My boss เปลี่ยนเจ้านายให้เป็นเจ้าชายของฉัน
10.0
4) อาการหวง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- ก๊อกๆ -
ชายหนุ่มเคาะประตูผู้กำกับสาวสวยอย่างใจเย็น
“ว่างัยคะ อุ๊ยย!” สาวเปรี้ยวที่มาเปิดประตูห้องแทนอมยิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนเคาะประตู
“มีอะไรหรอครับน้องเฟย์ ยิ้มใส่พี่แปลกๆนะ” โทโมะจับหน้าตัวเองอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“เปล่าค่ะ เฟย์แค่แปลกใจเฉยๆ ต้องมารับกันถึงห้องเลยหรอคะ” เฟย์ยิ้มล้อเลียน เธอค่อนข้างมั่นใจว่าประธาน T.M. Groupต้องแอบมีใจให้เพื่อนรักเธอแน่ๆ
“ก้...ผม ชวนแก้วเค้าไปทานอาหารว่างกับเจ้าของโรงแรม ก็เลยมารับนี่งัย แหะๆ” โทโมะยิ้มแก้เก้อ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องเขิน
“อ้อออ อย่างงี้นี่เอง งั้นเชิญค่ะ” เฟย์พยักหน้ารับแต่รอยยิ้มและแววตาล้อเลียนยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยๆ ก่อนจะเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในห้อง
“เดี๊ยวเฟย์มานะ ไปหากระเป๋าที่ล๊อบบี้ก่อนเหมือนจะหายไปใบนึง” เฟย์เดินออกจากห้องไปทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งรออยู่บนโซฟาคนเดียว
“ยัยเฟย์ มาติดกระดุมหลังให้หน่อยดิ” เสียงใสแต่แอบห้าวของสาวน้อยดังมาจากห้องนอน ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวา อย่างหาความช่วยเหลือ น้องเฟย์นะน้องเฟย์ จะไปหากระเป๋าอะไรตอนนี้
“เร็วๆสิ เข้ามาเลยนะประตูไม่ได้ล๊อค” สาวน้อยยิ่งเร่งชายหนุ่มเหงื่อยิ่งตก แต่ทำงัยได้ในเมื่อเขาคือคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร
โทโมะเดินเข้าไปในห้องอย่างประหม่า ในหัวก็จินตนาการโน่นนี่ไปต่างๆนานาตามที่เคยดูในละครกับคุณแม่ ในฉากที่พระเอกจะต้องช่วนางเอกแต่งตัว(พระเอกเราขี้มโนมากข่ะ)
“เห้ย!” สาวน้อยสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนที่เข้ามาไม่ใช่เพื่อนซี้แต่เป็นเจ้านายของเธอ
- เพล้ง –
จินตนาการฉากโรแมนติกในหัวพระเอกพังหมดค่า
“ก้ เฟย์ไม่อยู่ไปหากระเป๋า เห้ย คุณใจเย็นๆ” โทโมะรีบแก้ตัวเมื่อสาวน้อยไม่ฟังคำอธิบายแล้วปิดประตูใส่เขาดีที่เขาใช้ตัวบังประตูไว้
“นี่บอส ฉันยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย ออกไปก่อน” สาวน้อยใช้แรงที่มีอยู่น้อยนิดพลักชายหนุ่มออกไป
“เอ้า แล้วใครจะติดกระดุมให้คุณหล่ะ” โทโมะแย้ง
“ไม่ต้องฉันจัดการเองได้” สาวน้อยยังไม่ละความพยายามที่จะพลักชายหนุ่มออกไปจากห้อง
“ไม่ต้องเลยคุณมานี่มา” ด้วยแรงที่มีมากกว่าทำให้เธอแพ้ไปโดยปริยาย ชายหนุ่มจัดการจับสาวน้อยหันหลังแล้วจัดการติดกระดุมให้อย่างใจเย็น ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะต้องสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองมากขนาดนี้ ทั้งๆที่แผ่นหลังเนียนสวยแบบนี้ผ่านตาเขามาตั้งไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว (หมายถึงนางแบบ ศิลปินในค่ายหน่ะ พระเอกของเราไม่ใช่คนเจ้าชู้นะค้า)
ตึกๆๆๆๆ
เสียงหัวใจสองดวงที่อยู่ใกล้กันแข่งกันเต้นอย่างไม่มีใครยอมใครในห้องเงียบๆ ทำให้เสียงนั้นมันชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“อื้มม เสร็จแล้ว” โทโมะเป่าปากอย่างโล่งอก
“ขอบคุณนะ” สาวน้อยอ้อมแอ้มตอบ
“เอ่อ..งั้นผมไปรอข้างนอกนะ” ชายหนุ่มเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะรีบเดินออกไป
“ใจเย็นๆจริญญญา ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด” สาวน้อยเอามือทาบอกราวกับจะบอกหัวใจตัวเองให้เต้นช้าลงกว่านี้
“เสร็จแล้วไปกันเถอะ” สาวน้อยปิดประตูห้องนอนก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มที่จ้องเธอไม่วางตา
“เอ่อ หน้าฉันมีอะไรติดรึเปล่า” สาวน้อยเริ่มประหม่า จับหน้าตัวเองอย่างไม่มั่นใจ
“ห๊ะ!อ่อ เปล่า ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มคว้ามือสาวน้อยเดินออกไปด้วยความเคยชิน
“ฉันว่ามันต้องมีซัมติงรองแน่ๆ ไม่ธรรมดาจริงๆคู่นี้” สาวเปรี้ยวที่แอบอยู่หลังประตูยิ้มอย่างมีเลศนัย งานนี้คงได้เห็นเพื่อนเธอสละโสดจริงๆแล้วหล่ะ
“สวัสดีค่ะคุณโทโมะ อ้าวว คุณแก้วมาด้วยหรอคะ เชิญเลยค่ะ เต็มที่นะคะงานนี้พิมเลี้ยงเอง” พิม ทายาทคนโตของโรงแรมแห่งนี้เดินออกมาต้อนรับทั้งคู่ด้วยตัวเอง แถมยังถือวิสาสะคว้าตัวโทโมะมาควงแขนอีกต่างหาก
“ค่ะ” สาวน้อยเบ้ปากกรอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้
“มาค่ะคุณโทโมะ เดี๊ยวพิมดูและคุณเองนะคะ” พิมไม่รอฟังคำทัดทานของโทโมะ รีบลากชายหนุ่มเข้าไปข้างในทันที
“เดี้ยวพิมจะดูแลคุณเองนะคะ” สาวน้อยดัดเสียงเลียนแบบท่าทีของพิมมื่อครู่ด้วยความหมั่นไส้สุดตัว ก่อนจะหันไปสนใจกับบรรดาขนมหวานของโปรดของเธอ
“มาค่ะ พิมป้อนนะคะ” หญิงสาวคะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มทานขนมเค้กที่อยู่ในมือของเธอ
“เอ่อ ผมว่าผมทานเองดีกว่านะครับ” โทโมะปัดมือเล็กออกอย่างสุภาพก่อนจะหยิบขนมเค้กจากชั้นวางมาทานเอง
“ให้พิมป้อนไม่ได้หรอคะ พิมอยากป้อนคุณโทโมะนี่น่า นะคะให้พิมป้อนนะ” พิมยังคงตื้อไม่เลิก
“ไม่ดีกว่าครับ” โทโมะปฏิเสธ เขาเริ่มชินเสียแล้วกับการที่มีหญิงสาวมากหน้าหลายตามาเสนอตัวให้เขา แต่ก็นั่นแหละผู้หญิงพวกนั้นไม่มีค่าพอให้เขาสนใจหรอก
“ผมว่าผมไปหาแก้วดีกว่า ทิ้งไว้คนเดียวไม่ดีแน่”
“เดี๊ยวพิมจัดคนไปดูแลคุณแก้วเองค่ะ โทโมะคะ โทโมะ ฮึ่ยย กลับมานี่สิคะ”
โทโมะรีบชิ่งออกมาโดยไม่สนเสียงโวยวายของพิมแม้แต่น้อย
“มานี่เลยคุณไม่ต้องกินแล้ว” ชายหนุ่มคว้ามือผู้กำกับสาวที่กำลังตักช๊อคโกแลตเข้าปากอย่างรวดเร็ว
“อะไรของบอสเนี่ย” สาวน้อยงงกับการกระทำของผู้เป็นเจ้านายที่หน้าตาตื่นวิ่งโร่มาหาเธอทั้งๆที่พึ่งถูกลูกเจ้าของโรงแรมลากไปไม่นาน
“คุณนั่นแหละไม่ช่วยผมเลย เกือบไม่รอดแล้วมั้ยหล่ะ” ชายหนุ่มทำหน้าดุ
“เอ้า ไม่ชอบหรอ” สาวน้อยตอบกลับอย่างล้อเลียน
“ชอบอะไรเล่า คุณก้รู้ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้”
“อ้าวหรอออออ” สาวน้อยยังล้อเลียนไม่เลิก ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
“เรื่องนั้นไว้ก่อนไปเถอะ” เมื่อสายตสคมเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่เขาพึ่งหนีมากำลังมองหาเขาอยู่ก็รีบลากสาวน้อยออกไปจากตรงนั้นทันที
“แฮกๆๆ บอส ฉันเหนื่อยแล้ว หยุดวิ่งเดี๊ยวนี้นะ วิ่งมาไกลพอแล้ว” สาวน้อยรีบตะโกนเบรคเจ้านายที่พาเธอวิ่งอย่างลืมตัว
“โทษทีๆ” ชายหนุ่มรีบหยุดแล้วประคองสาวน้อยที่บัดนี้หน้าแดงจัดด้วยความเหนื่อยไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆสระว่ายน้ำของโรงแรม
“ไหวมั้ยคุณ” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวๆ ฉันโอเค”
ไม่กี่วินาทีต่อมาร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่ทั้งคู่คุ้นเคยเป็นอย่างดีก็ค่อยๆเดินมาทางที่ทั้งคู่นั่งอยู่
“อ้าว มาสวีตกันอยู่ที่นี่เองหรอ ไหนพนักงานบอกว่าไปทานอาหารว่างกับเจ้าของโรงแรมไม่ใช่หรอครับเพื่อน” เขื่อน รองประธานบริษัท T.M. Entertainment ลูกพี่ลูกน้องของโทโมะ และเพื่อนสนิทแก้วใจ ที่พึ่งเดินทางมาถึงเอ่ยแซว
“น้อยๆหน่อยไอเขื่อน หายหัวไปตั้งหลายวันยังจะมาปากดี”
“แหม บอส ช่างธุระผมก่อนเถอะ ยังงัยๆสองคนนี้สวีตริมสระน้ำหรอครัช” เขื่อนยังคงเดินหน้าแซวต่อไป
“ลาออกจากรองประธานแล้วไปสมัครเป็นบาริสต้าเลยค่ะ ชงเก่งมาก” สาวน้อยเบ้ปากประชดเพื่อนซี้
“อย่ามาทำเป็นประชดกลบเกลื่อนสิที่รัก” เขื่อนนั่งลงบนขอบเก้าอี้ที่สาวน้อยนั่งอยู่พร้อมโอบไหล่สาวน้อยอย่างถือวิสาสะ
“เห้ยๆ เอามือออก แก้วเค้าเป็นผู้หญิงนะเว้ย เธอนี่ก้อีกคนไอเขื่อนมันเป็นผู้ชาย ไปยอมให้มันแตะเนื้อต้องตัวได้งัย” โทโมะลากเขื่อนมานั่งข้างๆตนแทนด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดอะไรก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง
“อะไรของบอสฮะ เขื่อนก็เพื่อนฉันมะ นิดๆหน่อยๆฉันถือที่ไหน เป็นแบบนี้มาตั้งนาน มามีปัญหาอะไรตอนนี้ หงุดหงิดอะไร”สาวน้อยจ้องหน้าผู้เป็นเจ้านายอย่างไม่ยอมแพ้
“ก็...ก็...” โทโมะอึกอักพูดไม่ออก เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเป็นอะไรทำไมเขาต้องหงุดหงิดเมื่อเขื่อนมาเข้าใกล้แก้วด้วย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“อันแหนะ หึงอ่ะดี๊ ฮะๆ” เขื่อนเขี่ยแก้มโทโมะพลางหัวเราะชอบใจ
“พูดอะไร ฉันจะไปหึงทำไม บ้า” ชายหนุ่มพยายามปฏิเสธ
“แล้วแต้ ไม่ยอมรับก้แล้วแต่”
“ดูเพื่อนคุณสิ เป็นอะไรก็ไม่รู้” เมื่อหมดทางต่อกรกับลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ ชายหนุ่มเลยหันไปหาเรื่องสาวน้อยแทน
“เอ้า ญาติคุณนั่นแหละ เลี้ยงกันมายังงัย” สาวน้อยเถียงกลับทันควัน
“นี่คุณเถียงผมหรอ”
“เออ มีไรมะ”
“โอเค้ เล่นแบบนี้ใช่มั้ย”
“นี่บอสหาเรื่องฉันก่อนนะ”
“(&^$”#&^*()*+(*^*”
“@#^%&*()+*_(**”
“@#$%^&*”
“)(*&^%$%^&*()”
เขื่อนมองทั้งคู่เถียงกันแล้วอดยิ้มไม่ได้ เขานึกภาพเกือบไม่ออกเลยจริงๆว่าถ้าสองคนนี้รักกันขึ้นมาจริงๆตามที่เขาเที่ยวชงเที่ยวจิ้นมาหลายปีมันจะเป็นอย่างไร
ช่างเป็นมวยที่ถูกคู่จริงๆเลย คุณว่ามั้ย?
อีกด้านหนึ่งของโรงแรม
น้ำใสๆไหลออกมาจากนัยตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยที่คนทั้งประเทศคลั่งไคล้ แต่อย่างไรก็ตามต่อให้
เธอโด่งดังไปทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่ว่าใครก็รู้จักและชื่นชอบเธอ คงจะมีอยู่เพียงคนเดียวที่เธอไม่เคย
แม้จะอยู่ในสายตาเขาเลยด้วยซ้ำไปแถมยังเอาความสนใจทั้งหมดเบนไปให้ผู้กำกับสาวสายที่คอย
ต่อล้อต่อเถียงกับเขาอยู่ตลอดโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เท่านั้นยังไม่พอ ฟ้ายังกลั่นแกล้งให้คน
คนนั้นเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจของเธอมาตลอด เมื่อรักนี้ไม่ได้มีแค่คนสองคน ยังงัยๆก็ต้องเมีใครคน
นึงต้องเจ็บ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาคนคนนั้นก็เป็นเธอมาโดยตลอด เธอต้องยินยอมรับความเจ็บ
ปวด เก็บความรักที่เขาไม่อาจรับไปได้ไว้อย่างอกตรมมานานหลายปีโดยที่เธอไม่เต็มใจ พอกันที
กับความเจ็บปวด พอกันที่กับน้ำตา ในเมื่อเป็นนางเอกแสนดีแล้วเขาไม่เคยเห็นค่า ในเมื่อ
หัวใจมันร้องเรียกหาแต่เขา คงถึงเวลาที่เธอจะลุกขึ้นสู้เพื่อหัวใจของเธอบ้างแล้ว ฟางปาดน้ำตา
ของตนอย่างลวกๆ แววตาเศร้าสุดใจเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งการเอาชนะ สนามรักสนามรักในครั้งนี้
เธอจะต้องไม่เป็นผู้แพ้อีกต่อไป
"แล้วมาดูกัน ว่าเธอกับฉัน ใครมันจะแน่กว่ากัน"
ง๊าาาาาา เค้ามาแล้ว
กราบขอโทษแฟนคลับพี่ฟางทุกท่านล่วงหน้านะคะ
ที่ให้พี่ฟางรับบทร้าย (เพื่อความสนุกน้าาาาา)
ไม่โกรธกันเนอะ อิอิ
เจอกันแชปหน้าค่ะ
Ps1 เม้นติชม แสดงความเห็นได้ตามสบายนะคะ รออ่านอยู่นะ เม้นกันมาเยอะๆน้าาาา
Ps2 ทุกเม้นของรีดเดอร์คือกำลังใจของไรท์เตอร์ค่ะ
ชายหนุ่มเคาะประตูผู้กำกับสาวสวยอย่างใจเย็น
“ว่างัยคะ อุ๊ยย!” สาวเปรี้ยวที่มาเปิดประตูห้องแทนอมยิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนเคาะประตู
“มีอะไรหรอครับน้องเฟย์ ยิ้มใส่พี่แปลกๆนะ” โทโมะจับหน้าตัวเองอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“เปล่าค่ะ เฟย์แค่แปลกใจเฉยๆ ต้องมารับกันถึงห้องเลยหรอคะ” เฟย์ยิ้มล้อเลียน เธอค่อนข้างมั่นใจว่าประธาน T.M. Groupต้องแอบมีใจให้เพื่อนรักเธอแน่ๆ
“ก้...ผม ชวนแก้วเค้าไปทานอาหารว่างกับเจ้าของโรงแรม ก็เลยมารับนี่งัย แหะๆ” โทโมะยิ้มแก้เก้อ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องเขิน
“อ้อออ อย่างงี้นี่เอง งั้นเชิญค่ะ” เฟย์พยักหน้ารับแต่รอยยิ้มและแววตาล้อเลียนยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยๆ ก่อนจะเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในห้อง
“เดี๊ยวเฟย์มานะ ไปหากระเป๋าที่ล๊อบบี้ก่อนเหมือนจะหายไปใบนึง” เฟย์เดินออกจากห้องไปทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งรออยู่บนโซฟาคนเดียว
“ยัยเฟย์ มาติดกระดุมหลังให้หน่อยดิ” เสียงใสแต่แอบห้าวของสาวน้อยดังมาจากห้องนอน ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวา อย่างหาความช่วยเหลือ น้องเฟย์นะน้องเฟย์ จะไปหากระเป๋าอะไรตอนนี้
“เร็วๆสิ เข้ามาเลยนะประตูไม่ได้ล๊อค” สาวน้อยยิ่งเร่งชายหนุ่มเหงื่อยิ่งตก แต่ทำงัยได้ในเมื่อเขาคือคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้ไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร
โทโมะเดินเข้าไปในห้องอย่างประหม่า ในหัวก็จินตนาการโน่นนี่ไปต่างๆนานาตามที่เคยดูในละครกับคุณแม่ ในฉากที่พระเอกจะต้องช่วนางเอกแต่งตัว(พระเอกเราขี้มโนมากข่ะ)
“เห้ย!” สาวน้อยสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนที่เข้ามาไม่ใช่เพื่อนซี้แต่เป็นเจ้านายของเธอ
- เพล้ง –
จินตนาการฉากโรแมนติกในหัวพระเอกพังหมดค่า
“ก้ เฟย์ไม่อยู่ไปหากระเป๋า เห้ย คุณใจเย็นๆ” โทโมะรีบแก้ตัวเมื่อสาวน้อยไม่ฟังคำอธิบายแล้วปิดประตูใส่เขาดีที่เขาใช้ตัวบังประตูไว้
“นี่บอส ฉันยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย ออกไปก่อน” สาวน้อยใช้แรงที่มีอยู่น้อยนิดพลักชายหนุ่มออกไป
“เอ้า แล้วใครจะติดกระดุมให้คุณหล่ะ” โทโมะแย้ง
“ไม่ต้องฉันจัดการเองได้” สาวน้อยยังไม่ละความพยายามที่จะพลักชายหนุ่มออกไปจากห้อง
“ไม่ต้องเลยคุณมานี่มา” ด้วยแรงที่มีมากกว่าทำให้เธอแพ้ไปโดยปริยาย ชายหนุ่มจัดการจับสาวน้อยหันหลังแล้วจัดการติดกระดุมให้อย่างใจเย็น ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะต้องสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองมากขนาดนี้ ทั้งๆที่แผ่นหลังเนียนสวยแบบนี้ผ่านตาเขามาตั้งไม่รู้กี่คนต่อกี่คนแล้ว (หมายถึงนางแบบ ศิลปินในค่ายหน่ะ พระเอกของเราไม่ใช่คนเจ้าชู้นะค้า)
ตึกๆๆๆๆ
เสียงหัวใจสองดวงที่อยู่ใกล้กันแข่งกันเต้นอย่างไม่มีใครยอมใครในห้องเงียบๆ ทำให้เสียงนั้นมันชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“อื้มม เสร็จแล้ว” โทโมะเป่าปากอย่างโล่งอก
“ขอบคุณนะ” สาวน้อยอ้อมแอ้มตอบ
“เอ่อ..งั้นผมไปรอข้างนอกนะ” ชายหนุ่มเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะรีบเดินออกไป
“ใจเย็นๆจริญญญา ห้ามหวั่นไหวเด็ดขาด” สาวน้อยเอามือทาบอกราวกับจะบอกหัวใจตัวเองให้เต้นช้าลงกว่านี้
“เสร็จแล้วไปกันเถอะ” สาวน้อยปิดประตูห้องนอนก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มที่จ้องเธอไม่วางตา
“เอ่อ หน้าฉันมีอะไรติดรึเปล่า” สาวน้อยเริ่มประหม่า จับหน้าตัวเองอย่างไม่มั่นใจ
“ห๊ะ!อ่อ เปล่า ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มคว้ามือสาวน้อยเดินออกไปด้วยความเคยชิน
“ฉันว่ามันต้องมีซัมติงรองแน่ๆ ไม่ธรรมดาจริงๆคู่นี้” สาวเปรี้ยวที่แอบอยู่หลังประตูยิ้มอย่างมีเลศนัย งานนี้คงได้เห็นเพื่อนเธอสละโสดจริงๆแล้วหล่ะ
“สวัสดีค่ะคุณโทโมะ อ้าวว คุณแก้วมาด้วยหรอคะ เชิญเลยค่ะ เต็มที่นะคะงานนี้พิมเลี้ยงเอง” พิม ทายาทคนโตของโรงแรมแห่งนี้เดินออกมาต้อนรับทั้งคู่ด้วยตัวเอง แถมยังถือวิสาสะคว้าตัวโทโมะมาควงแขนอีกต่างหาก
“ค่ะ” สาวน้อยเบ้ปากกรอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้
“มาค่ะคุณโทโมะ เดี๊ยวพิมดูและคุณเองนะคะ” พิมไม่รอฟังคำทัดทานของโทโมะ รีบลากชายหนุ่มเข้าไปข้างในทันที
“เดี้ยวพิมจะดูแลคุณเองนะคะ” สาวน้อยดัดเสียงเลียนแบบท่าทีของพิมมื่อครู่ด้วยความหมั่นไส้สุดตัว ก่อนจะหันไปสนใจกับบรรดาขนมหวานของโปรดของเธอ
“มาค่ะ พิมป้อนนะคะ” หญิงสาวคะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มทานขนมเค้กที่อยู่ในมือของเธอ
“เอ่อ ผมว่าผมทานเองดีกว่านะครับ” โทโมะปัดมือเล็กออกอย่างสุภาพก่อนจะหยิบขนมเค้กจากชั้นวางมาทานเอง
“ให้พิมป้อนไม่ได้หรอคะ พิมอยากป้อนคุณโทโมะนี่น่า นะคะให้พิมป้อนนะ” พิมยังคงตื้อไม่เลิก
“ไม่ดีกว่าครับ” โทโมะปฏิเสธ เขาเริ่มชินเสียแล้วกับการที่มีหญิงสาวมากหน้าหลายตามาเสนอตัวให้เขา แต่ก็นั่นแหละผู้หญิงพวกนั้นไม่มีค่าพอให้เขาสนใจหรอก
“ผมว่าผมไปหาแก้วดีกว่า ทิ้งไว้คนเดียวไม่ดีแน่”
“เดี๊ยวพิมจัดคนไปดูแลคุณแก้วเองค่ะ โทโมะคะ โทโมะ ฮึ่ยย กลับมานี่สิคะ”
โทโมะรีบชิ่งออกมาโดยไม่สนเสียงโวยวายของพิมแม้แต่น้อย
“มานี่เลยคุณไม่ต้องกินแล้ว” ชายหนุ่มคว้ามือผู้กำกับสาวที่กำลังตักช๊อคโกแลตเข้าปากอย่างรวดเร็ว
“อะไรของบอสเนี่ย” สาวน้อยงงกับการกระทำของผู้เป็นเจ้านายที่หน้าตาตื่นวิ่งโร่มาหาเธอทั้งๆที่พึ่งถูกลูกเจ้าของโรงแรมลากไปไม่นาน
“คุณนั่นแหละไม่ช่วยผมเลย เกือบไม่รอดแล้วมั้ยหล่ะ” ชายหนุ่มทำหน้าดุ
“เอ้า ไม่ชอบหรอ” สาวน้อยตอบกลับอย่างล้อเลียน
“ชอบอะไรเล่า คุณก้รู้ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้”
“อ้าวหรอออออ” สาวน้อยยังล้อเลียนไม่เลิก ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
“เรื่องนั้นไว้ก่อนไปเถอะ” เมื่อสายตสคมเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่เขาพึ่งหนีมากำลังมองหาเขาอยู่ก็รีบลากสาวน้อยออกไปจากตรงนั้นทันที
“แฮกๆๆ บอส ฉันเหนื่อยแล้ว หยุดวิ่งเดี๊ยวนี้นะ วิ่งมาไกลพอแล้ว” สาวน้อยรีบตะโกนเบรคเจ้านายที่พาเธอวิ่งอย่างลืมตัว
“โทษทีๆ” ชายหนุ่มรีบหยุดแล้วประคองสาวน้อยที่บัดนี้หน้าแดงจัดด้วยความเหนื่อยไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆสระว่ายน้ำของโรงแรม
“ไหวมั้ยคุณ” ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวๆ ฉันโอเค”
ไม่กี่วินาทีต่อมาร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่ทั้งคู่คุ้นเคยเป็นอย่างดีก็ค่อยๆเดินมาทางที่ทั้งคู่นั่งอยู่
“อ้าว มาสวีตกันอยู่ที่นี่เองหรอ ไหนพนักงานบอกว่าไปทานอาหารว่างกับเจ้าของโรงแรมไม่ใช่หรอครับเพื่อน” เขื่อน รองประธานบริษัท T.M. Entertainment ลูกพี่ลูกน้องของโทโมะ และเพื่อนสนิทแก้วใจ ที่พึ่งเดินทางมาถึงเอ่ยแซว
“น้อยๆหน่อยไอเขื่อน หายหัวไปตั้งหลายวันยังจะมาปากดี”
“แหม บอส ช่างธุระผมก่อนเถอะ ยังงัยๆสองคนนี้สวีตริมสระน้ำหรอครัช” เขื่อนยังคงเดินหน้าแซวต่อไป
“ลาออกจากรองประธานแล้วไปสมัครเป็นบาริสต้าเลยค่ะ ชงเก่งมาก” สาวน้อยเบ้ปากประชดเพื่อนซี้
“อย่ามาทำเป็นประชดกลบเกลื่อนสิที่รัก” เขื่อนนั่งลงบนขอบเก้าอี้ที่สาวน้อยนั่งอยู่พร้อมโอบไหล่สาวน้อยอย่างถือวิสาสะ
“เห้ยๆ เอามือออก แก้วเค้าเป็นผู้หญิงนะเว้ย เธอนี่ก้อีกคนไอเขื่อนมันเป็นผู้ชาย ไปยอมให้มันแตะเนื้อต้องตัวได้งัย” โทโมะลากเขื่อนมานั่งข้างๆตนแทนด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดอะไรก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง
“อะไรของบอสฮะ เขื่อนก็เพื่อนฉันมะ นิดๆหน่อยๆฉันถือที่ไหน เป็นแบบนี้มาตั้งนาน มามีปัญหาอะไรตอนนี้ หงุดหงิดอะไร”สาวน้อยจ้องหน้าผู้เป็นเจ้านายอย่างไม่ยอมแพ้
“ก็...ก็...” โทโมะอึกอักพูดไม่ออก เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเป็นอะไรทำไมเขาต้องหงุดหงิดเมื่อเขื่อนมาเข้าใกล้แก้วด้วย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“อันแหนะ หึงอ่ะดี๊ ฮะๆ” เขื่อนเขี่ยแก้มโทโมะพลางหัวเราะชอบใจ
“พูดอะไร ฉันจะไปหึงทำไม บ้า” ชายหนุ่มพยายามปฏิเสธ
“แล้วแต้ ไม่ยอมรับก้แล้วแต่”
“ดูเพื่อนคุณสิ เป็นอะไรก็ไม่รู้” เมื่อหมดทางต่อกรกับลูกพี่ลูกน้องตัวแสบ ชายหนุ่มเลยหันไปหาเรื่องสาวน้อยแทน
“เอ้า ญาติคุณนั่นแหละ เลี้ยงกันมายังงัย” สาวน้อยเถียงกลับทันควัน
“นี่คุณเถียงผมหรอ”
“เออ มีไรมะ”
“โอเค้ เล่นแบบนี้ใช่มั้ย”
“นี่บอสหาเรื่องฉันก่อนนะ”
“(&^$”#&^*()*+(*^*”
“@#^%&*()+*_(**”
“@#$%^&*”
“)(*&^%$%^&*()”
เขื่อนมองทั้งคู่เถียงกันแล้วอดยิ้มไม่ได้ เขานึกภาพเกือบไม่ออกเลยจริงๆว่าถ้าสองคนนี้รักกันขึ้นมาจริงๆตามที่เขาเที่ยวชงเที่ยวจิ้นมาหลายปีมันจะเป็นอย่างไร
ช่างเป็นมวยที่ถูกคู่จริงๆเลย คุณว่ามั้ย?
อีกด้านหนึ่งของโรงแรม
น้ำใสๆไหลออกมาจากนัยตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยที่คนทั้งประเทศคลั่งไคล้ แต่อย่างไรก็ตามต่อให้
เธอโด่งดังไปทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่ว่าใครก็รู้จักและชื่นชอบเธอ คงจะมีอยู่เพียงคนเดียวที่เธอไม่เคย
แม้จะอยู่ในสายตาเขาเลยด้วยซ้ำไปแถมยังเอาความสนใจทั้งหมดเบนไปให้ผู้กำกับสาวสายที่คอย
ต่อล้อต่อเถียงกับเขาอยู่ตลอดโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เท่านั้นยังไม่พอ ฟ้ายังกลั่นแกล้งให้คน
คนนั้นเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจของเธอมาตลอด เมื่อรักนี้ไม่ได้มีแค่คนสองคน ยังงัยๆก็ต้องเมีใครคน
นึงต้องเจ็บ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาคนคนนั้นก็เป็นเธอมาโดยตลอด เธอต้องยินยอมรับความเจ็บ
ปวด เก็บความรักที่เขาไม่อาจรับไปได้ไว้อย่างอกตรมมานานหลายปีโดยที่เธอไม่เต็มใจ พอกันที
กับความเจ็บปวด พอกันที่กับน้ำตา ในเมื่อเป็นนางเอกแสนดีแล้วเขาไม่เคยเห็นค่า ในเมื่อ
หัวใจมันร้องเรียกหาแต่เขา คงถึงเวลาที่เธอจะลุกขึ้นสู้เพื่อหัวใจของเธอบ้างแล้ว ฟางปาดน้ำตา
ของตนอย่างลวกๆ แววตาเศร้าสุดใจเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งการเอาชนะ สนามรักสนามรักในครั้งนี้
เธอจะต้องไม่เป็นผู้แพ้อีกต่อไป
"แล้วมาดูกัน ว่าเธอกับฉัน ใครมันจะแน่กว่ากัน"
ง๊าาาาาา เค้ามาแล้ว
กราบขอโทษแฟนคลับพี่ฟางทุกท่านล่วงหน้านะคะ
ที่ให้พี่ฟางรับบทร้าย (เพื่อความสนุกน้าาาาา)
ไม่โกรธกันเนอะ อิอิ
เจอกันแชปหน้าค่ะ
Ps1 เม้นติชม แสดงความเห็นได้ตามสบายนะคะ รออ่านอยู่นะ เม้นกันมาเยอะๆน้าาาา
Ps2 ทุกเม้นของรีดเดอร์คือกำลังใจของไรท์เตอร์ค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ