แอบรัก

9.5

เขียนโดย Omoji

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.27 น.

  74 ตอน
  990 วิจารณ์
  112.94K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) แอบรัก ตอนที่6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ตอนที่6
……………………….ต่อ………………….. 
 
   หลายวันต่อมา…
 
“ฉันชอบเธอนะ….”
 
“พี่ป๊อป…พูดจริงใช่มั๊ยค่ะ”
 
  พี่ป๊อปไม่ตอบคำถามของฉันแต่เขากลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น…มากขึ้น…
 
 
 
   ปัง!!!
 
 
 
“โอ้ะ!”  ฉันสะดุ้งแล้วลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างแก้วที่นั่งข้างๆ
 
“ฝันอะไรของแกวะ  ทำปากจู๋เชียว”
“ปะ…ปากจู๋หรอ”  ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อกี้ฉันทำปากจู๋หรอ -///-
 
“ฮันแน่ อย่าบอกนะว่าแกฝันว่ากำลังคิสกับ..พี่ป๊อปอ่ะ!”
 
 
 
  ฉันตกใจมากรีบเอื้อมมือปิดปากของยัยแก้วในทันที
 
 
 
“พูดอะไรของแกกัน คะ…ใครจะไปฝันไร้สาระแบบนั้นย่ะ!=[]=!”
 
“หรา”
 
 
 
  ฉันรู้ดีว่าแก้วไม่เชื่อฉันหรอก เฮ้อออ เมื่อกี้เป็นฝันหรอกหรอ…ฉันคิดว่าเป็นความจริงซะอีก แต่ฉันก็รู้หรอกนะว่ามันคงไม่มีวันนั้น…พี่ป๊อปไม่เคยแม้แต่จะหันมามองหน้าฉันหรือแม้แต่พูดจาดีๆเหมือนในฝัน   ยังไงฝันมันก็เป็นแค่ฝันสินะ…
 
 
 
  และในคาบแรกของวันนี้ก็จบลง และแน่นอนฉันตั้งเรียนมากซะด้วย^^(ไม่จริงอ่ะ นางนั่งเหม่อมองออกไปที่ตึกสาม-ไรเตอร์) จะว่าไปตอนนี้พี่ป๊อปเรียนอยู่ตึกสามนี่นา…อยากเห็นหน้าจัง
 
“ธนันธร”  เสียงอาจารย์เรียกขึ้นฉันจึงหลุดจากห้วงประสาทที่คิดเมื่อครู่แล้วหันไปตามเสียงเรียก
 
“ค้ะ!”
 
“เอาสมุดทั้งหมดนี้ไปเก็บที่ห้องพักครูบนตึกสามหน่อย”
 
 
 
  เมื้อกี้อาจารย์บอกว่าตึกสาม!! ฉันดีใจมากรีบวิ่งออกไปหน้าชั้นแล้วรวบรวมกองสมุดทั้งหมดไว้แล้วโค้งให้กับอาจารย์ก่อนที่ฉันจะเดินออกไปหน้าห้อง^^
 
  ฉันเดินมาถึงตึกสาม หนักไม่ใช่เล่นเลยแฮะกับกองหนังสือประมาณสามสิบเล่ม และฉันก็ถือมันคนเดียวซะด้วยสิ โอ๊ะถึงแล้ว…
 
“พี่ป๊อปต้องเรียนอยู่แหง่ๆเลย คริคริ><” 
 
 
 
  ฉันก็ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันทำแบบนี้แต่เพียงแค่ฉันวิ่งมาจนถึงห้องพี่เขาฉันจึงชะลอความเร็วแล้วแอบชะเง้อมองเข้าไปภายในห้อง  ‘พี่ป๊อปอยู่ไหนนะ’ ฉันกวาดสายตามองหาพี่ป๊อป อ้ะ! อยู่นั่นฉันเห็นเขาแล้วพี่ป๊อปกำลังเสียบหูฟังฟังเพลงแล้วเหม่อมองออกไปข้างนอก
 
 
 
  ทำไมถึงไม่ตั้งใจเรียนเลยล่ะ…
 
 
 
“อ๊ะ!” ฉันมองแต่พี่ป๊อปจนไม่ได้สังเกตทางทำให้ฉันเผลอชนกับใครคนหนึ่งโดยไม่ทันระวัง
 
“ขอโทษค่ะๆ” ฉันก้มลงเก็บสมุดกว่าสามสิบเล่ม
 
 
 
   ผู้ชายคนนี้ใจดีแฮะช่วยฉันเก็บสมุดด้วย ^^ เพียงแค่ฉันเงยหน้าขึ้นมารอยยิ้มที่ผุดบนใบหน้าในคราแรกกลับต้องหุบฉับ
 
“พี่..มิน” 
 
“หวัดดี”
 
 
 
  พี่มินเรียนอยู่ตึกสามด้วยหรอเนี่ย ปกตินักกีฬาโรงเรียนเขาต้องอยู่ที่ตึกสี่ไม่ใช่หรอ แล้วทำไมพี่มินถึงมาโผล่อยู่ที่ตึกสาม?
 
“พี่มาได้ไง”
 
“ก็..ตามเธอมาไง”
 
“ตามฉัน? พี่ตามฉันมาทำไม” ฉันเอียงคอสงสัย แต่มันกลับเรียกเสียงหัวเราะของพี่มินมาซะนี่ แล้วเขายังยีหัวฉันเล่นอีก 
 
 
 
  อะไรของเขาเนี่ย…
 
“ก็มาทวงสัญญาน่ะสิ”
 
“สัญญา?”  พี่เขาพูดถึงสัญญาเรื่องอะไรกัน ฉันไม่เห็นจะจำมันได้…เห้ย! จริงด้วย
 
“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าจำได้แล้วใช่มั๊ย หื้ม”  จู่ๆพี่มินบีบจมูกฉันเล่นฉันจึงรีบปัดมือนั้นออก
 
“อือ” ฉันพยักหน้ารับ
 
 
 
  ฉันเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าฉันให้สัญญากับพี่มินว่าฉันจะไปกินข้าวด้วยถ้าพี่มินยอมรับโทษ และพี่เขาก็ยอมรับมันจริงๆ ฉันได้ข่าวว่าเขาไปบอกกับกรรมการการแข่งขันและถูกตำหนินิดหน่อยพร้อมกับพักเรียน…สองวัน --*
 
 
 
  นี่แหละนะที่เขาเรียกกันว่าสองมาตรฐาน ก็ถ้าเกิดพี่มินไม่ใช่นักกีฬาโรงเรียนพี่เขาคงถูกพักการเรียนเป็นเดือนๆแหง่ๆ นี่ฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ยังไง
 
“ตกลงว่า…เราจะไปวันไหนดีล่ะ”
 
“เอ่อ…คือ…”
 
 
 
……………….ต่อ………………..
 
  การเรียนในวันนี้สุดแสนจะหน้าเบื่อสำหรับผม ก็เป็นวิชาประวัติศาสตร์ที่ไม่รู้จะเจาะลึกประวัติคนสำคัญอะไรกันนักหนา ไม่เห็นจะเอาไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันตรงไหน  ผมเบื่อสุดๆเลยหยิบหูฟังฟังเพลงซะเลย และรวมถึงไปเพื่อนสองตัวของผมมันก็หลับซะได้
 
 
 
  ผมเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วอมยิ้ม ผมชอบอากาศแบบนี้ที่สุด…
 
“อ้ะ!” ผมได้ยินเสียงร้องที่ดังอยู่หน้าห้องผม เรียกสติผมกลับมาแล้วหันไปมองและสิ่งที่ผมเห็นคือไอ้มินกับฟาง
 
  ทั้งสองเหมือนกำลังคุยอะไรกันบางอย่างแต่ผมก็ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ผมมองภาพนั้นอยู่สักพักแล้วผมก็เห็นไอ้มินมันยีหัวของยัยนั่นแถมยังบีบจมูกอีกต่างหาก
 
“ร่านซะไม่มี” ผมเอ่ยออกมาเมื่อผมเห็นเหมือนกับยัยนั่นไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับการถูกแตะเนื้อต้องตัวเลยสักนิด
 
 
 
“หึงหรอ”  ผมหันขวับไปตามเสียงที่พูดพร้อมกับเห็นหน้าไอสัดเขื่อนเต็มจอ ผมตบหัวมันไปทีหนึ่งก่อนจะด่าไปอีกทีนึง
 
“หึงพ่อง ”
 
“มากไปแระมึง ด่ากูเอาๆ กูแค่ล้อเล่นอย่ามาทำเป็นหือ”
 
  ผมมองไอเขื่อนอย่างเซ็งๆ พูดจาปัญญาอ่อน..
 
“มึงว่าแปลกเป่าวะ”
 
“แปลกอะไร” ผมไม่เข้าในสิ่งที่ไอเขื่อนบอก
 
“ก็ไอมินมันอยู่ตึกสี่นี่หว่าทำไมจู่ๆโผล่หัวมาตึกสาม” 
 
    ผมหันกลับไปมองที่ไอมินอีกครั้งและผมก็เห็นหมอนั่นเดินช่วยฟางถือสมุดเดินออกไปแล้วฟางยังแอบหันมามองผมอีกต่างหากแต่เพียงแค่เห็นผมยัยนั่นก็หลบสายตาไปโดยเร็ว
 
 
 
   บ้ารึเปล่าวะ…
 
 
 
“เห้ยไอเหี้ยป๊อป ฟางแอบหันมามองมึงด้วยนี่หว่า”
 
“แล้วยังไง”  ผมไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าจะมองหรือไม่มอง
 
 
 
  (หรอออออ –เขื่อนคิดในใจ)
 
 
 
  และในที่สุดคาบวิชาแสนจะเบื่อหน่ายก็จบลงแต่โดยดี ผมบิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเป้สะพายข้างก่อนจะตบหัวเพื่อนอีกสองคนที่หลับเป็นตาย
 
“ไอสัดเขื่อน ไอเหี้ยโมะ ตื่นๆๆ!” 
 
“อื้ออ ไอห่าป๊อป มีไรวะ กูพึ่งจะได้นอนเองนะเว้ย”  ไอโทโมะที่เป็นคนตื่นขึ้นคนแรกแล้วไม่กี่วิไอเขื่อนก็เป็นคนตื่นคนต่อไป
 
“พึ่งนอน? ไอคุณมึงครับ มึงนอนตั้งแต่คาบแรกยันคาบสุดท้ายนี่มึงไม่ตายก็บุญโขแล้ว”
 
“มึงพูดอะไร กูไม่ได้นอนนานขนาดนั้นสักหน่อย” อันนี้ไอเขื่อนพูด
 
“หรอออ มึงขยี้ตาดูเวลาซะด้วยสิสัด นี่มันสี่โมงเย็นแล้วครับ”
 
 
 
  ผมชี้นิ้วบอกเพื่อนทั้งสองให้หันไปมองนาฬิกาบนเพดานที่ตั้งโชว์เต็มตาของทั้งคู่
 
“ชิบหาย” ไอเขื่อนอุทานออกมาจนผมสงสัย
 
“มีไรวะ”
 
“กูนัดเฟย์ไว้อ่ะดิ งั้นกูไปแระ เดี๋ยวเมียด่า”  ไอเขื่อนรีบสะพายเป้ของตัวเองแล้ววิ่งออกจากห้องไปทิ้งไว้แค่ผมกับไอโทโมะที่ส่ายหัวกับความขี้ลืมของเพื่อนรักอย่างเอือมๆ
 
“แล้วมึงจะกลับบ้านเลยรึเปล่า” ไอโทโมะถามผม
 
“ ไม่อ่ะ กูยังไม่อยากกลับ”
 
“ไอป๊อป…มึงฟังกูนะ”  ไอโทโมะตบไหลผมแล้วพูดสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกจุก
 
“พ่อกับแม่เลี้ยงที่มึงเกลียดน่ะ…มึงลืมอะไรไปรึเปล่า”
 
“….”
 
“…พวกเขาเลี้ยงมึงมา”
 
“…ไม่ใช่ ชีวิตกูตั้งแต่เกิดกูมีแม่เพียงคนเดียว”
 
“ไปเหี้ยป๊อป มึงอาจจะกำลังเข้าใจผิดอยู่ก็ได้นี่หว่า ถึงแม่เลี้ยงมึงจะโหดแต่พ่อมึงล่ะ…พ่อมึงก็คงรักมึงมาก”
 
“รักหรอวะ แม่งไม่เคยสนใจกูสักนิด แถมวันๆก็คิดถึงแต่ตัวเองไม่เคยนึกถึงความรู้สึกกู”
 
“แต่บางที…”
 
“พอเถอะว่ะ กูไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น” ผมพูดจบก็เดินแทรกไอโทโมะออกจากห้องไป
 
 
 
  รักงั้นหรอ…ผมคิดว่าการบังคับจิตใจกันก็คงไม่พ้นคำว่ารักตัวเองมากกว่า…พ่อไม่เคยเลี้ยงผมตั้งแต่เด็ก คนที่เลี้ยงผมมีเพียงแค่แม่เท่านั้น แม่ผมเสียตอนผมอยู่ปอหก ผมต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพเพราะคำบังคับของพ่อ…ผมต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ตอนมอหนึ่งอย่างไม่มีความสุข
 
 
 
   ผมเกลียดพ่อ…
 
 
 
……………ต่อ………….
 
    ฉันกำลังนั่งรอพี่มินไว้ตามที่นัดกันไว้ วันนี้ฉันตกลงกับพี่เขาแล้วว่าฉันจะไปกินข้าวกับเขา แต่ตอนนี้ฉันกลับไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลยสักนิดกับการได้ไปกินข้าวกับนักกีฬาโรงเรียนแสนโด่งดัง แต่หัวฉันคิดถึงแต่เรื่องพี่ป๊อป…
 
 
 
    ตอนที่ฉันเดินผ่านห้องพี่เขาฉันเห็นสายตาพี่เขากำลังมองมาที่ฉัน…เขามองที่ฉันจริงรึเปล่า หรือฉันแค่ตาฝาดไป…แต่ถ้าเขามองมาที่ฉันก็ดีน่ะสิ  ฉันดีใจนะถ้าคนที่ฉันชอบมองฉันบ้างสักครั้ง…ถึงแม้จะบังเอิญหรือแค่ตาฝาดไป แต่ฉันกลับอยากให้มันเป็นจริง…
 
 
 
  จะว่าไปวันนี้ทั้งวัน..ไม่สิสองสามวันที่ผ่านมา ฉันยังไม่ได้คุยกับพี่เขาเลยตั้งแต่วันที่จบการแข่งบาสฉันอยากคุยกับพี่เขานะ..แต่ไม่กล้าพอ..
 
 
 
“โย่ว!”
 
 
 
  ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงหนึ่งดังข้างๆหูฉัน  ฉันหันไปตามเสียงและพบหน้าพี่มินกำลังจ้องฉันอยู่
 
“รอนานรึเปล่า”
 
“เปล่าค่ะ”
 
“งั้น…เราไปกันเลยมั๊ย”
 
“อื้ม”  ฉันพยักหน้าแล้วหยิบหมวกกันน็อคจากพี่มินมาสวมแต่จู่ๆพี่มินกลับเอื้อมมือมาจัดแจงการใส่หมวกให้กับฉันแล้วยังเคาะกระจกหมวกอีกต่างหาก
 
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก พร้อมรึเปล่าครับน้องสาว”  พี่มินยิ้มมาให้กับฉัน ฉันงงๆนิดหน่อยแต่ก็ยิ้มตอบเขาไป
 
“เล่นอะไรของพี่ จะไปก็รีบไปสิค่ะ ฉันหิวนะ”  ฉันพูดๆไปอย่างนั้นแหละ ความจริงฉันแค่รู้สึกแปลกๆที่พี่มินทำแบบนี้
 
 
 
  เราสนิทกันขนาดนี้เลยหรอ…
 
“ฮ่าฮ่า รับทราบคร้าบบบ” 
 
 
 
  ฉันนั่งซ้อนท้ายรถของพี่มินแล้วพี่มินก็สตาร์ทเครื่องออกรถไปในทันที
 
 
 
  ฉันกับพี่มินมายังร้านอาหารข้างทางแห่งหนึ่งไม่ได้ใหญ่โตหรูหราเหมือนกับคนรวยๆ ฉันกับพี่มินนั่งลงบนโต๊ะอาหารนั้นก่อนจะสั่งอาหารจนเสร็จสรรพ
 
“นี่ฟาง ปกติเธอชอบกินอะไรหรอ”  พี่มินถามฉันหลังจากที่เราสองคนเงียบกันอยู่นาน
 
“เอ่อ..ก็ชอบหมดล่ะค่ะ แต่ถ้าพิเศษหน่อยก็คงจะเป็น..ไอติม ฉันชอบกินไอติมรสมะนาว^_^”
 
 
 
    ใช่ ฉันชอบไอติมรสมะนาวมากๆ ถ้าถามว่าเพราะอะไรฉันก็ตอบได้เลยว่าเพราะ…พี่ป๊อปเองก็ชอบรสนั้น><
 
“บ้านเธออยู่ไหนหรอ”
 
“จริงแล้วฉันไม่ได้เช่าบ้านหรือซื้อบ้านในกรุงเทพหรอกค่ะ ฉันอยู่ที่หอพักน่ะ”  ฉันชี้นิ้วไปให้พี่มินดู หอพักของฉันอยู่ไม่ไกลมากจากร้านนี้เลยสักนิด
 
“นี่เธอไม่ใช่คนกรุงเทพหรอกหรอ”
 
“อื้อ ฉันอยู่ต่างจังหวัดแต่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ”
 
“เก่งจังเลยนะ”
 
“เก่ง?”
 
“ใช่ ก็ไม่ง่ายเลยนะที่จะมาอยู่ในกรุงเทพตัวคนเดียวน่ะ ในเมืองกรุงมันอันตรายจะตายไป”
 
“ฮ่าฮ่า แต่ฉันสู้คนได้ ฉันไม่กลัวหรอก J”
 
“ตัวแค่นี้น่ะหรอจะสู้คนอื่นเค้าได้”
 
“นี่พี่มิน -[]-! ถึงฉันจะตัวเล็กแต่ก็มีความกล้าพอที่จะสู้ผู้ชายตัวใหญ่ได้ก็แล้วกัน”  ฉันโกรธจริงๆเล๊ย ใครที่ชอบมาว่าฉันตัวเล็กแล้วดูถูกความเข้มแข็งของฉัน
 
“นี่โกรธขนาดนั้นเลยหรอ”
 
“ก็ฉันไม่ชอบนิ ทำไมต้องคิดว่าคนตัวเล็กสู้คนไม่ได้ด้วย”
 
“ฮ่าฮ่า ขอโทษคร้าบบบ”
 
 
 
  ฉันมองพี่มินแล้วรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว บางทีเราก็ดูเหมือนจะสนิทกันเกินไปทั้งๆที่ตอนแรกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนี้ด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะพี่มินคุยเก่งและฉันเองก็คุยเก่งถึงได้สนิทกันเร็วล่ะมั้ง
 
  อาหารที่สั่งถูกวางลงหน้าฉันและพี่มิน อาหารหรูๆด้วยแฮะ…
 
 
 
“สั่งมาขนาดนี้ฉันกินไม่หมดหรอกนะ..”   ฉันทำหน้ายู้ ฉันเป็นคนกินอาหารไม่เยอะอยู่แล้ว แต่นี่สั่งมาเกือบจะสิบอย่าง..
 
“กินไปเถอะน่า ฉันสั่งมาเพื่อเธอเลยนะ”   พี่มินพูดจบ ก็ตักผัดผักมาให้ฉัน ซึ่งมันน่ากินมากแต่ติดตรงที่ว่า ฉันไม่กินผัก…
 
“แต่ฉัน..ไม่กินผักนะ ฉันไม่ชอบผัก”
 
“กินผักจะได้สวยๆไง..”  ฉันมองค้อนใส่ เหมือนกำลังว่าฉันไม่สวยเลยแฮะ..
 
“พี่จะบอกว่าฉันไม่สวยรึไง..ใครจะไปสวยฟรุ้งฟริ้งเหมือนสาวเกาหลีกันเล่า”
 
“เดี๋ยวก็สู้จินนี่ไม่ได้หรอก..”   เพียงเท่านั้นแหละค่ะ ฉันยิ่งตักผักใส่จานหมอนี่ซะเยอะ..ไม่ใช่อะไร ฉันไม่อยากเปรียบตัวเองกับจินนี่เลยสักนิด
 
“อ้าว..นี่เธอไม่อยากให้ไอป๊อปชอบเธอเหมือนจินนี่หรอกหรอ..”
 
 
 
    ความจริงฉันก็อยากให้เขาชอบฉันนะ..แต่จะทำยังไงล่ะ พี่ป๊อปไม่เคยหันมาทางฉัน อีกทั้งยังด่าฉอดๆ ส่วนจินนี่ฉันไม่อาจเทียบกับเธอหรอกนะ..ถ้าพี่ป๊อปรักใคร..ฉันก็ดีใจ
 
 
 
    มั้ง….
 
 
 
“เธอนี่กินยังไงน่ะหะ..ปากสกปรกหมดแล้ว”   พี่มินเป็นคนพูดค่ะ ฉันยกมือขึ้นเช็ดๆบริเวณปากแต่มันกลับไม่เป็นผล..
 
 
 
    ไม่นานพี่มินก็หยิบผ้าเช็ดหน้าของเขา..มาเช็ดให้กับฉัน..ฉันก็ได้แค่นั่งตัวแข็ง ตาโตๆ ก็แหม่..พี่มินเขาชอบทำดีกับฉัน อีกทั้งยังยิ้มแปลกๆ..ฉันไม่คอยชินเท่าไหร่
 
 
 
“เอ่อ..ขอบคุณค่ะ”
 
“ฮ่าฮ่า เธอนี่ตลกจริงๆแฮะ..แล้วทำไมต้องทำตาโตด้วยล่ะหะ”
 
“กะ..ก็ พี่จะเข้ามาใกล้ฉันทำไมล่ะ..ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว”   ฉันพูดเท่านั้นแหละ พี่เขาก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ฉันอย่างรวดเร็ว ส่วนฉันก็ต้องเบิกตาอีกครั้ง โชคดีที่ฉันเอนตัวหนีหน้าพี่เขาทัน
 
“ถ้าฉันเป็นไอป๊อป..เธอจะหลบหน้าฉันแบบนี้รึเปล่า”
 
“พะ..พี่ป๊อปเกี่ยวอะไรด้วยเล่า”  ฉันยังคงเอนตัวหลบใบหน้าพี่มินอยู่ดี
 
“ก็เธอชอบไอป๊อป..ไม่ใช่หรอ”
 
 
 
    ฉันคิดว่าน้ำเสียงพี่มินแปลกๆ..ไม่นานนักพี่เขาก็เขยิบหน้าถอยหนี..เราก็เข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม..แต่มันก็เงียบกว่าเมื่อกี้เยอะมาก
 
 
 
“อิ่มแล้วค่ะ”  ฉันพูดแล้วเก็บช้อนส้อมให้เข้าที่
 
“ฉันไปส่งมั้ย”
 
“ไม่ล่ะ ฉันไม่รบกวนพี่ดีกว่า” ฉันกำลังเกรงใจเขาอยู่..บ้านพี่เขากับหอพักฉันอยู่คนละทางกันเลย..ความจริงหอฉันอยู่ใกล้ๆนี่เดินไปก็ถึง
 
 “แต่นี่มันก็จะมืดแล้ว..เธอเดินคนเดียวได้หรอ” ทำไมต้องเป็นห่วงฉันนะเนี่ย..
 
“สบายมากค่ะ ปกติฉันก็เดินกลับบ้านคนเดียวอยู่แล้ว J”
 
“งั้นกลับดีๆล่ะ”  พี่มินยีหัวฉันอีกครั้งก่อนที่พี่เขาจะสตาร์ทรถออกไป
 
 
 
    วันนี้ก็คงเหมือนเป็นวันปกติสำหรับฉัน ฉันเดินทางกลับไปยังหอพัก  เฮ้อ! ทำไมจู่ๆถึงคิดถึงพี่ป๊อปขึ้นมาอีกล่ะเนี่ย…
 
    จะว่าไปตอนที่พี่มินถามคำถามนั้น  ‘ถ้าฉันเป็นไอป๊อป..เธอจะหลบหน้าฉันอย่างนี้รึเปล่า' ตอนนั้นฉันกำลังคิดอะไรนะ…อ่า..คำตอบของฉันน่ะคือ…
 
 
 
    ไม่…ฉันจะไม่หลบหน้าเขาแต่ฉัน..จะมองหน้าเขาโดยไม่ละสายตาต่างหาก
 
 
 
“เห้ย!” เพียงแค่ฉันเงยหน้าขึ้นมาก็พบผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวโดยการสวมเสื้อคลุมตัวยาวตัวเดียวแล้วเขาก็…
 
 
 
  เขาก็โชว์มัน…
 
 
“อ้ะ!” ฉันรู้สึกถึงแรงของใครคนหนึ่งที่รวบไหล่ของฉันให้หันหลังกลับแล้วก็กลายเป็นว่าหน้าฉันซุกอยู่บนแผงอกของเขาคนนั้น
 
“ยัยซื่อบื้อ” น้ำเสียงของเขาคนนั้นฉันจำมันได้..
 
 
 
  และเพียงแค่ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังกอดฉันอยู่มันก็เป็นเขาจริงๆ…
 
“พี่ป๊อป..”
 
 
 
  เขากำลังจ้องตาฉันเขม็งไม่เห็นจะมีแววตี่ดูอ่อนโยนเลยแฮะ และฉันก็รู้สึกถึงแรงที่ถูกผลักออกซึ่งนั่นก็เป็นพี่ป๊อปที่ผลักฉันออกจากอ้อมกอดเขา ฉันหันหลังกลับไปดูโรคจิตที่กำลังจะโชว์ของสงวนนั้นตอนนี้เขาได้หายไปแล้วฉันคิดว่าเขาน่าจะหนีไปทันทีที่พี่ป๊อปมาถึง…
 
 
 
“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดสั่นๆ ทำไมถึงต้องรู้สึกหวั่นไหวทุกทีก็ไม่รู้
 
“ฉันก็ไม่ได้อยากช่วยเธอนักหรอกนะ ฉันเห็นเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น”
 
“….”
 
“….”
 
    เกิดความเงียบระหว่างเราทั้งสองคน ความจริงฉันอยากพูดให้มากกว่านี้แต่ฉันกลับทำมันได้ยากเหลือเกิน…
 
“เอ่อ..พี่ป๊อปมาได้ไง”
 
“ฉันจะมาได้ไงมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ”
 
“ก็ฉันอยากรู้นี่นา” 
 
    ก็นะ..นานๆทีฉันกับพี่ป๊อปจะพูดดีๆด้วยกัน ถึงแม้ตอนนี้เขาจะมองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่งก็ตาม
 
 
“ว่าไงนะ”
 
“…”
 
“เธอรีบกลับหอไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
 
“ทะ…ทำไม”
 
“เกลียด…ชัดมั๊ย”
 
 
 
  ฉันรู้สึกดวงตาร้อนผ่าวเมื่อได้ยินคำนั้น ฉันรู้สึกไม่ได้ต่างจากตอนที่เขาด่าฉันว่าร่านเลยสักนิด  ทำไมในสายตาพี่ป๊อปฉันถึงดูแย่อย่างนั้นตลอดเลยล่ะ…
 
 
 
“น้ำตาของเธอ ใช้ไม่ได้กับฉันหรอกนะ”
 
“….”
 
“เก็บมันไปใช้กับผู้ชายของเธอเถอะ”  พี่ป๊อปมองฉันด้วยแววตาเหยียดๆ เขาไม่เคยมองฉันเป็นคนดีๆเลนบ้างรึไง
 
“ผู้ชายของฉัน?”
 
“หึ ยังจะตีหน้าซื่ออยู่อีก..”
 
 
 
    ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าพี่ป๊อปกำลังจะพูดถึงอะไร ผู้ชายของฉันน่ะมันใครกัน..แต่สำหรับฉัน..พี่ป๊อปคือผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ฉันรู้สึก…อยากให้เป็นคนของฉัน
 
“สับรางทันหรอ คนนึงก็เพื่อนสนิท..ส่วนอีกคนก็เป็นถึงนักกีฬาโรงเรียนเลยนี่ เลือกใครดีล่ะฮะ”
 
 
 
  พี่ป๊อปหมายถึงเควินกับพี่มินหรอเนี่ย..เขากำลังเข้าใจฉันผิดแหง่ๆ
 
 
 
“มันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดสักหน่อย”
 
“ฉันจะคิดยังไงก็เรื่องของฉัน เธอเลิกแอ๊บสักทีเถอะ เพราะมันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกชอบเธอเลย..สักนิดเดียว” 
 
 
 
  น้ำตาที่ฉันอดกลั้นมานานตอนนี้มันไหลออกมาแล้ว…ฉันยับยั้งมันไว้ไม่ได้แล้ว ฉันทำยังไงพี่ป๊อปก็ไม่เคยมองมาที่ฉันเลยสักครั้ง..
 
....................ต่อ...............
   ผมยืนมองหน้ายัยนั่นกำลังบีบน้าร้องไห้อีกแล้วสินะ  ทำไมถึงได้ร้องไห้เก่งนักหนา ให้ตายเถอะ ผมไม่ชอบน้ำตายัยนี่ก็ตอนนี้แหละ ผมเลียด เกลียดที่สุด
 
“โง่” ผมพูดมันออกไปแล้วเดินกระแทกไหล่ยัยนั่นออกไป ผมไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด (หรอ-ไรเตอร์) ผู้หญิงอะไรอ่อนแอชะมัด
 
 
 
  ไม่รุ้ทำไมผมถึงได้หันกลับไปมองยัยฟางและสิ่งที่ผมเห็นคือเธอกำลังรีบวิ่งขึ้นหอพักแล้วเอามือปิดปากร้องไห้ออกไป  ผมมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆนิดๆ นั่นร้องไห้จริงๆหรอ…
 
  หึ ถึงยังไงผมก็ไม่เชื่อหรอก....
ปั๊ปปาปาดั๊บปา เย้ๆๆๆ จบไปแล้วนะฮะอีกตอน ดีใจที่เห็นหลายคอมเม้นบอกกันว่าชอบ>< เค้าอยากตอบหลายๆเม้นนะแต่เค้าทำไม่เป็น TT 555 ขอโทษที่อัพช้าหน่อยพอดีมีปัญหากับ ระบบ404 อะไรก็ไม่รู้ เฮ้ออออ
 
เม้นโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา