THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก
เขียนโดย OUM_PF
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.46 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 18.24 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
18)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความTHE WAY OF LOVE.หลงทางรัก
ตอนที่๑๘
เสียงถอนหายใจจากความเบื่อหน่ายของธนันต์ธรญ์ดังเป็นรอบที่ร้อยแล้ว แต่ดู
เหมือนงานของภาณุนั้นไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จลงง่ายๆทั้งๆที่วันนี้เป็นวันเสาร์แท้ๆ และเขาเองก็เป็น
คนชวนเธอไปเที่ยว แต่ดูเขาทำเข้าสิ นี่เขาให้เธอมานั่งจับเจ่าอยู่ในห้องทำงานของเขานี่นะ
“ฉันขอตัวก่อนนะคะ”เธอเอ่ยอย่างเหลือทน เขาอาจจะมีอำนาจสั่งใครก็ได้ แต่นั่น
ต้องไม่ใช่เธอ
“จะไปไหน”เขาเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบราวกับไม่รู้สึกอะไร แน่นอน สายตาของเขายัง
คงจับจ้องอยู่แต่กับแผ่นเอกสารในมือ
“ฉันจะกลับบ้าน”
“หืม?”เขายอมวางปากกาในมือลง สายตาคมเลื่อนมามองร่างบอบบางของคนรัก
ใบหน้าแสนหวานของเจ้าตัวดูปกติดี เธอซ่อนความรู้สึกได้มิดชิดสมกับเป็นคนรักของเขาจริงๆ
“ไว้วันอื่นเราค่อยไปเที่ยวด้วยกันนะคะ ถ้าวันนี้คุณไม่ว่าง”เธอพูดพร้อมเจือ
รอยยิ้มบางๆ เขาไม่แน่ใจนักหรอกว่านั่นจะแปลว่าเธอไม่ได้โกรธ
“มานี่สิ”เขาเอ่ยพร้อมกับยิ้มน้อยๆ หญิงสาวมองเขาอย่างชั่งใจ ก่อนเท้าเรียวจะก้าว
เข้ามาใกล้เขา หญิงสาวหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“มีอะไรคะ”
“มานี่ อยู่ไกลอย่างนั้นฉันจะคุยกับเธอรู้เรื่องได้ยังไง”หญิงสาวมองเขาอย่างไม่ไว้
วางใจ หากแต่เธอก็ยอมเดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่มายืนข้างๆเก้าอี้ทำงานที่เขานั่งอยู่ เขาเบน
เก้าอี้จากโต๊ะทำงานก่อนจะดึงร่างบอบบางของหญิงสาวให้นั่งลงบนตักของตัวเอง เธอดูตกใจแต่ก็
คงไม่เท่าที่เขาแอบฉวยโอกาสขโมยหอมแก้มนุ่มๆของเธอ
“คุณ!”
“วิวสวยรึเปล่า”เขาเอ่ยเมื่อทั้งเขาและคนตัวเล็กบนตักกำลังจับจ้องทิวทัศน์เมืองกรุง
ที่มีทั้งตึกสูงใหญ่หลายตึกที่มีความสวยงามในแบบที่มนุษย์เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้น
“สวยค่ะ แต่มันดูน่าอึดอัดไปหมด”ดวงตากลมโตหันมาสบสายตากับเขาขณะที่เสียง
หวานยังคงเอื้อนเอ่ยไป
“นั่นสินะ แล้ววันนี้เธออยากไปเที่ยวไหนล่ะ”
“ไม่รู้สิคะ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้”เขาหัวเราะน้อยๆที่เสียงหวานเอ่ย
อย่างเบื่อหน่าย ริมฝีปากอิ่มยื่นน้อยๆประกอบกับน้ำเสียงของเธอยิ่งดูน่ารัก เขาหยิกแก้มนุ่มของ
แฟนสาวอย่างมันเขี้ยวก่อนจะเอ่ย
“ทำขนมดีไหม วันนี้ฉันอยากทานฝีมือเธอ”
“ขี้เกียจ”เธอเอ่ยปฏิเสธเสียดื้อๆ เขามองใบหน้าแสนหวานที่ดูเบื่อหน่าย ก่อนจะเอ่ย
“ฉันมันก็เป็นคนธรรมดา ชีวิตมีแต่งาน ไม่รู้หรอกว่าต้องเอาใจผู้หญิงแบบเธอยังไง
เพราะถ้าเป็นคนอื่น แค่เงินของฉันก็ทำให้พวกเธอมีความสุขแล้ว แต่สำหรับเธอมันไม่ใช่...เอาเป็น
ว่าต่อไปนี้ฉันจะมีเวลาให้เธอมากขึ้นละกันนะเด็กน้อย”เขามองแก้มสาวที่ขึ้นสีจัดอย่างเอ็นดู เธอ
ไม่ยอมหันมาสบสายตาเขา
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่คะ”
“ฉันไม่ได้บื้อขนาดที่จะไม่รู้ว่าแฟนตัวเองต้องการอะไรหรอกนะ”
“นึกว่าคุณเป็นคนแบบนั้นซะอีก”เขาหัวเราะน้อยๆในความช่างประชดประชันของเธอ
ก่อนจะขโมยหอมแก้มนุ่มและพาร่างเล็กลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจูงมือเล็กเดินออกไปจากห้อง
ทำงาน ไปในที่ๆคิดว่าเธอจะต้องชอบมากแน่ๆ
เสียงหัวเราะของสิทธาดังไปทั่วห้องทำงานใหญ่ มือหนาวางรูปถ่ายของศัตรูเบอร์
หนึ่งลงบนโต๊ะ ให้ตาย นี่โลกมันคงจะใกล้แตกจริงๆเสียแล้วกระมัง อะไรทำให้มาเฟียหนุ่มผู้ไร้
หัวใจมีความรัก เขาอยากจะรู้นักเชียวว่าหากภาณุรักผู้หญิงคนนี้จริงๆ และเขาเองเป็นคนคร่าชีวิต
ของผู้หญิงที่มันรักไปจากมัน สภาพมันจะน่าสมเพชแค่ไหน น้ำตามาเฟียผู้ทรงอิทธิพล...แค่คิดก็
อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงแล้ว
“แกคิดว่าเราจะทำไงกับผู้หญิงคนนี้ดีวะธีระ”เขาหันไปถามลูกน้องคนสนิทอย่างอารมณ์ดี
“นั่นน่ะสิครับ”
“ให้พวกมันมีความสุขไปก่อน ให้มันรักมากๆ แล้วฉันนี้แหละจะเป็นคนทำลายความ
รักของมันเอง หึ”
ความรักอย่างนั้นหรือ...ไม่รู้หรืออย่างไรว่ามันเป็นเรื่องต้องห้าม!
มือหนาของภาณุประคองศีรษะของคนรักสาวมาซบที่ไหล่หนา ก่อนจะโอบประคอง
ไหล่เล็กของหญิงสาวเอาไว้ สายตาของเขาทอดมองสองข้างทางที่มีแต่ต้นไม้ด้วยแววตานิ่งเฉย
ยากที่จะคาดเดา ชีวิตของเขาใช่ว่าจะไม่เคยสงบสุขเลย ในเวลานี้ ในที่ๆไม่มีใครรู้จักเขา มันเป็นที่
ที่เขาจะมีความสุขมากที่สุด และเขาก็อยากให้เธอมีความสุขด้วย เขาไม่อยากทำให้ธนันต์ธรญ์ต้อง
รู้สึกผิดแปลกไปมากกว่าเดิม เพราะตลอดเดือนกว่าๆที่ตกลงคบกันมาชีวิตของเอก็เปลี่ยนไปมาก
พอแล้ว...เขาไม่อยากเป็นตัวทำลายความสุขในชีวิตของเธอ
“อย่าเครียดไปเลยครับ ถ้าคุณยังเครียดแบบนี้อยู่คุณฟางเธอต้องรู้สึกแน่ๆ...เธอเป็น
ผู้หญิงฉลาด”เขาหันไปมองภพลูกน้องคนสนิท ก่อนจะยิ้มบางๆ จริงสิ...ทำไมเขาชอบทำให้
ธนันต์ธรญ์เครียดไปด้วยอยู่เรื่อยเลย
“นายว่าฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี ฉันกลัวเสียเธอไป”เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่นึกอาย
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเปิดปากคุยเรื่องนี้กับใครเลย
“อย่ากังวลไปเลยครับ เรื่องมันใกล้จะจบเต็มทีแล้ว หากคุณแม่ของคุณ...”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันแยกแยะออก ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันกำลังจะทำมันบาป แต่สิ่งที่แม่ทำ
มันก็บาปเหมือนกัน...ทุกอย่างมันสมควรที่จะจบแบบนั้น อย่ากังวลเลยว่าฉันจะใจอ่อน ทำงานของ
พวกนายให้ดีที่สุด”เขาเอ่ยเสียงหนักแน่น ก่อนจะเบนสายตาออกไปมองนอกกระจกอีกครั้ง แขน
แกร่งที่โอบกอดร่างเล็กนั้นยังคงโอบกอดเธอไว้อย่างมั่นคง และเขาสาบานว่าจะโอบกอดเธอไป
แบบนี้ชั่วชีวิตของเขา...
ภพมองเสี้ยวใบหน้าของเจ้านายหนุ่มด้วยความชื่นชม แววตาหนักแน่นมั่นคงของ
ภาณุ น้ำเสียงของเขาที่ใช้เอื้อนเอ่ยนั้นทำให้ขารวมถึงลูกน้องนับร้อยยอมภักดีกับภาณุ ตั้งแต่วันที่
เขาก้าวขึ้นมาแทนบิดาของตนเอง แม้ภาณุในตอนนั้นจะยังดูเด็กในสายตาของทุกคน แต่วันนี้เขา
ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้ และทำได้ดีเสียด้วย ความเข้มแข็งและความเอื้ออาทรต่อลูกน้องทำให้
เขายังเป็นที่รัก เขาเชื่อเหลือเกินว่าภาณุจะสามารถจบความแค้นที่สะสมมานานหลายชั่วอายุคนให้
จบลงได้อย่างสมบูรณ์...
รถคันหรูจอดลงหน้าบ้านพักหลังเล็กที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี ภพลงจากรถทันทีเมื่อรู้ว่า
เจ้านายหนุ่มยังคงต้องการความเป็นส่วนตัว เขาเดินไปสำทับกับเพื่อนบอดี้การ์ดที่ตามมาดูแลเจ้า
นายหนุ่มบริเวณทางเข้าบ้านหลังน่ารักอย่างรู้หน้าที่
“ฟาง ถึงแล้วนะ”
ภาณุเอ่ยปลุกคนขี้เซาที่หลับตั้งแต่ออกมายังชานเมืองจนถึงที่หมาย
หากแต่เจ้าหล่อนไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลย เขาก้มลงมองเสี้ยวหน้าหวานของเธออย่างเอ็นดู
ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบลงบนขมับบางอย่างอ่อนโยน ทำไมเขาถึงได้อยากเอาเปรียบเธอไปตลอดเวลา
อย่างนี้นะ แล้วอย่างนี้เขาจะห้ามใจตัวเองไปได้นานแค่ไหน...
เรานอยด์นะ รู้ยัง 5555 แต่มันเหงาอ่ะ ไม่มีแจ้งเตือนเมลล์ อยากอ่านคอมเม้นท์ เลยมาอัพ อิอิ
เงี้ยแหละ เดี๋ยวเราคงชินไปเองละมั้ง สงสัยฝีมือจะตกไปเยอะจริงๆ เง้อออ แต่ไม่อยากชินเลยอ่ะ
ฮ่าๆ สุดท้ายนี้ขอเม้น+โหวตให้เค้าด้วยนะตัวเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ