Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
8.4
เขียนโดย blackKZ
วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.
20 chapter
215 วิจารณ์
29.92K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
11) ตอนที่ 10 คนป่วยเอาแต่ใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCHAPTER10: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
ตอนที่ 10 คนป่วยเอาแต่ใจ
“ฮะ ฮัดเช้ย!” หญิงสาวนั่งขยี้จมูกนั่งเอนหมอนอยู่บนเตียง ผ่านมาได้วันเต็มๆหลังเธอต้องนอนอืดบนเตียงเพราะตากฝนจนไข้ถามหา
“พี่แก้ว เนยเอาพารามาให้กินเสร็จก็พักผ่อนซะนะ” เนยพูดพร้อมยื่นเม็ดยาให้
“นอนอีกแล้วเหรอพี่หลับมาทั้งวันแล้วนะ ขอพี่นั่งสักเถอะนะ” แก้วบ่นพร้อมรับยามามองอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่ต้องบ่นเลยพี่แก้ว ตัวเองพึ่งหายเจ็บไม่ทันไรดันไปหาเรื่องป่วยเองเพราะฉะนั้นหมดสิทธิ์คะ!” แจมตามหลังเนยว่า
“อย่าว่าพี่ดิ พี่ไม่ได้อยากป่วยออดๆแอดๆนอนซบทุกวันหรอกนะ แค่วันเดียวก็เบื่อจะแย่” แก้วหน้างอพูดเสียงอ่อย เนยแจมยิ้มขำพี่สาว
“ไว้ไข้ลดลงพี่แก้วอยากทำอะไรก็ทำ แจมเราปล่อยให้พี่พักเหอะป่ะ” เนยพูดก่อนจะพาแจมออกห้อง
“แค่กๆ เจ็บคอเป็นบ้า อ้ะ!ขอบคุณ” แก้วลูบคอตัวเองแล้วเหล่ซ้ายขวาหาแก้วน้ำ โทโมะที่นั่งอยู่ใกล้หญิงสาวรีบยื่นแก้วน้ำให้ แก้วรับมาเตรียมดื่มแต่โดนชายหนุ่มดึงแขนไว้
“อย่าเพิ่ง! กินยาเข้าไปก่อนแล้วค่อยดื่มน้ำ” โทโมะพูด แล้วดันมือข้างที่แก้วถือยาไว้เข้าปากหญิงสาว
“อึกๆ เฮ้อ ค่อยยังชั่ว” แก้วรีบซดน้ำตามอย่างเร็วจนหมด
“38 องศา! เนี่ยน้ายัยเบอะแทนที่จะหลบฝนอยู่ดีๆดันซ่าโชว์เก่งไปช่วยเขาขนของเป็นไง” โทโมะหยิบปรอทวัดไข้ใกล้มือมาดูก็ตาโตรีบบ่นแก้ว
“เงียบไปเลย ส่วนหนึ่งก็เพราะนายด้วยถ้านายไม่บังคับให้ฉันไปตามหาฟางป่านนี้นั่งกินลมชมฝนไปแล้วไม่ต้องมานอนเป็นไข้อย่างงี้ อีกอย่างเขาเรียกว่ามีน้ำใจไม่ใช่ทำซ่าย่ะ! แค่กๆ” แก้วว่ากลับก่อนจะสำลักไอ โทโมะรีบลูบหลังปลอบค่อยๆ
“หึ พูดมากดีนักเดียวได้เป็นหนักกว่าเดิม กินยาเสร็จก็นอนได้แล้ว” โทโมะส่ายหน้าแอบขำกับความดื้อรั้นไม่ยอมของแก้วแล้วสั่งให้เธอพักผ่อน
“ไม่เอาฉันยังไม่ง่วง” แก้วหน้าบึ้งว่า
“นอนซะแก้ว” โทโมะพูดเสียงแข็ง
“ไม่!”แก้วปฏิเสธเสียงแข็งขืนไม่ยอม
“แก้ว!” โทโมะกำชับอีกครั้ง
“.........” แก้วหันหน้าหนี
“ที่เธอไม่อยากนอนเนี่ยจริงๆติดใจฉันอยากให้ฉันนอนกอดเธอใช่มั้ย” โทโมะพูด
“หลงตัวเอง” แก้วหันมาว่าแบบไร้เสียง โทโมะอ่านปากก็รู้ได้ทันว่าเธอกำลังด่าเขาอยู่ก็ยิ้มเล่ห์
“ให้เลือก นอนลงไปนิ่งๆหรือให้ฉันนอนเป็นเพื่อน” โทโมะพูด
“แค่ก นายไม่ใช่ญาติฉันทำไมฉันต้องทำตามที่นายบอกด้วย!” แก้วโต้เถียง
“นับหนึ่ง” โทโมะลงนั่งข้างหญิงสาว แก้วไม่มีท่าทีจะลดละเชิดหน้านิ่ง
“สอง” โทโมะขึ้นคร่อมช่วงล่างของเธอก่อนจะค่อยๆคืบคลานเข้ามาประชิดเรื่อย แก้วสะดุ้งเริ่มลุกล้น
“สะ..” โทโมะยันกำแพงล็อคทางหนีแก้วพร้อมทั้งยิ้มมุม
“โอเคๆๆ!! ฉันนอนก็ได้แต่นายต้องถอยไปห่างๆ” แก้วปิดปากชายหนุ่มรีบพูด โทโมะยักไหล่ล่าถอยตามที่เธอขอ หญิงสาวบึนปากอยากด่าแต่ทำไม่ได้จึงนอนลงแล้วดึงผ้าคลุมตัวเข้าสู่ห้วงนิทรา
“หึ ไหนว่าไม่ง่วงหลับสบายเชียว” โทโมะแอบย่องดูหญิงสาวใกล้ๆก็เห็นเธอหลับไปเสียแล้ว อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปทำให้ง่วงด้วย
“ฝันดี ยัยเบอะ”
“แค่กๆๆ” ฟางนอนหายใจฟืดฟาดไอด้วยหวัดที่รุมทำร้ายเธอมาทั้งวัน แม่บ้านประจำเดินเข้ามาพร้อมถาดโจ๊กร้อนวางไว้ใกล้ๆก่อนจะเอามือแตะหน้าผากวัดไข้หญิงสาว
“คุณหนูค่ะ ป้าเอาโจ๊กมาให้ทานสักหน่อยจะได้ทานยาต่อ” มะลิถอนหายใจเบาแล้วพูด
“ฟางไม่มีแรงเลยคะ” ฟางส่ายหน้าตอบเสียงแผ่ว เธอไม่มีเรี่ยวแรงพอจะยันตัวเองนั่งซะด้วยซ้ำ
“เดียวป้าช่วยคะ” มะลิช่วยประคองฟางพร้อมหยิบหมอนวางนุ่นหลังก่อนจะถือเอาถาดโจ๊กร้อนวางตักหญิงสาว ฟางพยายามตักข้าวเข้าปากอย่างช้าๆด้วยแรงที่มี
“ถ้าไม่ไหวจริงๆป้าไปตามแจ๋วมาช่วยล่ะกันเพราะเดียวป้าต้องไปเตรียมครัว คุณหนูพยายามทานเองไปก่อนนะคะ” มะลิเห็นคุณหนูไม่น่าไหวก็บอกจะตามแจ๋วมาช่วย
“คะ ป้ามะลิ” ฟางพยักหน้ารับเหนื่อยอ่อนถึงหันมากินต่อ
“แค่กๆๆ” ผ่านไปนานพอควร ฟางยังกินเข้าไปได้ไม่ถึงไหนไม่ใช่เพราะร้อนอาจเพราะพละกำลังที่มีกำลังจะหมดเสียมากกว่า หญิงสาวปิดปากไอด้วยหวัดพลางมองประตูสลับกับโจ๊กร้อนตรงหน้า
แอ้ดดดดดดด.....................
“พี่แจ๋วทำไมมาช้าจะ…ป็อปปี้” ฟางเงยหน้าถามแต่ชะงักเพราะคนที่มาไม่ใช่แจ๋วแต่เป็นป็อปปี้
“ยังกินไม่ถึงครึ่งเลย ม่ะเดียวฉันป้อน” ป็อปปี้มองถ้วยที่ยังลดไปไม่ถึงไหนก็รีบเดินลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ
“พี่แจ๋ว! แค่กๆๆ” ฟางตะโกนเรียกแจ๋วคิดว่าสาวรับใช้อยู่ข้างนอกห้อง
“เรียกไปก็ไม่มีใครได้ยินหรอก ตอนเนี่ยทั้งบ้านเหลือแค่ฉันกับเธอและป้ามะลิ อีกอย่างป้าเป็นคนขอให้ฉันมา ทางสะดวก” ป็อปปี้ว่าจบก็แย่งเอาถาดโจ๊กมาวางตักตัวเอง
“ป้านะป้า..” ฟางพึมพำหน้ามุ่ย
“อ้าปาก” ป็อปปี้พูดพร้อมยื่นช้อนเตรียมป้อนจ้อปาก
“ฉันกินเองได้..” ฟางพูดแล้วดันออก
“เมื่อกี้ยังบอกป้ามะลิอยู่เลยว่าไม่มีแรง อ้าปาก!” ป็อปปี้แย้ง
“ก็บอกวะ..อุบ!” ฟางจะย้ำแต่ป็อปปี้เอาช้อนเข้าปากเธอซะก่อน
“ห้ามคาย ไม่งั้นฉันจะใช้ปากป้อนแทนช้อน!” ป็อปปี้ขู่เมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าจะคายทิ้ง ฟางหน้าตึงเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ชายหนุ่มคลี่ยิ้มพลางป้อนข้าวให้เธอต่อจนใกล้หมดถ้วย
“คำสุดท้ายล่ะ อ่า” ป็อปปี้พูด
“........” ฟางอ้าปากกินโดยง่าย หญิงสาวสะดุ้งที่อยู่ๆชายหนุ่มเอาทิชชู่มาเช็ดปากให้ ป็อปปี้ถือถาดออกห้องไปเหลือทิ้งเพียงหญิงสาวที่นั่งแอบอมยิ้ม เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นภาพนี้อีกครั้งหลังเลิกกับชายหนุ่ม
“ฟาง เลยเวลายาแล้วนะทำไมยังไม่กินเข้าไปอีก” ป็อปปี้เข้ามาห้องมาอีกครั้งก่อนเหลือบมองยาที่ยังอยู่ที่เดิมก็รีบถาม
“ไม่เอามันขมฉันไม่ชอบ แค่กๆ” ฟางก้มหน้าพูด
“เดียวก็ไม่หายหรอก กินซะจะได้นอนพัก” ป็อปปี้หยิบยากับน้ำให้แล้วบังคับเสียงแข็ง ฟางส่ายหน้าไม่เอา ชายหนุ่มจึงส่งสายตาดุเธอ
“พ่อแม่ก็ไม่ใช่บังคับอยู่ได้ ใจร้ายที่สุด” ฟางบ่นแล้วรับยามากลืนอย่างเร็วตามด้วยน้ำแก้ขมก่อนจะเบ้หน้าสะอิดสะเอียด ป็อปปี้ลอบขำทำให้ฟางหันมาตาเขียวใส่ เขารีบหุบยิ้มแล้วดึงผ้าห่มร่างให้ขณะฟางกำลังจะนอนแล้วนั่งเฝ้าจนเธอหลับสนิท
“คุณหนูหลับไปแล้วเหรอคะ? คุณป็อป” มะลิเห็นป็อปปี้ลงมาก็ถาม
“ครับ กว่าจะกล่อมให้กินข้าวกินยาได้แทบแย่ ขอบคุณป้ามากนะครับที่ยอมให้ผมเข้ามา” ป็อปปี้พูด
“ไม่เป็นไร วันนี้ป้าเองก็ยุ่งๆแจ๋วก็ไปกับคุณนาย ดีซะอีกที่คุณมา คุณทานข้าวหรือยังป้าทำกับข้าวไว้อยู่ทานสักหน่อยนะ” มะลิพูดก่อนจะชวนให้ชายหนุ่มอยู่ทานข้าว
“ไม่ดีกว่าครับ ผมเกรงใจอีกเดียวพวกเขากลับมาถ้าเห็นผมเข้าฟางจะแย่ ผมกลับเลยดีกว่า” ป็อปปี้ปฏิเสธแล้วพูดพลางนึกถึงพ่อกับแม่ฟาง
“ที่จริงคุณก็ไม่น่ายอมคุณท่านเขา ถ้าคุณสู้อีกนิดป้าว่ายังไงพวกเขาก็ต้องเข้าใจ” มะลิพูด
“ผมรู้ตัวดีว่าผมเป็นใคร ที่พวกเขาทำมันถูกต้องแล้วไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่ห่วงลูกหรอกครับ” ป็อปปี้พูด
“แต่คุณก็น่าจะบอกความจริงคุณหนูฟาง..” มะลิว่า
ปี้ดๆๆ!!!
เสียงแตรรถดังมาแต่ไกลเป็นสัญญาณว่าคุณท่านได้มาถึงคฤหาสน์
“คุณท่านกลับมาแล้ว แปลกจริงทำไมวันนี้ถึงกลับเร็วกันนะ!?” มะลิพูด
“ผมขอตัวนะครับ” ป็อปปี้ลากลับ มะลิรับไหว้แล้วรีบไปเปิดประตูรั้วให้รถใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์
“มะลิ เมื่อกี้คุยกับใครนะ?” ชายชราดูมีภูมิฐานก้าวลงจากรถถามแม่บ้านตน
“ไม่มีนี้คะ คุณผู้ชายกลับมาเร็วกว่าปกตินะคะ มีอะไรรึเปล่า?” มะลิรีบเปลี่ยนเรื่องกลัวชายชรารู้
“พอดีประชุมเสร็จเร็วกว่าที่คิด แล้วยัยหนูเป็นไงบ้าง” ธนัยถาม
“ดีขึ้นแล้วล่ะคะ” มะลิตอบ
“ก็ดี..” ธนัยเหล่มองทางห้องลูกสาวก่อนกลับห้องตัวเอง มะลิมองตามหลังถอนหายใจที่ชายชรามักจะเคร่งครึมกับลูกสาวทุกครั้ง จนตัวเธอเองยังคิดว่าชายชราเคยห่วงลูกสาวจริงๆบ้างรึป่าว
“อืม อ้ะ อ้าส!” ในห้องนอนใหญ่หรูสองชายหญิงกำลังร่วมรักกันอย่างเร้าร้อน ขนาดอุณหภูมิเย็นแค่ไหนก็แทรกกลางเขาสองคนไม่ได้
“แฮ่กๆ” ชายหนุ่มเพิ่มจังหวะเร็วขึ้นเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน
“อ้าส์!!” หญิงสาวโอบรอบคอแน่นจนสุดทางเธอปล่อยโล่งพอใจก่อนนอนราบผ้าปูเตียงสีทึบ ชายหนุ่มยิ้มยั่วโน้มตามด้วยความเหนื่อย
“อืม พอแล้ว” พิมประท้วงที่ชายหนุ่มคลอเคลียเธอต่อ
“ฉันยังไม่หน่ำใจเลย” พิชชี่พูดพลางไล่สูดหอมกลิ่นกายหญิงสาว
“พิชรักพิมไหมค่ะ” พิมคล้องคอพิชชี่แล้วถาม
“แน่นอนครับที่รัก” พิชชี่ยิ้มตอบ
“พิมขออะไรพิชหน่อยสิ” พิมพูดเสียงหวาน พิชชี่หยุดฟังคำขอของเธอด้วยความแปลกใจเพราะปกติพิมไม่ค่อยขออะไรเขาสักเท่าไร
“ช่วยไปจัดการผู้หญิงคนหนึ่งให้พิมได้ไหมคะ” พิมพูดขอ
“ฮื่อได้สิพิมอยากได้อะไรผมหาได้หมดครับ ว่าแต่ดูท่าทางคุณจะแค้นใจมากสินะถึงขอให้ผมจัดการ” พิชชี่พูด
“ใช่ พิมเกลียดมัน นังนั่นมันชอบขัดแข้งขัดขาพิมอยู่เรื่อยคอยขวางทุกอย่างที่พิมต้องการ!” พิมเอยอย่างแค้นใจ
“อืม เอาสิแต่วันนี้พิมต้องอยู่เป็นเพื่อนผมทั้งคืนนะ” พิชชี่ยิ้มบอกตกลง
“พิมรักพิชที่สุดเลยคะ” พิมกอดชายหนุ่มดีใจ
“ครับผมต้องเป็นที่หนึ่งเพียงคนเดียว อย่าลืม” พิชชี่พูดจบก็ทำตามที่ตนต้องการต่อ พิมยิ้มรับตอบสัมผัสชายหนุ่มหน้าระรื่น ในที่สุดเธอจะได้หมดอุปสรรคเสียที
“แกไม่รอดแน่ นังฟาง!”
_________________________________________________________
มาอัพแล้วววววววววว สองหนุ่มนิเขามีวิธีจัดการเฉพาะของเขาจริงๆเนอะ เราไม่เคยเขียน NC นะ แต่ไม่ต้องห่วงเราได้เจอกันแน่นอน พิชชี่ออกโรงมาฟางจะทำอย่างไร เม้นตอบด้วย ไม่เม้นไม่อัพบอกตรงจบนะ พีสขอ >3<!!! เอาหวานไปก่อนเตรียมนะเศร้ามานาน 5555
LOVETK PF KF!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ