Crazy Daddy คุณพ่อจอมป่วนกวนหัวใจยัยตัวร้าย
10.0
เขียนโดย PrincessTK
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.47 น.
3 chapter
46 วิจารณ์
7,955 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 16.00 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) PAPA
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคณะแพทย์ศาสตร์
ห้าหนุ่มสุดฮอตจากคณะแพทย์ศาสตร์เดินออกมาจากห้องสอบด้วยสภาพเหมือนซอมบี้ เช่นเดียวกับนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายคนอื่นๆที่ต่างหมดอาลัยตายอยากกับข้อสอบมหาโหดที่พึ่งทำเสร็จไป
“โอ๊ยย เหนื่อยชิบ” โทโมะ หรือว่าที่คุณหมอวิศว หนุ่มหน้าหวานลูกครึ่งญี่ปุ่นเจ้าของตำแหน่งเดือนคณะถอดเสื้อกราวน์ของตัวเองออกอย่างไม่สบอารมณ์นัก ถึงแม้ว่าระดับเขาจะทำข้อสอบได้แต่การทำข้อสอบครั้งนี้ก้เล่นเอาพลังเขาเกือบหมดเลยทีเดียว
“ฮือออ ทำไมมันอยากแบบเนร้ น้องเขื่อนจะไม่ทน น้องเขื่อนจะดรอป แงงงง” เขื่อน แทบจะคลานออกมาจากห้องสอบใบหน้าซีดเซียวไร้ความสดใสและรอยยิ้มซุกซนของเค้า หนุ่มอารมณ์ดีประจำคณะช่างน่าแปลกตาสำหรับทุกคน
“บ่นอะไรกันนักกันหนา คะแนนก็ใช่ว่าจะไม่ดี” จงเบ ขยับแว่นตาเล็กน้อย หนุ่มเกาหลีหนึ่งเดียวในกลุ่มที่มาพร้อมกับมาดเนิดร์ๆที่มีความเป็นคุณหมอมากที่สุดในกลุ่ม
“ใครจะไปเมพอย่างแก๊ บล๊อคนี้มันยากเกินไป ฉันได้ตายก่อนไปรักษาคนไข้แน่ๆ” เคนตะ หนุ่มญี่ปุ่นจอมบ้าพลัง แทบจะร้องไห้นอกจากคะแนนจะแย่ที่สุดในกลุ่มแล้ว เขายังโดนใช้ให้เก็บของก่อนออกมาอีก
“ไม่ตกก้บุญโขล้ะ ป่ะๆกินข้าว หิวเว้ย” ป๊อปปี้ ว่าที่คุณหมอหน้าหมี เดินนำเดอะแก๊งค์ไปอย่างปลงๆ ข้อสอบวันนี้ดูจะดูดพลังงานของนักศึกษาทั้งชั้นปีไปได้มากทีเดียว ไม่ใช่แค่ต้องใช้สมองในการตอบคำถาม แต่ยังต้องแยกประสาทไปสู้รบกับร่างกายสุดเพลียของตัวเองที่อดหลับอดนอนอ่านหนังสือเตรียมสอบกันจนเกือบเช้า แถมยังต้องรีบมาสอบให้ทันแปดโมงเช้าอีกต่างหาก เห้อม ชีวิตนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายมันช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้
“อ่าว ไอโมะ แม่แกมารับถึงคณะเลยหว่ะ ฮะๆ” ป๊อปปี้ชี้ไปที่รถพอร์ชสีส้มสดรุ่นลิมิเตตอิดิชั่นที่จอดเปิดประทุนเด่นอยู่หน้าคณะแพทย์ศาสตร์ พร้อมกับสาวน้อยหน้าสวยที่พึ่งเรียนปริญญาตรีจบหมาดๆมาจากบอสตันนั่งอยู่ที่คนขับราวกับเป็นรถของตัวเอง (?)
“โห ไรวะ เอาพอร์ชมาอีก จะไปสวีตกันสองคนอ่ะเด้” เคนตะเอ่ยเซ็งๆ วันนี้ก้คงเหลือชายโสดสี่คนร่วมโต๊ะอาหารเย็นเพื่อไว้อาลัยแด่ข้อสอบมหาประลัยอีกแล้วสินะ
“ไว้ยัยนั่นยอมไปสวีตกับฉันเมื่อไหร่แล้วจะมาอวดนะ ไอเพื่อนขี้เผือกทั้งหลาย ไปหล่ะ บาย” ชายหนุ่มยิ้มออกทันที ก่อนจะรีบสาวเท้ายาวๆไปที่รถของเขา
“วันนี้ขับรถมารับสามีถึงหน้าคณะเลยนะคะ น่ารักจังเลย” ตัวยังไม่ทันขึ้นรถดีปากหวานๆก้ขอเอ่ยทักทายสาวน้อยที่ขับรถมารับซะหน่อย
“สามีบ้าอะไรหล่ะ หมอที่ไหนมันนัดฉันไว้หล่ะฮะ เลตไปครึ่งชั่วโมง ถ้าฉันเป็นคนไข้ป่านนี้ได้ไปรอหมอในโลงแล้ว!” สาวน้อยไม่สนใจคำออเซาะของเดือนคณะแพทย์ศาสตร์ ก่อนจะบ่นยาวเป็นชุด
“ก้คนเขาสอบอยู่ เนี่ยสอบเสร็จก็ลงมาเลย จริงๆนะ”
“เหอะ ไม่ใช่ไปหลีสาวที่ไหนหล่ะ” สาวน้อยบ่นอุบอิบก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไป
“สาวที่ไหนกัน ไม่มี้ เธอไม่ต้องหึงหรอก ฉันรักเดียวใจเดียวสบายใจได้” โทโมะยิ้มหวาน
“หึงกะผีสิ เลิกพูดจาเลี่ยนๆแบบนี้ได้แล้ว ฉันไม่ใช่สาวๆในสต๊อคของนาย” สาวน้อยเริ่มไม่สบอารมณ์ กับเพื่อนชายคนสนิท ที่รู้จักกันมาทั้งชีวิต ตั้งแต่จำความได้หมอนี่ก้มาวนเวียนอยู่ในชีวิตเธอแล้ว เพราะพ่อแม่ของเธอกับโทโมะร่วมกันทำมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อม แถมยังเรียนที่เดียวกัน ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมทำให้เธอต้องสนิทกับโทโมะอย่างไม่เต็มใจนัก ถึงแม้จะมีช่วงมหาลัย 4-5 ปีที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศให้ห่างกันบ้างแต่พอเธอกลับมาเขาก็กลับมาป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิตเธอเหมือนเดิม และอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเขาดูเปลี่ยนไปมากจากเมื่อก่อนที่เป็นคุณชายจอมเย็นชา ให้เธอแกล้งได้อยู่ตลอดกลับกลายเป็นคุณหมอสุดกวนที่คอยกวนหัวใจเธออยู่ตลอดๆ
“แก้ว หิวอ่ะ หาไรกินก่อนได้ป่ะ”
“เรื่องมากจริงๆเล้ย ฉันต้องส่งต้นฉบับก่อนเที่ยงคืนนะ”
“กลับไปกินที่คอนโดก็ด้ะ แต่เธอต้องทำให้กินนะ” โทโมะอ้อน
“อืมๆ เดี๊ยวทำให้ บอกไอสี่ลิงด้วย เดี๊ยวฉันกลับไปทำให้กิน” แล้วก็ตามเคย เธอแพ้ลูกอ้อนของเดือนคณะแพทย์ศาสตร์อีกจนได้ สาวน้อยจำต้องเปลี่ยนเส้นทางจากตรงกลับคอนโดเป็นซุปเปอร์มาร์เกตแทน
Supermarket
“เอาอันนี้ด้วย อันนี้ก้น่ากิน อันนี้ของโปรด อันนั้นก็จะเอา เปนของข้าให้หมดเจ้าขนมทั้งหลาย” สาวน้อยแทบจะกวาดเชลฟ์ขนมใส่รถเข็นที่ชายหนุ่มมเข็นตามหลังมา หลังจากซื้อวัตถุดิบทำอาหารเย็นสำหรับหกคนเสร็จแล้ว เธอก็วนเวียนอยู่ที่ล๊อคขายขนม
“พอแล้วมั้ง แค่นี้ก็กินได้เปนชาติแล้ว” โทโมะเข็นรถตามสาวน้อยที่สนุกอยู่กับการหยิบขนมลงรถเข็น
“เงียบไปเลยนายหน่ะ ชอบแย่งขนมฉันกิน ขนมฉันหมดเร็วก็เพราะนาย” สาวน้อยคาดโทษ พระเอกของเราเลยต้องเงียบไป
อย่างจำยอม เฮ้อออ นี่ทายาทอันดับหนึ่งของ T.M.Hospital ต้องยอมผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้จริงๆหรอ แต่ก็นะ ไม่รักไม่ยอมหรอก ฮึ่ยยย เข้าใจถูกแล้วหล่ะ ว่าที่คุณหมอวิศวหลงรักเพื่อนสนิทตัวเองมาสักพักแล้ว แต่ทั้งอ่อนทั้งจีบ สาวน้อยก็ไม่มีท่าทีว่าจะใจอ่อน ยอมเป็นมากกว่าเพื่อนซะที แต่มีหรอที่คนอย่าง วิศว ไทยานนท์ จะยอมแพ้ ไม่มีใครในโลกนี้ปฏิเสธคุณหมอโทโมะได้นานหรอก
“ว้าววว วันนี้มีนางฟ้ามาโปรด” เขื่อนกระวีกระวาด จัดโต๊ะอาหารทันทีที่โทโมะยกหม้อต้มยำทะเลที่สาวน้อยทำเข้ามาในห้อง
“ใจเย็นๆ เดี๊ยวก็ลวกปากหมด ไอหมอพวกนี้ ฉันหละสงสารคนไข้พวกนายจริงๆ” สาวน้อยที่เดินตามเข้ามารีบห้ามคุณหมอทั้งห้าที่รุมชามใส่ต้มยำเหมือนคนหิวโซมาหลายปี
“ก็นานๆทีจะได้กินฝีมืออร่อยๆของเธองัยจ๊ะที่รัก” เขื่อนได้ทีป้อยอ ตามความเคยชิน
“ที่รักบ้านแกสิ คนนี้ของฉันเว้ย” โทโมะตบศรีษะงามๆของเขื่อนเบาๆอย่างหวงๆ
“ฉันไปเป็นของนายตอนไหนฮะ” สาวน้อยแหวใส่ เบื่อจริงๆเลยกับการแสดงความเป็นเจ้าของเธออย่างออกนอกหน้าทั้งๆที่เธอยังไม่ทันได้ตกลงปลงใจกับเขาเลยของเพื่อนชายคนสนิท
“เธออย่าไปยอมมันนะแก้ว มันได้แล้วมันก้ทิ้ง ฮ่าๆๆๆ” เคนตะหัวเราะร่า
“ไอบ้า อย่าเอาอดีตมาปน ตอนนี้ฉันเลิกแล้ว” โทโมะรีบแก้ตัว
“ฉันรู้นิสัยนายดี ไม่ต้องพูดมากหรอก” สาวน้อยเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้
‘ติ้ง หน่อง’
“เอ้า ใครมา แกไปดูสิไอโมะ” สิ้นคำจงเบโทโมะก้ลุกออกไปเปิดประตู
‘แอ๊ดดด’ โทโมะเปิดประตูห้อง
“ปะป๊า!!!!” ฝาแฝดชายหญิงอายุประมาณห้าขวบ กระโดดกอดชายหนุ่มราวกับคุ้นเคยกันมาชาติเศษ
“ปะป๊า! หนูเข้าใจอะไรผิดรึป่าว” โทโมะเหงื่อแตกผลั่ก ตกใจกับเด็กสองคนที่จู่ๆก็มาปรากฎตัวหน้าห้องของเค้า แถมยังบอกว่าเป็นลุกของเค้าอีกต่างหาก
“ไม่...ไม่จริง” โทโมะพยายามปฏิเสธ
“จริงฮะ ปะป๊าของพวกเราชื่อโทโมะ”
“จริงคะ ปะป๊าของเราชื่อโทโมะ” สองเสียงยืนยันหนักแน่น
“บ้า ไม่จริง หนูล้อเล่นใช่มั้ย” โทโมะ แทบสิ้นสติ ให้ตายเถอะ เขายังเรียนไม่จบเลยนะ จะไปมีลูกได้ยังงัยกัน
“พวกแก๊ แกล้งอะไรช้านนน ออกมาเดี๊ยวนี้” โทโมะตะโกนเข้าไปในห้อง
“อะไรของแกห๊ะ แล้วเด็กสองคนนี้ใคร” ป๊อปปี้เดินออกมาอย่างหัวเสีย ที่โทโมะบังอาจไปขัดขวางเวลากินของเขา
“ลูกแกใช่มั้ยไอโมะ” จงเบถามขึ้นหลังจากพิจารณาหน้าตาของสองแฝดแล้ว มันเหมือนกับเพื่อนซี้เค้าไม่มีผิดเพี้ยน
“ใช่ฮะ พวกเราเป็นลูกปะป๊า”
“ไม่จริง ไม่ ฉันยังไม่มีลูก ใครส่งพวกแกมาปั่นหัวฉัน ออกไปเลยนะ” โทโมะพยายามปฏิเสธ
“มันจะไม่จริงได้ยังงัย เด็กสองคนนี้หน้าเหมือนแกยังกะโคลนนิ่ง”
“ไม่นะ แต่ฉันป้องกันตลอด ไม่ ไม่มีทาง ไม่ใช่ลูกฉัน”
“หลักฐานทนโท่มาก ลูกแกแน่นอน ถ้าแกไม่รับ ฉันจะตัดเพื่อน”
“อ่าว เห้ย ไอเวร มันใช่เรื่องเดียวกันมั้ย” โทโมะเครียดจัด
“ฉันคงคบเพื่อนเลวระยำที่ไม่ยอมรับลูกตัวเองไม่ได้จริงๆ”
“ม่ายยยยยยยยยยยย” โทโมะแทบจะลงไปดิ้นกับพื้น
“เอะอะอะไรกันฮะ” สาวน้อยชะโงกหน้าออกมาดูสถานการณ์
“พวกเรามาหาปะป๊า แต่ปะป๊าไล่เราฮะพี่สาว” แฝดชายเกาะแขนสาวน้อยขอความช่วยเหลือ
“ฮะ ปะป๊า ใครเป็นปะป๊าหนูคะ” สาวน้อยใจสั่นเล็กน้อย ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าเด็กสองคนนี้หน้าเหมือนโทโมะมากขนาดไหน
“ปะป๊าเราชื่อโทโมะค่ะ” สาวน้อยย้ำอีกหนึ่งครั้ง
“โทโมะ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ ทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้หา! เขื่อนพาเด็กเข้าไปในห้อง”
“จะบ้าเรอะ เห้ย เธอให้เด็กนั่นเข้าไปได้งัย”
“นั่นลูกนายนะ พูดจามีความรับผิดชอบหน่อยสิ” แก้วแหวใส่
“ไม่จริง นั่นไม่ใช่ลูกฉัน เธอต้องเชื่อฉันนะ” โทโมะอ้อนวอน ถึงแม้ว่าตามหลักฐานที่มีมันจะเป็นไปได้มากแค่ไหนก็ตาม
“มันมีอะไรให้แก้ตัวห๊ะ หลักฐานมัดตัวขนาดนี้”
“โว๊ะ ไปตรวจดีเอ็นเอเลยมั้ยหล่ะ จะได้จบๆ รู้ๆกันไปเลย” โทโมะโพล่งออกมา ถึงแม้ว่าจะแอบกลัวอยู่ลึกๆว่าเด็กแฝดจะเป็นลูกเขาจริงๆ
“จะบ้าหรืองัย พ่อนายเป็นเจ้าของโรงพยาบาลนะ ถ้าไปตรวจพ่อนายก้ต้องรู้ จะให้ท่านบินจากญี่ปุ่นมาปาดคอนายหรืองัย”
“แล้วจะให้ทำงัยหล่ะ”
“ทำอะไรหล่ะ ก็เลี้ยงสิ ลูกนายนะยะ ดีเอนองดีเอนเอไม่ต้องตรวจแล้ว ดีเอนเอมันอยู่บนหน้าลูกนายแล้ว!” สาวน้อยฉุดกระชากลากถูชายหนุ่มเข้าไปหาเด็กแฝดที่กำลังเล่นกับเขื่อนและเคนตะอย่างสนุกสนาน
“นี่ฉันต้องเปนปะป๊าของเด็กพวกนี้จริงๆหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
ถ้าคุณพร้อมให้คุณหมอสุดฮอตมาป่วนหัวใจคุณ
ก็เจอกันแชปหน้านะคะ
ห้าหนุ่มสุดฮอตจากคณะแพทย์ศาสตร์เดินออกมาจากห้องสอบด้วยสภาพเหมือนซอมบี้ เช่นเดียวกับนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายคนอื่นๆที่ต่างหมดอาลัยตายอยากกับข้อสอบมหาโหดที่พึ่งทำเสร็จไป
“โอ๊ยย เหนื่อยชิบ” โทโมะ หรือว่าที่คุณหมอวิศว หนุ่มหน้าหวานลูกครึ่งญี่ปุ่นเจ้าของตำแหน่งเดือนคณะถอดเสื้อกราวน์ของตัวเองออกอย่างไม่สบอารมณ์นัก ถึงแม้ว่าระดับเขาจะทำข้อสอบได้แต่การทำข้อสอบครั้งนี้ก้เล่นเอาพลังเขาเกือบหมดเลยทีเดียว
“ฮือออ ทำไมมันอยากแบบเนร้ น้องเขื่อนจะไม่ทน น้องเขื่อนจะดรอป แงงงง” เขื่อน แทบจะคลานออกมาจากห้องสอบใบหน้าซีดเซียวไร้ความสดใสและรอยยิ้มซุกซนของเค้า หนุ่มอารมณ์ดีประจำคณะช่างน่าแปลกตาสำหรับทุกคน
“บ่นอะไรกันนักกันหนา คะแนนก็ใช่ว่าจะไม่ดี” จงเบ ขยับแว่นตาเล็กน้อย หนุ่มเกาหลีหนึ่งเดียวในกลุ่มที่มาพร้อมกับมาดเนิดร์ๆที่มีความเป็นคุณหมอมากที่สุดในกลุ่ม
“ใครจะไปเมพอย่างแก๊ บล๊อคนี้มันยากเกินไป ฉันได้ตายก่อนไปรักษาคนไข้แน่ๆ” เคนตะ หนุ่มญี่ปุ่นจอมบ้าพลัง แทบจะร้องไห้นอกจากคะแนนจะแย่ที่สุดในกลุ่มแล้ว เขายังโดนใช้ให้เก็บของก่อนออกมาอีก
“ไม่ตกก้บุญโขล้ะ ป่ะๆกินข้าว หิวเว้ย” ป๊อปปี้ ว่าที่คุณหมอหน้าหมี เดินนำเดอะแก๊งค์ไปอย่างปลงๆ ข้อสอบวันนี้ดูจะดูดพลังงานของนักศึกษาทั้งชั้นปีไปได้มากทีเดียว ไม่ใช่แค่ต้องใช้สมองในการตอบคำถาม แต่ยังต้องแยกประสาทไปสู้รบกับร่างกายสุดเพลียของตัวเองที่อดหลับอดนอนอ่านหนังสือเตรียมสอบกันจนเกือบเช้า แถมยังต้องรีบมาสอบให้ทันแปดโมงเช้าอีกต่างหาก เห้อม ชีวิตนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายมันช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้
“อ่าว ไอโมะ แม่แกมารับถึงคณะเลยหว่ะ ฮะๆ” ป๊อปปี้ชี้ไปที่รถพอร์ชสีส้มสดรุ่นลิมิเตตอิดิชั่นที่จอดเปิดประทุนเด่นอยู่หน้าคณะแพทย์ศาสตร์ พร้อมกับสาวน้อยหน้าสวยที่พึ่งเรียนปริญญาตรีจบหมาดๆมาจากบอสตันนั่งอยู่ที่คนขับราวกับเป็นรถของตัวเอง (?)
“โห ไรวะ เอาพอร์ชมาอีก จะไปสวีตกันสองคนอ่ะเด้” เคนตะเอ่ยเซ็งๆ วันนี้ก้คงเหลือชายโสดสี่คนร่วมโต๊ะอาหารเย็นเพื่อไว้อาลัยแด่ข้อสอบมหาประลัยอีกแล้วสินะ
“ไว้ยัยนั่นยอมไปสวีตกับฉันเมื่อไหร่แล้วจะมาอวดนะ ไอเพื่อนขี้เผือกทั้งหลาย ไปหล่ะ บาย” ชายหนุ่มยิ้มออกทันที ก่อนจะรีบสาวเท้ายาวๆไปที่รถของเขา
“วันนี้ขับรถมารับสามีถึงหน้าคณะเลยนะคะ น่ารักจังเลย” ตัวยังไม่ทันขึ้นรถดีปากหวานๆก้ขอเอ่ยทักทายสาวน้อยที่ขับรถมารับซะหน่อย
“สามีบ้าอะไรหล่ะ หมอที่ไหนมันนัดฉันไว้หล่ะฮะ เลตไปครึ่งชั่วโมง ถ้าฉันเป็นคนไข้ป่านนี้ได้ไปรอหมอในโลงแล้ว!” สาวน้อยไม่สนใจคำออเซาะของเดือนคณะแพทย์ศาสตร์ ก่อนจะบ่นยาวเป็นชุด
“ก้คนเขาสอบอยู่ เนี่ยสอบเสร็จก็ลงมาเลย จริงๆนะ”
“เหอะ ไม่ใช่ไปหลีสาวที่ไหนหล่ะ” สาวน้อยบ่นอุบอิบก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไป
“สาวที่ไหนกัน ไม่มี้ เธอไม่ต้องหึงหรอก ฉันรักเดียวใจเดียวสบายใจได้” โทโมะยิ้มหวาน
“หึงกะผีสิ เลิกพูดจาเลี่ยนๆแบบนี้ได้แล้ว ฉันไม่ใช่สาวๆในสต๊อคของนาย” สาวน้อยเริ่มไม่สบอารมณ์ กับเพื่อนชายคนสนิท ที่รู้จักกันมาทั้งชีวิต ตั้งแต่จำความได้หมอนี่ก้มาวนเวียนอยู่ในชีวิตเธอแล้ว เพราะพ่อแม่ของเธอกับโทโมะร่วมกันทำมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อม แถมยังเรียนที่เดียวกัน ห้องเดียวกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมทำให้เธอต้องสนิทกับโทโมะอย่างไม่เต็มใจนัก ถึงแม้จะมีช่วงมหาลัย 4-5 ปีที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศให้ห่างกันบ้างแต่พอเธอกลับมาเขาก็กลับมาป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิตเธอเหมือนเดิม และอาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเขาดูเปลี่ยนไปมากจากเมื่อก่อนที่เป็นคุณชายจอมเย็นชา ให้เธอแกล้งได้อยู่ตลอดกลับกลายเป็นคุณหมอสุดกวนที่คอยกวนหัวใจเธออยู่ตลอดๆ
“แก้ว หิวอ่ะ หาไรกินก่อนได้ป่ะ”
“เรื่องมากจริงๆเล้ย ฉันต้องส่งต้นฉบับก่อนเที่ยงคืนนะ”
“กลับไปกินที่คอนโดก็ด้ะ แต่เธอต้องทำให้กินนะ” โทโมะอ้อน
“อืมๆ เดี๊ยวทำให้ บอกไอสี่ลิงด้วย เดี๊ยวฉันกลับไปทำให้กิน” แล้วก็ตามเคย เธอแพ้ลูกอ้อนของเดือนคณะแพทย์ศาสตร์อีกจนได้ สาวน้อยจำต้องเปลี่ยนเส้นทางจากตรงกลับคอนโดเป็นซุปเปอร์มาร์เกตแทน
Supermarket
“เอาอันนี้ด้วย อันนี้ก้น่ากิน อันนี้ของโปรด อันนั้นก็จะเอา เปนของข้าให้หมดเจ้าขนมทั้งหลาย” สาวน้อยแทบจะกวาดเชลฟ์ขนมใส่รถเข็นที่ชายหนุ่มมเข็นตามหลังมา หลังจากซื้อวัตถุดิบทำอาหารเย็นสำหรับหกคนเสร็จแล้ว เธอก็วนเวียนอยู่ที่ล๊อคขายขนม
“พอแล้วมั้ง แค่นี้ก็กินได้เปนชาติแล้ว” โทโมะเข็นรถตามสาวน้อยที่สนุกอยู่กับการหยิบขนมลงรถเข็น
“เงียบไปเลยนายหน่ะ ชอบแย่งขนมฉันกิน ขนมฉันหมดเร็วก็เพราะนาย” สาวน้อยคาดโทษ พระเอกของเราเลยต้องเงียบไป
อย่างจำยอม เฮ้อออ นี่ทายาทอันดับหนึ่งของ T.M.Hospital ต้องยอมผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้จริงๆหรอ แต่ก็นะ ไม่รักไม่ยอมหรอก ฮึ่ยยย เข้าใจถูกแล้วหล่ะ ว่าที่คุณหมอวิศวหลงรักเพื่อนสนิทตัวเองมาสักพักแล้ว แต่ทั้งอ่อนทั้งจีบ สาวน้อยก็ไม่มีท่าทีว่าจะใจอ่อน ยอมเป็นมากกว่าเพื่อนซะที แต่มีหรอที่คนอย่าง วิศว ไทยานนท์ จะยอมแพ้ ไม่มีใครในโลกนี้ปฏิเสธคุณหมอโทโมะได้นานหรอก
“ว้าววว วันนี้มีนางฟ้ามาโปรด” เขื่อนกระวีกระวาด จัดโต๊ะอาหารทันทีที่โทโมะยกหม้อต้มยำทะเลที่สาวน้อยทำเข้ามาในห้อง
“ใจเย็นๆ เดี๊ยวก็ลวกปากหมด ไอหมอพวกนี้ ฉันหละสงสารคนไข้พวกนายจริงๆ” สาวน้อยที่เดินตามเข้ามารีบห้ามคุณหมอทั้งห้าที่รุมชามใส่ต้มยำเหมือนคนหิวโซมาหลายปี
“ก็นานๆทีจะได้กินฝีมืออร่อยๆของเธองัยจ๊ะที่รัก” เขื่อนได้ทีป้อยอ ตามความเคยชิน
“ที่รักบ้านแกสิ คนนี้ของฉันเว้ย” โทโมะตบศรีษะงามๆของเขื่อนเบาๆอย่างหวงๆ
“ฉันไปเป็นของนายตอนไหนฮะ” สาวน้อยแหวใส่ เบื่อจริงๆเลยกับการแสดงความเป็นเจ้าของเธออย่างออกนอกหน้าทั้งๆที่เธอยังไม่ทันได้ตกลงปลงใจกับเขาเลยของเพื่อนชายคนสนิท
“เธออย่าไปยอมมันนะแก้ว มันได้แล้วมันก้ทิ้ง ฮ่าๆๆๆ” เคนตะหัวเราะร่า
“ไอบ้า อย่าเอาอดีตมาปน ตอนนี้ฉันเลิกแล้ว” โทโมะรีบแก้ตัว
“ฉันรู้นิสัยนายดี ไม่ต้องพูดมากหรอก” สาวน้อยเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้
‘ติ้ง หน่อง’
“เอ้า ใครมา แกไปดูสิไอโมะ” สิ้นคำจงเบโทโมะก้ลุกออกไปเปิดประตู
‘แอ๊ดดด’ โทโมะเปิดประตูห้อง
“ปะป๊า!!!!” ฝาแฝดชายหญิงอายุประมาณห้าขวบ กระโดดกอดชายหนุ่มราวกับคุ้นเคยกันมาชาติเศษ
“ปะป๊า! หนูเข้าใจอะไรผิดรึป่าว” โทโมะเหงื่อแตกผลั่ก ตกใจกับเด็กสองคนที่จู่ๆก็มาปรากฎตัวหน้าห้องของเค้า แถมยังบอกว่าเป็นลุกของเค้าอีกต่างหาก
“ไม่...ไม่จริง” โทโมะพยายามปฏิเสธ
“จริงฮะ ปะป๊าของพวกเราชื่อโทโมะ”
“จริงคะ ปะป๊าของเราชื่อโทโมะ” สองเสียงยืนยันหนักแน่น
“บ้า ไม่จริง หนูล้อเล่นใช่มั้ย” โทโมะ แทบสิ้นสติ ให้ตายเถอะ เขายังเรียนไม่จบเลยนะ จะไปมีลูกได้ยังงัยกัน
“พวกแก๊ แกล้งอะไรช้านนน ออกมาเดี๊ยวนี้” โทโมะตะโกนเข้าไปในห้อง
“อะไรของแกห๊ะ แล้วเด็กสองคนนี้ใคร” ป๊อปปี้เดินออกมาอย่างหัวเสีย ที่โทโมะบังอาจไปขัดขวางเวลากินของเขา
“ลูกแกใช่มั้ยไอโมะ” จงเบถามขึ้นหลังจากพิจารณาหน้าตาของสองแฝดแล้ว มันเหมือนกับเพื่อนซี้เค้าไม่มีผิดเพี้ยน
“ใช่ฮะ พวกเราเป็นลูกปะป๊า”
“ไม่จริง ไม่ ฉันยังไม่มีลูก ใครส่งพวกแกมาปั่นหัวฉัน ออกไปเลยนะ” โทโมะพยายามปฏิเสธ
“มันจะไม่จริงได้ยังงัย เด็กสองคนนี้หน้าเหมือนแกยังกะโคลนนิ่ง”
“ไม่นะ แต่ฉันป้องกันตลอด ไม่ ไม่มีทาง ไม่ใช่ลูกฉัน”
“หลักฐานทนโท่มาก ลูกแกแน่นอน ถ้าแกไม่รับ ฉันจะตัดเพื่อน”
“อ่าว เห้ย ไอเวร มันใช่เรื่องเดียวกันมั้ย” โทโมะเครียดจัด
“ฉันคงคบเพื่อนเลวระยำที่ไม่ยอมรับลูกตัวเองไม่ได้จริงๆ”
“ม่ายยยยยยยยยยยย” โทโมะแทบจะลงไปดิ้นกับพื้น
“เอะอะอะไรกันฮะ” สาวน้อยชะโงกหน้าออกมาดูสถานการณ์
“พวกเรามาหาปะป๊า แต่ปะป๊าไล่เราฮะพี่สาว” แฝดชายเกาะแขนสาวน้อยขอความช่วยเหลือ
“ฮะ ปะป๊า ใครเป็นปะป๊าหนูคะ” สาวน้อยใจสั่นเล็กน้อย ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าเด็กสองคนนี้หน้าเหมือนโทโมะมากขนาดไหน
“ปะป๊าเราชื่อโทโมะค่ะ” สาวน้อยย้ำอีกหนึ่งครั้ง
“โทโมะ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ ทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้หา! เขื่อนพาเด็กเข้าไปในห้อง”
“จะบ้าเรอะ เห้ย เธอให้เด็กนั่นเข้าไปได้งัย”
“นั่นลูกนายนะ พูดจามีความรับผิดชอบหน่อยสิ” แก้วแหวใส่
“ไม่จริง นั่นไม่ใช่ลูกฉัน เธอต้องเชื่อฉันนะ” โทโมะอ้อนวอน ถึงแม้ว่าตามหลักฐานที่มีมันจะเป็นไปได้มากแค่ไหนก็ตาม
“มันมีอะไรให้แก้ตัวห๊ะ หลักฐานมัดตัวขนาดนี้”
“โว๊ะ ไปตรวจดีเอ็นเอเลยมั้ยหล่ะ จะได้จบๆ รู้ๆกันไปเลย” โทโมะโพล่งออกมา ถึงแม้ว่าจะแอบกลัวอยู่ลึกๆว่าเด็กแฝดจะเป็นลูกเขาจริงๆ
“จะบ้าหรืองัย พ่อนายเป็นเจ้าของโรงพยาบาลนะ ถ้าไปตรวจพ่อนายก้ต้องรู้ จะให้ท่านบินจากญี่ปุ่นมาปาดคอนายหรืองัย”
“แล้วจะให้ทำงัยหล่ะ”
“ทำอะไรหล่ะ ก็เลี้ยงสิ ลูกนายนะยะ ดีเอนองดีเอนเอไม่ต้องตรวจแล้ว ดีเอนเอมันอยู่บนหน้าลูกนายแล้ว!” สาวน้อยฉุดกระชากลากถูชายหนุ่มเข้าไปหาเด็กแฝดที่กำลังเล่นกับเขื่อนและเคนตะอย่างสนุกสนาน
“นี่ฉันต้องเปนปะป๊าของเด็กพวกนี้จริงๆหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
ถ้าคุณพร้อมให้คุณหมอสุดฮอตมาป่วนหัวใจคุณ
ก็เจอกันแชปหน้านะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ