THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก

9.9

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.46 น.

  24 ตอน
  245 วิจารณ์
  41.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 18.24 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

18)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

THE WAY OF LOVE.หลงทางรัก

ตอนที่๑๘

 

 

 

 

               เสียงถอนหายใจจากความเบื่อหน่ายของธนันต์ธรญ์ดังเป็นรอบที่ร้อยแล้ว แต่ดู

เหมือนงานของภาณุนั้นไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จลงง่ายๆทั้งๆที่วันนี้เป็นวันเสาร์แท้ๆ และเขาเองก็เป็น

คนชวนเธอไปเที่ยว แต่ดูเขาทำเข้าสิ นี่เขาให้เธอมานั่งจับเจ่าอยู่ในห้องทำงานของเขานี่นะ

 

 

               “ฉันขอตัวก่อนนะคะ”เธอเอ่ยอย่างเหลือทน เขาอาจจะมีอำนาจสั่งใครก็ได้ แต่นั่น

ต้องไม่ใช่เธอ

 

 

               “จะไปไหน”เขาเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบราวกับไม่รู้สึกอะไร แน่นอน สายตาของเขายัง

คงจับจ้องอยู่แต่กับแผ่นเอกสารในมือ

 

 

               “ฉันจะกลับบ้าน”

 

 

               “หืม?”เขายอมวางปากกาในมือลง สายตาคมเลื่อนมามองร่างบอบบางของคนรัก

ใบหน้าแสนหวานของเจ้าตัวดูปกติดี เธอซ่อนความรู้สึกได้มิดชิดสมกับเป็นคนรักของเขาจริงๆ

 

 

               “ไว้วันอื่นเราค่อยไปเที่ยวด้วยกันนะคะ ถ้าวันนี้คุณไม่ว่าง”เธอพูดพร้อมเจือ

รอยยิ้มบางๆ เขาไม่แน่ใจนักหรอกว่านั่นจะแปลว่าเธอไม่ได้โกรธ

 

 

               “มานี่สิ”เขาเอ่ยพร้อมกับยิ้มน้อยๆ หญิงสาวมองเขาอย่างชั่งใจ ก่อนเท้าเรียวจะก้าว

เข้ามาใกล้เขา หญิงสาวหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา

 

 

               “มีอะไรคะ”

 

 

               “มานี่ อยู่ไกลอย่างนั้นฉันจะคุยกับเธอรู้เรื่องได้ยังไง”หญิงสาวมองเขาอย่างไม่ไว้

วางใจ หากแต่เธอก็ยอมเดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่มายืนข้างๆเก้าอี้ทำงานที่เขานั่งอยู่ เขาเบน

เก้าอี้จากโต๊ะทำงานก่อนจะดึงร่างบอบบางของหญิงสาวให้นั่งลงบนตักของตัวเอง เธอดูตกใจแต่ก็

คงไม่เท่าที่เขาแอบฉวยโอกาสขโมยหอมแก้มนุ่มๆของเธอ

 

 

               “คุณ!”

 

 

               “วิวสวยรึเปล่า”เขาเอ่ยเมื่อทั้งเขาและคนตัวเล็กบนตักกำลังจับจ้องทิวทัศน์เมืองกรุง

ที่มีทั้งตึกสูงใหญ่หลายตึกที่มีความสวยงามในแบบที่มนุษย์เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้น

 

 

               “สวยค่ะ แต่มันดูน่าอึดอัดไปหมด”ดวงตากลมโตหันมาสบสายตากับเขาขณะที่เสียง

หวานยังคงเอื้อนเอ่ยไป

 

 

               “นั่นสินะ แล้ววันนี้เธออยากไปเที่ยวไหนล่ะ”

 

 

               “ไม่รู้สิคะ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้”เขาหัวเราะน้อยๆที่เสียงหวานเอ่ย

อย่างเบื่อหน่าย ริมฝีปากอิ่มยื่นน้อยๆประกอบกับน้ำเสียงของเธอยิ่งดูน่ารัก เขาหยิกแก้มนุ่มของ

แฟนสาวอย่างมันเขี้ยวก่อนจะเอ่ย

 

 

               “ทำขนมดีไหม วันนี้ฉันอยากทานฝีมือเธอ”

 

 

               “ขี้เกียจ”เธอเอ่ยปฏิเสธเสียดื้อๆ เขามองใบหน้าแสนหวานที่ดูเบื่อหน่าย ก่อนจะเอ่ย

 

 

               “ฉันมันก็เป็นคนธรรมดา ชีวิตมีแต่งาน ไม่รู้หรอกว่าต้องเอาใจผู้หญิงแบบเธอยังไง

เพราะถ้าเป็นคนอื่น แค่เงินของฉันก็ทำให้พวกเธอมีความสุขแล้ว แต่สำหรับเธอมันไม่ใช่...เอาเป็น

ว่าต่อไปนี้ฉันจะมีเวลาให้เธอมากขึ้นละกันนะเด็กน้อย”เขามองแก้มสาวที่ขึ้นสีจัดอย่างเอ็นดู เธอ

ไม่ยอมหันมาสบสายตาเขา

 

 

                  “ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่คะ”

 

 

               “ฉันไม่ได้บื้อขนาดที่จะไม่รู้ว่าแฟนตัวเองต้องการอะไรหรอกนะ”

 

 

               “นึกว่าคุณเป็นคนแบบนั้นซะอีก”เขาหัวเราะน้อยๆในความช่างประชดประชันของเธอ

ก่อนจะขโมยหอมแก้มนุ่มและพาร่างเล็กลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาจูงมือเล็กเดินออกไปจากห้อง

ทำงาน ไปในที่ๆคิดว่าเธอจะต้องชอบมากแน่ๆ

 

 

 

 

 

               เสียงหัวเราะของสิทธาดังไปทั่วห้องทำงานใหญ่ มือหนาวางรูปถ่ายของศัตรูเบอร์

หนึ่งลงบนโต๊ะ ให้ตาย นี่โลกมันคงจะใกล้แตกจริงๆเสียแล้วกระมัง อะไรทำให้มาเฟียหนุ่มผู้ไร้

หัวใจมีความรัก เขาอยากจะรู้นักเชียวว่าหากภาณุรักผู้หญิงคนนี้จริงๆ และเขาเองเป็นคนคร่าชีวิต

ของผู้หญิงที่มันรักไปจากมัน สภาพมันจะน่าสมเพชแค่ไหน น้ำตามาเฟียผู้ทรงอิทธิพล...แค่คิดก็

อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงแล้ว

 

 

               “แกคิดว่าเราจะทำไงกับผู้หญิงคนนี้ดีวะธีระ”เขาหันไปถามลูกน้องคนสนิทอย่างอารมณ์ดี

 

 

               “นั่นน่ะสิครับ”

 

 

               “ให้พวกมันมีความสุขไปก่อน ให้มันรักมากๆ แล้วฉันนี้แหละจะเป็นคนทำลายความ

รักของมันเอง หึ”

 

 

               ความรักอย่างนั้นหรือ...ไม่รู้หรืออย่างไรว่ามันเป็นเรื่องต้องห้าม!

 

 

 

 

 

 

 

               มือหนาของภาณุประคองศีรษะของคนรักสาวมาซบที่ไหล่หนา ก่อนจะโอบประคอง

ไหล่เล็กของหญิงสาวเอาไว้ สายตาของเขาทอดมองสองข้างทางที่มีแต่ต้นไม้ด้วยแววตานิ่งเฉย

ยากที่จะคาดเดา ชีวิตของเขาใช่ว่าจะไม่เคยสงบสุขเลย ในเวลานี้ ในที่ๆไม่มีใครรู้จักเขา มันเป็นที่

ที่เขาจะมีความสุขมากที่สุด และเขาก็อยากให้เธอมีความสุขด้วย เขาไม่อยากทำให้ธนันต์ธรญ์ต้อง

รู้สึกผิดแปลกไปมากกว่าเดิม เพราะตลอดเดือนกว่าๆที่ตกลงคบกันมาชีวิตของเอก็เปลี่ยนไปมาก

พอแล้ว...เขาไม่อยากเป็นตัวทำลายความสุขในชีวิตของเธอ

 

 

               “อย่าเครียดไปเลยครับ ถ้าคุณยังเครียดแบบนี้อยู่คุณฟางเธอต้องรู้สึกแน่ๆ...เธอเป็น

ผู้หญิงฉลาด”เขาหันไปมองภพลูกน้องคนสนิท ก่อนจะยิ้มบางๆ จริงสิ...ทำไมเขาชอบทำให้

ธนันต์ธรญ์เครียดไปด้วยอยู่เรื่อยเลย

 

 

               “นายว่าฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี ฉันกลัวเสียเธอไป”เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่นึกอาย

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเปิดปากคุยเรื่องนี้กับใครเลย

 

 

               “อย่ากังวลไปเลยครับ เรื่องมันใกล้จะจบเต็มทีแล้ว หากคุณแม่ของคุณ...”

 

 

               “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันแยกแยะออก ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันกำลังจะทำมันบาป แต่สิ่งที่แม่ทำ

มันก็บาปเหมือนกัน...ทุกอย่างมันสมควรที่จะจบแบบนั้น อย่ากังวลเลยว่าฉันจะใจอ่อน ทำงานของ

พวกนายให้ดีที่สุด”เขาเอ่ยเสียงหนักแน่น ก่อนจะเบนสายตาออกไปมองนอกกระจกอีกครั้ง แขน

แกร่งที่โอบกอดร่างเล็กนั้นยังคงโอบกอดเธอไว้อย่างมั่นคง และเขาสาบานว่าจะโอบกอดเธอไป

แบบนี้ชั่วชีวิตของเขา...

 

 

               ภพมองเสี้ยวใบหน้าของเจ้านายหนุ่มด้วยความชื่นชม แววตาหนักแน่นมั่นคงของ

ภาณุ น้ำเสียงของเขาที่ใช้เอื้อนเอ่ยนั้นทำให้ขารวมถึงลูกน้องนับร้อยยอมภักดีกับภาณุ ตั้งแต่วันที่

เขาก้าวขึ้นมาแทนบิดาของตนเอง แม้ภาณุในตอนนั้นจะยังดูเด็กในสายตาของทุกคน แต่วันนี้เขา

ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้ และทำได้ดีเสียด้วย ความเข้มแข็งและความเอื้ออาทรต่อลูกน้องทำให้

เขายังเป็นที่รัก เขาเชื่อเหลือเกินว่าภาณุจะสามารถจบความแค้นที่สะสมมานานหลายชั่วอายุคนให้

จบลงได้อย่างสมบูรณ์...

 

 

 

 

               รถคันหรูจอดลงหน้าบ้านพักหลังเล็กที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี ภพลงจากรถทันทีเมื่อรู้ว่า

เจ้านายหนุ่มยังคงต้องการความเป็นส่วนตัว เขาเดินไปสำทับกับเพื่อนบอดี้การ์ดที่ตามมาดูแลเจ้า

นายหนุ่มบริเวณทางเข้าบ้านหลังน่ารักอย่างรู้หน้าที่

 

 

               “ฟาง ถึงแล้วนะ”

 

 

                              ภาณุเอ่ยปลุกคนขี้เซาที่หลับตั้งแต่ออกมายังชานเมืองจนถึงที่หมาย

หากแต่เจ้าหล่อนไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลย เขาก้มลงมองเสี้ยวหน้าหวานของเธออย่างเอ็นดู

ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบลงบนขมับบางอย่างอ่อนโยน ทำไมเขาถึงได้อยากเอาเปรียบเธอไปตลอดเวลา

อย่างนี้นะ แล้วอย่างนี้เขาจะห้ามใจตัวเองไปได้นานแค่ไหน...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เรานอยด์นะ รู้ยัง 5555 แต่มันเหงาอ่ะ ไม่มีแจ้งเตือนเมลล์ อยากอ่านคอมเม้นท์ เลยมาอัพ อิอิ

เงี้ยแหละ เดี๋ยวเราคงชินไปเองละมั้ง สงสัยฝีมือจะตกไปเยอะจริงๆ เง้อออ แต่ไม่อยากชินเลยอ่ะ

ฮ่าๆ สุดท้ายนี้ขอเม้น+โหวตให้เค้าด้วยนะตัวเอง

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา