ไอ้คุณเพื่อนครับ...รักกูบ้าง!

-

เขียนโดย ไดยะ

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.07 น.

  18 chapter
  1 วิจารณ์
  22.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 22.36 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) ไอ้คุณเพื่อนครับ...รักกูบ้าง! เพ้นท์*วรเวช 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
4 เพ้นท์*วรเวช
 
เพ้นท์มาทำงานตามปกติจนเวลาร่วงเลยมาเกือบ 8 ชั่วโมงแล้ว
ความจริงเพ้นท์อยากจะทำโออีกแต่พรุ่งนึกขึ้นได้ว่ามีคลาสของอาจารย์วรเวชในรอบเช้าแล้วพรุ่งนี้ก็จ้องเรียนทั้งวันด้วย
 
“เอ่อ...พี่โอมครับวันนี้เพ้นท์ไม่ทำโอนะครับ”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะว่าปกติแล้วเพ้นท์จะทำโอแล้วกับพร้อมโอมเพื่อความปลอดภัยของตัวเองด้วย
 
“อ้าว ทำไมล่ะ”โอมถาม
 
“พรุ่งนี้เพ้นท์มีวิชาที่ขาดไม่ได้ครับถ้าเข้าสายมีหวังอาจารย์เค้าตรงประเพ้นท์ตกแน่ๆเลย”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะตัวเองกลัวจริงๆ
 
“งั้นเดียวเรากลับพร้อมกันเลย วันนี้พี่ไม่ทำโอหรอก”โอมพูดบอกเพราะไม่อยากให้เพ้นท์ต้องเดินกับหอพักคนเดียว
อาจเพราะกลัวว่าเพ้นท์จะถูกพวกวัยรุ่นในระแวกนั้นทำอะไรไม่ดี
 
“ทำไมล่ะครับพี่โอม”เพ้นท์ถามกลับ
 
“พี่เป็นห่วงเราน่ะ”โอมตอบกลับ
 
“ผมดูแลตัวเองได้น่าครับ พี่โอมทำงานเถอะนะครับไม่ต้องห่วงผม”
เพ้นท์บอกกลับยิ้มๆพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆไปให้โอม เพ้นท์รู้สึกรักและเคารพโอมมาก...ไม่ใช่เพราะเหตุผลใดทั้งสิ้น เพ้นท์รู้สึกรักโอมเหมือยพี่ชายแท้ของตนเอง เพราะเพ้นท์ไม่มีพี่ชายหรือน้อง ทำให้เพ้นท์เคารพโอมในฐานะพี่ชายมากๆ
 
“เอาน่า”โอมพูดบอก
“ไม่เอาครับ”เพ้นท์ยังยืนยันคำเดิม
 
“แต่พี่เป็นห่วงเรานะ”โอมยังคงพูดบอก
 
“เพ้นท์โตแล้วนะครับแล้วเพ้นท์ก็เป็นผู้ชายด้วย”เพ้นท์เถียงกลับ
 
“แต่...”โอมกำลังจะพูด
แต่เมื่อเห้นหน้าของเด็กหนุ่มแล้วก็ค่อยๆเงียบลง เพราะโอมคิดว่า ถ้าตนเองไปยุ้งวุ่นวายกับเพ้นท์มากเกินไปอาจจะทำให้เพ้นท์ลำคาลตนก็ได้และก็อีกหลายความคิดที่เข้ามาหาโอม
 
“ก็ได้ๆ”โอมยอมแต่โดยดี เด็กหนุ่มเดินไปหาพี่ผู้จัดการร้านและตรงเข้าไปด้านในห้องพักของพนักงานเด็กหนุ่มหยิบกระเป๋าตนเองออกมา
 
“พี่บูม พี่โอม พี่แนท สวัสดีครับผมไปก่อนนะครับ”เด็กหนุ่มไหว้พนักงานรุ่นพี่ พวกรุ่นพี่ก็ส่งยิ้มมาให้เพ้นท์อย่าเอ็นดูเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มมองหน้าของโอมก่อนจะยิ้มส่งไปให้เมื่อเห็นใบหน้าของโอมมองตนอย่างเป็นห่วง
เด็กหนุ่มบอกลาอีกนิดหน่อยก็เดินออกมา
 
“แค่เดินกับหอแค่นี้เอง นายจะกลัวอะไรห้ะเพ้นท์”เพ้นท์พูดบอกตัวเอง
เพราะนี้ก็ถือว่ามืดแล้วระหว่างที่เพ้นท์เดินสายตาของเหล่าวัยรุ่นหลายๆกลุ่มต่างมองมาที่เพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลีย
เพ้นท์รู้สึกขนลุกมากอาการกลัวก็เกิดขึ้นเข้ามาในใจแต่เด็กหนุ่มไม่ออกอาการมากนัก
 
“โหยๆ วันนี้เดินกลับคนเดียวหรอจ้ะคนสวย แล้วผัวน้องไม่กลับด้วยหรอจ้ะ”วั้ยรุ่นที่ดูเหมือนขี้ยาเดินมาขวางหน้าเพ้นทืมองเพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลย เพ้นท์เงยหน้าขึ้นเพราะงงกับคำว่า...ผัว...ของขี้ยาไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความหมายแต่งงว่าทำไมขี้ยาคนนี้ถึงพูดแบบนี้เท่านั้น
 
“อะไรคนสวย ก็คนที่ชอบเดินไปมากับน้องไง ผัวน้องไม่ใช่อ๋อเห็นน้องเดินไปไหนไปตามแถมส่งสายตามาให้พวกพี่อีก ดีแล้วที่มันไม่อยู่พี่มองน้องมานานแล้วมาเป็นของพวกพี่เถอนะ”ขี้ยาพูดบอกพร้อมกับเดินเข้ามาหาเพ้นท์ เพ้นท์ผละด้วยความตกใจเดินถอยหลังแต่ก็ต้องชนกับอกของขี้ยาอีกคนแล้ววัยรุ่นคนอื่นๆก็ค่อยๆเดินเข้ามาทางเพ้นท์
 
“อ๊ะ”เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อขี้ยาอีกคนเอามีมาบีบที่ก้นของเพ้นท์ ตอนนั้นเพ้นท์รู้สึกกลัวมากๆ พรางคิดว่าไม่น่าเดินกลับมาคนเดียวเลย
 
“โอ้ยย เสียงน่าจับกดชิบหาย”วัยรุ่นขี้ยาคนเดินพูดบอก
 
“อย่าทำผมเลยนะครับ อ๊ะ ปะ ปล่อยผมนะ”เด็กหนุ่มร้องขออกมาด้วยเสียงสั่นๆ แต่วัยรุ่นอีกคนก็มาล็อคแขนทางด้านหลังของเด็กหนุ่ม
ตอนนี้เพ้นท์ตัวสั่นด้วยความกลัว น้ำตาไหลด้วยความกลัว
 
“โอ้ยยย แม่งนี่น้องคนสวยรู้มั้ยว่าพวกพี่น่ะเล็งเรามาตั้งนานแล้ว อูยย น่ารักชิบส์”วัยรุ่นคนที่อยู่ตรงหน้าของเพ้นท์พูดบอกพร้อมเดินเข้ามา
มือของวัยรุ่นตรงหน้าของเพ้นท์ค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อของเพ้นท์
 
“พะพี่ครับปล่อยผมเถอะนะครับ ฮึก ผมกลัว”เพ้นท์พูดบอกน้ำตาความกลัวก็ไหลลั่งเต็มใบหน้าสวย
 
“ยิ่งร้องยิ่งหน้าจับ...ว่ะ”เสียงของเพื่อนขี้ยาพูดบอกและเดินตรงเข้ามาจับแก้มของเพ้นท์ ตอนนี้วัยรุ่นที่รุมเพ้นท์อยุ่มีประมาณ 6-7 คนได้
 
“อื้ม ปะ ปล่อย ฮึก”เด็กหนุ่มร้องขอ
 
“โอ้ยย กูทนไม่ไว้แล้วว่ะแม่งแค่เห็นแค่นี้กูก็จะเสร็จแล้ว อูยย”วันรุ่นคนที่จับแก้มของเพ้นท์พูดบอกพร้อมกับเลียริมฝีปากขอนตนเองมองเพ้นท์ด้วยสายตามน่ารังเกียจ
 
‘พรึ่บ’
แสงสว่างจากไฟหน้ารถสาดส่องมาทางทีเพ้นท์ถูกรุมอยู่จนต้องหรี่ตาลง เพราะมันสว่างมากจริงๆ
 
“ชะ ช่วยด้วยครับ”เมื่อเห็นคนออกมาจากรถร่างเล็กของเพ้นท์รีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันที และถ้าถามว่าทำไม่เพ้นท์ถึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือ เพราะว่า ตรงที่เพ้นท์โดนรุมนั้นมันไม่มีบ้านเรือนเลย มันเป็นซอยที่น่าอันตรายและถ้าเด็กหนุ่มยิ่งร้องออกมาเสียงดังกลุ่มวัยรุ่นอื่นๆอาจจะมาและก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่
 
‘พลั่ก’
วัยรุ่นที่จับแก้มของเพ้นท์ถูกถีบจนหน้าคว่ำ และพวกวัยรุ่นที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มโดนต่อย ทั้งสองฝ่ายต่างตะลุมบอลกันคนที่ลงมาจากรถมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแต่ก็สู้เด็กวันรุ่นทั้ง 6 คนได้อย่างง่ายร่างสูงของคนที่มาช่วยเหลือเพ้นท์พริ้วไหวมากในระหว่างการต่อสู้ เด็กหนุ่มยังคงมีน้ำตาไหลลงมาจากตาเพราะความกลัวอยู่
เพ้นท์มองไม่เห็นใบหน้าของคนที่มาช่วยตนเองเพราะน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตาของเพ้นท์ ร่างสูงที่หน้าหลงใหลพริ้มตัวหลบหมดของวัยรุ่นไม่นานหนักวัยรุ่นทั้งกลุ่มก็หมอบลงไปกับพื้นเพราะสู้ไม่ไหว ถึงแม้จะมีมากกว่าแต่ร่างสูงที่มีทักษะด้านการต่อสู่ก็เอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ร่างสูงค่อยเดินมาหาเพ้นท์ที่นำต่คลออยู่ใบหน้าสวยมีน้ำตานองหน้าตัวสั่นระริ่กด้วยความกลัวกับเหตุการเมื่อคู่
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ร่างสูงของอีกฝ่ายพูดขึ้น
 
“....”เพ้นท์ยังไม่ตอบอะไรและพยายามไล่น้ำตาที่คลออยู่เพื่อจะปรับสายตามองผู้ที่มีพระคุณกัยร่างเล็ก
 
“อะ อา”เพ้นท์กำลังจะพูด
 
‘พรึ่บ’ไม่ทันทีจะได้พูดอะไรร่างเล็กของเพ้นท์ก็สลบลงไปเพราะอาการช็อคกับเห็นการณ์เมื่อคู่และกลัวมากจนทำให้สติพร่าแล้วสรบลงไป
“หะ เห้ยย”ร่างสูงร้องออกมาอยากตกใจและโอบรับตัวของเพ้นท์เพราะอยู่ๆเพ้นท์ก็สลบลงไป...
.
.
.
TALK WORAWET
 
ตอนนี้ร่างเล็กของพิชยะอยู่ที่อ้อมแขนของผม เพราะผมโอบไว้อยู่
อยู่พิชยะก็สลบไปอาจเพราะกลัวมาก
ผมไม่คิดว่าจะเจอพิชยะเลย วันนี้ผมพึ่งกลับมาจากการประชุมของทางมหาลัย ผมก็กำลังจะครับรถกลับที่พักของผม ซอยที่พิชยะอาศัยอยู่คือซอยที่ผมต้องขับรถผ่านเพราะคอนโดที่ผมพักอยู่ต้องไปทางนี้ ไม่แปลกที่ผมจะรู้ว่าระแวกนี้มันอันตรายแค่ไหน ผมกับมาตามซอยแต่ผมก็ต้องหยุดรถเมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังโดนกลุ่มเด็กวัยรุ่นรุมทำไม่ดี
ระหว่างที่ผมกำลังจะขับรถผ่านผมก็ดันไปเห็นหน้าของนายพิชยะเด็กนักศึกษาที่เข้าเรียนคาบของผมสาย นายพิชยะดูท่าทางจะกลัวมากๆใบหน้านองไปด้วยน้ำตา ผมตัดสินใจลงจากรถไปช่วยพิชยะ
ผมตรงเข้าไปถีบสีข้างของวัยรุ่นที่กำลังลวนลามนายพิชยะ ไม่นานนักพวกของเด็กวัยรุ่นก็เริ่มมารุมผมแต่เพราะผมมีทักษะการต่อสู้จึงทำให้ผมไม่มีรอยแผลแม้แต่นิดผมไม่ได้ทำพวกเด็กไวรุ่นเจ็บนักเพราะพวกเขายังเป็นเยาวชนอยู่ พวกวัยรุ่นลุกขึ้นและพากันขับรถหนีเพราะอาจจะรู้ตัวมั้งว่าสู้ไม่ได้ ผมเดินตรงไปหานายพิชยะ เมื่อผมเห็นใบหน้าของพิชยะ ใจของผมก็เต้นแรงอย่างกะทันหันผมมีความรู้สึก...ดมื่อเห็นหน้าของพิชยะ แต่ผมก็ต้องปัดความคิดนั้นออกไป
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ผมพูดขึ้น
พิชยะไม่ตอบผมมองผมด้วยใบหน้าที่นองหน้าตัวสั่นระริ่กอย่างหน้าสงสาร
 
“อะ อา”พิชยะพูดออกมาเสียงแผ่วก่อนที่จะสลบไปด้วยความกลัว
 
“หะ เห้ยย”ผมรีบรับตัวของร่างเล็กที่สลบลงไป
“เอาไงดีเนี่ย”ผมพึมพำกับตัวเองแต่สุกท้ายผมก็ตัดสินใจได้ ผมค่อยๆช้อนตัวร่างเล็กของพิชยะไปไว้ในรถของผม เพราะผมไม่รู้ว่าพิชยะอยู่ห้องไหน แล้วมันอันตรายด้วย ผมจึงตัดสินใจพาพิชยะไปที่คอนโดห้องพักของผม ผมขับรถมาตามทาง สักพักก็มาถึง
ผมค่อยๆช้อนตัวของพิชยะออกจากรถของผมแล้วอุ้มเข้าไปยังลิฟท์
หลายคนมองผม แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ ผมพาพิชยะมายังห้องของผม ร่างของพิชยะยังคงหลับ ผมเห็นสภาพของพิชยะแล้วนึกสงสารขึ้นมาในใจ
ผมจัดการนำพาชุบน้ำมาเช็ดที่ใบหน้าของร่างเล็กที่มีใบหน้าสวยจนหน้าประหลาดในเมื่อเช็ดหน้าเรียบร้อยผมก็เช็ดตามตัวโดยที่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของร่างเล็กแต่อย่างไร นิ้วมือของผมสัมผัสร่างกายของนายพิชยะ ผิวของพิชยะมันช่างลื่นมือผิวขาวละเอียดกว่าผู้หญิงหลายคน
ความคิดบางอย่างลอยเข้ามาในหัวแต่ผมก็ปัดมันออกไป ผมพาร่างเล็กของพิชยะเข้าไปนอนในห้องรับแขกและผมก็อาบน้ำเตรียมนอนเพราะตอนนี้มันดึกมากๆแล้วและผมก็มีสอนตอนเช้าด้วย...
END TALK WORAWET
.
.
.
//อัพแล้วน้อออ เอาเพ้นท์วรเวชไปกินก่อนล่ะกัน คึคึ //หลบทีนนน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนิยายของไดยะนะ เอ..ไดยะรู้สึกว่าเหมือนคู่รองจะเด่นกว่าคู่หลักเลยเเหะ เอาเห๊อะ พิมพ์ตกพิมพ์หล่นต้องขอโทษด้วยจ้า ช่วยกันเม้นหน่อยนะ ขอบคุณคร้าบบ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ! 
 
 
4 เพ้นท์*วรเวช
 
เพ้นท์มาทำงานตามปกติจนเวลาร่วงเลยมาเกือบ 8 ชั่วโมงแล้ว
ความจริงเพ้นท์อยากจะทำโออีกแต่พรุ่งนึกขึ้นได้ว่ามีคลาสของอาจารย์วรเวชในรอบเช้าแล้วพรุ่งนี้ก็จ้องเรียนทั้งวันด้วย
 
“เอ่อ...พี่โอมครับวันนี้เพ้นท์ไม่ทำโอนะครับ”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะว่าปกติแล้วเพ้นท์จะทำโอแล้วกับพร้อมโอมเพื่อความปลอดภัยของตัวเองด้วย
 
“อ้าว ทำไมล่ะ”โอมถาม
 
“พรุ่งนี้เพ้นท์มีวิชาที่ขาดไม่ได้ครับถ้าเข้าสายมีหวังอาจารย์เค้าตรงประเพ้นท์ตกแน่ๆเลย”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะตัวเองกลัวจริงๆ
 
“งั้นเดียวเรากลับพร้อมกันเลย วันนี้พี่ไม่ทำโอหรอก”โอมพูดบอกเพราะไม่อยากให้เพ้นท์ต้องเดินกับหอพักคนเดียว
อาจเพราะกลัวว่าเพ้นท์จะถูกพวกวัยรุ่นในระแวกนั้นทำอะไรไม่ดี
 
“ทำไมล่ะครับพี่โอม”เพ้นท์ถามกลับ
 
“พี่เป็นห่วงเราน่ะ”โอมตอบกลับ
 
“ผมดูแลตัวเองได้น่าครับ พี่โอมทำงานเถอะนะครับไม่ต้องห่วงผม”
เพ้นท์บอกกลับยิ้มๆพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆไปให้โอม เพ้นท์รู้สึกรักและเคารพโอมมาก...ไม่ใช่เพราะเหตุผลใดทั้งสิ้น เพ้นท์รู้สึกรักโอมเหมือยพี่ชายแท้ของตนเอง เพราะเพ้นท์ไม่มีพี่ชายหรือน้อง ทำให้เพ้นท์เคารพโอมในฐานะพี่ชายมากๆ
 
“เอาน่า”โอมพูดบอก
“ไม่เอาครับ”เพ้นท์ยังยืนยันคำเดิม
 
“แต่พี่เป็นห่วงเรานะ”โอมยังคงพูดบอก
 
“เพ้นท์โตแล้วนะครับแล้วเพ้นท์ก็เป็นผู้ชายด้วย”เพ้นท์เถียงกลับ
 
“แต่...”โอมกำลังจะพูด
แต่เมื่อเห้นหน้าของเด็กหนุ่มแล้วก็ค่อยๆเงียบลง เพราะโอมคิดว่า ถ้าตนเองไปยุ้งวุ่นวายกับเพ้นท์มากเกินไปอาจจะทำให้เพ้นท์ลำคาลตนก็ได้และก็อีกหลายความคิดที่เข้ามาหาโอม
 
“ก็ได้ๆ”โอมยอมแต่โดยดี เด็กหนุ่มเดินไปหาพี่ผู้จัดการร้านและตรงเข้าไปด้านในห้องพักของพนักงานเด็กหนุ่มหยิบกระเป๋าตนเองออกมา
 
“พี่บูม พี่โอม พี่แนท สวัสดีครับผมไปก่อนนะครับ”เด็กหนุ่มไหว้พนักงานรุ่นพี่ พวกรุ่นพี่ก็ส่งยิ้มมาให้เพ้นท์อย่าเอ็นดูเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มมองหน้าของโอมก่อนจะยิ้มส่งไปให้เมื่อเห็นใบหน้าของโอมมองตนอย่างเป็นห่วง
เด็กหนุ่มบอกลาอีกนิดหน่อยก็เดินออกมา
 
“แค่เดินกับหอแค่นี้เอง นายจะกลัวอะไรห้ะเพ้นท์”เพ้นท์พูดบอกตัวเอง
เพราะนี้ก็ถือว่ามืดแล้วระหว่างที่เพ้นท์เดินสายตาของเหล่าวัยรุ่นหลายๆกลุ่มต่างมองมาที่เพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลีย
เพ้นท์รู้สึกขนลุกมากอาการกลัวก็เกิดขึ้นเข้ามาในใจแต่เด็กหนุ่มไม่ออกอาการมากนัก
 
“โหยๆ วันนี้เดินกลับคนเดียวหรอจ้ะคนสวย แล้วผัวน้องไม่กลับด้วยหรอจ้ะ”วั้ยรุ่นที่ดูเหมือนขี้ยาเดินมาขวางหน้าเพ้นทืมองเพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลย เพ้นท์เงยหน้าขึ้นเพราะงงกับคำว่า...ผัว...ของขี้ยาไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความหมายแต่งงว่าทำไมขี้ยาคนนี้ถึงพูดแบบนี้เท่านั้น
 
“อะไรคนสวย ก็คนที่ชอบเดินไปมากับน้องไง ผัวน้องไม่ใช่อ๋อเห็นน้องเดินไปไหนไปตามแถมส่งสายตามาให้พวกพี่อีก ดีแล้วที่มันไม่อยู่พี่มองน้องมานานแล้วมาเป็นของพวกพี่เถอนะ”ขี้ยาพูดบอกพร้อมกับเดินเข้ามาหาเพ้นท์ เพ้นท์ผละด้วยความตกใจเดินถอยหลังแต่ก็ต้องชนกับอกของขี้ยาอีกคนแล้ววัยรุ่นคนอื่นๆก็ค่อยๆเดินเข้ามาทางเพ้นท์
 
“อ๊ะ”เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อขี้ยาอีกคนเอามีมาบีบที่ก้นของเพ้นท์ ตอนนั้นเพ้นท์รู้สึกกลัวมากๆ พรางคิดว่าไม่น่าเดินกลับมาคนเดียวเลย
 
“โอ้ยย เสียงน่าจับกดชิบหาย”วัยรุ่นขี้ยาคนเดินพูดบอก
 
“อย่าทำผมเลยนะครับ อ๊ะ ปะ ปล่อยผมนะ”เด็กหนุ่มร้องขออกมาด้วยเสียงสั่นๆ แต่วัยรุ่นอีกคนก็มาล็อคแขนทางด้านหลังของเด็กหนุ่ม
ตอนนี้เพ้นท์ตัวสั่นด้วยความกลัว น้ำตาไหลด้วยความกลัว
 
“โอ้ยยย แม่งนี่น้องคนสวยรู้มั้ยว่าพวกพี่น่ะเล็งเรามาตั้งนานแล้ว อูยย น่ารักชิบส์”วัยรุ่นคนที่อยู่ตรงหน้าของเพ้นท์พูดบอกพร้อมเดินเข้ามา
มือของวัยรุ่นตรงหน้าของเพ้นท์ค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อของเพ้นท์
 
“พะพี่ครับปล่อยผมเถอะนะครับ ฮึก ผมกลัว”เพ้นท์พูดบอกน้ำตาความกลัวก็ไหลลั่งเต็มใบหน้าสวย
 
“ยิ่งร้องยิ่งหน้าจับ...ว่ะ”เสียงของเพื่อนขี้ยาพูดบอกและเดินตรงเข้ามาจับแก้มของเพ้นท์ ตอนนี้วัยรุ่นที่รุมเพ้นท์อยุ่มีประมาณ 6-7 คนได้
 
“อื้ม ปะ ปล่อย ฮึก”เด็กหนุ่มร้องขอ
 
“โอ้ยย กูทนไม่ไว้แล้วว่ะแม่งแค่เห็นแค่นี้กูก็จะเสร็จแล้ว อูยย”วันรุ่นคนที่จับแก้มของเพ้นท์พูดบอกพร้อมกับเลียริมฝีปากขอนตนเองมองเพ้นท์ด้วยสายตามน่ารังเกียจ
 
‘พรึ่บ’
แสงสว่างจากไฟหน้ารถสาดส่องมาทางทีเพ้นท์ถูกรุมอยู่จนต้องหรี่ตาลง เพราะมันสว่างมากจริงๆ
 
“ชะ ช่วยด้วยครับ”เมื่อเห็นคนออกมาจากรถร่างเล็กของเพ้นท์รีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันที และถ้าถามว่าทำไม่เพ้นท์ถึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือ เพราะว่า ตรงที่เพ้นท์โดนรุมนั้นมันไม่มีบ้านเรือนเลย มันเป็นซอยที่น่าอันตรายและถ้าเด็กหนุ่มยิ่งร้องออกมาเสียงดังกลุ่มวัยรุ่นอื่นๆอาจจะมาและก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่
 
‘พลั่ก’
วัยรุ่นที่จับแก้มของเพ้นท์ถูกถีบจนหน้าคว่ำ และพวกวัยรุ่นที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มโดนต่อย ทั้งสองฝ่ายต่างตะลุมบอลกันคนที่ลงมาจากรถมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแต่ก็สู้เด็กวันรุ่นทั้ง 6 คนได้อย่างง่ายร่างสูงของคนที่มาช่วยเหลือเพ้นท์พริ้วไหวมากในระหว่างการต่อสู้ เด็กหนุ่มยังคงมีน้ำตาไหลลงมาจากตาเพราะความกลัวอยู่
เพ้นท์มองไม่เห็นใบหน้าของคนที่มาช่วยตนเองเพราะน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตาของเพ้นท์ ร่างสูงที่หน้าหลงใหลพริ้มตัวหลบหมดของวัยรุ่นไม่นานหนักวัยรุ่นทั้งกลุ่มก็หมอบลงไปกับพื้นเพราะสู้ไม่ไหว ถึงแม้จะมีมากกว่าแต่ร่างสูงที่มีทักษะด้านการต่อสู่ก็เอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ร่างสูงค่อยเดินมาหาเพ้นท์ที่นำต่คลออยู่ใบหน้าสวยมีน้ำตานองหน้าตัวสั่นระริ่กด้วยความกลัวกับเหตุการเมื่อคู่
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ร่างสูงของอีกฝ่ายพูดขึ้น
 
“....”เพ้นท์ยังไม่ตอบอะไรและพยายามไล่น้ำตาที่คลออยู่เพื่อจะปรับสายตามองผู้ที่มีพระคุณกัยร่างเล็ก
 
“อะ อา”เพ้นท์กำลังจะพูด
 
‘พรึ่บ’ไม่ทันทีจะได้พูดอะไรร่างเล็กของเพ้นท์ก็สลบลงไปเพราะอาการช็อคกับเห็นการณ์เมื่อคู่และกลัวมากจนทำให้สติพร่าแล้วสรบลงไป
“หะ เห้ยย”ร่างสูงร้องออกมาอยากตกใจและโอบรับตัวของเพ้นท์เพราะอยู่ๆเพ้นท์ก็สลบลงไป...
.
.
.
TALK WORAWET
 
ตอนนี้ร่างเล็กของพิชยะอยู่ที่อ้อมแขนของผม เพราะผมโอบไว้อยู่
อยู่พิชยะก็สลบไปอาจเพราะกลัวมาก
ผมไม่คิดว่าจะเจอพิชยะเลย วันนี้ผมพึ่งกลับมาจากการประชุมของทางมหาลัย ผมก็กำลังจะครับรถกลับที่พักของผม ซอยที่พิชยะอาศัยอยู่คือซอยที่ผมต้องขับรถผ่านเพราะคอนโดที่ผมพักอยู่ต้องไปทางนี้ ไม่แปลกที่ผมจะรู้ว่าระแวกนี้มันอันตรายแค่ไหน ผมกับมาตามซอยแต่ผมก็ต้องหยุดรถเมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังโดนกลุ่มเด็กวัยรุ่นรุมทำไม่ดี
ระหว่างที่ผมกำลังจะขับรถผ่านผมก็ดันไปเห็นหน้าของนายพิชยะเด็กนักศึกษาที่เข้าเรียนคาบของผมสาย นายพิชยะดูท่าทางจะกลัวมากๆใบหน้านองไปด้วยน้ำตา ผมตัดสินใจลงจากรถไปช่วยพิชยะ
ผมตรงเข้าไปถีบสีข้างของวัยรุ่นที่กำลังลวนลามนายพิชยะ ไม่นานนักพวกของเด็กวัยรุ่นก็เริ่มมารุมผมแต่เพราะผมมีทักษะการต่อสู้จึงทำให้ผมไม่มีรอยแผลแม้แต่นิดผมไม่ได้ทำพวกเด็กไวรุ่นเจ็บนักเพราะพวกเขายังเป็นเยาวชนอยู่ พวกวัยรุ่นลุกขึ้นและพากันขับรถหนีเพราะอาจจะรู้ตัวมั้งว่าสู้ไม่ได้ ผมเดินตรงไปหานายพิชยะ เมื่อผมเห็นใบหน้าของพิชยะ ใจของผมก็เต้นแรงอย่างกะทันหันผมมีความรู้สึก...ดมื่อเห็นหน้าของพิชยะ แต่ผมก็ต้องปัดความคิดนั้นออกไป
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ผมพูดขึ้น
พิชยะไม่ตอบผมมองผมด้วยใบหน้าที่นองหน้าตัวสั่นระริ่กอย่างหน้าสงสาร
 
“อะ อา”พิชยะพูดออกมาเสียงแผ่วก่อนที่จะสลบไปด้วยความกลัว
 
“หะ เห้ยย”ผมรีบรับตัวของร่างเล็กที่สลบลงไป
“เอาไงดีเนี่ย”ผมพึมพำกับตัวเองแต่สุกท้ายผมก็ตัดสินใจได้ ผมค่อยๆช้อนตัวร่างเล็กของพิชยะไปไว้ในรถของผม เพราะผมไม่รู้ว่าพิชยะอยู่ห้องไหน แล้วมันอันตรายด้วย ผมจึงตัดสินใจพาพิชยะไปที่คอนโดห้องพักของผม ผมขับรถมาตามทาง สักพักก็มาถึง
ผมค่อยๆช้อนตัวของพิชยะออกจากรถของผมแล้วอุ้มเข้าไปยังลิฟท์
หลายคนมองผม แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ ผมพาพิชยะมายังห้องของผม ร่างของพิชยะยังคงหลับ ผมเห็นสภาพของพิชยะแล้วนึกสงสารขึ้นมาในใจ
ผมจัดการนำพาชุบน้ำมาเช็ดที่ใบหน้าของร่างเล็กที่มีใบหน้าสวยจนหน้าประหลาดในเมื่อเช็ดหน้าเรียบร้อยผมก็เช็ดตามตัวโดยที่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของร่างเล็กแต่อย่างไร นิ้วมือของผมสัมผัสร่างกายของนายพิชยะ ผิวของพิชยะมันช่างลื่นมือผิวขาวละเอียดกว่าผู้หญิงหลายคน
ความคิดบางอย่างลอยเข้ามาในหัวแต่ผมก็ปัดมันออกไป ผมพาร่างเล็กของพิชยะเข้าไปนอนในห้องรับแขกและผมก็อาบน้ำเตรียมนอนเพราะตอนนี้มันดึกมากๆแล้วและผมก็มีสอนตอนเช้าด้วย...
END TALK WORAWET
.
.
.
//อัพแล้วน้อออ เอาเพ้นท์วรเวชไปกินก่อนล่ะกัน คึคึ //หลบทีนนน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนิยายของไดยะนะ เอ..ไดยะรู้สึกว่าเหมือนคู่รองจะเด่นกว่าคู่หลักเลยเเหะ เอาเห๊อะ พิมพ์ตกพิมพ์หล่นต้องขอโทษด้วยจ้า ช่วยกันเม้นหน่อยนะ ขอบคุณคร้าบบ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ! 
 
 
4 เพ้นท์*วรเวช
 
เพ้นท์มาทำงานตามปกติจนเวลาร่วงเลยมาเกือบ 8 ชั่วโมงแล้ว
ความจริงเพ้นท์อยากจะทำโออีกแต่พรุ่งนึกขึ้นได้ว่ามีคลาสของอาจารย์วรเวชในรอบเช้าแล้วพรุ่งนี้ก็จ้องเรียนทั้งวันด้วย
 
“เอ่อ...พี่โอมครับวันนี้เพ้นท์ไม่ทำโอนะครับ”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะว่าปกติแล้วเพ้นท์จะทำโอแล้วกับพร้อมโอมเพื่อความปลอดภัยของตัวเองด้วย
 
“อ้าว ทำไมล่ะ”โอมถาม
 
“พรุ่งนี้เพ้นท์มีวิชาที่ขาดไม่ได้ครับถ้าเข้าสายมีหวังอาจารย์เค้าตรงประเพ้นท์ตกแน่ๆเลย”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะตัวเองกลัวจริงๆ
 
“งั้นเดียวเรากลับพร้อมกันเลย วันนี้พี่ไม่ทำโอหรอก”โอมพูดบอกเพราะไม่อยากให้เพ้นท์ต้องเดินกับหอพักคนเดียว
อาจเพราะกลัวว่าเพ้นท์จะถูกพวกวัยรุ่นในระแวกนั้นทำอะไรไม่ดี
 
“ทำไมล่ะครับพี่โอม”เพ้นท์ถามกลับ
 
“พี่เป็นห่วงเราน่ะ”โอมตอบกลับ
 
“ผมดูแลตัวเองได้น่าครับ พี่โอมทำงานเถอะนะครับไม่ต้องห่วงผม”
เพ้นท์บอกกลับยิ้มๆพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆไปให้โอม เพ้นท์รู้สึกรักและเคารพโอมมาก...ไม่ใช่เพราะเหตุผลใดทั้งสิ้น เพ้นท์รู้สึกรักโอมเหมือยพี่ชายแท้ของตนเอง เพราะเพ้นท์ไม่มีพี่ชายหรือน้อง ทำให้เพ้นท์เคารพโอมในฐานะพี่ชายมากๆ
 
“เอาน่า”โอมพูดบอก
“ไม่เอาครับ”เพ้นท์ยังยืนยันคำเดิม
 
“แต่พี่เป็นห่วงเรานะ”โอมยังคงพูดบอก
 
“เพ้นท์โตแล้วนะครับแล้วเพ้นท์ก็เป็นผู้ชายด้วย”เพ้นท์เถียงกลับ
 
“แต่...”โอมกำลังจะพูด
แต่เมื่อเห้นหน้าของเด็กหนุ่มแล้วก็ค่อยๆเงียบลง เพราะโอมคิดว่า ถ้าตนเองไปยุ้งวุ่นวายกับเพ้นท์มากเกินไปอาจจะทำให้เพ้นท์ลำคาลตนก็ได้และก็อีกหลายความคิดที่เข้ามาหาโอม
 
“ก็ได้ๆ”โอมยอมแต่โดยดี เด็กหนุ่มเดินไปหาพี่ผู้จัดการร้านและตรงเข้าไปด้านในห้องพักของพนักงานเด็กหนุ่มหยิบกระเป๋าตนเองออกมา
 
“พี่บูม พี่โอม พี่แนท สวัสดีครับผมไปก่อนนะครับ”เด็กหนุ่มไหว้พนักงานรุ่นพี่ พวกรุ่นพี่ก็ส่งยิ้มมาให้เพ้นท์อย่าเอ็นดูเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มมองหน้าของโอมก่อนจะยิ้มส่งไปให้เมื่อเห็นใบหน้าของโอมมองตนอย่างเป็นห่วง
เด็กหนุ่มบอกลาอีกนิดหน่อยก็เดินออกมา
 
“แค่เดินกับหอแค่นี้เอง นายจะกลัวอะไรห้ะเพ้นท์”เพ้นท์พูดบอกตัวเอง
เพราะนี้ก็ถือว่ามืดแล้วระหว่างที่เพ้นท์เดินสายตาของเหล่าวัยรุ่นหลายๆกลุ่มต่างมองมาที่เพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลีย
เพ้นท์รู้สึกขนลุกมากอาการกลัวก็เกิดขึ้นเข้ามาในใจแต่เด็กหนุ่มไม่ออกอาการมากนัก
 
“โหยๆ วันนี้เดินกลับคนเดียวหรอจ้ะคนสวย แล้วผัวน้องไม่กลับด้วยหรอจ้ะ”วั้ยรุ่นที่ดูเหมือนขี้ยาเดินมาขวางหน้าเพ้นทืมองเพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลย เพ้นท์เงยหน้าขึ้นเพราะงงกับคำว่า...ผัว...ของขี้ยาไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความหมายแต่งงว่าทำไมขี้ยาคนนี้ถึงพูดแบบนี้เท่านั้น
 
“อะไรคนสวย ก็คนที่ชอบเดินไปมากับน้องไง ผัวน้องไม่ใช่อ๋อเห็นน้องเดินไปไหนไปตามแถมส่งสายตามาให้พวกพี่อีก ดีแล้วที่มันไม่อยู่พี่มองน้องมานานแล้วมาเป็นของพวกพี่เถอนะ”ขี้ยาพูดบอกพร้อมกับเดินเข้ามาหาเพ้นท์ เพ้นท์ผละด้วยความตกใจเดินถอยหลังแต่ก็ต้องชนกับอกของขี้ยาอีกคนแล้ววัยรุ่นคนอื่นๆก็ค่อยๆเดินเข้ามาทางเพ้นท์
 
“อ๊ะ”เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อขี้ยาอีกคนเอามีมาบีบที่ก้นของเพ้นท์ ตอนนั้นเพ้นท์รู้สึกกลัวมากๆ พรางคิดว่าไม่น่าเดินกลับมาคนเดียวเลย
 
“โอ้ยย เสียงน่าจับกดชิบหาย”วัยรุ่นขี้ยาคนเดินพูดบอก
 
“อย่าทำผมเลยนะครับ อ๊ะ ปะ ปล่อยผมนะ”เด็กหนุ่มร้องขออกมาด้วยเสียงสั่นๆ แต่วัยรุ่นอีกคนก็มาล็อคแขนทางด้านหลังของเด็กหนุ่ม
ตอนนี้เพ้นท์ตัวสั่นด้วยความกลัว น้ำตาไหลด้วยความกลัว
 
“โอ้ยยย แม่งนี่น้องคนสวยรู้มั้ยว่าพวกพี่น่ะเล็งเรามาตั้งนานแล้ว อูยย น่ารักชิบส์”วัยรุ่นคนที่อยู่ตรงหน้าของเพ้นท์พูดบอกพร้อมเดินเข้ามา
มือของวัยรุ่นตรงหน้าของเพ้นท์ค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อของเพ้นท์
 
“พะพี่ครับปล่อยผมเถอะนะครับ ฮึก ผมกลัว”เพ้นท์พูดบอกน้ำตาความกลัวก็ไหลลั่งเต็มใบหน้าสวย
 
“ยิ่งร้องยิ่งหน้าจับ...ว่ะ”เสียงของเพื่อนขี้ยาพูดบอกและเดินตรงเข้ามาจับแก้มของเพ้นท์ ตอนนี้วัยรุ่นที่รุมเพ้นท์อยุ่มีประมาณ 6-7 คนได้
 
“อื้ม ปะ ปล่อย ฮึก”เด็กหนุ่มร้องขอ
 
“โอ้ยย กูทนไม่ไว้แล้วว่ะแม่งแค่เห็นแค่นี้กูก็จะเสร็จแล้ว อูยย”วันรุ่นคนที่จับแก้มของเพ้นท์พูดบอกพร้อมกับเลียริมฝีปากขอนตนเองมองเพ้นท์ด้วยสายตามน่ารังเกียจ
 
‘พรึ่บ’
แสงสว่างจากไฟหน้ารถสาดส่องมาทางทีเพ้นท์ถูกรุมอยู่จนต้องหรี่ตาลง เพราะมันสว่างมากจริงๆ
 
“ชะ ช่วยด้วยครับ”เมื่อเห็นคนออกมาจากรถร่างเล็กของเพ้นท์รีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันที และถ้าถามว่าทำไม่เพ้นท์ถึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือ เพราะว่า ตรงที่เพ้นท์โดนรุมนั้นมันไม่มีบ้านเรือนเลย มันเป็นซอยที่น่าอันตรายและถ้าเด็กหนุ่มยิ่งร้องออกมาเสียงดังกลุ่มวัยรุ่นอื่นๆอาจจะมาและก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่
 
‘พลั่ก’
วัยรุ่นที่จับแก้มของเพ้นท์ถูกถีบจนหน้าคว่ำ และพวกวัยรุ่นที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มโดนต่อย ทั้งสองฝ่ายต่างตะลุมบอลกันคนที่ลงมาจากรถมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแต่ก็สู้เด็กวันรุ่นทั้ง 6 คนได้อย่างง่ายร่างสูงของคนที่มาช่วยเหลือเพ้นท์พริ้วไหวมากในระหว่างการต่อสู้ เด็กหนุ่มยังคงมีน้ำตาไหลลงมาจากตาเพราะความกลัวอยู่
เพ้นท์มองไม่เห็นใบหน้าของคนที่มาช่วยตนเองเพราะน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตาของเพ้นท์ ร่างสูงที่หน้าหลงใหลพริ้มตัวหลบหมดของวัยรุ่นไม่นานหนักวัยรุ่นทั้งกลุ่มก็หมอบลงไปกับพื้นเพราะสู้ไม่ไหว ถึงแม้จะมีมากกว่าแต่ร่างสูงที่มีทักษะด้านการต่อสู่ก็เอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ร่างสูงค่อยเดินมาหาเพ้นท์ที่นำต่คลออยู่ใบหน้าสวยมีน้ำตานองหน้าตัวสั่นระริ่กด้วยความกลัวกับเหตุการเมื่อคู่
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ร่างสูงของอีกฝ่ายพูดขึ้น
 
“....”เพ้นท์ยังไม่ตอบอะไรและพยายามไล่น้ำตาที่คลออยู่เพื่อจะปรับสายตามองผู้ที่มีพระคุณกัยร่างเล็ก
 
“อะ อา”เพ้นท์กำลังจะพูด
 
‘พรึ่บ’ไม่ทันทีจะได้พูดอะไรร่างเล็กของเพ้นท์ก็สลบลงไปเพราะอาการช็อคกับเห็นการณ์เมื่อคู่และกลัวมากจนทำให้สติพร่าแล้วสรบลงไป
“หะ เห้ยย”ร่างสูงร้องออกมาอยากตกใจและโอบรับตัวของเพ้นท์เพราะอยู่ๆเพ้นท์ก็สลบลงไป...
.
.
.
TALK WORAWET
 
ตอนนี้ร่างเล็กของพิชยะอยู่ที่อ้อมแขนของผม เพราะผมโอบไว้อยู่
อยู่พิชยะก็สลบไปอาจเพราะกลัวมาก
ผมไม่คิดว่าจะเจอพิชยะเลย วันนี้ผมพึ่งกลับมาจากการประชุมของทางมหาลัย ผมก็กำลังจะครับรถกลับที่พักของผม ซอยที่พิชยะอาศัยอยู่คือซอยที่ผมต้องขับรถผ่านเพราะคอนโดที่ผมพักอยู่ต้องไปทางนี้ ไม่แปลกที่ผมจะรู้ว่าระแวกนี้มันอันตรายแค่ไหน ผมกับมาตามซอยแต่ผมก็ต้องหยุดรถเมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังโดนกลุ่มเด็กวัยรุ่นรุมทำไม่ดี
ระหว่างที่ผมกำลังจะขับรถผ่านผมก็ดันไปเห็นหน้าของนายพิชยะเด็กนักศึกษาที่เข้าเรียนคาบของผมสาย นายพิชยะดูท่าทางจะกลัวมากๆใบหน้านองไปด้วยน้ำตา ผมตัดสินใจลงจากรถไปช่วยพิชยะ
ผมตรงเข้าไปถีบสีข้างของวัยรุ่นที่กำลังลวนลามนายพิชยะ ไม่นานนักพวกของเด็กวัยรุ่นก็เริ่มมารุมผมแต่เพราะผมมีทักษะการต่อสู้จึงทำให้ผมไม่มีรอยแผลแม้แต่นิดผมไม่ได้ทำพวกเด็กไวรุ่นเจ็บนักเพราะพวกเขายังเป็นเยาวชนอยู่ พวกวัยรุ่นลุกขึ้นและพากันขับรถหนีเพราะอาจจะรู้ตัวมั้งว่าสู้ไม่ได้ ผมเดินตรงไปหานายพิชยะ เมื่อผมเห็นใบหน้าของพิชยะ ใจของผมก็เต้นแรงอย่างกะทันหันผมมีความรู้สึก...ดมื่อเห็นหน้าของพิชยะ แต่ผมก็ต้องปัดความคิดนั้นออกไป
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ผมพูดขึ้น
พิชยะไม่ตอบผมมองผมด้วยใบหน้าที่นองหน้าตัวสั่นระริ่กอย่างหน้าสงสาร
 
“อะ อา”พิชยะพูดออกมาเสียงแผ่วก่อนที่จะสลบไปด้วยความกลัว
 
“หะ เห้ยย”ผมรีบรับตัวของร่างเล็กที่สลบลงไป
“เอาไงดีเนี่ย”ผมพึมพำกับตัวเองแต่สุกท้ายผมก็ตัดสินใจได้ ผมค่อยๆช้อนตัวร่างเล็กของพิชยะไปไว้ในรถของผม เพราะผมไม่รู้ว่าพิชยะอยู่ห้องไหน แล้วมันอันตรายด้วย ผมจึงตัดสินใจพาพิชยะไปที่คอนโดห้องพักของผม ผมขับรถมาตามทาง สักพักก็มาถึง
ผมค่อยๆช้อนตัวของพิชยะออกจากรถของผมแล้วอุ้มเข้าไปยังลิฟท์
หลายคนมองผม แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ ผมพาพิชยะมายังห้องของผม ร่างของพิชยะยังคงหลับ ผมเห็นสภาพของพิชยะแล้วนึกสงสารขึ้นมาในใจ
ผมจัดการนำพาชุบน้ำมาเช็ดที่ใบหน้าของร่างเล็กที่มีใบหน้าสวยจนหน้าประหลาดในเมื่อเช็ดหน้าเรียบร้อยผมก็เช็ดตามตัวโดยที่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของร่างเล็กแต่อย่างไร นิ้วมือของผมสัมผัสร่างกายของนายพิชยะ ผิวของพิชยะมันช่างลื่นมือผิวขาวละเอียดกว่าผู้หญิงหลายคน
ความคิดบางอย่างลอยเข้ามาในหัวแต่ผมก็ปัดมันออกไป ผมพาร่างเล็กของพิชยะเข้าไปนอนในห้องรับแขกและผมก็อาบน้ำเตรียมนอนเพราะตอนนี้มันดึกมากๆแล้วและผมก็มีสอนตอนเช้าด้วย...
END TALK WORAWET
.
.
.
//อัพแล้วน้อออ เอาเพ้นท์วรเวชไปกินก่อนล่ะกัน คึคึ //หลบทีนนน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนิยายของไดยะนะ เอ..ไดยะรู้สึกว่าเหมือนคู่รองจะเด่นกว่าคู่หลักเลยเเหะ เอาเห๊อะ พิมพ์ตกพิมพ์หล่นต้องขอโทษด้วยจ้า ช่วยกันเม้นหน่อยนะ ขอบคุณคร้าบบ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ! 
 
 
4 เพ้นท์*วรเวช
 
เพ้นท์มาทำงานตามปกติจนเวลาร่วงเลยมาเกือบ 8 ชั่วโมงแล้ว
ความจริงเพ้นท์อยากจะทำโออีกแต่พรุ่งนึกขึ้นได้ว่ามีคลาสของอาจารย์วรเวชในรอบเช้าแล้วพรุ่งนี้ก็จ้องเรียนทั้งวันด้วย
 
“เอ่อ...พี่โอมครับวันนี้เพ้นท์ไม่ทำโอนะครับ”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะว่าปกติแล้วเพ้นท์จะทำโอแล้วกับพร้อมโอมเพื่อความปลอดภัยของตัวเองด้วย
 
“อ้าว ทำไมล่ะ”โอมถาม
 
“พรุ่งนี้เพ้นท์มีวิชาที่ขาดไม่ได้ครับถ้าเข้าสายมีหวังอาจารย์เค้าตรงประเพ้นท์ตกแน่ๆเลย”เพ้นท์พูดบอกโอมเพราะตัวเองกลัวจริงๆ
 
“งั้นเดียวเรากลับพร้อมกันเลย วันนี้พี่ไม่ทำโอหรอก”โอมพูดบอกเพราะไม่อยากให้เพ้นท์ต้องเดินกับหอพักคนเดียว
อาจเพราะกลัวว่าเพ้นท์จะถูกพวกวัยรุ่นในระแวกนั้นทำอะไรไม่ดี
 
“ทำไมล่ะครับพี่โอม”เพ้นท์ถามกลับ
 
“พี่เป็นห่วงเราน่ะ”โอมตอบกลับ
 
“ผมดูแลตัวเองได้น่าครับ พี่โอมทำงานเถอะนะครับไม่ต้องห่วงผม”
เพ้นท์บอกกลับยิ้มๆพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆไปให้โอม เพ้นท์รู้สึกรักและเคารพโอมมาก...ไม่ใช่เพราะเหตุผลใดทั้งสิ้น เพ้นท์รู้สึกรักโอมเหมือยพี่ชายแท้ของตนเอง เพราะเพ้นท์ไม่มีพี่ชายหรือน้อง ทำให้เพ้นท์เคารพโอมในฐานะพี่ชายมากๆ
 
“เอาน่า”โอมพูดบอก
“ไม่เอาครับ”เพ้นท์ยังยืนยันคำเดิม
 
“แต่พี่เป็นห่วงเรานะ”โอมยังคงพูดบอก
 
“เพ้นท์โตแล้วนะครับแล้วเพ้นท์ก็เป็นผู้ชายด้วย”เพ้นท์เถียงกลับ
 
“แต่...”โอมกำลังจะพูด
แต่เมื่อเห้นหน้าของเด็กหนุ่มแล้วก็ค่อยๆเงียบลง เพราะโอมคิดว่า ถ้าตนเองไปยุ้งวุ่นวายกับเพ้นท์มากเกินไปอาจจะทำให้เพ้นท์ลำคาลตนก็ได้และก็อีกหลายความคิดที่เข้ามาหาโอม
 
“ก็ได้ๆ”โอมยอมแต่โดยดี เด็กหนุ่มเดินไปหาพี่ผู้จัดการร้านและตรงเข้าไปด้านในห้องพักของพนักงานเด็กหนุ่มหยิบกระเป๋าตนเองออกมา
 
“พี่บูม พี่โอม พี่แนท สวัสดีครับผมไปก่อนนะครับ”เด็กหนุ่มไหว้พนักงานรุ่นพี่ พวกรุ่นพี่ก็ส่งยิ้มมาให้เพ้นท์อย่าเอ็นดูเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มมองหน้าของโอมก่อนจะยิ้มส่งไปให้เมื่อเห็นใบหน้าของโอมมองตนอย่างเป็นห่วง
เด็กหนุ่มบอกลาอีกนิดหน่อยก็เดินออกมา
 
“แค่เดินกับหอแค่นี้เอง นายจะกลัวอะไรห้ะเพ้นท์”เพ้นท์พูดบอกตัวเอง
เพราะนี้ก็ถือว่ามืดแล้วระหว่างที่เพ้นท์เดินสายตาของเหล่าวัยรุ่นหลายๆกลุ่มต่างมองมาที่เพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลีย
เพ้นท์รู้สึกขนลุกมากอาการกลัวก็เกิดขึ้นเข้ามาในใจแต่เด็กหนุ่มไม่ออกอาการมากนัก
 
“โหยๆ วันนี้เดินกลับคนเดียวหรอจ้ะคนสวย แล้วผัวน้องไม่กลับด้วยหรอจ้ะ”วั้ยรุ่นที่ดูเหมือนขี้ยาเดินมาขวางหน้าเพ้นทืมองเพ้นท์ด้วยสายตาโลมเลย เพ้นท์เงยหน้าขึ้นเพราะงงกับคำว่า...ผัว...ของขี้ยาไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความหมายแต่งงว่าทำไมขี้ยาคนนี้ถึงพูดแบบนี้เท่านั้น
 
“อะไรคนสวย ก็คนที่ชอบเดินไปมากับน้องไง ผัวน้องไม่ใช่อ๋อเห็นน้องเดินไปไหนไปตามแถมส่งสายตามาให้พวกพี่อีก ดีแล้วที่มันไม่อยู่พี่มองน้องมานานแล้วมาเป็นของพวกพี่เถอนะ”ขี้ยาพูดบอกพร้อมกับเดินเข้ามาหาเพ้นท์ เพ้นท์ผละด้วยความตกใจเดินถอยหลังแต่ก็ต้องชนกับอกของขี้ยาอีกคนแล้ววัยรุ่นคนอื่นๆก็ค่อยๆเดินเข้ามาทางเพ้นท์
 
“อ๊ะ”เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อขี้ยาอีกคนเอามีมาบีบที่ก้นของเพ้นท์ ตอนนั้นเพ้นท์รู้สึกกลัวมากๆ พรางคิดว่าไม่น่าเดินกลับมาคนเดียวเลย
 
“โอ้ยย เสียงน่าจับกดชิบหาย”วัยรุ่นขี้ยาคนเดินพูดบอก
 
“อย่าทำผมเลยนะครับ อ๊ะ ปะ ปล่อยผมนะ”เด็กหนุ่มร้องขออกมาด้วยเสียงสั่นๆ แต่วัยรุ่นอีกคนก็มาล็อคแขนทางด้านหลังของเด็กหนุ่ม
ตอนนี้เพ้นท์ตัวสั่นด้วยความกลัว น้ำตาไหลด้วยความกลัว
 
“โอ้ยยย แม่งนี่น้องคนสวยรู้มั้ยว่าพวกพี่น่ะเล็งเรามาตั้งนานแล้ว อูยย น่ารักชิบส์”วัยรุ่นคนที่อยู่ตรงหน้าของเพ้นท์พูดบอกพร้อมเดินเข้ามา
มือของวัยรุ่นตรงหน้าของเพ้นท์ค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อของเพ้นท์
 
“พะพี่ครับปล่อยผมเถอะนะครับ ฮึก ผมกลัว”เพ้นท์พูดบอกน้ำตาความกลัวก็ไหลลั่งเต็มใบหน้าสวย
 
“ยิ่งร้องยิ่งหน้าจับ...ว่ะ”เสียงของเพื่อนขี้ยาพูดบอกและเดินตรงเข้ามาจับแก้มของเพ้นท์ ตอนนี้วัยรุ่นที่รุมเพ้นท์อยุ่มีประมาณ 6-7 คนได้
 
“อื้ม ปะ ปล่อย ฮึก”เด็กหนุ่มร้องขอ
 
“โอ้ยย กูทนไม่ไว้แล้วว่ะแม่งแค่เห็นแค่นี้กูก็จะเสร็จแล้ว อูยย”วันรุ่นคนที่จับแก้มของเพ้นท์พูดบอกพร้อมกับเลียริมฝีปากขอนตนเองมองเพ้นท์ด้วยสายตามน่ารังเกียจ
 
‘พรึ่บ’
แสงสว่างจากไฟหน้ารถสาดส่องมาทางทีเพ้นท์ถูกรุมอยู่จนต้องหรี่ตาลง เพราะมันสว่างมากจริงๆ
 
“ชะ ช่วยด้วยครับ”เมื่อเห็นคนออกมาจากรถร่างเล็กของเพ้นท์รีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันที และถ้าถามว่าทำไม่เพ้นท์ถึงไม่ร้องขอความช่วยเหลือ เพราะว่า ตรงที่เพ้นท์โดนรุมนั้นมันไม่มีบ้านเรือนเลย มันเป็นซอยที่น่าอันตรายและถ้าเด็กหนุ่มยิ่งร้องออกมาเสียงดังกลุ่มวัยรุ่นอื่นๆอาจจะมาและก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่
 
‘พลั่ก’
วัยรุ่นที่จับแก้มของเพ้นท์ถูกถีบจนหน้าคว่ำ และพวกวัยรุ่นที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มโดนต่อย ทั้งสองฝ่ายต่างตะลุมบอลกันคนที่ลงมาจากรถมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแต่ก็สู้เด็กวันรุ่นทั้ง 6 คนได้อย่างง่ายร่างสูงของคนที่มาช่วยเหลือเพ้นท์พริ้วไหวมากในระหว่างการต่อสู้ เด็กหนุ่มยังคงมีน้ำตาไหลลงมาจากตาเพราะความกลัวอยู่
เพ้นท์มองไม่เห็นใบหน้าของคนที่มาช่วยตนเองเพราะน้ำตาคลออยู่ที่ดวงตาของเพ้นท์ ร่างสูงที่หน้าหลงใหลพริ้มตัวหลบหมดของวัยรุ่นไม่นานหนักวัยรุ่นทั้งกลุ่มก็หมอบลงไปกับพื้นเพราะสู้ไม่ไหว ถึงแม้จะมีมากกว่าแต่ร่างสูงที่มีทักษะด้านการต่อสู่ก็เอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ร่างสูงค่อยเดินมาหาเพ้นท์ที่นำต่คลออยู่ใบหน้าสวยมีน้ำตานองหน้าตัวสั่นระริ่กด้วยความกลัวกับเหตุการเมื่อคู่
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ร่างสูงของอีกฝ่ายพูดขึ้น
 
“....”เพ้นท์ยังไม่ตอบอะไรและพยายามไล่น้ำตาที่คลออยู่เพื่อจะปรับสายตามองผู้ที่มีพระคุณกัยร่างเล็ก
 
“อะ อา”เพ้นท์กำลังจะพูด
 
‘พรึ่บ’ไม่ทันทีจะได้พูดอะไรร่างเล็กของเพ้นท์ก็สลบลงไปเพราะอาการช็อคกับเห็นการณ์เมื่อคู่และกลัวมากจนทำให้สติพร่าแล้วสรบลงไป
“หะ เห้ยย”ร่างสูงร้องออกมาอยากตกใจและโอบรับตัวของเพ้นท์เพราะอยู่ๆเพ้นท์ก็สลบลงไป...
.
.
.
TALK WORAWET
 
ตอนนี้ร่างเล็กของพิชยะอยู่ที่อ้อมแขนของผม เพราะผมโอบไว้อยู่
อยู่พิชยะก็สลบไปอาจเพราะกลัวมาก
ผมไม่คิดว่าจะเจอพิชยะเลย วันนี้ผมพึ่งกลับมาจากการประชุมของทางมหาลัย ผมก็กำลังจะครับรถกลับที่พักของผม ซอยที่พิชยะอาศัยอยู่คือซอยที่ผมต้องขับรถผ่านเพราะคอนโดที่ผมพักอยู่ต้องไปทางนี้ ไม่แปลกที่ผมจะรู้ว่าระแวกนี้มันอันตรายแค่ไหน ผมกับมาตามซอยแต่ผมก็ต้องหยุดรถเมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังโดนกลุ่มเด็กวัยรุ่นรุมทำไม่ดี
ระหว่างที่ผมกำลังจะขับรถผ่านผมก็ดันไปเห็นหน้าของนายพิชยะเด็กนักศึกษาที่เข้าเรียนคาบของผมสาย นายพิชยะดูท่าทางจะกลัวมากๆใบหน้านองไปด้วยน้ำตา ผมตัดสินใจลงจากรถไปช่วยพิชยะ
ผมตรงเข้าไปถีบสีข้างของวัยรุ่นที่กำลังลวนลามนายพิชยะ ไม่นานนักพวกของเด็กวัยรุ่นก็เริ่มมารุมผมแต่เพราะผมมีทักษะการต่อสู้จึงทำให้ผมไม่มีรอยแผลแม้แต่นิดผมไม่ได้ทำพวกเด็กไวรุ่นเจ็บนักเพราะพวกเขายังเป็นเยาวชนอยู่ พวกวัยรุ่นลุกขึ้นและพากันขับรถหนีเพราะอาจจะรู้ตัวมั้งว่าสู้ไม่ได้ ผมเดินตรงไปหานายพิชยะ เมื่อผมเห็นใบหน้าของพิชยะ ใจของผมก็เต้นแรงอย่างกะทันหันผมมีความรู้สึก...ดมื่อเห็นหน้าของพิชยะ แต่ผมก็ต้องปัดความคิดนั้นออกไป
 
“นี่นายเป็นอะไรหรือเปล่า...พิชยะ”ผมพูดขึ้น
พิชยะไม่ตอบผมมองผมด้วยใบหน้าที่นองหน้าตัวสั่นระริ่กอย่างหน้าสงสาร
 
“อะ อา”พิชยะพูดออกมาเสียงแผ่วก่อนที่จะสลบไปด้วยความกลัว
 
“หะ เห้ยย”ผมรีบรับตัวของร่างเล็กที่สลบลงไป
“เอาไงดีเนี่ย”ผมพึมพำกับตัวเองแต่สุกท้ายผมก็ตัดสินใจได้ ผมค่อยๆช้อนตัวร่างเล็กของพิชยะไปไว้ในรถของผม เพราะผมไม่รู้ว่าพิชยะอยู่ห้องไหน แล้วมันอันตรายด้วย ผมจึงตัดสินใจพาพิชยะไปที่คอนโดห้องพักของผม ผมขับรถมาตามทาง สักพักก็มาถึง
ผมค่อยๆช้อนตัวของพิชยะออกจากรถของผมแล้วอุ้มเข้าไปยังลิฟท์
หลายคนมองผม แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ ผมพาพิชยะมายังห้องของผม ร่างของพิชยะยังคงหลับ ผมเห็นสภาพของพิชยะแล้วนึกสงสารขึ้นมาในใจ
ผมจัดการนำพาชุบน้ำมาเช็ดที่ใบหน้าของร่างเล็กที่มีใบหน้าสวยจนหน้าประหลาดในเมื่อเช็ดหน้าเรียบร้อยผมก็เช็ดตามตัวโดยที่ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของร่างเล็กแต่อย่างไร นิ้วมือของผมสัมผัสร่างกายของนายพิชยะ ผิวของพิชยะมันช่างลื่นมือผิวขาวละเอียดกว่าผู้หญิงหลายคน
ความคิดบางอย่างลอยเข้ามาในหัวแต่ผมก็ปัดมันออกไป ผมพาร่างเล็กของพิชยะเข้าไปนอนในห้องรับแขกและผมก็อาบน้ำเตรียมนอนเพราะตอนนี้มันดึกมากๆแล้วและผมก็มีสอนตอนเช้าด้วย...
END TALK WORAWET
.
.
.
//อัพแล้วน้อออ เอาเพ้นท์วรเวชไปกินก่อนล่ะกัน คึคึ //หลบทีนนน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนิยายของไดยะนะ เอ..ไดยะรู้สึกว่าเหมือนคู่รองจะเด่นกว่าคู่หลักเลยเเหะ เอาเห๊อะ พิมพ์ตกพิมพ์หล่นต้องขอโทษด้วยจ้า ช่วยกันเม้นหน่อยนะ ขอบคุณคร้าบบ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ! 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา