Blacklist พิชิตใจยัยจอมแสบ

8.4

เขียนโดย ChiaraCastiglione

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.27 น.

  41 ตอน
  253 วิจารณ์
  55.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 01.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

37) ปรับความเข้าใจ(1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

            ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านของตัวเอง ช่วงนี้ผมมานอนที่บ้านเผื่อจะได้เจอฟางบ้าง แต่เธอกลับไม่ได้มาเลย เฮ้อออ..ผมถอนหายใจอย่างเซ็งปนกับเหนื่อย

 

 

 

 

            “ได้ข่าวว่าเลิกกับพี่พิมแล้วเหรอ” เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นตอนที่ผมเดินเข้ามาในบ้าน

 

 

 

 

 

 

            “แล้วแกจะยุ่งอะไรด้วย” ผมหันไปพูดกับมันด้วยความหงุดหงิด แล้วส่งสายตาดุให้มัน แต่ไปป์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเลยสักนิด

 

 

 

 

 

 

            “ผมก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะยกเว้นเรื่องนี้  แต่ผมรู้จุดประสงค์ของพี่ว่าทำไม” ไปป์ตอบผมแล้วมันส่งสายตาที่ทำให้ผมรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “แล้วผมจะไม่ยอมปล่อยพี่ฟางไปง่ายๆด้วย” ไปป์ลุกขึ้นยืนเดินมาหาผมมันยักคิ้วกวนแล้วเดินขึ้นห้องไป ถ้าไปป์มันไม่ใช่น้องผม ผมฆ่ามันไปนานแล้ว

           

 

 

 

 

 

 

 

 

            ตอนนี้ผมยืนดักรอฟางที่หน้าคณะเพื่อจะของฟางคบ ระหว่างที่รอผมก็เห็นฟางเดินมากับเพื่อนเลยเข้าไปขวาง หญิงสาวตัวเล็กมองหน้าผมด้วยฟางตาว่าออกไปมายืนขวางทำไมอะไรแบบนี้

 

 

 

 

 

 

            “ขอคุยด้วยหน่อยสิ” ฟางมองหน้าผมเหมือนจะเดินหนี “ถ้าเธอไม่คุยฉันจะบอกเพื่อนเธอว่าคืนนั้น...” ผมเดินเข้าไปกระซิบใกล้หูของคนตัวเล็ก ฟางหันไปคุยกับเพื่อนว่าให้กับไปก่อน แล้วสาวน้อยก็หันมาคุยกับผม

 

 

 

 

 

 

 

            “นายมีอะไรว่ามา” ฟางทำหน้าหงุดหงิดที่ผมไปบังคับเธอ

 

 

 

 

 

 

 

            “ฉันเลิกกับพิมแล้ว” ฟางหันมามองหน้าผมแล้วอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน “ตอนนี้ฉันก็ไม่มีใครแล้ว เราลองมาคบกันได้ไหม” ผมมองฟางหลังจากขอเธอคบอย่างลุ้นๆว่าเธอจะตอบผมยังไง แต่เธอนิ่งไปสักพัก

 

 

 

 

 

 

            “ทำไมนายถึงเลิกกับพิมล่ะ” เธอถามผมนิ่งเธอไม่มีสีหน้ายิ้มแย้มเลย แต่หน้ากับเคร่งเครียด

 

 

 

 

 

 

            “เพราะฉันไม่ได้รักพิมไง จะให้ฉันคบกับเขาทำไมแล้วอีกอย่าง...”ทำไมเวลาผมมองแววตาของคนตัวเล็กแล้วทำให้ผมใจละลายขนาดนี้นะ แววตากลมโตแบบนั้นผมอยากมองมันแค่คนเดียว แล้วใบหน้าที่ได้รูปที่ผมอยากสัมผัส อยากจับเธอมากอดจัง “คนที่ฉันรักเขายืนอยู่ตรงนี้ คบกับฉันได้ไหม...”

 

 

 

 

 

 

            “ป๊อปปี้....” ผมมองร่างบางที่ยืนก้มหน้าอย่างลุ้นคำตอบ ผมกลัวคำตอบเธอจังเพราะคราวก่อนเธอปฏิเสธผมมาแล้วครั้งหนึ่ง ผมกลัวจะโดนปฏิเสธอีก ขออย่าให้คำตอบนั้นมันกลับมาหาผมอีกเลย

 

 

 

 

 

 

            ฟางเงยหน้ามาสบตาผม เธอพยักหน้าแล้วยิ้มหวาน ผมถึงกับอึ้งไม่เชื่อสายตาว่าฟางจะตอบตกลงผมยิ้มออกทันที พอฟางเห็นว่าผมยิ้มออกมาอย่างดีใจสาวร่างเล็กก็ถึงกับหน้าแดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”

 

 

 

 

 

 

 

            “อื้อ...” ฟางพยักหน้า ผมเลยดึงเธอเข้ามากอดอย่างลืมตัว ก็ผมดีใจนี่น่าตอนนี้ผมมีความสุขที่สุดเลย

 

 

 

 

 

 

 

            “เราเป็นแฟนกันแล้ว เราจะทำอะไรกันดีน๊า” ผมกระซิบถามข้างหูของคนตัวเล็ก เธอถึงกับหน้าแดงแล้วตีอกผม

 

 

 

 

 

 

            “ทะลึ่ง..”

 

 

 

 

 

 

 

            “ทะลึ่งอะไรเล่า หมายถึงว่าเราจะไปทานข้าวกันมั้ย หรือไปเที่ยวดีอะไรแบบนี้ต่างหากล่ะ คิดอะไรเนี้ย” ผมพูดแล้วหยิกแก้มสาวตัวเล็กเพราะเอาจริงๆผมพูดให้เธอคิดลึกนั้นแหละ

 

 

 

 

 

 

 

 

            “โอ๊ยยย เจ็บนะ” ฟางปัดมือผมออกแล้วทำหน้าดุใส่ “ใครจะไปรู้เล่า นายยิ่งหื่นอยู่ด้วย”

 

 

 

 

 

 

 

            “ฉันไม่ได้หื่นนะ...ฉันไม่เคยข่มขืนใคร”

 

 

 

 

 

 

            “หรา!!...” ฟางหันมาพูดแล้วทำหน้าตาไม่เชื่อผม

 

 

 

 

 

 

 

            “แล้วฉันไปข่มขื่นใคร..” ผมหันข้างแล้วขยับไปใกล้คนตัวเล็ก “ถ้ารู้ก็พูดมาดิ พูดดิ” ผมเอาไหล่ของผมสะกิดไหล่ของฟาง ฟางถึงกับหน้าแดง ผมรู้ว่าเธอคิดถึงคืนนั้นที่ผมเกือบจะทำอะไรเธอ

 

 

 

 

 

 

 

 

            “ไม่รู้ด้วยแล้ว” ฟางหันมาพูดแบบเขินๆแล้วเดินหนีไป ทำไมเธอน่ารักแบบนี้นะ

 

 

 

 

 

 

 

 

>>Tomo<<

 

 

 

 

 

            “โทโมะทำไมแกทำหน้าแบบนั้นอ่ะ”  ป๊อปปี้ที่เดินยิ้มเปิดประตูห้องชมรมเข้ามาก็ทักผม

 

 

 

 

 

 

            “ใครจะเหมือนแกล่ะป๊อปปี้ เดินยิ้มตั้งแต่เข้าห้องมาขนาดถามไอ่โมะแกยังไม่หุบยิ้มเลย” เขื่อนที่นั่งกดโทรศัพท์เล่นก็พูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

            “จะให้ไม่ยิ้มได้ไงก็ฉันมีความสุขนิหว่า”

 

 

 

 

 

 

            “แกอย่าบอกฉันนะว่าฟางตกลงคบกับแกแล้ว” เขื่อนคงยังถามป๊อปปี้ต่อ

 

 

 

 

 

 

 

            “ถูกต้องนะครับ”

 

 

 

 

 

 

 

            “จริงดิ!! จงเบแกตบหน้าฉันสิ” เขื่อนหันไปหาจงเบที่นั่งเล่นเกมอยู่ข้าง(คนนี้ก็วันๆไม่ทำอะไรว่างไม่ได้เลยเล่นเกมตลอดจะติดอะไรหนักหนา)

 

 

 

 

 

 

เพียะ! 

 

 

 

 

 

 

           จงเบตบหน้าเขื่อน เขื่อนกุมหน้าตัวเองแล้วพูด “เออเจ็บว่ะ แปลว่าไม่ได้ฝันไปจริงๆด้วย”

 

 

 

 

 

 

 

              “ทีนี้เชื่อฉันหรือยัง??”  ป๊อปปี้ยืนกอดอกแล้วก็พูดกับเขื่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

              “เออตกลงแกเป็นอะไรว่ะ โทโมะ” ป๊อปปี้ยังหันมาถามผมต่อ มันจะรู้ให้ได้เลยใช่มั้ยเนี้ยะ ผมนิ่งสักพักก่อนจะถอนหายใจแล้วตอบมัน

             

 

 

 

 

 

 

 

               “แก้วจะหย่ากับฉัน”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

              “อ้าวก็ดีแล้วนิ แกก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับแก้วอยู่แล้ว” เขื่อนหันมาพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               “เมื่อก่อนอาจจะใช่...”ผมก้มหน้ามองบนพื้นแล้วคิดถึงตอนที่ผมพาเธอไปหาคุณย่า เพราะตั้งแต่ที่ผมได้อยู่กับเธอผมรู้สึกสบายใจไม่เครียด ใครๆก้รู้ว่าผมเป็นคนที่เงียบไม่ค่อยพูด ผู้หญิงบางคนผมส่งสายตาดุเธอก็จะไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง แต่แก้วเธอกับถียงเหมือนเด็กๆช่วงนั้นแหละมั้งที่ทำให้ความรู้สึกผมเปลี่ยนไป “แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากหย่า...ฉันควรจะทำไงดีว่ะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                ผมหันไปถามเพื่อนมันมองหน้ากัน “แล้วอีกอย่างฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ  อาจจะใช่ที่ฉันเคยบอกกับเธอว่าถึง1เดือนเมื่อไหร่เราจะหย่ากัน แต่เนี้ยมันยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ”

 

 

 

 

 

 

 

 

ติ๊ด...ติ๊ด

 

 

 

 

 

 

                ผมก้มดูโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโซฟาแล้วหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนจะกดรับสาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                “ว่าไงจินนี่” ผมถามปลายสายอย่างเซงๆถ้าเป็นแก้วผมคงจะดีใจมากกว่า  จินนี่ไม่ใช่แฟนผมหรอกนะ เพราะผมไม่คิดจะจริงจังกับใครเธอก็เป็นผู้หญิงที่ผมควงด้วยเวลาผมเบื่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                 “โทโมะคุณอยู่ไหนค่ะ..วันก่อนจินนี่โทรหาคุณ คุณก็ให้จินนี่พูดอยู่คนเดียว..”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  “ตอนไหนฉันยังไม่เห็นเบอร์เธอโทรมาเลย” ผมตอบไปอย่างอารมณ์เสีย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  “ก็วันก่อนไงค่ะ คุณรับสายแต่กลับไม่พูดอะไร พอจินนี่ถามว่าเมื่อไหร่คุณจะหย่ายัยนั้นตายใจหรือยัง คุณก็ตัดสายของจินนี่ไปเลยอ่ะ ใจร้ายที่สุด” ผมกำโทรศัพท์แน่นก่อนจะกดตัดสายแล้ววิ่งออกไปจากห้องชมรม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  “เห้ยโทโมะแกจะไปไหนว่ะ”  เคนตะเรียกถามแต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาจะมาตอบหรอกนะ ผมวิ่งไปหารถตัวเองแล้วขับออกไปจากมออย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  “คุณโทโมะ มาหาคุณแก้วเหรอค่ะ” ป้าแม่บ้านที่เดินมาเปิดประตูให้ผมก็ถามผมขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  “ใช่ครับ.. แก้วอยู่ใช่ไหมครับ ตอนนี้เธออยู่ไหนครับ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                   “ตอนนี้คุณแก้วอยู่ในครัว....” พอรู้ว่าแก้วอยู่ไหนผมก็รีบวิ่งไปหาเธอทันที      “เออ...คุณโทโมะค่ะเดี๋ยวก่อนค่ะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                พอผมวิ่งเข้ามาในครัวก็ต้องชะงักกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แก้วกำลังหั่นผักแล้วมีดบาดนิ้วเธอผู้ชายที่อยู่ข้างเห็นรีบดึงนิ้วแก้วเข้าปากเพื่อห้ามเลือด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                “หึ...ที่อยากรีบหย่าก็เพราะอยากมากกอยู่กับชู้สินะ” ผมพูดขึ้นเมื่อทนดูต่อไปไม่ไหว พอทั้งสองคนได้ยินเสียงผมก็หันมาทางผมทันที แก้วรีบผละออกจากผู้ชายคนนั้นทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                “อย่ามาพูดแบบนี้นะโทโมะ!”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                “ทำไมล่ะ ก็เห็นๆกันอยู่” ผมจองแก้วด้วยความโมโหก่อนจะหันไปพูดกับอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง “แล้วนี่ไม่มีปัญญาหาแฟนแล้วรึไง ถึงต้องมาแย่งเมียของคนอื่น” ตอนนี้ผมรู้สึกร้อนไปทั้งตัวไม่ใช่เพราะอากาศแต่ร้อนด้วยความโกรธ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  “นายออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันไม่ต้อนรับนายฉันเกลียดนายเข้าใจไหมโทโมะฉันเกลียดนาย!!” แก้วตะโกนใส่หน้าผมแล้วจับมือคนข้างๆให้เดินตามออกไปผมมองตามทั้งคู่จะขับรถกลับบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                 วันนี้ผมกะจะมาปรับความเข้าใจกับเธอแท้ๆ แต่ต้องมาเจอเรื่องนี้มันน่าโมโหอาจจะเป็นเพราะความหึงที่ผมรักเธอมากเลยไม่อยากให้เธออยู่ใกล้กับผู้ชายคนไหน ผมอยากให้เธอเป็นเหมือนเมื่อก่อน ช่วงที่เราแต่งงานกันใหม่ๆตอนนั้นผมรู้สึกอุ่นใจที่มีเธออยู่ข้างกาย เวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนเป้นตัวของตัวเองที่สุดแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                 “โถ่เว้ย…….เห้ยยยย!!!!”

 

 

 

 

 

 

 

 

                  เอี๊ยดดดด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                  โครม!!!

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามตอนต่อไป

 

 

 

 

 

ขอโทษนะที่ไม่ค่อยได้มาอัพให้เลย ช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมแล้วเลยยุ่งนิดหน่อย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา