Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา
9.6
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.
43 chapter
860 วิจารณ์
67.55K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
15) - Fang & Poppy - ( ฟางและป๊อปปี้ )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- Fang & Poppy -
( ฟางและป๊อปปี้ )
หลายวันต่อมา...
วันศุกร์
“โอย...”
ฉัน ค่อยๆลืมตื่นพร้อมกับต้องเอามือยกขึ้นมาบังแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอน ในยามเช้าที่ฉันอยู่บ้านคนเดียวในวันธรรมดาที่ตามจริงฉันควรจะต้องไป โรงเรียนแต่ฉันไม่สามารถที่จะหอบร่างกายอันอ่อนล้านี้ไปได้เพราะอะไรน่ะเหรอ?
เพราะว่าฉันคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังป่วยเป็นโรค‘ทับระดู’เพราะ ตัวเองกำลังมีประจำเดือน ตั้งแต่วันจันทร์ฉันก็ขี่จักรยานไปโรงเรียนและเรียนตามปกติกะว่าจะหาทางเอา รูปของจองเบไปคือแต่ก็ไม่เจอเขาเลย
และถึงจะเจอเขาก็อยู่กับกลุ่มพวกเคโอติค...
อ้อ! แล้ว ฉันกับโทโมะตอนนี้ก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลยนะและมันก็เหมือนกับช่วงแรกๆที่เจอก็คือเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยหมอนั่นเวลาที่บังเอิญเจอฉันเขาก็ชอบทำเมินใส่ ตามแบบฉบับเดิมแถมบางทีก็มองจิก
ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรของเขา =[]=;;;
เมื่อวานฉันได้ฝากรูปจองเบไว้กับฟางเพราะว่าฉันลาหยุดหนึ่งวัน นี่ดีนะที่เป็นโรคนี้ตอนที่พ่อไม่อยู่บ้านกับพิชชี่ 3 วัน ( พ่อไปเข้าค่ายสร้างสัมพันธ์กับลูกกับทางโรงเรียน 3 วันน่ะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ท่านเพิ่งออกเดินทางเมื่อวาน ) เมื่อวานฉันพยายามปรับสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติเพื่อพ่อจะได้ไม่ต้องเป็น ห่วง
ท่านไม่รู้หรอกว่าฉันป่วยและก็ไม่รู้ด้วยว่าฉันลาหยุดเรียน เฮ้อ...และฉันก็หวังว่าฉันจะหายก่อนที่พ่อกลับมาบ้านนะ และก็หวังด้วยว่าฟางคงจะหาทางคืนรูปให้จองเบได้สำเร็จ
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...
“ฮึบ” เมื่อ ได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ฉันจึงดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาพิงหัวเตียงก่อนจะ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะวางโคมไฟข้างเตียง
+ Fang +
ติ๊ด!
“ฮัลโหล”ฉันกดรับสายด้วยเสียงที่อ่อนล้า
[ ฮัลโหล แกเป็นไงบ้างเนี่ย? เย็นนี้ให้ฉันพาไปหาหมอมั้ย? ] ฟางถามขึ้นทันทีอย่างเป็นห่วง
แต่ว่า...ไปหาหมอเหรอ?
ไม่เอาอ่ะ! ><! เกิดมาฉันไม่ชอบการไปหาหมอมากที่สุดในสามโลกเลย Y_Y ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมาตอนที่หมอจับฉีดยาตอนเด็กอยู่แล้วแต่ก็ข่มเอาไว้ได้
แต่ถึงยังไงซะ! ฉันก็ไม่ไปเด็ดขาดดดดดดดด >O<!!
“ไม่ๆๆ ฉันคิดว่าเดี๋ยวกินยาแก้ปวดซักหน่อยแล้วก็พักผ่อน ก็คงดีขึ้น” ฉันบอก
[ เฮ้ย เป็นโรคทับระดูเลยนะเว้ย ฉันเองก็เคยเป็นมันปวดท้องมากอ่ะ ต้องกินของอุ่นๆแต่ไม่ใช้น้ำร้อนนะเว้ย กินน้ำอุ่นแล้วก็พวกข้าวต้มไรงี้อ่ะ ]
“โอเค”
[ งั้น...เดี๋ยวเย็นนี้ฉันไปหาที่บ้านเอามั้ย?]
“ถ้ามาได้ก็มา” ฉันบอกฟางแล้วก่อนจะเอามืออีกข้างขึ้นมากุมขมับเพราะตอนนี้มันปวดตุ๋มๆต่อมๆเหมือนหัวกำลังจะระเบิดเลยแฮะ ฮือ ฮือ Y_Y “แล้วนี่...เจอจองเบรึยังอ่ะ”ฉันถาม
[ ยังเลยแต่ถ้าเจอแบบอยู่คนเดียวฉันต้องรีบเอาไปคืนแน่นอน ^O^//]
“อืม ขอบใจนะ”
[ โอเค งั้นฉันไม่กวนและ เดี๋ยวมีงานอะไรจะโทรบอก ]
“จ้า”
ติ๊ด!
และ หลังจากที่ฉันกดวางสายฉันก็รู้สึกว่าท้องมันเริ่มจะปวดขึ้นมาอีกแล้วจากที่ เมื่อวานก็ปวดฉันคิดว่าหิวพอไปกินข้าวก็ปวดอีก เฮ้อ...โรคทับระดูนี่มันทรมานจริงๆนะเนี่ยY_Y
“แฮ่กๆๆ” ไข้ที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อวานมันทำให้ฉันแทบไม่อยากจะลุกจากเตียงเลยแต่ก็ต้องพยายาม
สาธุขอให้โรคนี้หายก่อนพ่อกลับหรือไม่ก็ให้ไข้เบาลงพอให้ฉันไปโรงเรียนได้ ด้วยเถอะนะ เพี้ยง!!!!
[ บันทึกพิเศษ : ฟาง ]
โรงเรียน
พักกลางวัน
“เฮ้อ...”
วันนี้ ‘ฟาง’ คนนี้เหงาเป็นพิเศษคร้าบบบบบบบทุกท่านนนนนนนน YOY!!!!!
เพราะ ว่าเพื่อนรักป่วยไม่มาโรงเรียนทำให้ฉันต้องมานั่งเหงาหงอยอยู่คนเดียวแบบนี้ ที่ระเบียงหน้าห้องของตัวเองในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นก็ลงไปพักกลางวันกันจนหมด แล้วบนตึกนี้ก็เงียบและก็ไม่มีใครอยู่ด้วย
เอ...คิดแล้วก็เป็นห่วงแก้วนะเห็นว่าอยู่บ้านคนเดียวด้วยเพราะเมื่อวานคุยกันว่าพ่อเธอไปเข้าค่ายผู้ปกครองกับลูกสร้างสัมพันธ์อะไรก็ไม่รู้ พอไปปุ๊บ! แก้วป่วยเป็นโรคทับระดูซะงั้น? ตามจริงอาการมันออกตั้งแต่เมื่อวานละว่าแก้วปวดตรงท้องน้อยแล้วตัวก็อุ่นๆด้วย ก็เลยรีบพาไปเขียนไปลาไว้ก่อนเลย
นี่ดีนะที่เป็นวันศุกร์พอดีเพราะถ้าเป็นวันจันทร์คงต้องลายาวเลยอ่ะ =[]=!
“เฮ้อ...ไม่เจอแล้วจะเอารูปคืนยังไงวะเนี่ย”
ฉันหยิบรูปของจองเบกับคลอรีนขึ้นมาดูแต่ทว่าจังหวะที่เงยหน้าจากรูปขึ้นมาสายตาอันเฉี่ยวคมสมเป็นเหยี่ยว =[]=;;;; ของฉันก็ดันไปเห็นว่าจองเบที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดมากำลังเดินมาทางนี้ เขามองฉันเพียงแว๊บเดียวก่อนที่จะเดินสาวเท้าเข้าห้องไป
เขามาคนเดียว????
งั้น...ตอนนี้ล่ะ! o(><)o!!!
เมื่อฉันได้โอกาสที่คิดว่าคงไม่มีใครในเคโอติคเดินตามจองเบขึ้นมา ( เพราะไม่ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกที่เหลือ ) ฉันจึงรีบใช้โอกาสนี้ที่จะคืนรูปของจองเบและอธิบายให้เขาฟังว่าแก้วเป็นคนเจอ รู้นี้ตกไว้
ฉันลุกขึ้นแล้วเดินย่องๆไปที่ห้อง ม.5/7 ที่อยู่ถัดไปจากห้อง ม.5/2 เดินๆไปในใจก็คิดว่าจองเบจะแสดงอาการยังไงถ้าเขารู้ว่าฉันกับแก้วรู้ ‘ความลับ’ ของเขา
“ฮืม...” เสียงถอนหายใจของจองเบทำให้ฉันต้องแอบมองเขาก่อนจากประตูหลังห้อง ม.5/7
ตอนนี้จองเบกำลังนั่งอยู่โต๊ะที่ติดกับขอบหน้าต่างของเขาแล้วกดเลื่อนโทรศัพท์ มือถือในมือเหมือนว่าเขากำลังเช็คอะไรอยู่ แต่ฉันจำเป็นต้องรีบคืนของฉันจึงค่อยๆย่างก้าวเข้าไปในห้องเรียนที่ไม่เคย คิดอยากจะเหยียบย่ำเข้ามาเล้ยยยยยยยย >O<!
จำได้เลยตอนมาช่วยยกของให้อาจารย์ตอน ม. 4 ห้องนี้ฉันโดนพวกเคโอติคล้อแซวๆฉันกับไอ้บ้านั่น! ( ป๊อปปี้นั่นแหละ =;;= ) อึ๋ยยย คิดแล้วเจ็บใจนักเชียว!
“อะ...เฮ้...นาย”
“...”
จองเบเหมือนจะตกใจหน่อยๆที่มีคนทักขึ้นมาเขารีบเก็บโทรศัพท์ลงใต้โต๊ะก่อนจะ หันมามองฉันแล้วเลิกคิ้วสงสัยว่าฉันมาทำอะไรที่นี่? เพราะปกติฉันก็ไม่เคยที่จะเข้ามาอยู่แล้วถ้าอาจารย์ไม่สั่งให้มาเอาโน่นนี่นั่นและอีกบลาๆๆ
“ไม่น่าเชื่อนะว่า‘ฟาง’ จะเหยียบเข้ามาในห้อง ม.5/7 ^^”
จองเบนี่เห็นเงียบๆออกแนวสุภ๊าพพพพพพพสุภาพที่สุด! ในเคโอติคนี่ตามจริงก็เกรียนใช่ย่อยนะเพียงแค่ไม่เผยทาสแท้เท่านั้นเอ๊ง! ><!
“ว่าแต่...เธอมีอะไรรึปล่าว?”
“ฉัน...”
ฉันพูดแล้วกำลังจะล้วงเอารูปจากกระเป๋าเสื้อสูทจองเบก็พูดแซวขึ้น!
“มาหาป๊อปปี้?”
“ไม่ใช่! ><!” ฉันเถียงอย่างทันท่วงที
‘มาหาป๊อปปี้?’ อ๊ากกกกกกกกกกกก คิดออกมาได้เยี่ยงไรก๊านนนนนนนนน หมอนั่นแค่เดินเฉียดฉันยังไม่อยากเลย! หน้าตาก็ดีแต่นิสัยกวนประสาทฉันก็ไม่อยากจะพบจะเจอด้วยหรอกจะบอกให้! >O<!!!
“ฮ่าๆๆ เธอเนี่ยนะ” จองเบหัวเราะออกมาแล้วถามอีกรอบ “แล้วสรุปมามีอะไรอ่ะ”
“คือ...ฉันเอาของๆนายมาคืน” ฉันพูดไปตรงๆอย่างไม่ติดขัดแล้วยื่นรูปถ่ายนั้นให้กับจองเบ
ดูเหมือนจองเบจะตกใจไม่น้อยเลยที่เขาเห็นภาพนั้น เขานิ่งไปพร้อมกับลุกขึ้นยืนช้าๆสายตาอันแหลมคมมองจ้องที่รูปภาพนั้นก่อนที่ เขาจะรับมันไปจากมือของฉัน
จองเบเงยหน้าจากรูปขึ้นมามองฉันแล้วเหมือนกับจะเอ่ยปากถามว่าฉันไป เจอรูปนี้มาได้ยังไงฉันก็เลยชิงพูดขึ้นก่อน
“วัน เสาร์ที่นายมาโรงเรียนแล้วเจอแก้วนายคงบังเอิญทำตกเอาไว้แก้วเลยเก็บไว้ ให้ เธอพยายามจะหาทางคืนรูปนี้ให้นายตัวต่อตัวแต่ก็ไม่โอกาส และวันนี้เธอป่วยเลยฝากรูปนี้ไว้กับฉันเผื่อว่าฉันเจอนายตอนอยู่คนเดียวพอดี จะได้คืนให้” ฉันพูดสรุปจองเบก็พยักหน้าเบาๆ
“งั้นสรุปว่าพวกเธอสองคนก็...รู้เรื่องฉันกับ...แล้วสินะ” จองเบพูดแล้วใช้นิ้วของเขาถูกจมูกของตัวเองไปมา
เอ...แปลก! ท่าทางแบบนี้อย่างกับพยายามจะลืมคลอรีนหรือยังไงกันเนี่ย?
ไม่คิดจะพูดแม้แต่ชื่อของคลอรีนเลยเหรอ?
งั้นแสดงว่าสองคนนี้คงจบแบบค้างคาแน่นอนอ่ะ ชัวปาบ
“ฉัน รู้แค่กับแก้วเท่านั้นและไม่คิดจะเอาไปบอกใครด้วยนายวางใจได้เลย เพราะว่าถ้านายกับคลอรีนอยากให้เรื่องนี้มันเป็นความลับฉันก็จะไม่เข้าไป ยุ่งหรอกนะ” ฉันบอกแล้วมองจองเบตรงๆเพื่อให้เขาเชื่อใจ
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก โดยเฉพาะเพื่อนของเธอน่ะ” เขาพูดแล้วหยักยิ้มที่มุมปากหน่อยๆ
“เอ่อ...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่านายกับคลอรีนไปคบกันตอนไหนแล้วเลิกกันเพราะอะไร ”
“...”
“แต่ ว่าที่ฉันจะบอกคือ...ถ้าเกิดนายยังรักคลอรีนอยู่ล่ะก็อย่ามาหลบๆซ่อนๆกับ คลอรีนแบบนี้เลย ฉันรู้นะว่านายพยายามตัดใจแต่ถ้ามันทำไม่ได้นายก็ควรจะสู้นะ”
“ขอบใจสำหรับคำแนะนำนะ และก็ฝากขอบคุณเพื่อนเธอด้วยที่เก็บรูปใบนี้เอาไว้ให้”
จองเบไม่ยอมรับว่าเขาจะเอายังไงแต่ก็พูดเหมือนว่าจะเก็บไปคิดดูเพียงแค่นั้น...
“อื้ม! แล้วจะบอกให้ ^^”
เมื่อภารกิจการส่งคืนของให้จองเบเสร็จสิ้นลงด้วยดีและราบรื่นฉันก็เดินออกมาจากห้อง ม.5/7 และก็กำลังจะเดินตรงไปนั่งเล่นในห้องเรียน ม.5/2 ของตัวเองเงียบๆ จู่ๆก็มี ‘เสียงเรียกจากนรก’ มาเรียกฉันเอาไว้เสียก่อน = =!!!
“นี่! ยัยฟางมัดข้าวววว! >O<!”
ถึงนั่นจะไม่ใช่ชื่อของฉันแต่ฉันก็รู้เลยว่าใครเรียก! ><!
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ไอ้บ้าป๊อปปี้อีกแล้วววววววววววววว >O<!!!!!!
ฉัน ทำเป็นไม่สนเสียงเรียกนั้นแล้วเดินเข้าห้องของตัวเองไป แต่ทว่าไอ้บ้านั่นก็เดินตามเข้ามาในห้องเรียนของฉันอย่างไวแล้วรีบมาดักหน้า ฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง
เฮ้ย! มาดักหน้ากันแบบนี้ถ้าหัวฉันชนอกนายทำไงฮะ!?
“มีอะไร - -?” ฉันถามตาลอย
“เมื่อกี๊เข้าไปในห้องเรียนพวกฉันทำม๊ะ?” หมอนั่นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นเป็นเชิงแต่ฉันก็แค่หยักไหล่ก่อนจะตอบไป
“แล้วมันเกี่ยวกับนายเหรอ ^^”
ฉันสาบาญได้นะว่านั่นคือคำตอบจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ^O^
“เกี่ยวสิ! ก็นั่นมันห้องเรียนฉัน >O<!” ป๊อปปี้พูดแล้วยืนเท้าสะเอว ( ? ) “รึว่า?! เธอแอบไปขโมยของ!”
“นี่! ถามหน่อยเหอะทุกๆวันนายกินไส้เดือนเป็นอาหารเหรอ? คิดอะไรบ้าๆบอๆ ” ฉันพูดใส่หน้าป๊อปปี้แล้วพยายามจะผลักหมอนี่ออก “ออกไปเลย! >O<!”
“ไม่ออกเฟ้ย! จนกว่าเธอจะพูดความจริงว่าไปทำอะไรในห้องของพวกฉัน!”
“ฉันจะทำอะไรจำเป็นต้องรายงานใครด้วย? นายเป็นใครกันมาสั่งให้ฉันบอกโน่นบอกนี่ฮะ? ไอ้ส้วมตัน!”
“เธอ!”
“ทำท่าทางเป็นคนเท่ห์นิสัยจริงๆอ่ะปากเสีย ฉันอยากจะรู้จริงล่ะว่าผู้หญิงพวกนั้นกล้าให้เบอร์โทรกับนายได้ไง”
“ก็ฉันหล่อ รวย ฉลาด เรียนเก่ง และมีดีอีกตั้งหลายอย่างผู้หญิงอย่างเธอจะไปรู้อะไร๊ ”
ตอบได้แบบไม่ค่อยเข้าข้างตัวเองเลยนะ! =[]=!!!!
“- -!”
“อีกอย่างนะ เธอหลงชอบฉันรึปล่าวยังไม่รู้เล้ย สายตาฉันก็ออกจะแวววาวแถม HOT! ขนาดนี้ ^^”
“=[]=;;;;”
เดี๋ยวขอคิดภาพแป๊ปนึงนะ...
เพียงแค่คิดสถาพว่าหมอนั่นส่งสายตาทำอะไรแบบนั้นให้แล้วฉันขนลุกเลยอ๊า>O<!
“อ๋องั้นเหรอ?” ฉันเบ้ปากใส่เขา “งั้นถ้านายฉลาดจริงๆก็น่าจะมีสมองคิดได้บ้างว่าไม่ควรมาถามเรื่องของคนอื่นเขา!”
จึก!!
“>O<!!!” >>>>> ป๊อปปี้
“ฉันเดินเข้าไปในห้องนายแล้วทำไม? มันติดป้ายเอาไว้เหรอว่า‘ห้ามเขา’”
“แล้วเธอเข้าไปทำไม? มีเหตุผลอะไรที่ต้องเข้าไป?”
“โอ๊ะ! ถามตื๊ออยู่ได้ น่ารำคาญ!”
เมื่อป๊อปปี้ยังตื๊อไม่เลิกจนฉันต้องพูดออกมาแล้วถอนหายใจแรงๆแล้วจ้องหน้าหมอนั่น ค้อนๆแบบไม่พอใจก่อนจะตัดสินใจหันหลังแล้วทำท่าว่าจะเดินออกไปจากห้องนี้
ได้! ถ้าหมอนั่นไม่ไปฉันไปเอง! ขี้เกียจโดนกวนประสาท! >O<!
พอจะก้าวขาออกจากประตูดูเหมือนว่าคำพูดต่อมาที่เอ่ยออกมาจากปากป๊อปปี้นั้นทำให้ฉันอยากจะตอบกลับมาก! จึงได้หยุดชะงักจากการเดินทันที! >O<!
“รึว่าคิดจะไปอ่อยไอ้จองเบ?”
กึก!
“...”
“เห๊อะ! ยัยฟางมัดข้าว เตี้ยแบบนี้ ไอ้จองเบมันไม่ชอบหร๊อก! อย่าหวังเล้ย! ”
แปะๆๆๆ
“ขอปรบมือให้กับความ...บ้องตื้น! คิดเอง! เออเอง! ของคนเสียสติจิตหลุดโลกที่สุดในกลุ่ม เค-โอ-ติค!”ฉันทำปรบมือกวนๆแล้วพูดย้ำทีละคำจนป๊อปปี้ถึงกับควันออกหู
เห๊อะ! หมอนี่ใช้สมองส่วนใหญ่มาคิดเนี่ยว่าฉันอ่อยจองเบ บ้าไปแล้ว!
“นี่ยัย...!!!!” หมอนั่นชี้หน้าฉัน
“อะไรๆๆๆๆๆๆๆ” ฉันพูดเร็วๆกวนประสาทแล้วยืนกอดอกอมยิ้มอย่างสะใจในขณะที่ป๊อปปี้เอาแต่กัดฟัน
“หน๋อย! ยัย...ยัยปากปลาร้าค้างปี >O<!”
“อุ๋ย! ด่าได้แค่นี้หรา? แหม๋ แหม๋ ไอ้เราก็นึกว่า...ปากจะเสียกว่านี้ซะอีก!”
“ยัย!!!!!!!!”
ฉัน หมุนตัวเดินออกมาจากห้องเรียนแล้วรีบเดินลงบันไดกะว่าไปนั่งเล่นข้างล่างจะ ดีกว่าเพราะขืนอยู่บนอาคารต่อหมอนั่นตามหาเรื่องอีกแน่ๆ รอให้ถึงเวลาเรียนแล้วค่อยขึ้นมาดีกว่า
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยยยยยยย สะใจจริงเจรงงงงงงงงงงง ( หัวเราะพร้อมกับเอามือตบๆปากด้วยความสะใจ คิ คิ )
คงสงสัยกันล่ะสิว่าฉันกับป๊อปปี้ทำไมถึงได้เกลียดขี้หน้ากันแบบนี้นะ?
จะ เล่าย่อๆให้ฟังว่าตั้งแต่ที่เข้า ม.1 มาเนี่ยชีวิตฉันไม่เคยปกติเวลาที่เจอป๊อปปีเล้ยยยยยยยย หมอนี่น่ะนิสัยเสียเอาตรงๆไม่รู้จักกันแล้วมาแกล้งมาแซวนู่นนี่ มันสมควร? ฉันคิดว่าตัวเองจะไม่โดนแล้วนะเพราะปกติก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับใครเขาอยู่แล้ว
แต่หมอนี่ก็ยังวกวนมาแซวมาแกล้งกันจนได้! >O<!
วันแรกที่ถูกหมอนั่นแกล้งฉันกับหมอนั่นก็มีเรื่องกันเลยทีเดียว ก็ดันบังอาจมาดึงเปียแกะของฉันน่ะสิ ดึงซะหัวแทบหลุด! ><! จากนั้นเราก็เริ่มทะเลาะกันจนเป็นเรื่องและด้วยความที่ฉันเป็นพวกความอดทน ต่ำจึงด่าหมอนั่นกระจุยกระจายต่อหน้านักเรียนคนอื่นๆแล้วก็ถีบตูดไอ้บ้าป๊อปปี้นกลิ้งเป็นลูกชิ้น@_@
และตั้งแต่วันนั้นฉันกับหมอนั่นก็กัด เอ้ย! ก็จะเหน็บแหนมกันแบบนี้เป็นประจำจนชินไปแล้ว แต่ก็ยังหมั่นไส้กันอยู่ดีและคงไม่มีท่าทีว่าจะมาญาติดีให้กันง่ายๆแน่ๆ
__________________________________________________
อัพแล้วนะค่ะ ถ้าเม้นเยอะๆจะอัพทุกวันนะ
( ฟางและป๊อปปี้ )
หลายวันต่อมา...
วันศุกร์
“โอย...”
ฉัน ค่อยๆลืมตื่นพร้อมกับต้องเอามือยกขึ้นมาบังแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอน ในยามเช้าที่ฉันอยู่บ้านคนเดียวในวันธรรมดาที่ตามจริงฉันควรจะต้องไป โรงเรียนแต่ฉันไม่สามารถที่จะหอบร่างกายอันอ่อนล้านี้ไปได้เพราะอะไรน่ะเหรอ?
เพราะว่าฉันคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังป่วยเป็นโรค‘ทับระดู’เพราะ ตัวเองกำลังมีประจำเดือน ตั้งแต่วันจันทร์ฉันก็ขี่จักรยานไปโรงเรียนและเรียนตามปกติกะว่าจะหาทางเอา รูปของจองเบไปคือแต่ก็ไม่เจอเขาเลย
และถึงจะเจอเขาก็อยู่กับกลุ่มพวกเคโอติค...
อ้อ! แล้ว ฉันกับโทโมะตอนนี้ก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลยนะและมันก็เหมือนกับช่วงแรกๆที่เจอก็คือเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยหมอนั่นเวลาที่บังเอิญเจอฉันเขาก็ชอบทำเมินใส่ ตามแบบฉบับเดิมแถมบางทีก็มองจิก
ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรของเขา =[]=;;;
เมื่อวานฉันได้ฝากรูปจองเบไว้กับฟางเพราะว่าฉันลาหยุดหนึ่งวัน นี่ดีนะที่เป็นโรคนี้ตอนที่พ่อไม่อยู่บ้านกับพิชชี่ 3 วัน ( พ่อไปเข้าค่ายสร้างสัมพันธ์กับลูกกับทางโรงเรียน 3 วันน่ะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ท่านเพิ่งออกเดินทางเมื่อวาน ) เมื่อวานฉันพยายามปรับสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติเพื่อพ่อจะได้ไม่ต้องเป็น ห่วง
ท่านไม่รู้หรอกว่าฉันป่วยและก็ไม่รู้ด้วยว่าฉันลาหยุดเรียน เฮ้อ...และฉันก็หวังว่าฉันจะหายก่อนที่พ่อกลับมาบ้านนะ และก็หวังด้วยว่าฟางคงจะหาทางคืนรูปให้จองเบได้สำเร็จ
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...
“ฮึบ” เมื่อ ได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ฉันจึงดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาพิงหัวเตียงก่อนจะ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะวางโคมไฟข้างเตียง
+ Fang +
ติ๊ด!
“ฮัลโหล”ฉันกดรับสายด้วยเสียงที่อ่อนล้า
[ ฮัลโหล แกเป็นไงบ้างเนี่ย? เย็นนี้ให้ฉันพาไปหาหมอมั้ย? ] ฟางถามขึ้นทันทีอย่างเป็นห่วง
แต่ว่า...ไปหาหมอเหรอ?
ไม่เอาอ่ะ! ><! เกิดมาฉันไม่ชอบการไปหาหมอมากที่สุดในสามโลกเลย Y_Y ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมาตอนที่หมอจับฉีดยาตอนเด็กอยู่แล้วแต่ก็ข่มเอาไว้ได้
แต่ถึงยังไงซะ! ฉันก็ไม่ไปเด็ดขาดดดดดดดด >O<!!
“ไม่ๆๆ ฉันคิดว่าเดี๋ยวกินยาแก้ปวดซักหน่อยแล้วก็พักผ่อน ก็คงดีขึ้น” ฉันบอก
[ เฮ้ย เป็นโรคทับระดูเลยนะเว้ย ฉันเองก็เคยเป็นมันปวดท้องมากอ่ะ ต้องกินของอุ่นๆแต่ไม่ใช้น้ำร้อนนะเว้ย กินน้ำอุ่นแล้วก็พวกข้าวต้มไรงี้อ่ะ ]
“โอเค”
[ งั้น...เดี๋ยวเย็นนี้ฉันไปหาที่บ้านเอามั้ย?]
“ถ้ามาได้ก็มา” ฉันบอกฟางแล้วก่อนจะเอามืออีกข้างขึ้นมากุมขมับเพราะตอนนี้มันปวดตุ๋มๆต่อมๆเหมือนหัวกำลังจะระเบิดเลยแฮะ ฮือ ฮือ Y_Y “แล้วนี่...เจอจองเบรึยังอ่ะ”ฉันถาม
[ ยังเลยแต่ถ้าเจอแบบอยู่คนเดียวฉันต้องรีบเอาไปคืนแน่นอน ^O^//]
“อืม ขอบใจนะ”
[ โอเค งั้นฉันไม่กวนและ เดี๋ยวมีงานอะไรจะโทรบอก ]
“จ้า”
ติ๊ด!
และ หลังจากที่ฉันกดวางสายฉันก็รู้สึกว่าท้องมันเริ่มจะปวดขึ้นมาอีกแล้วจากที่ เมื่อวานก็ปวดฉันคิดว่าหิวพอไปกินข้าวก็ปวดอีก เฮ้อ...โรคทับระดูนี่มันทรมานจริงๆนะเนี่ยY_Y
“แฮ่กๆๆ” ไข้ที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อวานมันทำให้ฉันแทบไม่อยากจะลุกจากเตียงเลยแต่ก็ต้องพยายาม
สาธุขอให้โรคนี้หายก่อนพ่อกลับหรือไม่ก็ให้ไข้เบาลงพอให้ฉันไปโรงเรียนได้ ด้วยเถอะนะ เพี้ยง!!!!
[ บันทึกพิเศษ : ฟาง ]
โรงเรียน
พักกลางวัน
“เฮ้อ...”
วันนี้ ‘ฟาง’ คนนี้เหงาเป็นพิเศษคร้าบบบบบบบทุกท่านนนนนนนน YOY!!!!!
เพราะ ว่าเพื่อนรักป่วยไม่มาโรงเรียนทำให้ฉันต้องมานั่งเหงาหงอยอยู่คนเดียวแบบนี้ ที่ระเบียงหน้าห้องของตัวเองในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นก็ลงไปพักกลางวันกันจนหมด แล้วบนตึกนี้ก็เงียบและก็ไม่มีใครอยู่ด้วย
เอ...คิดแล้วก็เป็นห่วงแก้วนะเห็นว่าอยู่บ้านคนเดียวด้วยเพราะเมื่อวานคุยกันว่าพ่อเธอไปเข้าค่ายผู้ปกครองกับลูกสร้างสัมพันธ์อะไรก็ไม่รู้ พอไปปุ๊บ! แก้วป่วยเป็นโรคทับระดูซะงั้น? ตามจริงอาการมันออกตั้งแต่เมื่อวานละว่าแก้วปวดตรงท้องน้อยแล้วตัวก็อุ่นๆด้วย ก็เลยรีบพาไปเขียนไปลาไว้ก่อนเลย
นี่ดีนะที่เป็นวันศุกร์พอดีเพราะถ้าเป็นวันจันทร์คงต้องลายาวเลยอ่ะ =[]=!
“เฮ้อ...ไม่เจอแล้วจะเอารูปคืนยังไงวะเนี่ย”
ฉันหยิบรูปของจองเบกับคลอรีนขึ้นมาดูแต่ทว่าจังหวะที่เงยหน้าจากรูปขึ้นมาสายตาอันเฉี่ยวคมสมเป็นเหยี่ยว =[]=;;;; ของฉันก็ดันไปเห็นว่าจองเบที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดมากำลังเดินมาทางนี้ เขามองฉันเพียงแว๊บเดียวก่อนที่จะเดินสาวเท้าเข้าห้องไป
เขามาคนเดียว????
งั้น...ตอนนี้ล่ะ! o(><)o!!!
เมื่อฉันได้โอกาสที่คิดว่าคงไม่มีใครในเคโอติคเดินตามจองเบขึ้นมา ( เพราะไม่ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกที่เหลือ ) ฉันจึงรีบใช้โอกาสนี้ที่จะคืนรูปของจองเบและอธิบายให้เขาฟังว่าแก้วเป็นคนเจอ รู้นี้ตกไว้
ฉันลุกขึ้นแล้วเดินย่องๆไปที่ห้อง ม.5/7 ที่อยู่ถัดไปจากห้อง ม.5/2 เดินๆไปในใจก็คิดว่าจองเบจะแสดงอาการยังไงถ้าเขารู้ว่าฉันกับแก้วรู้ ‘ความลับ’ ของเขา
“ฮืม...” เสียงถอนหายใจของจองเบทำให้ฉันต้องแอบมองเขาก่อนจากประตูหลังห้อง ม.5/7
ตอนนี้จองเบกำลังนั่งอยู่โต๊ะที่ติดกับขอบหน้าต่างของเขาแล้วกดเลื่อนโทรศัพท์ มือถือในมือเหมือนว่าเขากำลังเช็คอะไรอยู่ แต่ฉันจำเป็นต้องรีบคืนของฉันจึงค่อยๆย่างก้าวเข้าไปในห้องเรียนที่ไม่เคย คิดอยากจะเหยียบย่ำเข้ามาเล้ยยยยยยยย >O<!
จำได้เลยตอนมาช่วยยกของให้อาจารย์ตอน ม. 4 ห้องนี้ฉันโดนพวกเคโอติคล้อแซวๆฉันกับไอ้บ้านั่น! ( ป๊อปปี้นั่นแหละ =;;= ) อึ๋ยยย คิดแล้วเจ็บใจนักเชียว!
“อะ...เฮ้...นาย”
“...”
จองเบเหมือนจะตกใจหน่อยๆที่มีคนทักขึ้นมาเขารีบเก็บโทรศัพท์ลงใต้โต๊ะก่อนจะ หันมามองฉันแล้วเลิกคิ้วสงสัยว่าฉันมาทำอะไรที่นี่? เพราะปกติฉันก็ไม่เคยที่จะเข้ามาอยู่แล้วถ้าอาจารย์ไม่สั่งให้มาเอาโน่นนี่นั่นและอีกบลาๆๆ
“ไม่น่าเชื่อนะว่า‘ฟาง’ จะเหยียบเข้ามาในห้อง ม.5/7 ^^”
จองเบนี่เห็นเงียบๆออกแนวสุภ๊าพพพพพพพสุภาพที่สุด! ในเคโอติคนี่ตามจริงก็เกรียนใช่ย่อยนะเพียงแค่ไม่เผยทาสแท้เท่านั้นเอ๊ง! ><!
“ว่าแต่...เธอมีอะไรรึปล่าว?”
“ฉัน...”
ฉันพูดแล้วกำลังจะล้วงเอารูปจากกระเป๋าเสื้อสูทจองเบก็พูดแซวขึ้น!
“มาหาป๊อปปี้?”
“ไม่ใช่! ><!” ฉันเถียงอย่างทันท่วงที
‘มาหาป๊อปปี้?’ อ๊ากกกกกกกกกกกก คิดออกมาได้เยี่ยงไรก๊านนนนนนนนน หมอนั่นแค่เดินเฉียดฉันยังไม่อยากเลย! หน้าตาก็ดีแต่นิสัยกวนประสาทฉันก็ไม่อยากจะพบจะเจอด้วยหรอกจะบอกให้! >O<!!!
“ฮ่าๆๆ เธอเนี่ยนะ” จองเบหัวเราะออกมาแล้วถามอีกรอบ “แล้วสรุปมามีอะไรอ่ะ”
“คือ...ฉันเอาของๆนายมาคืน” ฉันพูดไปตรงๆอย่างไม่ติดขัดแล้วยื่นรูปถ่ายนั้นให้กับจองเบ
ดูเหมือนจองเบจะตกใจไม่น้อยเลยที่เขาเห็นภาพนั้น เขานิ่งไปพร้อมกับลุกขึ้นยืนช้าๆสายตาอันแหลมคมมองจ้องที่รูปภาพนั้นก่อนที่ เขาจะรับมันไปจากมือของฉัน
จองเบเงยหน้าจากรูปขึ้นมามองฉันแล้วเหมือนกับจะเอ่ยปากถามว่าฉันไป เจอรูปนี้มาได้ยังไงฉันก็เลยชิงพูดขึ้นก่อน
“วัน เสาร์ที่นายมาโรงเรียนแล้วเจอแก้วนายคงบังเอิญทำตกเอาไว้แก้วเลยเก็บไว้ ให้ เธอพยายามจะหาทางคืนรูปนี้ให้นายตัวต่อตัวแต่ก็ไม่โอกาส และวันนี้เธอป่วยเลยฝากรูปนี้ไว้กับฉันเผื่อว่าฉันเจอนายตอนอยู่คนเดียวพอดี จะได้คืนให้” ฉันพูดสรุปจองเบก็พยักหน้าเบาๆ
“งั้นสรุปว่าพวกเธอสองคนก็...รู้เรื่องฉันกับ...แล้วสินะ” จองเบพูดแล้วใช้นิ้วของเขาถูกจมูกของตัวเองไปมา
เอ...แปลก! ท่าทางแบบนี้อย่างกับพยายามจะลืมคลอรีนหรือยังไงกันเนี่ย?
ไม่คิดจะพูดแม้แต่ชื่อของคลอรีนเลยเหรอ?
งั้นแสดงว่าสองคนนี้คงจบแบบค้างคาแน่นอนอ่ะ ชัวปาบ
“ฉัน รู้แค่กับแก้วเท่านั้นและไม่คิดจะเอาไปบอกใครด้วยนายวางใจได้เลย เพราะว่าถ้านายกับคลอรีนอยากให้เรื่องนี้มันเป็นความลับฉันก็จะไม่เข้าไป ยุ่งหรอกนะ” ฉันบอกแล้วมองจองเบตรงๆเพื่อให้เขาเชื่อใจ
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก โดยเฉพาะเพื่อนของเธอน่ะ” เขาพูดแล้วหยักยิ้มที่มุมปากหน่อยๆ
“เอ่อ...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่านายกับคลอรีนไปคบกันตอนไหนแล้วเลิกกันเพราะอะไร ”
“...”
“แต่ ว่าที่ฉันจะบอกคือ...ถ้าเกิดนายยังรักคลอรีนอยู่ล่ะก็อย่ามาหลบๆซ่อนๆกับ คลอรีนแบบนี้เลย ฉันรู้นะว่านายพยายามตัดใจแต่ถ้ามันทำไม่ได้นายก็ควรจะสู้นะ”
“ขอบใจสำหรับคำแนะนำนะ และก็ฝากขอบคุณเพื่อนเธอด้วยที่เก็บรูปใบนี้เอาไว้ให้”
จองเบไม่ยอมรับว่าเขาจะเอายังไงแต่ก็พูดเหมือนว่าจะเก็บไปคิดดูเพียงแค่นั้น...
“อื้ม! แล้วจะบอกให้ ^^”
เมื่อภารกิจการส่งคืนของให้จองเบเสร็จสิ้นลงด้วยดีและราบรื่นฉันก็เดินออกมาจากห้อง ม.5/7 และก็กำลังจะเดินตรงไปนั่งเล่นในห้องเรียน ม.5/2 ของตัวเองเงียบๆ จู่ๆก็มี ‘เสียงเรียกจากนรก’ มาเรียกฉันเอาไว้เสียก่อน = =!!!
“นี่! ยัยฟางมัดข้าวววว! >O<!”
ถึงนั่นจะไม่ใช่ชื่อของฉันแต่ฉันก็รู้เลยว่าใครเรียก! ><!
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ไอ้บ้าป๊อปปี้อีกแล้วววววววววววววว >O<!!!!!!
ฉัน ทำเป็นไม่สนเสียงเรียกนั้นแล้วเดินเข้าห้องของตัวเองไป แต่ทว่าไอ้บ้านั่นก็เดินตามเข้ามาในห้องเรียนของฉันอย่างไวแล้วรีบมาดักหน้า ฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง
เฮ้ย! มาดักหน้ากันแบบนี้ถ้าหัวฉันชนอกนายทำไงฮะ!?
“มีอะไร - -?” ฉันถามตาลอย
“เมื่อกี๊เข้าไปในห้องเรียนพวกฉันทำม๊ะ?” หมอนั่นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นเป็นเชิงแต่ฉันก็แค่หยักไหล่ก่อนจะตอบไป
“แล้วมันเกี่ยวกับนายเหรอ ^^”
ฉันสาบาญได้นะว่านั่นคือคำตอบจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ^O^
“เกี่ยวสิ! ก็นั่นมันห้องเรียนฉัน >O<!” ป๊อปปี้พูดแล้วยืนเท้าสะเอว ( ? ) “รึว่า?! เธอแอบไปขโมยของ!”
“นี่! ถามหน่อยเหอะทุกๆวันนายกินไส้เดือนเป็นอาหารเหรอ? คิดอะไรบ้าๆบอๆ ” ฉันพูดใส่หน้าป๊อปปี้แล้วพยายามจะผลักหมอนี่ออก “ออกไปเลย! >O<!”
“ไม่ออกเฟ้ย! จนกว่าเธอจะพูดความจริงว่าไปทำอะไรในห้องของพวกฉัน!”
“ฉันจะทำอะไรจำเป็นต้องรายงานใครด้วย? นายเป็นใครกันมาสั่งให้ฉันบอกโน่นบอกนี่ฮะ? ไอ้ส้วมตัน!”
“เธอ!”
“ทำท่าทางเป็นคนเท่ห์นิสัยจริงๆอ่ะปากเสีย ฉันอยากจะรู้จริงล่ะว่าผู้หญิงพวกนั้นกล้าให้เบอร์โทรกับนายได้ไง”
“ก็ฉันหล่อ รวย ฉลาด เรียนเก่ง และมีดีอีกตั้งหลายอย่างผู้หญิงอย่างเธอจะไปรู้อะไร๊ ”
ตอบได้แบบไม่ค่อยเข้าข้างตัวเองเลยนะ! =[]=!!!!
“- -!”
“อีกอย่างนะ เธอหลงชอบฉันรึปล่าวยังไม่รู้เล้ย สายตาฉันก็ออกจะแวววาวแถม HOT! ขนาดนี้ ^^”
“=[]=;;;;”
เดี๋ยวขอคิดภาพแป๊ปนึงนะ...
เพียงแค่คิดสถาพว่าหมอนั่นส่งสายตาทำอะไรแบบนั้นให้แล้วฉันขนลุกเลยอ๊า>O<!
“อ๋องั้นเหรอ?” ฉันเบ้ปากใส่เขา “งั้นถ้านายฉลาดจริงๆก็น่าจะมีสมองคิดได้บ้างว่าไม่ควรมาถามเรื่องของคนอื่นเขา!”
จึก!!
“>O<!!!” >>>>> ป๊อปปี้
“ฉันเดินเข้าไปในห้องนายแล้วทำไม? มันติดป้ายเอาไว้เหรอว่า‘ห้ามเขา’”
“แล้วเธอเข้าไปทำไม? มีเหตุผลอะไรที่ต้องเข้าไป?”
“โอ๊ะ! ถามตื๊ออยู่ได้ น่ารำคาญ!”
เมื่อป๊อปปี้ยังตื๊อไม่เลิกจนฉันต้องพูดออกมาแล้วถอนหายใจแรงๆแล้วจ้องหน้าหมอนั่น ค้อนๆแบบไม่พอใจก่อนจะตัดสินใจหันหลังแล้วทำท่าว่าจะเดินออกไปจากห้องนี้
ได้! ถ้าหมอนั่นไม่ไปฉันไปเอง! ขี้เกียจโดนกวนประสาท! >O<!
พอจะก้าวขาออกจากประตูดูเหมือนว่าคำพูดต่อมาที่เอ่ยออกมาจากปากป๊อปปี้นั้นทำให้ฉันอยากจะตอบกลับมาก! จึงได้หยุดชะงักจากการเดินทันที! >O<!
“รึว่าคิดจะไปอ่อยไอ้จองเบ?”
กึก!
“...”
“เห๊อะ! ยัยฟางมัดข้าว เตี้ยแบบนี้ ไอ้จองเบมันไม่ชอบหร๊อก! อย่าหวังเล้ย! ”
แปะๆๆๆ
“ขอปรบมือให้กับความ...บ้องตื้น! คิดเอง! เออเอง! ของคนเสียสติจิตหลุดโลกที่สุดในกลุ่ม เค-โอ-ติค!”ฉันทำปรบมือกวนๆแล้วพูดย้ำทีละคำจนป๊อปปี้ถึงกับควันออกหู
เห๊อะ! หมอนี่ใช้สมองส่วนใหญ่มาคิดเนี่ยว่าฉันอ่อยจองเบ บ้าไปแล้ว!
“นี่ยัย...!!!!” หมอนั่นชี้หน้าฉัน
“อะไรๆๆๆๆๆๆๆ” ฉันพูดเร็วๆกวนประสาทแล้วยืนกอดอกอมยิ้มอย่างสะใจในขณะที่ป๊อปปี้เอาแต่กัดฟัน
“หน๋อย! ยัย...ยัยปากปลาร้าค้างปี >O<!”
“อุ๋ย! ด่าได้แค่นี้หรา? แหม๋ แหม๋ ไอ้เราก็นึกว่า...ปากจะเสียกว่านี้ซะอีก!”
“ยัย!!!!!!!!”
ฉัน หมุนตัวเดินออกมาจากห้องเรียนแล้วรีบเดินลงบันไดกะว่าไปนั่งเล่นข้างล่างจะ ดีกว่าเพราะขืนอยู่บนอาคารต่อหมอนั่นตามหาเรื่องอีกแน่ๆ รอให้ถึงเวลาเรียนแล้วค่อยขึ้นมาดีกว่า
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยยยยยยย สะใจจริงเจรงงงงงงงงงงง ( หัวเราะพร้อมกับเอามือตบๆปากด้วยความสะใจ คิ คิ )
คงสงสัยกันล่ะสิว่าฉันกับป๊อปปี้ทำไมถึงได้เกลียดขี้หน้ากันแบบนี้นะ?
จะ เล่าย่อๆให้ฟังว่าตั้งแต่ที่เข้า ม.1 มาเนี่ยชีวิตฉันไม่เคยปกติเวลาที่เจอป๊อปปีเล้ยยยยยยยย หมอนี่น่ะนิสัยเสียเอาตรงๆไม่รู้จักกันแล้วมาแกล้งมาแซวนู่นนี่ มันสมควร? ฉันคิดว่าตัวเองจะไม่โดนแล้วนะเพราะปกติก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับใครเขาอยู่แล้ว
แต่หมอนี่ก็ยังวกวนมาแซวมาแกล้งกันจนได้! >O<!
วันแรกที่ถูกหมอนั่นแกล้งฉันกับหมอนั่นก็มีเรื่องกันเลยทีเดียว ก็ดันบังอาจมาดึงเปียแกะของฉันน่ะสิ ดึงซะหัวแทบหลุด! ><! จากนั้นเราก็เริ่มทะเลาะกันจนเป็นเรื่องและด้วยความที่ฉันเป็นพวกความอดทน ต่ำจึงด่าหมอนั่นกระจุยกระจายต่อหน้านักเรียนคนอื่นๆแล้วก็ถีบตูดไอ้บ้าป๊อปปี้นกลิ้งเป็นลูกชิ้น@_@
และตั้งแต่วันนั้นฉันกับหมอนั่นก็กัด เอ้ย! ก็จะเหน็บแหนมกันแบบนี้เป็นประจำจนชินไปแล้ว แต่ก็ยังหมั่นไส้กันอยู่ดีและคงไม่มีท่าทีว่าจะมาญาติดีให้กันง่ายๆแน่ๆ
__________________________________________________
อัพแล้วนะค่ะ ถ้าเม้นเยอะๆจะอัพทุกวันนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ