The Princess I ภารกิจรักร้าย ล่าหัวใจเจ้าชายจอมกวน

9.8

เขียนโดย keang_sujittra

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 11.52 น.

  10 chapter
  32 วิจารณ์
  17.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2558 22.46 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) ตอนที่ 2 : บทสรุปการประชุม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 

 
 “มันจะมากเกินไปแล้วนะ มนิลา!” ฉันลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดังอย่างโกรธจัด ถึงไม่พูดออกมาตรงๆ ใครฟังก็รู้ว่ายัยนั่นกำลังด่ากระแทกฉันว่าโง่ ยิ่งเห็นยัยนั่นเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆอย่างไม่เยแสต่อความโกรธของฉันสักนิด ก็ยิ่งรู้สึกอยากจะซัดฝ่ามือใส่หน้าคนจริงๆเลยให้ตายเหอะ!
 
 
 
“ไม่เห็นต้องทำท่าโกรธขนาดนั้นเลยนี่นา เจ้าหญิงฟาง ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเธอสักคำเลยนะ”
 
 
 
“พี่ฟาง นั่งลงก่อนเถอะค่ะ” เฟย์ยื่นมือมาบีบมือฉันเบาๆ ฉันกัดฟันข่มอารมณ์ก่อนจะยอมนั่งลงแต่โดยดี แม้ความโกรธในใจจะยังคุกกรุ่นอยู่ก็ตาม
 
 
 
“เลิกทะเลาะกันเป็นเด็กๆได้แล้วนา ถ้าพวกเธอมัวเอาแต่ทะเลาะกันอยู่แบบนี้แล้วจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้ยังไง” มาร์คัสพูดขึ้น ฉันหันไปมอง พยายามระงับความโกรธที่มีอยู่ในใจก่อนจะถามต่อ
 
 
 
“แล้วหัวหน้าจะให้พวกเราทำอะไรล่ะคะ”
 
 
 
“สำหรับภารกิจนี้น่ะ The Princess และสภานักเรียนจะต้องร่วมทำงานด้วยกัน”
 
 
 
“อะไรนะคะ!!!” สองเสียงร้องประสานกันดังลั่นห้อง ก่อนที่เจ้าของเสียงทั้งสองจะหันมามองหน้ากันแล้วเมินเชิดไปอีกทาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสองคนนั้นเป็นใคร ฉันกับยัยมนิลายังไงล่ะ! เหอะ!
 
 
 
“หัวหน้าแน่ใจเหรอคะว่าจะให้พวกเรากับยัย... เอ่อ สภานักเรียนทำงานร่วมกันน่ะ” ฉันเม้มปากแน่นอย่างรอฟังคำตอบ มาร์คัสเพียงแค่หัวเราะเบาๆในลำคอ ก่อนใช้นัยน์ตาสีเงินนั่นมองหน้าฉันนิ่ง คิดว่าหล่อนักไง?
 
 
 
“ฉันรู้หรอกนาว่าพวกเธอสองคนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แล้วฉันก็ไม่คิดจะเอางานสำคัญแบบนี้ไปเสี่ยงกับความสัมพันธ์ของพวกเธอด้วย เพราะฉะนั้นเวลาทำภารกิจพวกเธอก็ต้องแยกกันทำอยู่ดี”
 
 
 
“แล้วที่หัวหน้าบอกว่าจะต้องร่วมทำงานด้วยกันมันแปลว่าอะไรล่ะคะ” แต๊งกิ้วที่เงียบมาตลอดเอ่ยถามขึ้นบ้าง มาร์คัสคลี่ยิ้มบางๆก่อนจะตอบ
 
 
 
“ที่จะต้องร่วมทำงานด้วยกันน่ะ มันคือตอนที่พวกเธอเอาสิ่งที่ไปสัมภาษณ์มาได้เขียนเป็นรายงานส่งฉันต่างหากล่ะ”
 
 
 
“งั้นรุ่นพี่บอกมาเลยดีกว่าค่ะ ว่าจะให้แต่ล่ะคนทำอะไร” ยัยมนิลาพูด แต่ก็ไม่วายส่งสายตาจิกกัดมาทางฉันจนได้ ยัยนี่หนิ สงสัยชาติที่แล้วเกิดเป็นไก่แหงๆเลย ถึงได้จ้องจะกัดจะจิกฉันอยู่ได้
 
 
 
“อืมม หลักๆแล้วก็คงต้องแบ่งการทำงานออกเป็นสองฝ่ายล่ะนะ ฝ่ายหนึ่งจะต้องไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและเหตุการณ์สำคัญๆของโรงเรียน Wealthy ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็จะต้องไปสัมภาษณ์เก็บประวัติของ The Prince แห่ง Wealthy ตกลงกันเอาเองล่ะกันว่าใครจะรับเรื่องไหนไปทำ”
 
 
 
“สภานักเรียนขอเป็นฝ่ายสัมภาษณ์เก็บประวัติของ The Prince เองค่ะ” ยัยมนิลาพูดขึ้น ฉันหันขวับไปมองทันที ทั้งสงสัยปนแปลกใจ ทำไมยัยนั่นถึงได้กระตือรือร้นขนาดนี้นะ ปกติไม่ว่างานอะไรนางก็โยนมาให้พวกเราตลอดนี่นา ทำงานไม่ชอบ แต่ถ้าเรื่องเอาหน้าขอให้บอก ถนัดนักล่ะยัยนี่น่ะ -_-*
 
 
 
“เหตุผลล่ะ” มาร์คัสเอ่ยถาม ยัยมนิลามองมาทางฉันก่อนจะยิ้มหยัน
 
 
 
“เพราะฉันคิดว่า ถ้าจะให้ The Princess ที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของอีกฝ่ายไปสัมภาษณ์ งานที่ออกมามันคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ล่ะมั้งคะ”
 
 
 
“อืม แต่งานนี้ฉันต้องการให้มีคนสัมภาษณ์แค่คนเดียวนะ บทสัมภาษณ์ทั้งหมดมันจะได้สอดคล้องกัน”
 
 
 
“แค่ฉันคนเดียวก็เกินพอแล้วล่ะค่ะ” ยัยนั่นยิ้มอย่างมั่นใจ หนอย! มันจะหยามกันเกินไปแล้วนะเฟ้ย ตัดหน้ากันทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงสนามแบบนี้น่ะ  คนอย่างฟางไม่มีทางที่จะยอมเด็ดขาด
 
 
 
“ถ้างั้นก็ตกลงว่า...”
 
 
 
“พวกเราขออาสาสัมภาษณ์ The Prince เองค่ะ” ฉันโพล่งขึ้น เล่นเอาเหล่าเจ้าหญิงที่เหลือพากันสะดุ้งกันเป็นแถบ โดยเฉพาะยัยเฟย์ที่สะกิดฉันยิกๆทันที
 
 
 
“พี่ฟางคะ...”
 
 
 
“เงียบก่อนนา” ฉันหันมาทำเสียงดุ ก่อนจะไปทางมาร์คัสที่กำลังมองหน้าฉันอย่างรอคำตอบ “หวังว่าหัวหน้าคงจะไม่ปฏิเสธนะคะ”
 
 
 
“ไม่ได้นะคะรุ่นพี่ เห็นๆอยู่ว่าฉันเป็นคนเสนอก่อน” ยัยมนิลาแย้งขึ้นทันที ฉันเป็นฝ่ายหันไปยิ้มยั่วบ้าง
 
 
 
“แล้วยังไงล่ะ คนที่ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจน่ะ เขาวัดกันที่ความเหมาะสม ไม่ได้วัดกันที่การเสนอตัวไม่ใช่เหรอไง”
ฉันพูด ถ้าเกิดยัยมนิลากระตือรือร้นในการอาสาสัมภาษณ์พวก The Prince นั่นขนาดนี้ ก็แสดงว่าพวกเขาคงจะมีอะไรที่ยัยนั่นสนใจอยู่ไม่น้อย แล้วถ้าเกิดคนที่ได้สัมภาษณ์เป็นพวกฉันแทนล่ะ มันจะน่าสนุกขนาดไหนกันนะ
 
 
 
“นี่เธอ!!” มนิลามองฉันตาขวางอย่างไม่พอใจ เหอะ! มันมีอะไรแปลกๆอยู่จริงๆนั่นแหละนะ เรื่องนี้น่ะ
 
 
 
“หยุด! อย่าพึ่งเถียงกัน” มาร์คัสรีบส่งเสียงห้ามเมื่อเห็นว่าสงครามน้ำลายกำลังจะปะทุขึ้นอีกรอบ
“ฟาง ไหนเธอลองบอกมาซิว่า ทำไม The Princess ถึงเหมาะสมที่จะได้รับมอบหมายในการทำภารกิจนี้”
 
 
 
“ถึงฟางจะไม่รู้จัก The Prince แต่ก็ใช่ว่าเจ้าหญิงที่เหลือจะไม่รู้จักนี่คะ” ฉันแย้ง ก่อนจะหันไปมองหน้ายัยมนิลา “แล้วฟางก็คิดว่า เหตุผลที่ประธานนักเรียนอ้างมาน่ะ มันไม่มีเหตุผลพอ”
 
 
 
“ไม่มีเหตุผลยังไง” มนิลาโพล่งขึ้นทันที ดูหน้าก็รู้ว่ายัยนี่กำลังเก็บอาการไม่พอใจไว้มากแค่ไหน นานๆทีจะเห็นยัยนี่ปรี๊ดแตกนะเนี่ย สนุกดีจัง ^^
 
 
 
“ก่อนที่คนเราจะรู้จักกัน เราก็ต้องเคยไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วถ้าเราไม่ทำความรู้จักกับคนๆนั้น เราจะรู้จักกันได้ยังไงล่ะ จริงมั้ยคะ ประธานนักเรียน” ฉันจ้องหน้ายัยมนิลาอย่างท้าทาย ชนิดที่ว่าคนอื่นๆในห้องจะรู้สึกได้ถึงแรงไฟฟ้าสถิตที่ถูกส่งมาจากสายตาของเราสองคนได้เลยทีเดียว เห็นยัยนั่นเถียงไม่ออกแล้วรู้สึกสะใจชะมัด
 
 
 
“ตกลงกันได้รึยัง ว่าใครจะเป็นคนรับงานนี้” เสียงของมาร์คัสดังแทรกขึ้นมาระหว่างสงครามทางสายตาของฉันกับยัยมนิลา แล้วก็เป็นยัยนั่นที่เบนสายตาไปทางมาร์คัสก่อน
 
 
 
“พวกเรา The Princess ขอรับงานนี้ค่ะ” ฉันพูดเสียงดังฟังชัด ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ยัยมนิลา “ถ้าประธานนักเรียนไม่ขัดข้อง”
 
 
 
“ว่าไงมนิลา มีอะไรจะแย้งอีกมั้ย” มาร์คัสหันไปถาม ยัยนั่นเม้มปากแน่น แวบนึงที่ฉันเห็นแววตาของยัยนั่นวาวโรจน์ขึ้นมาก่อนจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
 
 
 
“แล้วทำไม? ฉันจะต้องหลีกทางให้ The Princess ด้วยล่ะ ในเมื่อฉันก็มั่นใจว่าคณะกรรมการนักเรียนเองก็มีความสามารถไม่น้อยหน้าไปกว่าพวกเธอ” ฉันยิ้ม คิดไว้แล้วล่ะว่ายัยนี่คงจะไม่ยอมง่าย แต่ก็ใช่ว่าฉันจะยอมง่ายๆเหมือนกันหนิ
 
 
 
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าคณะกรรมการนักเรียนไม่มีความสามารถ” ฉันพูดพลางยิ้มน้อยๆ ก็ยอมรับอยู่หรอกว่าคณะกรรมการนักเรียนชุดนี้มีความสามารถรอบด้านจริงๆ ยกเว้นก็แต่ประธานนักเรียนนี่แหละที่ฉันไม่ชอบหน้าเอาซะเลย
 
 
 
“ถ้าให้เดา พวก The Prince นั่น ก็น่าจะมีตำแหน่งพอกับพวกเราที่เป็นเจ้าหญิงสินะ” ฉันหันไปถามพรรคพวกของตัวเอง เจ้าหญิงที่เหลือต่างพากันพยักหน้าหงึกหงัก แต่ก็ยังส่งสายตามาถามฉันว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน?
 
 
 
“แล้วยังไงต่อล่ะ ฟาง” มาร์คัสถามต่อ แต่ฉันกลับหันไปมองหน้ามนิลาอย่างถือไพ่เหนือกว่า
 
 
 
“ถ้าเทียบตำแหน่งกันแล้ว เธอคิดว่า ระหว่างพวกเราที่เป็น The Princess กับพวกเธอที่เป็นคณะกรรมการนักเรียน พวกเจ้าชายนั่นจะยอมให้ใครสัมภาษณ์มากกว่ากันล่ะ”
 
 
 
“ตำแหน่งประธานนักเรียนของฉัน ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตำแหน่ง The Princess ของเธอสักเท่าไหร่หนิ ฟาง” ยัยนั่นเชิดหน้าขึ้น มั่นใจจังนะมนิลา ตำแหน่งนั้นน่ะ กอดมันไว้ให้ดีๆล่ะ ถ้าฉันพบรูโหว่ของเธอเมื่อไหร่ล่ะก็ ฉันเล่นไม่เลี้ยงแน่ คอยดู!
 
 
 
“พอแล้วๆ เลิกเถียงกันซะที ขืนเถียงกันไปเถียงกันมาแบบนี้วันนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้กันพอดี” มาร์คัสแทรกขึ้นอีกครั้ง ฉันจึงยอมนั่งลงอย่างง่ายๆ พร้อมกับรอฟังว่ามาร์คัสจะพูดอะไรต่อ
 
 
 
“จากที่ฉันฟังๆมา ฉันคิดว่าที่ฟางบอกก็น่าคิดนะ” มาร์คัสพูด และนั่นก็ทำให้ยัยมนิลามีสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที
 
 
 
“รุ่นพี่หมายความว่ายังไงคะ”
 
 
 
“จากที่ฉันรู้มาเนี่ย พวก The Prince นั่นแสบพอดูเลยล่ะ ถ้าเราส่งนักเรียนธรรมดาๆไปสัมภาษณ์ ฉันคิดว่าเราไม่น่าจะได้ข้อมูลมาง่ายๆ”
 
 
 
“แต่ฉันไม่ใช่นักเรียนธรรมดา ฉันเป็นประธานนักเรียนของ High-Flown นะคะ” ยัยนั่นย้อนเสียงเข้ม สงสัยจะไม่พอใจที่มาร์คัสไม่ได้เอ่ยถึงตำแหน่งของเธอ หุหุ
 
 
 
“ฉันรู้ แต่ถ้าเทียบระหว่างสภานักเรียนกับ The Princess แล้ว ฝ่ายเจ้าหญิงเป็นฝ่ายที่มีคนรู้จักมากกว่าไม่ใช่เหรอไง”
 
 
 
“ถ้างั้นก็แล้วแต่รุ่นพี่เถอะค่ะ พวกเราสภานักเรียนไม่เกี่ยงรูปแบบงานอยู่แล้ว อยากให้เราทำอะไรก็บอกมาได้เลย ขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบ ยัยนั่นก็เชิดออกไปจากห้องทันที หึ! ไม่เกี่ยงรูปแบบงาน แล้วที่มายืนเถียงกับฉันฉอดๆเรื่องคนสัมภาษณ์ The Prince เนี่ย ไม่เกี่ยงงานเลยสินะ
 
 
 
“ถ้างั้นก็... เลิกประชุมแค่นี้ล่ะกัน ได้คนสัมภาษณ์ The Prince แล้วหนิ พวกเธอค่อยไปตกลงกันเอาเองแล้วกันว่าใครจะเป็นคนสัมภาษณ์ แล้วพรุ่งนี้เช้า คนๆนั้นจะต้องมาพบฉันที่นี่ เราจะคุยเรื่องกำหนดการสัมภาษณ์กัน” มาร์คัสร่ายยาว พวกฉันได้แต่พยักหน้าหงึกหงักก่อนจะค่อยๆทยอยกันเดินออกมาจากห้อง The Princess
 
 
 
“พี่ฟาง!!!” และทันทีที่ก้าวออกมาพ้นห้องประชุม ยัยสี่เจ้าหญิงนี่ก็พากันประสานเสียงใส่หน้าฉันทันที ถามหน่อยเหอะ พวกเธอจะเสียงดังไปเพื่อ?
 
 
 
“อะไรของพวกเธอเนี่ย ตะโกนกันทำไม?”
 
 
 
“พี่ฟางนั่นแหละ คิดอะไรอยู่เนี่ย” โห่ เฟย์ แต่ล่ะคำที่เธอพูดเนี่ย เกรงใจความเป็นรุ่นพี่ของฉันหน่อยได้ไหมย่ะ
 
 
 
“คิดอะไร นี่พูดเรื่องอะไรของเธอเนี่ยเฟย์”
 
 
 
“ก็เรื่องที่จะไปสัมภาษณ์ The Prince ไงคะ พี่ฟางอาสาไปแบบนั้น ถามพวกเราบ้างรึยังเนี่ย” ยัยแก้วพูดขึ้นบ้าง
 
 
 
“ก็แค่สัมภาษณ์เอง พวกเธอจะกลัวอะไรล่ะ ไม่ได้จะไปฆ่าใครสักหน่อย”
 
 
 
“แค่อาสาไปแบบนั้นก็เหมือนฆ่าพวกเราทางอ้อมแล้วล่ะค่ะ” มายด์พูดบ้าง ฉันทำหน้าเหลอหลาทันที คนอื่นพูดไม่เท่าไหร่ ยังพอเข้าใจได้ว่าขี้เกียจ แต่ยัยมายด์ที่ขยันเป็นเลิศเป็นคนพูดแบบนี้ ฉันเริ่มจะไม่แน่ใจซะแล้วสิ
 
 
 
“ทำไมล่ะ มีอะไรที่พี่ยังไม่รู้อีกเหรอไง”
 
 
 
“ถ้าเป็นเรื่องของ The Prince ที่พี่ฟายังไม่รู้ล่ะก็ แต๊งขอบอกเลยค่ะ ว่าเยอะ!” ฉันแอบกลืนน้ำลายเอื้อก ท่าทางจะเจองานหนักซะแล้วสิฉัน
 
.
 
.
 
.
 
.
 
.
มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆ
หายไปสองวัน มีใครรออ่านฟิคเรื่องนี้กันบ้างมั้ยน้าาา
ขอสารภาพบาปก่อนเลยว่าไรเตอร์แอบหนีเที่ยวมา ลืมอัพเลย 555+
เดี๋ยวหลังจากนี้จะมาอัพให้บ่อยๆเลยนะครัชชชช
เม้นด้วยยยยย เม้นเยอะความถี่ในการอัพก็เยอะขึ้นด้วยนะเออ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา