(fic BM) ปฏิบัติการกำจัดยัยสายหมอกหน้าใหม่

-

เขียนโดย MysticBlue

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.56 น.

  9 ตอน
  14 วิจารณ์
  15.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 11.05 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) Back to the past (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

สวัสดีค่ะ ด้วยความที่เขียนฟิคนี้.....มันเกิดอาการอึดอัด!! เพราะอีกนานกว่าจะมีฉากฟินๆ ให้เขียนอีกสักครั้ง เดี๊ยนจะขอมาเขียนความหลังของพระ-นางของเราค่า

****************************

ร่างเล็กของทารกในเสื้อคลุมสีหม่นหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงอึกทึก ก่อนจะมองไปที่กลุ่มคนเจ้าของเสียงที่ได้ยิน คนเหล่านั้น ไม่สิ! นั่นเป็นปริมาณมากจนเรียกได้ว่า คนทั้งตลาดมืดใต้ดินแห่งนี้มารวมตัวกันอยู่ ณ จุดนั้นจุดเดียว ราวกับฝูงมดที่ไม่สามารถนับจำนวนได้รุมทึ้งเหนื่อที่สิ้นชีวิต


"พวกเรากำลังหาสมาชิกใหม่ของวาเรียอยู่!! รับแค่ร้อยหนึ่งคนเท่านั้น ใครอยากเข้าวาเรียก็มาเลย!!" เสียงแหบแห้งของคนที่คาดว่าน่าจะเป็นคนของวาเรีย องค์กรอิสระที่ขึ้นตรงต่อวองโกเล่ แฟมิลี่ที่มีอิทธิพลมากเป็นอันดับต้นๆ ถูกเปล่งออกมา แต่ก็ยังไม่สามารถสู้เสียงของฝูงชนที่แย่งกันเข้าองค์กร


ร้อยหนึ่งคน? ตลกน่า....ทำไมไม่เป็นร้อยคนถ้วนเลยล่ะ


ทารกคิดพลางหัวเราะในใจกับความแปลกประหลาดที่เพิ่งพบ แต่เพราะความประหลาดเช่นนี้ล่ะมั้งที่ทำให้ 'วาเรีย' พิเศษกว่าองค์กรใดๆ


ทารกที่ไม่ใช่ทารกนาม ไวเปอร์ ยืนดูความเป็นไปของกลุ่มคนกลุ่มนั้น ยืนดูความเป็นวัฎจักรของมนุษย์......การเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นคือคำสาปสำหรับเธอ สิ่งใดๆ ที่หมุนเวียนซ้ำซากล้วนเป็นคำสาป......เงินเท่านั้นที่จะปลดวัฎจักรนั้น ถึงใครจะแย้งว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด เธอก็ไม่สน ถึงจะเอาศาสนามาอ้างก็ไม่สำคัญ เพราะยังไงเสียเธอก็เป็นคนไม่มีศาสนาอยู่แล้ว


ไวเปอร์ลอยตัวขึ้นสูงจากพื้น เพราะหากยืนมองอยู่อย่างนี้คงจะอดเข้าวาเรีย และจากการคาดการณ์ เงินเดือนที่นั่นก็สูงอยู่ไม่น้อย ช่างล่อตาล่อใจยิ่งนัก....ร่างเล็กผ่านข้ามหัวของอาชญากรนับพันที่แก่งแย่งกันเข้าไปอยู่ในตู้บรรทุกสำหรับคนที่จะเข้าวาเรีย


"เฮ้ยไอหนู! อายุกี่ขวบน่ะ" เสียงยอกเย้าดังระหึม ไวเปอร์โผลงบนพื้นและเดินเข้าไปนั่งอย่างสงบ เสียงและภาพที่รบกวนเธออยู่นั้นไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย....


ปึง!!


เสียงปิดตู้ดังขึ้น ความมืดเข้าคลุมทัศนียภาพ แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับนักฆ่าเหล่านี้ที่เนื้อใจเต้นเป็นเสียงกลองดัง!!


เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ แต่ทุกคนไม่พูดกันเลยสักแอะเดียว เสียงที่เข้ามาในโสตประสาทมีเพียงไม่กี่อย่าง เช่น เสียงลับมีด หรือบางครั้งก็มีเสียงของโลหะกระทบพื้นบ้าง เพราะตู้ที่พวกเขาอยู่ไม่ได้ถูกขนย้ายอย่างถะนุถถะนอมนัก และคาดว่าการขนย้ายในครั้งนี้คงเป็นการขนย้ายทางอากาศ


ไม่แปลกที่จะเจอหลุมอากาศบ้าง.....


การขนย้ายเป็นไปอย่างยากลำบาก ในที่สุดการสะเทือนครั้งสุดท้ายก็มาถึง


บึม!!!!


จู่ๆ ตู้ที่พวกเขาอยู่นั้นก็ระเบิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ คนนับร้อยหล่นลงมาจากเวหามายังยอดไม้ของป่าหนาทึบด้านล่าง บ้างก็พอตั้งสติได้จึงไปรวมตัวบนพื้นด้านล่าง แต่บางคนก็ยังสติแตกติดอยู่กับเถาวัลหนา


เหล่านักฆ่าจากทั่วสารทิศมองรอบตัว ก่อนจะมองเพื่อนร่วมชะตาอีกนับร้อยด้วยความงุนงง ว่าตู้มันระเบิดได้อย่างไร? ไม่มีกลิ่นดินปืน และไม่มีใครพบระเบิดติดตั้งเลย พอถึงเวลามันก็ระเบิดของมันเอง แต่ตอนนี้ดูท่าสิ่งที่ควรจะงุนงงมากกว่า คือ คนของวาเรียอยู่ที่ไหน?


"ไม่มีวาเรียสักคนมาเลยเหรอ?!" เสียงโวยวายของชายร่างยักษ์ดังขึ้น เขาหอบหายใจฟืดฟาดด้วยความไม่พอใจ


"นั่นสิ ไหงบอกว่าจะพามาสมัครเป็นสมาชิกวาเรีย แล้วไหนล่ะคนของวาเรียที่จะมาทดสอบพวกเรา?" ชายอีกคนพูดสมทบ


หลังจากนั้น บริเวณที่เหล่านักฆ่าถูกปล่อยลงมาก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย ถกเถียง มีเพียงทารกน้อยเท่านั้นที่ยืนหลบอยู่บนกิ่งไม้ คอยสังเกตการณ์เงียบๆ ก่อนจะมุ่งหน้าลอยลึกเข้าไปในป่า หากทว่าต้องหยุดชะงักลงเมื่อมีคนทัก


"นี่! จะไปไหนน่ะ ไม่รอวาเรียมาก่อนเหรอ?"


ไวเปอร์หันไปมองอีกฝ่ายหนึ่ง เขาเป็นเด็กชายที่อายุประมาณสิบยืนอยู่บนกิ่งไม้ที่เธอเคยยืนอยู่เมื่อครู่ ทารกเลิกคิ้วสูง ไม่คิดว่าจะมีเด็กเข้าร่วมการทดสอบนี้ด้วยถึงแม้ร่างกายของเธอจะเป็นเด็ก แต่อายุจริงๆ นั้นก็มากกว่าที่เห็นอยู่มากโข


ไวเปอร์หยุดมองพิจราณาคนตรงหน้า เด็กนี่มีผมสีทองไว้ทรงปิดบังใบหน้า เสื้อผ้าที่ใส่ดูมีราคาและสีสันฉูดฉาดเกินกว่านักฆ่าสติดีจะกล้าใส่กัน


"พวกวาเรียไม่มาหรอก อย่าเสียเวลาโง่อยู่เลยเด็กน้อย การทดสอบเริ่มขึ้นแล้ว" เธอตอบเสียงเรียบ


"หมายความว่ายังไงเหรอ?" เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกรุ่มกริ่ม


"ถ้าฉันอยากได้สมาชิกที่มีคุณภาพจริงๆ ฉันคงปล่อยให้พวกเขาเรียนรู้และทำบททดสอบที่ฉันมอบให้โดยไม่บอกอะไรให้สำเร็จ และนี่มันก็แค่บททดสอบเบาะๆ เท่านั้น เด็กน้อย.....พวกวาเรียรอเราอยู่ที่ปราสาทของพวกเขา เราก็ต้องไปหาพวกเขาสิ"


หลังพูดจบ ทารกน้อยก็ไม่รีรอรีบลอยขึ้นไปบนยอดไม้เพื่อดูเส้นทางสู่ปราสาท โดยมีเด็กชายปีนตามไปด้วยพลางหัวเราะคิกคัก ไวเปอร์กวาดสายตามองไปรอบๆ จนเห็นปราสาทเด่นสง่าอยู่ทางขวามือของเธอ


"นั่นไง!! ปราสาทอยู่ทางทิศใต้ เรารีบไปกันเถอะ" เจ้าเด็กผมทองคนนั้นดึงตัวทารกข้างกายเข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะเริ่มกระโดดจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่งเพื่อไปถึงที่หมาย


ไวเปอร์ไม่คิดจะขัดขืน ก็ดีแล้วที่มีคนพาไปส่งถึงที่โดยไม่ต้องเปลืองพลัง (ตราบใดที่เจ้าเด็กนั่นไม่คิดเงินเธอค่าพาไปปราสาท) เพราะทารกคิดว่าการทดสอบของวาเรียนั้นไม่ได้มีแค่อย่างสองอย่างแน่นอน จนอาจจะใช้เวลาคัดตัวสมาชิกเป็นสัปดาห์เลยก็ได้ ใครจะไปรู้


ระหว่างทางนั้นสิ่งที่ไวเปอร์ได้ยินมีอยู่ไม่กี่อย่าง แน่นอนคือเสียงของลมที่พัดผ่านเพราะความเร็วของการเคลื่อนที่ และเสียงหัวเราะแปลกประหลาดของเด็กนั่น


มันทำให้ไวเปอร์ยิ่งมั่นใจในข้อสันนิษฐานของตัวเอง.......


การเดินทางผ่านไปไม่นานอย่างที่คิด อาจจะเพราะเด็กนั่นกระโดดได้ไว พวกเขาทั้งคู่จึงมาหยุดอยู่เบื้องหน้ากำแพงหินที่ดูท่าจะทนทานดีเสียด้วย


"เห? มีเขาวงกตด้วยแหละ เข้าไปดีไหม หรือเราจะหาทางเข้าทางอื่นดี" เจ้าเด็กผมทองชะเง้อหน้ามองอย่างสนอกสนใจ ในขณะที่อีกฝ่ายที่ยังอยู่ในอ้อมแขนอย่างนิ่งเงียบราวครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจพูดว่า


"เข้าไปเลย" ไวเปอร์พูดเพียงสั้นๆ อีกฝ่ายก็ยอมเดินเข้าไปตามที่บอกอย่างโดยดีพร้อมรอยยิ้มพราวบนหน้า


เขาวงกตแห่งนี้ล้อมรอบปราสาทวาเรียเอาไว้ เสมือนป้อมปราการก็ว่าได้ ดังนั้นทางเข้าปราสาทจึงมีแค่สองทาง คือต้องเข้าไปผจญในเขาวงกตที่เต็มไปด้วยกับดักและสิ่งมีชีวิตที่พร้อมจะเชือดผู้ท้าทายทุกขณะ และ ช่องทางลับใต้ดินสำหรับสมาชิกวาเรียเพื่อความสะดวก จะได้ไม่ต้องมัวหลงในเขาวงกตอยู่


"ขวา หรือ ซ้าย?" เด็กหนุ่มเอ่ยถาม


"....ลองปาอะไรก็ได้ไปทางซ้ายซิ"


เด็กผมทองคว้ามีดเงินออกมาจากเสื้อและปามันไปทางช่องด้านซ้าย ผลคือ......


ฟู่!!!!


ไฟสีแสบพุ่งออกมาจากพื้นดินแทบทันทีที่มีดถูกปาเข้าไปทางซ้าย เขาจึงรีบเปลี่ยนมาปามีดไปทางขวาเพื่อทดสอบกับดักอีกครั้ง


ซ่า!!


น้ำกรดพุ่งออกมาจากกำแพงหิน สังเกตได้จากหญ้าเขียวที่ปกคลุมดิน บัดนี้กลับหายไปพริบตา เหลือแต่กำแพงหินสูงลิบที่ทนทานตามคาด


"หว่า!! ไปทางไหนก็เจอแต่กับดัก เอายังไงดีอ่ะ" เด็กน้อยกล่าวเสียงสลดพลางก้มลงมองร่างที่อยู่ในอ้อมกอดเป็นเชิงถามความคิดเห็น


"ไปทางขวา" ไวเปอร์ตอบอย่างไม่ลังเล และพูดดักว่า "มันก็แค่ภาพมายา ถ้าเป็นของจริงล่ะก็ คงไม่มีหญ้าขึ้นให้เห็นแล้วล่ะ เพราะกับดักตอบสนองต่อสิ่งที่เข้าไปในเขตของมัน ถ้ามีแมลงบินเข้าเขตสักตัว กับดักก็จะทำงาน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงน้ำกรดคงถูกสาดวันละไม่ต่ำกว่าสิบรอบมั้ง"


คำตอบนั้นทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนมาฉีกยิ้มกว้างจนน่าขนพอง


"ชิชิชิ~ เก่งจังเลยนะ"

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา