วุ่นนัก รักซะเลย

9.2

เขียนโดย กลางสายฝน

วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.36 น.

  58 ตอน
  778 วิจารณ์
  74.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 00.52 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

43) เธอพาลมหายใจของฉันติดมือไปด้วย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
                    เศษเกินจากกระเป๋าของชายหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ปลายเตียงถูกโยนมาถึงร่างบางที่นอนแน่นิ่งอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ก่อนที่เขาจะเดินหายออกไปจากคอนโดแห่งนี้
 
                    ร่างบางหรี่ตาขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงปิดประตู เธอปล่อยโฮร้องไห้เหมือนคนจะขาดใจ เธอคิดว่าตัวเองสูญเสียไปหมดทุกอย่างแล้วในตอนนี้ ทั้งความรักที่เธอมีให้เขา และศักดิ์ศรีของเธอ เขาย้ำยีมันอย่างไม่ใยดี เขาคงเกลียดเธอจริงๆ เขาถึงได้ทำกับเธอขนาดนี้ ..
 
                    เธอพยุงร่างของตัวเองออกจากเตียงนรกนั่นก่อนจะหยิบฉวยผ้าเช็ดตัวที่วางไว้ข้างๆมาห่มแล้ว้เดินเข้าไปในห้องน้ำ เธอปลดผ้าเช็ดตัวนั่นออก ยื่นมองเรือนร่างของตัวเองในกระจกบานใหญ่ รอยจ้ำแดงที่เขาตีตราเอาไว้บนกายเธอตั้งแต่จนคอ หน้าอก หน้าท้อง จนถึงขาอ่อน เธอพยายามขูมมันออกด้วยเล็บของเธอจนเลือดซึม  เธอคงทั้งรังเกียจทั้งแค้นเขาไม่น้อยกับสิ่งที่เขาทำไว้กับเธอ ....
 
 
                    " พี่แก้ว รูปภาพหนูสวยป๊าวววว " เด็กน้อยในชุดชาวเขาวิ่งเขามาหาชั้ลที่นั่งเหม่ออยู่บนท่อนไม้ริมเนินเขา ชั้ลรับภาพวาดจากซ่างหม่องมาแล้วอดยิ้มไม่ได้ 
 
 
 
 
                    " รูปใครคะ ส๊วยสวย " ชั้ลลูบผมซ่างหม่องอย่างเบามือก่อนจะหันไปถามเด็กชายตัวน้อย
 
 
 
                    " ก็รูปพี่แก้วไง สวยเหมือนพี่แก้วเล๊ยยย " ซ่างหม่องยิ้มกว้าง ก่อนจะอวดรูปของตัวเองแล้วขึ้นมานั่งบนตักชั้ล 
 
 
 
                    หลังจากเกิดเหตุการณ์บ้าๆนั้น ชั้ลหยิบเงินสามพันบาทที่ไอ้ซาตานตนนั้นเขวี้ยงไว้ให้ชั้ล กัดฟันจับมันแล้วโทรศัพท์ไปลาแม่ ก่อนจะเดินทางมาที่นี่ 
 
 
                    เพื่อนชั้ลเป็นครูอาสาอยู่ที่นี่ 3 ปี ชั้ลเลยเลือกที่จะติดต่อกับมันแล้วมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันนั้น เพราะชั้ลคิดว่ามันไกลที่สุด และไม่มีใครสามารถติดต่อชั้ลได้แน่นอน ถ้าชั้ลไม่ได้ติดต่อกลับไป 
 
 
 
 
                    " มานั่งอยู่ตรงนี้อีกละ ไปกินข้าวกัน " แพรเดินเข้ามานั่งข้างๆชั้ลก่อนจะบ่นอุบอิบ 
 
 
 
                    " มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหนะ " เกือบทุกวันที่ชั้ลมานั่งอยู่ตรงนี้ทุกๆตอนเช้าและก่อนนอน มันเจ็บนะกับสิ่งที่เค้าทำไว้กับชั้ล แต่ทำไมใจชั้ลมันยังบ่นคิดถึงเขาอยู่ ชั้ลอยากจะตัดหัวใจของตัวเองแล้วขว้างทิ้งไปให้ไหลๆจังเลย ชั้ลไม่อยากมีหัวใจ ชั้ลไม่อยากรักใคร ชั้ลไม่อยากรู้สึกเสียใจแบบนี้อีกแล้วว 
 
 
 
 
                    " เออ งั้นไปกินข้าวได้แล้ว ชั้ลหิวแล้วเนี่ย " แพรพูด
 
 
 
 
                    " ซ่างหม่องหลับอีกแล้ว  ฮ่าฮ่าฮ่า " ชั้ลกำลังจะลุกขึ้น แต่ก็ลืมตัวไปว่ามีเด็กตัวน้อยอยู่ในตักของชั้ล โชคดีที่ชั้ลมีซ่างหม่อง เขาทให้ชั้ลหายเครียด และลืมเรื่องบ้าๆนั้นไปได้เวลาที่ชั้ลอยู่กับเค้า 
 
 
 
                    " ซ่างหม่องดูติดแกมากเลยนะ มีแต่แกนั้นแหละที่เอาอยู่ ก่อนแกมานี่ดื้อมาก ไม่ยอมไปโรงเรียนเลย พอเห็นแกเท่านั้นแหละ แหมมม มาโรงเรียนได้ทุกวัน ชั้ลละหมั่นไส้จริงๆ " แพรแบะปากก่อนจะขยี้ผมเด็กตัวน้อยที่น้อยหลับสนิท 
 
 
 
 
                    " ไปกินข้าวดีกว่าไป " ชั้ลช้อนร่างเล็กมาไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินไปที่ลานใกล้ๆห้องเรียน ลานทานข้าว ที่เหล่าครูและเด็กนักเรียนจะมาทานร่วมกันในตอนเช้า มันเป็นทานกว้างๆ แล้วมีโต๊ะเก้าอี้ที่ชาวบ้านทำกันเองจากไม้ ลานแห่งนี้ถูกโอบอ้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ทำให้เราสามารถทำกิจกรรมตรงนี้กันได้ตลอดวัน 
 
 
 
 
 
 
                    ณ ห้องของประธานบริษัท
 
 
 
 
 
                    " ในเมื่อแก้วลาออกไปแล้ว งั้นฟางมาเป็นเลขาให้โมะเองนะ " หลังจากที่ยื่นแฟ้มเอกสารการซื้อขายให้กับโทโมะ เธอยื่นหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งหน้านิ่งอ่านแต่เอกสารโดยไม่ได้สนใจอะไรเธอเลย
 
 
 
 
                    " แล้วแต่ " เขาตอบสั่นๆ แล้วเซ็นเอกสารราวกับคนไร้ซึ่งอารมณ์และความรู้สึก 
 
 
 
 
                    " งั้นฟางเอาของๆแก้วไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของ แล้วฟางจะใช้โต๊ะนี้นะ " ฟางพูดพร้อมๆกับสังเกตสีหน้าของอีกฝ่าย
 
 
 
                    ปัก ! เสียงปิดแฟ้มเอกสารดังก้องจนหญิงสาวตกใจสะดุ้งตัวเล็กน้อย ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาว ก่อนจะละสายตาแล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้น 
 
 
 
 
                    " เอาโต๊ะเก้าอี้ ขึ้นมาในห้องผมชุดนึง " เขาโทรศัพท์ไปสั่งใครสักคนก่อนจะวางสายไป แล้วหันมาทำเอกสารต่อ 
 
 
 
                    ฟางยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกจากห้องไป 
 
 
 
 
 
                    จนถึงตอนเที่ยง หญิงสาวเก็บกระเป๋าก่อนจะเดินตรู่เข้าไปหาชายร่างสูงที่หมกมุ่นอยู่กับเอกสารบนโต๊ะ 
 
 
 
 
                    " โมะ ฟางหิวข้าวแล้ว ไปหาข้าวกินกันนะ " ฟางยิ้มร่าเริงให้ โทโมะเงยมองหน้าฟางนิ่งๆก่อนจะเก็บเอกสาร แล้วเดินนำออกจากห้องไปโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ จนถึงร้านอาหาร 
 
 
 
                    พนักงานนำเมนูมาให้ก่อนจะยืนรอจดเมนู
 
 
 
 
                    " ต้มยำกุ้งคะ " ฟางสั่ง ก่อนจะหันมาถามโทโมะ " โมะเอาอะไรอีกมั้ย "
 
 
 
 
                    " ฟางอยากทานอะไรก็สั่งได้เลย " เขาตอบด้วยสีหน้านิ่งขรึม 
 
 
 
                    " เพิ่มกุ้งอบวุ้นเส้นอีกอย่างแล้วกันคะ " ฟางสั่งต่อ 
 
 
 
 
 
                    " โมะ ฟางย้ายกลับมาที่คอนโดเดิมแล้วนะ " ฟางพูด โทโมะพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม 
 
 
 
                    " โมะดูเครียดๆนะ เป็นอะไรหรือเปล่า " ฟางถามพร้อมกับทำท่าทางเหมือนเป็นห่วง
 
 
 
 
                    " เครืยดเรื่องงานนิดหน่อย " โทโมะตอบนิ่งๆ 
 
 
 
 
                    " หรอ สงสัยพอไม่มีเลขา ก็เลยวุ่นๆเนาะ " ฟางพูด ก่อนจะยิ้มมุมปาก
 
 
 
                    โทโมะนั่งก้มหน้านิ่ง หายใจถี่ขึ้น ก่อนจะตัดสินใจถามฟาง  " แก้วติดต่อมาบ้างหรือเปล่า " 
 
 
 
 
                    " ก็ตั้งแต่ที่แก้วยื่นใบลาออก แก้วก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย แม้แต่ป๊อปก็ติดต่อแก้วไม่ได้ " ฟางพูดพร้อมสังเกตุท่าทางของโทโมะ 
 
 
 
 
                    " แน่ใจหรอ ว่าไอป๊อปมันติดต่อแก้วไม่ได้ " น้ำเสียงของเขาดูขุ่นเคืองขึ้นมาทันทีที่พูดถึงป๊อป 
 
 
 
                    " อื้ม วันก่อนป๊อป พี่ดิน พี่หนึ่ง แล้วก็ฟางไปตามหาแก้วกันแต่ก็ไม่เจอ " ฟางพูด 
 
 
 
 
                    " หึ ! ไม่แน่บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะไปนอนกกอยู่กับผู้ชายคนไหนสักคนในสามคนนี้ก็ได้ " โทโมะพูด 
 
 
 
 
                    " อื้ม โมะ โมะยังคิดกับฟางเหมือนเดิมอีกมั้ย " ฟางเลื่อนมือไปจับมือของโทโมะ แล้วเอ่ยถามอย่างจริงจัง จนอีกฝ่ายอึ้งไป 
 
 
 
 
                    " ฟางเลิกกับไอ้ป๊อปแล้วหรอ " โทโมะถาม
 
 
 
 
                    " อื้ม ฟางคิดว่าถ้าฟางอยู่กับโมะ ฟางน่าจะมีความสุขกว่า " ฟางพูด  โทโมะยังนิ่งอยู่ 
 
 
 
 
                    " อาหารมาพอดีเลย " ไม่ทันที่โทโมะจะตอบอะไร อาหารก็ถูกวางลงบนโต๊ะซะก่อน ฟางอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตามน้ำไป 
 
 
 
 
 
                    หลังจากทานข้าวเสร็จ โทโมะก็มาส่งฟางที่บริษัท ก่อนจะขับรถออกไปข้างนอก 
 
 
 
 
                    " พี่หนึ่ง พี่ดิน เรื่องแก้วไปถึงไหนแล้วคะ " ฟางเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของหนึ่งกับดิน 
 
 
 
 
                    " ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ไม่รู้มันหายหัวไปไหนของมัน นี่ก็เกือบสองอาทิตย์แล้วนะ " ดินบ่นอย่างเป็นห่วง 
 
 
 
 
                    " เมื่อวานฟางให้ป๊อปเชคโลเคชั่นที่แก้วโทรเข้ามาหาฟาง ป๊อปบอกว่าโทรจากทางภาคเหนือ " ฟางบอก 
 
 
 
 
                    " ภาคเหนือหรอ ไอ้เจษมันอยู่ที่นั่นนิ โทรหาไอเจษดิ " หนึ่งสั่ง 
 
 
 
 
                    " เออๆ " ดินรับคำ แล้วรีบกดโทรศัพท์ทันที 
 
 
 
                    " ทำไมถึงได้ไปไกลขนาดนั้นเนี่ย " หนึ่งบ่น 
 
 
 
 
                    " สงสัยกะจะหายตัวไปไม่ให้ใครหาเจอเลยมั้งคะ " ฟางพูด หนึ่งนิ่งไป 
 
 
 
 
                    " หรือว่าเป็นเพราะพี่พูดกับแก้วแบบนั้น แก้วก็เลยโกรธแล้วก็หายตัวไป "  หนึ่งใจคอไม่ดี
 
 
 
 
                    " แล้วพี่หนึ่งพูดว่าอะไรคะ " 
 
 
 
 
                    " เอ่ออออ คือ พี่... พี่สารภาพรักกับแก้ว " หนึ่งอายๆก้มหน้าลงไม่กล้ามองหน้าฟาง 
 
 
 
 
                    " ไม่น่าจะใช่ " ฟางพูดขึ้นลอยๆ ในหัวของเธอเริ่มจะคิดถึงอาการของโทโมะ ที่ดูเย็นชากับฟาง ไม่เหมือนแต่ก่อนที่เขาจะอ่อนหวานและดูแลเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี 
 
 
 
 
                    " เดี๋ยวฟางขอตัวก่อนนะ " ฟางรีบเดินออกจากห้องดิน หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องโทโมะ 
 
 
 
                    " โทโมะหายไปไหน " เธอเอะใจ เพราะไม่เจอโทโมะในห้อง ก่อนจะหันไปที่โต๊ะของแก้ว ' ทำไมไม่ให้ย้ายโต๊ะของแก้ว ทั้งๆที่แก้วก็ลาออกไปแล้วนะ '
 
 
 
 
 
                    บ้านแม่มิ่ง 
 
 
 
 
                    " หายหน้าหายตาไปเลยนะ นึกว่าจะไม่กลับมาหาแม่ซะแล้ว " แม่มิ่งบ่นทันทีที่เห็นหน้าโทโมะ 
 
 
 
 
                    " ขอโทษครับ " เขาตอบนิ่งๆเหมือนคนเหนื่อย ก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษแม่มิ่งแล้วล้มตัวลงนอนบนตักของเธอ 
 
 
 
 
                    " เป็นอะไรมาอีกละ ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ " แม่มิ่งลูบผมโทโมะ แล้วลองใบหน้าหล่อที่ดูเศร้าหมองด้วยความเป็นห่วง
 
 
 
 
                    " มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยครับแม่ " โทโมะพูดพลางเอามือของแม่มิ่งมาวางบนอกตัวเองแล้วจับเอาไว้ 
 
 
 
 
                    " เรื่องอะไรหละลูก บอกแม่ได้มั้ย " แม่มิ่งถาม 
 
 
 
                    " ผมรู้สึกเหมือนตอนนี้ผมกำลังขาดอากาศหายใจ มันรู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีความสุข มันอยู่ไม่ได้ ผมบอกไม่ถูกจริงๆครับแม่ " โทโมะพูด
 
 
 
                    " หรอ แล้วเป็นแบบนี้ตอนไหนแล้วหละลูก " แม่มิ่งถาม 
 
 
 
                    เขาไม่ตอบอะไร แต่คำตอบของเขามันปรากฏเป็นภาพกรี๊ดร้องของหญิงสาวที่เขาข่มเหงรังแกเธอ และตอนนี้เธอก็หายไปจากชีวิตของเขาแล้ว  
 
                    เธอไม่ได้หายไปแค่ตัว แต่เธอพาลมหายใจของเขาติดมือเธอไปด้วย
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา