Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
เขียนโดย blackKZ
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10) ตอนที่ 9 เขินเพราะเธอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHAPTER9: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
ตอนที่ 9 เขินเพราะเธอ
“แก้ว” เสียงทุ้มเรียกเจ้าของชื่อ
“......” แก้วนิ่ง
“แก้ว ฉันขอโทษอย่าเมินฉันสิ” โทโมะเขยิบเข้ามานั่งใกล้
“.......” แก้วนิ่งจ้อหน้าโน๊ตบุ๊คไม่สนใจหรือเธออาจไม่ได้ยินเสียงเขาด้วยซ้ำเพราะหญิงสาวใส่หูฟังตัวโปรดอยู่
“แก้ว!” โทโมะหน้างอยกหูฟังแก้วออกแล้วเรียกอีกครั้ง
“เงียบ! ฉันกำลังใช้สมาธิอยู่ไม่เห็นเรอะ” แก้วหันมาดุ
“หายงอนฉันก่อนสิฉันถึงจะเลิก” โทโมะพูด
“ไม่ได้งอน..” แก้วเบือนหน้าทำเป็นไม่สนใจพูดเบา
“โกรธก็บอกกันมาตรงๆ ไม่เห็นต้องนิ่งเงียบใส่กัน รู้มั้ยฉันไม่ชอบ!” โทโมะขมวดคิ้วพร้อมพูดเสียงแข็ง
“แล้วนายเคยรู้มั้ยว่าฉันก็ไม่ชอบที่นายแกล้งเหมือนกัน” แก้วรีบว่าแล้วหน้าบึ้งกลับใส่ชายหนุ่ม ชอบแกล้งเธออยู่เรื่อยทั้งที่ๆเธอไม่ชอบก็ยังจะแกล้งต่อ ไม่โกรธก็บ้าหล่ะ
“ก็ขอโทษแล้วไงหายงอนนะ นะแก้ววันหลังไม่แกล้งแล้วเอาจริงเลยล่ะกัน” โทโมะว่าเสียงอ่อนลงแล้วยิ้มพูดออดอ้อน
“โทโมะ!” แก้วสะดุ้งเขิน เอาจริงนี้คืออะไรนี้กะจะจูบเธอจริงๆเลยว่างั้น
“พี่แก้วคุยกับใครอ่ะ?” เนยลงบันไดมาถาม
“ป่าวเห้ย!คุยกับเพื่อนอยู่จ้ะ แฮะๆ” แก้วยิ้มแหย่หลังพูดจบ ดีนะที่โน๊ตบุ๊ตยังวางอยู่บนตักเธอไม่นั้นเธอคงไม่มีอะไรมาอ้าง
“แล้วไป เนยก็นึกว่าพี่ทำงานจนเพี้ยนซะอีกเดียวเนยกับแจมจะไปเซเว่นพี่แก้วจะเอาอะไรป่ะ?” เนยว่าแล้วถาม
“ไม่ต้องหรอกพี่ต้องไปกองแล้ว” แก้วพูด เก็บพับขอเก็บเข้ากระเป๋า
“นั่นพี่รวดไปส่งเราสองคนด้วยเลย ขี้เกียจเดินขึ้นมาพอดี” แจมวิ่งพรวดเกาะแขนแก้วอย่างเร็วเมื่อได้ยิน
“เดินเอง แบร่!” แก้วว่าผลักหัวแจมออกก่อนจะแลบลิ้นแล้วยิ้ม แจมหน้ามุ่ยเกาะแขนอ้อนต่อเนยจึงเดินมาห้ามแจมช่วยดึงออกให้ โทโมะนั่งมองสามสาวก็ยิ้มแอบอิจฉาในใจ
“อ้ะ ฟางมาคนเดียวเหรอ!?” แก้วทักขณะเดินผ่านร้านค้าใกล้กองถ่ายที่เธอทำงานก็เห็นฟางยืนอยู่หน้าร้านพอดี
“แก้ว ฟางมากับเพื่อนนะแล้วนี้แก้วมาทำอะไรแถวนี้?” ฟางยิ้มหวานแล้วบอกก่อนจะเอยถาม
“ทำงานหน่ะ กองถ่ายอยู่ตรงนู่นเองว่างๆไปดูได้นะ” แก้วพูดชวน โทโมะที่ติดตามแก้วเห็นฟางก็ยิ้มอ่อน เธอดูดีกว่าครั้งผ่านๆมาแต่ก็แอบซึมกลัวฟางจะลืมเรื่องของตนไปอีกไม่นาน
“อือ ฟางว่า..” ฟางพูดพลางคิด ถ้ากองถ่ายอยู่แถวนี้แสดงว่าป็อปปี้อาจจะอยู่ด้วย
“ดีเหมือนกัน! ฉันเองก็อยากดูอยู่ด้วย อ้อ สวัสดีคะฉันพ้อยเพื่อนยัยฟางแล้วนี้แพทลูกพี่ลูกน้องฉัน คุณคือแก้วสินะฉันขอบคุณคุณมากเลยที่อยู่เป็นเพื่อนยัยฟางมัน” พ้อยกับแพทออกมาจากร้านหูผึ่งรีบรับข้อเสนอแก้วแทนฟาง
“คุณแก้วเป็นตากล้องเหรอคะ?” แพทพูดเพราะเห็นแก้วสะพายกระเป๋ากล้อง
“คะ เรียกแก้วก็ได้คนกันเอง นั้นไปด้วยกันเลยไหมแก้วกำลังจะไปพอดี” แก้วยิ้มแล้วชวนทั้งสามไปพร้อมเธอ พ้อยไม่รอโอบไหล่ฟางลากตามแก้วไปทันที
“ดะ เดียวพ้อย” ฟางจะประท้วงแต่ไม่ทัน
“มาเช้าตามเคยเลยนะครับ” ป็อปปี้ยิ้มให้แก้วแล้วทักทายตามภาษาคนรู้จัก
“ป็อปเองก็เหมือนกัน” แก้วยิ้มหวานตามปกติ โทโมะยืนมองแก้วกับป็อปปี้ก็รู้สึกหงุดหงิดใจนิดๆอาจเป็นเพราะเขาไม่ชอบป็อปปี้
“นี้เธอคิดจะทำอะไร พาฟางมาเจอมันทำไม!” โทโมะกระซิบถามเสียงขุ่น
“ชู่ว เงียบน่า” แก้วดุ เธอไม่ได้มีเจตนาอะไรทั้งนั้นก็แค่บังเอิญมาเจอกัน
“เอ่อป็อปว่างอยู่ใช่มั้ยแก้วขอฝากเพื่อนแก้วไว้เดียวหนึ่งพอดีแก้วต้องไปหาพี่ชาลี อยู่กับป็อปไปก่อนนะคะ!” แก้วพูดจบก็รีบไปหาพี่ชาลีตามที่ว่า
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณป็อปฉันพ้อยแล้วนี้แพทเพื่อนยัยฟาง เราเคยเจอกันเมื่อวาน” พ้อยแนะนำตัวแล้วยื่นมือขอเช็คแฮนด์ ป็อปปี้ยิ้มแล้วเช็คแฮนด์ตอบ
“ฟางรู้จักกับคุณป็อปนานหรือยัง?” แพทถามแล้วมองฟางกับป็อปปี้
“อือรู้จัก รู้จักนานซะด้วย” ฟางว่าแต่ไม่มองชายหนุ่ม ป็อปปี้เห็นฟางไม่ยอมมองเขาก็ซึมคิดว่าเธอคงไม่เห็นหน้าเขาสินะ
“ฮัลโลวป๋าอะไรนะ!! เอ่อๆได้ๆเดียวหนูไปรับเองค่ะ! แพทม๊ากำลังลงเครื่องเราต้องไปรับด่วนเลย ฟางฉันต้องรีบไปเจอกันเพื่อน เร็วยัยแพท” พ้อยรับโทรศัพท์คุยกับปลายสายก่อนจะวางเธอพูดรัวเร็วรีบลาแล้วลากแพทไปทันที ฟางกับป็อปปี้เหวอ
“พ้อยแพท!” ฟางได้สติรีบเรียกแต่ไม่ทันเพราะเพื่อนสาวเธอหายไปแล้ว
“อยู่กับฉันมันน่าอึดอัดขนาดนั้นเลยเหรอ?” ป็อปปี้พูดน้อยใจ
“.........” ฟางนิ่งไม่ตอบเลือกที่จะเดินหนีแทน
“ฟาง จะไปไหนนะ” ป็อปปี้พูดรั้งแล้วเดินตาม
“ไปห่างๆ” ฟางพูดหนี
“อยู่คุยกันก่อนได้ไหม ในฐานะเพื่อนก็ยังดี” ป็อปปี้พูดขอพร้อมทั้งดึงแขนฟางไว้ ทีแรกฟางยื้อหนีแต่เมื่อเขาพูดจบเธอก็หยุด ฐานะเพื่อนเหรอ
“.........” ฟางหันมามองชายหนุ่มพลางคิดเรื่องเมื่อวานก่อนจะยอมนั่งม้านั่งใกล้ตัว
“ขอบคุณนะ ที่ยังเห็นใจเพื่อนคนนี้..” ป็อปปี้ยิ้มอ่อนพูดแล้วนั่งข้างๆฟางแต่เว้นระยะห่างไว้
“แก้ว แก้วฉันเป็นห่วงฟางรีบหน่อยได้ไหม!?” โทโมะพูดร้อนรนใจ
“คุยงานนะไม่ได้ขายผักจะได้หยิบ จ่าย ทอนได้ทันที” แก้วหันมาว่าชายหนุ่ม
“มีแค่นี้แหละจ้ะ น้องแก้วเดียวเจ้ไปสแตนบายทีมงานต่อ น้องแก้วช่วยเรียกน้องป็อปปี้ไปแต่งหน้าทำผมด้วยนะ” ชาลียื่นกระดาษให้แก้วแล้วขอตัวไปจัดการงานตัวเองก่อนจะขอฝากให้แก้วไปเรียกป็อปปี้
“คะพี่ชาลี แก้วกำลังจะไปหาเขาอยู่พอดี” แก้วพูดรับกระดาษแล้วเก็บใส่กระเป๋า
“อ่ะๆ มีการไปหากันด้วยแอบกิ๊กกันป่ะเนี่ย?” ชาลีรีบแซวแก้วทันที
“เพื่อนกัน! พี่ชาลี” แก้วเขินรีบปฏิเสธข้อกล่าวหา
“จ้าๆ เพื่อน” ชาลียิ้มแอบไม่เชื่อเพราะเห็นพักหลังแก้วคุยกับชายหนุ่มบ่อยเลยแอบคิดว่าสองคนนี้มีซัมติ่ง
“แล้วทำไมต้องเขินด้วย” โทโมะพูดเสียงขุ่น
“นี้ฉันจะเขินบ้างไม่ได้เรอะ ฉันก็ผู้หญิงนะ!” แก้วว่า
“คนอื่นได้แต่คนนี้ฉันไม่อนุญาต” โทโมะสั่งห้ามแก้ว เขาไม่ชอบที่แก้วไปคลุกอยู่กับป็อปปี้บ่อยครั้งที่มาทำงาน
“ป็อปเขาทำไม? ถึงเขาจะเป็นแฟนเก่าฟางหรือไม่เป็นถ้าฉัน ok ใครก็ห้ามไม่ได้ นายมีเหตุผลอะไรมาห้ามฉัน” แก้วฉุนบ่นกลับ หลังดูหลักฐานต่างๆนาๆในห้องโทโมะมันก็ยังสรุปชี้ขาดไม่ได้ว่าเป็นป็อปปี้ แค่เป็นหนึ่งในตัวเลือกเท่านั้น
“ฉันไม่ชอบ” โทโมะตอบ
“นั่นไม่ใช่เหตุผลย่ะ! ห่วงฟางไม่ใช่เหรอยืนหน้าตึงอยู่ได้ไปได้แล้ว” แก้วพูดแล้วเดินหนีก่อนจะเรียกให้ชายหนุ่มตามมา
“อยู่นิ่งๆสิ” ป็อปปี้พูด
“ไม่ต้องฉันทำเองได้” ฟางดึงเท้าตัวเองออกแต่ชายหนุ่มขืนไว้
“อย่าทำเก่งไปหน่อยเลย อยากเดินหนีฉันทำไมล่ะเห็นไหมได้เรื่องจนได้เธอนี้ซุ่มซามไม่เคยเปลี่ยน” ป็อปปี้ว่าแล้ววางเท้าบนเข่าตัวเอง หลังจากที่เขาขอฟางคุยด้วยเขาก็พยายามชวนคุยเรื่องเก่าๆแต่ฟางเหมือนไม่อยากรื้อฟื้นลุกพรวดแล้วหนีเขา ป็อปปี้วิ่งตามฟางจึงเร่งฝีเท้าแต่เผอิญส้นสูงติดร่องทำให้เธอล้มข้อเท้าพลิก ป็อปปี้จึ้งพาเธอมานั่งตรงพุน้ำ
“อย่ามาว่าฉันนะ! เอายามานี้” ฟางพูดแล้วพยายามจะแย้งยานวดจากชายหนุ่ม
“นี้แน่ะ” ป็อปปี้ไม่ให้ดึงขาฟางแล้วกดลงข้อบวม
“โอ๊ย! ฉันเจ็บ” ฟางร้องแล้วหน้ามุ่ย
“หึ” ป็อปปี้ยิ้มก่อนจะก้มลงนวดเท้าหญิงสาว ฟางมองป็อปปี้หวนนึกอดีตครั้งหนึ่ง
“ฟางเป็นอะไร ทำไมเดินกะเผลกยังงั้นล่ะ!?” ป็อปปี้พูดเมื่อเห็นฟางเดินหิ้วกระเป๋าผ้ากะเผลกๆมา
“มีเรื่องนิดหน่อย” ฟางฝืนยิ้ม
“มาเดียวป็อปช่วย” ป็อปปี้ประคองฟางมานั่งเก้าอี้ก่อนจะย่อตัวดูเท้าบวมเป่ง
“ป็อปจะทำอะไร ถอดรองเท้าฟางทำไม?” ฟางตกใจที่ชายหนุ่มถอดรองเท้าเธอออก
“จะนวดให้ไง รับประกันเดินได้เหมือนเดิมแต่ถ้าไม่ได้เดียวป็อปอุ้มกลับบ้าน” ป็อปปี้พูดพลางนวดเท้าเบามือแล้วเงยหน้ายิ้มหวาน
“จะบ้าเรอะ! เดียวพ่อกับแม่ฟางก็ฆ่าป็อปหรอก” ฟางพูด
“ก็ดีสิ ป็อปจะได้กลายเป็นผีเฝ้าบ้านแล้วอยู่กับเคียงข้างฟางตลอดไปไง” ป็อปปี้พูดหยอดหวานเอาแต้มจนหญิงสาวหน้าแดง
“ไม่เอาอ่ะ ฟางกลัวผี” ฟางพูดดักทางแกล้ง
“ฮะ ฮ่าๆๆ”
เปาะแปะ แปะๆๆ
หยาดฝนเทลงมากระทบ ใบหน้าชายหนุ่มเขาเงยหน้ามองท้องฟ้า
“ฝนตก” ป็อปปี้พูดจบ ฝนก็เทลงมาอย่างหนักหน่วง
ครืนๆ เปรี้ยง
เสียงฟ้าร้องครวญก่อนที่แสงวูบวาบจะผ่าลงมาจนเกิดเสียงดังสนั่น
“ว้าย!” ฟางตกใจเอามือปิดหู
“ฟาง เดินไหวไหม!?” ป็อปปี้ถาม มองฟางที่สั่นกลัวเขาพึ่งนึกออกว่าฟางกลัวเสียงฟ้าผ่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ให้ฉันอุ้มนะ” ป็อปปี้พูดขอ ฟางพยักหน้าตอบยอมให้เขาอุ้ม ชายหนุ่มรีบช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมาแล้วหาที่หลบฝนทันที
“เปียกหมดเลย บ้าจริงไหนกรมอุตุบอกวันนี้ฟ้าโปร่งไง” แก้วบ่นอุบอิบหลังหาที่หลบฝนเจอ เธอกำลังตามปป็อปปี้อยู่ดีๆฝนก็ตกลงมาแบบไม่ได้นัดหมาย
“เธอก็อย่าไปเชื่อเขาเสมอไปสิ ไม่มีใครกำหนดธรรมชาติได้” โทโมะพูด
“คะ ฮัดเช้ย!”แก้วจะหันมาว่าแต่ดันจามออกมาเสีย หญิงสาวกอดตัวเองด้วยความที่ว่าเธอเปียกโชกไปทั้งตัวบวกกับอากาศที่หนาวเย็นทำให้เธอสั่นไปหมด โทโมะมองแก้วก็ปิ้งไอเดีย
“ทำอะไรอยู่ๆมากอดฉันทำไม!?” แก้วตกใจที่ชายหนุ่มเข้ามาโอบกอด
“ก็แค่คิดว่ามันน่าจะช่วยให้เธออุ่นขึ้นได้ ไม่ต้องห่วงไม่มีใครเห็นฉันอยู่แล้ว” โทโมะพูดแล้วกระชับแน่นกว่าเดิม แก้วมองโทโมะก็ใจสั่นขึ้นมาเธอก้มหน้าซุกอกเขาไม่อยากให้เห็นว่าเธอกำลังเขินเพราะเขาพร้อมทั้งหาความอบอุ่นที่ชายหนุ่มมอบให้
_____________________________________________________
แหมๆๆ ฉากหวานฟินมาเต็มกำลังสอง ฮัยโมะนี้ยังไงรักแต่ชอบหยแกแก้ว แก้วเราก็หวั่นไหวได้นะจ้ะ ป็อปฟางชวนรำลึกความหลังอีกล่ะ เหอะๆ น่ารักซะไม่มีมาอัพให้แล้วน้า เม้นด้วยนะจ้ะ ไม่เม้นพีสไม่อัพบอกไว้ก่อน > <
LOVETK PF KF!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ