Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  29.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) บทนำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
INTRO: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง
 
 
 
            เขานั้นตัวจริงแล้วฉันมันตัวอะไรเขาน่ะเป็นใครแล้วฉันน่ะเป็นใครเป็นแค่ที่พักไม่ใช่ที่รัก อย่างฉันก็ได้แค่นี้เขานั้นตัวจริงแล้ว...ติ๊ด
 
 
            “ง่ะ ใครมาขัดเนี่ยกำลังมัน!?”เจ้าของหูฟัง Sony สีแดงทับทิมโพล่งขึ้นมาอย่างขัดใจ เธอกำลังนอนฟังเพลงเล่นอยู่บนเตียงนอนของเธอบวกกับนั่งอ่านนิตยสารแฟชั่น กินขนมสบายใจเชิบ แต่ดันมีมือดีมากดปิด Ipod ของเธอ แถมดึงหูฟังที่สวมหัวเธอออก ทำให้ตาคู่สวยต้องล่ะสายตาจากหนังสือในมือไปหาผู้ก่อกวน
 
 
 
 
            “พี่แก้วค่ะถึงเวลางานแล้วค่ะ” สองสาวหน้าเหมือนพูดพร้อมกัน เรียกพี่สาว
 
 
 
 
            “อ้าว เนยแจม เดียวน่ะพี่ไม่มีงานที่ไหนนิน้า” แก้วถามสองสาว เพราะวันนี้มันเป็นวันหยุดของเธอ จะไปมีงานที่ไหนได้ยังไงกัน
 
 
 
 
            “อ้อ พอดีเนยกับแจมแอบรับงานหนึ่งมาให้พี่แก้วแถมรับเงินเอาไปช็อปปิ้งหมดแล้วด้วยเพราะฉะนั้นพี่แก้วต้องรีบไปเดียวนี้เลย” เนยพูดขึ้นพลางมองหน้าแจมสลับกับแก้วอธิบายให้พี่สาวฟัง
 
 
 
 
            “ห่ะ!! แอบรับมาแล้วไหนจะรับเงินเขามาไม่พอเอาไปช็อปปิ้งหมดแล้ว โอยนี้กะไม่ให้พี่หยุดงานเลยหรอ เนยแจม” แก้วโวยขึ้นมา วันหยุดที่นานๆที่จะมีมาสักครั้งกำลังจะหายไป
 
 
 
 
            “ไม่รู้ล่ะ เดือนนี้พี่แก้วจ่ายช้าเอง เนยเลยต้องไปรับจ็อบเขามาเพื่อซื้อของเข้าบ้านเราน่ะ” แจมโทษแก้ว เพราะเธอดันลืมจ่ายเงินเข้าบ้านให้สองสาวเอง
 
 
 
 
            “ใช่ แล้วก็บวกของใช้พวกเรานิดๆหน่อยๆด้วย” เนยพูด
 
 
 
 
            “ใจร้ายอ่ะ” แก้วงอแงฟุบกอดหมอน
 
 
 
 
            “อย่าบ่นสิพี่แก้วป่ะ ลุกเร็วๆ!!!” สองสาวช่วยกันลากพี่สาวไปแต่งตัวเตรียมไปทำงาน แก้วเองทำอะไรไม่ได้ยอมทำตาม หิ้วกระเป๋าคู่ใจ รับที่อยู่งานจากเนยแจม ก่อนจะขึ้นรถ masda 2 Racing สีฟ้าขับเคลื่อนไปตามระบบสั่งการ GPS จนมาถึงกองถ่าย มีคนมากมายกำลังทำงานของตัวเองอย่างเร่งรีบ แก้วรีบตรงดิ่งเข้ามาหาผู้ว่าจ้าง
 
 
 
 
            “อ้ะ น้องแก้วมาทำงานนี้ด้วยเหรอ ไม่ใช่ว่าวันนี้วันหยุดเรานิ?” กะเทยสาวร่างถึกสวนทางกับแก้ว สงสัยจึงเอยถาม
 
 
 
 
            “พอดีแก้วเบื่อๆเลยหาอะไรทำแก้เซ็งค่ะ พี่ชาลี” แก้วยิ้มเจื่อนๆให้ ใครว่าเธออยากทำกันถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวตัวแสบของเธอ ป่านนี้หลับสบายตากแอร์เย็นอยู่บ้านไปแล้ว ไม่ต้องทนร้อนกลางแดดกลางแจ้งแบบนี้หรอก
 
 
 
 
            “ถ้าเรื่องรายละเอียดเดียวคุยกับเจ้ก็ได้ พอดีเฮียแกเข้าห้องน้ำอยู่ท่าทางจะท้องเสีย” ชาลีพูดพลางชี้ไปทางห้องน้ำ
 
 
 
 
            “ค่ะ แล้วพี่จะให้แก้วถ่ายแบบไหนพี่ว่ามาเลย” แก้วเตรียมกระดาษขึ้นมาจด
 
 
 
 
            “ได้ๆ แต่ไปคุยกันข้างในเหอะ ตรงนี้มันร้อน เดียวเจ้ดำ” ชาลีกวักมือเรียกแก้วให้ตามตัวเองมา
 
 
 
 
            “ค่ะ” แก้วพยักหน้าตอบ กระชับกระเป๋าสะพายตามกะเทยร่างยักษ์ ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยรายละเอียดงานกัน กลับมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมา ทั้งแก้วและชาลีจึงรีบสาวเท้าเร็วไปที่เกิดเหตุมองหาต้นเสียง
 
 
 
 
            “ฉันสั่งเอสเปรสโซหวานน้อย แล้วนี้มันอะไรหวานขนาดนี้ใครจะไปกินลง!!” เสียงตวาดของชายหนุ่มหน้าหวาน ทำเอาคนทั้งกองมองมาป็นตาเดียว
 
 
 
 
            “ใจเย็นค่ะ พอดีกาแฟที่คุณโทโมะสั่งดันไปสลับแก้วกับลูกค้าในร้านเข้านะค่ะ และอีกอย่างนี้ใกล้เวลาแล้วแจ๋วเกรงว่ามันจะไม่ทันการเลยเอาคาปูชิโน่ให้คุณไปก่อน” หญิงสาวคนหนึ่งรีบบอกเหตุผลให้เขาฟังแต่เขากลับไม่มีท่าทีจะหยุด ซัดแก้วกาแฟในมือใส่เธอไม่ใยดี
 
 
 
 
            “ฉันไม่สน ไปเอามาใหม่ถ้ายังอยากให้ฉันรับงานอยู่” เขามองด้วยหางตาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะชำเลืองมองยิ้มเยาะใส่ สาวที่เปียกน้ำกาแฟเพราะแก้วที่เขาขว้างใส่เธอ
 
 
 
 
            “ตะๆ แต่ว่า...” เธอพยายามยื้อขอ แม้จะถูกกระทำหนักขนาดนี้
 
 
 
 
            “ไม่มีแต่!” โทโมะเหวี่ยง
 
 
 
 
            “เห้! คุณเขาก็ขอโทษแล้วจะโวยวายให้มันได้อะไรขึ้นมา คาปูกับเอสมันก็กาแฟเหมือนกันกินๆไปเหอะน้า อย่าบ่นได้ม่ะ” แก้วทนไม่ไหวตั้งแต่ทีแรกจนฟิวส์ขาดตอนที่เขาทำร้ายคนงานในกอง เข้ามาผลักชายหนุ่มเซเล็กน้อยก่อนจะประคองหญิงสาวส่งต่อให้คนในกองพาออกไป
 
 
 
 
            “แก้วๆ ใจเย็นนั่นคุณโทโมะ นายแบบเราเลยนะ” ชาลีรีบห้ามแก้ว ไม่อยากให้เธอไปทะเลาะกับเขา
 
 
 
 
            “แล้วไง พี่ชาลี มาทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาแบบเนี่ย ใครเขาอยากจะร่วมงานด้วย คิดว่าใหญ่มาจากไหนกัน” แก้วไม่ยอม ด่าชายหนุ่มด้วยความเดือดจัดเพราะอารมณ์เสีย ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย ยังจะต้องมาเจอเรื่องอีก ใครมันจะทนได้
 
 
 
 
            “นี้ยัยทอม ฉันไม่ใช่เด็กโว้ย!” โทโมะเข้ามาประชันชิดกับแก้ว แสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวไม่สบอารมณ์ ที่เธอมาหาว่าเขาเป็นเด็ก
 
 
 
 
            “ฉันไม่ใช่ทอมสักหน่อย นายเองก็หัดโตซะบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ใจ อย่ามาทำให้คนอื่นเขาเสียการเสียงานไปด้วยเซ่!” แก้วเชิดหน้าประชันสู้โทโมะ ต่อว่าด้วยวาจาเจ็บแสบพร้อมชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง จังหวะนั่นเสียวูบไปชั่วขณะเพราะน้ำหอมที่กระจายออกมาจากตัวเขา และเธอพึ่งนึกได้ว่าตอนนี้หน้าเขาและเธอห่างเพียงคืบ ทำให้เห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน จนเธอเผลอคิด ว่า นี้มันสุดยอดงานจิตรกรรมชัด คนอะไรเค้าโครงจมูก ตา ปาก เข้ากันได้ขนาดนี้ > <!!
 
 
 
 
            “เธอคิดว่าเธอเป็นใคร กล้ามากที่มาต่อปากต่อคำกับฉัน ถ้าฉันไม่ถ่าย กองเธอล้มแน่ เพราะโปรดิวเซอร์งานนี้เจาะจงมาที่ฉันคนเดียว เชิญเธอไปแก้ตัวเอาเองล่ะกัน” โทโมะขู่ กรีดยิ้มอย่างปีศาจ เรียกสติหญิงสาวที่กำลังเหม่อกลับมา
 
 
 
 
            “ไม่ต้องมาขู่ นายแบบหล่อกว่านายมีตั้งเยอะแยะไม่เห็นจำเป็นต้องมาง้อเด็กเอาแต่ใจอย่างนายเลยสักนิด เรื่องแค่นี้ฉันจัดการได้” แก้วโต้ตอบไม่แคร์คำโทโมะเลยสักนิด
 
 
 
 
            “เหอะ หล่อกว่าฉัน ไอ้หน้าไหนที่จะมาเทียบฉันได้” โทโมะจิกกัดผ่านสายตา
 
 
 
 
            “ป็อปปี้เป็นไง ฉันโทรเรียกเขาตอนนี้เลยก็ได้” แก้วหยิบโทรศัพท์กะทำอย่างปากว่า ถ้าให้พูดตอนนี้ คนที่ดังพอๆกับโทโมะ คงไม่พ้น ป็อปปี้ ภานุ นายแบบหล่อเข้มหน้าตาดีแถมนิสัยยังดีอีกด้วย ต่างจากโทโมะโดยสิ้นเชิง
 
 
 
 
            “นี้เธอ!!” โทโมะฉุนเฉียวความปากกล้าของหญิงสาว เขาจ้องจะกินเลือดกินเนื้ออยากจะจับยัยนี้มาตีก้นซะให้เข็ด
 
 
 
 
            “STOP!!! หยุดก่อนนนน ทั้งคู่เลย คุณโทโมะค่ะ เดียวเจ้จะจัดตามต้องการไปให้นะค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งอารมณ์เสีย ทานน้ำเย็นๆก่อนจะได้หายร้อน ส่วนแกยัยแก้ว ยังไม่ทันเริ่มงานเลยอย่าพึ่งทำพังได้ไหม เจ้ขอ” ชาลีรู้สึกถึงเมฆฝนฟ้าคะนองที่กำลังมาเยือน รีบจับทั้งคู่แยกออกไม่งั้นอาจจะต้องมีใครตายไปซักคน ก่อนจะเล้าโลมให้โทโมะหยุดแล้วหันไปขอแก้วให้พอ
 
 
 
 
            “ก็ได้ค่ะเจ้ นั่นหนูไปเตรียมอุปกรณ์ก่อนน่ะค่ะ เบื่อพวกหลงตัวเองแถวนี้ แบร่” แก้วว่าแล้วแลบลิ้นใส่ชายหนุ่ม จนเขาเกือบพุ่งเข้าไปแต่ชาลีดักห้ามทันจึงได้แต่สะบัดหน้าเชิดตามคนในกองไป แก้วยิ้มเย้ยยันอารมณ์ดีก่อนจะหุบยิ้มเพราะชาลีจ้องเชิงบอกไม่ใช่เวลาเล่น แก้วปลีกตัวมาเตรียมของ วางกล้องดิจิตอล กับเลนส์ ปรับอุปกรณ์ เช็คความเรียบร้อย ตาคู่สวยเหลือบไปเห็น โทโมะที่นั่งแต่งหน้าอยู่โซนไม่ไกลตัวมากนัก
 
 
 
 
            “เนยแจมน้า ทำพี่ลำบากแท้ๆ ต้องมาทนถ่ายรูปเห็นหน้าอิตานี้ วันนี้อีแก้วคงฝันร้ายแง้มๆ” แก้วก้มหน้าก้มตาพึมพำ หลังจัดเตรียมกล้องเรียบร้อยเธอพลิกตัวไปหันหลังทำให้ไปปะทะเข้ากับร่างสูงข้างหลัง เล่นเอาแก้วเซเล็กน้อย
 
 
 
 
            “ขอโทษค่ะ” แก้วพูดทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้ากล่าวตามปกติ
 
 
 
 
            “หืม เอาเรื่องไหนล่ะ” เสียงทุ้มว่า
 
 
 
 
            “เห้ย โทโมะ มาอยู่นี้ได้ไงก็เมื่อกี้ยัง...นี้กะจะเอาคืนฉันสินะ” แก้วสตั้นเพราะคนที่เธอชนไม่ใช่ใครที่ไหน โทโมะแอบมายืนข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
 
 
 
 
            “คนอย่างฉันไม่แอบหรอก ถ้าจะทำ ฉันจะทำมันตรงๆเนี่ยแหละ” โทโมะพูด
 
 
 
 
            “หนอย ไอ้ๆ หึ่ย ถ้าพี่ชาลีไม่ขอ ฉันจะเอาเล็บข่วนให้เสียหล่อเลยคอยดู ถอยไป จะเอาเวลาไปทำใจ ทนเห็นหน้านายไม่ได้ อารมณ์เสีย!!” แก้วดันร่างชายหนุ่มออก เดินจ้ำๆออกไป
 
 
 
 
           “อ้อ เต็มที่นะ เพราะเธอต้องทนเห็นหน้าฉันทั้งวัน” โทโมะ พูดเสียงดังให้หญิงสาวได้ยิน แก้วหันขวัญทำตาเขียวใส่แล้วสะบัตหน้าหนีไป โดยไม่สังเกตเห็นโทโมะยิ้มขำกับท่าทีฮึดฮัดฟัดเหวี่ยงของแก้ว ไม่เคยมีใครกล้าขัดใจเขาเลย มีแต่แก้วเท่านั้นที่ทำ เล่นเอาชายหนุ่มแปลกใจไม่น้อย
 
 
 
 
           “น้องแก้ว เป็นอะไรจ้ะ หน้าบูดหน้าเบี้ยวมาซะขนาดนี้” พี่ในกองที่รู้จักกับแก้วทัก
 
 
 
 
            “ไม่อะไรหรอกพี่ แก้วพึ่งฟัดกับไอ้ขี้เก็กมา” แก้วพูดพลางกอดอก
 
 
 
 
            “อ่ะๆ เกลียดกันมากๆระวังจะได้กันเอง” พี่พูด
 
 
 
 
            “โห้ว ต่อให้ทั้งโลกเหลือเขาคนเดียวแก้วไม่มีทางเอาเด็ดขาด หน้ายังเนี้ยใครจะทนได้” แก้วว่า
 
 
 
 
            “จุ๊ๆๆ น้องแก้ว เห็นปากร้ายแบบนี้ เขามีแฟนแล้วนะจ้ะ เป็นลูกผู้ดีซะด้วย  ยิ่งตอนอยู่ด้วยกันนะหวานเลี่ยนจนหลายคนอิจฉาเลยล่ะ” พี่ในกองเล่าให้แก้วฟังถึงแฟนสาวโทโมะ
 
 
 
 
            “แหวะ แก้วว่าคนที่เป็นแฟนอีตานั้นคงโชคร้ายที่สุดในโลก โอ้ะ ได้เวลาแล้วแก้วขอตัวนะค่ะ พี่” แก้วว่าตาปลายมองนาฬิกาข้อมือ ถึงเวลาที่เธอต้องถ่ายรูปแล้ว จึงโบกมือลาวิ่งไปทำหน้าที่ ทุกคนในกองประจำตำแหน่งหน้างานแล้วเหลือแต่แก้วที่ต้องสแตนบาย กับกล้องดิจิตอลคู่ใจ กดชัตเตอร์ทุกช็อตตามคอนเซ็ปที่วางไว้ พูดกล่าวบอกกับ นายแบบ แก้วสบตาโทโมะไม่ขาด เธอรู้สึกหลงใหลในดวงตาคู่คม แต่ร่างกายยังขยับไปตามงาน โทโมะเองก็เช่นกัน เขารู้ถึงสายตาเย้ายวนชวนค้นหาของเธอ แม้จะมีกล้องมาบังตาแต่ก็ไม่ทำให้ตาคู่สวยนั้นจางลงกลับเพิ่มเสน่ห์ให้เธอมากขึ้น
 
 
 
 
            “ค่ะ ช่วยเอียงตัวลงด้วยค่ะ พี่ค่ะขอทิชชูหน่อย” แก้วรับของจากพี่ๆทีมงาน เดินไปหาโทโมะ แล้วซับเหงื่อบนใบหน้าหวาน
 
 
 
 
            “......” โทโมะไม่พูดอะไร ปล่อยให้แก้วเช็ดเหงื่อเขาต่อไป โดยไม่รู้เลยว่าปกติโทโมะไม่ยอมให้ใครมาทำอย่างนี้กับเขาด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มเห็นถึงสายตามุ่งมั่นของเธอตลอดเวลาทำงานและทุกนาทีเธอจ้องมาที่เขา แม้ปากบอกทนไม่ได้ก็ตาม ทีมงานในกองเหวอกันเป็นแถวกับการกระทำของทั้งคู่ แต่ไม่พูดอะไรได้กลืนน้ำลายเฮือกทำงานต่อ จนกระทั่งถ่ายทำเสร็จ
 
 
 
_____________________________________________________
 
 
            เริ่มเรื่องมาก็กัดกันซะแล้ว เอาไงดีล่ะยัยแก้วเธอกำลังได้พานพบกับสิ่งที่เธอกลัวที่สุดแล้วน่ะ หึๆ ก็ Project นี้ไม่ได้อะไร พีสจะวางทิ้งไว้ก่อนถ้าใครอยากให้พีสเขียนก็ตอบเม้นกันเยอะๆ บอกด้วยทำไหมอยากให้เขียน เพราะ พีสกะจะเขียน THE DESTINY รักของเราสองคนให้จบก่อน แต่ถ้า มีคนมาเม้นซัก 10 คนขึ้น พีสจะพิจารณาอาจเขียนก่อนเรื่องแรกจบน่ะจ้ะ ฝากด้วยล่ะ > <!! จริงจังมากน่ะ บอกไว้ก่อน!!!!
 
LOVE TK PF KF!!!
 
 
 
 
 
 
 
         
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา