The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
8.8
เขียนโดย พายุลมหนาว
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.
12 chapter
83 วิจารณ์
18.19K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) [2] คนไข้หัวดื้อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
Chapter (2)
“คุณ!?” ฉันลุกลนวิ่งไปแตะร่างเขาแต่ไม่ลืมที่จะสอดส่องอันตรายรอบข้าง วันนี้มันวันอะไรของอีแก้วกัน เจอแต่เรื่อง เอ๊ะ ชีพจรยังเต้นอยู่นินั้นก็ยังไม่ตายนะสิ O_O!?
“อ้ะ!” อยู่ๆมือใหญ่ก็คว้าหมับแขนฉันที่กำลังสำรวจดูบาดแผลเขาอย่างรวดเร็วก่อนร่างฉันจะถูกผลักลงขนานกับพื้นแขนสองข้างถูกรวบตึงเหนือศีรษะ อ้ากกกก แกจะทำอะไรช้านนนน ปล่อยนะ!
“เธอเป็นใคร?” หืม นี้คือคำถามแรกที่เขาพูดออกมา ฉันพึ่งได้เห็นใบหน้าเขาชัดๆคิ้วหนารวบแน่น ดวงตาคู่คมไล่สำรวจเรือนร่างฉัน เฮ้ย แกเป็นโจรหื่นกามหนีคดีใช่ไหมไอ้หัวเหลืองนี้แกจะข่มขืนแล้วฆ่าปิดปากฉันเรอะไม่นะ ฉันดันทิ้งอาวุธชิ้นเดียวไว้ซะด้วย ว่าไปหน้าตาหมอนี้ทำไมหล่อจัง -.,- O[]O ใช่เวลามั้ย!
“ฉะ ฉัน” อ้าวเห้ย คุณพี่จะหันไปไหนเล่า สรุปต้องการคำตอบจากฉันไหมเนี่ย แล้วขอเหอะเลิกคร่อมฉันสักที มันหนักโว้ยยยยย
“เงียบ!” OXO อุ๊บปิดปากสิค่ะ พี่แกเล่นตะคอกฉันซะขนาดนี้ แล้วเขาก็เอาแต่สอดส่องเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างก่อนจะยอมปล่อยฉันเป็นอิสระ แล้วดันตัวเองขึ้นยืน ทำให้ฉันสังเกตเห็นว่าที่เอวเขามีแผลน่าจะถูกยิง 0o0!? พี่แกไปทำไรมาว่ะ?
“เดียวคุณจะไปไหนหน่ะ อย่าพึ่งขยับตัวสิคุณยังบาดเจ็บอยู่นะ!” ฉันรีบวิ่งเข้าไปประคองเขาเพราะเห็นเขาจะล้ม แต่อยู่ๆตานั้นก็สะบัดตัวฉันทิ้งเกือบก้นจ้ำเบ้าหันมาทำตาขวางใส่ฉันอีก นี้คนเขาอุส่าหวังดีนะย่ะ นั้นไงพูดไม่ทันขาดคำเขาทรุดลงไปนั่งแล้วพยายามกุมบาดแผลตัวเองใช้มือเกาะต้นไม้ยันร่างใหญ่ขึ้นยืนอีกครั้งก่อนจะเซไปพิงต้นไม้ต้นเดิมที่เขาเกาะ ทำไมถึงดื้อด้านขนาดนี้นะ
“บอกแล้วไงว่าอย่างพึ่งขยับหน่ะ!!” ในฐานะหมอฉันยอมไม่ได้ รีบวิ่งเข้าประคองเขาอีกรอบ และแน่นอนเขาหันมาทำตาขวางเหมือนเดิม ฉันจึงขมวดคิ้วบางส่งสายตาดุกลับ เจ็บหนักอยู่แท้ๆทำเป็นอวดเก่ง ชิ ใครจะยอมให้นายมาตายแถวนี้กัน ผีคุณย่าก็เกินพอแล้วโว้ยห้ามเพิ่มมาอีกตัว >^<!
“ปล่อยซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เขาขู่ฉัน คิดเรอะว่าฉันจะกลัว
“เรื่องเจ็บตัวหน่ะ เรื่องถนัดฉันเลยล่ะขอบอก” ฉันแสยะยิ้มทีหนึ่งกำชับร่างเขาแน่นขึ้น จนเจ้าตัวมองฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจสุดๆปานอยากจะเอามีดมาแทงฉันได้เลยมั่งหน่ะ ดูทำหน้าทำตาเข้า
“ต้องการอะไร!” เขาถามฉันเสียงแข็ง
“ต้องการเอาตัวคนไข้หัวดื้อไปรักษา” เขาทำหน้างงทันที แสดงว่าไม่รู้ล่ะสิว่าฉันเป็นหมอ แต่เราพึ่งเจอกันจะรู้ได้ไงว่ะ เอ่อเนอะ
“ไม่ต้องสงสัย ฉันเป็นหมอและฉันต้องการรักษานายเดียวนี้ขืนปล่อยนายไปมีหวังได้ตายกลางป่าและฉันคนหนึ่งที่จะไม่ยอมให้เรื่องพรรคนั้นเกิดขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน จบนะ” พี่แกมองก่อนจะถอนหายใจแล้วยอมอีออตามฉัน หึๆ เป็นไงล่ะ รู้จักอีแก้วน้อยไปซะแล้ว = =+ หลังจากนั้นฉันก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีแบกเขามาถึงบ้านเล่นเอาฉันหอบหมาลากลิ้นเลย เสื้อก็ดันเปื้อนคราบเลือด ห๊ะ เลือด
“คุณถูกยิงตรงไหนบ้าง?” ฉันถามเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาเงียบแล้วกุมที่เอวอย่างเดียว ไม่มีปากรึไงย่ะฉันแอบบ่นในใจก่อนจะรีบไปหยิบอุปกรณ์แพทย์ในบ้าน อ้อ ลืมบอก ที่ฉันอยากเป็นหมอก็เพราะคุณย่าฉันเนี่ยแหละ ท่านเป็นหมอที่เก่งมาก ฉันนี้ปลาบปลื้มสุดๆที่ได้เกิดเป็นหลานท่าน เอ๋ย นอกเรื่องล่ะ ในบ้านย่าฉันมีอุปกรณ์ทำแผลที่ท่านเก็บไว้สำรองยามเกิดเหตุฉุกละหุก สมกับเป็นคุณย่ารอบคอบดีจริง ^ ^
“เฮ้ย เดินมาทำไม” เขาเดินมาดูฉันที่กำลังล้างอุปกรณ์ด้วยน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ นี้พูดไม่ฟังเลยใช่มั้ยห่ะบอกว่าห้ามขยับก็ห้ามสิ
“ฉันเห็นเธอหายไปนานเลยมาดูเผื่อเป็นอะไร” เขากล่าวนิ่งๆ ฉันเกือบโวยแต่พอเขาพูดมาแบบนั้นก็แอบอมยิ้มเบาๆ ก่อนจะลากเขาไปนั่งที่โต๊ะกลางครัว ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองลืมอะไรไปอย่างหนึ่งเป็นของที่สำคัญในเวลานี้ .....ยาชา!
“ไม่มียาชานี้หว่า เวรแล้วอีแก้วเอย อยู่ไหนกันนะ” ฉันรีบค้นดูตู้ทุกตู้ที่เก็บยาไว้มันมีก็จริงแต่ถ้าจะหมดการใช้งานแล้วนี่สิ ให้ตายเถอะแล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ยยยยย!!!
“เย็บสดเลยก็ได้” ห่ะ! เย็บสด!! บ้าไปแล้ว นี้เขาได้ยินที่ฉันบ่นด้วยเรอะฉันว่าพูดเบาแล้วนะ
“นายแน่ใจเรอะ ฉันกลัวนายเจ็บ” ฉันถามเขาเพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่เรื่องเล่นหน่ะค่ะ แล้วเขาก็พยักหน้าฉันตอบ อ้ากกก ประสบการณ์ท้าทายใหม่กำลังมาเยือนฉันอีกแล้ววววววว =A=
“เธอบอกเองไม่ใช่เรอะว่าปล่อยไว้ไม่ได้” อย่าย้ำได้ไหม ฉันรู้แต่มันกลัวอ่ะถึงจะไม่ใช่ฉันก็เหอะ
“อ่ะๆๆ ได้ๆ นายถอนเสื้อก่อนล่ะกันฉันจะได้ล้างแผลให้” ฉันรีบไปหยิบถาดอุปกรณ์ทำแผลมาแล้วหันไปหาเขา O///O! เฮือก ขาว ล้ำ บึก กล้ามเป็นมัดนี้มันชายในฝันชัดๆ >.,< ชะ ช้านไม่ได้ลามกนะ คนอะไรขาวน่ากินชะมัด เฮ้ย ฉันรีบสะบัดความคิดบ้ากามตัวเองทิ้งแล้วเอาผ้าชุบน้ำเช็ดตามเนื้อกายขาวเขาอย่างขะมักเขม้น ยิ่งเช็ดยิ่งขาว ซิกแพ็คเด่นชัดตระการตา -///- อย่าให้เขาสังเกตหน้าฉันตอนนี้เล้ย อายโว้ย
“เป็นอะไรทำไมหน้าแดง ร้อนเหรอ?” วร้าย พูดไม่ทันขาดคำ
“อืม นิดหน่อย” ฉันยิ้มแหย่พลางบิดผ้าแล้วเช็ดตัวเขาซ้ำ เหมือนฉันจะเห็นเขายิ้มรึป่าวนะ หรือฉันอาจตาฝาดไปเอง ช่างเหอะ ว่าไปแผลเยอะเหมือนกันแฮะ แผลถูกยิงตั้งหลายจุดแต่กระสุนฝังที่เอวข้างขวาข้างเดียวที่เหลือไม่ถากก็เฉียดไป 2-3 จุด อืม - -...
“เจ็บหน่อยหน่ะ” ฉันหยิบปากคีมขึ้นมาเพื่อดำเนินภารกิจสุดหิน ผ่ากระสุนสด พระเจ้า เกิดมาอีแก้วยังไม่เคยทำอะไรสดๆแบบนี้เลยนะ ฉันต้องทำอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะกลัวเขาเจ็บ
“โอ๊ย” ใจเย็นนั้นเสียงฉันเองไม่ใช่เขาฉันร้องเพราะเห็นแล้วเจ็บแทน ส่วนเขานะเหรอ นั่งแข็งทื่อเป็นตอไม้ไร้ความรู้สึกตอนฉันเอากระสุนออกเขาไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด แม่ง คนจริงป่าววะ อึดชะมัด และในที่สุดฉันก็เอากระสุนออกมาจนได้ดีนะที่มันฝังไม่ลึกมาก ฉันรีบเอาผ้าก๊อซเช็ดคราบเลือดก่อนจะเริ่มขั้นสุดท้าย เย็บสด!!!
“ฟู่ว เวรกรรมอะไรของฉันกันนะ” ฉันนี้ถลกแขนเสื้อเพิ่มความถนัด มองหน้าเขาที่ยังเรียบเฉยไม่มีอาการใดๆ นี้นายเป็นคนเหล็กเรอะย่ะ ไม่รู้สึกอะไรบ้างรึไง!? ฉันนี้ขนลุกซู่ไปหมดแล้วเห็นไหม เอ้า!ไหนๆในเมื่อเขาไม่ร้องฉันจะทำเหมือนปกติเย็บตามที่ฉันถนัด ใจฉันโล่งขึ้นทันตาเมื่อคิดได้ยังงั้นรีบหยิบเอาอุปกรณ์เย็บสารพัดมาบรรจงจัดการให้เร็วที่สุด
“เอาล่ะเย็บเสร็จสักที” ฉันปิดจ็อบเย็บแผลด้วยกรรไกรตัดไหมดัง ฉับ เป็นไงล่ะฝีมืออีแก้ว การเย็บสุดประณีตไม่มีใครเก่งเกินฉันอีกแล้ว ฉันยิ้มอย่างพอใจก่อนจะไปจัดการแผลส่วนอื่นต่อ โห้ยเหนื่อยมากกกกค่ะ
“เธอนี้มือเบาเหมือนกันนะ” เหอะๆ แน่สิฉันเป็นใครค่ะ แพทย์หญิงจริญญานะจ้ะดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ไม่ใช่เครื่องประดับนะโว้ย อิๆ
“แน่ล่ะถ้ามือหนักป่านนี้นายไม่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นประดับห้องครัวฉันหรอก” ฉันยิ้มแล้วยักคิ้วส่งให้เขาทีหนึ่งแต่เขานี้สิแทนที่จะขำกลับหน้าตายเบี่ยงหน้าไปทิศอื่นอีก หึ่ย อะไรของนายเนี่ย ฉันแอบงอนเขานิดหนึ่งแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรรีบพันแผลด้วยผ้าก๊อซยืดทั่วตัวเขาจนเสร็จ แล้วบอกให้เขานั่งนิ่งๆระหว่างฉันเก็บอุปกรณ์ล้าง
“อ่ะ ยาแก้ปวดกินซะจะได้บรรเทา ไม่ต้องทำเป็นเก่งหรอกที่จริงก็เจ็บอยู่ใช่ม่ะ” ฉันรีบยัดยากับแก้วน้ำให้เขาดื่มแถมดักทางปฏิเสธเขา ไอ้บอกไม่เจ็บเนี่ยร้องไห้เกือบทุกรายฉันผ่านมาเยอะขอบอก เขาก็ไม่พูดอะไรทานยาตามที่ฉันสั่งก่อนฉันจะประคองเขาขึ้นชั้นสองบ้านไปนอนห้องรับแขก ทีแรกเขาบอกจะนอนโซฟาข้างล่าง จะบ้ารึไงย่ะ โซฟาแข็งๆ นายจะไปนอนให้ปวดกว่าเดิมนะสินอนบนห้องเนี่ยแหละดีแล้วฉันจะได้ดูแลได้สะดวก
“นอนนี้แหละแล้วอยู่นิ่งๆมีอะไรก็เรียกฉัน ฉันนอนอยู่ห้องใหญ่ริมสุดนี้เอง ไม่ต้องเกรงใจนะทั้งบ้านมีแค่ฉันกับนายเท่านั้น” เขาเหมือนแอบอึ้งฉันนิดหนึ่งเพราะฉันเล่นทำตัวเหมือนเป็นจ้าวชีวิตเขา ว่าแต่ฉันไปบอกเขาทำไมเนี่ยว่ามีแค่เราสองคนไม่ต่างกับบอกลู่โจรนะสิ O_O!!
“เอ่อจริงด้วย นายชื่ออะไร อ้าว” ว้าย! ฉันพึ่งหันไปปิดหน้าต่างแปปเดียว ไหงหมอนี้หลับเร็วเป็นบ้า ฉันแอบย่องเข้าไปใกล้พิสูจน์ เขาไม่ได้แกล้งหลับใช่มั้ย หลับจริงค่ะท่านผู้ชม ฉันบอกคำเดียว ขนาดตอนนอนหน้าหมอนี้ยังกะเทพบุตรหล่อมากแถมหวานซะด้วย เผลอๆหวานกว่าฉันซะอีก ได้ไหงกัน ฉันสวยกว่าตั้งเยอะ
จ๊อกๆๆ
ฉันนี้หน้าแดงเลยค่ะ เสียงท้องดันร้องซะดังลั่นห้องเชียว ไอ้กระเพาะบ้ามาร้องอะไรตอนนี้ย่ะ เอ่อ ฉันยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืนวาน ท้องฉันมันก็เลยประท้วงตามด้วยบีบบังคับ แสบท้องสุดๆ ร้องก็พอไม่ต้องจัดภาคปฏิบัติให้ฉัน แก้วรู้ล่ะจ้า แต่แถวนี้ไม่มีใครอยู่เลยนี้สิแล้วฉันจะไปเอาของกินมาจากไหนล่ะเนี่ย
“ในตู้เย็นมีแต่น้ำเปล่าด้วย” ฉันเทน้ำกินแก้หิวไปก่อน T T หิวข้าวจัง หืมนั่นแสงรถใครอ่ะ แสงรถ?
“อ้ะ” .......
จิ๊บๆๆ ก็อกๆ
“หืม..” ชายหนุ่มลืมเปลือกตาขึ้นมองเจ้านกน้อยริมหน้าต่างที่ส่งเสียงรบกวน แสงแดดอ่อนยามเช้าแหย่ดวงตาคู่คมจนต้องหรี่ด้วยความแสบ เขาพยุงร่างตัวเองขึ้นพิงหัวเตียง สายตากวาดมองไปรอบห้องก็พบเข้ากับน้ำเปล่าข้างกาย มือใหญ่หยิบขึ้นมาดื่มด้วยความกระหายจนหมดแก้วก่อนเจ้าตัวจะพยายามฝืนลุกขึ้นเดินไปรับลมตรงบานหน้าต่าง
“อ้าวฟื้นแล้วเรอะ” ฉันเดินเข้าห้องมาหวังดูอาการเขาคิดว่าเขายังนอนไม่ตื่นแต่ก็เห็นเขายืนอยู่ริมหน้าต่างเสียแล้ว กว่าจะฟื้นเนอะพ่อคุณ - -
“ฉันหลับไปนานแค่ไหน” เขาถามทั้งที่ไม่มองหน้าฉัน หัดมีมารยาทหน่อยสิย่ะ!
“วันครึ่งได้มั่ง” ฉันตอบเขาไปแล้วลากพี่แกมานั่งบนเตียงก่อนจะสั่งให้เขาถอดเสื้อออก แล้วไล่ดูบาดแผลโดยเฉพาะที่เอวมีเลือดซิบนิดหน่อยแต่ไม่น่ามีปัญหา
“เธอ..”เขาสบตาฉันแล้วเอียงคอเหมือนต้องการอะไรสักอย่าง ฉันเดานะเขากำลังถามชื่อฉัน
“แก้ว ฉันชื่อแก้วแล้วนายล่ะ” ฉันถามเขากลับ
“โทโมะ..” 0o0? นายเป็นญี่ปุ่นเรอะ ฉันก็อยากถามออกไปยังงั้นแต่ขืนถามมากๆฉันอาจโดนยำได้ เงียบไว้ดีกว่า
“เอ้า แอปเปิ้ลทานรองท้องไปก่อน” ฉันยื่นจานแอปเปิ้ลที่หั่นเรียบร้อยโดยฉันเองให้เขา หั่นแน่งงล่ะสิฉันเอามาจากไหนก็วันก่อนที่มีคนขับรถมาบ้านฉัน เขาไม่ใช่ที่ไหนเป็นคนดูแลบ้านย่าฉันเองฉันเลยรีบขอให้เขาเอาของกินมาให้ฉันหน่อยพร้อมกับกำชับอย่าบอกพ่อกับแม่ฉันเด็ดขาด เกือบตายเพราะหิวแล้วมั้ยล่ะแก้วเอ๋ย ฉันยิ่งเป็นโรคกระเพาะอยู่ทานอาหารไม่ตรงเวลา
“ฉันเตรียมเสื้อผ้าให้ใหม่ล่ะไปเปลี่ยนซะ แล้วเช็ดตัวซะด้วยก่อนเปลี่ยนหรือจะให้ฉันเช็ดให้ก็ได้” ฉันสั่งเค้าพลางหยิบเสื้อชุดใหม่ที่ขอมาจากคนดูแลมาให้เขา
“ทั้งตัวเลยเรอะ” อืมก็ต้องทั้งตัวนะสิ ห่ะทั้งตัว o_O เขามองฉันแล้วยิ้มมุมก่อนจะปลดเข็มขัดตัวเองเดินมาใกล้ฉัน เห้ยๆ เดียว ม่ายช่ายยยยยยย >///<
“ฉะ ฉันไปข้างล่างก่อนนะ” ฉันดันชุดให้เขาแล้วรีบวิ่งออกห้องสายฟ้าแลบ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต พูดบ้าไรของเขาเนี่ย ฉันลงไปหาอะไรทำข้างนอกแก้อายกว่าจะทำใจเข้าบ้านได้เล่นค่อนวัน เวอร์แหละแค่ 20 นาที หน้านิขึ้นสีไปหมด หืม โทโมะกำลังใช้โทรศัพท์บ้านฉันคุยกับใครล่ะนั้น ต้องสอบสวนใช้ของในบ้านโดยไม่ขออนุญาต = =+
“โทโมะ นายคุยกับใครหน่ะ” เขาวางสายลงแล้วหันมามองฉัน
“ฉันจะกลับ” ห่ะ กลับ กลับไปไหนค่ะ หมายถึงกลับบ้านเรอะ
“แล้วนายจะไปยังไง มีคนมารับเรอะ” เขาไม่พูดเดินผ่านหน้าฉันไปเลย อะไรเนี่ยนึกจะมาก็มาแล้วนึกจะไปก็ไปกันดื้อๆงี้เลยเรอะ
“โทโมะ!”ฉันเดินตามหลังเขาจนหน้าฉันปะทะกับแผ่นหลังพี่แกเต็มๆ จะหยุดก็หัดบอกกันบ้างสิย่ะ
“เธอต้องการอะไรตอบแทน” เขาหันมาถามฉันเสียงเรียบ ตอบแทนเรื่องอะไรที่ฉันรักษาเขานะเหรอ
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไร” ฉันโวยวายทันที จะบ้าเรอะฉันเป็นหมอนะ เห็นคนเจ็บก็ต้องรักษาสิไม่งั้นจะเรียนให้เปลืองเนื้อที่ในสมองทำไม
“แต่ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครบอกมา อยากได้อะไร” หยิ่งซะด้วย อะไรของเขาว่ะแค่คำขอบคุณฉันก็ซึ้งแล้วย่ะ ไม่ก็ยิ้มหวานๆให้ฉันสักทีแค่เนี่ย
“โอย ก็บอกว่าไม่ก็ไม่ไง พูดไม่รู้เรื่องเหรอ ทำเหมือนตอนนี้นายมีอะไรจะตอบแทนฉันได้ห่ะ!?” เขามีแต่ตัวจะเอาอะไรมาให้ฉันได้อยากรู้จริง โทโมะยืนนิ่งแล้วมองฉันด้วยแววตาอ่านไม่ออก นี้เขากำลังคิดอะไรกัน
“นั่น..” อะไร อุ๊บ OxO!! เขากำลังจูบฉัน เขาจูบช้านนนนนนน ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่เขาจะถอนจูบออกแล้วยิ้มกริ่มทีหนึ่งถึงเดินหายไปจากบ้านฉันปล่อยให้ฉันยืนอึ้งกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันฉันเสียจูบแรกในชีวิตให้กับคนแปลกหน้า ฉันเข่าอ่อนทรุดฮวบลงก่อนจะแตะริมฝีปากตัวเอง
“ไอ้บ้า” >////< ฉันถูปากตัวเองอย่างแรงเผื่อความรู้สึกเมื่อกี้จะจางลงแต่ไม่เลยมันกลับทำให้ฉันยิ่งแดงมากกว่าเดิมเสียอีก ไปหายไม่พอขโมยจูบแรกในชีวิตฉันไปอีก อย่าให้เจอนะแม่จะคิดทบต้นทบดอกเลยคอยดูเหอะ อายเป็นบ้า
ตอนที่สองอัพให้แล้วนะ จะไม่อยู่ไปอีกสักพัก อ่านแล้วช่วยเม้นกันด้วยล่ะ ขอบคุณทั้งผู้อ่านและผู้วิจารณ์ แล้วจะกลับมาอัพรอเรทติ้งก่อน > <!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ