เสพติดความรัก

10.0

เขียนโดย amerrors

วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.36 น.

  14 ตอน
  68 วิจารณ์
  20.66K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) คำขอบคุณ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
ธนันต์ธรญ์และภาณุเดินมาตามทางเรื่อยๆ ความงามของท้องถนนตอนเที่ยงคืนที่ไม่มีผู้คน ไม่มี
ความวุ่นวาย และที่สำคัญไม่มีแท็กซี่ แล้วเธอจะกลับบ้านได้อย่างไร
 
 
 
“ เป็นไง ” ภาณุพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ เพราะตลอดเวลาที่ที่เขาเดินกับธนันต์ธรญ์ เธอไม่
พูดอะไรเลย ได้แต่ทำสีหน้าอมทุกข์ตลอดเวลา เขาชักอย่างจะรู้แล้วสิ เธอทุกข์ใจอะไรนักหนา
 
 
 
“ อะไร ไม่เป็นไง สบายดี ” ธนันต์ธรญ์ตอบเขาด้วยน้ำเสียงหยิ่งๆ เธอกับภาณุเพิ่งรู้จักกันไม่นาน
จะให้เธอเล่าบรรดาปัญหามากมายของเธอให้เขาฟังได้อย่างไรกัน
 
 
 
“ หรอ แต่แววตาของคุณไม่ได้บอกอย่างงั้น ” ภาณุมองเสี้ยวหน้าหวานของธนันต์ธรญ์ หน้า
หวานๆแบบที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก แต่คำพูดคำจา กิริยามารยาท และท่าทีอวดดีแบบนั้น ช่างไม่
เหมาะกับน้ำเสียงและดวงหน้าหวานๆนั้นเอาเสียเลย
 
 
 
“ ทำไม ตาของฉันมันบอกอะไรคุณ ห้ะ ” ธนันต์ธรญ์พูดอย่างเริ่มโมโห เธอเป็นใคร ลูกสาวนาย
ตำรวจใหญ่ มารดของเธอก็เปิดร้านขายอัญมณีที่ส่งออกเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทย แล้วเขาเป็น
ใคร ทำไมพูดจาเหมือนรู้จักเธอดี เอ๊ะ นั่นสิ เขาเป็นใครกัน
 
 
 
“ อวดดี ! ” ภาณุพูดและหยุดเดินแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างสระน้ำใหญ่ที่ตอนกลางวันคงเต็มไปด้วย
ผู้คน แต่ตอนกลางคืนมีเพียงแสงจากหลอดไฟนีออนข้างทางเท่านั้น
 
 
 
“ นี่นาย กล้าดียังไงมาว่าฉัน แล้วนี่จะหยุดเดินทำไม ” ธนันต์ธรญ์หันขวับไปว่าภาณุ แต่เธอกลับ
เห็นภาณุหยุดเดินและนั่งลง เธอจึงเดินไปหาเขา ใจจริงเธออยากไปถึงบ้านเร็วๆ แต่เธอไม่รู้ทางนี่
หน่า ก็ตอนนที่เขริกาพามา เธอมัวแต่นั่งจิ้มโทรศัพท์ด้วยสิ
 
 
 
“ พักก่อนค่อยเดินต่อ ” ภาณุพูดสื่อความหมายเป็นนัยๆ เขาไม่รู้หรอกว่าธนันต์ธรญ์กลุ้มใจเรื่อง
อะไร คิ้วสวยของเธอถึงขมวดมุ่นขนาดนั้น
 
 
 
“ ไม่ ฉันอยากกลับบ้าน ฉันจะกลับบ้าน ! ” ธนันต์ธรญ์ตวาดขึ้นอย่างโมโห ตั้งแต่เธอเกิดมา ไม่มี
ใครกล้ามาสั่งเธอ แต่เขา เขากลับทำมัน
 
 
 
“ นี่เงียบสิ นั่งลง แล้วดูนี่ ” ภาณุที่ทนเสียงแว้ดๆของธนันต์ธรญ์ไม่ไหว ก็กระตุกมือเธอให้นั่งลง
กับพื้นทันที
 
 
 
“ อ้ายยย กระโปรงของฉัน นายรู้ไหมว่ามันแพงแค่ไหน ฉันต้องสั่งเข้าจาก .. ”
 
 
 
“ ลาว กัมพูชา ประเทศไรล่ะ ” ธนันต์ธรญ์พูดไม่ทันจบ ภาณุก็แทรกขึ้นมา
 
 
 
“ หยาบคาย ฉันสั่งมาจากฝรั่งเศสเลยนะย่ะ ” ธนันต์ธรญ์พูดพร้อมเบ้ปาก
 
 
 
“ มันก็ผ้าเหมือนกันนั่นล่ะ ดูนี่ สวยกว่ากระโปรงคุณเป็นไหนๆ ” ภาณุพูดแล้วชี้ให้ธนันต์ธรญ์มอง
ขึ้นไปบนท้องฟ้าสีหม่น
 
 
 
“ สวยตรงไหน ดาวก็ไม่มี พระจันทร์ก็ไม่มี เห็นท้องฟ้าโล่งเนี่ยนะเรียกสวย ไร้รสนิยม ” ธนันต์
ธรญ์ว่าภาณุ ก่อนที่ภาณุจะยกมือของเขาขึ้นยีผมสีน้ำตาลลอนของเธอ
 
 
 
“ เอามือนายออกไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันเป็นใคร นายเป็นใคร กล้าดียังไง ” ธนันต์ธรญ์พูดเสียงแหลมใส่
ภาณุ
 
 
 
“ เออใช่ เธอเป็นใคร ฉันคุ้นหน้าเธอตั้งแต่อยู่ในผับแล้ว ” ภาณุถามอย่างที่ใจคิด
 
 
 
“ มุขจีบสาวหรอย่ะ พูดเลย เชย ” ธนันต์ธรญ์พูดพร้อมส่ายหน้ากวนๆ
 
 
 
“ เหอะ ฉันไม่ใช่ผู้ชายตาบอดพวกนั้นหรอก ” ภาณุพูด
 
 
 
“ ฉันคือฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ คุ้นบ้างหรือเปล่า นีระสิงห์ ” ธนันต์ธรญ์ย้ำนามสกุลที่เธอภูมิใจ
นำเสนอ
 
 
 
“ อ่อ นึกว่าใคร ฉันเคยเจอเธอในทีวี ที่แท้ก็คุณหนูขี้วีน ” ภาณุยังคงแหย่ธนันต์ธรญ์ต่อ ถึงรู้แล้ว
ว่าเธอเป็นใคร แต่มันมีความสุขนี่หน่า
 
 
 
“ ย่ะ จะพูดยังไงก็พูด ฉันชินแล้ว แล้วนายล่ะ ใคร ลูกท่านหลานหม่อมคนไหน ” ธนันต์ธรญ์ถาม
กลับ
 
 
 
“ เปล่า ฉันก็หมอธรรมดาๆนี่แหละ แถมเป็นเด็กวัดด้วยนะ พ่อแม่ทิ้งไปนานแล้วล่ะ ฉันชื่อป๊อปปี้
ภาณุ จิระคุณ ว่างๆ เธอแวะไปเที่ยววัดที่ฉันอยู่ได้นะ หลวงตาท่านใจดีให้ข้าวกินฟรีด้วยเอ้า ”
ภาณุพูดอย่างภูมิใจในตัวเอง เขาเป็นแพทย์ทุน เขาภูมิใจและดีใจที่เขาเรียนจบมา ได้กลับมาดูแล
และตอบแทนบุญคุณหลวงตาที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เขาจำความไม่ได้
 
 
 
“ แหม ภูมิใจนำเสนอเหลือเกินนะ วัดเนี่ย ” ธนันต์ธรญ์พูดยิ้มๆ เธอรู้สึกอิจฉาเขาจัง เขาดูมีความ
สุข ถึงแม้ชีวิตเขาจะเติบโตมาด้วยความไม่พร้อม เรียกว่าขาดก็ได้ แต่เขาก็ยังดูสุขดี ต่างกับเธอ
 
 
 
“ แน่นอน แล้วเธอไปผับนั่นทำไม ” ภาณุถามธนันต์ธรญ์อีกครั้ง ครั้งนี้ธนันต์ธรญ์กลับเงียบใส่เขา
อยู่นาน กว่าเธอจะยอมเอ่ยปากออกมา
 
 
 
“ ไปลองอะไรใหม่ๆ เผื่อมันจะช่วยให้ฉันลืม ” ธนันต์ธรญ์พูดด้วยสายตาหม่นหมอง
 
 
 
“ ลืมอะไร อกหักหรอ ไม่น่าจะใช่ ” ภาณุมองหน้าธนันต์ธรญ์ และธนันต์ธรญ์ก็หันหน้าเธอมามอง
เขา แวบหนึ่งเขาเห็นในตาของธนันต์ธรญ์อ่อนแอ แต่แค่แวบเดียวเท่านั้น สายตาของเธอก็กลับมา
หยิ่งผยองเหมือนเดิม
 
 
 
“ ฉันไม่ยอมอกหักเพราะผู้ชายเลวๆอีกแล้วล่ะ สำหรับฉันครั้งเดียวพอ ความรักงี่เง่า หลอกลวง ถ้า
ฉันไม่มีเงิน เลวนั่นก็คงไม่เข้ามา ไอ้บ้าเอ้ย ” ธนันต์ธรญ์ระบายออกมา
 
 
 
“ อยากร้องไห้ไหม ” ภาณุถาม ท่าทางที่เข็มแข็งของเธอกับแววตาเมื่อกี้นั้นมันทำให้เขารู้ว่าเธอ
ไม่ได้เป็นแบบที่เธอแสดงออกมาเลย
 
 
 
“ ไม่ ไร้สาระน่า ” ธนันต์ธรญ์ตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
 
 
 
“ อื้ม เธอเล่นยาด้วยหรอ ” ภาณุถาม ราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา
 
 
 
“ เพิ่งลองอ่ะ คงไม่ติด แต่ก็ไม่แน่ ”
 
 
 
“ รู้ไหมว่ามันไม่ดี ” ภาณุเอ่ยติดดุ ทำให้ธนันต์ธรญ์มองเขาด้วยสายตาแปลกใจ เขาคงตรวจคนไข้
มากไปสินะ ถึงได้ดุเธอแบบนี้  
 
 
 
“ รู้ แต่มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันคงดูเป็นเด็กมีปัญหามากสินะ เหอะ สมควรแล้ว ก็พ่อแม่
ไม่รักนี่ ”
 
 
 
“ แล้วเธอก็ประชดชีวิตแบบนี้เนี่ยนะ มันไม่โอเคเลยสักนิด ถ้าอยากให้พ่อแม่สนใจ ทำไมไม่ทำตัว
ดีดี ” ภาณุเสนอแนวนทางให้ธนันต์ธรญ์
 
 
 
“ ฉันไม่ต้องการให้ใครมาสนใจทั้งนั้นแหละ ! ฉันอยู่คนเดียวจนชินแล้วล่ะ ”
 
 
 
“ แล้วเธอต้องการอะไร ” ภาณุพูดเสียงอ่อนลง หลังจากรับรู้ว่าธนันต์ธรญ์กำลังคิดมาก
 
 
 
“ ความรักไงล่ะ ฉันไม่ต้องการเงินทอง ไม่ต้องการอะไรเลย ขอแค่ความรักจากท่าน เท่านี้เอง ”
ธนันต์ธรญ์พูดพร้อมกับก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่กุมกันอยู่
 
 
 
“ ฟาง ” ภาณุเอื้อมมือมาแตะไหล่บอบบางของเธอ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแรงสั่นน้อยๆ เธอร้องไห้งั้น
หรือ เขาพอรู้เรื่องเธอมาจากพิมประภาบ้าง เธอเข้มแข็ง ไม่ยอมให้ใครเห็นน้ำตา แล้วทำไม
 
 
 
“ ฉันคงน่าสมเพชมากสินะ เหอะ ”
 
 
 
“ ไม่หรอก ร้องออกมาแหละดีแล้ว ลองอ่อนแอดูบ้าง คนเรามันเข้มแข็งไม่ได้ตลอดหรอกนะ ”
ธนันต์ธรญ์เงยมองหน้าภาณุอึ้งๆ ไม่คิดว่าเขาจะปลอบเธอ ก็เธอพูดร้ายๆใส่เขาตั้งเยอะ
 
 
 
“ ขอบคุณนะ ” ธนันต์ธรญ์พูดคำที่เธออยากพูดมานาน แต่เธอไม่รู้จะใช้มันกับใคร เพราะที่ทุกคน
ทำทุกอย่างให้เธอ ก็เพราะเงินของเธอ ไม่มีใครหวังดีจริงๆกับเธอสักคน ไม่เคยมีใครให้เธอจากใจ
จริงเลย
 
 
 
“ ห้ะ อะไรนะ เธอเนี่ยนะ ขอบคุณฉัน ” ภาณุพูดขึ้นอย่างตกใจ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เขารู้จากพิม
ประภา ธนันต์ธรญ์ผู้ไม่เคยยอมขอบคุณใคร แต่วันนี้เธอกลับมาขอบคุณเขา
 
 
 
“ ตกใจอะไรนักหนา ก็ตามมารยาทไม่ใช่หรือไง ” ธนันต์ธรญ์พูดเคืองๆ เขาชักจะเรื่องมากไปแล้ว
นะ
 
 
 
“ มีด้วยรึนั่น ” ภาณุพูดกวนๆ
 
 
 
“ นายว่าฉันไม่มีมารยาทงั้นหรอ นี่แหนะ ๆ ” ธนันต์ธรญ์ฟาดฝามือลงไปตามแขนของภาณุ
 
 
 
“ โอ้ยๆ ฉันเจ็บนะ ”
 
 
 
“ สมน้ำหน้า ” ธนันต์ธรญ์พูดอย่างผู้มีชัย นี่เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นรอยยิ้มเธอ เธอสวยกว่าหน้าหยิ่งๆ
นั่น ตั้งเยอะ
 
 
 
“ อ่ะๆ นี่นายจะทำร้ายร่างกายผู้หญิงงั้นหรอ ” ธนันต์ธรญ์ตกใจทันที ที่ภาณุยืนขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มี
ขลุ่ย
 
 
 
“ เลอะเทอะไปแล้วนะสมอง ว่างๆเช็คบ้าง มาหาฉันที่โรงพยาบาลก็ได้ เดี๋ยวพาไปตรวจ ฮ่าๆๆ”
ภาณุหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อแกล้งหลอกว่าธนันต์ธรญ์สำเร็จ
 
 
 
“ นายหลอกด่าฉันหนิ ไอ้บ้า ”
 
 
 
“ มาๆ ลุกขึ้น กี่โมงกี่ยามแล้วไม่รู้ กลับบ้านเถอะ ” ภาณุยื่นมือให้ธนันต์ธรญ์จับ ก่อนะดึงเธอลุก
ขึ้นมา
 
 
 
“ ฉันจะกลับยังไง ” ธนันต์ธรญ์ถามเขา ก็เธอไม่รู้เลยว่าแถวนี้มันแถวไหน
 
 
 
“ ฉันจอดมอเตอร์ไซด์ไว้แถวนี้ ถ้าไม่รังเกียจให้ฉันไปส่งก็ได้ ” ภาณุเสนอ จริงๆแล้วตอนมาเขา
กับยงยุทธมามอเตอร์ไซด์คนล่ะคัน มันคล่องตัวกว่าขับรถยนต์มา แต่ตอนนี้ยงยุทธคงกลับไปแล้ว
ล่ะ
 
 
 
 
“ รังเกียจ แต่ไม่มีรถ กลับกับนายก็ได้ ” จากนั้นภาณุก็พาธนันต์ธรญ์เดินไปที่รถของเขา ก่อนที่จะขับไปส่งเธอตามที่อยู่ที่เธอบอก
 
 
 
 
 
 
 
 
“ ถึงแล้วครับ ”
 
 
 
“ ย่ะ ” ธนันต์ธรญ์รับคำอย่างง่ายๆ
 
 
 
“ บ้านเงียบจัง หายไปไหนกันหมด ” ภาณุมองเข้าไปในบ้านของธนันต์ธรญ์แล้วพูดขึ้น
 
 
 
“ ก็บอกว่าอยู่คนเดียวนชินแล้วไง นายไปได้แล้ว ”
 
 
 
“ ไล่เลยนะ แล้วเราจะเจอกันอีกเมื่อไหร่ ” ภาณุถาม อะไรไม่รู้เหมือนกันที่ทำให้เข้าถามออกไป
แบบนั้น
 
 
 
“ เจอกันใหม่เมื่อโลกต้องการ ไปๆ ” ธนันต์ธรญ์พูดและเข้าบ้านทันที เธอเหนื่อยกับเรื่องราวต่างๆ
มากเหลือเกิน ขอพักก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เธอจะเป็นธนันต์ธรญ์ที่เข้มแข็งของทุกคนอีกครั้ง
 
_________________________________________________________________
 
เราคิดว่าตอนนี้ยาวนะ หรือคิดไปเอง ฮ่าๆๆๆ  
แล้วเจอกันใหม่เมื่อโลกต้องการ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา