The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
เขียนโดย พายุลมหนาว
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) [1] กลับบ้าน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
The Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
Chapter (1)
เพราะไม่เคยรักใคร ถึงไม่มีหัวใจ เพราะไม่เคยใส่ใจถึงไม่เคยเข้าใจว่าความรักจริงๆสักที แล้วเขาก็เข้ามาพร้อมกับสิ่งที่ เรียกว่า “หัวใจ”
ครืดๆๆ ครืด
เสียงโทรศัพท์สั่นเรียกเจ้าของที่กำลังแต่งเติมใบหน้าผละมือมากดรับไอโฟนเครื่องขาว
“ฮาโลว่” ฉันพูดพร้อมกับเก็บเครื่องสำอางแสนแพงสุดรักเข้ากระเป๋าใบสวย
“แก้วนี้แม่นะลูก” แม่โทรมาหาฉันด้วยเบอร์พี่กิ่ง ฉันก็นึกว่าพี่โทรมามีอะไรซะอีก
“ม๊า โทรมามีอะไรรึป่าวค่ะ” ฉันถามแม่กลับขณะเอารถเข็นกระเป๋าใบใหญ่ที่ฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ก่อนจะโค้งของคุณตามมารยาทสาวไทย อนาคตสาวไทยแน่นอนจังหวะนี้
“โทรหาลูกจำเป็นต้องมีธุระด้วยรึจ้ะ” น้ำเสียงดูเหมือนงอนฉัน แย่แล้วอีแก้ว
“แห่มม๊าก็ แก้วยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยอ่ะ” ง่อว แม่จ้าอย่าพึ่งงอนแก้วน้าหนูขอโทษ
“อ่ะๆ ว่าแต่เมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้านเราบ้าง แม่คิดถึง พ่อเราก็บ่นๆอยู่รู้มั้ย” บ้าน เอ่อ ฉันไม่ได้กลับบ้านตั้งนานแล้วนิ ไม่แปลกหรอกที่พวกท่านจะคิดถึงอย่าว่าแต่แม่เลย ฉันก็คิดถึงแม่ใจจะขาด T^T
“แก้วก็อยากกกลับถ้าไม่ติดเคสผ่าตัดคนไข้ แก้วยังต้องดูแลเขาอีกเดือน แก้วสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เร็วที่สุด คิดถึงแม่นะค่ะ” ฉันพยายามอธิบายให้แม่เข้าใจ
“จ้ะๆ อย่ามัวแต่เที่ยวนะเรา แม่เห็นนะรูปขึ้น IG เต็มไปหมด” วร้าย แม่ก็ต้องมีกันบ้างอุส่าได้อยู่ถึงเมืองผู้ดี ประเทศอังกฤษเลยนะจะไม่ให้เที่ยวได้ไง
“ค่ะ พี่กิ่งล่ะค่ะ” ฉันรีบถามหาพี่สาวทันทีก่อนจะโดนแม่ขุดคุ้ยเรื่องมาบ่น
“อยู่นี้จ้ะ กิ่งมารับโทรศัพท์น้องหน่อยสิลูก” แม่เรียกพี่สาวฉัน ฮั่นแน่ยัยพี่สาวฉันวันนี้แปลก ไม่ยักไปเที่ยวนอกบ้านเพราะเท่าที่ฉันจำได้พี่สาวฉันมักจะไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่เวลาฉันโทรไปหา
“ฮัลโลว่ ยัยแก้ว” พี่กิ่ง I Miz U > <!!
“พี่กิ่งวันนี้ไม่ไปเที่ยวกับแฟนที่ไหนรึจ้ะ เดียวพี่โอ๊ตก็แอบไปมีกิ๊กหรอก” ฉันแซะพี่สาวอย่างรู้ทัน อันที่จริงพี่โอ๊ตคือว่าที่กิ๊กไม่ใช่แฟนพี่สาวฉันหรอก
“บ้า ไม่มีวันย่ะถึงวันนั้นฉันเนี่ยจะทิ้งเขาก่อนได้มีกิ๊ก ว่าแต่แกอยู่ไหนแล้วลงเครื่องยัง” พี่ฉันพูดก่อนจะกระซิบเบาในประโยคช่วงท้าย
“ยังไม่ลงพี่จะได้คุยกับแก้วแบบนี้เรอะ” ใช่ถ้าฉันยังอยู่บนเครื่องฉันคงรับโทรศัพท์ได้หรอก มีหวังทั้งลำได้มองฉันเป็นตาเดียวนะสิค่ะ
“เอ่อๆ แล้วนี้แกจะถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะได้แอบจัดห้องให้แก” ถึงเมื่อไหร่ O_+ เรื่องนั้นฉันยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำ รถราไปยังไงยังไม่รู้เล้ย เฮ้อ
“ไม่รู้ดิ คงพรุ่งนี้ไม่เช้าก็บ่ายเผลอๆเย็นพลบค่ำ” เอ๊ะ? ทำไมเวลามันเลื่อนลงเรื่อยๆ
“โห้ย ยัยแก้วเอาสักเวลาเถอะ” ก็แก้วไม่รู้อ่ะ
“เอาเป็นว่าถ้าแก้วถึงแก้วจะโทรหาพี่กิ่ง ok นะ อย่าลืมเรื่องที่เราสัญญากันไว้ล่ะพี่กิ่ง” ฉันรีบปัดลวกๆไปก่อนจะย้ำสัญญาที่เราสองคนพูดกันไว้
“รูดซิบปากเงียบ ป๊าม๊าไม่รู้แน่นอน อิๆ” พี่กิ่งกระซิบกระซาบฉันอีกครั้ง ฉันเดาเลยแม่ต้องอยู่แถวนั้นแน่ๆ อ่ะ งงล่ะสิฉันพูดเรื่องอะไรกับพี่กิ่ง ใช่ฉันอยู่เมืองไทยแล้วตอนนี้ พึ่งลงเครื่องที่สุวรรณภูมิมาดๆเลยและฉันก็ตอแหลแม่ว่าติดเคสคนไข้ทั้งที่จริงฉันกลับมาถึงไทยตั้งนานแหละเพราะฉันวางแผนกับพี่กิ่งกะเซอร์ไพรส์พ่อกับแม่สักหน่อยไม่ได้เจอกันเกือบ 7 ปี เจอเมื่อไหร่จะกอดหอมให้หายคิดถึงเลยคอยดู
“แค่นี้นะพี่กิ่งแล้วแก้วจะโทรไปทีหลัง เพื่อนรอแก้วอยู่” ฉันรีบกดวางสายหลังนึกได้ว่าฉันไม่ได้มาคนเดียว ฉันดันทิ้งเพื่อนตัวเล็กของฉันไว้นี้สิ O[]O! ป่านนี้คงเตรียมบทเทศน์ฉันยาวเป็นกิโลแล้วมั่ง ตายๆๆ โอ๊ะ นั่นไงยืนอยู่ไง อย่าพึ่งเทศน์แก้วใจนะ เค้าขอโทษ T[]T!!
“ฟาง ขอโทษที่ทำให้รอนาน พอดีแก้วเกิดท้องเสียอ่ะ” ฉันรีบแก้ตัวขุ่นๆก่อนที่สาวน้อยตัวเล็กจะอ้าปากบ่นฉัน เธอมีท่าทีตกใจก่อนจะวางมือลงแล้วย้ายมือเล็กมาแปะหน้าผากฉันแทน หู้ว ยังดีที่ทันการเป็นตามที่ฉันคาดไว้เด๊ะ เดียวนะแตะหน้าผากฉันทำไมเนี่ย - - ?
“แล้วนี้เป็นอะไรมากมั้ยยังปวดท้องอยู่รึป่าว แล้วทำไมถึงปวดท้องล่ะ ไข้ก็ไม่มีนี้” ตัวเล็กถามฉัน ฉันแอบปลื้มเบาๆในท่าทางเป็นห่วงของยัยเพื่อนตัวน้อยของฉัน น่ารักซะไม่มีล่ะ
“โอย สบายมากแก้วหายแล้วไม่ต้องห่วงนะ” ฉันยิ้มเขินที่อยู่ๆเธอก็กอดฉันแน่น อ้ายยย มากอดตรงนี้เดียวคนก็เข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นเลสหรอก อุส่าหนีทอมมาได้นี้ฉันต้องเป็นเลสอีกแล้วเรอะเนี่ย ไม่อาววว
“ฟะ ฟางมีอะไรรึป่าว” ฉันรีบถามพลางมองคนรอบข้างที่เดินผ่านเราสองคนแล้วแอบอมยิ้ม เวรล่ะตู
“ป่าวก็เดียวฟางก็จะไม่ได้เจอแก้วแล้วเลยอยากกอดก่อนจากกัน” ฟางเงยหน้าแนบอกฉันทั้งที่ยังกอดอยู่ สายตาเธอเหมือนแมวน้อยที่กำลังร้องไห้ โอยไม่เอาอย่าทำหน้าตาแบบนั้นสิ แก้วก็ไม่อยากจากฟางไปเหมือนกัน
“แก้วไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย เราก็ยังไลน์หากันได้อยู่นะอย่าลืมสิ โอ้ๆไม่งอแงนะฟาง แก้วสัญญาว่าแก้วจะโทรหาเช้าสายบ่ายเย็นไม่ขาดเลยอ่ะ สบายใจยัง” เธอยิ้มทันทีก่อนจะดึงหน้าฉันมาหอมแก้มซ้ายทีขวาทีสลับกัน อ้ายยยเขินนนนน แก้มแก้วจะช้ำแล้วฟาง
“พอๆๆ อายเขา” ฉันยิ้มพลางลูบหน้าตัวเอง เล่นหอมซะขนาดนี้รับฉันเป็นสามีในอนาคตเลยไหมค่ะ คุณเพื่อนค่า
“จะอายอะไรทำออกจะบ่อย แล้วนี้แก้วจะกลับบ้านยังไง” ฟางถามฉัน เอ่อว่าไปลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท O0O;; เอ๋ ฉันว่าฉันได้ยินเสียงริงโทนนะ ฟางหยิบเอาไอโฟนสีเดียวกับฉันขึ้นมารับสายแล้วพูดค่ะๆๆ อย่างเดียว ก่อนจะหันมายิ้มเศร้าให้ฉัน แสดงว่ารถมารับแล้วสินะ ไม่อาวว แล้วแก้วจะอยู่กับใครล่ะฟาง T_T
“ฟางต้องไปแล้ว รถรออยู่ “ ฉันมาส่งฟางถึงรถเบนส์คันสีดำป้ายแดง โห้ว มันจะไฮโซเกินไปไหม แม่เจ้าโว้ย เมื่อไหร่อีแก้วจะมีบุญวาสนาได้มีแบบนี้มั่ง ฉันช่วยฟางยกเก็บกระเป๋าเสร็จก็มาเปิดประตูรถให้เพื่อนตัวน้อยก่อนลาด้วยรอยยิ้ม เศร้าอ่ะบอกตรงๆ อยากร้องไห้เพื่อนคนเดียวของฉัน
“แก้ว” เธอเรียกชื่อฉันแล้วเข้ามากอดฉันอีกครั้งฉันก็กอดตอบอยู่นานก่อนจะคลายกอด ฟางยื่นแก้มแล้วบอกฉันเป็นนัยๆ ฉันยิ้มเขิน แต่เอาว่ะเดียวก็คงไม่ได้ทำอย่างนี้แล้วยอมหอมแก้มลาเพื่อนตัวเล็กทีหนึ่งแล้วยีหัวเธอด้วยความหมั่นไส้ในความน่ารักเบาๆ คนที่ผ่านมาแถวนั้นร่วมทั้งโชเฟอร์แอบเขินกับความน่ารักของเราทั้งสอง ฉันโบกมือลารถเพื่อนสาวจนลับตาก่อนจะปล่อยลมหายใจเฮือกใหญ่
“แล้วฉันจะกลับไงดีว่ะ” ฉันเกาหัวใช้ความคิด ปัญหารองผ่านไปปัญหาใหญ่ผ่านมาถ้าลองเหมาแท็กซี่มันจะเอาฉันเท่าไหร่กันนะ ต้องแพงหูฉีกแน่ๆเลย บ้านฉันยิ่งบ้านนอกคอกนาอยู่ด้วย แล้วมันก็เป็นจริง มันเก็บฉันเป็นพันเลยค่า ฉันนี้อยากจะร้อง “คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่” ไผ่พงศธรมาเอง คิดว่าฉันเป็นฝรั่งรึไงหัวดำซะขนาดเนี่ยห๊ะ!! จะแพงไปไหน
“น้องไปทำอะไรแถวนั้น” ลุงขับแท็กซี่ถามฉันหลังเรานั่งออกมาสนามบินได้สักพัก
“บ้านเกิดฉันเองค่ะ พอดีไม่ได้กลับนาน” ลุงช่วยหันหน้าไปก่อนได้ไหมบอกตรงๆฉันกลัวลุงแกนิดๆเพราะแท็กซี่สมัยนี้มันไว้ใจไม่ได้ฉันกลัวลุงเอาฉันไปข่มขืนจริงๆ ระวังตัวไว้ก่อนเป็นยอดคน ขอยึดหลักนี้แปป
“อืม แต่แถวนั้นก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ถนนก็ตัดใหม่มีนักท่องเที่ยวไปเยอะพอตัว” ลุงพล่ามอะไรอ่ะ ฉันไม่ได้ฟังเพราะสวมหูฟังฟังเพลงแทนด้วยความเบื่อแต่ก็แอบยิ้มพยักหน้าว่าฉันเข้าใจที่ลุงพูดจนกระทั่งเราขับรถมาหลายชั่วโมง อยู่ๆลุงแกก็คุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ด้วยท่าทีตกใจสุดๆ
เอี้ยดดดดด
รถเบรกกะทันหันแบบไม่ทันตั้งตัวหัวฉันนิกระแทกเบาะคนนั่งเต็มๆ โอยเจ็บโว้ยยยย
“ลุงเบรกรถทำไมเนี่ย” ฉันโวยวายลุงทันที
“บ้านลุงไฟไหม้ ลุงต้องรีบกลับบ้าน” ห้ะไฟไหม้แม่เจ้า ไฟไหม้ หลังจากนั้นฉันก็ถูกทิ้งไว้กลางทางพร้อมกระเป๋าสัมภาระฉัน สิ่งที่หายไปคือลุงกับเงินค่าแท็กซี่ ส่งฉันไม่ถึงที่แล้วยังจะมีหน้าเอาเงินฉันไปอีกไอ้ลุงบ้า >[]< กลับมาน้า เอาอีแก้วทิ้งไว้ไหนเนี่ย!!
“จะบ้าตาย หิวก็หิวง่วงก็ง่วง” เวลานี้น่าจะย่ำรุ่งเกือบตี 5 ได้มั่ง ฉันยังไม่ได้นอนเลยสักนิดเพราะด้วยความกลัวลุงแท็กซี่ลากไปข่มขืนแต่สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้ จนฉันต้องมานั่งคิดหาทางกลับบ้านตัวเองใหม่อีกรอบ ยังดีเจอป้าร้านขายผักลองถามแกดูเผื่อแกรู้
“ป้าคะพอมีรถไปใกล้ๆที่นี้บ้างไหม” ฉันชี้แผนที่บนกูเกิลแม็ปเปิดให้ป้าแกดู แกทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดแล้วเดินไปเรียกลุง เดาว่าน่าจะเป็นสามีแก
“มาเดียวลุงพาไปส่งก็ได้ เพราะลุงต้องไปแถวนั้นพอดี” อ้ากกกก ร๊ากกกลุงกับป้าที่สุด ขอบคุณค่ะ แก้วจะได้นอนแล้วจ้าทุกคนนนน ฉันนั่งรถมากับลุงขายผักจนถึงทางเข้าป่าซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ฉันต้องการมานั้นเอง
“ขอบคุณค่ะคุณลุง” ฉันยิ้มแป้นโบกมือบายๆลุง ก่อนจะลากสัมภาระตัวเองเดินด้วยความเร่งรีบ หนักก็หนักแต่ง่วงคะแนนสูงกว่า สู้ตายคะเพื่อเตียงนอนแสนนุ่มที่บ้านฝืนสังขารตัวเองจนมาถึงบ้านสวนแบบไทยประยุกต์แสนสวยของฉัน เอยไม่ใช่ที่นี้เป็นของคุณย่าฉันเอง ท่านเสียไปก่อนที่ฉันจะไปเรียนมหาลัยเสียอีก ที่นี้ไม่มีใครอยู่แต่ก็จะส่งคนคอยมาปัดกวาดทำความสะอาดอาทิตย์ล่ะครั้งข้างในจึงไม่สกปรกเพราะย่าฉันเป็นคนรักสะอาดมาก แล้วบ้านคุณย่าก็อยู่ห่างจากบ้านเกิดฉันไม่ไกลนัก แต่ที่ฉันเลือกที่จะมานี้เพราะขืนกลับบ้านแทนที่จะกระโดดกอดแม่ฉันคงสลบเหมือด
“ล็อค แสดงว่าไม่มีใครอยู่” ฉันยิ้มแก้มปริก่อนจะมองกระถางต้นไม้ข้างๆ ยกด้วยแรงอันน้อยนิดก็พบกับกุญแจบ้าน หึๆฉันรู้ดีว่าผ่านไปสักกี่ปีกุญแจสำรองนี้ก็ไม่เคยมีใครรู้นอกจากฉันกับคุณย่า ช่วยแก้วไว้จริงๆ
“เตียงแสนร้ากกก แก้วมาแล้วคร่อก” ฉันไม่รอช้าหลังเข้าบ้านล็อกเรียบร้อยก็พุ่งตรงมาที่ห้องนอนคุณย่าแล้วสลบคาเตียงหนานุ่มหลับลงไปทันทีด้วยความเหนื่อยบวกง่วงฟินเป็นบ้า คร่อกฟี้ คร่อกกกก ฟี้
ครืดๆๆ ครืด
ง่ำๆ ฉันเหมือนได้ยินอะไรสั่นๆข้างหู ใครโทรมากวนแก้วตอนนอนกัน คนจะหลับจะนอน
“ฮาโย้ว” น้ำเสียงงัวเงียสุดๆ ก็ฉันพึ่งตื่น ว่าแต่เรานอนนานกว่าที่คิด ข้างนอกเริ่มมืดแล้วแฮะ เอ่อว่าไปใครโทรมาว่ะขอสวนสักที
“ แก้ว นี้ฟางเองนะ” O_O! ยัยตัวเล็กของฉัน ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ด่วน ถุ้ยๆ
“ว่าไงฟางถึงบ้านแล้วเหรอ” ฉันพูดไปพลางเปิดหน้าต่างแล้วสูดอากาศเรียกความสดชื่นให้ร่างกาย
“ถึงแล้วจ้ะ แก้วล่ะ” ฟางถามฉันกลับ ว่าไงดีไอ้ถึงมันก็ถึงอยู่หรอกแต่ไม่ถึงที่สุดนี้สิ
“อืม ถึงแล้วแก้วหลับอยู่เลยรับสายช้า” กลับบ้านเลยดีไหมนะ พึ่งบอกพี่กิ่งไปหยกว่าถึงวันนี้แต่จะยังไงรถก็ไม่มีซะด้วย
“ฟางกวนแก้วหลับรึป่าว แก้วไปนอนต่อก็ได้ฟางไม่กวนละ” เดียวๆๆๆ อย่าพึ่งสิฟาง
“ป่าวๆ ไม่เลยแก้วตื่นแหละล่ะ หืม” ฉันว่าฉันเห็นอะไรข้างต้นไม้ ไม่นะผู้บุกรุกเรอะ O_o
“ฟางแค่นี้ก่อนนะ” ฉันรีบลงบันไดไปอย่างเร็วมาถึงจุดที่ฉันเห็นบางอย่างแต่ไม่ยักมีแฮะ สงสัยฉันจะตาฟาดไปเอง เอ๊ะ อะไรแซกๆตรงพุ่มรึว่าจะเป็นโจรแอบซุ่ม ฉันรีบกำมีดปังตอแน่นรับมือเตรียมฟาด ย้ากกกก
“ห้ะ กระรอก” กระรอกน้อยวิ่งออกมาจากพุ่ม ฉันจึงปล่อยมือลงแล้วเดินตามเจ้ากระรอกที่วิ่งเข้าพุ่มเดิมด้วยความตกใจ ฉันแวกพุ่มออกก็รู้สึกแปลกๆที่มือเหมือนมีอะไรเปื้อนเลยยกขึ้นมาดู เฮ้ย เลือดดดดดดด แล้วไม่พอที่พื้นกับต้นไม้ก็มีเลือดเป็นทางยาว อย่าบอกนะมีการฆาตกรรมเกิดขึ้นแถวบ้านช้านนนนน ฉันไม่รอรีบตามรอยเลือดไปจนมาหยุดอยู่ที่ร่างของใครคนหนึ่งนั่งพิงต้นไม้ด้วยสภาพเลือดโชกเต็มตัว
“คุณ!?”
ตอนแรกฝากเม้นด้วยนะทุกคน เรามือใหม่พึ่งเคยแต่งฟิคครั้งแรกของเราเลยนะเนี่ยเรื่องราวจะแบบไหนรอลุ้นกัน ถ้าอยากให้เขียนก็ช่วยติดตามกันเยอะนะ ^ ^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ