Destiny ด้ายแดงสื่อรักแห่งพรหมลิขิต
เขียนโดย ChiaraCastiglione
วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.10 น.
แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) ฝรั่งเศส
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“กลับมาแล้วเหรอ ตัวแสบ” คุณภูผาพ่อของป๊อปปี้ที่เห็นบอดี้การ์ดที่จับลูกชายมาพูดขึ้น
“ทำไมคุณพ่อต้องทำแบบนี้กลับผมด้วย ผมบอกคุณพ่อแล้วใช่ไหม ว่าผมจะอยู่กับคุณแม่” “หึ แกจะอยู่กับแม่ได้ไง ตอนนี้แม่แกไม่อยู่แล้ว ป๊อปแกต้องไปฝรั่งเศส แกต้องไปเรียนต่อที่นู้นเข้าใจไหม”
“เพราะคุณพ่อไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้คุณแม่ต้องตรอมใจ เพราะคุณพ่อไปมีเมียใหม่”
“แกเป็นเด็ก แกไม่รู้เรื่องอะไรหรอก แกเตรียมใจไปอยู่ที่ฝรั่งเศสได้แล้ว”ภูผาตะคอกใส่ลูก
“ผมไม่ไป” ป๊อปปี้ค้าน
“แกไม่มีสิทธิเลือก ฉันบอกให้แกไปก็ต้องไป” ภูผาชี้หน้าลูกชายก่อนเรียกคนใช้
“แสง แสงอยู่ไหน”
“ค่ะ คุณผู้ชาย”
“ไปเก็บเสื้อผ้าของคุณภานุใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยภายในวันนี้ เพราะคุณภานุต้องออกเดินทางพรุ่งนี้แต่เช้า” ภูผาพูดและหันไปมองป๊อปปี้ “ผมเกลียดคุณพ่อ” ป๊อปปี้พูดด้วยความโกรธ แต่คนเป็นพ่อก็ไม่ได้พูดอะไร ทุกอย่างที่เขาทำไป เขาทำเพื่อลูกชายของเขา และเขาหวังว่าสักวันลูกชายจะเข้าใจเอง
ป๊อปปี้กลับเข้ามาในห้องแล้วร้องไห้ออกมาด้วยความขัด เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย “หื้อ หื้อ”
“คุณป๊อปอย่าร้องเลยนะคะ สิ่งที่คุณพ่อทำไปก็เพราะตัวของคุณหนูเอง” แม่นมของป๊อปปี้ปลอบ
“ป้าจันทร์ ป๊อปไม่อยากไป ป๊อปคิดถึงคุณแม่”
“คุณแม่ยังอยู่กับคุณหนูตลอดนะคะ คุณแม่ยังอยู่ในใจของคุณหนูตลอด ทำตามที่คุณพ่อบอกเถอะค่ะ” แม่นมพยายามเกลี้ยกล่อมป๊อปปี้ จนป๊อปปี้ใจอ่อน
“ก็ได้ ผมจะทำตามที่คุณพ่อบอก แต่ผมทำเพื่อคุณแม่นะ” ป๊อปปี้เช็ดน้ำตาตัวเอง
“งั้นคุณหนูนอนเถอะนะคะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” แม่นมบอกป๊อปปี้และห่มผ้าให้
10 ปีต่อมา
“แม่ค่ะ อย่าเป็นอะไรนะ คุณแม่ต้องอยู่กับฟางนะ”สาวน้อยยืนร้องไห้ข้างเตียงที่ตอนนี้แม่เธอป่วยหนัก
“ฟาง แม่ไม่เป็นอะไรหรอกอย่าร้องไห้เลยนะ” แก้วที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับฟางพูดขึ้น ฟางหันไปกอดแก้วเธอร้องไห้มาอย่างหนัก เพราะหมอได้บอกว่าแม่เธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
“แก้ว ฟางไม่เหลือใครแล้ว”
“ไม่เป็นไรนะฟาง ฟางยังมีแก้ว มีโทโมะที่อยู่ข้างฟางเสมอนะ” แก้วปลอบฟาง
“ใช่ ฟางยังมีพวกเรา พวกเราจะอยู่ข้างฟางเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” โทโมะที่ยื่นมองฟางที่ร้องไห้มาสักพักปลอบบ้าง โทโมะเป็นเพื่อนบ้านพวกเรารู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก
ณ ฝรั่งเศส
ป๊อปปี้ที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ เขาโตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว และเขาเชื่อว่า ไม่มีใครที่จะมาบังคับเขาได้อีก แม้แต่พ่อของขาก็ไม่สามารถบังคับเขาได้
“สวัสดีครับ ผมภานุรับสายครับ”
(คุณหนูเหรอค่ะ นี่ป้าเองนะคะ) พอป๊อปปี้ได้ยินเสียงก็จำได้ว่าคือแม่นมของเขา
“ป้าจันทร์ เป็นไงบ้างครับ สบายดีไหม” ชายหนุ่มถามเพราะไม่ได้ติดต่อมาเป็นเดือนแล้วเพราะก่อนหน้าที่เข้าอยู่ในช่วงสอบเลยได้ติดต่อกับใคร
(ป้าสบายดีค่ะ แต่) ป้าจันทร์เงียบไปสัพักก่อนจะพูดต่อ (แต่ตอนนี้คุณผู้ชายอาการป่วยหนักมาก ป้าอยากให้คุณป๊อปมาคุณแลทานหน่อยค่ะ)
ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบอย่างมั่นใจ “ผมไม่กลับ ก็ให้คนอื่นดูแลสิครับ เมียของพ่ออ่ะ”ผมยังจำทุกอย่าง ได้อย่างดี ความรู้สึกในตอนเด็กผมเป็นยังไง ตอนนี้ก็เหมือนเดิม
(คุณหนู อย่างใจจืดใจดำอย่างนั้นสิค่ะ ถึงยังไง คุณพ่อก็คือคุณพ่อของคุณหนูนะคะ)ป้าจันทร์พยายามเกลี้ยกล่อมป๊อปปี้
“ก็ได้ครับ ผมจะกลับไป ที่ผมกลับไม่ใช่ว่าผมใจอ่อนหรอกนะครับ แต่เพื่อแม่ ผมไม่ได้ให้แม่เสียใจ” พอป๊อปปี้พูดจบก็วางสายทันที เขาเก็บเสื้อผ้ากระป๋าและบินกลับทันที
มาอัพให้แล้วนะคะ (โปรดติมตามตอนต่อไป)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ