แอบรัก
เขียนโดย Omoji
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.
แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) แอบรัก ตอนที่7
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่7
และผมก็กลับมาถึงบ้านในที่สุด ในบ้านวันนี้ก็เงียบเหมือนปกติแต่สิ่งที่ผิดปกติคือผมเห็นพ่อ..
“กลับบ้านมืดค่ำแบบนี้ทุกวัน มัวแต่ไปเที่ยวเตร่มาอยู่ล่ะสิท่า” ผมจ้องมองคนที่มีชื่อว่าเป็นพ่อด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมา
“แล้วยังไงล่ะครับ พ่อสนใจด้วยหรอ?” ผมมองนิ่งๆแล้วทำท่าว่าจะเดินขึ้นห้องเพราะกลับรู้สึกอารมณ์เสียทุกทีที่เจอหน้าพ่อ
“แกไม่รู้อะไร อย่ามาทำปากดี”
“หึ ใช่! ผมไม่รู้อะไรเลยสักนิด! ผมไม่รู้ว่าพ่อจะรั้งผมเอาไว้ทำไม! ผมไม่รู้ว่าพ่อต้องการอะไรจากผม!และผมไม่รู้…ว่าพ่อคือพ่อของผม”
“ไอป๊อปปี้!”
ผมพูดจบก็เดินขึ้นบนห้องโดยไม่สนคำด่าทอของคนเป็นพ่อที่ไล่หลังผม ผมปิดประตูห้องอย่างแรงก่อนจะทรุดตัวลงนอนกับฟูกกับเตียงนอน
และก็ทำเหมือนทุกคืน ผมหยิบรูปแม่บนหัวเตียงมากอดไว้ในอ้อมอก ตั้งแต่เกิดมาผู้หญิงที่ผมรักที่สุดคือแม่เท่านั้น…
“แม่ฮะ..ป๊อปเกลียดพ่อ ฮึก ป๊อปคิดถึงแม่..แม่ฮะ..กลับมาได้ไหม” น้ำตาที่นานๆทีจะไหลออกมา มันไหลออกมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว ถ้าวันนี้พ่อไม่กลับบ้าน ผมคงมีความสุขกว่านี้
คืนนี้ผมต้องข่มตาหลับให้แน่นที่สุด และปล่อยให้น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดตอนนี้ไหลออกมาถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดตอนไหน
ในเช้าวันต่อมาเพียงแค่ผมลงมาชั้นล่างผมกะว่าจะไม่ได้พบกับพ่อแต่มันก็ผิดคาด..พ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเหมือนกำลังรอผมอยู่ แต่…เขานั่งอยู่กับแม่เลี้ยงของผม
“เอ้า คุณหนูมาทานข้าวสิค่ะ คุณท่านกับคุณระวีรออยู่”
คุณระวีหรอ..หึ ก็เป็นแค่ตัวแทนของแม่คนหนึ่งเท่านั้นแหละ ผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นผมไม่เคยถือว่าเป็นแม่เลี้ยงด้วยซ้ำ
“วันนี้ผมไม่กิน ผมจะไปโรงเรียนเลย” ผมพูดจบก็เดินผ่านตะอาหารไปโดยไม่เหลียวมองด้วยซ้ำ
“ไม่ได้ วันนี้แกต้องกินเพราะคุณระวีอุตส่าห์เข้าครัวทำอาหารตั้งแต่ไก่โห่ แกจะมาเอาแต่ใจเหมือนตอนเด็กๆไม่ได้”
ผมหันกลับไปตามเสียงแย้งของพ่อ ผมมองพ่อกับแม่เลี้ยงสลับกันไปแม่ก่อนที่จะแสยะยิ้ม..
“คุณทำหรอ” ผมหันไปถามแม่เลี้ยงที่พยักหน้าตอบผม
“อื้อ”
“หึ ผมยิ่งไม่อยากทานเข้าไปใหญ่เลยล่ะ” ผมพูดด้วยเสียงนิ่ง แล้วหันหลังกลับทำท่าจะเดินออกจากบ้าน
“ไอป๊อปปี้! เลิกเอาแต่ใจตัวเองสักทีน่า! คุณระวีเขาเป็นแม่…”
“ไม่ใช่! ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่ผม! พ่อเลิกหลงผู้หญิงคนนี้ว่าเป็นคนดีสักทีเถอะ! ถึงยังไงก็ไม่มีใครแทนที่แม่ของผมได้!”
ผมหันไปจ้องตากับคนที่เรียกว่าเป็นแม่เลี้ยงและผมก็สังเกตได้ว่าเธอคนนั้นมองมาที่ผมอย่างอึ้งๆนิดหน่อย หึ ไม่คิดล่ะสิว่าผมจะกล้าด่าต่อหน้าพ่อน่ะ ความจริงผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีอะไรเลยนอกจากหน้าตาเท่านั้น
“หุบปาก! แม่ของแกเขาตายไปแล้ว เลิกงี่เง่าสักที ตอนนี้คุณระวีคือแม่ของแก! จำไว้” คำพูดของพ่อมันทำให้ผมแทบน้ำตาไหล พ่อไม่เคยรักแม่บ้างเลยรึไง
“สาเหตุล่ะ…พ่อไม่รู้บ้างรึไงว่าทำไมแม่ต้องฆ่าตัวตาย! ไม่ใช่เพราะพ่อหรอกหรอ!”
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือของคนที่เป็นพ่อตบเข้าเต็มๆหน้าของผม แต่ความจริงผมไม่เจ็บเลยสักนิดเดียว มันคงด้านชาไปหมดแล้วล่ะ ทุกคนในบ้านตกใจกันมาก แต่ผมกลับไม่ได้สนใจคนอื่น
“ฉันเป็นพ่อแกนะ! ทำตัวให้เหมือนลูกคนอื่นเขาบ้างสิ! ไอนิสัยเอาแต่ใจน่ะเลิกได้แล้ว!”
“งั้นพ่อก็ไปเอาลูกของคนอื่นมาสิ! ผมก็ไม่ได้อยากเป็นลุกพ่อสักเท่าไหร่หรอก” พูดจบผมก็เดินออกจากบ้านไปทันที น้ำตาผมมันไหลออกมาเสียดื้อๆ ผมอ่อนแอมากไปแล้วเพียงเพราะพ่อคนเดียว..
ตั้งแต่เกิดมาผมก็ถูกบังคับตลอด แม่ผมต้องฆ่าตัวตายเพราะไอคนที่ชื่อว่าพ่อ..เกลียด ผมเกลียดที่สุด
……………..ต่อ………..
เช้าวันต่อมาฉันเดินทางมาโรงเรียนตามปกติแต่ดูเหมือนดวงตาจะบวมคล้ำนิดหน่อย ไม่แปลกหรอกก็เพราะเมื่อคืนฉันมัวแต่ร้องไห้กับสิ่งที่พี่ป๊อปพูดนิ ฉันพยายามอดทนแล้วแต่หัวใจฉันมันกลับอ่อนแอชะมัด
“ฟาง!” เสียงเรียกของแก้วดังขึ้นข้างหูของฉัน ฉํนจึงพยักหน้ารับรู้แต่สายตายังคงเหม่ออยู่
“เป็นไรวะ ตาบวมๆ เมื่อคืนได้นอนป่ะเนี่ย”
“ไม่มีอะไรหรอก” ฉันไม่อยากให่เพื่อนรักเป็นกังวล
“เออนี่ แกรู้รึป่าวว่าไอเควินมันเป็นอะไร ทำไมมันไม่มาโรงเรียนเกือบจะครบอาทิตย์อยู่แล้วนะ”
จริงสิ ฉันลืมเควินไปซะสนิท ทำไมจู่ๆเควินถึงหายไปตั้งสี่วันแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า…
“ฉันลืมนึกไปเลยอะ แล้วแกลองโทรหาแล้วยัง”
“ฉันโทรไปเกือบสิบสายอยู่แระ ไม่เห็นจะรับสักสายเดียว” แก้วพูดแล้วยู่หน้า ซึ่งฉันรู้ดีว่านั่นคือท่าทางอารมณ์เสียของเจ้าตัวเขา
“เดี๋ยวฉันจะไปหามันเองวันนี้”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“สงสัยสุดที่รักของแกจะมาอะฟาง” ยัยแก้วหันมามองหน้าฉันแล้วส่งสายตาที่แสนจะน่าจับตบซะจริงๆ
“ที่รักอะไรของแก แก๊งนั้นน่ะที่รักของแกไม่ใช่หรอแก้ววว” ฉันยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้กับแก้ว และฉันก็เห็นด้วยว่าแก้วกำลังหน้าแดงจัด
“บ้า! พี่โมะไม่ใช่ที่รักของฉันสักหน่อย มั่ว!” เขินเข้าไปอีก เฮ้อ--*
“ฉันบอกแกสักคำมั๊ยว่าเป็นพี่โมะน่ะ”
“ฉันไม่คุยกับแกแล่ว!” และทันทีที่ยัยแก้วหันหลัวจะเดินหนีฉัน ยัยนั้นกลับชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“พี่โมะ” ฉันเห็นยัยแก้วที่หน้าแดงอยู่แล้วกลับหน้าแดงกว่าเดิมอีกก็ในเมื่อเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของโทโมะน่ะสิ ><
“ว่าไงคนสวย หน้าแดงเชียว” พี่โทโมะจิ้มแก้มของแก้วไปหึ่งทีแล้วยิ้มจนตาหยี
“ไอบ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ” ยัยแก้วยุกยิกอยู่ในอ้อมกอดของพี่โทโมะไม่หยุดแต่ฉันก็รู้ว่าจริงๆแล้วยัยแก้วกำลัง เขินหนักมาก
“เจ็บรึเปล่า ที่ชนฉันเมื่อกี้น่ะ”
“ปะ..เปล่า”
“แต่ฉันเจ็บแฮะ ชนเต็มๆอกเลย” พี่โทโมะแกล้งยัยแก้วอีกแล้วว><
“สมน้ำหน้า พี่ปล่อยฉันสักทีสิ”
“ไม่อ่ะ ฉันไม่อยากปล่อยเธอไป....จริงๆนะ”
“O///O”
“ไอโมะ มากไปแระมึง”
ไม่จริงน่า ฉันไม่กล้าสู้หน้าพี่ป๊อปจริงๆอ่ะ..ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี งื้อออ O[]O!
“ปล่อยได้แล้วน่า”
“ก็ได้ๆ” ในที่สุดพี่โทโมะก็ยอมปล่อยจากการกอดยัยแก้วในที่สุด
ฉันเผลอเงยหน้ามองพี่ป๊อปและพี่ป๊อปเองก็จ้องหน้าฉันกลับเช่นเดียวกัน ถ้าฉันดูไม่ผิดเมื่อกี้ฉันเห็นเหมือนหน้าตาพี่ป๊อปดูแปลกๆไปแฮะ ทำไมเหมือนคนพึ่งร้องไห้มานะ..ซึ่งมันไม่ได้ต่างจากฉันเลย
“ไปกันเถอะ แค่กูเดินมาตึกสองก็เบื่อเต็มทีแล้ว มึงมีธุระต้องทำก็รีบๆ” พี่ป๊อปหันหน้าไปคุยกับพี่โทโมะก่อนที่เขาจะเดินแหวกสาวๆที่ยืนล้อมรอบโต๊ะของฉันเพื่อมองหน้าและกดชัดเตอร์ถ่ายรูปของแก๊งแบล็กลิส
“ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวโทรหา” พี่โทโมะพูดขึ้นก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วเดินออกไป
จะผิดมั๊ยที่ฉันรู้สึกว่าระหว่างแก้วกับโทโมะเหมือนจะขยับความสัมพันธ์ขึ้น…
“แกกับพี่โมะ…มีอะไรมากกว่าที่ฉันรู้ใช่รึเปล่า”
“พูดอะไรของแก”
ฉันเหล่มองใบหน้าของแก้วที่เหมือนต้องการหลบตาฉัน แต่ฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าแก้วกับพี่โมะมีอะไรที่มากกว่าคำว่าแอบชอบ…
……………..ต่อ…………….
ผมกับไอโมะต้องเดินมาทำธุระที่ตึกสองซึ่งเป็นตึกของพวกนักเรียนมอห้า ผมไม่ค่อยจะโอเคสักเท่าไหร่ จะว่าไปเมื่อกี้ที่ผมเข้าไปในห้องยัยนั่นผมกลับไม่เห็นจินนี่แฮะ หลายวันมานี้จินนี่เหมือนจะหายหน้าหายตาไปแต่ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ดีซะอีกผมจะได้เป็นอิสระ…
“เออนี่ไอป๊อป วันนี้มึงดูหน้าตาแปลกๆ” ไอโมะถามผมขึ้นแล้วมองสำรวจใบหน้าตั้งตาโคนผมยันลูกกระเดือก
“แปลกตรงไหน หน้ากูหล่อกว่าณเดชและคล้ายคลึงมาริโอ้ขนาดนี้ มันแปลกตรงไหน?”
ผมหล่อมาก…
(อยากจะอ้วกใส่หน้ากับความหล่อลื่นจนตกท่อ?ของอีพี่ป๊อป--* -ไรเตอร์)
“ไอสาสสสส กูหมายถึงหน้ามึงดูโทรมๆ”
ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่กับคำถามของเพื่อนรักอย่างไอโทโมะก็เมื่อคืนผมร้องไห้ไป..แล้วเมื่อเช้ายังถูกคนเป็นพ่อตบหน้าอีก แต่เอาเถอะผมจะไม่สนใจมัน
“เมื่อคืนก็ดูหนังดึกไปหน่อย”
“ดูหนัง? แหม่มคุณมึงครับ กูเชื่อมึงมาก--* มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า” ผมเหล่ตามองไอเพื่อนรักก่อนจะส่ายหัว
“เปล่า”
“มีอะไรไม่สบายใจก็บอกกูได้ กูเห็นนะเว้ย”
“เห็นไร”
“ฝ่ามือบนหนังหน้ามึงอะ”
ผมลูบหน้าตัวเองที่รู้สึกเจ็บแสบนิดหน่อย...
“อือ ก็อย่างที่มึงเห็น” ผมทำหน้าเอือมๆ
“มึง…โอเครึเปล่า”
“กูไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด”
“เห้ยไอป๊อปนี่กูพูดจริงๆนะ กูว่ามึงแม่งนั่งประชุมหารือกันยกตระกูลไม่ดีกว่าหรอวะ”
“เพื่อ? กูไม่ได้ต้องการอะไรเลยสักนิด ปล่อยๆเขาไป กูบอกมึงเป็นรอบที่ล้านแล้วว่ากูจะไม่สน”
“ตามใจมึงแล้วกัน ถ้าคิดว่ามันทำให้ชีวิตมึงดีขึ้นก็ปล่อยมันไปซะอย่างนี้แหละ”
“….”
แน่นอนว่าผมไม่ได้แคร์คำพูดของไอเพื่อนรักเลยเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว ผมคิดว่าผมจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป ถึงยังไงถ้าแม่เลี้ยงคนนั้นยังมีอิทธิพลกับพ่ออยู่ ผมก็ทำอะไรไม่ได้…
จะว่าเมื่อกี้ผมเห็นขอบตายัยนั่น(ฟาง)ดูคล้ำๆบวมๆด้วย เหมือนกับคนร้องไห้..ยัยนั่นร้องไห้จริงๆน่ะหรอ เมื่อวานผมก็ไม่มั่นใจว่ายัยนั่นร้องไห้จริงรึเปล่า หรือว่าจะจริง... เดี๋ยวนะ! ผมจะไปนึกถึงทำไม คนสร้างภาพเก่งแบบนั้น ผมไม่ไว้ใจหรอกพูดเลย ผมไม่ได้ชอบยัยนั่นสักนิดเดียว ผู้หญิงอะไรไร้ค่าสิ้นดี
“ไอเชี่ยป๊อป! คิดเหี้ยไรอยู่”
“ปะ...เปล่า”
“กูเห็นฟางตาบวมๆว่ะ มึงไปทำอะไรไว้รึเปล่า”
“….”
“ไอห่าเอ๊ย กูบอกมึงแล้วไงว่าฟางไม่ใช่ผู้หญิงที่ผ่านๆมาเหมือนคนอื่นๆ”
“แล้วยังไง ถึงจะเหมือนหรือไม่เหมือนกูก็ไม่ชอบอยู่ดี”
“เออๆ กูไม่สนมึงแระ กูแม่งสงสารผู้หญิงชิบหาย”
“….”
“เลวนะมึง”
“อ้าวไอ้นี่ มึงเป็นเพื่อนใครกันแน่วะสัด!” ผมพูดจบก็ตบกะบาลไอเพื่อนสนิทอย่างไอเขื่อนไปหนึ่งยก ผมก้ไม่เข้าใจไอเพื่อนเวรๆสักเท่าไหร่หรอก ไม่รู้จะให้ท้ายยัยนั่นไปถึงไหน
“ซวยแล้วไงมึง..มึงดูนี่..”
ไม่นานไอโทโมะมันก็สะกิดแขนผม พร้อมๆกับไอเขื่อนที่ขี้เสือกอยู่แล้วก็มาแจมด้วย ผมมองไปยังโทรศัพท์ไอโฟนที่ไอโมะมันซื้อเป็นสิบๆเครื่อง และภาพที่ผมเห็นมันก็ทำให้ผมรู้สึกเกลียดยัยนั่นเข้าไปอีก
……………….ต่อ………………
ให้ตายเถอะ!ฉันไม่อยากจะรับรู้โลกภายนอกอีกแล้ว หลังจากที่ฉันดูข่าวในเว็บโรงเรียน ข่าวที่กำลังติดท๊อปในกระทู้เป็นอะไรไม่ได้นอกจาก ‘ควบสอง ฟางมินป๊อปปี้’ ใช่ค่ะ..ตอนนี้ฉันกำลังเป็นข่าวกับพี่มินแล้วไหนจะพี่ป๊อปอีก..และที่แย่กว่าคือ..ฉันกำลังถูกด่ามากมายจากที่ถูกด่าจากแฟนคลับพี่ป๊อปอยู่แล้ว..ยิ่งมีพี่มินมาเกี่ยวข้องอีก TT
ฉันไม่อยากนึกสภาพตัวเองเลยจริงๆ..ฉันไม่เรี่ยวแรงทำได้เพียงแค่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ สมองมันไม่รู้อะไรทั้งนั้นจนกระทั่งฉันได้ยินเสียงหนึ่งดังมาจากหน้าห้องฉัน
“ฟาง!..”
แน่นอนฉันจำเสียงนั้นได้คนที่ฉันเพิ่งไปกินข้าวกับพี่เขา..
“พี่มิน!..” แน่นอนค่ะว่าตอนนี้ฉันอยากหายไปจากโลกใบนี้แล้วจริงๆด้วย
“มาคุยกันหน่อยสิ” ไม่ทันที่ฉันจะได้เอ่ยปาก พี่เขาก็คว้ามือฉันไปยังที่ที่หนึ่งซึ่งฉันเองก็ยังไม่รู้จุดหมายปลายทางสักเท่าไหร่..
“พะ..พี่มินมาหาฉันทำไม”
“ก็ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ..เธอ..เห็นข่าวแล้วใช่มั้ย..” พี่เขาพูดจบก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมา ฉันได้แต่พยักหน้าหงิกๆเป็นคำตอบ
ฉันมองไปรอบข้างน่าแปลกที่ตรงนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน และก็ไม่มีคนอยู่ด้วยแฮะ..
“ค่ะ..คือฉันขอโทษนะ..” ฉันได้แต่ก้มหน้ารับผิดไปอย่างนั้น ไม่นานฉันก็รับรู้ถึงแรงสัมผัสตรงปลายคางฉัน..พี่เขาจับคางฉันแล้วเชยขึ้นมา
“ความจริงฉันก็อยากให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้เหมือนกันนะ..”
“หา?”
“ฉันอาจจะได้สนิทกับเธอมากขึ้นก็ได้..เธอว่าจริงมั้ย” ฉันกำลังหน้าแดงฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังเขิน..พี่เขาพูดอย่างนี้..แต่ฉันก็ไม่ได้อยากคิดเข้าข้างตัวเอง..
ถ้าฉันจะคิดว่าพี่เขากำลัง ‘จีบ’ ฉันอยู่...
“ฟาง..ฉันน่ะ..” ฉันรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของหน้าพี่มินที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ฉัน…
……………..ต่อ………………
ผมมองดูภาพตรงหน้าแล้วกระตุกยิ้มออกมา..ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกับไอมินมันมีข่าวกัน..และผมจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าข่าวนั่นไม่มีผมติดไปด้วย..ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียหาย ผมเลยอยากออกมาสูบบุหรี่ในที่ประจำ แต่กลับเจอภาพติดเรทซะงั้น
“ร่านจริงๆด้วยสินะ” ผมมองดูภาพตรงหน้า ยัยนั่นกับไอมินกำลังคุยอะไรกันสักอย่างซึ่งผมเองก็ไม่ชอบนักหรอกครับ..
แต่ผมก็แค่ยังอยากฟังคำพูดสตอร์เบอรี่ของยัยนั่นอยู่บ้าง..ผมเลยหยุดฟังสองคนนั้นคุยกัน ผมไม่ได้อยากยุ่งเท่าไหร่เลยสักนิด..
จริงๆนะครับ..
“ความจริงฉันก็อยากให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้เหมือนกันนะ..”
คำพูดของไอมินผมแทบอยากจะสำรอกออกมาให้ได้..ผมดูสายตาไอหมอนั่นผมก็รู้แล้วว่ามันกำลังจีบยัยฟาง..ผมหันกลับไปมองฟางที่ทำสายตายั่วยวน..ผมคิดว่ายัยนั่นกำลังยั่วเขาอยู่ก็ได้
“ฟาง..ฉันน่ะ..”
นี่แหละนะครับที่เขาเรียกว่าละครน้ำเน่าชั้นดี..ผมก็แค่อยากดูละครเรื่องนี้ให้จบ ที่ฝ่ายพระเอกกำลังตกหลุกรักตัวร้ายเพราะตัวร้ายกำลังวางยาเสน่ห์ใส่พระเอก..ไม่สิไอมินมันไม่เหมาะจะเป็นพระอก..มันควรเป็นพวกตัวโกงพวกที่ร่วมมือกับตัวร้ายเสียมากกว่า พอละครจบไอตัวร้ายสองคนมันก็ได้กันเอง
“พี่มิน..”
“ฉันชอบ..”
“ขอโทษนะคะ..แต่ฉันน่ะ..มีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว”
และผมคิดว่าผมกำลังฟังตัวร้ายพูดเสแสร้งแล้วเดี๋ยวไอตัวโกงก็จับตัวร้ายจูบ..เหอะไร้สาระสิ้นดีครับ แต่ผมก็ยังคงทนดูการแสดงของทั้งสองให้จบ
“ฉันรู้..”
“ฉันคิดว่าพี่คงจะเจอคนที่ดีกว่าฉันนะคะ..”
“..หึ..ฉันเจอคนที่ใช่สำหรับฉัน แต่เธอคนนั้นกลับไปชอบคนอื่น..ถ้าเป็นเธอ เธอจะทำยังไง”
“พี่มิน..”
ผมไม่รู้หรอกครับว่าไอมินมันกำลังทำตัวเป็นพระเอกอยู่รึเปล่า แต่ทำไมผมต้องกระตุกยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว…ผมเลยได้แค่สะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกจากหัว
“เธอชอบไอป๊อปมากขนาดนั้นเลยหรอฟาง”
“ฉัน..”
“ทั้งที่ไอป๊อปมันไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด มันยังทำเมินใส่เธอ คอยพูดดูถูก เอาเปรียบเธอสารพัดแต่เธอ..ก็ยังชอบมันอยู่อีกหรอฟาง”
และผมคิดว่าคำพูดของไอมินทำให้ผมอยากจะกระโดดถีบหน้ามันสักสองสามที มันพูดเหมือนผมเลวมากอย่างนั้น
(เพ่งรู้? – ไรเตอร์)
“ใช่ค่ะ..ฉันชอบพี่เขา..ฉันชอบพี่ป๊อป ถึงแม้ว่าพี่เขาจะคอยด่าฉัน ดูถูกฉัน…แต่ฉันก็ยังชอบพี่เขาอยู่ดีและฉันก็ยิ่งชอบพี่เขามากขึ้นทุกวันด้วย..”
ผมกระตุกยิ้มขึ้นมา เหมือนผมชนะไอมินไป..อย่างน้อยมันก็เจ็บ ผมสะใจดีเหมือนกันครับ..แต่ที่ผมแปลกใจก็คือ..ฟางยังไม่เลิกชอบผม..ทั้งๆที่ผมทำลายความรู้สึกของเธอ..บางทีผมก็คิดว่า..ฟางควรจะเลิกชอบผมไปซะ..
TTTT บางทีเค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจไอตาพี่ป๊อป!! หึหึ ฝากติดตามตอนต่อไป..อุ๊อิ๊
รักเม้น ชอบโหวต ถ้าติดก็คลิกติดคามกันนร้าาา จุ้บ!
ตัวอย่างตอนต่อไป
“แกกล้ามากนที่มาแย่งพี่ป๊อปจากฉันน่ะฮะ!!”
“ปล่อยนะ! ฉันเจ็บ!”
“โอ้ย!”
“แกมันผู้หญิงใจง่าย! เลิกอ่อยพี่ป๊อปสักที! แกก็รู้ไม่ใช่หรอว่าพี่ป๊อปน่ะแฟนฉัน!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ