Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  67.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

19) - Accident - ( อุบัติเหตุ )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
- Accident -
( อุบัติเหตุ )
 

วันพุธ
 
 
ณ โรงยิมกิจกรรม
 
 
คาบกิจกรรม
 
 
3 โมงครึ่ง
 
 
           ตอนนี้นักเรียนทุกระดับชั้นต่างก็แยกย้ายกันไปฐานกิจกรรมของแต่ละระดับชั้น เรียนในเวลา 3 โมงครึ่ง ของทุกๆวันพุทธของแต่ละสัปดาห์เพื่อมาทำกิจกรรม
 
 
       การรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมต่างๆของเหล่านักเรียนจะจัดทำกันเองโดยที่เหล่าคณะ อาจารย์จะไม่ยุ่งเกี่ยวใดๆเพราะถือว่าได้ให้อิสระ แต่ช่วงท้ายเทอมตัวแทนคณะจัดการกิจกรรมของทุกระดับชั้นจะต้องนำใบประเมิน กิจกรรมตลอดทั้งเทอมส่งทางฝ่ายวิชาการเพื่อเป็นคะแนนเก็บ
 
 
       และหัวหน้ากิจกรรมของระดับชั้นม.5 ก็คงจะหนีไม่พ้นคลอรีนอย่างแน่นอนเพราเธอมีความเป็นผู้นำเป็นอย่างมากและมี ความรู้ ความสามารถ และอีกในหลายๆด้านโดยที่ไม่มีใครๆขัดอะไรในสิ่งที่เธอพูดเลย
 
 
“ฟางยกระวังๆนะมันหนัก” ฉันบอกฟางเมื่อฉันกับฟางกำลังช่วยกันยกกล่องไม้ที่ถูกวาดรูปทาสีเอาไว้สวยงามไปไว้ทางด้านหน้าทางเข้าของโรงยิมกิจกรรม
 
 
 
 
      อ้อ! ลืม บอกไปแน่ะว่า ระดับชั้น ม.5 ของเราจะมีกิจกรรมงานเลี้ยงกันในเย็นวันพฤหัสที่จะถึงนี้เพราะวันศุกร์เป็น วันหยุดเพราะเหล่าอาจารย์ต้องไปเข้าโครงการอบรมที่ต่างจังหวัด...
 
 
 
      ของทุกอย่างถูกจัดและออกแบบมาเรียบร้อย แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ยังไม่เสร็จดีนัก ตอนนี้ทุกๆคนกำลังช่วยงานกันอย่างหนักเลยทีเดียว ทั้งทางของตกแต่ง ทางซุ้มดอกไม้ ทางด้านแสงสีและไฟหน้าเวทีจะมีการจัดการแสดงขึ้นด้วย
 
 
 
“แกหายป่วยแล้วเหรอมาช่วยยกเนี่ย เดี๋ยวก็เป็นลมไปหรอกแก้ว”
 
 
 
“ยังไม่หายสนิทหรอกแต่ฉันก็ช่วยได้นะ”
 
 
 
       ไข้พิษของฉันตอนนี้น่ะมันยังไม่หายสนิทดีหรอกแต่มันก็ค่อยยังชั่วแล้ว แต่ไข้มันจะขึ้นเป็นบางเวลา แต่ท้องไม่ค่อยปวดแล้ว ประจำเดือนก็เพิ่งหมดเมื่อวานเลยทำให้พิษไข้ลดลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
 
 
 
       และถือเป็นโชดดีที่พ่อไม่ได้สังเกตอะไรมากเมื่อกลับมาถึงบ้านในวันจันทร์
 
 
 
       และตั้งแต่ตื่นมาเช้าของวันนั้น ฉันก็ไม่เห็นโทโมะเลย เพราะคิดว่าเขาคงจะกลับบ้านของตัวเองไปแล้วจากทางระเบียงห้องนอนของฉันที่ อยู่ตรงต่อกับระเบียงห้องนอนของโทโมะพอดี และมันใกล้กันพอประมาณที่จะสามารถปีนข้ามไปได้เลย
 
 
 
        ถ้าถามว่ารู้ได้ไงว่าโทโมะออกทางนั้น?
 
 
 
       เพราะ ตอนแรกฉันคิดว่าเขาคงจะเปิดประตูบ้านออกไปเลยเดินลงไปดูก่อนแต่ปรากฏว่ากลอน ประตูในบ้านยังล็อคอยู่แสดงว่ายังไม่มีคนเปิดมัน แต่พอขึ้นมาดูบนห้องกลับสังเกตได้ว่าประตูกระจกใสที่เป็นประตูเปิดออกไปนอก ระเบียงกลับถูกเปิดเลื่อนแง้มเอาไว้นิดหน่อยแสดงว่าโทโมะต้องปีนออกไปทาง ระเบียงแล้วไปเข้าทางประตูระเบียงห้องนอนของเขาที่ไม่ได้ล็อคเอาไว้แน่ๆเลย
 
 
 
       ระเบียงบ้านเราติดกันจนสามารถปีนข้ามไปข้ามาได้เลยล่ะ แต่ต้องระวังนะ  = =;;;;
 
 
 
        และน่าแปลกที่ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ค่อยได้เจอโทโมะอีกเลย...
 
 
 
        พอมาที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยได้เจอกัน อาจจะเจอบ้างตอนที่เขากำลังเดินอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆเคโอติค แต่สีหน้าโทโมะที่ฉันสังเกตเข้าดูไม่สดใสเลย ก็ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด! เพราะปกติเวลาที่โทโมะอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆของเขา เขาก็จะทำหน้านิ่งๆเย็นชาๆอยู่แล้วนี่
 
 
        แต่ก็ไม่รู้สิ...ว่าทำไมทุกครั้งที่เจอโทโมะโดยบังเอิญไม่ว่าจะที่โรงเรียนหรือ ที่บ้านโทโมะจะเมินหน้าไปทางอื่นทำเป็นไม่ใส่ใจฉันไปเลย เหมือนวันแรกๆไงที่เขาชอบเมินใส่ฉันแบบนี้
 
 
 
        เอ...แล้วนี่ทำไมฉันจะต้องทำเหมือนว่าแอบเสียใจอยู่ลึกๆด้วยล่ะ?
 
 
 
       คงอาจจะเป็นเพราะว่า...ฉันแอบชอบเขาแล้วพอเขาเมินกันแบบนี้มันคงจะแปลกๆล่ะมั้ง?
 
 
 
       แต่ พอมาคิดดูอีกทีฉันก็ว่าโทโมะเขาคงไม่ได้จะอะไรกับฉันนักหรอกเพราะว่าเขาไม่เคย แสดงอะไรออกมา และนั่นทำให้ฉันมั่นใจว่าเขาคงไม่ได้คิดอะไรกับฉันถึงแม้ว่าเขาจะทำให้ฉัน หวั่นไหวทุกครั้งก็ตามทีเถอะ...
 
 
 
        ที่เขาทำไปเพราะคำสั่งของผู้ใหญ่เพียงเท่านั้นอย่างที่เขาบอกเสมอ และที่เขามาดูแลฉันตอนที่ป่วยโดยการซื้อข้าวต้มมาให้มันก็เป็นเพราะคำสั่ง ของแม่เขาเอง  โทโมะเขาคงไม่ได้ตั้งใจที่จะทำมันด้วยตัวเองหรอก
 
 
 
        ท่าทางของเขากับกิริยาปฏิเสธมันตลอดตอนที่ฉันถามทุกครั้ง...
 
 
 
“แก้ว” หลัง จากที่ช่วยกันวางกล่องไม้นั่นลง ฟางก็เรียกฉันพอฉันมองฟางก็เอามือเท้าสะเอวแล้วอีกมือก็ยกขึ้นปาดเหงื่อที่ กำลังไหนลงมาจากหน้าผากของตัวเอง 
 
 
 
“ว่าไง ^^”
 
 
 
“แกอ่ะระวังๆตัวหน่อยนะเวลาไปไหนคนเดียวอ่ะ”
 
 
 
“ทำไมเหรอ?” ฉันถามเมื่อเห็นว่าฟางบอกด้วยสีหน้าจริงจังและแลดูเป็นห่วง
 
 
 
“ไม่ต้องหันไปมองข้างหลังนะ พวกกลุ่มโบว์ลิ่งมันมองอยู่”ฉันถึงกับออกอาการกลัวออกมาหน่อยๆจนไม่กล้าหันไปตามที่เปาบอก เพราะว่ากลัวมีเรื่องอีก
 
 
 
       พวกกลุ่มนี้ก็นะ! จะอะไรกับฉันนักหนา จองเวรกันจริงๆ! >O<!
 
 
 
       ตาม จริงฉันไม่ควรที่จะกลัวแบบนี้เพราะว่าฉันไม่ได้ไปทำอะไรผิด  แต่พวกที่คิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดเวลา คนพวกนั้นน่ะคุยด้วยดีๆไม่ได้หรอก
 
 
 
“พวกนั้นเดินไปแล้ว” ฟางบอก
 
 
 
“อืม” ฉันก็พูดรับแล้วพยักหน้าเป็นอันโล่งใจ
 
 
 
“ถ้าไม่จำเป็นอย่าไปไหนคนเดียวนะเว้ยในโรงเรียนอ่ะ ถ้านั่นก็บอกให้ฉันไปเป็นเพื่อน”
 
 
 
“โอเค”
 
 
 
       ระหว่าง ที่ฉันกับฟางกำลังเดินกลับเข้ามาในโรงยิมเพื่อจะไปช่วยยกแจกันดอกไม้ปลอมไป วาง ระหว่างที่เดินผ่านกลุ่มพวกเคโอติคที่กำลังนั่งทาสีตัวหนังสืออยู่ไม่ใกล้ไม่ ไกลนัก และฉันก็รับรู้ถึงสายตาของใครบางคนที่กำลังมองมา แต่ก็ไม่ได้หันไปมองหรอก
 
 
 
        บางที...ฉันอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้!
 
 
 
“แก้ว ^^”
 
 
 
“อ้าวคลอรีน ว่าไง ^^”  หลังจากที่ได้ยินเสียงทักของใครบางคน ฉันก็หันไปมองก็พบว่าเป็นคลอรีนที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันยิ้มๆ
 
 
 
“ไงคลอรีน” ฟางทักบ้างแล้วคลอรีนก็หันไปยิ้มให้ฟาง “แก้ว แกคุยกับคลอรีนไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันเอาแจกันไปวางก่อน”
 
 
 
“อื้ม” เมื่อฉันพยักหน้าตอบฟางก็เดินไปหยิบแจกันดอกไม้แล้วเดินออกไปนอกโรงยิม “มีอะไรจะคุยกับเรารึปล่าว”ฉันถามเมื่อเห็นว่าคลอรีนทำท่าว่าอยากจะคุยอะไรด้วย
 
 
 
“ปล่าวหรอก แค่ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยทักซะหน่อย”
 
 
 
“อ๋อ”
 
 
 
“เมื่อวันศุกร์ฉันคุยกับฟางเห็นฟางบอกว่าเธอไม่สบายเลยไม่ได้มาโรงเรียน”
 
 
 
“อื้ม เราปวดท้องแล้วก็เป็นไข้น่ะเลยไม่ได้มา”
 
 
 
“แล้วตอนนี้ไข้หายดีแล้วรึยัง”
 
 
 
      คลอรีน ถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงกัน  จนฉันคิดเลยว่า เธอเป็นคนที่แคร์คนอื่นเอามากๆเลย เพราะดูจากการใส่ใจในทุกๆเรื่องแล้ว ฉันคิดว่าเหล่าบรรดานักเรียนชั้น ม.5  นี่โชคดีจริงๆที่มีคลอรีนเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมน่ะ  
 
 
 
“ยังไม่ค่อยหายดีเต็มร้อยหรอก แต่เราก็โอเคแล้ว ^^”
 
 
 
“ก็ดีแล้ว” คลอรีนพยักหน้า “เออแก้ว”
 
 
 
“หืม?”
 
 
 
“เธอคิดว่าซุ้มดอกไม้ที่กำลังจัดอยู่มันสวยมั้ย” คลอรีนถามเหมือนว่าขอความคิดเห็น
 
 
 
       ฉันจึงหันไปมองซุ้มดอกไม้ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากฉันกับคลอรีนนัก และตอนนี้มิณท์กับเพื่อนผู้หญิงของเขาก็กำลังช่วยกันจัดซุ้มดอกไม้โดยการ เอาดอกไม้เสียบเข้าไป แต่เมื่อมิณท์ที่กำลังจัดๆดอกไม้อยู่หันมาเห็นฉันที่กำลังมองเขากับ เพื่อนๆจัดดอกไม้อยู่
 
 
 
       เขาก็ใช้นิ้วดันแว่นขึ้นแล้วยิ้มจากนั้นก็บ๊ายบายให้ฉัน ฉันก็บ๊ายบายตอบเขา...
 
 
 
อ้อ! ซุ้ม ดอกไม้นั่นมันเป็นซุ้มดอกไม้เหล็กแบบหนาที่ค่อนข้างจะหนักเอาการนะ แถมยังมีบางจุดที่ยังไม่ได้ปักดอกไม้เอาไว้ด้วยและโอเอซีสก็ยังไม่ได้ใส่ เข้าไปด้วยมันเลยยังไม่เสร็จดี
 
 
 
       แต่จากสายตาที่มองดูโดยรวมแล้วฉันว่ามันก็สวยดีนะ! ^___^
 
 
 
“สวยดีนะเราว่า”
 
 
 
“เหล่า นางรำของเราอยากให้ผลงานมันออกมาดีๆน่ะเลยขอให้จัดซุ้มดอกไม้ในการแสดงให้ เพราะว่าเวลาที่ส่งรายงาน มันก็จะได้ออกมาดีในสายตาของเหล่าคณะอาจารย์น่ะ”
 
 
 
“มีรำด้วยเหรอ?”ฉันหันไปถามคลอรีน
 
 
 
       ไม่ใช่อะไรหรอก แต่ด้วยความเคยชินจากการเป็นหนึ่งในนางรำของโรงเรียนมาตั้งแต่สมัยประถมเลย ทำให้ฉันรักในการรำเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้รำแล้วเพราะว่าตั้งแต่ย้ายมาที่นี่เรื่องนั้นก็เหมือนจะ ถูกลืมไปซะสนิทเพราะจากปัญหาและเรื่องราวต่างๆที่มันเกิดขึ้นมามากมายไม่ หยุดไม่หย่อน
 
 
 
       มันไม่เคยให้ฉันได้พักเลยเอาจริงๆนะ =[]=;;;;
 
 
 
“อื้ม โรงเรียนเราเปิดกว้าง มีหมดแหละอยากเรียนรำไทยเหรอ?” คลอรีนหันมาถามยิ้มๆ
 
 
 
“เรารำเป็นมาตั้งแต่ประถมแล้ว แต่ก็อยากเข้าชมรมรำไทยนะ...แต่ติดตรงที่ว่ามันไม่ได้รำมานานแล้วเรากลัวลืมแหะๆ ^^;;;”
 
 
 
“เฮ้ย ท่าใจรักจริงๆก็ไม่ต้องกลัวอะไรหรอก เชื่อฉันสิ ^^”
 
 
 
“อื้ม ขอบใจนะ ^^”
 
 
กรึก!
 
 
 
 
ครืดดดดด “เฮ้ย! ระวัง!!”  
 
 
 
       เมื่อฉันกำลังยืนคุยกับคลอรีนยิ้มๆจู่ๆเรื่องที่ไม่คาดฝันของฉันกับคลอรีนก็บังเกิดขึ้น!  
 
 
 
       เพราะ ว่าซุ้มดอกไม้นั้นที่คาดว่าล้อเล็กๆกลมๆข้างล่างของตัวฐานคงจะหลุดออกมาล้อ นึงเลยทำให้ซุ้มดอกไม้นั้นเอียงไปเอียงมาจนมันเอียงจะล้มทับใส่ฉันกับคลอรีน ที่ยืนอยู่ เราสองคนตกใจกันมากเพราะว่ามันไม่ทันตั้งตัวจริงๆ และภาพที่ฉันเห็นในตอนนั้นคือทุกคนตกใจกันมากจนกรื๊ดกันออกมา
 
 
 
“อ๊า!!!” >>> คนที่เห็นเหตุการณ์
 
 
 
หมับ!
 
 
 
เฮือก!
 
 
 
      ฉัน ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อเจ้าซุ้มนั่นกำลังจะล้มทับร่างของฉันกับคลอรีน จู่ๆก็มีมือของใครคนหนึ่งมาดึงแขนของฉันให้หลบพ้นจากซุ้มดอกไม้นั่นในช่วง เวลาที่ทันแบบพอดิบพอดี
 
 
 
       แต่สังเกตจากหางตาของตัวเองแล้วฉันเห็นว่าคลอรีนก็ถูกใครดึงมือไปอีก ทางด้วยเหมือนกัน!
 
 
 
ตุ้บ!
 
 
 
      ร่าง ของฉันล้มลงกับพื้นพร้อมกับใครคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ชายที่มาช่วยดึง ตัวฉันเอาไว้ เขาเอามือประคองหัวฉันเอาไว้ตอนที่เราล้มลงพื้นด้วยกันซึ่งฉันอยู่เบื้อง ล่างแต่ด้วยร่างกายที่ถูกกอดเอาไว้จากใครคนนั้นทำให้ตอนล้มฉันไม่เจ็บมากนัก
 
 
 
ตู้ม!!!
 
 
 
       เสียง ซุ้มดอกไม้ที่ล้มลงพื้นอย่างดังทำให้ดอกไม้ที่หลุดออกมาจากตัวซุ้มกระเด็นมา โดนร่างของฉัน ฉันก็หลับตาปี๋ตั้งแต่ตอนที่ล้มลงแล้ว และตอนนี้ก็ยังไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองอะไรทั้งสิ้น
 
 
 
“โอ๊ะ!!”
 
 
 
“ว๊าย! ตายแล้ว นั่นโทโมะนี่?!”
 
 
 
“จองเบกับคลอรีนด้วย!”
 
 
 
“เห้ย...!!!”
 
 
 
จึก!
 
 
 
       มะ...เมื่อกี๊พวกนั้นว่าไงนะ? โทโมะเหรอ!?!
 
 
 
      เมื่อคิดแล้วฉันพยายามรวบรวมสติที่มีอยู่ให้กลับมาพร้อมกับค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละนิด ลมหายใจร้อนๆของคนที่ฉันไม่รู้ว่าจะใช่ ‘เขา’ รึปล่าวรินรดลงบนผิวแก้มบางๆของฉันและเพราะว่าใบหน้าของเขามันซุกอยู่ที่ซอก คอของฉันทำให้ฉันลืมตาขึ้นมาโดยที่ยังไม่ได้เห็นหน้าเขาในขณะที่เขาเองก็ยัง คงกอดฉันอยู่
 
 
 
      ตอนนี้มีคนมุงดูเหตุการณ์กันเต็มไปหมดจนทำให้ฉันทำด้วยไม่ถูกกับ สถานการณ์อุบัติเหตุนี้ ฉันตกใจจนเบิกตากว้าง เพราด้วยสายตาที่สังเกตสีผมของคนที่กำลังกอดฉันอยู่!
 
 
 
       ขะ...เขา! ผมสีส้มนี้ฉันนี่แหละจำมันได้ดี!
 
 
 
       ทะ...โทโมะ 
 
 
 
“...”
 
 
 
เฮือก...
 
 
 
ตึกตักๆๆๆๆ
 
 
 
       ฉันตกใจและหัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าเดิมเมื่อโทโมะเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอของ ฉัน  และฉันก็เบิกตากว้างเมื่อใบหน้าของเรานั้นอยู่ใกล้กันมากๆจนปลายจมูกของเขา เฉียดแก้มฉันไปนิดเดียวในจังหวะที่เขากำลังละใบหน้ากับตัวของเขาออกไปจากตัว ฉัน
 
 
 
       และตอนนั้นเองฟางที่ตกใจกับเหตุการณ์นั้นก็รีบวิ่งมาดูฉันทันทีเมื่อโทโมะลุก ขึ้นไปจากตัวฉันแล้ว...
 
 
       เขาไม่ได้มองมาที่ฉันเลย...
 
 
      โทโมะไม่พูดไม่สนใจอะไรใดๆทั้งสิ้นกับคนที่มุงดูเหตุการณ์นี้ 
 
 
“แก้ว! แกเป็นไงบ้างเนี่ย? เจ็บตรงไหนมั้ย? ”
 
 
“แก้วเป็นอะไรมากมั้ย?”
 
 
      และเมื่อฉันได้สติขึ้นมาก็ละสายตาจากโทโมะแล้วก็หันไปส่ายหน้าให้ฟางกับมิณท์ที่นั่งย่อตัวลงแล้วดูว่ามีแผลอะไรตรงไหนมั้ย?
 
 
      ฟางกับมิณท์ค่อยๆพยุงฉันขึ้นในขณะที่สายตาของฉันสังเกตเห็นว่า...จองเบก็ค่อยๆพยุงร่างของคลอรีนขึ้นเหมือนกัน!
 
 
       และคลอรีนก็รีบผละตัวออกจากจองเบทันที ฉันเห็นคลอรีนกับจองเบมองหน้ากันในความหมายที่ยากจะคาดเดาแล้วคลอรีนก็รีบเดิน ฝ่าเหล่านักเรียนที่มุงดูออกไปทันที
 
 
       สถานการณ์แบบนี้คนที่ไม่รู้ก็คงจะคิดว่าจองเบแค่เห็นผู้หญิงเจ็บตัวไม่ได้เลย เข้ามาช่วยคลอรีนเอาไว้ไม่ให้บาดเจ็บ แต่คนที่รู้เรื่องอย่างฉันน่ะรู้เหตุผลของจองเบได้ทันทีว่าเขาคอยเฝ้ามอง คลอรีนอยู่ใกล้ๆ ไม่อย่างงั้นจะเข้ามาช่วยทันได้ยังไงกัน
 
 
       เอ...แต่เดี๋ยวนะ!
 
 
      ถ้าจองเบคอยมองคลอรีนอยู่ใกล้ๆจนมาช่วยทัน...แล้วโทโมะล่ะ?!
 
 
      ก็...ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเดินผ่านกลุ่มเคโอติคฉันเห็นแว๊บๆว่าเขายังนั่งทาสีตัวอักษรไม้อยู่เลยนี่นา? แล้วเขาวิ่งมาช่วยฉันทันได้ยังไงกัน!?
 
 
      หรือว่า...ไม่นะ! ไม่นะๆๆๆๆๆๆๆ อย่าคิดสิๆๆๆๆๆ >O<!!!!!
 
 
“โทโมะมาช่วยแก้วด้วยอ่ะแก๊สองคนนี้ต้องมีซัมธิงแน่ๆเลยฉันว่า”
 
 
“นี่! ถ้าโทโมะมาช่วยแก้วเพราะมีซัมธิง จองเบที่มาช่วยคลอรีนก็ต้องมีซัมธิงกันด้วยสิวะ = =;;; ”
 
 
 “จองเบกับคลอรีนน่ะเป็นไปไม่ได้หรอกแกที่จะมีซัมธิงอ่ะ >O<! แล้วตอนนั้นแก้วก็โดนพิมพ์ตบที่โรงอาหารเพราะรูปที่เดินจับมือกับโทโมะนะ”
 
 
“เออว่ะ ลืมคิดไปเลยอ่ะ โหยนี่! แล้วถ้าพวกนั้นรู้ว่าโทโมะมาช่วยแก้วในสภาพล่อแหลมแบบนี้แล้วยัยแก้วจะโดนอีกแค่ไหนวะเนี่ยไม่อยากจะนึกสภาพเลยบ่องตง!”  
 
 
“นั่นดิ”
 
 
       น้ำ เสียงซุบซิบที่เหมือนจงใจจะให้ฉันได้ยินตอนเดินผ่านพวกนั้น ทำให้หัวใจฉันเต้นตึกตักขึ้นมาเพราะความกังวลว่าจะโดนพวกพิมพ์หาเรื่องอีก ฟางคงจะรู้แหละว่าฉันออกกลัวๆ เลยหันมายิ้มบางๆให้กำลังใจ ในขณะที่มิณท์เองก็คอยบอกขอทางให้ฉันเดินได้สะดวก
 
 
“ขอทางหน่อยครับๆ”
 
 
ชิ้งค์!
 
 
กึก
 
 
“...”
 
 
        ไม่ รู้เพราะว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ฉันหยุดเดินขึ้นมาอย่างฉับพลันแล้วหันไปมอง ที่จุดเกิดเหตุเมื่อกี้นี้  และพอหันไปเท่านั้นแหละฉันเห็นเลยว่า...โทโมะกำลังมองมาตรงๆด้วยสายตานิ่งๆที่ สามารถทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆได้เลย พอโทโมะเห็นว่าฉันมองอยู่เหมือนกันเขาก็เมินหน้าไปทางอื่นก่อนที่จะเดินฝ่าวง ล้อมสาวๆที่ยืนล้อมรอบไปหาพวกเคโอติค
 
 
“มองไรวะแก้ว?” ฟางถามและฉันก็ได้สติขึ้น
 
 
“ปะ...ปล่าว ว่าแต่คลอรีนไปไหนแล้วล่ะ เธอบาดเจ็บมั้ย?”
 
 
       เมื่อฉันนึกขึ้นได้ว่าคลอรีนท่าทางจะโดนเยอะกว่าฉันเลยถามขึ้น เพราะองศาการหันตอนที่ซุ้มดอกไม้จะล้มมันจะหันไปทางคลอรีนมากกว่าน่ะสิ
 
 
       และถ้าเธอโดนตัวน็อตของซุ้มเข้าล่ะก็ มันขูดจนเลือดออกแน่ๆฉันว่า
 
 
“เห็นว่าเดินออกไปจากโรงยิมเมื่อกี้น่ะ สงสัยโดนน็อตขูดมั้ง เพราะที่มือมีเลือดด้วยตอนที่ลุกขึ้นมา”
 
 
“เฮ้ย งั้นเราไปดูเธอหน่อยมั้ย?”
 
 
“ไม่ต้องหรอก...” ฟางบอกเมื่อเห็นว่าฉันดูเป็นห่วงคลอรีน “มีคน‘แอบตาม’ไปดูแล้ว...”
 
 
       และคำพูดนั้นก็ทำให้ฉันเข้าใจเลยทันทีว่า‘ใคร’แอบตามไปดูคลอรีน...
 
 
“แก้ว ขาแก้วเลือดออกนี่?”
 
 
       มิณท์พูดขึ้นและนั่นทำให้ฉันรีบก้มลงดูขาตัวเองว่ามันถลอกจนเลือดออกเลย แต่นี่ดีนะที่ไม่ถลอกซ้ำตรงแผลเก่าที่พิมพ์เคยผลักฉันล้มตอนนั้นเพราะว่าอัน นี้มันถลอกตรงข้างๆหัวเข่า แต่ถ้าถลอกตรงหัวเข่าที่เดิมคงเป็นรอยแผลเป็นแน่ๆ
 
 
 
       เออโอเค๊ ฉันมัวแต่ไปสนใจคนอื่นมากกว่าที่จะสนใจตัวเอง มัวแต่ไปห่วงคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองก็เจ็บ...
 
 
      เฮ้อ...แต่คิดๆไปแล้วฉันเองก็ใจไม่ดียังไงไม่รู้สิที่มันเกิด เหตุการณ์นี้ขึ้น แถมโทโมะเป็นคนมาช่วยไว้อีก ไม่ใช่ว่าเสียใจที่เขามาช่วยนะ แต่อยากขอบคุณเขาเสียด้วยซ้ำไป
 
 
       แต่ว่า...คุณก็รู้ว่าปัญหาอะไรจะตามมารังควานฉันอีก ทั้งแฟนคลับเขาเอย  ทั้งพวกพิมพ์เอย ฉันว่าฉันคงโดนแขวะเวลาที่ไปไหนคนเดียวในโรงเรียนแน่ๆ  
 
 
       ขนาดครั้งนั้นที่ฉันโดนพิมพ์ตบและประจานในสิ่งที่ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด พวกสาวๆทั้งรุ่นน้องแล้วก็รุ่นพี่ยังมองฉันตาขวางๆเลย เพื่อนในห้องบางคนก็เหมือนกันแต่พวกนั้นจะแค่จิกเฉยๆไม่ได้อะไรมาก
 
 
       แต่ฉันก็ยังกลัวอยู่ดี...
 
 
 
ตอนพิเศษ
 
 
[ คลอรีน & จองเบ ]    
 
 
ห้องน้ำหญิง
 
 
ซ่า...
 
 
“ซี๊ด...”
 
 
       เสียง ร้องเบาๆร้องออกมาเพราะความแสบจากแผลที่ข้อมือของคลอรีน ทำให้เธอต้องค่อยๆล้างแผลนั้นให้เบามือลงกว่าเดิม จากเลือดที่กำลังไหลออกมา ก็มากอยู่พอสมควร
 
 
        ใบหน้าของเธอแสดงความแสบและเจ็บผ่านทางกระจกบานใหญ่ของห้องน้ำหญิงที่ไม่มี ใครอยู่นอกจากเธอ และ...‘ใครอีกคน’ที่ กำลังยืนพิงขอบประตูห้องน้ำหญิงแล้วมองมาที่คลอรีนนิ่งๆ คลอรีนเองก็ไม่ได้รู้ตัวอะไรเลยจนกระทั่ง เธอก้มลงล้างหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมาเจอ‘เขา’
 
 
       ผู้ชายที่มีนามว่า...จองเบ แห่งกลุ่มเคโอติค
 
 
ขวับ!
 
 
       คลอรีนเธอดูตกใจที่เห็นจองเบยืนพิงประตูมองดูเธออยู่พอเธอหันมาหน้าตาที่ดูเหมือนว่าตกใจนิดๆ ก็กลับมาอยู่ในโหมดปกติทันทีทันใด
 
 
“...เจ็บมากมั้ย...” จองเบถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบแต่แฝงด้วยความเป็นห่วงอยู่ลึกๆ
 
 
“...” คลอรีนมองหน้าจองเบนิ่งๆ แต่เธอก็ไม่ยอมตอบ แต่แค่ถามกลับไป “มาทำอะไรที่ห้องน้ำหญิง”
 
 
       เธอเมินหน้าไปทางอื่นแล้วถามด้วยน้ำเสียงเฉยชาและดูไม่อะไร...
 
 
       ตามจริง...ทั้งสองคนไม่ควรมีความรู้สึกอึดอัดใจแบบนี้ต่อกัน แต่เพราะมี ‘อะไร’ หลายๆอย่างที่ทำให้มันต้องเป็นแบบนี้ 
 
 
“เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน”
 
 
“ไม่จำเป็นต้องตอบ”
 
 
       คำ พูดที่เย็นชาแต่เฉียบขาดของคลอรีนทำให้อีกฝ่ายถึงกับถอนหายใจด้วยความรู้สึก อึดอัดก่อนที่เขาจะปิดประตูห้องน้ำแล้วล็อคลูกบิดประตูก่อนจะเดินตรงก้าวมา หาคลอรีนช้าๆ คลอรีนที่เห็นว่าท่าไม่ดีจึงค่อยๆเดินถอยหลัง
 
 
       แต่ว่าสุดท้าย...ต้องมาติดกับอ้างล้างมือที่ทำให้ฉันเธอไร้ทางหลบหลีกจากจองเบ
 
 
      และเมื่อเห็นว่าจองเบกำลังเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วคลอรีนก็ทำท่าว่าจะปลีกตัวออกไปแต่ทว่า...
 
 
หมับ!
 
 
“ทำไม!”คลอรีนสะดุ้งเมื่อจองเบคว้ามือของเธอให้กลับไปยืนที่เดิมแล้วพูดเสียงดังใส่อย่างหงุดหงิด
 
 
“...”
 
 
“ฉันถาม...ว่า...ทำ-ไม”
 
 
“ปล่อย”
 
 
       คลอรีน พูดอย่างไม่ใส่ใจในขณะที่กำลังสะบัดข้อมือให้หลุดออกจะข้อมือของจองเบ แต่มันก็ไม่เป็นผลใดๆเลย เพราะยิ่งคลอรีนพยายามแกะมือออกจองเบก็ยิ่งบีบข้อมือของคลอรีนให้แน่นขึ้นราว กับว่าไม่อยากปล่อยเธอไป...
 
 
“ตอบฉัน”
 
 
“ปล่อยนะฉันเจ็บ!” คลอรีน พูดแล้วแสดงสีหน้าที่เจ็บปวดออกมาเพราะว่าข้อมือที่จองเบจับอยู่เป็นข้อมือที่ เธอเป็นแผล และยิ่งจองเบบีบข้อมือนั้นเลือดมันก็ไหลออกมาอีก
 
 
       และมันเจ็บ...แต่เจ็บน้อยกว่าความรุ้สึกของจองเบกับคลอรีนในตอนนี้
 
 
“ทำไมต้องทำแบบนี้...ทำไมเหรอคลอรีน”
 
 
       คำถามนั้นของจองเบคงไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องแผลแล้วแน่ๆ เพราะสายตาที่เขามองคลอรีนนั้นเต็มไปด้วยความหม่นหมอง ซึ่งต่างจาก‘เมื่อก่อน’ที่เขากับเธอเคยยิ้มด้วยกัน...เคยหัวเราะด้วยกัน...แต่ทำไมตอนนี้...มันถึง...
 
 
“ฉันทำอะไร”
 
 
      คลอรีนถามไปทั้งๆที่ในใจเธอก็รู้คำตอบดีว่าทำไม...
 
 
      ไม่ใช่ว่าเธออยากจะผลักไสจองเบทั้งๆที่รักเขามาก  รักมาก...แต่เธอเลือกที่จะบอกเลิกเขา แต่เหตุผลที่บอกเลิกนั้นไม่ใช่เพราะโทโมะ...ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นนักเรียนดี เด่น และไม่ใช่เพราะว่าจองเบมีผู้หญิงควงทุกวันในขณะที่กำลังคบกับเธอ เพราะเธอรู้ดีว่านั่นคือข้อตกลงเพื่อที่จะไม่ให้ใครสงสัยในเรื่องของเธอกับ จองเบในตอนที่คบกันแบบเสี่ยงๆ
 
 
       เลยให้จองเบแกล้งหลอกคนอื่นๆว่าเขากำลังคบเล่นๆกับคนอื่นอยู่ที่ไม่ใช่เธอ...
 
 
       คนที่เสนอเหตุผลข้อนี้ก็คือ...จองเบ เพราะว่าคลอรีนเป็นนักดีเด่นมาตั้งแต่ ม.1 ถ้ามีข่าวเรื่องแฟน เธอก็จะถูกปลดออกจากตำแหน่งและมันจะทำให้คลอรีนถูกพูดในทางไม่ดีได้ ซึ่งตัวจองเบไม่ต้องการให้คลอรีนโดนแบบนั้น
 
 
“ฉันอยากรู้เหตุผลที่เธอบอกเลิกฉัน” จองเบพูดตรงๆแล้วปล่อยมือของคลอรีนออก แต่เขาไม่ยอมให้เธอไปง่ายๆหรอกจึงใช้มือทั้งสองข้างตรึงไว้กับอ่างล้างหน้า
 
 
       และนั่นก็ทำให้เขากับคลอรีนตัวติดกันจนแมลงยังบินผ่านไม่ได้ คลอรีนก็พยายามเมินหน้าไปทางอื่นแต่ก็ถูกจองเบดักเอาไว้จนเธอจนมุมจนได้!
 
 
“...”
 
 
“ตอบสิ...” ริมฝีปากที่เริ่มจะโดนกันเพราะจองเบโน้มหน้าลงมาถามกระซิบเบาๆ เมื่อคลอรีนหันหน้าหนีเขาก็เลื่อนหน้าไปใกล้ๆเธออีก “...คลอรีน...”  
 
 
“ออกไป”
 
 
“...”
 
 
       คำ พูดสั้นๆกับสายตาที่ไม่ได้มองมาทางจองเบมันทำให้จองเบรู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก เขาเงียบโดยไม่พูดอะไรอีกนอกจากผละตัวออกจากคลอรีนไป แต่สิ่งที่เขาทำต่อจากนี้มันทำให้คลอรีนถึงกับตกใจ
 
 
“โธ่เว้ย!!”
 
 
ตุ้บ!
 
 
“...!”
 
 
       คลอรีน เบิกตาโพลงเพราะไม่คิดว่าจองเบจะง้างหมัดชกใส่กำแพงด้วยความโมโห จองเบถอนหายใจออกมาแรงๆ แต่เขาไม่ได้มองมือของตัวเองที่มีเลือดหยดออกมาจากหมัดเมื่อกี้ที่เขาชกใส่ กำแพง
 
 
ปึง!
 
 
“...”
 
 
       จิองเบเดินออกไปจากห้องน้ำหญิงแล้วทิ้งให้คลอรีนอยู่กับความเงียบงันและเสียง ประตูที่จองเบปิดใส่อย่างดังเมื่อกี้นี้ แล้วจู่ๆบนใบหน้าของคลอรีนก็เริ่มมีน้ำใสๆเอ่อล้นที่บริเวรขอบตาและในที่ สุด...น้ำตานั้นมันไหลลงบนแก้มขาวๆของเธอในทันที  
 
 
 
“อ้าว! ใครปิดประตูห้องน้ำเนี่ย?”
 
 
กึก!
 
 
“!!!”
 
 
       คลอรีน ตกใจที่ได้ยินผู้หญิงที่กำลังจะมาเข้าห้องน้ำพูดขึ้น เธอไม่ทันได้ตั้งตัวจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในตัวห้องน้ำห้องเล็กๆห้องใด ห้องหนึ่ง เธอจัดการล็อกประตูก่อนจะนั่งลงบนชักโครกพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากลงมาจาก เหตุการณ์เมื่อกี้อย่างทนเก็บเอาไว้ไม่ไหว
 
 
       เมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันซึ่งคาดว่าพวกนั้นน่าจะเดินเข้าห้องน้ำมาทำ ให้คลอรีนต้องยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองเพื่อปิดเสียงสูดหายใจแรงๆจากการ ร้องไห้อยู่ และตอนนี้เธอกำลังสะอื้นขึ้นมา แต่เธอก็ต้องพยายามควบคุมไม่ให้เสียงมันดัง
 
 
“อึก...”
 
 
       เหตุผลที่เธอร้องก็คงจะเจ็บพอๆกับจองเบนั่นแหละ ใช่! เธอเสียใจที่เย็นชาใส่เขาแบบนั้น  และเธอก็เสียใจในอีกหลายๆเรื่องที่เธอไม่สามารถที่จะบอกกับเขาได้ตรงๆ
 
 
        แต่คลอรีนคงไม่รู้หรอกว่า...
 
 
       ที่จองเบได้ชกกำแพงไม่เมื่อกี๊ไม่ใช่เพราะความโมโหที่คลอรีนไม่ยอมตอบ เขา  แต่เป็นเพราะเขาเห็นคนที่เขารักเจ็บอยู่แล้ว และเขาก็ทำเธอเจ็บซ้ำจนเลือดออกมาอีกที่ข้อมืออีกครั้ง จองเบเขาคงไม่ยอมให้คนที่เขารักต้องเจ็บตัวคนเดียวหรอก
 
 
       เพราะ ‘สัญญาก็คือสัญญา...หากฉันทำเธอเจ็บ...ฉันก็ต้องเจ็บไปกับเธอ’
 
 
       คำสัญญานั้นยังคงอยู่และไม่มีวันลืม...ถึงแม้ว่าจองเบยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมคลอรีนถึงบอก เลิกเขา แต่เขาก็ยังรัก ยังห่วง อยู่ตลอดเวลา...ถึงแม้ เขาจะคิดว่าคลอรีนอาจไม่รักเขาแล้วก็ตาม...
 
____________________________________________________
อัพแล้วนะ ขอโทษที่อัพช้าพอดีไรต์ไป รร มา ยังไงก็ช่วยเม้นโหวตเยอะๆนะ^^
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา