วุ่นนัก รักซะเลย

9.2

เขียนโดย กลางสายฝน

วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.36 น.

  58 ตอน
  778 วิจารณ์
  74.16K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 00.52 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

17) แม่มิ่ง ...ลิ้นจี่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

                    ในขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเปิดประตูเดินออกมาจากห้อง เธอหยุดกึกอคาประตู ก่อนจะก้มต่ำลงมองอะไรบางอย่างที่วางอยู่ตรงหน้าของเธอ 

 

 

 

 

                    " ของใคร " เธอก้มลงนั่งยองๆ ก่อนจะหยิบฉ่อดอกกุหลาบขาวขึ้นมาอย่างช้าๆด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยควมสงสัย หญิงสาววางกระเป๋าสะพานก่อนจะเลื่อนมือไปพลิกแผ่นกระดิษเล็กๆที่ถูกผูกติดอยู่กับกิ่งดอกไม้ขึ้นดู 

 

 

 

 

                    ' อรุณสวัสดิ์ครับคนสวยของป๊อป ^^ ' ใบหน้าของเธอนิ่งมากจนหนุ่มสาวที่แอบมองดูอยู่มุมหนึ่งแทบจะเดาไม่ออกเลย ว่าเธอรู้สึกยังไง 

 

 

 

 

 

                    " ทำไมฟางไม่ยิ้มวะ หรือว่าเค้าไม่ชอบ " ป๊อปขมวดคิ้วสงสัย 

 

 

 

 

 

                    " เดี๋ยวไปถามให้ " ชั้ลนี่รีบเจ้นออกไปหาฟางทันที ใช่ว่าไอ้ป๊อปมันจะสงสัยอยู่คนเดียวหรอกนะคะ คือ ชั้ลเองก็สงสัยเหมือนกัน แค่อยากจะรู้ว่าฟางคิดยังไงอยู่ในตอนนี้ 

 

 

 

 

 

                    " ฟางงง " ชั้ลเอ่ยทักฟางก่อนจะหยุดกึกอยู่ตรงหน้าของเธอ 

 

 

 

 

                    " แก้วว ^^ " เธอยิ้มหวานให้ชั้ล โอเค ถ้ายิ้มแบบนี้แสดงว่าคุยได้ 

 

 

 

 

 

                    " ฟางไปทานมื้อเช้าเป็นเพื่อนแก้วหน่อยได้มั้ย " ชั้ลนี่เริ่มอุบายทันทีเลยค่ะ ฟางนิ่งไปนิดนึงก่อนจะพยักหน้ารับคำ 

 

 

 

 

                    และเราสองคนก็นั่งรถเมลล์มาทานอาหารเช้าด้วยกัน 

 

 

 

 

 

                    " ท่านประธานส่งดอกไม้มาให้หรอ " ชั้ลเริ่มเปิดประเด็นทันทีที่เราสั่งอาหารเสร็จ 

 

 

 

 

 

                    " ไม่ใช่โทโมะหรอก "

 

 

 

 

 

                    " ไอ้ป๊อปหรอ ?? " ชั้ลทำหน้าไม่รู้เรื่อง 

 

 

 

 

 

                    " อื้ม " ฟางพยักหน้าเบาๆ ดูตาเธอเศร้าๆนะฟาง นี่เธอยังไม่เคลียร์กับไอ้ป๊อปอีกหรอ

 

 

 

 

 

                    " ฟาง แก้วกับไอ้ป๊อปเราาเป็นเพื่อนกันนะ ไมีมีอะไรเกินไปกว่านั้นจริงๆ ฟางจะให้แก้วไปสาบานที่วัดไหนก็ได้ " ชั้ลก็เดาเอาว่าฟางน่าจะคิดมากเรื่องนี้ เพราะถ้าเป็นชั้ลชั้ลก็คิดมากเหมือนกันแหละ 

 

 

 

 

 

                    " เรื่องนั้นนะฟางเข้าใจแล้ว ป๊อปเค้าอธิบายให้ฟางฟังแล้ว " ฟางพูด 

 

 

 

 

 

                    " อ้าว ... แล้วฟาโกรธป๊อปเรื่องอะไรหรอ " ชั้ลซักใหญ่ คืออยากจะให้คู่นี้เค้าลงเอยกันเร็วๆ ชั้ลจะได้กลับไปดูแลแม่ดูแลน้องได้เหมือนเดิมสักที

 

 

 

 

 

                    "ฟางไม่ได้โกรธเค้าหรอก ... ฟางแค่ไม่มั่นใจ บางทีป๊อปอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นกับฟางก็ได้นะแก้ว "

 

 

 

 

 

                    " แต่ฟางคิดกับป๊อปแบบนั้นใช่มั้ย " ดูจากดวงตาที่เศร้า ชั้ลก็พอจะเดาได้แล้วหละ 

 

 

 

 

 

                    " ฟางก็ไม่กล้าตอบหรอก ฟางกลัว" 

 

 

 

 

 

                    " ไม่เป็นไร งั้นให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกันนะ แต่แก้วแค่อยากบอกว่าไอ้ป๊อปมันจริงใจกับฟางจริงๆ " ชัั้ลเชื่อว่าไอ้ป๊อปมันจะหยุดอยู่ที่ฟาง เพราะมันไม่เคยง้อใคร ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้าน ไม่เคยจะบอกชั้ลว่ามันจะจีบใคร และไม่เคยใส่ใจใครเท่านี้มาก่อน 

 

 

 

 

 

 

                    " ไม่มีอะไรแน่นอนนะแก้ว สิ่งที่เราคิดอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิดก็ได้ " เธอพูดเหมือนว่าตัวเธอเองบรรลุธรรม ปลงตกกับชีวิตแล้วมั้งเนี่ย แต่ชั้ลก็เห็นด้วยกับคำพูดของเธอนะ 

 

 

 

 

 

                    " แต่คงจะไม่ถึงขนาดที่ฟางจะปิดกั้นไอ้ป๊อปใช่มั้ย " ชั้ลเริ่มจะหวั่นๆแล้วหละ บางทีฟางก็นิ่งจนกว่าที่ชั้ลจะอ่านใจเธอออก

 

 

 

 

 

                    " ก็แก้วบอกไงว่าให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ " ฟางยิ้มหวานให้กับชั้ลอีกครั้ง ค่อยโล่งใจหน่อยที่ได้คำตอบแบบนี้จากเธอ 

 

 

 

 

 

 

                    หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ เราก็นั่งรถเมลล์อีกต่อนึงมาลงที่หน้าบริษัท ชั้ลกับฟางแยกกันเมื่อถึงบริษัท เพราะชั้ลต้องเอาโจ๊กไปเสริฟให้กับสมุนรุ่นพี่ทั้งสามคน 

 

 

 

 

 

 

                    " อะ! ซื้อมาให้แล้ว คงไม่ต้องให้แกะให้ด้วยหรอกนะ " ชั้ลวางถุงโจ๊กลงบนโต๊ะรับแขก ก่อนจะแซวพวกพี่มันที่เอาแต่จ้องหน้าจอคอมจนไม่มีเวลาทำงาน มันตอบปัดๆ ก่อนจะทำงานต่อ 

 

 

 

 

                    นี่งานมันหนักขนาดนี้เลยหรอวะ 

 

 

 

 

 

                    " นี่เธอเป็นลูกน้องพวกมันหรือเป็นลูกน้องชั้ลกันแน่ " บางทีชั้ลก็นึกนะ ว่าชั้ลเดินออกมาจากห้องของสมุนรุ่นพี่ หรือว่าชั้ลเปิดประตูเข้ามาในขุมนรก ชั้ลถึงได้เจอกันมัจจุราชเนี่ย

 

 

 

 

 

                    " เค้าเรียกว่ามีน้ำใจกันมิตรภาพคะ ท่านประธาน " แล้วชั้ลก็เลือกที่จะเดินหนีไป 

 

 

 

                    แต่ 

 

 

 

                    ขมับ ! มือของหมอนั้น ก็ดันมาจับข้อมือของชั้ลไว้

 

 

 

 

 

                    " ไปหาลูกค้ากับชั้ล " แล้วมันก็ลากชั้ลไปทันที

 

 

 

 

 

                    " ชั้ลยังไม่ได้เตรียมอะไรเลยนะ " เออนั้นสิ แล้วนี่ชั้ลจะคุยงานรู้เรื่องหรอวะ 

 

 

 

 

 

 

                    แต่ไม่ทันที่ชั้ลจะโวยวายจบ มันก็ยัดชั้ลใส่รถแล้วขับอกจากบริษัทไปทันที 

 

 

 

 

                    สาบานเถอะ ว่าเรามาคุยงานกันในทุ่งนาที่เหลืองอร่ามขนาดนี้ ลองนึกภาพดูนะ ว่าชั้ลกำลังนั่งอยู่บนรถ ที่มีคนขับรถเป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ ผ่านทุ่งนาที่เหลืองอร่าม และทิวเขาที่เขียวขจีที่อยู่ใกล้โพ้นนนนนนน ถนนที่ยังคงเป็นถนนลูกรัง มีฝุ่นละอองปลิวสะบัดตามแรงรถ มีหนองน้ำเล็กๆริวทาง ชั้ลเริ่มอยากจะสัมผัสกลิ่นอายบ้านนาเค้าแล้วสิ 

 

 

 

 

 

                    " นี่ๆ ปิดแอร์แล้วเปิดกระจกได้มะ "ชั้ลหันไปอ้อนๆคนขับรถเบาๆ เพื่อว่าจะฟลุค 

 

 

 

 

                    " ... " ฮีแกไม่พูดอะไร แต่ก็ยอมทำตาม ฮีปิดแอร์และเปิดประทุนรถให้ชั้ล 

 

 

 

                    อะไรมันจะหอมมมมม ขนาดนี่วะเนี่ยย อากาศบริสุทธิ์ที่สามารถสูดดดดดดดดเข้าไปได้อย่างเต็มปอด อากาศที่ปราศจากฝุ่นละออง วิวที่ปราศจากตึกรามบ้านช่อง ถนนที่ไม่มีรถติด บรรยากาศที่เงียบสงบ 

 

 

 

 

 

                    " นายน่าจะหาลูกค้าแบบนี้เยอะๆนะ แล้วพาชั้ลมาพบลูกค้าบ่อยๆ มันจะดีมากเลยหละ " ชั้ลมองไปรอบๆ มองดูบรรกยากาศที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน นี่ถ้าได้สามีเป็นคนที่นี่ก็คงจะดีไม่น้อย ชั้ลพูดได้เต็มปากว่าชั้ลเริ่มจะหลงรักที่นี่แล้วสิ 

 

 

 

 

 

                    เอี๊ยดดด !! ปัก ! 

 

 

 

 

 

 

                    " โอ้ยยยย !! " แล้วความสวยงามมันก็จ้างหายไปในพริบตา เมื่อไอ้บ้านั้นมันเบรครถซะจนหน้าชั้ลคว่ำ ขมัมลไปชนกับหน้ารถ

 

 

 

 

 

                    " หยุดพูดมากแล้วลงมาได้ละ " มันเปิดปะตูรถ แล้วเดินลงไปทันที

 

 

 

 

 

                    นี่ชั้ลกำลังยืนอยู่หน้าบ้านเรือนไทยหลังเล็กๆ ที่เหมือนกับในหนังอะ เป็นบ้านยกพื้น ไม่มีปูนสักนิดเดียว ทำด้วยไม้ทั้งหลัง มีสวนหย่มหน้าบ้านหน่อยนึงมีต้นไม้ใหญ่ๆรอบๆบ้าน มีโอ่งน้ำด้วยวะ 55555 โอ่งน้ำใหญ่ๆ หลังบ้าน แล้วก็โอ่งน้ำเล็กๆ ที่ข้างๆบันได นี่อย่าบอกนะ ว่าเอาไว้สำหรับใส่น้ำล้างเท้าเหมือนสมัยก่อนหนะ

 

 

 

 

 

                    " ล้างเท้าด้วยดิ " เอ้าเห้ย จริงวะ !! ชั้ลกำลังก้าวเท้าขึ้นบันได หมอนั้นก็ด่าล่นทั้งบ้านให้ชั้ลล่างเท้า แล้วขันที่ตักน้ำ ก็ทำด้วยกะลาซะด้วย น่ารักชะมัดเลยวะ 

 

 

 

                    ชั้ลรีบล้างเท้าแล้วรีบขึ้นตามหมอนั้นเข้าไปในบ้าน 

 

 

 

 

 

                    " พาแฟนมาด้วยหรอคะคุณหนู " ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆท่านประธาน เธอมองมาที่ชั้ลด้วยสีหน้าแววตาที่ยิ้มแย้ม ดูเป็นมิตร เธอดูสวยสง่า มีราศีและอยู่ในมาดของหญิงไทยอย่างเต็มตัว ทั้งกริยา คำพูดและการแต่งตัว 

 

 

 

 

 

                    " ลูกน้องครับ ไม่ใช่แฟน " แล้วหมอนี่ก็พูดกับเค้าด้วยน้ำเสียงที่สุภาพมากก อย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ช้ลว่าฮีแกพูดกับฟางก็สุภาพแล้วนะ แต่นี่สุภาพกว่าเยอะอะ 

 

 

 

 

                    " สวัสดีคะ หนูชื่อแก้วนะคะ เป็นพนักงานในบริษัทของท่านประธานคะ " ชั้ลยกมือไหว้และรีบแนะนำตัวทันที

 

 

 

 

 

                    " ผมจะมาค้างที่นี่สองคืนนะครับ " หมอนั้นโอบหญิงผู้นั้นครั้งนึง ก่อนจะหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ 

 

 

 

 

 

                    " เดี๋ยวแม่จัดที่นอนไว้ให้นะครับ " เธอลูบผมท่านประธานอย่างเอ็นดู ก่อนจะตอบรับความต้องการของฮี น่ารักวะ แม่ดีขนาดนี้ ทำไมนิสัยไม่ได้แม่มาบ้างเลยนะ 

 

 

 

 

 

                    " วางกระเป๋าไว้ตรงนี้นะลูก แล้วไปล้างหน้าล้างตา แม่ทำกับข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว จะได้มาทานข้าวกัน " เธอหันมาพูดกับชั้ลด้วยน้ำเสียงที่หวานนนนนช่ำ จนชั้ลแทบจะหลอมละลายไปเป็นสายน้ำเชื่อมม ชั้ลได้แต่ยิ้มตามไปกับความน่ารักของหญิงคนนั้น เธอค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ แล้วเดินเข้าไปในครัว 

 

 

 

 

 

                    " แม่นายน่ารักมากกกก ทำไมนายไม่ได้แม่มาบ้างเลยฮะ " ชั้ลนี่รีบคลานเข่าเข้าไปแทะโลมไอ้หมอนั้นทันที

 

 

 

 

 

                    " แม่นั้นตายไปนานละ "พูดจบฮีก็ลุกขึ้นไปทันที 

 

 

 

 

 

                    " พูดบ้าอะไรเนี่ย ก็เมื่อกี้นายยังเรียกแม่อยู่เลย " ชั้ลรีบเข้าไปหาหมอนั้น คืออยากรู้ไง ยังงงอยู่ อยากเคลียร์ให้หายงง

 

 

 

 

 

                    " แม่มิ่งขวัญ คือแม่นมของชั้ล เข้าใจนะ " มันพูดจบก็ปิดประตูห้องทันที 

 

 

 

 

 

                    เออ เข้าใจแล้ว แต่ คือ ที่บอกว่าค้างที่นี่สักสองคืนนี่คือไร 

 

 

 

 

 

 

                    " เห้ยเดียวดิ ออกมาก่อน ยังพูดไม่จบเลยเนี่ย " 

 

 

 

                    ปัง ! ปังง ! ปัง !! ชั้ลรีบเคาะประตูให้หมอนั้นออกมา 

 

 

 

 

 

                    " อะไร " ฮีแกออกมาในชุดคล้ายๆชาวนา เสื้อสีน้ำเงินตัวโคล่งๆกับกางเกงสีน้ำเงินตัวโคล่งๆ เอ้ยยย  

 

 

 

 

 

                    " 5555 น่ารักวะ 55555 " คราบประธานบริษัทนี่หายไปเลยจร้าาาาา 

 

 

 

                    ในขณะที่ชั้ลยังขำอยู่ 

 

 

 

 

                    พลึบ !!  ฮีก็โยนอะไรสักอย่างสีเดียวกับฮีใส่หน้าของชั้ลอย่างจัง ชั้ลรีบแกะมาดู 

 

 

 

 

 

                    " โอ้ววโหหหหหหหห  " ตานี่ถลึงเลยจ้ราาา นี่จะให้ชั้ลใส่ชุดแบบนี่ด้วยเนี่ยนะ 

 

 

 

 

 

                    " รีบไปเปลี่ยน แล้วมากินข้าว อย่าให้ผู้ใหญ่รอนาน มันเสียมารยาท " มันด่าเป็นชุด ก่อนจะส่ายตูดเดินเข้าไปในครัว เอาเถอะ ชั้ลหวังว่าชุดนี่จะทำให้ชั้ลน่ารักขึ้น 

 

 

 

 

                    ชั้ลรีบถอดชุดเดิมออกแล้วเปลี่ยนมาใส่ชุดที่หมอนั่นให้มา เห้ยมันตัวใหญ่มากเลยนะ ใส่อีกคนในชุดเดียวกันก็ยังได้เลยวะ แต่มันก็สบายดี โปร่งๆโคล่งๆ ลมเข้าเยอะดี 555 

 

 

 

 

 

 

                    " หนูแก้วทานผักลวงกับน้ำพริกไหมจ่ะ " แม่มิ่งเอ้ยถามด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล คงจะกลัวชั้ลกินไม่ได้ละมั้งนะ 

 

 

 

                    อ่อ ลืมแนะนำเมนูอาหารวันนี้ 1 สารพัดผักลวก 2 น้ำพริกมะเขือเปราะ 3 ปลาทูทอด 

 

 

 

 

 

                    " แก้วทานได้ทุกอย่างคะ ^^ " เรื่องกินไม่ต้องห่วงคะ หนูเป็นคนง่ายๆ ไม่รอช้า ชั้ลรีบตักกินอย่างไว มันอร่อยมากกก รสชาดไม่เหมือนที่เคยกินมาก่อน ผักนี่กรอ๊บบกรอบ น้ำพริกก็กลมกล่อมอร่อยเหาะ  ปลาทอดก็กรอบอร่อย ไม่เค็มไม่จืด คือมันมีรสชาดและรสชาดร่อยมากอีกต่างหาก

 

 

 

 

 

 

                    " นี่เธอไม่คิดจะเกรงใจเจ้าของบ้านเลยหรอ " ในขณะที่ชั้ลกำลังขอข้าวจานที่ 3 ฮีก็โอดครวญด่าชั้ลเสียๆหายๆ หาว่าชั้ลไร้มารยาท 

 

 

 

 

 

                    " การเติมก็ถือว่าเป็นคำชมนะ ชั้ลกินเยอะแสดงว่าเจ้าของบ้านเค้าทำกับข้างอร่อย ไม่ได้เกี่ยวกับความเกรงใจเลย " แล้วชั้ลก็กินต่อ 

 

 

 

 

                    ขนาดว่าชั้ลนะ มันนี่ยืนจานให้แม่มิ่งเพื่อขอข้าวจานที่ 3 เหมือนกัน แม่มิ่งยิ้มหวานก่อนจะตะแคงหมอข้าวให้หมอนั้นดู  ' ข้าหมดหม้อ ' ถถถถถถถถ 

 

 

 

 

 

                    " อุ๋ย !!! ข้าวหมดพอดีเลออออ " ชั้ลนี้รีบหย่ทันที ก่อนจะรีบกินข้าวในจานจนหมด ไอ้หมอนั่นได้แต่มองตากริบๆ สงสัยยังไม่อิ่ม คริคริ แม่มิ่งที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย

 

 

 

 

 

 

                    ตกเย็น ชั้ลก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เผื่อรอกลับบ้าน 

 

 

 

 

 

                    " ไปส่งชั้ลที่ท่ารถก่อนดิ " ชั้ลเดินไปหาหมอนั่นที่นั่งทำขนมกับแม่มิ่งที่ศาลาท่าน้ำหลังบ้าน

 

 

 

 

 

                    " รถหมดแล้วหละลูก ค้างที่นี่เถอะนะ ค่อยกลับพรุ่งนี้ " แม่มิ่งพูด

 

 

 

 

 

                    " ไหนมองมาพบลูกค้าไง วันนี้ก็ไม่ได้พบ แล้วยังไม่บอกอีกว่ารถหมดตอนไหน แล้วชั้ลจะนอนที่ไหนหละเนี่ย " ชั้ลรีบดึงมันออกมาจากตรงนั้นแล้วโวยใส่ทันที 

 

 

 

 

 

                    " พบลูกค้าพรุ่งนี้ วันนี้มาเยี่ยมแม่มิ่ง เธอก็ต้องนอนกลับชั้ลวันนี้และพรุุ่งนี้ จบนะ " มันพูดจบก็จะเดินกลับไปช่วยแม้มิ่งต่อ ชั้ลต้องรีบดึงแขนเอาไว้ 

 

 

 

 

 

                    " เห้ยยย !! ไม่ได้นะ ชั้ลไม่มีเสื้อผ้าใส่ แล้วอีกอย่างลูกชั้ลก็ยังไม่กินข้าวเลย " ชั้ลนี่เครียดเลย ป่านนี้นังลิ้นจี่คงจะด่าชั้ลปาวๆๆแล้วหละ

 

 

 

 

 

 

                    " ลูก ? " มันทำน้างง

 

 

 

 

 

                    " แมวชั้ลหนะ มันยังไม่ได้กินข้าว " 

 

 

 

 

 

                    " ก็ให้มันอดไปก่อนดิ ยังไงเธอก็กลับไปไม่ได้แล้ว รถมันหมดแล้ว แล้วชั้ลก็ไม่ไปส่งเธอด้วย ชั้ลจะนอนกบแม่มิ่ง " ไอ้นี่ก็ยืนกร่างว่าจะไม่ไปให้ได้ 

 

 

 

 

 

                    " นอนที่นี่เถอะนะลูกนะ กลับป่านนี้มันอันตราย แม่เป็นห่วง "แม่มิ่งเห็นว่าเราเคลียกันไม่ลงรอยเลยออกมาไกล่เกลี่ย พอแม่มิ่งมาชั้ลก็พูดอะไรไม่ได้เลย เกรงใจแม่เค้าหนะ ชั้ลได้แต่พนักหน้าอย่างจำนน ก่อนจะโทรไปบอกไอ้ป๊อปให้เข้าไปดูแลลูกให้ชั้ลหน่อย

 

 

 

 

 

 

                    หน้าบริษัทโทโมะ ในขณะที่ฟางกำลังเดินออกจากบริษัท 

 

 

 

 

 

                    " ฟาง  วันนี้ให้ป๊อปไปส่งนะ "ป๊อปที่มาดักรอฟางอยู่ก่อนแล้ว รีบมาดักหน้าทันทีที่เห็นฟางเดินออกมา

 

 

 

 

 

                    " เดี๋ยวฟางกลับรถเมลล์เองดีกว่า " ฟางพูด แล้วจะเดินหนี

 

 

 

 

 

                    " ป๊อปต้องไปทางนั้นอยู่แล้ว ฟาง...นั่งไปกับป๊อปก็ได้นะ " ป๊อปตื้อต่อ 

 

 

 

 

 

                    " ไปหาแก้วหรอ " ฟางถาม 

 

 

 

 

 

                    "ป่าวว  ไปหาแมวแก้ว แฮะๆ " ป๊อปยิ้มๆ ฟาง งงใหญ่ 

 

 

 

 

 

                    " คือมันไปนอนค้างกับเพื่อนหนะแล้วลืมให้อาหารแมว มันบอกว่าโทรหาฟางแล้วแต่โทรไปติด เลยใช้ป๊อปไปให้อาหารแมวให้หน่อย" ป๊อปอธิบาย ฟางพยักหน้าแล้วยอมไปกับป๊อป 

 

 

 

 

 

                    " ไม่เจอหน้าป๊อปวันนี้ ฟางคิดถึงป๊อปบ้างหรือเปล่า " ป๊อปพูด แล้วหันมองฟางเป็นระยะๆ 

 

 

 

 

 

                    " .... " ฟางนั่งนิ่ง ไม่ยอมตอบ 

 

 

 

 

 

                    " แต่ป๊อปคิดถึงฟางนะ " 

 

 

 

 

 

 

                    " ... "

 

 

 

 

 

 

                    " โกรธกันแล้วในใจของเธอมีความสุขไหมมมมม โกรธกับชั้ลจะทำให้เธอดีใจใช่ไหมมม ถ้าไม่ยอมเปิดใจเข้าหากัน ก็บอกให้ชั้ลรู้ที โกรธกันแล้วมันดีอย่างไรรรร " ป๊อปร้องเพลงอ้อนฟาง แต่ฟางยังนั่งอยู่ 

 

 

 

 

 

                    " โห้วว ยังไม่หายงอลอะ " ป๊อปทำหน้าน้อยใจใส่ฟาง ฟางเหลือบมองนิดนึง แต่ยังนิ่งอยู่ 

 

 

 

 

 

                    จนมาถึงคอนโด ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม 

 

 

 

 

 

                    " ลิ้นจี่ มึงนี่ตัวปัญหาจริงๆ มานี่มา " ป๊อปเปิดประตูเรียกลิ้นจี่ โดยมีฟางเดินเข้ามาเป็นเพื่อนด้วย 

 

 

 

 

 

                    " หม๊าวววว หม๊าววววว " เสียงน้อยๆของลูกแมวตัวเล็กดังขึ้นมา ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินตุ่ยนุ้ยเข้ามาหาฟาง 

 

 

 

 

 

                    " น่ารักจังเลย ชื่อลิ้นจี่หรอ เราหนะ " เธออุ้มเจ้าแมวอ้วกขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนจะหยอกล้อกันมันเบาๆ 

 

 

 

 

                    " หม๊าวววว " แมวน้อยก็อ้อนซะเหลือเกิน ทั้งคลอเคลียทั้งเลียทั้งกัดเบาๆ 

 

 

 

 

                    " แก้วต้องรักแมวมากแน่ๆเลยนะ ถึงได้อ้วนกลมซะขนาดนี่เนี่ย " ฟางเงยมองป๊อป ก่อนจะอุ้มลิ้นจี่ขึ้นมาจูบ 

 

 

 

 

                    " ใช่ ก็ธรรมดาแหละ อะไรที่รักมาก ก็มักจะใส่ใจมาก " ป๊อปพูดเป็นนัย

 

 

 

 

                    " ใช่คะ ก็คงจะเหมือนกัน ถ้าอะไรที่ไม่ได้รัก ก็ไม่แปลกที่จะไม่ใส่ใจ " ฟางน้อยมจพูดแทงใจดำใส่ป๊อป

 

 

 

                    ด้วยความเพลบอยผ่านผู้หญิงมาเยอะ เขาจึงเดาได้ไม่ยากว่าคำพูดของฟางมันสื่อถึงอะไร 

 

 

 

 

 

                    " ป๊อปไม่ไดตั้งใจจะทิ้งฟางนะ " 

 

 

 

 

                    " ป๊อปแค่ลืมว่าฟางอยู่ตรงนั้น ก็แค่นั้นเอง " ฟางพูด

 

 

 

 

 

                    " มันจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ป๊อปกลับไปรับฟาง แต่ก็ไม่ทันแล้วว " ป๊อปรู้สึกผิด 

 

 

 

 

                    " คะ " ฟางพูด แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น 

 

 

 

 

                    " ไม่ใช่ว่าฟาไม่สำคัญ ฟางสำคัญสำหรับป๊อปมากนะ แต่ตอนนั้นผีบ้ามันเข้าป๊อป " ป๊อปพยายามแก้ตัว

 

 

 

 

 

                    " ฟางถึงให้เราห่างกันไงคะ เผื่อผีบ้านั้นเข้ามาอีก ป๊อปจะได้รู้วิธีจัดการกับมัน " ฟางพูด

 

 

 

 

                    " มันหายไปตั้งแต่วินาทีที่ป๊อปเห็นฟางไปกับไอ้โทโมะแล้วหละ " 

 

 

 

 

                    " ฟางแค่อยากพิสูจน์ดู ว่าป๊อปต้องการฟางจริงๆหรือเปล่า บางที...ป๊อปอาจจะแค่หลงฟางก็ได้นะ " ฟางพูด 

 

 

 

 

                    " ถ้าแค่หลง  ป๊อปคงไม่ทนจีบฟางมานานขนาดนี้หรอกนะ นี่มันเกินคำวาหลงมามากแล้วนะฟาง มันอาจจะเรียกว่า รั... " ป๊อปยังพูดไม่จบ

 

 

 

 

 

                    " ให้แน่ใจก่อนนะคะ แล้วค่อยพูด " ฟางพูดจบแล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องแก้ว 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา