Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  30.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) ตอนที่ 8 ทำบุญกับทำใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

CHAPTER8: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

 

ตอนที่ 8 ทำบุญกับทำใจ

 

 

 

 

 

          “ยัยทอมเรามาทำอะไรกันที่นี้หน่ะ!?” โทโมะถามหลังจากแก้วขับรถมาจอดที่วัดแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้าน

 

 

 

 

            “เอ้า! มาวัดก็ต้องมาทำบุญสิมาซักผ้ามั่ง” แก้วตอบกวนๆ

 

 

 

 

            “ฉันถามดีๆนะเดียวโดน” โทโมะพูดอย่างไม่สบอารมณ์  

 

 

 

 

            “หยุด! นี้ฉันอุส่าสละเวลาว่างมาทำบุญให้นายนะหัดขอบคุณกันซะบ้าง” แก้วยกมือห้ามแล้วบ่น ที่เธอมาวัดเพราะจะมาอุทิศส่วนกุศลให้ชายหนุ่มหลังจากผ่านเรื่องร้ายไปได้ 7 วัน

 

 

 

 

            “นมัสการค่ะหลวงพ่อ” แก้วเดินมาพบกับพระองค์หนึ่งซึ่งรู้จักกันโดยบังเอิญก็รีบสวัสดี

 

 

 

 

            “ไม่ได้เจอกันนานนะโยมแก้ว แล้วน้องสาวโยมไม่มาด้วยกันเรอะ?” หลวงพ่อพูดแล้วยิ้ม

 

 

 

 

            “สองคนนั้นติดเรียนนะคะ แก้วว่างเลยกะจะมาทำบุญให้เพื่อนสักหน่อยคะ” แก้วตอบ

 

 

 

 

            “ใช่คนที่อยู่ข้างหลังโยมรึเปล่า” หลวงพ่อว่าแล้วมองชายหนุ่ม โทโมะสะดุ้งอย่างรู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องอยู่

 

 

 

 

            “นี้หลวงพ่อเห็นโทโมะด้วยเหรอคะ!” แก้วเหวอเล็กน้อยก่อนจะรีบถาม

 

 

 

 

            “เห็นสิ เอ้าว่าไงโยมทำไมถึงไม่ไปผุดไปเกิดเสียที?” หลวงพ่อพยักหน้าและเอยถามโทโมะ

 

 

 

 

            “ผมยังมีเรื่องที่ต้องสะสางครับหลวงพ่อ” โทโมะไหว้หลวงพ่อแล้วบอก

 

 

 

 

            “อืม ทำอะไรก็แล้วแต่โยมอย่าได้ลืมว่าตนไม่ได้เกี่ยวโยงกับโลกนี้อีกแล้ว อย่าไปเบียดเบียนผู้อื่นมากเกินเป็นพอ อาตมาจะไม่ห้ามโยมแต่ขอให้โยมจำคำของอาตมาไว้” หลวงพ่อตักเตือนชายหนุ่ม โทโมะรับฟังอย่างตั้งใจพลางคิดตามที่หลวงพ่อกล่าว

 

 

 

 

            “ครับ” โทโมะรับคำ หลวงพ่อเห็นก็ยิ้มก่อนที่แก้วจะเอยลาขอไปกรวดน้ำให้เพื่อนชาย หญิงสาวนั่งยองแล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลบุญให้ชายหนุ่ม โทโมะแอบมองแก้วอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากเข้าไปกวนเวลาหญิงสาวตั้งใจ ระหว่างที่แก้วกำลังทำบุญให้เขา เขารู้สึกเหมือนมีสายลมสีขาวผ่านเข้ามาหลอมรวมกับร่างของเขาแสงที่เปล่งปลั่งค่อยๆจางจนรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ชายหนุ่มมองร่างตัวเองอย่างประหลาดใจ

 

 

 

 

            “เป็นไงรู้สึกเป็นไงบ้าง!?” แก้วเดินมาถามหลังทำเสร็จ

 

 

 

 

            “อือรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ ขอบคุณนะแก้ว” โทโมะพูดแล้วยิ้ม

 

 

 

 

            “นี้นายยอมเรียกชื่อฉันแล้วเรอะ! โห้ว รู้งี้ทำบุญให้ตั้งนานล่ะ” แก้วว่ามองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ เห็นปกติอะไรๆก็ทอม

 

 

 

 

            “หึ ฉันยอมเรียกเพราะเห็นว่าเธอทำดีหรอก” โทโมะหุบยิ้มแล้วพูดเสียงเรียบ แก้วมองชายหนุ่มหมั่นไส้เลยทำท่าเลียนล้อเลียนกลับ

 

 

 

 

            “แก้ว!” ป็อปปี้เห็นแก้วยืนอยู่เลยเรียก

 

 

 

 

            “คะ เอ๋ย ป็อปมาทำบุญเหมือนกันเรอะ” แก้วหันมายิ้มหวานพูด โทโมะเห็นก็หน้าตึงทันที

 

 

 

 

            “ครับ พอดีว่างเลยแวะมา” ป็อปปี้เข้ามาคุยกับแก้ว

 

 

 

 

            “เหมือนกันคะ” แก้วพูด

 

 

 

 

            “ชิ สร้างภาพเป็นบ้า” โทโมะโพล่งออกมาอย่างหงุดหงิดใจ

 

 

 

 

            “โทโมะ!” แก้วได้ยินหันไปมองชายหนุ่มข้างเธอรีบว่า

 

 

 

 

            “หืม เมื่อกี้แก้วว่าอะไรนะ?” ป็อปปี้ถาม

 

 

 

 

            “ป่าว ไม่มีอะไรคะ” แก้วยิ้มแหย่ เธอลืมคิดไปว่าป็อปปี้ไม่ได้มองเห็นโทโมะเหมือนเธอ

 

 

 

 

            “แก้วรีบไปได้แล้ว!” โทโมะสั่งเสียงแข็ง แก้วเลยหน้ามุ่ยใส่โทโมะ

 

 

 

 

            “เอ่อ แก้วขอตัวก่อนนะ พอดีนัดเพื่อนไว้เดียวเขาจะบ่นแก้วเอาได้เพราะรายเนี่ยปากจัดมาก” แก้วพูดพร้อมเหล่มองโทโมะเป็นนัย

 

 

 

 

            “ใครๆ?” โทโมะพูดแล้วมองไปรอบตัว

 

 

 

 

            “นายนั้นแหละ ไม่ต้องมองไปทางอื่นเลย!” แก้วว่าแล้วจ้องแข่งกับโทโมะที่บึงตึงใส่เธอหลังพูดจบ

 

 

 

 

            “ผมเรอะ!?” ป็อปปี้พูดพร้อมชี้มาที่ตัวเองอย่างงงๆ

 

 

 

 

            “ไม่ใช่ป็อปคะ! พอดีแก้วคุยโทรศัพท์กับเพื่อนคนนั้นอยู่ แก้วไปล่ะเจอกันที่กองถ่ายพรุ่งนี้นะ” แก้วยกมือถือตัวเองให้ดูก่อนจะพูดลาป็อปปี้

 

 

 

 

 

            “ขอบคุณคะคุณลุง” แก้วพูด หลังเธอมาถึงคอนโดโทโมะตามที่ชายหนุ่มสั่งเธอก็ดันลืมไปว่าเธอไม่มีกุญแจห้องเขาเลยต้องติดต่อเจ้าที่ดูแลคอนโดเพื่อเอากุญแจที่เขาฝากไว้

 

 

 

 

            “ไม่เป็นไร ลุงเอากุญแจไว้ที่หนูเลยล่ะกัน” ลุงพูด

 

 

 

 

            “คะ” แก้วยิ้มก่อนจะขอตัวมาถึงห้องของโทโมะที่ปิดร้างหลังเขาตาย หญิงสาวไขกุญแจเข้าไปแอบตาโตที่ห้องของเขาสะอาดเอี่ยมต่างจากที่คาดไว้

 

 

 

 

            “ไม่น่าเชื่อเลยนะว่านายจะเจ้าระเบียบเหมือนกัน” แก้วพูดพลางเดินสำรวจไปทั่วห้องใหญ่

 

 

 

 

            “แน่นอนฉันไม่ชอบที่รกเห็นแล้วรำคาญลูกตา เอ้า! ไปไหนของเธอเอกสารอยู่ทางนี้” โทโมะพูดแล้วเรียกหญิงสาวเพราะแก้วมัวแต่สำรวจเพลินจนลืมจุดประสงค์ที่มานี้ แก้วรีบตามโทโมะมาถึงห้องนอนของเขาตรงมาจบที่โต๊ะทำงานโทโมะ

 

 

 

 

            แก็ก กุกกักๆ

 

 

 

 

            แก้วเปิดลิ้นชักเก็บของแล้วค้นหาซองเอกสารที่ว่า แต่เพราะในนั้นมีซองแบบเดียวกันอยู่หลายอันจึงเสียเวลาค่อนข้างนาน

 

 

 

 

            “อ้ะนี้ไง! เอ้ะนี้มันจี้ของนายนิมีสองเส้นเรอะ เหมือนกันเลยแต่ทำไมจี้อันนี้ถึงสลักตัว P ล่ะ?” แก้วพูดก่อนจะเหลือบไปเห็นสายสร้อยก็รีบหยิบขึ้นมาดูแล้วถามอย่างสงสัย

 

 

 

 

            “ไม่ใช่ของฉัน จี้นั้นเก็บได้ในห้องน้ำตอนฉันไปตามหาฟาง” โทโมะตอบ

 

 

 

 

            “ห้องน้ำ! นี้นายเข้าไปในห้องน้ำหญิงโดยพละการเหรอ โรคจิตชัดๆ” แก้วตกใจพูดแล้วเบ้ปากมองชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “ตอนฉันเข้าไปมันไม่มีใครอยู่อยู่แล้วไม่ได้โรคจิตสักหน่อย!!” โทโมะรีบปัดความ

 

 

 

 

            “เหอะๆ เชื่อตาย” แก้วพูดแล้วเสมองพลางคิดผู้ชายปกติที่ไหนเขาเข้าห้องน้ำหญิงกัน

 

 

 

 

            “แก้ว!” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “จ้ารู้แล้วว่าไม่ได้โรคจิต ว้าย!” แก้วพูดก่อนจะสะดุ้งที่อยู่ๆชายหนุ่มเข้ามาประชิดเธอ

 

 

 

 

            “ถอนคำพูดซะไม่นั้นฉันจะจูบเธอเดียวนี้แหละ จะได้รู้ไงว่าฉันเนี่ยโรคจิตอย่างที่เธอว่ารึป่าว หึๆ” โทโมะพูดขู่กระตุกยิ้มมุมปาก

 

 

 

 

            “พูดเป็นเล่น นายเป็นผีนะจับฉันไม่ได้หรอก” แก้วพูดเสียงสั่น

 

 

 

 

            หมับ

 

 

 

 

            แก้วโดนโทโมะล็อคแขนตึงกำแพงไว้ หญิงสาวมองแขนที่ถูกตึงแล้วเหวอทำไมเขาถึงแตะตัวเธอได้ล่ะ

 

 

 

 

            “ฉันลืมบอกไปเพราะเธอทำบุญให้ ฉันเลยมีพลังมากขึ้นจนสามารถจับสิ่งของได้ไม่เว้นกระทั่งเธอด้วย” โทโมะยิ้มเย้ย

 

 

 

 

            “ห่ะ!! เวรล่ะฉันหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว หยุดเลยนายห้ามทำอะไรฉันทั้งนั้น” แก้วอุทานแล้วพึมพำบ่นตัวเองก่อนจะรีบออกปากห้ามชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “ก็ถอนคำพูดก่อนสิ!” โทโมะว่าแล้วโน้มเข้ามาใกล้

 

 

 

 

            “ก็เชื่อแล้วไง ปล่อย!” แก้วถอยห่างติดกำแพงรีบพูด

 

 

 

 

            “ท่าทางเธอมันดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไร หึ นั้นคงต้อง..” โทโมะนึกสนุกแกล้งแก้วต่อ เขาเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวจนแก้วต้องดิ้นหนีสุดชีวิต

 

 

 

 

            “กรี้ดดดด!!! อย่าน้า”

 

 

 

 

 

            “ฟาง แกไม่เป็นไรแน่นะ?” แพทถามเพราะเห็นฟางเอาแต่มองหน้าต่างเหมือนคนใจลอย

 

 

 

 

            “อืมฉันโอเค หลายวันมานี้ฉันร้องไห้มามากแต่เพราะมีแก้วคอยให้กำลังใจฉันถึงเริ่มทำใจได้ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ” ฟางหันมายิ้มแล้วพูด

 

 

 

 

            “ถ้าไม่ไหวก็บอก ฉันจะอยู่เพื่อนแกเอง” แพทพูดพร้อมกุมมือเพื่อนให้กำลังใจ

 

 

 

 

            “ขอบใจนะแพท” ฟางก้มหน้าพูดพลางคิดหลายเรื่อง เธอรู้ว่าต่อให้เศร้ามากแค่ไหนมันก็ไม่ได้ช่วยให้แฟนหนุ่มกลับมาแต่ก็อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

 

 

 

 

            “แล้วแก้วนี้ใครเรอะ!?” พ้อยถาม

 

 

 

 

            “เพื่อนนะ เรารู้จักกันได้ไม่นานนักหรอก แก้วเขาเป็นคู่กัดกับพี่โมะไม่รู้ว่าทำไมสองคนนี้เจอทีไรเป็นต้องทะเลาะกันตลอดแต่หลังพี่โมะจากไปแก้วก็มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทุกวัน” ฟางเล่าให้เพื่อนสาวฟัง

 

 

 

 

            “คนดีใช่เล่น ชักอยากเจอแม่พระคนนั้นแล้วสิใจกล้าเหมือนกันนะกล้าต่อกรแฟนแกด้วย” พ้อยพูด

 

 

 

 

            “อือ..” ฟางยิ้มก่อนจะเอยขอตัวไปล้างมือ

 

 

 

 

            “ขอชาเย็นแก้วหนึ่งคะ” จินนี่สั่งกับพนักงานในร้านเสร็จก็ยืนรอพลางมองไปดูเค้กในตู้

 

 

 

 

            “ที่จริงแกไม่ต้องมาก็ได้นะ เดียวฉันซื้อเองได้รบกวนแกป่าวๆ” ป็อปปี้ที่ตามมาสมทบพูด

 

 

 

 

            “ได้ไง นี้ฉันเห็นแกเหนื่อยนะถึงลงทุนเดินมาซื้อให้” จินนี่พูด

 

 

 

 

            “ครับคุณเพื่อน” ป็อปปี้ยิ้มตอบ

 

 

 

 

            “ว้าย!!!”

 

 

 

 

            หมับ!

 

 

 

 

            จินนี่เกือบหงายหลังเพราะสะดุดขาเก้าอี้แต่ป็อปปี้ตาไวคว้าร่างเพื่อนสาวไว้ได้ทัน จินนี่ถึงกับหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

 

 

 

            “เอ่อ ป็อป////” จินนี่หน้าแดงเพราะเธอดันตกอยู่ในอ้อมกอดเพื่อนชาย

 

 

 

 

            “ฟาง!” ป็อปปี้ชะงักเมื่อเห็นฟางอยู่ต่อหน้าเขา หญิงสาวที่พึ่งออกจากห้องน้ำเห็นป็อปปี้ก็แอบชะงักไม่แพ้กัน

 

 

 

 

            “ฟางมันไม่ใช่อย่างที่เห็นนะ พอดีฉันเกือบจะล้มแต่ป็อปเขาคว้าฉันได้ทัน!” จินนี่ดันป็อปออกแล้วรีบอธิบาย กลัวฟางจะเข้าใจผิด

 

 

 

 

            “แล้วเอามาบอกฉันทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ฟางหลบตาพูดก่อนจะเลี่ยงตัวเดินไปที่โต๊ะ

 

 

 

 

            “ฟาง เดียว!” ป็อปปี้ดึงแขนฟางหวังจะพูดด้วย

 

 

 

 

            เพลี้ย!!!!

 

 

 

 

            พิมที่แอบตามป็อปปี้ก็เห็นชายหนุ่มอยู่กับฟางด้วยแค้นเก่ายังไม่หายที่ฟางเคยว่าเธอจึงดึงฟางเข้ามาตบ

 

 

 

 

            “ว้ายยย ยัยฟาง!” พ้อยอุทานลั่นเมื่อเห็นเพื่อนล้มลงไปนั่งกับพื้น

 

 

 

 

            “หน้าด้าน!! แฟนพึ่งตายไปไม่นานนี้คิดจะอ่อยคนใหม่แล้วหรอ ขอบอกไว้ก่อนว่าป็อปของฉัน” พิมเข้ามาควงป็อปปี้แล้วว่า ชายหนุ่มแกะมือพิมออกแล้วเดินไปหาฟาง

 

 

 

 

            “นี้หล่อนกล้าดียังไงมาตบเพื่อนฉันห่ะ!” พ้อยด่าด้วยความโมโห

 

 

 

 

            “กล้าไม่กล้าก็ทำไปแล้ว ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็หลีกไป” พิมโต้กลับแล้วเดินเข้าไปหมายจะลากฟางมาตบอีกครั้ง

 

 

 

 

            “พิมหยุดเดียวนี้นะ ห้ามมายุ่งกับฟาง!” ป็อปปี้พูดรีบรั้งพิมออกไปห่างๆฟาง

 

 

 

 

            “ป็อปปี้นี้คุณหลงมันแล้วใช่ไหม มารยา” พิมว่าเสียงดังด่าหญิงสาวอย่างไม่พอใจ

 

 

 

 

            “ทนไม่ไหวแล้ว! ปล่อยฉันยัยแพทฉันจะไปตบมัน” พ้อยพูดสั่งแพทเพราะแพทล็อคแขนเธอไว้อยู่

 

 

 

 

            “ไม่ได้พ้อย นี้กลางร้านเลยนะคนมองกันหมดแล้วเนี่ย” แพทพูดแล้วกวาดตาไปทั่วร้าน

 

 

 

 

            “คุณพิม ฉันว่าคุณกลับไปดีกว่า” จินนี่พูดหลังช่วยประคองฟาง

 

 

 

 

            “ไม่ฉันจะตบมัน! นังฟางอย่าคิดว่าครั้งนี้แกจะรอดไปได้เหมือน..” พิมว่าดิ้นหนีจะไปหาฟาง

 

 

 

 

            “ผมบอกให้พอ!! จินนี่พาฟางกับเพื่อนๆไปที พิมมานี้ผมกับคุณมีเรื่องต้องคุยกัน” ป็อปปี้พูดเสร็จก็กระชากพิมไป

 

 

 

 

            “ไม่ต้องหรอกคะ ฟางไปเองได้คุณจินนี่ไปกับป็อปปี้เถอะคะ” ฟางพูดไล่จินนี่

 

 

 

 

            “แต่” จินนี่พูด

 

 

 

 

            “คุณจินนี่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันว่าทางที่ดีคุณไปช่วยเพื่อนคุณดีกว่าเดียวยัยฟางพวกเราจะดูแลเอง” แพทพูด จินนี่รับคำก่อนจะเดินตามเพื่อนชายที่ไปก่อน

 

 

 

 

            “ผมบอกแล้วไง ว่าเราเป็นแค่พี่น้องกันและผมก็ไม่ใช่ของคุณด้วย!!” ป็อปปี้ลากพิมมาที่ลานจอดรถก็รีบว่า

 

 

 

 

            “แต่เราก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ทำไมพิมจะรักคุณไม่ได้!” พิมเถียง

 

 

 

 

            “แต่ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว” ป็อปปี้พูด

 

 

 

 

            “นังนั้นมันมีดีอะไร ป็อปหลงมันนัก”พิมว่าน้อยใจชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “จะอะไรก็แล้วแต่ ผมบอกไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่ตัวสำรอง!” ป็อปปี้พูด เขารู้ว่าพิมคิดจะจับโทโมะแต่เพราะโทโมะตายไปเสียก่อนจึงหันมาอ่อยเขา ป็อปปี้ส่ายหน้าแล้วเดินไปกับจินนี่ที่ตามหลังมา

 

 

 

 

            “ป็อปกลับมานี้เดียวนี้นะป็อป! กรี้ดดดด!!! ยัยฟางแกมันมารผจญฉัน” พิมวีนโมโหร้ายก่อนคิดถึงฟางอย่างแค้นใจ

 

 

 

 

            “ป็อปปี้..” ฟางขอตัวมาเข้าห้องน้ำก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกรู้ว่าเป็นป็อปปี้จึงแอบฟังจนจบ ฟางยืนคิด สับสน ไม่เข้าใจ สิ่งที่ชายหนุ่มพูดถ้าเขารักเธอ ทำไมตอนนั้นถึงเลือกที่จะทิ้งเธอไป

 

 

______________________________________________________

 

 

            เอ้าล่ะ ป็อปฟางบทบาทกับความไม่เข้าใจมาเต็ม โทโมะกับแก้วนี้ยังไงดีล่ะเอ่อ รอติดตามได้ในตอนหน้าๆนะ แล้วก็เม้นด้วยไม่เม้นไม่อัพนะทุกคน พีสขอล่ะ \>O</ ฝากเรื่อง GIRL'STOPIC รักได้ไหมมาดามของผมด้วยน้าาาาาาา

 

 

 

LOVETK PF KF!!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา