The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
เขียนโดย พายุลมหนาว
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
12) [12] ฉันมันอันตราย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
The Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
Chapter (12)
เอี๊ยด!
ฉันขับรถมาถึงบ้านหรือวิมานกลางเขาที่กว้างใหญ่ไพศาล เอ๋ย คือฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะมันใหญ่โตมโหฬารมากยิ่งกว่าบ้านฉันเสียอีก ขนาดบ้านฉันมีไร่ตั้งเยอะยังดูด้อยลงไปเลยอ่ะ -_- และตอนขาเข้าไม่อยากพูด พวกลูกน้องนายแสนหรือไอ้พวกกลุ่มสิงห์นั้น มันอยู่เต็มเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ก็อย่างว่ารังพวกมันนี้หว่า เฮ้อ เอาเหอะ รีบไปหาฟางดีกว่าเรา
“มาหาใคร?” ปากพล่อยมาก บ้านนี้เขาไม่สอนเรื่องมารยาทเลยหรือไงว่ะ
“ฉันเป็นเพื่อนฟาง” น่ะ ยังจะมองหน้าอีก เดียวแม่ต่อยซะเลยนิ
“ได้นัดไว้รึป่าว?” ก็เอ่อน่ะสิไม่งั้นฉันไม่ถ่อมาถึงนี้หรอก
“อืม ที่นี้จะให้ฉันเข้าไปได้รึยัง?” พวกมันมองหน้ากันแล้วมองไล่สำรวจตัวฉัน ฉันกระชับกระเป๋าสะพายแน่นมองหน้าพวกมันอย่างไม่ไว้วางใจ คิดอะไรกันอยู่ว่ะ ปล่อยๆฉันไปสักที
“เชิญ” มันเปิดทางให้ฉัน ฉันก็รีบเดินผ่านพวกมันเพราะสะอิดสะเอียดสายตาที่มันมอง
“เดียว!” เย้ย!? = =
“อะไรอีก!” ฉันหันไปตะคอกด้วยความหงุดหงิด มันจะอะไรกันนักกันน่าย่ะ พวกมันเดินมาล้อมฉันแล้วยื่นมือขออะไรสักอย่างซึ่งฉันเดาว่ามันคงต้องการกระเป๋าฉันแน่ๆ ฉันไม่ไม่ผู้ร้ายนะเห้ย พวกแกต่างหากที่เป็นน่ะ
“ในนี้ไม่มีอะไรหรอกน่า” ฉันพูดกับพวกมันดีๆ
“เพื่อความแน่ใจส่งกระเป๋ามาดีกว่า” ไม่มีต่อหางเลยนะ ฉันเป็นแขกนะค่ะ
“ก็บอกว่าไม่มียังไงเล่า!” ฉันกำชับแน่นไม่ใช่ว่าหวงอะไรหรอกก็แค่ไม่อยากให้พวกมันยุ่งของใช้ส่วนตัวของฉัน
“บอกให้ส่งก็ส่งมาสิว่ะ!” โห้ว มันเล่นเสียงเลยเว้ย คิดว่ากลัว มันก้าวเข้ามาใกล้ฉัน ฉันก็รีบถอยหลังตั้งหลัก เรื่องอะไรจะให้ก็บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ! มากันตั้งสามคนฉันจะสู้มันยังไงดีเนี่ย >[]<!
“หยุดเดียวนะ!” สวรรค์ทรงโปรด ฟางเดินมาพร้อมกับใครไม่รู้ด้วยสีหน้าโกรธสุดๆเล่นซะพวกมันชะงักก้มหน้างุดเลย ฮ่าๆๆๆ เป็นไงล่ะเล่นกับใครไม่เล่น
“แก้ว ไม่เป็นไรใช่มั้ย!?” ฟางไล่จับตัวฉัน ฉันเลยรีบพยักหน้าตอบยัยตัวเล็กแกล้งทำสีหน้ากลัวนิดๆ
“นี้พวกนายทำอะไรเพื่อนฉันห่ะ!” ฟางตวาดพวกมันซะง่อย สะใจเจรงงง เดียวๆๆเก็บอาการแปป อุ๊บ ฮ่าๆๆ
“พวกผมแค่ขอตรวจกระเป๋าเท่านั้นเองครับ นายหญิง” นายหญิงเลยเรอะ 0v0 ยศสูงเหมือนกันแฮะ
“หึ ไม่รู้ล่ะเมื่อกี้พวกนายเสียมารยาทกับเพื่อนฉัน ฉันจะบอกให้พี่แสนลงโทษพวกนายซะ!” สมแล้วที่เป็นฟางสุดยอดเผด็จการ นึกถึงตอนอยู่อังกฤษเลย -0- อันนู่นไม่ได้อันนี้ไม่ได้ เหอะๆๆ
“แก้วเข้าบ้านกัน ฟางมีเรื่องอยากคุยกับแก้วตั้งหลายอย่างแน่ะ” ฟางดึงฉันตามเข้าบ้าน ฉันแอบยักคิ้วให้พวกมันด้วยความสะใจส่วนตัวและพวกมันก็จ๋อยเรียงตัวเพราะถูกคาดโทษเรียงตัว
“บ้านฟางใหญ่เป็นบ้าเลยนะ” ฉันชื่นชมกับตัวบ้านที่ใหญ่เกินกว่าจะอยู่คนเดียว
“ใหญ่เกินไปมันก็ไม่ดีหรอกแก้ว ฟางน่ะเหงาะจะแย่” ฟางบ่นอุบอิบกอดฉันเหมือนเด็กน้อย ที่นี้เป็นบ้านเล็กที่แยกออกมาจากเรือนใหญ่อีกที นายแสนเองก็เป็นคนดีเหมือนกันถึงให้ฟางแยกออกมาอยู่เพราะถ้าอยู่บ้านเดียวกันมันจะไม่งามถึงเป็นคู่หมั้นกันก็เหอะ โบราณเขาถือ
“น้ำค่ะคุณแก้ว” มณี สาวรับใช้ของฟางยื่นแก้วน้ำให้ฉันที่กำลังหยิกหน้ายัยตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว
“ขอบคุณจ้ะ ณี” เป็นคนสวยเหมือนกันนะเนี่ย
“แก้ว แก้ว” อืม เดียวสิฟางแก้วกินน้ำอยู่
“มีอะไร?” ฉันวางแก้วน้ำลงแล้วถามยัยเพื่อนสาวที่เอาแต่กอดด้านหลังฉันไม่ปล่อย
“ฟางอยากไปเที่ยวข้างนอกอ่ะ แก้วพาฟางไปหน่อยได้ไหม” ห่ะ! ฟางจ้า แก้วคงจะถูกพวกมันยิงตายเอานะสิ
“เอ่อ แก้วว่า..” อย่าทำหน้าอย่างนี้สิฟาง ก็รู้อยู่ว่าแก้วแพ้ลูกอ้อนอ่ะ >.,<!
“ไม่ได้นะค่ะ คุณหนู เกิดคุณหนูหายไปจากบ้านตอนนายหัวไม่อยู่ มีหวังบ้านได้แตกกันพอดีนะสิค่ะ” ใช่ๆ ณีพูดได้ดีมาก วันนี้นายแสนไม่อยู่เหรอ โชคดีไปไม่ต้องหวั่นว่าจะเจอไอ้หมอนั่นด้วย
“ก็ฟางเบื่อนิ” แก้มป่องเลย ถ้าจะเก็บกดนะนั้น
“ที่ณีพูดก็ถูกนะฟาง เกิดฟางหายไปทุกคนในบ้านจะวุ่นวายเอานะ” ฉันรีบประโลมต่อ แต่กลับกลายเป็นทำให้ยัยเพื่อนสาวหน้าบูดกว่าเดิมซะงั้น อ้าว เวรกรรมแล้วไง
“วันๆให้อยู่แต่ในบ้านถ้าจะออกไปทีก็ต้องมีคนของพี่แสนตามมาด้วย ฟางอยากไปแบบส่วนตัวบ้างไรบ้างไม่ได้รึไงกัน ฟางเป็นคนนะทำไมต้องกักขังฟางอย่างกับนักโทษด้วย” ฟางเริ่มตัดพ้อรัวๆ ฉันนิหน้าเจื่อนหันไปมองมณีที่ถอนหายใจ
“เอาน่าฟาง นายแสนนั้นเขาก็คงจะเป็นห่วงฟางนั้นแหละถึงให้คนคอยตามคุม เอ๋ย ดูแลไม่ห่างน่ะ” เท่าที่ฟังมันก็กักขังหน่วงเหนี่ยวจริงๆ แต่ถ้าคิดตามหลัก นายแสนคงกลัวฟางเป็นอันตรายเพราะพี่แกเล่นสร้างศัตรูไว้ตั้งเยอะ ฟางเองก็คงไม่ปลอดภัย
“.....” อย่าเงียบสิฟาง =v=;; แก้วลำบากใจน่ะ ฉันกวักมือเรียกยัยตัวเล็กมาแล้วย่อตัวลงกระซิบข้างหู
“ถ้าฟางอยากเที่ยวจริงๆ แก้วจะพยายามหาทางพาฟางไปเที่ยวเอง” ฟางพยักหน้าแล้วยิ้มสดใส
“สัญญานะ” ฟางขอเกี่ยวก้อยฉัน
“สัญญาสิ คนอย่างแก้วเคยผิดคำพูดซะทีไหน” ฉันเกี่ยวก้อยตอบแล้วฟางก็ขอตัวไปเอาของบนห้อง กว่าจะกล่อมยัยนี้ได้นิถ้าไม่สนิทกันคงหัวแทบระเบิด
“คุณแก้วนี้เก่งจังเลยนะค่ะ ทำให้คุณหนูฟางยิ้มได้ทันที” ก็ฉันเพื่อนยัยนั้นนิ มณี
“แก้วก็ไม่ได้เก่งอะไรนักหรอก เอ่อนี่ณี ห้องน้ำไปทางไหนอ่ะ?” กินน้ำมากไปหน่อย ชักจะปวดห้องน้ำซะแล้วสิ >_<!
“ตรงไปขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวซ้ายค่ะ” มณีชี้ทางเสร็จ ฉันก็รีบชิ่งมาอย่างเร็ว ทางยาวตลอดบ้านนี้นิมันสวยทุกมุมจริงๆ ต้องขอชื่นชมสถาปานิก ออกแบบได้สวยสุดๆ สงสัยต้องขอเบอร์ไว้สักหน่อยจะได้บอกให้เขาออกแบบเรือนหอในอนาคตให้ ฮ่าๆๆ ชาตินี้จะมีบุญวาสนาไหมว่ะ อีแก้ว
“ขึ้นบันไดแล้ว เลี้ยว ซ้าย อั่ก!” ชนใครอีกว่ะ ตาปีตาชาติทำไมถึงชอบมีคนดักทางฉันบ่อยเป็นบ้า
“ขอโทษคะ เฮือก!” O_O!!! นะ นาย ทำไมนายถึงอยู่ที่นี้
“......” โทโมะเหมือนจะอึ้งเหมือนกันที่ฉันอยู่นี้ แต่แล้วไงเล่า ฉันยังจำคำพูดของเขาได้ดี คำเหยียดหยามที่ทำเหมือนฉันเป็นผู้หญิงไร้ค่า ทำดีกับฉันเพื่อหวังสิ่งที่ผู้ชายมักมากต้องการ ฉันหลบตาเขาแล้วเลือกที่จะเดินผ่านร่างเขาไป ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเพราะแค่นี้มันก็เกินพอกับความรู้สึก แค่ตบมันยังไม่พอกับความรู้สึกดีๆที่ฉันมีให้
“ไม่ตามมา” ฉันเหลียวหลังดูกลับพบกับความว่างเปล่า ในใจฉันแอบหวังว่าเขาจะมีจิตสำนึกบ้าง ทีไหนได้ ดูท่าสิ่งที่เขาพูดคงเป็นจริงอย่างว่า หึ ผู้ชายมันก็เหมือนกันทั้งโลก แต่อย่างน้อยก็เว้นไอ้ป็อปคนหนึ่งล่ะว้า เฮ้อ ทำไมฉันถึงต้องหงุดหงิดแปลกๆด้วย รีบทำธุระให้มันเสร็จๆจะได้ไปหาฟาง
“เฮ้ย” OAO!? ฉันตกใจที่พอเปิดประตูก็เจอโทโมะดักหน้าห้องน้ำ เขาจ้องฉันนิ่งแต่นั้นไม่ทำให้ฉันนิ่งตามด้วย
“หลีก” ฉันทำเสียงเย็นใส่เขาพร้อมทั้งดันเขาออกเพราะเขาเล่นขวางทางฉันออกไปไม่ได้แต่กลับกลายเป็นถูกเขาดันกลับเข้าห้องเดิมมาซะงั้น เฮ้ย O[]O!? แถมปิดประตูให้ด้วย ดี ถือว่ามีจิตสำนึก ไอ้บ้าใช่เรื่องไหม ผลักฉันเข้ามาทำไมห่ะ!!!
“นะ นายคิดจะทำอะไร!?” ฉันถอยกรูดติดกำแพงพลางหาทางหนีทีไล่ไปด้วย
“เป็นอะไรไปเดียวนี้กลัวฉันซะแล้วเรอะ” เขาล็อคทางหนีฉันหมดเอามือยันกำแพงทั้งซ้ายและขวาไม่ให้ฉันหนีเลยสักนิด
“ไม่ได้กลัว” ฉันใจแข็งสู้ สบตาเขากลับแบบกล้าๆกลัว
“จริง เรอะ” เขาถามพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้ฉันทำให้ลมหายใจร้อนของเขารดประสานกับลมหายใจฉัน ความร้อนระอุเข้าไปกระตุ้นเม็ดสีให้เข้มเด่นชัดจนหน้าฉันแดงออกมา คิ้วบางเรียวคดเข้าหากันแล้วเบือนหนีตามเครื่องแสดงอารมณ์ ทำไม ฉันถึงไม่กล้าสบตาเขากันนะ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆทั้งที่ฉันก็ไม่ได้กลัวเขา
“ฉันไม่ได้กลัวอะไรนายทั้งนั้นแค่ไม่ไว้ใจ” ฉันพูดเบาลงในช่วงท้าย ความไว้วางใจที่เคยมีมันหมดไปตั้งแต่นายเลือกที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงในคืนนั้น
“นั้นก็ควรรู้ไว้ว่าฉันมันอันตรายมาตั้งนานแล้ว” ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ ในสิ่งที่เขาพูด
“เธอน่ะ ไว้ใจคนง่ายเกินไปจนบางทีอันตรายจริงๆมันอาจอยู่ใกล้กว่าที่เธอคิด” เขาตอกย้ำทุกคำเข้าไปในโสตประสาทฉัน
“เหมือนกับนายสิน่ะ” ฉันมองเขากลับด้วยสีหน้าผิดหวัง เขากระตุกนิดหนึ่งแล้วกลับมานิ่งเหมือนเดิม
“ใช่ เหมือนกับฉัน” 0_0.... ทำไม เขาถึงไม่เถียงกลับ ทำไมเขาถึงไม่โต้แย้งบ้าง นายรู้มั้ย ฉันอยากให้นายตอบว่า ไม่ หรือโกหกอะไรฉันสักนิดก็ได้ ทำให้ฉันคิดว่าเรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ก็อกๆๆๆ !
ฉันกับโทโมะสะดุ้งโหยงทั้งคู่ เรามองประตูเป็นตาเดียวกันด้วยความตกใจ และดูท่าจะมีแค่ฉันที่ร้อนตัวกว่าใครเพื่อน
“คุณแก้วค่ะ นี้มณีเองนะค่ะ” มณีเป็นคนเคาะเองหรอกเรอะ ตกใจหมด
“มีอะไรรึป่าวณี?” ฉันรีบตอบกลับมณีทันที
“พอดี มณีเห็นคุณแก้วหายไปนานเลยเป็นห่วง” ฉันอยู่กับโทโมะนานขนาดนั้นเชียว
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกณี เดียวฉันตามไปนะ” แล้วนั้น นายจะไปไหนน่ะ โทโมะ เขาเลิกกักฉันแล้วเดินไปที่ประตู จะบ้าเรอะขืนออกไปณีก็เห็นนายกับฉันอยู่ด้วยกันหรอก
“นายทำบ้าอะไรน่ะ!?” ฉันรีบเข้าไปกระชากมือหน้าเขา
“ก็จะออกไปไง ทำไมหรือเธอเปลี่ยนใจอยากเล่นจ้ำจี้กับฉันซะแล้วล่ะหืม” เขาพูดก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มเดินเข้าหาฉัน จ้ำจี้อะไรห่ะ!?
“ไม่ใช่ย่ะ ขืนนายออกไปมีหวังณีได้เข้าใจผิดกันพอดี” ฉันพยายามอ้างเหตุผลพร้อมกับถอยลนลานกลับจนเผลอก้าวพลาดหงายลงแต่กลับไม่รู้เจ็บเลยสักนิดหลังลงพื้นอย่างแรง ที่เอวบางถูกกันโดยแขนแกร่งของชายหนุ่มตรงหน้าฉันและเขาก็คร่อมร่างฉันอยู่ด้วย O[]O!!!
“ออกไปนะ!” ฉันรีบผลักเขาออกแล้วลุกหนีอย่างเร็วแต่ไม่ทันสำเร็จร่างฉันก็ล่วงลงนั่งติดพื้นรอบสอง
“โอ๊ย เจ็บๆ” ทำไมมันถึงปวดเท้าเป็นบ้าเลย โอ๊ย ตาคู่สวยไล่สำรวจบริเวณปวดร้าวรานมันคือข้อเท้าข้างขวาที่ฉันเผลอก้าวพลาดเมื่อกี้ มันพลิกจนเป็นแผลบวมเป่งสง่า >[]< เจ็บบบบบบบบบบบบบ!!! โทโมะรีบเข้ามาดูฉันแล้วจับข้อเท้าฉันขึ้นดูแต่ฉันถอยหนีทำให้มันกระตุกแผลจนปวดซ้ำแล่นเข้าประสาทสั่งการฉันให้ชะงักค้างทันควัน T[]T เจ็บง่ะ
“ยัยบ้าอยู่นิ่งๆสิ อย่าทำกร่างได้มั้ย!” เขาสั่งเสียงดุ แล้วนายจะมาด่าฉันทำไมเนี่ยห่ะ!
“ไม่ต้องยุ่งน่า ฉันไม่เป็นอะไร” ฉันขืนเท้ากลับแต่เขาเล่นกระชาก เน้นนะ กระชากขาสวยฉันมาวางบนเข่าเขาแล้วก้มดู ฉันน้ำตาปริบเล็กน้อยเพราะเจ็บที่โทโมะเล่นดึงซะแรง
“ซุ่มซ่ามชะมัด” เขาถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน ฉันดึงข้อเท้ากลับมาดูเอง เส้นเอ็นคงขาด บวมใหญ่ซะขนาดนี้ บ้าชะมัด ฉันพยายามฝืนเท้าลุกขึ้นยืนให้ปกติที่สุดแล้วผ่อนลมหายใจก่อนจะก้าวเท้าแรก ความเจ็บแปล๊บจู่โจมฉันซะเกือบล้มแต่ดีที่ฉันเกาะกำแพงได้ทันแล้วลองใหม่อีกครั้ง ถึงฉันจะรู้สังขารตัวเองดีแต่ฉันก็ไม่อยากขอความช่วยเหลือจากคนข้างหลังฉันนักหรอก
“ว้าย!” ขณะฉันกำลังเดินออกห้องน้ำด้วยเท้ากะเผลกๆนั้น ฉันก็ถูกโทโมะช้อนร่างขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิงแบบไม่ทันตั้งตัว
“กว่าจะถึงคงไปล้มหัวฟาดตายที่ไหนซะก่อน” โทโมะพ่นคำร้ายๆแล้วเดินอุ้มร่างฉันไป ระหว่างทางฉันทั้งโวยวายทั้งจิกให้เขาปล่อยจนเจ้าตัวรำคาญรีบขู่เข็ญฉันว่า ถ้ายังดิ้นไม่เลิกเขาจะปล้ำฉัน นั้นแหละเป็นเหตุผลทำไมฉันถึงได้แต่กอดอกฮึดฮัดปล่อยให้เขาพาร่างฉันมาถึงห้องครัว
“แก้ว!” ฟางวิ่งมาหาฉันทันทีที่เห็นฉันกับโทโมะ ยัยตัวเล็กมองฉันกับโทโมะสลับกันอย่างงงๆที่เราสองคนมาด้วยกันได้ไงและมณีที่ตามมาทีหลังก็เช่นกัน ช้าไปแล้วแม่คุณ
“โทโมะเกิดอะไรขึ้นน่ะ!?” ฟางถามเขาอย่างเป็นกันเองมาก =_=? คำถามนั้นมันต้องถามฉันไม่ใช่เรอะฟาง
“พอดีผมได้ยินเสียงโครมครามในห้องน้ำเลยเปิดเข้าไปดูก็เจอเขาล้มอยู่กับพื้นครับ” ฉันหันไปจิกตาใส่เขาที่พี่แกเล่นโกหกหน้านิ่ง พูดมาได้ล้มอยู่แล้ว นั่นมันเพราะนายเป็นต้นเหตุทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ต่างหากเล่า ไม่อยากจะพูด หึ่ย
“แฮะๆ แก้วซุ่มซ่ามเองแหละ แต่ไม่เป็นไรแล้วล่ะ นี้นายเลิกอุ้มฉันได้แล้วฉัน Ok แล้วน่า!” ฉันรีบพูดปลอบยัยตัวเล็กให้เย็นลงก่อนจะสั่งให้เขาปล่อยลง โทโมะมองหน้าฉันกับฟางก่อนจะยอมปล่อยร่างฉันลงยืน ฉันยิ้มให้ฟางแล้วดูขาตัวเอง มันไม่เจ็บแล้วนะฉันคิดว่างั้นแต่พอก้าวเท่านั้นแหละทำเอาฉันทรุดแต่โทโมะโอบเอวฉันไว้ทัน
“อวดเก่งซะจริง” ฉันหน้าหงิกรีบหลบตาเขา ไม่เข้าใจจริงๆทำไมเขาถึงปากร้ายเป็นบ้า
“ณีว่าคุณโทโมะพาคุณแก้วไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะดีกว่านะค่ะ” มณีรีบออกความเห็น
“นั่นสิ โทโมะฝากด้วยนะ เดียวฟางไปเอากล่องพยาบาทก่อน” ฟางพูดขอโทโมะให้พาฉันไปที่ห้องนั่งเล่นในบ้าน
“ฟาง ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้แก้วไม่เป็นอะไร โอ๊ย” ฉันดันลงน้ำหนักข้างที่พลิกเผลอลั่นด้วยความปวดแต่ฉันเกาะแขนเขาไว้เลยไม่ล่วง โทโมะอุ้มร่างฉันขึ้นอีกครั้งและรอบนี้ฉันไม่ขัดขืนเพราะขัดไม่ออกจริงๆมันเจ็บมากจนฉันเถียงสู้เขาไม่ออก เขาอุ้มฉันมาถึงห้องนั่งเล่นแล้ววางลงบนโซฟาตัวใหญ่สักพักก็ตามมาด้วยฟางและมณีที่ไปเอากล่องพยาบาทมาให้
“โอยๆๆ ฟางจ้า เบาๆ” ฉันถูกยัยตัวเล็กเอาน้ำแข็งบี้เท้าสกัดดาวรุ่งเพราะฉันยื้อจะแย่งเอามาจัดการเอง
“คนเจ็บน่ะอยู่นิ่งๆไปเลยเดียวฟางจัดการเอง” ฟางนิ่วหน้าสั่งขาดจนฉันต้องนิ่งตาม ฉันแอบสังเกตเห็นโทโมะที่ยืนกำกับอยู่หลังฟางหัวเราะเยาะฉันเงียบๆ ฉันเขม่นเขา โทโมะก็หุบยิ้มแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กลับและพอหันกลับมามองฟาง ฉันก็ถูกยัยเพื่อนสาวขึงตาใส่เล่นซะฉันหน้าเจื่อนลง
“วันนี้มันวันซวยอีกวันของฉันรึไงกันน้า” ฉันบ่นงึมงำขณะนั่งประคบเย็นที่เท้าอยู่ในห้องเดียวกับนายโทโมะสองต่อสองส่วนฟางบอกจะไปเอาขนมมาให้ฉัน โทโมะเหลือบฉันนิดๆแล้วก้มหน้าไม่สนใจต่อ อึดอัดจริงโว้ย! เมื่อไหร่ฟางจะมาน่ะ
“แก้ว ฟางเอาขนมมาให้จ้ะ” ขนมมาแย้ววววววว \>w</ แก้วอยากกินหนม ฉันนั่งกินอย่างสุขใจเพราะขนมแสนอร่อยฝีมือยัยตัวเล็กของฉัน ฟางยิ้มแล้วป้อนขนมให้พลางแกล้งฉันเล่นตามประสาเพื่อนร๊ากกกก อร่อยสุดๆ ไม่อยากโม้
“แก้วจะกลับกี่โมงอ่ะ” ฟางถามฉันไปมือก็ป้อนขนมเข้าปากฉันไม่เลิก
“อืม คงสัก 6 โมงล่ะมั่ง แก้วบอกม๊าไปว่าไม่เกินทุ่ม” ฉันตอบยัยตัวเล็กกลับ
“แล้วแก้วจะกลับยังไง?” กลับยังไง ถามอะไรแปลกๆ
“ก็ขับรถกลับนะสิ แก้วเอารถมาน่ะ เอ่อ จริงด้วย” ฉันพูดก่อนจะฉุดใจนึกได้ว่าตัวเองเท้าเจ็บอยู่ฉันคงขับรถไม่ไหวแน่
“เอางี้ โทโมะนายว่างตอนเย็นใช่มั้ยช่วยไปส่งแก้วให้หน่อยนะ”
“ไม่เอา!!!”
อัพวันล่ะนิดจิตแจ่มใส โมะแก้วมาเต็ม อัพให้แล้วนะ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันติดตามผลงานของเรา รู้สึกดีใจที่มีคนอ่าเยอะขนาดนี้ เราจะพยายามให้ดีที่สุดนะทุกคน >w</
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ