Bad Race เดิมพันหัวใจกับนายแบดบอย!
10.0
เขียนโดย lucky_mewmew
วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 06.57 น.
9 chapter
182 วิจารณ์
15.62K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 09.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) ทะเลาะ (อีกแล้วหรอคู่นี้)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ [Tomo’s Part]
วันรุ่งขึ้น…
วันนี้ผมมีการประชุมกับฝ่ายการตลาดกับคุณพ่อ ซึ่งผมจำเป็นต้องเข้าไปด้วยในฐานะที่ผมเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของบริษัท ผมต้องเข้าประชุมตั้งแต่แปดโมงเช้าแต่กว่าการประชุมจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว แต่ละคนพอออกจากห้องประชุมก็พากันชวนออกไปกินข้าวข้างนอกกัน
ในตอนแรกผมคิดว่าวันนี้ผมอาจจะอ่อนเพลียจนไม่สามารถเข้าประชุมได้ซะแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆแล้วผมกลับไม่ได้รู้สึกเพลีย หรือรู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด ผมกลับรู้สึกสดชื่นเหมือนปกติที่นอนเต็มอิ่มมาตลอดทั้งคืนอย่างนั้นล่ะ อย่างนี้ผมคงจะสามารถทำงานได้ทั้งวันเลยล่ะมั้งเนี่ย
“พ่อครับ” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และเรียกคุณพ่อเอาไว้ในจังหวะเดียวกับที่ท่านกำลังจะเดินออกจากห้องประชุม ตอนนี้ในห้องประชุมก็เหลือแต่ผมกับท่านเพียงเท่านั้น
“ว่าไง”
“ผมมีเรื่องอยากจะถามแล้วก็ปรึกษานิดหน่อยนะครับ” ผมตัดสินใจพูดออกไป
“อะไรล่ะ” บนใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยความสงสัย
“ทำไมพ่อถึงอยากให้ผมแต่งงานกับยัย… เอ่อ แก้วล่ะครับ” ฟู่ เกือบพูดอะไรที่เป็นตัวเอง(เกินไป)ออกไปแล้วล่ะสิ ดีน่ะยั้งไว้ทัน
“อยากรู้ความจริงจริงๆนะหรอ” ท่านยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับผม
“ครับ ผมอยากรู้จริงๆ” ผมยืนยัน
“ตั้งแต่ตอนนั้นที่เกิดเรื่องแกไม่รู้ตัวเลยรึไงว่าแกเปลี่ยนไปจากคนๆเดิมมากแค่ไหน จู่ๆแกคนเดิมก็หายไป แกในตอนนี้มันไม่ใช่แก” ท่านพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บ่งบอกถึงความจริงจังในสิ่งที่ท่านพูด
“….”
“ฉันแค่ต้องการคนที่จะมาทำให้แกกลับไปเป็นเหมือนเดิม คนที่จะสามารถมาดูแลแกได้แทนฉัน และฉันก็อยากจะอุ้มหลานเร็วๆด้วย”
“เรื่องอื่นผมก็พอจะเข้าใจน่ะครับ แต่ว่าเรื่องลูกนั้นนะ…” ผมก้มหน้าลงเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง
“อย่าปฎิเสธฉันเลยนา ถ้าแกไม่อยากอยู่ด้วยกันนานๆก็รีบๆมีลูกกันเร็วๆสิ แล้วถ้าหลานฉันคลอดเมื่อไหร่แกสองคนอยากจะทำอะไร อยากจะหย่าหรืออยากจะอยู่ด้วยกันต่อ ฉันก็แล้วแต่แกละน่ะ” พอท่านพูดจบก็หันหลังจะเดินออกจากห้องประชุมไป
“เดี๋ยวก่อนครับ” ผมเรียนท่านเอาไว้ ท่านแค่หยุดเดิน แต่ไม่ได้หันกลับมามองผม
“….”
“ผมกับเธอ เอ่อ แก้วนะครับ เราสองคนตกลงกันแล้วครับ ผมกับเธอจะแต่งงานกันตามที่พ่อต้องการ”
“อย่างนั้นหรอ” เสียงท่านนิ่งไม่เปลี่ยนไป “งั้นเรื่องรายละเอียดก็พาหนูแก้วมาคุยกับฉันที่บ้านวันนี้ก็แล้วกัน”
พอพูดจบท่านก็ไม่รอฟังคำตอบใดๆจากผม แต่ท่านกลับเดินออกจากห้องประชุมไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับผมอีก แล้วนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย ต้องไปรับยัยนั้นอีกแล้วรึไงกัน ลำบากยากเย็นชะมัดเลยน้าาาาา
[End Tomo’s Part]
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
“ว่าไงน่ะ!!” อุ๊บส์ เผลอเสียงดังไปหน่อย ทั้งคนไข้ หมอ กับเพื่อนพยาบาลนี้หันมามองกันใหญ่เลย น่าอายชะมัด -////- ฉันก็ทำได้แค่ก้มหัวขอโทษนิดๆแล้วค่อยเดินออกให้ห่างจากที่ที่มีคนมากไปยังสวนข้างโรงพยาบาล
แต่จะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไงกันล่ะ ก็แต่ล่ะอย่างที่ตานั้นพูดน่ะ มันน่าตบปากฉีกนัก ถ้าตานั้นอยู่ตรงนี้คงโดนไปไม่น้อยแล้วล่ะ ชิ -*-
ไม่กี่นาทีก่อนหน้า…
กริ๊ง กริ๊ง
อ๊ะ ใครโทรมาเนี่ย เวลางานแท้ๆเลย พอยกโทรศัพท์มาดูเบอร์ที่โชว์อยู่กลับเป็นเบอร์ที่ฉันไมม่รู้จัก ใครกันน้า
‘สวัสดีค่า ใครค่ะ’
‘ฉันเอง’
เสียงอย่างนี้มีอยู่คนเดียวเท่านั้นล่ะ แค่ออกเสียงมาแอะเดียวฉันก็จำได้ล่ะ เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่แค่เพียงได้ยินเสียงตานั้นแค่นิดเดียวก็ทำให้อารมณ์เสียของฉันพุ่งปรี๊ดดดดดดดจนแทบจะทะลุปรอทยู่แล้ว
‘ทำไม โทรมาเนี่ยมีไรห๊ะ’ ฉันพยายามพูดให้เสียงเบาที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น แล้วฉันก็พยายามกดอารมณ์เสียของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากจะถามว่าเย็นนี้ว่างรึเปล่า’
‘ไม่อ่ะ วันนี้ฉันมีเข้าเวรจนถึงสามทุ่ม จะทำไม’
‘ไม่ว่าเธอจะว่างหรือไม่ว่างเย็นนี้ฉันก็จะไปรับเธอ’
‘นี้นายฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึยังไงน่ะ ฉันบอกว่าไม่ว่างก็คือไม่ว่างไง แล้วไม่ว่านายจะพาฉันไปไหนหรือยังไงฉันก็จะไม่ไปกับนายโอเค้?’ ชักจะคุมอารมณ์ไม่ไหวแล้วน้าาาาาา -_-***
‘ถ้าเธอไม่ยอมไปดีๆเย็นนี้สี่โมงฉันจะไปอุ้มเธอออกมา’
‘ก็เอาสิ ถ้านายทำฉันจะด่านายเอาให้นายกลับบ้านไม่ถูกเลยคอยดู -*-’
‘ถ้ากล้าก็ลองดู แล้วจะได้รู้กันว่าใครกันแน่ที่จะต้องอาย’ หน๊อยยยยยยยยยย -^-***
‘ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ว่างไม่ว่างจะเอาอะไรอีกห๊ะ จะตื้อเอาโล่ทองคำรึไง’
‘ก็ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเธอไม่ยอมไปกับฉัน ฉันจะไปอุ้มเธอออกมา แต่ถ้านั้นยังทำให้เธออายไม่พอ ฉันก็จะแถมจูบกับห้อมให้เอาม่ะ’
‘ว่าไงน่ะ!!’
ก็นั้นล่ะ ตามนั้นล่ะ ตานั้นช่างดื้อด้าน เอาแต่ใจ ไม่ฟังใครเลยจริงๆน่ะ
“แล้วนายจะพาฉันไปไหน” ฉันกัดฟันถามออกไป
“พ่อฉันให้พาเธอไปหาเย็นนี้ เตรียมตัวไงก็แล้วกัน สี่โมงฉันจะไปรับ แต่คงรู้น่ะว่าถ้าช้าฉันจะทำอะไรกับเธอนะ” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์นั้นมันช่างน้าตบให้ปากฉีกถึงรูหูจริงๆเลย -*- อารมณ์เสียจริงเลยน่ะ ตานี้นี่เก่งเรื่องการยั่วโมโหซะจริงๆเลยน่ะ
ต่อจากนี้ก็กลายเป็นงานหนักของฉันอีกแล้วสิน่ะ เวรฉันเลิกก็ตั้งสามทุ่มแต่จะมาขอออกก่อนเวลาตั้งสี่ห้าชั่วโมงแบบนี้มันใช่ได้ที่ไหนกันล่ะ ถ้าขอแลกเวรก็คงไม่มีใครยอมแน่ ถ้าขอออกก่อนก็ต้องโดนนินทาว่าเอาเปรียบคนอื่นอีก ไม่ว่าจะทางไหนก็ล้วนเลวร้ายด้วยกันทั้งนั้น
‘ฉันจะทำยังไงดีน่ะ…. เพราะตาบ้านั้นคนเดียวเลย’
________________________________________________
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ กลับมาอัพแล้วน้าาาาา หายไปนานเลย ^^' ขอโทษน้าาาา เปิดเทอมไม่กี่วันก็เจอหนักเลย 555555 กลับมาอัพให้หายคิดถึงกันแล้วน่ะ จะพยายามมาอัพให้ได้บ่อยๆ หลายตอนเลยเนอะ <3
รู้ป่าวว่าโบราณเขาว่ากันว่าผัวเมียที่ชอบทะเลาะกันบ่อยๆอ่ะ จะมีลูกดกน้าาาาา เชื่อป่าวๆ เชื่อไม่เชื่อเดี๋ยวรู้เลยยยยย 5555 ^///^
วันรุ่งขึ้น…
วันนี้ผมมีการประชุมกับฝ่ายการตลาดกับคุณพ่อ ซึ่งผมจำเป็นต้องเข้าไปด้วยในฐานะที่ผมเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของบริษัท ผมต้องเข้าประชุมตั้งแต่แปดโมงเช้าแต่กว่าการประชุมจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว แต่ละคนพอออกจากห้องประชุมก็พากันชวนออกไปกินข้าวข้างนอกกัน
ในตอนแรกผมคิดว่าวันนี้ผมอาจจะอ่อนเพลียจนไม่สามารถเข้าประชุมได้ซะแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆแล้วผมกลับไม่ได้รู้สึกเพลีย หรือรู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด ผมกลับรู้สึกสดชื่นเหมือนปกติที่นอนเต็มอิ่มมาตลอดทั้งคืนอย่างนั้นล่ะ อย่างนี้ผมคงจะสามารถทำงานได้ทั้งวันเลยล่ะมั้งเนี่ย
“พ่อครับ” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และเรียกคุณพ่อเอาไว้ในจังหวะเดียวกับที่ท่านกำลังจะเดินออกจากห้องประชุม ตอนนี้ในห้องประชุมก็เหลือแต่ผมกับท่านเพียงเท่านั้น
“ว่าไง”
“ผมมีเรื่องอยากจะถามแล้วก็ปรึกษานิดหน่อยนะครับ” ผมตัดสินใจพูดออกไป
“อะไรล่ะ” บนใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยความสงสัย
“ทำไมพ่อถึงอยากให้ผมแต่งงานกับยัย… เอ่อ แก้วล่ะครับ” ฟู่ เกือบพูดอะไรที่เป็นตัวเอง(เกินไป)ออกไปแล้วล่ะสิ ดีน่ะยั้งไว้ทัน
“อยากรู้ความจริงจริงๆนะหรอ” ท่านยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับผม
“ครับ ผมอยากรู้จริงๆ” ผมยืนยัน
“ตั้งแต่ตอนนั้นที่เกิดเรื่องแกไม่รู้ตัวเลยรึไงว่าแกเปลี่ยนไปจากคนๆเดิมมากแค่ไหน จู่ๆแกคนเดิมก็หายไป แกในตอนนี้มันไม่ใช่แก” ท่านพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บ่งบอกถึงความจริงจังในสิ่งที่ท่านพูด
“….”
“ฉันแค่ต้องการคนที่จะมาทำให้แกกลับไปเป็นเหมือนเดิม คนที่จะสามารถมาดูแลแกได้แทนฉัน และฉันก็อยากจะอุ้มหลานเร็วๆด้วย”
“เรื่องอื่นผมก็พอจะเข้าใจน่ะครับ แต่ว่าเรื่องลูกนั้นนะ…” ผมก้มหน้าลงเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง
“อย่าปฎิเสธฉันเลยนา ถ้าแกไม่อยากอยู่ด้วยกันนานๆก็รีบๆมีลูกกันเร็วๆสิ แล้วถ้าหลานฉันคลอดเมื่อไหร่แกสองคนอยากจะทำอะไร อยากจะหย่าหรืออยากจะอยู่ด้วยกันต่อ ฉันก็แล้วแต่แกละน่ะ” พอท่านพูดจบก็หันหลังจะเดินออกจากห้องประชุมไป
“เดี๋ยวก่อนครับ” ผมเรียนท่านเอาไว้ ท่านแค่หยุดเดิน แต่ไม่ได้หันกลับมามองผม
“….”
“ผมกับเธอ เอ่อ แก้วนะครับ เราสองคนตกลงกันแล้วครับ ผมกับเธอจะแต่งงานกันตามที่พ่อต้องการ”
“อย่างนั้นหรอ” เสียงท่านนิ่งไม่เปลี่ยนไป “งั้นเรื่องรายละเอียดก็พาหนูแก้วมาคุยกับฉันที่บ้านวันนี้ก็แล้วกัน”
พอพูดจบท่านก็ไม่รอฟังคำตอบใดๆจากผม แต่ท่านกลับเดินออกจากห้องประชุมไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับผมอีก แล้วนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย ต้องไปรับยัยนั้นอีกแล้วรึไงกัน ลำบากยากเย็นชะมัดเลยน้าาาาา
[End Tomo’s Part]
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
“ว่าไงน่ะ!!” อุ๊บส์ เผลอเสียงดังไปหน่อย ทั้งคนไข้ หมอ กับเพื่อนพยาบาลนี้หันมามองกันใหญ่เลย น่าอายชะมัด -////- ฉันก็ทำได้แค่ก้มหัวขอโทษนิดๆแล้วค่อยเดินออกให้ห่างจากที่ที่มีคนมากไปยังสวนข้างโรงพยาบาล
แต่จะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไงกันล่ะ ก็แต่ล่ะอย่างที่ตานั้นพูดน่ะ มันน่าตบปากฉีกนัก ถ้าตานั้นอยู่ตรงนี้คงโดนไปไม่น้อยแล้วล่ะ ชิ -*-
ไม่กี่นาทีก่อนหน้า…
กริ๊ง กริ๊ง
อ๊ะ ใครโทรมาเนี่ย เวลางานแท้ๆเลย พอยกโทรศัพท์มาดูเบอร์ที่โชว์อยู่กลับเป็นเบอร์ที่ฉันไมม่รู้จัก ใครกันน้า
‘สวัสดีค่า ใครค่ะ’
‘ฉันเอง’
เสียงอย่างนี้มีอยู่คนเดียวเท่านั้นล่ะ แค่ออกเสียงมาแอะเดียวฉันก็จำได้ล่ะ เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่แค่เพียงได้ยินเสียงตานั้นแค่นิดเดียวก็ทำให้อารมณ์เสียของฉันพุ่งปรี๊ดดดดดดดจนแทบจะทะลุปรอทยู่แล้ว
‘ทำไม โทรมาเนี่ยมีไรห๊ะ’ ฉันพยายามพูดให้เสียงเบาที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น แล้วฉันก็พยายามกดอารมณ์เสียของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
‘ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากจะถามว่าเย็นนี้ว่างรึเปล่า’
‘ไม่อ่ะ วันนี้ฉันมีเข้าเวรจนถึงสามทุ่ม จะทำไม’
‘ไม่ว่าเธอจะว่างหรือไม่ว่างเย็นนี้ฉันก็จะไปรับเธอ’
‘นี้นายฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึยังไงน่ะ ฉันบอกว่าไม่ว่างก็คือไม่ว่างไง แล้วไม่ว่านายจะพาฉันไปไหนหรือยังไงฉันก็จะไม่ไปกับนายโอเค้?’ ชักจะคุมอารมณ์ไม่ไหวแล้วน้าาาาาา -_-***
‘ถ้าเธอไม่ยอมไปดีๆเย็นนี้สี่โมงฉันจะไปอุ้มเธอออกมา’
‘ก็เอาสิ ถ้านายทำฉันจะด่านายเอาให้นายกลับบ้านไม่ถูกเลยคอยดู -*-’
‘ถ้ากล้าก็ลองดู แล้วจะได้รู้กันว่าใครกันแน่ที่จะต้องอาย’ หน๊อยยยยยยยยยย -^-***
‘ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ว่างไม่ว่างจะเอาอะไรอีกห๊ะ จะตื้อเอาโล่ทองคำรึไง’
‘ก็ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเธอไม่ยอมไปกับฉัน ฉันจะไปอุ้มเธอออกมา แต่ถ้านั้นยังทำให้เธออายไม่พอ ฉันก็จะแถมจูบกับห้อมให้เอาม่ะ’
‘ว่าไงน่ะ!!’
ก็นั้นล่ะ ตามนั้นล่ะ ตานั้นช่างดื้อด้าน เอาแต่ใจ ไม่ฟังใครเลยจริงๆน่ะ
“แล้วนายจะพาฉันไปไหน” ฉันกัดฟันถามออกไป
“พ่อฉันให้พาเธอไปหาเย็นนี้ เตรียมตัวไงก็แล้วกัน สี่โมงฉันจะไปรับ แต่คงรู้น่ะว่าถ้าช้าฉันจะทำอะไรกับเธอนะ” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์นั้นมันช่างน้าตบให้ปากฉีกถึงรูหูจริงๆเลย -*- อารมณ์เสียจริงเลยน่ะ ตานี้นี่เก่งเรื่องการยั่วโมโหซะจริงๆเลยน่ะ
ต่อจากนี้ก็กลายเป็นงานหนักของฉันอีกแล้วสิน่ะ เวรฉันเลิกก็ตั้งสามทุ่มแต่จะมาขอออกก่อนเวลาตั้งสี่ห้าชั่วโมงแบบนี้มันใช่ได้ที่ไหนกันล่ะ ถ้าขอแลกเวรก็คงไม่มีใครยอมแน่ ถ้าขอออกก่อนก็ต้องโดนนินทาว่าเอาเปรียบคนอื่นอีก ไม่ว่าจะทางไหนก็ล้วนเลวร้ายด้วยกันทั้งนั้น
‘ฉันจะทำยังไงดีน่ะ…. เพราะตาบ้านั้นคนเดียวเลย’
________________________________________________
เย้ๆๆๆๆๆๆๆ กลับมาอัพแล้วน้าาาาา หายไปนานเลย ^^' ขอโทษน้าาาา เปิดเทอมไม่กี่วันก็เจอหนักเลย 555555 กลับมาอัพให้หายคิดถึงกันแล้วน่ะ จะพยายามมาอัพให้ได้บ่อยๆ หลายตอนเลยเนอะ <3
รู้ป่าวว่าโบราณเขาว่ากันว่าผัวเมียที่ชอบทะเลาะกันบ่อยๆอ่ะ จะมีลูกดกน้าาาาา เชื่อป่าวๆ เชื่อไม่เชื่อเดี๋ยวรู้เลยยยยย 5555 ^///^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ