REMINISCENCE [CHANHUN]
10.0
เขียนโดย Hadassah
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.44 น.
10 chapter
5 วิจารณ์
21.05K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.59 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) Not a memory, just a regret
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความMusic Faculty, University of Victoria
ในที่สุดผมก็กำลังจะหมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัยเสียที เพราะอาทิตย์คืออาทิตย์สุดท้ายของการเรียนแล้วล่ะครับ พอสอบแล้วก็ปิดเทอมจะได้หยุดยาวซะที มันดีจริงๆใช่มั้ยล่ะ ตอนนี้ผมกำลังจะถึงคลาสดนตรีของผมแล้ว ดีที่คาบสุดท้ายวันนี้อาจารย์ปล่อยว่าง เพราะไม่มีไรจะสอนแล้ว จะไปไหนก็ไป ทำไรก็ทำ แต่ผมแค่มาพอเป็นพิธีน่ะ คิดว่าเพื่อนในห้องคงมาซ้อมดนตรีกันหลายคน อีกอย่างนี่ก็เริ่มจะเย็นแล้วว่าจะมาชวนไอ้เพื่อนสนิทของผมไปเล่นสเก็ตบอร์ดด้วยกัน ผมเดินเข้าคลาสมาในอย่างเงียบๆ แต่ในห้องนี่ดังกระหึ่มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงดนตรีของเหล่านักเรียนที่กำลังฝึกซ้อมกัน เรียนดนตรีก็ดีงี้แหละผมว่า ไม่ค่อยเครียด สบายๆ อารมณ์ล้วนๆ ทุกคนคิดเหมือนผมมั้ย อ่านั่นไง ผมเห็นมันละ เพื่อนสนิทของผมมันกำลังนั่งเปลี่ยนสายกีต้าร์อยู่ที่พื้น ว่าแล้วก็เข้าไปทักทายมันหน่อยดีกว่า
ผั๊วะ!!!
“โหยยยยย ไอสัสใครโบกหัวกูวะ! แม่งหน้าเกือบทิ่มกระแทกกีต้าร์เลยไอเหี้ย!!”
“กูโบกเองมึงจะทำไม แค่ทักทายนิดหน่อยทำสำออยนะมึงอ่ะ”
คนถูกโบกเงยหน้าขึ้นมองพอเห็นว่าเป็นผมก็ทำหน้าเอือมใส่ ผมแค่ยืนยักคิ้วให้มันกลับแค่นั้น
กวนตีนคนนี่มันสนุกจริงๆ
“ทักทายนิดหน่อยพ่องดิคับเหี้ยชาน โบกซะกูหน้าทิ่ม นี่ยังใส่สายไม่เสร็จแล้วถ้าหน้ากูโดนสายกีต้าร์ดีดจะทำไง
กูยิ่งหล่อๆอยู่ เดี๋ยวหน้ากูเสียโฉมหมดสัส"
"โหไอ้เหี้ยโคตรมั่นหน้า แต่ขอโทษหว่ะ หล่อไม่เท่ากู ทำใจซะ"
"เออ ไอ้โย่ง ไอ้หล่อ ไอ้รวย เอาที่มึงสบายใจเลยสัส กุนอยด์มึงและ"
"เห้ยอย่านอยด์ดิวะ กูล้อเล่น เออตอนเย็นมึงอยากไปเล่นสเก็ตบอร์ดกับกูปะ”
"มึงว่าไงนะ ให้กูทวนไหม? เมื่อกี้มึงเพิ่งโบกหัวกูไป ทีงี้มาชวนกู ชวนดีๆไม่เป็นไงมึงอ่ะ"
“นี่ก็ดีสุดๆของกูละ มึงควรดีใจ”
“เออกูโคตรดีใจ มึงทำให้กูรู้สึกเหมือนกูเป็นคนพิเศษสำหรับมึงมาก นี่กูไม่แปลกใจเลยทำไมไม่มีคนเอามึง เก๊กชิบหาย หยาบคาย สถุน รุนแรง อยู่คนเดียวไปเถอะมึงอ่ะ”
“เออ กูตรงที่มึงด่าทุกอย่างแหละ ด่ากูจบยัง ตกลงมึงจะไปกับกูมั้ย? กูให้โอกาสมึงตอบแค่ครั้งเดียว ถ้าคำตอบไม่ถูกใจกู มึงเจอตีน”
“อ่าว ไอ่สัสแล้วถามกูทำเหี้ยไรว่าอยากไปกับมึงมั้ย นี่มึงออกแนวบังคับแล้วไอ่ฟวย ไม่ไปเดี๋ยวมึงก็โบกหัวกูอีก มึงมันเพื่อนไม่คบไง แล้วกูมันซวยที่เสือกทนกับมึงได้ ไอ่ปาร์คเอ้ย เอ้าไปๆๆ เปลี่ยนสายเสร็จพอดี นี่ก็เย็นมากแล้ว ลำบากกูต้องไปส่งบ้านมึงอีก”
ดูไอ้จงแดเพื่อนคนเดียวของผมมันพูด แค่ให้ไปเล่นเป็นเพื่อน ไปส่งที่บ้านแค่เนี้ยด่าฉอดๆ แต่จะว่าไปแล้วก็จริงอย่างที่ไอ้จงแดมันพูด ผมชอบอยู่คนเดียว ผมไม่มีค่อยเพื่อน ผมไม่ค่อยพูดกับใคร ผมไม่สนใจใครเลย ยกเว้นตัวผมเอง เอ่อ จงแดอีกคนด้วยก็ได้ เพราะนอกจากมันผมก็ไม่มีใครแล้วเวลานี้
*************************************
ผมกับจงแดออกมาจากสวนสาธารณะเรียบร้อยหลังจากเล่นสเก็ตบอร์ดกันเกือบ 3 ชั่วโมง ตอนนี้จงแดกำลังขับรถไปส่งผมที่บ้าน ว่าแต่อยากรู้จักผมซักนิดมั้ยล่ะ ไม่นิดละกัน เรื่องมันยาว ทนฟังหน่อยนะ
ผมชื่อปาร์ค ชานยอล มาจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ กำลังขึ้นปี 3 อยู่ Music Faculty มีพี่สาวชื่อยูร่า เป็นลูกคนเล็กของบ้าน หล่อรวย ชอบเล่นดนตรี พ่อเป็นเจ้าขอค่ายเพลงในเกาหลี นานหลายปีแล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้านที่โซลเลย ตอนนั้นผมจำได้ ผมกำลังจะปิดเทอม ป.6 เทอม 2 พ่อกับแม่ของผมไปรับเด็กที่ไหนไม่รู้มาอุปการะเลี้ยงไว้ที่บ้าน ดูแล้วน่าจะอ่อนกว่าผมไม่เท่าไหร่ แล้วยังบอกอีกนะว่าให้ผมรักไอ้เด็กคนนั่นเหมือนน้องแท้ๆของผม พอผมถามว่ามันเป็นลูกใครมาจากไหน พ่อกับแม่ก็เอาแต่เงียบไม่ตอบอะไร จนตอนนี้ผมยังไม่รู้ความจริงอะไรเลยเกี่ยวกับไอ้เด็กคนนั้นเลย รู้มั้ยหลังจากที่เอาไอ้เด็กนั่นมาเลี้ยงทุกคนในบ้านก็ดูจะเห่อมันมาก ซื้อนู้นซื้อนี้ให้ของดีของแพงอีกต่างหาก เวลาผมไม่เล่นด้วยมันก็ร้องแหกปาก สุดท้ายผมก็โดนพ่อเอาไม้ตี โทษฐานที่ไม่ยอมเล่นกับมัน แล้วพอทุกคนเผลอผมก็จะไปแกล้งมันกลับเป็นการเอาคืน มีอะไรผมก็ต้องแบ่งมันตลอดด้วยเหตุผลที่ว่า 'หนูเป็นพี่นะลูก ต้องเสียสละให้น้องเข้าใจมั้ย' เป็นแบบนี้บ่อยๆใครมันจะไปยอมล่ะว่ามั้ย ผมต้องเป็นลูกคนเล็กของบ้านหลังนี้ไม่ใช่หรอ ทุกคนต้องรักผมคนเดียว ตามใจผมคนเดียวสิถึงจะถูก แล้วนี่อะไรทุกคนในบ้านเหมือนรักและเอ็นดูไอ้เด็กคนนั้นมากทั้งพ่อ แม่ พี่ยูร่า คนรับใช้คนขับรถยันคนสวน ด้วยความที่ตอนนั้นผมเป็นเด็ก ยอมรับเลยว่าน้อยใจมาก นึกแล้วก็โกรธ ทำไมพ่อกับแม่ถึงลำเอียง ไอ้เด็กนั่นเหมือนแย่งทุกอย่างไปจากผม จนบางครั้งผมรู้สึกเกลียดมันเลยล่ะ อยากให้มันตายหรือหายไปซะเลย สุดท้ายผมทนไม่ไหวเลยตัดสินใจไปหาแม่ พร้อมกับแกล้งพูดกับแม่เล่นๆว่าผมอยากไปเรียนต่อไฮสคูลที่เบลเยียม เพราะรู้ว่าพ่อซื้อบ้านไว้ที่นั่น จะขอไปคนเดียวด้วยกล้ามั้ยล่ะเด็กที่กำลังจะขึ้นม.1 อย่างผม ก็แค่จะลองใจดูว่าถ้าผมไม่อยู่แล้วแม่จะทำยังไง แต่ไม่คิดว่าแม่จะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับพ่อ แล้วพ่อดันเห็นด้วย กลายเป็นว่าผมถูกส่งไปเรียนไฮสคูลที่เบลเยียมจริงๆ... จากนั้นผมอยู่คนเดียวที่เบลเยียมมาตลอด ไม่เคยคิดจะกลับบ้านที่เกาหลีเลยถึงจะเป็นช่วงปิดเทอม หรือช่วงซัมเมอร์ ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้เด็กนั่น ไว้กลับทีเดียวตอนเรียนจบเลยดีกว่า ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นปี 3 แล้ว ใครๆก็บอกว่าผมหล่อ เก่งดนตรี เรียนดี บ้านมีฐานะ มีคนเข้ามามากมายทั้งชายและหญิง แต่สุดท้ายคงทนสันดานผมไม่ได้เลยไม่มีใครเอา มีก็แต่เพื่อนสนิทเป็นคนเกาหลีเหมือนกันแค่คนเดียวตั้งแต่เรียนมา แต่ผมก็ชินแล้วล่ะ มันโอเคแล้วสำหรับผมตอนนี้... โทษครับบ่นยาวไปหน่อย ทั้งที่มันเป็นอะไรที่ไม่น่าจดจำเลย
"เห้ยชานยอลใกล้จะถึงบ้านมึงละนะ เตรียมตัวดิ"
"..."
"นั่น... นั่งแอ๊บเงียบ ไอ้ชาน! มึงได้ยินกูมั้ย!? นั่งเหม่อตลอดทาง มึงเป็นคนชวนกูมานะ พูดไรบ้างดิ หรือมึงยังงอนที่กูด่ามึง?"
"งอนเหี้ยไร อย่าใช้คำว่างอนกับกูมันดูปัญญาอ่อน"
"โห ด่าได้ละดิ่ กูนึกว่าใบ้แดกมึงละเนี่ย ไปๆลงๆ ถึงบ้านมึงละ ฝันดีนะที่รัก จุบๆ"
ไม่ว่าเปล่ามันกลับโบกมือทำปากจู๋ใส่ผม ไอนี่...
"จุบกับตีนกูมั้ยสัส ท่าจุบๆมึงดูอุบาทว์หว่ะ คิดอะไรกับกูรึป่าวไอ้จงแด!?"
"คิดเหี้ยไร กูล้อเล่นนนนนน! บอกไว้เลยว่ากูไม่เคยคิดจะเอามึง เป็นเพื่อนมึงกูก็ว่าซวยสุดๆละ ลงไปได้แล้วหูกางเพื่อนยาก กูจะกลับบ้านกูบ้าง 5555555555"
ผมปลดสายรัดเข็มขัดออกแล้วเปิดประตูลงมา ด้วยความหมั่นไส้ไอ่เพื่อนคนนี้มาก เอาซักหน่อยละกันปิดประตูใส่หน้าแม่งเลย ปัง!
"โหไอ่สัสประตูรถกู! ปิดซะไม่มีความเป็นผู้ดีเลยนะมึงอ่ะ เรื่องประชดนี่เก่งจัง -__-!"
"เออ! ไว้ประตูรถมึงหลุดเดี๋ยวกูจ่ายให้ โทษทีกูหล่อและรวยมาก ทำไรก็ได้ กลับไปได้แล้วมึงอ่ะ ไปเลยไป๊!" ผมยกแฟ้มชี้หน้าคาดโทษมันไว้อย่างขำๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปไขประตูบ้าน
"หื้มมมม มั่นหน้านะมึงอ่ะ สันดานนนนน ไปละไอ่โย่งเจอกันอาทิตย์หน้าเว้ย! 555555555"
ด่าจบมันก็เหยียบคันเร่งออกไปทันที เห็นมั้ย จะไปแม่งยังตะโกนด่าผมตามหลัง ผมถึงกับส่ายหัวให้กับความกวนตีนของมันจริงๆ
******************************************
ในที่สุด ผมก็เดินเข้ามาในตัวบ้านแล้วลากสังขารตัวเองขึ้นมาบนห้องนอนจนได้ รู้สึกเหนื่อยมากเลยแฮะ วันนี้เป็นอะไรนั่งเหม่อตลอดทาง อยู่ดีๆก็นึกถึงบ้านขึ้นมาซะงั้น คิดถึงแม่... แต่... ส่งอีเมลหาแม่หน่อยก็ดี ส่งดีมั้ย ส่งหน่อยละกัน แม่จะได้รู้ว่าผมคิดถึง ว่าแล้วก็ตรงดิ่งไปยังแม็คบุ๊ตตัวโปรดค่อยๆกางออกแล้วเปิดมัน
...........
อ่าาา... แม่ส่งอีเมลมาหาเมื่อเช้าช่วงสายๆ ว่าแล้วก็กดเข้าไปอ่านหน่อยดีกว่า
ชานยอล
ที่เบลเยียมอากาศเป็นยังไงบ้าง คงหนาวมากใช่มั้ย ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วย ตอนนี้บริษัทของเรากำลังไปได้สวย แม่อยากให้แกเรียนจบแล้วกลับมาช่วยงานที่บริษัทพ่อเร็วๆคงจะดีไม่น้อย เทอมหน้าก็ขึ้นปี 3 แล้วสิ อีกไม่นานแล้วที่แกจะกลับมา เออแม่มีเรื่องสำคัญจะบอกแกอีกเรื่องนึง เดือนหน้าแม่จะส่งน้องไปอยู่กับแกที่เบลเยียม วันที่ 7 น้องคงไปถึงที่นั่น แม่อยากให้น้องไปอยู่กับแกจะได้ปรับตัวซักระยะก่อน น้องจะต้องเข้าเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับแกเท่านั้น แม่เป็นห่วงน้อง อย่างน้อยจะได้มีคนคอยดูแล เอกสารต่างๆของน้องแม่จะทะยอยส่งไปให้ เรื่องที่พักแม่ขอให้น้องพักที่บ้านพักที่พ่อซื้อไว้ให้แกอยู่นั่นแหละ อยู่ด้วยกันก็ดีกว่า มีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยน้องได้ หลายปีแล้วใช่มั้ยที่แกไม่ได้เจอน้องเลย แม่แนบรูปน้องมาด้วยนะเผื่อแกจำน้องไม่ได้ น้องน่ารักมากเลยล่ะ ดูแลน้องดีๆเข้าใจมั้ย แม่คิดถึงแกเสมอ
ด้วยรักแม่
....
หลังจากที่อ่านเมลของแม่จบ ผมก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน อะไรกัน... ผมหนีมาอยู่คนเดียวแล้วแท้ๆ แต่แม่กำลังจะส่งไอ้เด็กนั่นมาอยู่กับผมงั้นหรอ ส่งมาเดือนหน้า วันที่ 7 นี่ก็สิ้นเดือน ก็อีกไม่นานแล้วสิ ไหนขอเช็ควันก่อน... ผมเอื้อมไปหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะมาแล้วเลื่อนดูเรื่อยๆ ไอ้เด็กนั่นจะมาถึงที่นี่ อีกอาทิตย์กว่าๆ... หงุดหงิด... ทำไมแม่เพิ่งบอกตอนนี้ล่ะ
เอาเป็นว่าเรื่องนั้นเก็บไว้ก่อน ไหนขอดูหน้ามันหน่อยดิ แม่ชมว่าน่ารักหนักหนาหน้าตาจะเป็นไง
ผมกดคลิ๊กไฟล์ภาพที่แม่แนบมาให้ รอมันกำลังโหลดขึ้นมา
'น้องน่ารักมากเลยล่ะ'
คำพูดนี้ของแม่ลอยขึ้นมาทันทีตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมได้เห็นรูปเจ้าเด็กนั่น ใบหน้าขาวเกือบจะซีดแต่ได้รูปพอดี ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นถึงแม้แววตาจะแฝงความหม่นหมองไปหน่อยก็เถอะ แต่มันดูมีเสน่ห์น่าค้นหามาก... ปากบางสีชมพูอ่อนธรรมชาติ กับจมูกรั้นนั่น หน้าตาใช้ได้... รวมๆแล้วเปลี่ยนไปเยอะจนจำแทบไม่ได้ แต่อย่าเข้าใจผิดนะ ก็แค่ชมไปตามเนื้อผ้า ผมไม่หลงเสน่ห์ไอ้เด็กนั่นง่ายๆหรอก และผมก็ไม่คิดว่าผมกับไอ้เด็กนั่นจะอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ได้แน่ๆ
แล้วเอาไงดีวะไอ้ปาร์ค! อีกไม่กี่วันแล้วกูจะทำยังไงกับมันดี!!
****************************************
University of Victoria
"เป็นเชี้ยไรวะ หน้ามึงฟ้องว่ามึงอยากนอนมาก ไปทำไรมาเมื่อคืน"
เป็นไอ้จงแดเองที่มาเขย่าตัวผมที่กำลังผมจะฟุบลงไปกับโต๊ะอีกรอบด้วยความง่วงเพราะเมื่อคืนผมเอาแต่กลุ้มใจเรื่องไอ้เด็กนั่น และก็เอาแต่นอนมองรูปมันทั้งคืนไม่หลับไม่นอน จริงๆไอ้เด็กนั่นก็ดูดี แต่ก็แค่นั้นแหละทำไรผมไม่ได้หรอก
"จะเขย่ากูทำไมกูง่วง มึงไม่เข้าใจกูหรอก อย่ายุ่งดิ"
"เอ้า ไอ้ห่า... กูจะเข้าใจมึงได้ไงก็มึงเอาแต่นอนไม่เล่าเหี้ยไรเลย ก็บอกกูดิมีอะไร"
จริงสิ... ผมนึกขึ้นได้ว่าจะถามคำถามมันตั้งแต่เมื่อคืน ลืมเลย งั้นหันไปถามมันหน่อยดีกว่า
"นี่... กูมีคำถามจะถามมึงจงแด"
"..."
"ถ้าสมมติว่ามึงเกลียดสิ่งๆหนึ่ง หรือคนๆนึงมากๆ มึงจะทำยังไงวะ?"
หลังจากได้ฟังคำถาม จงแดก็เงียบไปซักพัก ก่อนที่มันจะหันมามองหน้าผมนิ่งๆแล้วบอกคำตอบออกมา
"เป็นกูหรอ ถ้ากูเกลียดอะไร กูจะเหวี่ยงมันไปให้ไกลจากชีวิตกูเลย แต่ถ้ากูเกลียดใครซักคน กูจะเอาเค้ามาไว้ใกล้ๆตัว"
"ทำไมวะ ในเมื่อเกลียดแล้วมึงจะเก็บเค้าไว้ทำไม?" ผมงงในสิ่งที่มันตอบอยู่ไม่น้อย นี่ผมนึกตามมันไม่ทันงั้นหรอ
"เอาจริงนะ ถ้ากูเกลียดใครกูก็ไม่อยากเอามันไว้หรอก แต่ที่กูเอาไว้ เพราะกูจะเอาไว้แกล้งไงไอ้ฟายยยยย 5555555555 " จงแดตอบพร้อมกับหัวเราะยักคิ้วอย่างกวนตีน
"ตลกหว่ะ แกล้งทำไม ใครเค้าจะไปอยากเสียเวลายุ่งกับคนที่ตัวเองเกลียดวะ มีแต่ตีตัวออกห่าง มึงนี่เล่นเป็นเด็กๆไปได้ โตเป็นควายละนะมึงอ่ะ"
"มึงแหละที่ควายไอ้ชาน นี่มึงตีความหมายที่กูพูดไม่ออกจริงๆหรอวะ ทั้งที่คนเย็นชาอย่างมึงน่าจะถนัดด้วยซ้ำ"
"อะไร... กูไม่ได้โง่"
"งั้นกูถาม สำหรับมึงแกล้งอะไรสนุกที่สุด"
"คน"
"แล้วเล่นกับอะไรเจ็บปวดที่สุด"
"ความรู้สึก..."
"บิงโก~ หายโง่แล้วดิ ทีนี้รู้ยังว่ากูหมายความว่าไง"
"เหอะ... มึงมันเลวจงแด"
"แต่ยังไม่ได้ครึ่งของมึง เชื่อกู มึงเหี้ยกว่าเยอะ ที่ผ่านๆมามึงก็เล่นมาหลายคนละ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด มึงทิ้งเค้าบ้าง เค้าไม่เอามึงบ้าง น่าสงสารจริงจริ๊ง"
"ไอ้สัสมึงพูดดีๆ เดี๋ยวมึงเจอตีนกู เดี๊ยะๆ ก็ที่ผ่านมาคนก่อนๆกูไม่ได้เกลียดหนิ คบๆไปถ้าได้ก็เอา เออๆจบเถอะ เอาบุหรี่มาตัวดิ ไว้กูซื้อคืนวันหลัง"
"ขอกูตลอดแหละมึงอ่ะ เป็นเพื่อนกับมึงนี่นอกจากจะซวยแล้วยังเปลืองสัสเลย"
"เอออออ บ่นเหี้ยไรนักหนา ไปๆๆ"
ผมกับจงแดเดินออกจากคลาส แล้วตรงมาหลังตึกคณะทันที จริงๆผมไม่อยากสูบบุหรี่นักหรอก พอลองแล้วก็ติด พอเครียดแล้วมันไม่ไหว ได้สูบก็ค่อยยังชั่วหน่อย เหมือนหายอยากยายังไงไม่รู้ แต่ถ้าอย่างที่ไอ้จงแดมันพูดเรื่องนั้นล่ะก็ มันก็น่าสนนะคิดเหมือนผมมั้ยล่ะ เอามันมาไว้ให้อยู่ในสายตา จะทำอะไรมันก็ได้ แค่คิดก็สนุกละ ฉันรอนายใจจดใจจ่อเลยล่ะ โอ เซฮุน หึๆ
************************************
ในที่สุดผมก็กำลังจะหมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัยเสียที เพราะอาทิตย์คืออาทิตย์สุดท้ายของการเรียนแล้วล่ะครับ พอสอบแล้วก็ปิดเทอมจะได้หยุดยาวซะที มันดีจริงๆใช่มั้ยล่ะ ตอนนี้ผมกำลังจะถึงคลาสดนตรีของผมแล้ว ดีที่คาบสุดท้ายวันนี้อาจารย์ปล่อยว่าง เพราะไม่มีไรจะสอนแล้ว จะไปไหนก็ไป ทำไรก็ทำ แต่ผมแค่มาพอเป็นพิธีน่ะ คิดว่าเพื่อนในห้องคงมาซ้อมดนตรีกันหลายคน อีกอย่างนี่ก็เริ่มจะเย็นแล้วว่าจะมาชวนไอ้เพื่อนสนิทของผมไปเล่นสเก็ตบอร์ดด้วยกัน ผมเดินเข้าคลาสมาในอย่างเงียบๆ แต่ในห้องนี่ดังกระหึ่มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงดนตรีของเหล่านักเรียนที่กำลังฝึกซ้อมกัน เรียนดนตรีก็ดีงี้แหละผมว่า ไม่ค่อยเครียด สบายๆ อารมณ์ล้วนๆ ทุกคนคิดเหมือนผมมั้ย อ่านั่นไง ผมเห็นมันละ เพื่อนสนิทของผมมันกำลังนั่งเปลี่ยนสายกีต้าร์อยู่ที่พื้น ว่าแล้วก็เข้าไปทักทายมันหน่อยดีกว่า
ผั๊วะ!!!
“โหยยยยย ไอสัสใครโบกหัวกูวะ! แม่งหน้าเกือบทิ่มกระแทกกีต้าร์เลยไอเหี้ย!!”
“กูโบกเองมึงจะทำไม แค่ทักทายนิดหน่อยทำสำออยนะมึงอ่ะ”
คนถูกโบกเงยหน้าขึ้นมองพอเห็นว่าเป็นผมก็ทำหน้าเอือมใส่ ผมแค่ยืนยักคิ้วให้มันกลับแค่นั้น
กวนตีนคนนี่มันสนุกจริงๆ
“ทักทายนิดหน่อยพ่องดิคับเหี้ยชาน โบกซะกูหน้าทิ่ม นี่ยังใส่สายไม่เสร็จแล้วถ้าหน้ากูโดนสายกีต้าร์ดีดจะทำไง
กูยิ่งหล่อๆอยู่ เดี๋ยวหน้ากูเสียโฉมหมดสัส"
"โหไอ้เหี้ยโคตรมั่นหน้า แต่ขอโทษหว่ะ หล่อไม่เท่ากู ทำใจซะ"
"เออ ไอ้โย่ง ไอ้หล่อ ไอ้รวย เอาที่มึงสบายใจเลยสัส กุนอยด์มึงและ"
"เห้ยอย่านอยด์ดิวะ กูล้อเล่น เออตอนเย็นมึงอยากไปเล่นสเก็ตบอร์ดกับกูปะ”
"มึงว่าไงนะ ให้กูทวนไหม? เมื่อกี้มึงเพิ่งโบกหัวกูไป ทีงี้มาชวนกู ชวนดีๆไม่เป็นไงมึงอ่ะ"
“นี่ก็ดีสุดๆของกูละ มึงควรดีใจ”
“เออกูโคตรดีใจ มึงทำให้กูรู้สึกเหมือนกูเป็นคนพิเศษสำหรับมึงมาก นี่กูไม่แปลกใจเลยทำไมไม่มีคนเอามึง เก๊กชิบหาย หยาบคาย สถุน รุนแรง อยู่คนเดียวไปเถอะมึงอ่ะ”
“เออ กูตรงที่มึงด่าทุกอย่างแหละ ด่ากูจบยัง ตกลงมึงจะไปกับกูมั้ย? กูให้โอกาสมึงตอบแค่ครั้งเดียว ถ้าคำตอบไม่ถูกใจกู มึงเจอตีน”
“อ่าว ไอ่สัสแล้วถามกูทำเหี้ยไรว่าอยากไปกับมึงมั้ย นี่มึงออกแนวบังคับแล้วไอ่ฟวย ไม่ไปเดี๋ยวมึงก็โบกหัวกูอีก มึงมันเพื่อนไม่คบไง แล้วกูมันซวยที่เสือกทนกับมึงได้ ไอ่ปาร์คเอ้ย เอ้าไปๆๆ เปลี่ยนสายเสร็จพอดี นี่ก็เย็นมากแล้ว ลำบากกูต้องไปส่งบ้านมึงอีก”
ดูไอ้จงแดเพื่อนคนเดียวของผมมันพูด แค่ให้ไปเล่นเป็นเพื่อน ไปส่งที่บ้านแค่เนี้ยด่าฉอดๆ แต่จะว่าไปแล้วก็จริงอย่างที่ไอ้จงแดมันพูด ผมชอบอยู่คนเดียว ผมไม่มีค่อยเพื่อน ผมไม่ค่อยพูดกับใคร ผมไม่สนใจใครเลย ยกเว้นตัวผมเอง เอ่อ จงแดอีกคนด้วยก็ได้ เพราะนอกจากมันผมก็ไม่มีใครแล้วเวลานี้
*************************************
ผมกับจงแดออกมาจากสวนสาธารณะเรียบร้อยหลังจากเล่นสเก็ตบอร์ดกันเกือบ 3 ชั่วโมง ตอนนี้จงแดกำลังขับรถไปส่งผมที่บ้าน ว่าแต่อยากรู้จักผมซักนิดมั้ยล่ะ ไม่นิดละกัน เรื่องมันยาว ทนฟังหน่อยนะ
ผมชื่อปาร์ค ชานยอล มาจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ กำลังขึ้นปี 3 อยู่ Music Faculty มีพี่สาวชื่อยูร่า เป็นลูกคนเล็กของบ้าน หล่อรวย ชอบเล่นดนตรี พ่อเป็นเจ้าขอค่ายเพลงในเกาหลี นานหลายปีแล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้านที่โซลเลย ตอนนั้นผมจำได้ ผมกำลังจะปิดเทอม ป.6 เทอม 2 พ่อกับแม่ของผมไปรับเด็กที่ไหนไม่รู้มาอุปการะเลี้ยงไว้ที่บ้าน ดูแล้วน่าจะอ่อนกว่าผมไม่เท่าไหร่ แล้วยังบอกอีกนะว่าให้ผมรักไอ้เด็กคนนั่นเหมือนน้องแท้ๆของผม พอผมถามว่ามันเป็นลูกใครมาจากไหน พ่อกับแม่ก็เอาแต่เงียบไม่ตอบอะไร จนตอนนี้ผมยังไม่รู้ความจริงอะไรเลยเกี่ยวกับไอ้เด็กคนนั้นเลย รู้มั้ยหลังจากที่เอาไอ้เด็กนั่นมาเลี้ยงทุกคนในบ้านก็ดูจะเห่อมันมาก ซื้อนู้นซื้อนี้ให้ของดีของแพงอีกต่างหาก เวลาผมไม่เล่นด้วยมันก็ร้องแหกปาก สุดท้ายผมก็โดนพ่อเอาไม้ตี โทษฐานที่ไม่ยอมเล่นกับมัน แล้วพอทุกคนเผลอผมก็จะไปแกล้งมันกลับเป็นการเอาคืน มีอะไรผมก็ต้องแบ่งมันตลอดด้วยเหตุผลที่ว่า 'หนูเป็นพี่นะลูก ต้องเสียสละให้น้องเข้าใจมั้ย' เป็นแบบนี้บ่อยๆใครมันจะไปยอมล่ะว่ามั้ย ผมต้องเป็นลูกคนเล็กของบ้านหลังนี้ไม่ใช่หรอ ทุกคนต้องรักผมคนเดียว ตามใจผมคนเดียวสิถึงจะถูก แล้วนี่อะไรทุกคนในบ้านเหมือนรักและเอ็นดูไอ้เด็กคนนั้นมากทั้งพ่อ แม่ พี่ยูร่า คนรับใช้คนขับรถยันคนสวน ด้วยความที่ตอนนั้นผมเป็นเด็ก ยอมรับเลยว่าน้อยใจมาก นึกแล้วก็โกรธ ทำไมพ่อกับแม่ถึงลำเอียง ไอ้เด็กนั่นเหมือนแย่งทุกอย่างไปจากผม จนบางครั้งผมรู้สึกเกลียดมันเลยล่ะ อยากให้มันตายหรือหายไปซะเลย สุดท้ายผมทนไม่ไหวเลยตัดสินใจไปหาแม่ พร้อมกับแกล้งพูดกับแม่เล่นๆว่าผมอยากไปเรียนต่อไฮสคูลที่เบลเยียม เพราะรู้ว่าพ่อซื้อบ้านไว้ที่นั่น จะขอไปคนเดียวด้วยกล้ามั้ยล่ะเด็กที่กำลังจะขึ้นม.1 อย่างผม ก็แค่จะลองใจดูว่าถ้าผมไม่อยู่แล้วแม่จะทำยังไง แต่ไม่คิดว่าแม่จะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับพ่อ แล้วพ่อดันเห็นด้วย กลายเป็นว่าผมถูกส่งไปเรียนไฮสคูลที่เบลเยียมจริงๆ... จากนั้นผมอยู่คนเดียวที่เบลเยียมมาตลอด ไม่เคยคิดจะกลับบ้านที่เกาหลีเลยถึงจะเป็นช่วงปิดเทอม หรือช่วงซัมเมอร์ ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้เด็กนั่น ไว้กลับทีเดียวตอนเรียนจบเลยดีกว่า ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นปี 3 แล้ว ใครๆก็บอกว่าผมหล่อ เก่งดนตรี เรียนดี บ้านมีฐานะ มีคนเข้ามามากมายทั้งชายและหญิง แต่สุดท้ายคงทนสันดานผมไม่ได้เลยไม่มีใครเอา มีก็แต่เพื่อนสนิทเป็นคนเกาหลีเหมือนกันแค่คนเดียวตั้งแต่เรียนมา แต่ผมก็ชินแล้วล่ะ มันโอเคแล้วสำหรับผมตอนนี้... โทษครับบ่นยาวไปหน่อย ทั้งที่มันเป็นอะไรที่ไม่น่าจดจำเลย
"เห้ยชานยอลใกล้จะถึงบ้านมึงละนะ เตรียมตัวดิ"
"..."
"นั่น... นั่งแอ๊บเงียบ ไอ้ชาน! มึงได้ยินกูมั้ย!? นั่งเหม่อตลอดทาง มึงเป็นคนชวนกูมานะ พูดไรบ้างดิ หรือมึงยังงอนที่กูด่ามึง?"
"งอนเหี้ยไร อย่าใช้คำว่างอนกับกูมันดูปัญญาอ่อน"
"โห ด่าได้ละดิ่ กูนึกว่าใบ้แดกมึงละเนี่ย ไปๆลงๆ ถึงบ้านมึงละ ฝันดีนะที่รัก จุบๆ"
ไม่ว่าเปล่ามันกลับโบกมือทำปากจู๋ใส่ผม ไอนี่...
"จุบกับตีนกูมั้ยสัส ท่าจุบๆมึงดูอุบาทว์หว่ะ คิดอะไรกับกูรึป่าวไอ้จงแด!?"
"คิดเหี้ยไร กูล้อเล่นนนนนน! บอกไว้เลยว่ากูไม่เคยคิดจะเอามึง เป็นเพื่อนมึงกูก็ว่าซวยสุดๆละ ลงไปได้แล้วหูกางเพื่อนยาก กูจะกลับบ้านกูบ้าง 5555555555"
ผมปลดสายรัดเข็มขัดออกแล้วเปิดประตูลงมา ด้วยความหมั่นไส้ไอ่เพื่อนคนนี้มาก เอาซักหน่อยละกันปิดประตูใส่หน้าแม่งเลย ปัง!
"โหไอ่สัสประตูรถกู! ปิดซะไม่มีความเป็นผู้ดีเลยนะมึงอ่ะ เรื่องประชดนี่เก่งจัง -__-!"
"เออ! ไว้ประตูรถมึงหลุดเดี๋ยวกูจ่ายให้ โทษทีกูหล่อและรวยมาก ทำไรก็ได้ กลับไปได้แล้วมึงอ่ะ ไปเลยไป๊!" ผมยกแฟ้มชี้หน้าคาดโทษมันไว้อย่างขำๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปไขประตูบ้าน
"หื้มมมม มั่นหน้านะมึงอ่ะ สันดานนนนน ไปละไอ่โย่งเจอกันอาทิตย์หน้าเว้ย! 555555555"
ด่าจบมันก็เหยียบคันเร่งออกไปทันที เห็นมั้ย จะไปแม่งยังตะโกนด่าผมตามหลัง ผมถึงกับส่ายหัวให้กับความกวนตีนของมันจริงๆ
******************************************
ในที่สุด ผมก็เดินเข้ามาในตัวบ้านแล้วลากสังขารตัวเองขึ้นมาบนห้องนอนจนได้ รู้สึกเหนื่อยมากเลยแฮะ วันนี้เป็นอะไรนั่งเหม่อตลอดทาง อยู่ดีๆก็นึกถึงบ้านขึ้นมาซะงั้น คิดถึงแม่... แต่... ส่งอีเมลหาแม่หน่อยก็ดี ส่งดีมั้ย ส่งหน่อยละกัน แม่จะได้รู้ว่าผมคิดถึง ว่าแล้วก็ตรงดิ่งไปยังแม็คบุ๊ตตัวโปรดค่อยๆกางออกแล้วเปิดมัน
...........
อ่าาา... แม่ส่งอีเมลมาหาเมื่อเช้าช่วงสายๆ ว่าแล้วก็กดเข้าไปอ่านหน่อยดีกว่า
ชานยอล
ที่เบลเยียมอากาศเป็นยังไงบ้าง คงหนาวมากใช่มั้ย ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วย ตอนนี้บริษัทของเรากำลังไปได้สวย แม่อยากให้แกเรียนจบแล้วกลับมาช่วยงานที่บริษัทพ่อเร็วๆคงจะดีไม่น้อย เทอมหน้าก็ขึ้นปี 3 แล้วสิ อีกไม่นานแล้วที่แกจะกลับมา เออแม่มีเรื่องสำคัญจะบอกแกอีกเรื่องนึง เดือนหน้าแม่จะส่งน้องไปอยู่กับแกที่เบลเยียม วันที่ 7 น้องคงไปถึงที่นั่น แม่อยากให้น้องไปอยู่กับแกจะได้ปรับตัวซักระยะก่อน น้องจะต้องเข้าเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับแกเท่านั้น แม่เป็นห่วงน้อง อย่างน้อยจะได้มีคนคอยดูแล เอกสารต่างๆของน้องแม่จะทะยอยส่งไปให้ เรื่องที่พักแม่ขอให้น้องพักที่บ้านพักที่พ่อซื้อไว้ให้แกอยู่นั่นแหละ อยู่ด้วยกันก็ดีกว่า มีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยน้องได้ หลายปีแล้วใช่มั้ยที่แกไม่ได้เจอน้องเลย แม่แนบรูปน้องมาด้วยนะเผื่อแกจำน้องไม่ได้ น้องน่ารักมากเลยล่ะ ดูแลน้องดีๆเข้าใจมั้ย แม่คิดถึงแกเสมอ
ด้วยรักแม่
....
หลังจากที่อ่านเมลของแม่จบ ผมก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน อะไรกัน... ผมหนีมาอยู่คนเดียวแล้วแท้ๆ แต่แม่กำลังจะส่งไอ้เด็กนั่นมาอยู่กับผมงั้นหรอ ส่งมาเดือนหน้า วันที่ 7 นี่ก็สิ้นเดือน ก็อีกไม่นานแล้วสิ ไหนขอเช็ควันก่อน... ผมเอื้อมไปหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะมาแล้วเลื่อนดูเรื่อยๆ ไอ้เด็กนั่นจะมาถึงที่นี่ อีกอาทิตย์กว่าๆ... หงุดหงิด... ทำไมแม่เพิ่งบอกตอนนี้ล่ะ
เอาเป็นว่าเรื่องนั้นเก็บไว้ก่อน ไหนขอดูหน้ามันหน่อยดิ แม่ชมว่าน่ารักหนักหนาหน้าตาจะเป็นไง
ผมกดคลิ๊กไฟล์ภาพที่แม่แนบมาให้ รอมันกำลังโหลดขึ้นมา
'น้องน่ารักมากเลยล่ะ'
คำพูดนี้ของแม่ลอยขึ้นมาทันทีตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมได้เห็นรูปเจ้าเด็กนั่น ใบหน้าขาวเกือบจะซีดแต่ได้รูปพอดี ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นถึงแม้แววตาจะแฝงความหม่นหมองไปหน่อยก็เถอะ แต่มันดูมีเสน่ห์น่าค้นหามาก... ปากบางสีชมพูอ่อนธรรมชาติ กับจมูกรั้นนั่น หน้าตาใช้ได้... รวมๆแล้วเปลี่ยนไปเยอะจนจำแทบไม่ได้ แต่อย่าเข้าใจผิดนะ ก็แค่ชมไปตามเนื้อผ้า ผมไม่หลงเสน่ห์ไอ้เด็กนั่นง่ายๆหรอก และผมก็ไม่คิดว่าผมกับไอ้เด็กนั่นจะอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ได้แน่ๆ
แล้วเอาไงดีวะไอ้ปาร์ค! อีกไม่กี่วันแล้วกูจะทำยังไงกับมันดี!!
****************************************
University of Victoria
"เป็นเชี้ยไรวะ หน้ามึงฟ้องว่ามึงอยากนอนมาก ไปทำไรมาเมื่อคืน"
เป็นไอ้จงแดเองที่มาเขย่าตัวผมที่กำลังผมจะฟุบลงไปกับโต๊ะอีกรอบด้วยความง่วงเพราะเมื่อคืนผมเอาแต่กลุ้มใจเรื่องไอ้เด็กนั่น และก็เอาแต่นอนมองรูปมันทั้งคืนไม่หลับไม่นอน จริงๆไอ้เด็กนั่นก็ดูดี แต่ก็แค่นั้นแหละทำไรผมไม่ได้หรอก
"จะเขย่ากูทำไมกูง่วง มึงไม่เข้าใจกูหรอก อย่ายุ่งดิ"
"เอ้า ไอ้ห่า... กูจะเข้าใจมึงได้ไงก็มึงเอาแต่นอนไม่เล่าเหี้ยไรเลย ก็บอกกูดิมีอะไร"
จริงสิ... ผมนึกขึ้นได้ว่าจะถามคำถามมันตั้งแต่เมื่อคืน ลืมเลย งั้นหันไปถามมันหน่อยดีกว่า
"นี่... กูมีคำถามจะถามมึงจงแด"
"..."
"ถ้าสมมติว่ามึงเกลียดสิ่งๆหนึ่ง หรือคนๆนึงมากๆ มึงจะทำยังไงวะ?"
หลังจากได้ฟังคำถาม จงแดก็เงียบไปซักพัก ก่อนที่มันจะหันมามองหน้าผมนิ่งๆแล้วบอกคำตอบออกมา
"เป็นกูหรอ ถ้ากูเกลียดอะไร กูจะเหวี่ยงมันไปให้ไกลจากชีวิตกูเลย แต่ถ้ากูเกลียดใครซักคน กูจะเอาเค้ามาไว้ใกล้ๆตัว"
"ทำไมวะ ในเมื่อเกลียดแล้วมึงจะเก็บเค้าไว้ทำไม?" ผมงงในสิ่งที่มันตอบอยู่ไม่น้อย นี่ผมนึกตามมันไม่ทันงั้นหรอ
"เอาจริงนะ ถ้ากูเกลียดใครกูก็ไม่อยากเอามันไว้หรอก แต่ที่กูเอาไว้ เพราะกูจะเอาไว้แกล้งไงไอ้ฟายยยยย 5555555555 " จงแดตอบพร้อมกับหัวเราะยักคิ้วอย่างกวนตีน
"ตลกหว่ะ แกล้งทำไม ใครเค้าจะไปอยากเสียเวลายุ่งกับคนที่ตัวเองเกลียดวะ มีแต่ตีตัวออกห่าง มึงนี่เล่นเป็นเด็กๆไปได้ โตเป็นควายละนะมึงอ่ะ"
"มึงแหละที่ควายไอ้ชาน นี่มึงตีความหมายที่กูพูดไม่ออกจริงๆหรอวะ ทั้งที่คนเย็นชาอย่างมึงน่าจะถนัดด้วยซ้ำ"
"อะไร... กูไม่ได้โง่"
"งั้นกูถาม สำหรับมึงแกล้งอะไรสนุกที่สุด"
"คน"
"แล้วเล่นกับอะไรเจ็บปวดที่สุด"
"ความรู้สึก..."
"บิงโก~ หายโง่แล้วดิ ทีนี้รู้ยังว่ากูหมายความว่าไง"
"เหอะ... มึงมันเลวจงแด"
"แต่ยังไม่ได้ครึ่งของมึง เชื่อกู มึงเหี้ยกว่าเยอะ ที่ผ่านๆมามึงก็เล่นมาหลายคนละ แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด มึงทิ้งเค้าบ้าง เค้าไม่เอามึงบ้าง น่าสงสารจริงจริ๊ง"
"ไอ้สัสมึงพูดดีๆ เดี๋ยวมึงเจอตีนกู เดี๊ยะๆ ก็ที่ผ่านมาคนก่อนๆกูไม่ได้เกลียดหนิ คบๆไปถ้าได้ก็เอา เออๆจบเถอะ เอาบุหรี่มาตัวดิ ไว้กูซื้อคืนวันหลัง"
"ขอกูตลอดแหละมึงอ่ะ เป็นเพื่อนกับมึงนี่นอกจากจะซวยแล้วยังเปลืองสัสเลย"
"เอออออ บ่นเหี้ยไรนักหนา ไปๆๆ"
ผมกับจงแดเดินออกจากคลาส แล้วตรงมาหลังตึกคณะทันที จริงๆผมไม่อยากสูบบุหรี่นักหรอก พอลองแล้วก็ติด พอเครียดแล้วมันไม่ไหว ได้สูบก็ค่อยยังชั่วหน่อย เหมือนหายอยากยายังไงไม่รู้ แต่ถ้าอย่างที่ไอ้จงแดมันพูดเรื่องนั้นล่ะก็ มันก็น่าสนนะคิดเหมือนผมมั้ยล่ะ เอามันมาไว้ให้อยู่ในสายตา จะทำอะไรมันก็ได้ แค่คิดก็สนุกละ ฉันรอนายใจจดใจจ่อเลยล่ะ โอ เซฮุน หึๆ
************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ