"PASSION HOST" (Chanbaek)
-
เขียนโดย Lacto
วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.43 น.
8 ตอน
0 วิจารณ์
74.06K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 มกราคม พ.ศ. 2558 16.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) ( CH.10 ) PASSION HOST - Chanbaek
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ10
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีลูกแกะน้อยตัวหนึ่งพลัดจากฝูงแล้วเดินหลงทางอยู่ในป่าใหญ่...”
“ชะ...”
“ลูกแกะน้อยรู้สึกหวาดกลัวและปรารถนาเพียงจะพบใครซักคนในเวลานั้น มันเดินวนไปวนมาจนกระทั่งได้พบกับ...”
เสียงทุ้มเว้นจังหวะไปชั่วครู่เพื่อให้แบคฮยอนตอบคำถาม และเหมือนจะเป็นจังหวะพอดีกันกับที่แบคฮยอนขานชื่ออีกคนออกไป
“ชานยอล”
“ผิดแล้ว... หมาป่าต่างหากล่ะ” ศีรษะส่ายไปมาคล้ายกับจะเสียอารมณ์ที่คนตัวเล็กตอบผิด แต่ไม่นานนักเขาก็เล่านิทานต่อ “ลูกแกะวิ่งเข้าไปหาหมาป่าทันที ไม่ได้สนใจเลยว่าหมาป่าจะกัดกินตนเป็นอาหารหรือไม่ เพราะสิ่งที่ลูกแกะต้องการก็คือที่พึ่งพิงในเวลานี้เท่านั้น”
ร่างสูงเอนตัวลงนอนแล้วพิงหลังไว้กับหัวเตียงพลางยกบุหรี่ในมือขึ้นสูบแล้วปล่อยควันสีเทาหม่นออกมาจากทางปาก
“หมาป่าซึ่งเห็นว่ามีอาหารเข้ามาถึงที่แล้วและคงไม่ไปไหนแน่จึงคิดละครตบตาลูกแกะน้อยด้วยการเป็นคนดี หลอกล่อลูกแกะว่าจะพาไปส่งฝูงแต่มันกลับพาเดินเข้าไปในป่าลึกกว่าเดิม”
“นายเข้ามาที่นี่ได้ไงน่ะ!”
“จุ๊ๆ” นิ้วชี้ข้างที่ว่างยกขึ้นแตะริมฝีปากแล้วทำหน้าดุประกอบคล้ายกับว่าแบคฮยอนเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่พูดขึ้นมาขัดจังหวะการเล่านิทานของเขาก่อนจะเล่านิทานต่อไปอีก “หมาป่าพาลูกแกะเดินวนเวียนในป่าลึก ทั้งวังเวงและหนาวเหน็บเหลือเกินแต่ด้วยความหวังว่าจะได้พบเจอกับสิ่งที่ตัวเองหวังจึงไม่ได้เอะใจอะไรเลยแม้แต่น้อย ผิดกับหมาป่าที่เริ่มหมดอารมณ์จะเล่นสนุกด้วย...”
ชานยอลลุกขึ้นยืนก่อนจะโยนบุหรี่ทิ้งลงบนพื้น นัยน์ตาสีรัตติกาลวาววับในความมืด ราวกับดวงตาของสัตว์ป่าดุร้ายเมื่อต้องกับแสงจันทร์
“มันรู้สึกหิวกระหาย... อยากจะกินเนื้อนุ่มๆ หวานๆ ของลูกแกะใจจะขาด และเมื่อคิดได้ดังนั้น...” ขายาวย่างก้าวอย่างช้าๆ ตรงไปหาผู้ฟังที่ดีที่คล้ายกับโดนมนต์สะกดตรึงขาทั้งสองข้างไม่ให้ก้าวหนีไปได้ “มันก็เดินเข้าไปหาลูกแกะ ใช้กรงเล็บจิกลงบนต้นคอแล้วแลบลิ้นออกมาเลียชิมเนื้อหวาน”
“อ๊ะ!”
“ลูกแกะสะดุ้งโหยงอย่างตกใจความผิดปกติของหมาป่าผู้ใจดีเริ่มทำให้ลูกแกะน้อยตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ครั้นจะวิ่งหนีไปก็ไม่สามารถทำได้” ชานยอลโน้มใบหน้าลงกับซอกคอแล้วทำทุกๆอย่างตามเนื้อเรื่องของนิทานที่กำลังดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่มือหนาข้างหนึ่งก็รั้งลำคอเอาไว้และเล็บยาวก็จิกเข้าเนื้อจนรู้สึกเจ็บ ร่างบางเริ่มดิ้นขัดขืน มือทั้งสองข้างพยายามจะผลักอีกคนให้ห่างไปจากตัวแต่ก็ไม่ได้ผล
“ลูกแกะน้อยค่อยๆ ตั้งสติ มันคิดว่าต้องหนี... หนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เหมือนหมาป่าจะรู้ทัน...” ริมฝีปากแสยะยิ้มก่อนจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วจับแขนแบคฮยอนก่อนจะเหวี่ยงคนตัวเล็กลงบนเตียง “มันจับลูกแกะตัวน้อยเหวี่ยงลงบนพื้นก่อนจะกระโจนเข้าใส่”
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะชานยอล!!”
“ลูกแกะตะโกนร้องขอความเห็นใจแต่... ความหิวโหยก็เข้ามาควบคุมจิตใจจนหมดสิ้น และท้ายที่สุดหมาป่าก็...”
“อื้ออ!”
ริมฝีปากประกบแนบสนิท กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่เข้มข้นเสียจนแบคฮยอนแทบจะสำลัก ความขมปร่าของรสเหล้าที่ปลายลิ้นถูกส่งต่อเมื่อลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปากแล้วไล่ต้อนลิ้นเรียวจนจนมุมแล้วถอนริมฝีปากออกไป มือหนายกขึ้นเสยผมสีดำที่ลงมาปรกใบหน้าก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียรอบริมฝีปากที่มีหยาดน้ำสีใสติดอยู่ประปราย
“หวานจริงๆ นะ ลูกแกะตัวน้อย”
“!!!”
ร่างบางรีบผลักคนที่นอนทับอยู่จนเสียหลักและเตรียมจะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไหวตัวทันจึงเอื้อมมือไปกระตุกปมผ้าผืนน้อยที่คาดเอวเอาไว้ออกแล้วกระชากแขนอย่างแรงจนแบคฮยอนเสียหลักล้มลงอีกครั้ง ชานยอลขึ้นคร่อมทันที เขาคาบผ้าที่ดึงมาได้ไว้ที่ปากแล้วจัดการแขนทั้งสองข้างของแบคฮยอนชูขึ้นไปเหนือศีรษะและผ้าผืนนั้นก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องพันธนาการไม่ให้คนตัวเล็กสามารถหนีไปไหนได้
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
แบคฮยอนดิ้นเร่าเมื่อร่างเปลือยเปล่าถูกปรากฏแก่สายตา ทั้งกระดากอายและโกรธแค้นที่อยู่ดีๆ ชานยอลก็มาทำกับเขาแบบนี้
มันจะเกินไปแล้ว!
“โธ่... เจ้าลูกแกะที่น่าสงสารได้แต่ดิ้นทุรนทุรายปานจะขาดใจ...” ใบหน้าคมคายแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ราวกับว่ามีความสุขเหลือเกิน “จะทำอย่างไรดีล่ะ ค่อยๆ ทรมานก่อนจะกลายเป็นอาหาร...”
“ปล่อย!!”
“หรือ.... จะจับกินเลยดีนะ ? หึหึ”
“ยะ... อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ!”
หากแต่ชานยอลไม่ฟังคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น ใบหน้าคมคายฝังลงกับซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นสบู่หอมๆ จากตัวของแบคฮยอนทำให้เขานึกอยากสวมบทเป็นหมาป่าจริงๆ แล้วขย้ำคนภายใต้อาณัตินี่ซะให้สิ้นซาก
“ทำไม... ถึงได้น่ากินแบบนี้นะ”
“อ๊ะ!”
ริมฝีปากหยักดูดเม้มเนื้ออ่อนที่คอจนขึ้นสีเข้ม ชานยอลเริ่มเอาแต่ดูดเม้มไปทั่วและบางครั้งเรียวลิ้นก็แลบเลียร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ นัยน์ตาสีรัตติกาลถูกปิดสนิทด้วยเปลือกตา เขากำลังหลับตาลงแล้วจินตนาการถึงใบหน้าของแบคฮยอนในตอนนี้ที่กำลังขึ้นสีระเรื่อและพยายามเม้มปากเพื่อกลั้นเสียงร้องเอาไว้แม้ว่าร่างกายจะดิ้นเร่าราวกับยั่วยวนอยู่ก็ตาม
คนเคยค้า ม้าเคยขี่... ต่อให้หัวใจอยากจะต้านทานแต่ร่างกายกลับทำงานกลับกัน...
“พอ... พอแล้ว!”
เสียงหวานสั่นเครือดังขึ้นเมื่อชานยอลเริ่มซุกซนกับเรือนร่างเขามากเกินไป รอยเก่าที่ทำเอาไว้ก็ยังไม่หายดีแล้วยังมีหน้ามาทำรอยใหม่เอาไว้ให้เขาต้องโดนเพื่อนมองไม่ดีอีกรอบ... ปาร์คชานยอล!
ไอ้คนนิสัยไม่ดี!!
คนตัวเล็กพยายามกระชากข้อมือของตนให้หลุดจากผ้าที่ใช้พันธนาการเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล ปมถูกมัดอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้เขาสามารถกระตุกมันออกไปได้เลย
“อย่าดิ้นรนไปหน่อยเลยน่าลูกแกะ... จะทำอย่างไรนายก็ไม่รอดหรอก”
“เลิกเล่นซักทีได้มั้ย!”
“งั้นเอาจริงเลยก็แล้วกัน”
“โอ๊ย!”
ฟันคมกัดเข้าที่ยอดอกจนแบคฮยอนสะดุ้ง แต่ความเจ็บก็ทุเลาลงเมื่อลิ้นร้อนเลียไปรอบฐานแล้วดูดเบาๆ อย่างเอาใจผิดกับสิ่งที่ทำก่อนหน้านี้ มือหนาลูบลงไปตามลำตัวอย่างแผ่วเบาจนไปถึงเอวคอดก่อนที่ปลายเล็บมนจิกลงเนื้ออย่างแรง
“ฉันเจ็บนะ!!”
“อ่อ... โทษที ฉันคงอินกับบทไปหน่อยน่ะ”
พรึ่บ!
ชานยอลยันตัวขึ้นแล้วปลดกระดุมเสื้อออกจนหมดแล้วกระชากเสื้อเชิ้ตสีดำออกจากตัว มือหนาพับเสื้อนั่นเป็นผืนยาวก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะปรากฏบนใบหน้าให้เขาได้ขนลุกชันอีกครั้ง... ก็ทุกครั้งที่ชานยอลคิดจะทำอะไรแผลงๆ เขามักจะเห็นรอยยิ้มแบบนี้เสมอ
“ลองอะไรที่มันเร้าใจกันบ้างดีกว่า”
พูดจบก็โน้มตัวลงมาแล้วใช้ผ้าคาดที่ดวงตาเอาไว้แล้วอ้อมไปมัดที่ด้านหลังศีรษะของแบคฮยอนทันที คนตัวเล็กได้แต่อ้าปากค้าง บางทีที่เขาคิดเอาไว้ว่าชานยอลมีรสนิยมทางเพศที่ผิดปกติอาจจะเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นซินะ!
ภาพตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความมืดทันที เขาไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าตอนนี้คนที่คร่อมตัวเขาอยู่นั้นกำลังทำอะไร มีแค่เสียงขยับตัวเท่านั้นที่พอจะเดาได้ว่าชานยอลกำลังทำอะไรอยู่
“อื้มม...”
ริมฝีปากนุ่มร้อนฝังลงบนกลีบปากสวยแล้วดูดเลียอย่างแผ่วเบา ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพลงปากอีกรอบแล้ววนไปรอบๆ อย่างหยอกเย้าก่อนจะหยุดลงที่ลิ้นเรียว ชานยอลแตะลิ้นลงอย่างหยั่งเชิงก่อนที่จะเริ่มชักพาอารมณ์ของเขาให้โหมขึ้นตามเมื่อมือหนาประคองใบหน้าของเขาเอาไว้แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไปมาที่ปลายคาง
อ่อนโยน... อ่อนโยนราวกับคนละคนเลยจริงๆ
แบคฮยอนแลกลิ้นตอบกลับแล้วบดเบียดริมฝีปากจนแนบชิด ความขมปร่าของแอลกอฮอล์ที่ปลายลิ้นของชานยอลอาจจะทำให้เขากำลังเมามายตามไปด้วยล่ะมั้ง... เขาถึงได้อยากทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้อีกแล้ว
ชานยอลถอนจูบออกแล้วแทรกตัวมาอยู่ตรงกลางระหว่างเรียวขาขาวที่เปลือยเปล่า มือหนาจับขาเรียวทั้งสองข้างให้พาดบนไหล่กว้างก่อนจะโน้มตัวลงไปจี้ปลายลิ้นที่จุดแต้มสีน้ำตาลอ่อนบนเรือนกาย แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงเมื่อลิ้นร้อนเขี่ยดุนแรงๆ ที่ยอดอกและใช้มือข้างที่ว่างบีบเค้นที่อกอีกข้างจนขึ้นสีแดง
“ฮื้ออ!”
ลิ้นร้อนไล่ลงมาจนถึงแอ่งหลุมกลางหน้าท้องแล้วเลียวนรอบๆ ก่อนที่จะไต่ระดับลงไปเรื่อยจนถึงแกนกายเล็กที่แข็งขึ้นเพราะอารมณ์ที่ถูกปลุกปั้นขึ้นมาหากแต่ชานยอลกลับละเลยสิ่งสิ่งนั้นไปแล้วให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ต่ำกว่า
มือหนาประคองแก้มก้นอวบอิ่มเอาไว้ ลมหายใจร้อนๆ พ่นลงบริเวณนั้นทำให้แบคฮยอนถึงกับขนลุกชัน มือที่ถูกมัดเอาไว้เริ่มบีบเข้าหากันเพราะลุ้นในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่ตนเองมองไม่เห็น มีเพียงสัมผัสที่ได้รับเท่านั้นที่ทำให้รู้สึก...
“อ๊ะ... อ๊าาา!!”
เพียงแค่ลิ้นร้อนแหวกชำแรกเข้าไปเสียงหวานๆ ก็ถึงกับครางลั่นห้อง ใบหน้าแหงนเงยขึ้นจนเหนือหมอน เล็บทั้งสิบจิกลงกับฝ่ามืออย่างสุดแรงเมื่อลิ้นนั่นสอดเข้าดึงออก สอดเข้าแล้วดึงออกเป็นจังหวะ แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นไม่ติดฟูกแล้วขย่มสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะอย่างลืมตัว ริมฝีปากก็เผยอหอบคราง และยิ่งดังขึ้นอีกเมื่อมือของอีกคนบีบเฟ้นบั้นท้ายของเขาอย่างมันมือ
“อะ... อ๊ะ...”
ชานยอลถอนลิ้นออกไปแล้วแลบลิ้นลากผ่านแกนกายปริ่มน้ำก่อนที่น้ำเสียงทุ้มจะเอ่ยถามในคำถามที่น่าอาย
“เมื่อกี้... เสียวมั้ย?”
“มะ... ไม่! อ๊ะ!!”
“ไม่จริงๆ เหรอ?”
“อื้อออ!”
นิ้วกลางแทรกเข้าไปในช่องทางพร้อมกับชานยอลที่เคลื่อนกายมาคร่อมเขาเอาไว้อีกครั้ง นิ้วยาวกระแทกเข้าออกแรงๆ ราวกับว่าจะจงใจกลั่นแกล้งให้แบคฮยอนยอมรับความจริงในคำตอบ
“ถามว่าเสียวมั้ย ?”
“มะ... ไม่… อึก!”
“ถ้าไม่... จะหยุดแล้วนะ”
และดูเหมือนว่าชานยอลจะพูดจริงทำจริง...
นิ้วที่กระแทกเข้ามาในช่องทางเมื่อครู่หยุดการเคลื่อนไหวทันทีเมื่อพูดจบ แบคฮยอนถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าชานยอลจะทำตามอย่างที่พูดจริงๆ แล้วทีนี้เขาจะทำไงล่ะ ไหนจะผ้าที่มัดมือเอาไว้ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ แล้วเสื้อที่ปิดตาจนทำให้มองไม่เห็นนี่อีก
ไม่นะ... ถ้าชานยอลไม่ทำอะไรซักอย่างเขาต้องตายแน่ๆ!
“ชาน...”
เสียงหวานแผ่วเบาเรียกชื่ออีกคนจนต้องหันไปมอง ร่างสูงที่แกล้งลุกไปยืนอยู่ปลายเตียงถึงกับหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่
ใบหน้าที่ดูเหมือนจะต้องการให้เขาเข้าไปเติมเต็มซักที
“...”
“เรียกทำไม?”
“แกะ... แกะผ้านี่ออกให้ที”
แบคฮยอนขอในสิ่งที่ไม่น่าอายเกินไปและคำขอนั่นยิ่งทำให้ชานยอลนึกสนุก เขาค่อยๆ เดินไปทางหัวเตียงแล้วใช้มือจับเบาๆ ที่ข้อมือที่มีผ้ามัดตรึงเอาไว้กับหัวเตียงอยู่ แต่ด้วยนึกสนุกจึงแกล้งด้วยการลากมือหนาลงไปจนถึงผ้าที่ปิดตาอีก
“จะให้แกะตรงไหนล่ะ...”
“มะ... มือ”
“มือเหรอ”
ชานยอลขึ้นไปคร่อมร่างนั้นอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากหยักจะกดลงบนหลังมือเล็กทั้งสองข้าง
“มือแล้วยังไงต่อ ?” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์จากนั้นก็ลากริมฝีปากคลอเคลียกับเนื้อขาวจนถึงขมับแล้วประทับจูบลงบนนั้นอีก
“ดูเหมือนลูกแกะจะหวาดกลัวจนเหงื่อออกมาทั้งตัวแล้วนะครับ”
“...”
“เอ... จะเริ่มกินจากตรงไหนดีนะ”
“อึก!”
นิ้วยาวลากผ่านยอดอกอย่ากลั่นแกล้งก่อนจะใช้นิ้วสะกิดมันเบาๆ แล้วต่ำลงไปจนถึงแกนกายสั่นระริก มือหนาค่อยๆ กอบกุมมันไว้ในมือและนิ้วหัวแม่มือก็ลากถูไปมาที่ส่วนปลายซึ่งเยิ้มไปด้วยน้ำสีใสที่ถูกปล่อยออกมาเพราะความต้องการ
ดูเหมือนว่าลูกแกะจะทนมาจนถึงที่สุด ฟันเล็กเรียงตัวสวยขบกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ เมื่อมือนั่นเริ่มรูดรั้งขึ้นลงเนิบนาบ
“ชะ... ชานยอล…”
“หืม ?”
“ฉัน... ฉัน... อ๊ะ!”
มือหนาจับร่างทั้งร่างให้พลิกคว่ำจากนั้นก็ถูกยกช่วงบั้นท้ายให้ลอยขึ้นเหนือฟูก คนที่โดนปิดตาอยู่ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองเมื่อได้ยินเสียงหัวเข็มขัดกระทบกันในโลกแห่งความมืดมิดของตนเอง
และอีกไม่นานเกินรอชานยอลคงจะเป็นคนที่มอบแสงสว่างมาให้กับเขา...
กางเกงยีนส์ กางเกงชั้นในกับเข็มขัดถูกขว้างลงไปจากเตียง ชานยอลเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ เขาใช้มือลูบแผ่นหลังเนียนจนมาถึงสะโพกกลมมน ยิ่งเขาเห็นว่าร่างบางนี่สั่นแรงขนาดไหนเขาก็ยิ่งอยากจะแกล้งด้วยการยืดเวลาไปให้นานกว่านี้อีกซักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ความอดทนของเขามันขาดหายไปตอนที่เห็นว่าฟันเล็กนั่นกัดกลีบปากสีเชอร์รี่แน่น แถมใบหน้าและลำตัวยังขึ้นสีจนน่าหลงใหลจนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้อีก
“ถ้าเจ็บก็บอกนะ...”
“...”
“แต่ฉันคงไม่หยุดหรอก”
“อะ...”
ส่วนปลายถูกแทรกเข้าไปในช่องทางที่ถูกเปิดทางมาได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น และขนาดของชานยอลก็ใหญ่จนกลายเป็นเรื่องยากที่จะสอดใส่เข้าไปได้ภายในรวดเดียว
ร่างสูงขบกรามแน่น ความคับแน่นของแบคฮยอนทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นปล่อยเสียงครางทุ้มออกมา ส่วนแข็งขืนค่อยๆ สอดลึกเข้าไปอย่างใจเย็นเพราะรู้ดีว่าถ้าฝืนกระแทกกระทั้นเข้าไปแบคฮยอนคงจะเจ็บตัวหนักกว่านี้แน่ๆ
“อ่าห์...”
“ฉัน... เจ็บ”
“ก็มันใหญ่ขนาดนี้ นายก็เลยเจ็บ”
“อึก...”
แบคฮยอนซุกหน้าลงกับหมอน ได้แต่จิกมือตัวเองเพราะความเจ็บปวดที่ช่องทางด้านหลัง
ชานยอลเคลื่อนกายเข้าไปจนสุดแล้วแช่ทิ้งไว้ซักพัก ริมฝีปากเล็กเผยอรับออกซิเจนเข้าปอดเมื่อความใหญ่โตเข้ามาข้างใน สะโพกกลมถูกยกขึ้นให้ลอยมากกว่าเดิม ร่างสูงเริ่มเคลื่อนกายเข้าออกเนิบนาบ ท่อนเนื้อร้อนถูกเสียดสีกับผนังด้านในจนรู้สึกแสบ แต่เมื่อความเชื่องช้าถูกเร่งจังหวะ ความรู้สึกก็แปรเปลี่ยนไปทันที
ชานยอลเหมือนสาดน้ำมันเข้ามาใส่แล้วก็โยนไฟเข้ามาจนเขาเหมือนโดนแผดเผา... แต่ในความทรมานนั้นมันช่างมีความสุขเกินกว่าจะปฏิเสธได้อีก
“อะ... อ๊ะ... อื้อ!”
เสียงหวานครางสั่น ขนาดของชานยอลช่างใหญ่เหลือเกิน มันสอดลึกเข้าไปจนกระแทกกับจุดกระสันด้านในและเมื่ออีกคนเห็นว่าเขาหลุดเสียงดังเมื่อไหร่ก็ยิ่งแกล้งกระเด้าเอวเข้ามาถี่รัวจนเขาแทบจะหายใจไม่ทัน
เพี้ยะ!
“อ๊า!”
มือหนาฟาดลงบนแก้มก้นเนียนขาวก่อนจะยืดตัวขึ้นจนสุด เสียงครางของแบคฮยอนราวกับเสียงของลูกแมวตัวน้อยที่อ้อนให้เจ้านายมอบความรักให้อย่างถึงที่สุด ชานยอลเอื้อมมือไปดึงเสื้อที่เขาใช้ปิดตาคนตัวเล็กเอาไว้และรวมไปถึงผ้าที่ใช้มัดมือเอาไว้ด้วย และเมื่อร่างกายถูกปลดปล่อยจากพันธนาการแบคฮยอนก็ถูกจับพลิกให้นอนหงายอีกครั้ง ขาทั้งสองข้างถูกจับพาดบนไหล่กว้าง ท่วงท่าที่เปิดเผยนั่นยิ่งทำให้ช่องทางเปิดรับท่อนเอ็นเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิม
ดวงตาเรียวรีสบตากับเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลนั่น ราวกับเห็นว่ามีประกายดวงดาวจากนัยน์ตานั้นแต่ไม่นานนักกลับถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดเมื่อเปลือกตาปิดลงในจังหวะที่ชานยอลหมุนควงสะโพกจนเสียวไปทั้งกาย
“อะ... อ๊ะๆๆ”
“เรียกชื่อฉัน...”
“ม... ไม่ อ๊ะ!”
“แบคฮยอน...” แววตากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ผมสีดำปรกลงบนใบหน้าเมื่อชานยอลโน้มตัวลงมา เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู “ถ้านายไม่เรียก... ฉันจะทำให้นายลุกเดินไม่ไหวเลยนะ”
คนโดนขู่กัดปากแน่น ชานยอล... ร้ายนักนะที่กล้าใช้ข้อเสนอแบบนี้ และเมื่อร่างสูงเห็นว่าเด็กดื้อไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เขาเลยยืดตัวขึ้นไปอีกรอบแล้วยกขาขึ้นสูงอีกจนสะโพกเล็กลอยขึ้นจากฟูกก่อนที่กายแกร่งจะกดตัวลงไปแล้วใช้แขนค้ำยันร่างกายเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปทับ
“มะ... มันลึกเกิน อ๊ะ! ป... ไป อ๊า!”
“เรียกชื่อฉัน เร็วๆซิ”
“ฮึก... อ๊ะ!”
“เร็วๆ ซิแบคฮยอน”
พูดพลางเร่งสวนสะโพกเข้าออกจนแบคฮยอนได้แต่หลับหูหลับตาคราง ดวงหน้าหวานสะบัดไปมาอย่างสุดจะทานทน มือเรียวสวยถูกสอดประสานเอาไว้ด้วยนิ้วทั้งห้าของชานยอล มือนั่นบีบมือเขาแน่นขึ้นจนเส้นเลือดปรากฏขึ้นมาให้เห็นและตัวเขาเองก็เหมือนจะเห็นแสงสว่างที่ปลายทางซึ่งอีกนิดเดียวก็จะก้าวไปถึงจุดนั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!”
“ถ้าไม่เรียกฉันจะหยุดแล้วนะ...”
“ชาน... อึก! ชานยอล!”
รอยยิ้มอย่างผู้ชนะปรากฏขึ้นอีกครั้งและเขาก็ให้รางวัลเด็กน้อยด้วยการเร่งจังหวะถี่ยิบจนแผ่นหลังบางไม่ติดเตียง แบคฮยอนจิกเล็บลงบนหลังมือเต็มแรง มันรู้สึกไหววูบไปทั่วทั้งท้องน้อย ความเสียวซ่านแล่นปราดจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงขั้วหัวใจในที่สุดแบคฮยอนก็วิ่งไปจนถึงแสงสว่างนั้นจนได้ ร่างกายกระตุกเกร็งเมื่อธารน้ำสีขาวขุ่นถูกฉีดเข้ามาเต็มแรงในช่องทางซึ่งเขาเองก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะไปทั้งหน้าท้อง
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาแล้วมอบจุมพิตที่กลีบปากหวานอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะลุกออกไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับผ้าผืนเล็กที่เคยใช้มัดข้อมือของเขาหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าที่เปียกชื้น
ชานยอลใช้ผ้าผืนนั้นเช็ดคราบน้ำรักที่เปรอะเปลื้อนบนหน้าท้องรวมไปถึงส่วนที่เป็นของที่ชานยอลปล่อยออกมาจนเลอะเรียวขา แล้วเมื่อร่างกายถูกเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยชานยอลก็ดึงผ้าห่มปลายเตียงมาห่อหุ้มร่างกายของทั้งสองคนเอาไว้
อ้อมแขนแกร่งดึงร่างบางเข้าไปจนชิด เขากดศีรษะแบคฮยอนลงกับแผ่นอกกว้างแล้วใช้มือลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน
“ดูเหมือนฉันจะลืมเล่าตอนจบไปหรือเปล่านะ”
กลับไปอ่านต่อที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1293838&chapter=10 นะฮับ
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีลูกแกะน้อยตัวหนึ่งพลัดจากฝูงแล้วเดินหลงทางอยู่ในป่าใหญ่...”
“ชะ...”
“ลูกแกะน้อยรู้สึกหวาดกลัวและปรารถนาเพียงจะพบใครซักคนในเวลานั้น มันเดินวนไปวนมาจนกระทั่งได้พบกับ...”
เสียงทุ้มเว้นจังหวะไปชั่วครู่เพื่อให้แบคฮยอนตอบคำถาม และเหมือนจะเป็นจังหวะพอดีกันกับที่แบคฮยอนขานชื่ออีกคนออกไป
“ชานยอล”
“ผิดแล้ว... หมาป่าต่างหากล่ะ” ศีรษะส่ายไปมาคล้ายกับจะเสียอารมณ์ที่คนตัวเล็กตอบผิด แต่ไม่นานนักเขาก็เล่านิทานต่อ “ลูกแกะวิ่งเข้าไปหาหมาป่าทันที ไม่ได้สนใจเลยว่าหมาป่าจะกัดกินตนเป็นอาหารหรือไม่ เพราะสิ่งที่ลูกแกะต้องการก็คือที่พึ่งพิงในเวลานี้เท่านั้น”
ร่างสูงเอนตัวลงนอนแล้วพิงหลังไว้กับหัวเตียงพลางยกบุหรี่ในมือขึ้นสูบแล้วปล่อยควันสีเทาหม่นออกมาจากทางปาก
“หมาป่าซึ่งเห็นว่ามีอาหารเข้ามาถึงที่แล้วและคงไม่ไปไหนแน่จึงคิดละครตบตาลูกแกะน้อยด้วยการเป็นคนดี หลอกล่อลูกแกะว่าจะพาไปส่งฝูงแต่มันกลับพาเดินเข้าไปในป่าลึกกว่าเดิม”
“นายเข้ามาที่นี่ได้ไงน่ะ!”
“จุ๊ๆ” นิ้วชี้ข้างที่ว่างยกขึ้นแตะริมฝีปากแล้วทำหน้าดุประกอบคล้ายกับว่าแบคฮยอนเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่พูดขึ้นมาขัดจังหวะการเล่านิทานของเขาก่อนจะเล่านิทานต่อไปอีก “หมาป่าพาลูกแกะเดินวนเวียนในป่าลึก ทั้งวังเวงและหนาวเหน็บเหลือเกินแต่ด้วยความหวังว่าจะได้พบเจอกับสิ่งที่ตัวเองหวังจึงไม่ได้เอะใจอะไรเลยแม้แต่น้อย ผิดกับหมาป่าที่เริ่มหมดอารมณ์จะเล่นสนุกด้วย...”
ชานยอลลุกขึ้นยืนก่อนจะโยนบุหรี่ทิ้งลงบนพื้น นัยน์ตาสีรัตติกาลวาววับในความมืด ราวกับดวงตาของสัตว์ป่าดุร้ายเมื่อต้องกับแสงจันทร์
“มันรู้สึกหิวกระหาย... อยากจะกินเนื้อนุ่มๆ หวานๆ ของลูกแกะใจจะขาด และเมื่อคิดได้ดังนั้น...” ขายาวย่างก้าวอย่างช้าๆ ตรงไปหาผู้ฟังที่ดีที่คล้ายกับโดนมนต์สะกดตรึงขาทั้งสองข้างไม่ให้ก้าวหนีไปได้ “มันก็เดินเข้าไปหาลูกแกะ ใช้กรงเล็บจิกลงบนต้นคอแล้วแลบลิ้นออกมาเลียชิมเนื้อหวาน”
“อ๊ะ!”
“ลูกแกะสะดุ้งโหยงอย่างตกใจความผิดปกติของหมาป่าผู้ใจดีเริ่มทำให้ลูกแกะน้อยตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ครั้นจะวิ่งหนีไปก็ไม่สามารถทำได้” ชานยอลโน้มใบหน้าลงกับซอกคอแล้วทำทุกๆอย่างตามเนื้อเรื่องของนิทานที่กำลังดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่มือหนาข้างหนึ่งก็รั้งลำคอเอาไว้และเล็บยาวก็จิกเข้าเนื้อจนรู้สึกเจ็บ ร่างบางเริ่มดิ้นขัดขืน มือทั้งสองข้างพยายามจะผลักอีกคนให้ห่างไปจากตัวแต่ก็ไม่ได้ผล
“ลูกแกะน้อยค่อยๆ ตั้งสติ มันคิดว่าต้องหนี... หนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เหมือนหมาป่าจะรู้ทัน...” ริมฝีปากแสยะยิ้มก่อนจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วจับแขนแบคฮยอนก่อนจะเหวี่ยงคนตัวเล็กลงบนเตียง “มันจับลูกแกะตัวน้อยเหวี่ยงลงบนพื้นก่อนจะกระโจนเข้าใส่”
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะชานยอล!!”
“ลูกแกะตะโกนร้องขอความเห็นใจแต่... ความหิวโหยก็เข้ามาควบคุมจิตใจจนหมดสิ้น และท้ายที่สุดหมาป่าก็...”
“อื้ออ!”
ริมฝีปากประกบแนบสนิท กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่เข้มข้นเสียจนแบคฮยอนแทบจะสำลัก ความขมปร่าของรสเหล้าที่ปลายลิ้นถูกส่งต่อเมื่อลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปากแล้วไล่ต้อนลิ้นเรียวจนจนมุมแล้วถอนริมฝีปากออกไป มือหนายกขึ้นเสยผมสีดำที่ลงมาปรกใบหน้าก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียรอบริมฝีปากที่มีหยาดน้ำสีใสติดอยู่ประปราย
“หวานจริงๆ นะ ลูกแกะตัวน้อย”
“!!!”
ร่างบางรีบผลักคนที่นอนทับอยู่จนเสียหลักและเตรียมจะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไหวตัวทันจึงเอื้อมมือไปกระตุกปมผ้าผืนน้อยที่คาดเอวเอาไว้ออกแล้วกระชากแขนอย่างแรงจนแบคฮยอนเสียหลักล้มลงอีกครั้ง ชานยอลขึ้นคร่อมทันที เขาคาบผ้าที่ดึงมาได้ไว้ที่ปากแล้วจัดการแขนทั้งสองข้างของแบคฮยอนชูขึ้นไปเหนือศีรษะและผ้าผืนนั้นก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องพันธนาการไม่ให้คนตัวเล็กสามารถหนีไปไหนได้
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
แบคฮยอนดิ้นเร่าเมื่อร่างเปลือยเปล่าถูกปรากฏแก่สายตา ทั้งกระดากอายและโกรธแค้นที่อยู่ดีๆ ชานยอลก็มาทำกับเขาแบบนี้
มันจะเกินไปแล้ว!
“โธ่... เจ้าลูกแกะที่น่าสงสารได้แต่ดิ้นทุรนทุรายปานจะขาดใจ...” ใบหน้าคมคายแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ราวกับว่ามีความสุขเหลือเกิน “จะทำอย่างไรดีล่ะ ค่อยๆ ทรมานก่อนจะกลายเป็นอาหาร...”
“ปล่อย!!”
“หรือ.... จะจับกินเลยดีนะ ? หึหึ”
“ยะ... อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ!”
หากแต่ชานยอลไม่ฟังคำพูดใดๆ ทั้งสิ้น ใบหน้าคมคายฝังลงกับซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นสบู่หอมๆ จากตัวของแบคฮยอนทำให้เขานึกอยากสวมบทเป็นหมาป่าจริงๆ แล้วขย้ำคนภายใต้อาณัตินี่ซะให้สิ้นซาก
“ทำไม... ถึงได้น่ากินแบบนี้นะ”
“อ๊ะ!”
ริมฝีปากหยักดูดเม้มเนื้ออ่อนที่คอจนขึ้นสีเข้ม ชานยอลเริ่มเอาแต่ดูดเม้มไปทั่วและบางครั้งเรียวลิ้นก็แลบเลียร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ นัยน์ตาสีรัตติกาลถูกปิดสนิทด้วยเปลือกตา เขากำลังหลับตาลงแล้วจินตนาการถึงใบหน้าของแบคฮยอนในตอนนี้ที่กำลังขึ้นสีระเรื่อและพยายามเม้มปากเพื่อกลั้นเสียงร้องเอาไว้แม้ว่าร่างกายจะดิ้นเร่าราวกับยั่วยวนอยู่ก็ตาม
คนเคยค้า ม้าเคยขี่... ต่อให้หัวใจอยากจะต้านทานแต่ร่างกายกลับทำงานกลับกัน...
“พอ... พอแล้ว!”
เสียงหวานสั่นเครือดังขึ้นเมื่อชานยอลเริ่มซุกซนกับเรือนร่างเขามากเกินไป รอยเก่าที่ทำเอาไว้ก็ยังไม่หายดีแล้วยังมีหน้ามาทำรอยใหม่เอาไว้ให้เขาต้องโดนเพื่อนมองไม่ดีอีกรอบ... ปาร์คชานยอล!
ไอ้คนนิสัยไม่ดี!!
คนตัวเล็กพยายามกระชากข้อมือของตนให้หลุดจากผ้าที่ใช้พันธนาการเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล ปมถูกมัดอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้เขาสามารถกระตุกมันออกไปได้เลย
“อย่าดิ้นรนไปหน่อยเลยน่าลูกแกะ... จะทำอย่างไรนายก็ไม่รอดหรอก”
“เลิกเล่นซักทีได้มั้ย!”
“งั้นเอาจริงเลยก็แล้วกัน”
“โอ๊ย!”
ฟันคมกัดเข้าที่ยอดอกจนแบคฮยอนสะดุ้ง แต่ความเจ็บก็ทุเลาลงเมื่อลิ้นร้อนเลียไปรอบฐานแล้วดูดเบาๆ อย่างเอาใจผิดกับสิ่งที่ทำก่อนหน้านี้ มือหนาลูบลงไปตามลำตัวอย่างแผ่วเบาจนไปถึงเอวคอดก่อนที่ปลายเล็บมนจิกลงเนื้ออย่างแรง
“ฉันเจ็บนะ!!”
“อ่อ... โทษที ฉันคงอินกับบทไปหน่อยน่ะ”
พรึ่บ!
ชานยอลยันตัวขึ้นแล้วปลดกระดุมเสื้อออกจนหมดแล้วกระชากเสื้อเชิ้ตสีดำออกจากตัว มือหนาพับเสื้อนั่นเป็นผืนยาวก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะปรากฏบนใบหน้าให้เขาได้ขนลุกชันอีกครั้ง... ก็ทุกครั้งที่ชานยอลคิดจะทำอะไรแผลงๆ เขามักจะเห็นรอยยิ้มแบบนี้เสมอ
“ลองอะไรที่มันเร้าใจกันบ้างดีกว่า”
พูดจบก็โน้มตัวลงมาแล้วใช้ผ้าคาดที่ดวงตาเอาไว้แล้วอ้อมไปมัดที่ด้านหลังศีรษะของแบคฮยอนทันที คนตัวเล็กได้แต่อ้าปากค้าง บางทีที่เขาคิดเอาไว้ว่าชานยอลมีรสนิยมทางเพศที่ผิดปกติอาจจะเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นซินะ!
ภาพตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความมืดทันที เขาไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าตอนนี้คนที่คร่อมตัวเขาอยู่นั้นกำลังทำอะไร มีแค่เสียงขยับตัวเท่านั้นที่พอจะเดาได้ว่าชานยอลกำลังทำอะไรอยู่
“อื้มม...”
ริมฝีปากนุ่มร้อนฝังลงบนกลีบปากสวยแล้วดูดเลียอย่างแผ่วเบา ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพลงปากอีกรอบแล้ววนไปรอบๆ อย่างหยอกเย้าก่อนจะหยุดลงที่ลิ้นเรียว ชานยอลแตะลิ้นลงอย่างหยั่งเชิงก่อนที่จะเริ่มชักพาอารมณ์ของเขาให้โหมขึ้นตามเมื่อมือหนาประคองใบหน้าของเขาเอาไว้แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไปมาที่ปลายคาง
อ่อนโยน... อ่อนโยนราวกับคนละคนเลยจริงๆ
แบคฮยอนแลกลิ้นตอบกลับแล้วบดเบียดริมฝีปากจนแนบชิด ความขมปร่าของแอลกอฮอล์ที่ปลายลิ้นของชานยอลอาจจะทำให้เขากำลังเมามายตามไปด้วยล่ะมั้ง... เขาถึงได้อยากทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้อีกแล้ว
ชานยอลถอนจูบออกแล้วแทรกตัวมาอยู่ตรงกลางระหว่างเรียวขาขาวที่เปลือยเปล่า มือหนาจับขาเรียวทั้งสองข้างให้พาดบนไหล่กว้างก่อนจะโน้มตัวลงไปจี้ปลายลิ้นที่จุดแต้มสีน้ำตาลอ่อนบนเรือนกาย แผ่นอกบางกระเพื่อมขึ้นลงเมื่อลิ้นร้อนเขี่ยดุนแรงๆ ที่ยอดอกและใช้มือข้างที่ว่างบีบเค้นที่อกอีกข้างจนขึ้นสีแดง
“ฮื้ออ!”
ลิ้นร้อนไล่ลงมาจนถึงแอ่งหลุมกลางหน้าท้องแล้วเลียวนรอบๆ ก่อนที่จะไต่ระดับลงไปเรื่อยจนถึงแกนกายเล็กที่แข็งขึ้นเพราะอารมณ์ที่ถูกปลุกปั้นขึ้นมาหากแต่ชานยอลกลับละเลยสิ่งสิ่งนั้นไปแล้วให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ต่ำกว่า
มือหนาประคองแก้มก้นอวบอิ่มเอาไว้ ลมหายใจร้อนๆ พ่นลงบริเวณนั้นทำให้แบคฮยอนถึงกับขนลุกชัน มือที่ถูกมัดเอาไว้เริ่มบีบเข้าหากันเพราะลุ้นในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่ตนเองมองไม่เห็น มีเพียงสัมผัสที่ได้รับเท่านั้นที่ทำให้รู้สึก...
“อ๊ะ... อ๊าาา!!”
เพียงแค่ลิ้นร้อนแหวกชำแรกเข้าไปเสียงหวานๆ ก็ถึงกับครางลั่นห้อง ใบหน้าแหงนเงยขึ้นจนเหนือหมอน เล็บทั้งสิบจิกลงกับฝ่ามืออย่างสุดแรงเมื่อลิ้นนั่นสอดเข้าดึงออก สอดเข้าแล้วดึงออกเป็นจังหวะ แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นไม่ติดฟูกแล้วขย่มสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะอย่างลืมตัว ริมฝีปากก็เผยอหอบคราง และยิ่งดังขึ้นอีกเมื่อมือของอีกคนบีบเฟ้นบั้นท้ายของเขาอย่างมันมือ
“อะ... อ๊ะ...”
ชานยอลถอนลิ้นออกไปแล้วแลบลิ้นลากผ่านแกนกายปริ่มน้ำก่อนที่น้ำเสียงทุ้มจะเอ่ยถามในคำถามที่น่าอาย
“เมื่อกี้... เสียวมั้ย?”
“มะ... ไม่! อ๊ะ!!”
“ไม่จริงๆ เหรอ?”
“อื้อออ!”
นิ้วกลางแทรกเข้าไปในช่องทางพร้อมกับชานยอลที่เคลื่อนกายมาคร่อมเขาเอาไว้อีกครั้ง นิ้วยาวกระแทกเข้าออกแรงๆ ราวกับว่าจะจงใจกลั่นแกล้งให้แบคฮยอนยอมรับความจริงในคำตอบ
“ถามว่าเสียวมั้ย ?”
“มะ... ไม่… อึก!”
“ถ้าไม่... จะหยุดแล้วนะ”
และดูเหมือนว่าชานยอลจะพูดจริงทำจริง...
นิ้วที่กระแทกเข้ามาในช่องทางเมื่อครู่หยุดการเคลื่อนไหวทันทีเมื่อพูดจบ แบคฮยอนถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าชานยอลจะทำตามอย่างที่พูดจริงๆ แล้วทีนี้เขาจะทำไงล่ะ ไหนจะผ้าที่มัดมือเอาไว้ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ แล้วเสื้อที่ปิดตาจนทำให้มองไม่เห็นนี่อีก
ไม่นะ... ถ้าชานยอลไม่ทำอะไรซักอย่างเขาต้องตายแน่ๆ!
“ชาน...”
เสียงหวานแผ่วเบาเรียกชื่ออีกคนจนต้องหันไปมอง ร่างสูงที่แกล้งลุกไปยืนอยู่ปลายเตียงถึงกับหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่
ใบหน้าที่ดูเหมือนจะต้องการให้เขาเข้าไปเติมเต็มซักที
“...”
“เรียกทำไม?”
“แกะ... แกะผ้านี่ออกให้ที”
แบคฮยอนขอในสิ่งที่ไม่น่าอายเกินไปและคำขอนั่นยิ่งทำให้ชานยอลนึกสนุก เขาค่อยๆ เดินไปทางหัวเตียงแล้วใช้มือจับเบาๆ ที่ข้อมือที่มีผ้ามัดตรึงเอาไว้กับหัวเตียงอยู่ แต่ด้วยนึกสนุกจึงแกล้งด้วยการลากมือหนาลงไปจนถึงผ้าที่ปิดตาอีก
“จะให้แกะตรงไหนล่ะ...”
“มะ... มือ”
“มือเหรอ”
ชานยอลขึ้นไปคร่อมร่างนั้นอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากหยักจะกดลงบนหลังมือเล็กทั้งสองข้าง
“มือแล้วยังไงต่อ ?” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์จากนั้นก็ลากริมฝีปากคลอเคลียกับเนื้อขาวจนถึงขมับแล้วประทับจูบลงบนนั้นอีก
“ดูเหมือนลูกแกะจะหวาดกลัวจนเหงื่อออกมาทั้งตัวแล้วนะครับ”
“...”
“เอ... จะเริ่มกินจากตรงไหนดีนะ”
“อึก!”
นิ้วยาวลากผ่านยอดอกอย่ากลั่นแกล้งก่อนจะใช้นิ้วสะกิดมันเบาๆ แล้วต่ำลงไปจนถึงแกนกายสั่นระริก มือหนาค่อยๆ กอบกุมมันไว้ในมือและนิ้วหัวแม่มือก็ลากถูไปมาที่ส่วนปลายซึ่งเยิ้มไปด้วยน้ำสีใสที่ถูกปล่อยออกมาเพราะความต้องการ
ดูเหมือนว่าลูกแกะจะทนมาจนถึงที่สุด ฟันเล็กเรียงตัวสวยขบกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ เมื่อมือนั่นเริ่มรูดรั้งขึ้นลงเนิบนาบ
“ชะ... ชานยอล…”
“หืม ?”
“ฉัน... ฉัน... อ๊ะ!”
มือหนาจับร่างทั้งร่างให้พลิกคว่ำจากนั้นก็ถูกยกช่วงบั้นท้ายให้ลอยขึ้นเหนือฟูก คนที่โดนปิดตาอยู่ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองเมื่อได้ยินเสียงหัวเข็มขัดกระทบกันในโลกแห่งความมืดมิดของตนเอง
และอีกไม่นานเกินรอชานยอลคงจะเป็นคนที่มอบแสงสว่างมาให้กับเขา...
กางเกงยีนส์ กางเกงชั้นในกับเข็มขัดถูกขว้างลงไปจากเตียง ชานยอลเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ เขาใช้มือลูบแผ่นหลังเนียนจนมาถึงสะโพกกลมมน ยิ่งเขาเห็นว่าร่างบางนี่สั่นแรงขนาดไหนเขาก็ยิ่งอยากจะแกล้งด้วยการยืดเวลาไปให้นานกว่านี้อีกซักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ความอดทนของเขามันขาดหายไปตอนที่เห็นว่าฟันเล็กนั่นกัดกลีบปากสีเชอร์รี่แน่น แถมใบหน้าและลำตัวยังขึ้นสีจนน่าหลงใหลจนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้อีก
“ถ้าเจ็บก็บอกนะ...”
“...”
“แต่ฉันคงไม่หยุดหรอก”
“อะ...”
ส่วนปลายถูกแทรกเข้าไปในช่องทางที่ถูกเปิดทางมาได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น และขนาดของชานยอลก็ใหญ่จนกลายเป็นเรื่องยากที่จะสอดใส่เข้าไปได้ภายในรวดเดียว
ร่างสูงขบกรามแน่น ความคับแน่นของแบคฮยอนทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นปล่อยเสียงครางทุ้มออกมา ส่วนแข็งขืนค่อยๆ สอดลึกเข้าไปอย่างใจเย็นเพราะรู้ดีว่าถ้าฝืนกระแทกกระทั้นเข้าไปแบคฮยอนคงจะเจ็บตัวหนักกว่านี้แน่ๆ
“อ่าห์...”
“ฉัน... เจ็บ”
“ก็มันใหญ่ขนาดนี้ นายก็เลยเจ็บ”
“อึก...”
แบคฮยอนซุกหน้าลงกับหมอน ได้แต่จิกมือตัวเองเพราะความเจ็บปวดที่ช่องทางด้านหลัง
ชานยอลเคลื่อนกายเข้าไปจนสุดแล้วแช่ทิ้งไว้ซักพัก ริมฝีปากเล็กเผยอรับออกซิเจนเข้าปอดเมื่อความใหญ่โตเข้ามาข้างใน สะโพกกลมถูกยกขึ้นให้ลอยมากกว่าเดิม ร่างสูงเริ่มเคลื่อนกายเข้าออกเนิบนาบ ท่อนเนื้อร้อนถูกเสียดสีกับผนังด้านในจนรู้สึกแสบ แต่เมื่อความเชื่องช้าถูกเร่งจังหวะ ความรู้สึกก็แปรเปลี่ยนไปทันที
ชานยอลเหมือนสาดน้ำมันเข้ามาใส่แล้วก็โยนไฟเข้ามาจนเขาเหมือนโดนแผดเผา... แต่ในความทรมานนั้นมันช่างมีความสุขเกินกว่าจะปฏิเสธได้อีก
“อะ... อ๊ะ... อื้อ!”
เสียงหวานครางสั่น ขนาดของชานยอลช่างใหญ่เหลือเกิน มันสอดลึกเข้าไปจนกระแทกกับจุดกระสันด้านในและเมื่ออีกคนเห็นว่าเขาหลุดเสียงดังเมื่อไหร่ก็ยิ่งแกล้งกระเด้าเอวเข้ามาถี่รัวจนเขาแทบจะหายใจไม่ทัน
เพี้ยะ!
“อ๊า!”
มือหนาฟาดลงบนแก้มก้นเนียนขาวก่อนจะยืดตัวขึ้นจนสุด เสียงครางของแบคฮยอนราวกับเสียงของลูกแมวตัวน้อยที่อ้อนให้เจ้านายมอบความรักให้อย่างถึงที่สุด ชานยอลเอื้อมมือไปดึงเสื้อที่เขาใช้ปิดตาคนตัวเล็กเอาไว้และรวมไปถึงผ้าที่ใช้มัดมือเอาไว้ด้วย และเมื่อร่างกายถูกปลดปล่อยจากพันธนาการแบคฮยอนก็ถูกจับพลิกให้นอนหงายอีกครั้ง ขาทั้งสองข้างถูกจับพาดบนไหล่กว้าง ท่วงท่าที่เปิดเผยนั่นยิ่งทำให้ช่องทางเปิดรับท่อนเอ็นเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิม
ดวงตาเรียวรีสบตากับเจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลนั่น ราวกับเห็นว่ามีประกายดวงดาวจากนัยน์ตานั้นแต่ไม่นานนักกลับถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดเมื่อเปลือกตาปิดลงในจังหวะที่ชานยอลหมุนควงสะโพกจนเสียวไปทั้งกาย
“อะ... อ๊ะๆๆ”
“เรียกชื่อฉัน...”
“ม... ไม่ อ๊ะ!”
“แบคฮยอน...” แววตากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ผมสีดำปรกลงบนใบหน้าเมื่อชานยอลโน้มตัวลงมา เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู “ถ้านายไม่เรียก... ฉันจะทำให้นายลุกเดินไม่ไหวเลยนะ”
คนโดนขู่กัดปากแน่น ชานยอล... ร้ายนักนะที่กล้าใช้ข้อเสนอแบบนี้ และเมื่อร่างสูงเห็นว่าเด็กดื้อไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เขาเลยยืดตัวขึ้นไปอีกรอบแล้วยกขาขึ้นสูงอีกจนสะโพกเล็กลอยขึ้นจากฟูกก่อนที่กายแกร่งจะกดตัวลงไปแล้วใช้แขนค้ำยันร่างกายเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปทับ
“มะ... มันลึกเกิน อ๊ะ! ป... ไป อ๊า!”
“เรียกชื่อฉัน เร็วๆซิ”
“ฮึก... อ๊ะ!”
“เร็วๆ ซิแบคฮยอน”
พูดพลางเร่งสวนสะโพกเข้าออกจนแบคฮยอนได้แต่หลับหูหลับตาคราง ดวงหน้าหวานสะบัดไปมาอย่างสุดจะทานทน มือเรียวสวยถูกสอดประสานเอาไว้ด้วยนิ้วทั้งห้าของชานยอล มือนั่นบีบมือเขาแน่นขึ้นจนเส้นเลือดปรากฏขึ้นมาให้เห็นและตัวเขาเองก็เหมือนจะเห็นแสงสว่างที่ปลายทางซึ่งอีกนิดเดียวก็จะก้าวไปถึงจุดนั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!”
“ถ้าไม่เรียกฉันจะหยุดแล้วนะ...”
“ชาน... อึก! ชานยอล!”
รอยยิ้มอย่างผู้ชนะปรากฏขึ้นอีกครั้งและเขาก็ให้รางวัลเด็กน้อยด้วยการเร่งจังหวะถี่ยิบจนแผ่นหลังบางไม่ติดเตียง แบคฮยอนจิกเล็บลงบนหลังมือเต็มแรง มันรู้สึกไหววูบไปทั่วทั้งท้องน้อย ความเสียวซ่านแล่นปราดจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงขั้วหัวใจในที่สุดแบคฮยอนก็วิ่งไปจนถึงแสงสว่างนั้นจนได้ ร่างกายกระตุกเกร็งเมื่อธารน้ำสีขาวขุ่นถูกฉีดเข้ามาเต็มแรงในช่องทางซึ่งเขาเองก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะไปทั้งหน้าท้อง
ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาแล้วมอบจุมพิตที่กลีบปากหวานอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะลุกออกไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับผ้าผืนเล็กที่เคยใช้มัดข้อมือของเขาหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าที่เปียกชื้น
ชานยอลใช้ผ้าผืนนั้นเช็ดคราบน้ำรักที่เปรอะเปลื้อนบนหน้าท้องรวมไปถึงส่วนที่เป็นของที่ชานยอลปล่อยออกมาจนเลอะเรียวขา แล้วเมื่อร่างกายถูกเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยชานยอลก็ดึงผ้าห่มปลายเตียงมาห่อหุ้มร่างกายของทั้งสองคนเอาไว้
อ้อมแขนแกร่งดึงร่างบางเข้าไปจนชิด เขากดศีรษะแบคฮยอนลงกับแผ่นอกกว้างแล้วใช้มือลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน
“ดูเหมือนฉันจะลืมเล่าตอนจบไปหรือเปล่านะ”
กลับไปอ่านต่อที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1293838&chapter=10 นะฮับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ