทางที่จะทิ้งเพื่อนที่อยู่ด้วยกันเพราะมิตรภาพมา นาน มาอยู่กลุ่มกับไอ้พวกนี้ด้วยเหตุผลของมันก็คืออยากได้เงินเพิ่มหรอกนะ และผมว่าคงไม่ใช่แค่นั้นหรอก เพราะเหตุของมันคงจะมีไอ้จองเบมาเกี่ยวด้วยแหงๆล่ะ เซ้นต์ข้างในมันบอกอยู่ลึกๆน่ะ
และขอบอกเลยว่ามันเป็นเหตุผลที่...ปัญญาอ่อน! และผมจะไม่มีทางไปตอบอะไรปัญญาอ่อนๆแบบนั้นเด็ดขาด
“อืมมมม แต่มันก็ติดอยู่นิดนึงนะไฟท์”ผมพูดแล้วมองหน้ามันตรงๆจากนั้นก็หรี่ตาเป็นการคาดเดา “การ ที่แกจะเรียกเงินก้อนโตกลับมาเพราะเพิ่มคนเข้ากลุ่ม อืมมม จะว่าไปแล้วประชากรบนโลกนี้มันมีตั้ง 7 พันล้านกว่าคนแล้วทำไมคุณมึงไม่ไปหาล่ะ ทำไมต้องมาเจาะจงคุณกูด้วยล่ะครับ ^^?” ผมเริ่มพูดจากวนตีนจนไอ้ไฟท์ต้องกำหมัดในมือแน่น
เออดี! อยากเห็นมันของขึ้น!
“ไอ้โทโมะ แกรู้มั้ยว่าตอนนี้แกเป็นรองฉันอยู่ แกไม่มีสิทธิ์ถาม เพราะว่าแกมีสิทธิ์แค่อย่างเดียวคือตอบคำว่า ‘ตกลง’ ฉันรู้ว่าพวกแกน่ะคำไหนคำนั้นไม่เคยผิดคำพูดถ้าแกตกลงแกก็เอาแฟนแกกลับไป โอเค๊?”
พูดเหมือนว่าจะให้แฟนฉันคืนง่ายๆอย่างงั้นแหละนะ รู้หรอกน่าว่าเล่ห์เหลี่ยมแกมันเยอะ! และถ้าฉันตอบตกลงพวกแกฉันก็ต้องเป็นรองพวกแกไปเลยดิ หึ ไม่มีทาง เพราะว่าฉันจะเอาแฟนของฉันกลับโดยที่ไม่มีการตกลงอะไรใดๆทั้งนั้น...ไอไฟท์!
“ง่ายขนาดนั้นเลย? งั้นก็พาแฟนฉันมาให้เห็นหน้าก่อนสิ”ผมบอกแล้วเอียงคอมองมันแล้วเอามือทั้งสองข้างล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง
และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ...!
“ตอนนี้แฟนแกอยู่บนเตียงของฉัน และถ้าแกไม่ตกลงก่อนเย็นนี้แกก็ไม่ได้เห็นหน้าแฟนแกหรอกว่ะ ฮ่าๆๆๆ”มันกับพวกจงใจหัวเราะเยาะผมเพราะคิดว่าผมกำลังมีทางตันแล้ว
แต่ไม่ใช่...เพราะผมมี ‘เพื่อนที่เป็นครอบครัว’ รอให้ความช่วยเหลือผมอยู่!
ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!!
ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!!
ขวับ!
“เฮ้ย! เสียงอะไรวะ?!”ช่วง จังหวะนั้นนั่นเองที่ไอ้ไฟท์ตกใจเสียงบางอย่างที่อยู่ตรงอีกด้านหนึ่งของ สนามแข่ง จนพวกของมันที่ยืนอยู่ตรงนี้หันไปมองทางต้นตอของเสียงนั่นก่อนจะรีบพากัน วิ่งไปดูทันที ก็จะมีเหลือแค่ไอ้ไฟท์กับไอ้ตัวเล็กเนี่ย! แค่นั้น หึ เข้าทางล่ะ!
เพราะว่าเสียงเมื่อกี้มันก็คือเสียง ‘ประทัด’ ที่ใช้จุดในวันตรุษจีนยังไงล่ะ!
แล้ว คนที่จุดก็คือไอ้เขื่อนกับไอ้ป๊อปปี้นั่นเอง เพราะเมื่อตอน ม.3 จำได้เลยว่าพวกมันใช้แผนนี้จนนักเรียนอีกโรงเรียนถึงกับวิ่งหนีกันกระเจิง เลย
“ไอ้โทโมะ เสียงนั่นมันอะไร นี่แกอย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือของเพื่อนแกน่ะ!”ไฟท์ชี้หน้าผมทันที เอิ่มมมมม รู้ช้าไปนะ นึกว่าจะรู้ไวกว่านี้ซะอีก ^^
“ม๊าย ไม่ใช่ ‘เพื่อน’ แต่เป็น‘ครอบครัว’ ของฉัน!”
ผัวะ!!!
หมัดของผมได้ซัดเข้าใส่หน้าไอ้ไฟท์เข้าอย่างจังจนทำให้หน้ามันหันไปอีกทาง ใช่! แผนเมื่อกี๊ก็คือ ‘แผนล่อลูกเสือออกจากนายเสือ’ ให้ คนของไอ้ไฟท์ไปอยู่อีกที่ผมจะได้จัดการกับมันง่ายขึ้นยังไงล่ะ โอเค มาถึงแผนต่อไปที่จะทำให้ที่นี่เละตุ้มเป๊ะถ้าหากว่ามันยังไม่ยอมคืนแก้วให้ ผมดีๆ!
“ไอ้โทโมะ!”เมื่อ ไฟท์ตั้งหลักได้จึงจะตรงเข้ามาต่อยผมกลับ แต่ว่าผมก็หลบอ้อมทันไปทางด้านหลังมันก่อนจะใช้ฝ่าตีนอรหันต์ถีบเข้าบั้น ท้ายของมันจนมันหกล้มไปนอนกองอยู่กับพื้น
ผัวะ!!!
ตุ้บ!!
“โอ๊ย!! ไอ้เชี่_!”
“นี่แก! กล้าทำไอ้ไฟท์อย่างงั้นเหรอ”ไอ้คนตัวเล็กที่กำลังยืนมองด้วยควมมึนงงกับเหตุการณ์นี้เพราะคงไม่คาดคิดว่าผมจะมี ‘แผน’เหมือนกันงั้นสินะ หึ!
ขอโทษทีนะ...ไม่ได้โง่ จบป๊ะ?
“เอ๋าไม่กล้าแล้วจะทำเหรอ?”ผมมองหน้ามันกวนตีนแล้วเลียลิ้นไปตามริมฝีปากของตัวเองด้วยที่เห็นว่ามันหน้าเสียจนซีดไปเลย ฮ่าๆๆ สะใจ!
“ไอ้ดีโอ! จัดการมันสิวะ!”ไอ้ไฟท์ที่กำลังนอนอยู่กับพื้นเอ่ยสั่งไอ้ดีโอนั่น โห รับฟังคำสั่งดีมากอ่ะสั่งปุ๊บ! แล้วกำลังจะตรงเข้ามาต่อยผมปั๊บ! แต่เสียใจ! เพราะแค่ส่วนสูงมันก็สู้ผมไม่ได้ละ!
หมับ!
“ตัวเล็กแล้วอย่าทำเก่งมันน่าจะดีกว่ามั้ย?”จังหวะ นั้นที่มันง้างหมัดจะต่อยเข้ามาที่หน้าผมผมก็ได้รับหมับของมันเอาไว้ได้ทัน แต่ที่ไม่คาดคิดไอ้ไฟท์มันกำลังใช้ของสู้จนผมไม่ทันตั้งตัว!
ผัวะ!
“อั๊ก!”ผม ร้องเสียงหลงออกมาเพราะว่าแผ่นหลังรับรู้ได้ถึงแรงฟาดจากของบางสิ่ง ซึ่งพอหันไปมองก็พบว่าไอ้ไฟท์มันกำลังใช้ท่อแป๊ปสีฟ้าเป็นอาวุธในการทำร้าย ผมนั่นเอง
ท่อแป๊ปงั้นเหรอ? งั้นเจอนี่หน่อยละกัน!
ผลั่ก!
จังหวะ นั้นผมใช้แรงที่มีผลักไอ้ดีโอจนมันเซล้มไปกองอยู่กับพื้นอย่างแรงจากนั้นผม จะหันกลับไปมองไอ้ไฟท์ที่กำลังตรงเข้ามาแล้วกำลังจะเอาท่อแป๊ปฟาดเข้าที่ หน้าของผม
“มึง!”
หมับ!
“ฉันต่างหากที่ต้องเรียกแกว่า‘มึง!’ ”เมื่อผมจับท่อแป๊ปได้ผมก็พยายามดันให้มันออกไปจากใบหน้าด้วยความโมโหที่มีอยู่ข้างใน “ไอ้ห่า! จับแฟนชาวบ้านมาเพราะเรื่องปัญญาอ่อนแค่เนี๊ยะ!? บอกตรงๆเลย ควายยังฉลาดมากกว่าแกด้วยซ้ำไอ้ไฟท์!”
ผมพ่นคำด่าที่เก็บมานานด่ากราดใส่หน้าไอ้ไฟท์อย่างเจ็บแสบ แล้วจ้องมองมันด้วยสายตาโกรธเคืองแล้วแข็งกร้าวไปด้วย
ผัวะ!
“โอ๊ย!!”ที่มันร้องแบบนั้นเพราะว่าผมนั้นได้ใช้ตีนถีบเข้าที่ ‘เจ้าชายน้อย’ ของ มันนั่นเอง ก่อนจะแย่งท่อแป๊ปออกมาจากมือมันแล้วก็โยนไปทางอื่นให้ไกลๆจากตรงนี้ เพราะผมเกลียดการใช้อาวุธในการสู้แต่สิ่งที่พวกผมเคโอติคมีมันไม่เรียกว่า อาวุธอ่ะ เพราะมันเรียกว่า‘อุปกรณ์’
เอาล่ะ คราวนี้ล่ะ ที่ผมกับพวกเพื่อนๆจะต้องจัดการกับมันสักที!
[ จบบันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
อีกด้าน
“ไอ้จองเบพวกมันไปอยู่ฝั่งที่ไอ้เขื่อนกะไอ้ป๊อปจุดประทัดแล้วเว้ย เอาไงต่อ”เคนตะถามทันทีเพราะว่าแผนแรกเสร็จไปแล้วหนึ่งคือการล่อไอ้พวกนั้นให้ออกห่างจากโทโมะโทโมะจะได้จัดการไฟท์ง่ายขึ้นยังไงล่ะ
และ ตอนนี้กลุ่มเคโอติคก็ได้แยกกระจายกันออกไป เขื่อนไปกับป๊อปปี้ไปอยู่ข้างสนามอีกฝั่งโดยปีนกำแพงเข้าไป แล้วเมื่อล่อพวกนั้นมาติดกับป๊อปปี้กับเขื่อนก็จะถ่วงเวลาเอาไว้ให้ทางนี้นั่น เอง แล้วตอนนี้เคนตะกับจองเบก็กำลังอยู่นอกสนามแข่งแล้วแอบมองเข้าไป ด้านในก็เห็นว่าหน้าประตูทางเข้านั้นยังมีพวกไอ้ไฟท์ยืนคุมอยู่
แต่พวกมันก็คงไม่รู้หรอกว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นบ้างน่ะ คราวนี้ล่ะ!
“เดี๋ยวๆๆๆ เคนตะๆๆ เอาพลุควันมาก่อน”จองเบ รีบดึงกระเป๋าของเคนตะเอาไว้เมื่อเห็นว่าเขื่อนกำลังจะลุกขึ้นกับฟาง จากนั้นจองเบก็รีบหยิบเอาพลุควันออกมาจากกระเป๋าก่อนจะทำการจุดมันจนควันขึ้น แล้วโยนเข้าไปด้านในอีกฝั่งจนควันสีชมพูลอยฟุ้งเต็มไปหมด
“เฮ้ย! ควันอะไรวะ! ”
“ไอ้พวกนั้นไปแล้ว ไปๆๆๆ เข้าไปเร็วๆ”จองเบ รีบบอกฟางและมิณท์จากนั้นพวกฟางก็เลยรีบวิ่งเข้าไปยังฝั่งที่มัน เป็นพวกห้องพักพนักงานของพวกไฟท์จากนั้นจองเบ เคนตะ ก็ไปยังอีกทางก็คือทางเข้าไปทางสนามแข่งนั่นเองเพื่อช่วยโทโมะ
“เฮ้ย เข้ามาได้ไงวะ”เมื่อ พวกจองเบเดินเข้ามาเรื่อยแล้วพวกลูกน้องของไฟท์ที่กำลังยืนอยู่แถวๆนั้นเห็น เข้าจึงรีบเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาทันทีด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรแบบสุดๆ
“อ๋อ มาหาเพื่อนน่ะ ^^”จองเบทำเป็นแสแสร้งแกล้งพูดแต่แฝงไปด้วยความกวนประสาท
“เพื่อนอะไรวะ! ไม่มีหรอก! ที่นี่มีแต่พวกฉัน พวกแกกลับไปได้แล้ว”
“จะไม่มีห่าอะไรล่ะก็เพื่อนกูอยู่ในน้านนนน ><!” เขื่อนพูดบอกอย่างกวนๆ
“ก็บอกว่าให้กลับไปไม่เข้าใจรึไงวะ”
ผัวะ!!
“อั่ก!”หน้าของเขื่อนหันไปยังอีกทางเมื่อไอ้คนพูดัมนต่อยเข้ามาที่ใบหน้าของเขื่อนอย่างแรงจนถึงกับเลือดออก
“เฮ้ย ทำเพื่อนฉันเหรอวะ”เมื่อป๊อปปี้เห็นแบบนั้นก็ถึงกับของขึ้น
“ทำพ่อมึงมั้ง”
“กวนตีนละ”
ผัวะ!!
ป๊อปปี้ได้จังหวะก็ต่อยเข้าที่ใบหน้าก็ไอ้บ้านั่นทันที แถมมันยังมีมาอีกสองคนด้วยจนพวกเขาต้องใช้ไม้เด็ดออกมา!
“เฮ้ย ทำอะไรกันวะ!?”
“เจอนี่หน่อยยยยย”
โป๊ะ!
โป๊ะ!
โป๊ะ!
โป๊ะ!
“โอ๊ย!! อะไรวะเนี่ยยย”
“เอ้า ไม่รู้จักระเบิดกระเทียมเหรอเพ่!”เขื่อนเอ่ยปากบอกขณะที่จองเบกับป๊อปปี้ก็เล่นปาระเบิดกระเทียมใส่ตัวไอ้พวกนั้นจนพวก นั้นดันทำท่าแต๋วแตกออกมากันเลยทีเดียว เห็นแบนี้แล้วพวกเขาก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้“ดิ้น ดิ้น ดิ้นใหญ่”
โป๊ะ!
“โอ๊ย! ไอ้บ้านี่ พวกแกหยุดปานะเว้ย >O<!”
“ไม่หยุด! จะปาแม่งให้หมดซองนี่แหละ ร้ายกันดีนัก ร้ายยันเจ้านายถึงลูกน้อง โว๊ะ!”เขื่อนพูดแล้วก็ปาระเบิดกระเทียมใส่พวกนั้นรัวๆๆๆ จนกระทั่งหมดซองเลยทีเดียว
โป๊ะ!
ตุ้บ!
“เฮ้ยๆๆๆ พวกมันล้มแล้ว ไอ้ป๊อปเอาเชือกมาเร็ว!”เมื่อ เขื่อนเอ่ยบอกม่อนหลังจากที่พวกนั้นเอาแต่ดิ้นๆจนล้มลงพื้นม่อนก็ได้จัดการ เอาเชือกสีดำที่พกติดตัวมาด้วยมาจัดการมันเจ้าสามคนนั้นเข้าด้วยกัน “มัดๆๆๆเร็วๆเด้”
“ฉันมัดอยู่เว้ย ><!”
“เร็วๆๆ เดี๋ยวไอ้โทโมะแย่”จองเบบอกอย่างร้อนรนพลางมองไปที่โทโมะที่กำลังต่อยอยู่กับไฟท์แล้วก็ดีโอตั้งสองคนแหน่ะ
แล้วเขาจะต้องรีบไปช่วยเพื่อนของเขาเดี๋ยวนี้!
“ไอ้โทโมะโว๊ยยยย ฉันมาแล้ววววว”
ในขณะเดียวกัน
ฝั่ง > ฟาง> มิณท์
ตึกๆๆๆ
“ฟางเบาๆสิ พวกมันอยู่ข้างบนรึปล่าว?”มิณท์เอ่ยเตือนเมื่อเห็นฟางรีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสองแล้วมิณท์ก็เดินตามขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆด้วย “ฟาง ถ้าเห็นใครรีบบอกเลยนะ”
“โอเค”ฟางบอกแล้วพยักหน้า
“แก้วอยู่ห้องไหนเนี่ย”เมื่อ ขึ้นมาถึงพวกเขาก็พากันดูรอบๆเพราะว่ามันมีหลายห้องมาบนชั้นนี้ และตอนนี้พวกเขาก็เดินมาถึงทางยาวชะเง้อมองห้องข้างๆแอบเปิดดูห้องต่างๆก็ ไม่เจอเลย
จนกระทั่งมาเจอเข้ากับ!
“เฮ้ย! ขึ้นมาได้ยังไงกัน พวกแกเป็นใครวะ!” ขวับ! ( O_o)! ( OoO)!
“เวร / เวร /”ฟาง > มิณท์
ฟิ้ว!
ตึกๆๆๆๆๆ
ฟางและมิณท์รีบวิ่งหนีกันสุดตีนทันทีเพราะว่ายังไม่ทันได้ตั้งหลักอะไรเลยแถมพวกนั้นก็มีประมาณ 3 4 คนได้ ให้ตายสิ! อีกไม่ถึง 20 นาทีคนก็จะเริ่มมาสนามแข่งนี่แล้วนะ! ><!
“เอาไงดีๆๆๆ ><!”ฟางรีบพูดเพราะว่าพวกเขานั้นได้วิ่งมาหลบอยู่ข้างหลังกำแพงตรงทางลงบันไดขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของไอ้พวกนั้นกำลังตามมา
“ใช้นี่ๆๆ อยากใช้”มิณท์พูดแล้วถอดกระเป๋าเป้ออกมาแล้วรีบหยิบถุงลูกแก้วขนาดกำลังดีขึ้นมา “ฟางถือเป้ให้หน่อย”เขารีบพูดบอกแล้วชะเง้อหน้าไปแอบดูก็เห็นว่าไอ้พวกนั้นกำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว“เสร็จแน่ ฮ่าๆ ^O^//”
จังหวะนี้ล่ะ!
กรวดดดดดดด
กรวดดดดดดด
“ย๊ากกกกกกกก”
ตุ้บ ตะ ลุบ ตุ้บ ตั้บ!!!( โปรดร้องเป็นจังหวะเพลง ฮ่าๆๆๆ )
“เจ๋ง!”มิณท์รู้สึกดีใจที่ได้เห็นไอ้พวกนั้นพากันล้มหน้าทิ่มเพราะว่าเหยียบลูกแก้วที่เขาเทมันหมดถุงจนลื่นไปตามๆกันเลยทีเดียว“ทางสะดวกแล้ว ไปกันเถอะ”
“ป่ะ ว๊ากกกกก”ฟางที่กำลังจะวิ่งตามมิณท์ไปจำต้องร้องออกมาเมื่อขาของเธอถูกจับดึงจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
“ฟาง!”ตกใจมากเมื่อหันมาเห็นภาพนั้นแล้วกำลังวิ่งกลับมาช่วย
“ไป! ไปหาแก้วก่อนทางนี้ฉันจัดการได้!”
“แต่...”
“ไปสิเดี๋ยวไม่ทัน!”ฟางรีบตะโกนบอกทันทีมิณท์ก็เลยพากันวิ่งหาแก้วตามห้องต่างๆในนี้ อีกครั้ง“โอ๊ย!!ปล่อยขาฉันได้มั้ยวะเนี่ย>O<?” นี่ดีนะที่ไอ้คนที่จับขาฟางมีแค่คนเดียว เพราะอีกสองคนสลบคาที่ไปเรียบร้อย
“ไม่ปล่อยเว้ย!”มันตะโกนบอกแล้วจับดึงขาฟางแน่น
“ไม่ปล่อยใช่มั้ย? ได้!”
ปึก!!
“โอ๊ย! ยัย...!!! อั๊ก!!”ไอ้ บ้านั่นร้องออกมาเพราะว่าหน้าของมันนั้นอยู่ตรงส้นเท้าของฟางพอดิบพอดีฟาง จึงใช้เท้าถีบหน้ามันจนมันปล่อยมือออกจากขาฟางในที่สุด จังหวะนั้นเธอก็เลยลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบล้วงแท่งไฟเย็นขึ้นมาถือไว้พร้อม กับใช้ไฟแช็คที่จองเบได้ให้เอาไว้ขึ้นมาจุดเจ้าไฟเย็นนั่น
ตอน นั้นนั่นเองเมื่อฟางได้จุดแท่งไฟเย็นได้แล้วเธอจึงเดินไปย่อตัวลงตรงขาของ ไอ้บ้านั่นที่พยายามจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาแต่ก็ยากเหลือเกินเพราะลูก แก้วอยู่เต็มไปหมด แต่ฟางเธอก็ยืนได้อย่างระวัง
“ฉันจำหน้าแกได้นะ! แกมันไอ้หมอนั่นที่ผลักฉันจนหัวทิ่ม”
“เออ แล้วจะทำไมวะ!”
“หึ จับเพื่อนฉันมาใช่มั้ย! พวกแก๊! ”ใช่! ที่ฟางขึ้นเสียงแบบนี้เพราะว่าไอ้พวกนี้แหละที่ผลักเธอจนหน้าทิ่มพื้นตอนที่พวกมันจับแก้วยังไงล่ะ “บอกเลยว่าแค้นเว้ย! ผลักฉันหน้าทิ่มพื้นตั้งสองรอบ งั้นเจอนี่หน่อย ย่า!!! >O<!”
จึก!
“อ๊ากกกกก ร้อนๆๆๆๆ” สาเหตุ ที่ไอ้บ้านั่นร้องออกมาว่าร้อนแบบนั้นเพราะว่าฟางนั้นได้จัดการเอาไฟเย็น จิ้มเข้าที่รูก้นตรงกลางกางเกงของหมอนั่นเขาอย่างจังๆยังไงล่ะ!
“ร้อนทำไมชื่อมันก็บอกอยู่ว่าคือ‘ไฟเย็น’ แบร่ๆๆ สม! ไอ้บ้า!”ฟาง ลุกขึ้นยืนแล้วแลบลิ้นใส่ไอ้บ้านั่นที่กำลังเอามือถูก้นอยู่ก่อนจะรีบวิ่งไป ตามทางมิณท์วิ่งไปแล้วก็ปรากฏว่าเห็นว่ามิณท์ ออกมาจากห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่ตรงด้านในสุดเดินออกมาพร้อมกับร่างของแก้วที่กำลังสลบอยู่ในอ้อมแขนของเขานั่นเอง!
“ฟางเจอแก้วแล้ว!!”มิณท์รีบตะโกนบอก
“โอเค งั้นไปหาพวกเคโอติคด่วนเลย! เราต้องรีบออกจากที่นี่ก่อนพวกคนดูจะมา! เร็วๆๆๆ”ฟาง รีบกวักมือมิณท์ก็รีบวิ่งมาพร้อมกับพยุงร่างของแก้วไปด้วยแล้วพวกเขาก็ รีบพากันวิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปเจอกับกลุ่มเคโอติค!
ตึกๆๆๆๆๆ
“ฟางผมโทรบอกเขื่อนกับป๊อปปี้แล้ว พวกเขาจัดการไอ้พวกนั้นเรียบร้อย เดี๋ยวจะไปเอารถมารับพวกเรา”เมื่อมิณท์บอกตอนที่เดินลงมาถึงชั้นล่างฟางก็พยักหน้าให้ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังมองหน้ากลุ่มของจองเบที่แยกออกไปช่วยโทโมะนั่นเอง!
แต่ตอนนี่พวกเขาอยู่ไหน!?
“อยู่ไหนอ่ะ”ฟางพูดขณะที่กำลังมองไปรอบ
“นั่นๆ อยู่ตรงนั้น”มิณท์พูดบอกฟางเพราะว่าเขาดันมองไปเห็นว่าโทโมะ จองเบ กับเคนตะกำลังยืนเคลียร์กับไฟท์อยู่นั่นเอง
[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
ผลั่ก!
“อย่าทำแบบนี้อีก”ไอ้ จองเบเอ่ยบอกหลังจากที่ช่วยผมรับมือกับไอ้ไฟท์จนไอ้ไฟท์นั้นสู้ไม่ไหว แต่พวกผมไม่ได้ทำอะไรมันจนหนักหนาสาหัสนะ ไม่ใช่แบบนั้น แต่พวกไอ้จองเบก็แค่ช่วยรั้งมันให้หยุดเข้ามาทำร้ายผมแค่นั้นเอง รวมถึงไอ้ดีโอด้วยที่ตอนนี้ก็กำลังยืนหมดแรงอยู่ข้างๆไอ้ไฟท์หลังจากที่พวก ผมจัดการผลักมันเข้าชิดกำแพง
เอาล่ะ มาเคลียร์กันสักทีสินะ
“ไอ้ขี้โกง! ไหนว่ามาคนเดียวไงฮะ? ที่ไหนได้ พวกแกมันก็ขี้โกงนี่เอง!”ไฟท์ตะคอกใส่แล้วใช้สายตาอันโกรธเกรี้ยวนั่นมองพวกผมทีล่ะคน เห๊อะ ท่าทางแบบนี้มันเหมือนกับยัยพิมพ์ในร่างผู้ชายเลยว่ะ
“แกต่างหากที่โกง ฉันอยู่ของฉันดีๆแล้วมาทำแบบนี้ได้ไง ถ้าอยากได้คนเพิ่มเข้ากลุ่มก็ไปประกาศรับสมัครสิวะ ไม่ใช่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้”ผมชี้หน้าด่ามันบ้าง เหลืออดแล้วจริงๆ
“ใช่ อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน และอย่ามายุ่งกับพวกเรา ต่อจากนี้ต่างคนต่างอยู่”ไอ้เคนตะที่ยืนข้างๆผมก็พูดขึ้นเช่นกัน
“ง่ายไปมั้ง?”
“ไอ้ไฟท์ ถ้าขืนแกยังไม่จบฉัน จะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อของแก อย่าลืมซี่ พ่อฉันกับพ่อรู้จักกัน ฉะนั้น...แกก็น่าจะรู้นะว่าถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อแกมันจะเป็นยังไง เพราะครั้งนี้ฉันจะถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะมาเหยียบที่นี่”ไอ้จองเบร่ายมายาวเหยียดจนทำเอาไฟท์ทำได้แค่ถอนหายใจแต่สุดท้ายมันก็ยังจะ...
“อย่าเอาพ่อฉันมาขู่เลยดีกว่า”
“ไม่ได้ขู่ เพราะฉันเอาจริง”จองเบบอกเสียงเข้มผมกับเคนตะจึงมองหน้ากัน “ไอ้โทโมะน่ะ มันไม่เคยทำอะไรให้แก เพราะฉะนั้นอย่ามาทำแบบนี้ พวกฉันก็อยู่เฉยๆไม่เคยเข้าไปยุ่งอะไรแกและถ้าแกจะเอาข้ออ้างที่ว่าอยากจะชนะฉันเรื่องรถ ก็ขอบอกเลยว่าแกเป็นคนมาหาฉันถึงที่เอง”
“...”
“อย่ามาทำแบบนี้ เพราะเรื่องที่แกทำมันเป็นเพราะตัวแกเอง แกมาท้าฉัน ฉันแข่งโดยไม่มีการโกงแล้วชนะมันก็ถูกแล้วนี่? แล้วแกจะมาโทษฉันได้ไง เพราะถ้าแกไม่ท้าแข่งแกจะเสียเงินก้อนของแกให้ฉันมั้ย? ก็ไม่”
“เออๆๆๆ! ฉันยอม! พวกแกชนะเคป๊ะ!” ดูมัน - -!
“นี่มันไม่ใช่การแข่งขันเพื่อชนะ”ผมเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าไอ้ไฟท์ “เพราะการแข่งขันคือสิ่งที่ไม่มีการปะปนกับเรื่องสกปรกแบบนี้ เพราะฉะนั้นขอร้อง อย่ามายุ่งกับชีวิตของฉันอีก หวังว่าแกคงจะเข้าใจนะ”
“Shit”
“โทโมะ!”จังหวะนั้นนั่นเองที่เสียงของฟางดังขัดขึ้นเสียก่อนพอโทโมะหันกลับไปมองเขาก็ยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าพวกฟางช่วยแก้วได้แล้ว
บรื๊นนนนน
แล้วในตอนนั้นป๊อปปี้กับเขื่อนก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามาที่สนามแข่งนี้คนละ คันเพราะว่าพวกมันคงจะจัดการคนของไอ้ไฟท์ไปเรียบร้อยแล้วน่ะสิ
จบแล้วสินะ...
“หวังว่าแกจะไม่ลืมนะไฟท์ ที่ฉันบอกน่ะ”ไอ้จองเบย้ำอีกครั้ง
“เออๆๆๆ เชิญพวกแกออกไปจากสนามแข่งของฉันได้แล้ว! แค่นี้คนของฉันก็เละพอแล้ว!”ไฟท์บอกแล้วเอามือยกขึ้นเสยผมสีควันบุหรี่ด้วยความอารมณ์เสียอย่างแรว๊ง
“เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆๆ มีอีกอย่างที่ยังไม่ได้ใช้เลยอ่า”
“อะไรของแกวะไอ้เขื่อน =[]=?”พวกผมมองไอ้เขื่อนงงๆเพราะว่ามันวิ่งไปค้นกระเป๋าเป้ของมิณท์ก็พบว่ายังมีบางสิ่งที่ยังไม่ได้ใช้เลย
อะไรของมันวะ?
“สายรุ้งไง๊ ^=^”
“พอเลย!! ออกไปจากสนามแข่งของฉันได้แล้ว!”ไอ้ไฟท์ไล่ เห๊อะ! ที่นั่นทำเป็นเหนือกว่า สุดท้ายเป็นไง อับอาย? ขายขี้หน้า? เยอะอ่ะ! เพราะสิ่งที่พวกผมทำมันก็คงทำให้ไอ้ไฟท์ไม่กล้าทำอะไรแบบนี้อีก
“งั้น...”
ฟึ่บ!
จังหวะนั้นไอ้เขื่อนได้โยนขวดสายรุ้งนั่นมาที่ไฟท์ ไฟท์ก็รับมันแล้วทำหน้าตางงๆว่าไอ้เขื่อนมันต้องการจะสื่ออะไรของมันกันแน่?
“อะไรของแก”
“ฝากเอาสายรุ้งพ่นใส่หัวตัวแกเองด้วยนะ โทษฐานจับแฟนเพื่อนฉันมา :P”
“ไอ้สลัดผัก!”ไฟท์ด่าแล้วทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องไอ้เขื่อนอีกรอบแต่ไอ้ดีโอก็ดึงคอเสื้อมันเอาไว้เป็นทำนองว่า‘อย่าดีกว่า’
“แกสิสลัด! ไม่ใช่สลัดที่กินได้นะแต่ฉันกำลังหมายถึง Animal ”
“พอแล้วไอ้เขื่อน จบเรื่องแล้ว กลับถิ่นกันเถอะ”
เมื่อ ไอ้จองเบพูดจบมันก็มองไอ้ไฟท์เพียงนิดเดียวก่อนที่พวกผมจะพากันเดินออกมาจาก ตรงนั้น ส่วนผมก็เดินไปที่ไอ้มิณท์ที่มันกำลังอุ้มแก้วเอาไว้ในอ้อมแขน ในหัวผมในตอนนี้มันไม่ได้มีความหึงหวงหรือไม่พอใจอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่มันมีแต่คำว่า...
“ขอบใจนะ”ผม มองหน้ามิณท์แล้วเอ่ยบอก มิณท์ก็ยิ้มให้ผมนิดๆแล้วก็จัดการส่งร่างของแก้วเอามาไว้ในอ้อมแขนของผม แทน และตอนนี้แก้วเธอก็กำลังหลับปุยเพราะฤทธิ์ยาสลบนั่งเอง( ฟางบอกผมว่าเธอโดนโปะยาตอนเธอโดนพาตัวขึ้นรถ )
“จบเรื่องสักทีสิน่า เฮ้อ!”ไอ้ป๊อปปี้เอ่ยพูดขณะที่กำลังนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ซึ่งคันที่พวกมันเอามาเป็น รถของไอ้จองเบที่อยู่ที่สนามแข่งนั่นเอง มันก็ขับมาที่นี่ตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ
“บททดสอบแกจบแล้วเพื่อน ครั้งนี้คงเป็นอุปสรรคสุดท้ายแล้วสำหรับแก ต่อจากนี้ก็ดูแลแก้วให้ดีนะเว้ย เพราะโชคดีไม่ได้มีเสมอไป”ไอ้จองเบเอามือขึ้นมาจับบ่าของผมเอาไว้แล้วเอ่ยบอกเพื่อนๆผมก็เดินมาอยู่ล้อมรอบตัวผมแล้วมองผมยิ้มๆผมก็ยิ้มตอบพวกมันเช่นกัน
“ฉันขอบใจพวกแกมากนะเว้ยที่ช่วย ถ้าไม่มีพวกแก...ฉันคง...”
“ไม่มีวันไหนที่แกจะไม่มีพวกฉันไอ้โทโมะ เพราะพวกเราเคโอติคจะเป็นเคโอติคที่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือกันและกันตลอดไปชัดนะเว้ย”หัวหน้ากลุ่มอย่างป๊อปปี้เอ่ยขึ้นจนทำเอาผมพูดไม่ออกเลย
“โทโมะ เรื่องจบแล้วแกก็พาแก้วกลับไปบ้านซะ วันนี้แกไม่ต้องไปที่สนามแข่งฉันหรอก อยู่ดูแลแฟนแกเหอะ เพราะว่ายาสลบถ้าเกิดเพิ่งโดนเป็นครั้งแรกคนที่โดนจะมีผลข้างเคียงบ้างน่ะ”
“ข้างเคียง? ข้างเคียงยังไงอ่ะ? =[]=?”ฟางที่ยืนอยู่ข้างๆผมเอ่ยถามอย่างงงๆ
นั่นสิข้างเคียงยังไงวะ = =?
“โทโมะมี่งี่เง่าาาา นายต้องโดนเราเตะ ฮ๋าๆๆๆๆ”
“เย้ย!”พวกผมร้องขึ้นมาเมื่อแก้วดันละเมอพูดอะไรก็ไม่รู้อยู่ในอ้อมแขนของผมซะงั้น
ให้ตายสิ! เมื่อกี๊อะไร? ‘ โทโมะมี่’ เนี่ยนะ?
เอิ่มมม มันมาจากผลข้างเคียงใช่มั้ย = =?
“โทโมะมี่งั้นเหรอ? อ๊ากกกก ไอ้โทโมะเปลี่ยนชื่อแล้วเว้ยยย”
“นี่ พวกแกหยุดล้อฉันเลยนะเว้ยยย ><!” สาบาญได้เลยถ้าไม่ติดว่าพวกมันช่วยผมเอาไว้แล้วผมไม่ได้อุ้มแก้วอยู่ ผมกระโดดถีบพวกมันไปแล้ว ><!
สุด ท้ายกลุ่มของพวกผมก็พากันออกมาจากสนามแข่งของไฟท์โดยที่ผมให้ฟางไปกับผมด้วย พวกไอ้จองเบก็กลับไปที่สนามแข่งกัน และฟางเธอบอกว่าเดี๋ยวคืนนี้จะไปนอนค้างที่บ้านแก้วเผื่อว่าแก้วละเมออะไร อีก ผมก็ว่าดีเธอจะได้มีคนดูแลเธอแถมพ่อแก้วจะได้ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก
และตลอดตั้งแต่ออกมาจากที่นั่น ที่สนามแข่งของไอ้ไฟท์มันทำให้ผมได้อะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน
เพราะมันทำให้ผมได้รู้ว่าเพื่อนๆของผมเป็น‘ครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ’ และ เป็นเพื่อนที่ดีมาก และผมก็หวังว่าพวกเราจะรักกันมากขึ้นหลังจากนี้เพราะว่าอุปสรรคหลายๆอย่าง ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่ผมเจอกับแก้วมันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จริงๆมันมีทั้ง ความรัก มิตรภาพ และอีกเยอะซึ่งผมเองก็บอกได้ไม่หมดหรอก
และสุดท้าย...ผมก็อยากจะพูดบอกกับทุกๆคนว่าขอบคุณมากๆนะครับที่อยู่ เคียงข้างผมมาตลอด จนถึงตอนนี้ ขอบคุณที่ช่วยผลักดันให้ผมได้รู้ถึงการใช้ชีวิตมากมาย และการเปิดใจลืมอดีตที่ผ่านมาแล้วพบกับเรื่องใหม่ๆ
แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะบอกกับทุกคนก็คือ... ‘ทุกคนก็เป็นครอบครัวของผมเช่นกัน’...รักมากมายนะครับ >_O!
___________________________________________________________พรุ่งนี้ตอบจบแล้วน้าาา ^^ เม้นกันหน่อยย
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ