REMINISCENCE [CHANHUN]

10.0

เขียนโดย Hadassah

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.44 น.

  10 chapter
  5 วิจารณ์
  21.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.59 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) Brussels, Belgium

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Brussels Airport

ไฟลท์ดีเลย์ 20 นาที...

ใช่แล้วล่ะ ผมรอไอ้เด็กนั่นมาจะชั่วโมงครึ่งละ เครื่องเสือกดีเลย์ แต่คิดว่ากำลังออกมาแล้วล่ะ แล้วนี่จะหามันเจอมั้ยวะเนี้ย ผมยืนถือรูปไอ้เด็กนั่นไว้ในมืออย่างแน่น คือกะว่าพอออกมาจากเกทปุ๊บจะจ้องเป็นรายคนเลยเอาดิ เดี๋ยวพลาดกันแล้วหาลำบากอีก นั่นๆคนเริ่มออกมาละ

ผมรีบกวาดสายตามองหาไอ้เด็กนั่นไปทั่ว คนเยอะจังวะ อย่าหายไปนะโว้ยกูหาไม่เจอเดี๋ยวแม่ด่าอีกซวยอีก คิดได้ดังนั้นผมเลยรีบเดินเข้าไปใกล้ประตูอีกหน่อยชะโงกดูทีล่ะคน

อ่าาา... ผมคิดว่า ผมเจอไอ้เด็กนั่นแล้วล่ะ กำลังยืนงงอยู่ตรงทางออก เมื่อเห็นว่าไอ้เด็กนั่นจะเดินไปอีกทาง ผมเลยรีบเดินเข้าไปหาใกล้ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่ไอ้เด็กนั่นหมุนให้หันกลับมาทางผม

" โอ้ย!"

สงสัยผมอาจจะจับไอ้เด็กนั่นให้หันกลับมาแรงไปหน่อยคงเจ็บเลยโวยออกมา แต่การได้เห็นใบหน้าในระยะใกล้แบบนี้ ผมรู้สึกเหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ใจเต้นแรงทำไมให้ตาย... มันดูดีกว่าในรูปเยอะเป็นไหนๆ... แต่... ผมจะไม่ใจอ่อนหลงใหลอะไรในตัวมันเด็ดขาด ท่องไว้ๆไอ้ปาร์คชาน ชอบไอ้เด็กนี่ไม่ได้ เหมือนผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าเอาแต่มองใบหน้าไอ้เด็กนั่นนานเกินไป ผมเลยตัดสินใจพูดอะไรซักอย่างเพื่อทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น

"นาย... โอ เซฮุนใช่มั้ย"

ผมถามไอ้เด็กนั่นออกไป ถึงจะรู้ก็เถอะว่าต้องใช่คนนี้แน่ๆ ถามไปงั้นเพื่อความแน่ใจก็แค่นั้น

"ใช่ ผมโอ เซฮุน คุณเป็นใคร รู้จักผมหรอ เราเคยเจอกันด้วยหรอ"

ดูพูดจากับคนเพิ่งเจอ ใครสั่งใครสอน ฟังดูดื้อรั้นเอาแต่ใจมาก

"เคย เมื่อหลายปีก่อน นี่นายจำฉันไม่ได้จริงๆหรอ มันน่าเสียใจนะนายว่ามั้ยล่ะ"

"ก็ผมจำคุณไม่ได้จริงๆหนิ เพื่อนผมสมัยประถมหรอ แต่คิดว่าไม่น่าใช่ และผมก็ไม่คิดว่าผมจะรู้จักคุณนะ เอาเป็นว่าผมรีบ ขอตัวก่อน"

ไอ้เด็กนั่นพูดเสร็จก็โค้งให้ผมอย่างพองาม ผมเลยยื่นรูปของไอ้เด็กนั่นไปตรงหน้ามันเอง นึกแล้วก็ขำสีหน้าของเจ้าเด็กนั่นตอนเงยหน้าขึ้นมาเจอรูปตัวเองในมือผม

"เห้ยคุณ... รูปผม ไปเอามาจากไหน นี่คุณเป็นพวกโรคจิตชอบแอบตามหรอ!"

โอ้ยยยย จะบ้า! เอามันส่งกลับเกาหลีที มึงมันโง่! ไอ้เด็กโง่!

"กล้าด่าฉันโรคจิต ฉันคาดโทษนายไว้แล้วจะเอาคืนให้หนักเลยคอยดู"

"นี่คุณ! แล้วจะเอาคืนได้ไงเดี๋ยวเราก็แยกกันแล้ว เราไม่รู้จักกันซักหน่อย"

"แล้วแม่ไม่ได้บอกนายรึไง ว่าแม่ส่งรูปนายมาให้ฉันในเมล แต่นายคงจำฉันไม่ได้จริงๆแหละ เพราะพอนายมาอยู่บ้านฉันไม่กี่เดือน ฉันก็มาอยู่ที่นี่ละ แต่นึกดีๆ คนที่นายเกลียดแล้วก็เกลียดนายเหมือนกันน่ะ"

"แม่หรอ?... นี่... อย่าบอกนะว่า... ปาร์ค ชานยอล"

ผมได้ยินชื่อผมออกมาจากปากเจ้าเด็กนั่นละ ถึงจะแผ่วเบามากก็เถอะ แต่ผมกลับได้ยินชัดมาก เหมือนรอให้มันพูดออกมาอย่างงั้น

"จำได้แล้วสินะ ใช่ ฉันเอง ปาร์ค ชานยอล คนที่เกลียดนายที่สุดไงล่ะ"

ดูเหมือนเจ้าตัวจะจำได้แล้วล่ะ พอรู้ว่าผมเป็นใครก็ถึงกับหรี่ตามองผมเลยทีเดียว ผมจงใจพูดคำว่าเกลียดชัดๆให้อีกฝ่ายรู้สถานะทันทีว่าผมรู้สึกยังไง ซึ่งตอนนี้ก็ยังรู้สึกแบบนั้น เหอะ เกลียดก็คือเกลียด แต่เกลียดแทบตายสุดท้ายต้องมาเจอมันอีก

"แต่แม่ไม่ได้บอกว่าจะส่งฉันให้มาอยู่กับนาย แม่บอกว่านายอยู่สวีเดน แม่บอกแค่ฉันต้องมาอยู่คนเดียวที่เบลเยียม"

แหน่ะ เปลี่ยนสรรพนามใช้เรียกชื่อทันทีพอรู้ว่าเคยเป็นคนในครอบครัว ฉันๆ เธอๆ นายๆ นี่เพื่อนเล่นรึไงแก่กว่าไม่เคารพเลย

"งั้นแม่คงเล่นตลกแล้วล่ะ แค่ต้องพานายไปอยู่ด้วย ก็รู้สึกโคตรซวย อีกอย่างฉันเป็นพี่อายุมากกว่า พี่ชานยอลอ่ะพูดเป็นมั้ยใช้คำว่านายเรียกฉันมันสมควรงั้นดิ ไม่คิดว่ามันเป็นการเสียมารยาทไปหน่อยหรอ"

"ขอโทษด้วยละกัน แต่ฉันไม่เคยนับว่านายเป็นพี่ชายมาแต่แรก"

"เหอะ ก็ดี จำคำที่นายพูดเอาไว้ให้ดีแล้วกัน แล้วอย่ามาร้องขอฉันทีหลัง อย่าลืมว่าแม่ส่งนายมาให้ฉัน เพราะฉะนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคนที่มีสิทธ์ในตัวนายคือฉันคนเดียวเท่านั่น ไม่มีใครมาคอยคุมกะลาหัวให้นายอีกแล้วจำใส่หัวไว้ซะด้วยแล้วอย่าปากดีให้มาก"

"อ๋อออ ใหญ่มากงั้นดิ คิดว่านายเป็นใคร จะมามีอำนาจอะไรเหนือฉัน แล้วนายคิดว่าฉันอยากอยู่กับนายมากรึไง ถ้ารู้ว่าต้องมาอยู่กับนายที่นี่ ฉันบอกปัดแม่แต่แรกยังจะดีกว่า อ่อ อีกอย่าง ฉันก็เกลียดนายไม่ต่างกัน รู้มั้ยตั้งแต่นายไป ทุกคนในบ้านรักฉัน ฉันได้ทุกอย่างที่อยากได้ สงสารก็แต่เด็กที่ไหนไม่รู้ น้อยใจเลยขอไปอยู่ต่างประเทศ น่าสมเพชจริงๆ"

จุกสัสเลย...

ผมว่าผมต้องพาไอ้เด็กนี่ออกจากสนามบินให้เร็วที่สุดดีกว่า ไม่งั้นได้มีศพในสนามบินแน่ๆ ไว้ถึงบ้านเมื่อไหร่ค่อยเคลียร์ยาว ผมเอื้อมมือไปจับข้อมือของไอ้เด็กนั่นแล้วออกแรงกระชากให้เดินตามมา ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว เหวี่ยงมันกลางสนามบินซะก่อน

"นี่! เบาๆดิมันเจ็บ!"

"ก็จงใจให้เจ็บไง คนเกลียดกันเค้าไม่มาทำอะไรอ่อนโยนให้กันหรอก โง่!"

"ด่าฉันโง่เรอะ! ปล่อยเลย ฉันไม่ไปกับนายแล้ว! ฉันจะไปหาที่พักเอง!"

"อย่ามาทำอวดดี เพิ่งมาครั้งแรก รู้ทุกอย่างหรอ เอาตัวรอดได้งั้นดิ แล้วอย่ามาทำหน้าทำกริยาประชดพยศแบบนี้กับฉัน ฉันไม่ชอบ!"

"ฉันเป็นของฉันแบบนี้มานานแล้ว กับคนที่ฉันเกลียดไม่จำเป็นต้องทำดีด้วย"

"..."

แต่ละคำที่ไอ้เด็กนี่พูดออกมา สุดจะทนจริงๆ ผมถอนหายใจออกมา พยายามสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุด แม้ในใจตอนนี้อยากจะบีนคอมันมากก็เถอะ
ผมกดรีโมทรถแล้วรีบเปิดประตูเอากระเป๋ายัดใส่แล้วรีบปิดทันที จากนั้นก็ลากไอ้เด็กนั่นมาขึ้นรถฝั่งข้างๆคนขับ

"นี่! ฉันไม่นั่งหน้านะ! ไม่นั่งเด็ดขาด!"

"ไม่ได้! ฉันก็ไม่ให้นายไปนั่งข้างหลังเหมือนกัน! ฉันไม่ใช่คนขับรถไม่ใช่คนรับใช้จำใส่หัวไว้ด้วย! นั่งเฉยๆอย่าดิ้น! และถ้ายังทำปากดีขึ้นเสียงกับฉันอีกล่ะก็ ฉันจะจูบจริงๆ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ในรถนี่เลยเอาดิ อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำนะโอเซฮุน!"

ว่าจบผมก็แกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆใบหน้าขาวซีดนั่นหมายจะประกบที่ริมฝีปาก แต่เซฮุนทำเสียงฟึดฟัดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทางซะก่อน หึ กลัวโดนจูบรึไงน่ะ

"ฮึ่ย! เออๆ ก็ได้ นั่งหน้าก็ได้! ออกไปห่างๆหน่อยจะยื่นหน้ามาใกล้ทำไม ปล่อยซักทีสิมันเจ็บ!"

เซฮุนหันหน้ามาหาผมพร้อมกับเอามือดันอกปมออก เมื่อเห็นว่าเซฮุนยอมนั่งนิ่งแล้ว ผมก็ยอมปล่อยแต่โดยดีแล้วจัดการรัดเข็มขัดให้เจ้าตัวเรียบร้อย ก่อนจะไปเปิดประตูขึ้นฝั่งคนขับ แล้วรีบสตาร์ทเครื่องออกรถทันที

แค่มารับก็เหนื่อยแล้ว นี่ต้องอยู่ด้วยกันอีกอย่างน้อยก็สองปีคิดดู ผมไม่ประสาทแดกก่อนหรอ

***************************************

ถึงบ้านซักทีโว้ยยยย!!! อึดอัดอะไรอย่างนี้วะ ผมรีบจอดรถเทียบตรงหน้าบ้าน แล้วรีบลงจากรถไปเปิดท้ายลากกระเป๋าเดินทางของไอ้เด็กนั่นเข้าบ้าน เห็นบอบบางปวกเปียกซะขนาดนั้น จะทำอะไรเป็น เหมือนมีภาระเพิ่มยังไงไม่รู้ มันใช่เรื่องมั้ยครับแม่ ไม่เข้าใจทำไมแม่ต้องทำแบบนี้ด้วย แค่วันแรกผมก็เหนื่อยกับไอ้เด็กบ้านี่แล้ว

"เอ้า ลงมาดินั่งรออะไรในรถ"

ผมเอ่ยถามเพราะเห็นมันไม่ยอมลงจากรถซักที กวนประสาทไอ่เด็กนี่

"ยัง ยังไม่ลงอีก ฉันคิดว่าฉันกำลังพูดกับนายอยู่นะ หรือจะเอาตรงนี้?"

ผมแกล้งพูดขึ้นเสียงให้อีกฝ่ายได้ยินแล้วรีบเดินกลับไปที่รถ ไอ่เด็กนั่นคงเห็นว่าผมเอาจริงเลยรีบเปิดประตูรถลงมายืนตรงข้างรถอย่างเรียบร้อยมาก ตลก

"เออออ ลงแล้วๆๆๆๆๆ! ไปสิ นำเข้าไปในบ้านเลย"

"ก็แค่นั่น ทำไมต้องให้ขึ้นเสียงใช้กำลังอยู่ได้"

จากนั้นผมก็เดินนำเข้ามาในบ้าน ลากกระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่นักขึ้นมาไว้ในห้องนอนอีกห้องข้างๆห้องผม เอาไว้ใกล้ห้องผมแหละดีแล้ว หึหึ

"นี่ห้องฉันหรอ แล้วห้องนายล่ะอยู่ไหน"

"ห้องถัดไปก็ห้องฉันเอง มีปัญหาอะไรมั้ย"

"งั้นฉันจะเปลี่ยนห้อง!"

"ไม่ได้! ถ้าไม่อยู่ห้องนี้ มีเหลืออีกแค่ห้องเดียวคือห้องนอนเล็กๆของคนรับใช้ข้างล่างเอามั้ยล่ะ แต่ฉันไม่มีคนรับใช้อยู่พอดี นายไปอยู่ห้องนั้นก็รับตำแหน่งนั้นไปเลยแล้วกัน"

"ไม่เอา! ฉันไม่ไปนอนห้องนั้นเด็ดขาด แล้วก็ไม่เอาห้องติดกับนายด้วย!"

"อย่าเรื่องมาก ไม่มีปัญญาหาที่พักเองแล้วอย่าอวดดี อยู่ๆไปมันจะมีปัญหาอะไรนักหนา คิดว่าฉันจะมาทำอะไรนายรึไง"

"ฉันก็ต้องระแวงไว้ก่อน นายมันไว้ใจไม่ได้ ไม่รู้แหละ ฉันไม่อยู่ นายต้องพาฉันไปหาที่พักใหม่เดี๋ยวนี้ หอหรือคอนโดอะไรก็ได้!"

เรื่องมากจริงๆ สุดจะทน อีกนิดเดียวนะ อีกนิดเดียวจริงๆ ผมทำเป็นไม่สนใจที่ไอ้เด็กนั่นบ่นแวดๆ แล้วลากกระเป๋าอีกใบเข้าห้อง เดี๋ยวมันคงคิดได้ เหนื่อยจะเถียงแล้ว

"นี่! ที่พูดน่ะไม่เข้าใจรึไง ฉันบอกว่าฉันจะไม่อยู่ที่นี่ได้ยินมั้ย!"

โอเครู้เรื่อง สั่งสอนซักทีดีกว่า ผมตรงดิ่งไปที่ประตูแล้วลากไอ้เด็กปากดีนั่นเข้ามาในห้อง ขังไว้ซะเลยดีมั้ย

"นี่อย่าลาก มันเจ็บ! ปล่อยดิโว๊ะ!"

"อยากให้ปล่อยใช่มั้ย"

"เออ!"

ปึก!

จากที่กำลังยื้อฉุดกระชากกันอยู่ ผมเลยปล่อยมือผลักไอ้เด็กนั่นลงกระแทกพื้นดังปึก สะใจดีจริงๆ

"โอ้ยไอ้บ้า! นายปล่อยแบบนี้เรอะ หยาบที่สุด!

"ก็ไหนบอกให้ปล่อยไง นี่ปล่อยแบบดีสุดแล้วสำหรับคนที่ฉันเกลียด ไม่อยากอยู่ที่นี่ใช่มั้ย ไป ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!"

ไม่พูดเปล่า ผมเดินไปลากกระเป๋าที่ตัวเองเพิ่งยกขึ้นมาได้หมาดๆปล่อยทิ้งลงไปตามบันใดเลย ช่างแม่ง เรื่องมากน่ารำคาญดีนัก

"นายทำกับของๆฉันแบบนี้ได้ไง ไร้มารยาท!"

ไอ้เด็กนั่นด่าผมเสร็จก็ลุกขึ้นวิ่งผ่านหน้าผมลงไปชั้นล่างแล้วหยิบกระเป๋าลากขึ้นมา ก่อนที่จะกำลูกบิดเปิดประตูบ้าน ผมรีบวิ่งตามไอ่เด็กนั่นลงไป พร้อมกับยื่นคำขาดให้คนที่กำลังเปิดประตูได้ยิน

"ถ้านายก้าวออกจากบ้านไปอีกแค่ก้าวเดียว อยากรู้มั้ยว่านายจะเจออะไร"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำด้วยความโกรธ เจ้าเด็กนั่นหันมามองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง แววตาฉายชัดแฝงความกลัว แต่ก็ยังไม่วายเชิดหน้าพยศอวดเก่งตามเคย เหอะ

แกร๊ง...

เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด อวดดี ลองดี ไอ้เด็กนั่นเปิดประตูบ้านกำลังลากกระเป๋าเตรียมออกไปจริงๆ แต่คิดว่าผมจะปล่อยไปง่ายๆงั้นหรอ

ปัง!

ผมก้าวขาด้วยความเร็วไปดึงประตูกลับแล้วปิดอย่างแรง พร้อมกับจ้องใบหน้าเรียวนั่นด้วยความโกรธ

"นายมาปิดประตูทำไม หลบไป อย่ามาขวาง!"

"นายกำลังลองดีกับฉัน"

"นายไล่ฉันเอง"

"แล้วใครมันอวดดี คิดว่าออกไปแล้วจะทำไรได้!"

"ฉันเอาตัวรอดได้ ฉันโตแล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร!"

"อ่อ... นั่นสินะโตแล้ว จะว่าไปฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านายจะเก่งเอาตัวรอดได้อย่างที่ปากพูดรึเปล่า ขอพิสูจน์หน่อยละกัน"

"อะไร! นายจะทำอะไร!?"

ผมไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับจับข้อมือเจ้าเด็กนั่นมาแล้วเหวี่ยงมันลงโซฟาแล้วขึ้นคร่อมทันที

"เห้ย เดี๋ยวสิจะทำอะไร ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยมันหนักนะ ใจเย็นๆก่อน!"

"ก็จะพิสูจน์ว่านายจะเอาตัวรอดได้มั้ยไง วันนี้ฉันอดทนกับนายมามากแล้วเซฮุน"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำให้รู้ว่าผมกำลังโกรธ พร้อมกับก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าเรียวนั่น ลากมือไปตามสีข้างลำตัวของคนใต้ร่างอย่างสนุกมือ จงใจใช้สันจมูกกดไล้ไปตามแก้มเนียน แล้วไล่ลงมาแถวริมฝีปาก แต่เซฮุนกลับหันหน้าหนีไปอีกทางซะก่อน

"นี่หยุด! นายจะทำแบบนี้ไม่ได้! เราเป็นพี่น้องกันนะนายอย่าลืมสิ!"

กลัวจนตัวสั่นแล้วยังขึ้นเสียงใส่ผมได้อีกนะ ผมได้ยินถึงกับปล่อยหัวเราะออกมา อะไร นึกอย่างจะเป็นพี่น้องกันขึ้นมาทันทีเลยหรอ

"นี่นายสมองเสื่อมแล้วรึไง จำได้ว่านายเพิ่งบอกฉันเอง ฉันไม่เคยนับนายเป็นพี่ชายมาแต่แรก จำได้มั้ย"

"เออ จำได้! ก็เพราะเกลียดไง ฉันเลยไม่นับ!"

"พูดได้ดีนี่ งั้นที่คาดโทษไว้ฉันขอเอาคืนเลยแล้วกัน!"

พูดจบผมไม่รอช้าก้มลงไปอีกครั้งหมายจะเอาคืนคนปากดีนี้ให้ได้ ปากดีแบบนี้มันต้องตบด้วยปากถึงจะถูก เซฮุนเอามือดันแผงอกผมไว้ แววตาฉายกลัวอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ยังเชิดหน้าได้ตามสเต็ปหยิ่งของมันจริงๆ ใจนึกก็นึกสงสารแต่คิดแล้วมันก็สมควรโดนซะบ้าง จะได้ไม่พยศอีก

ผมปัดมือเซฮุนออก พร้อมกับบีมคางของคนใต้ร่างให้หันมาทางผม ก่อนจะทาบริมฝีปากลงไปบดขยี้ลิ้มลองริมฝีปากสีชมพูอ่อนของร่างบาง แต่เซฮุนยังดื้อดึงปิดปากเม้มซะแน่นเลย แบบนี้มันไม่สนุกนะเด็กน้อย ผมใช้มือบีบแก้มเซฮุนให้ปากเจ้าเด็กนั่นเปิดออกแล้วสอดลิ้นเข้าไปสำรวจข้างใน

"อื้ออออ!!"

ให้ตาย ผมรู้สึกอยากจะฉีกเสื้อผ้าของไอ้เด็กบ้านี่ออกให้หมดตอนที่ส่งเสียงร้องนั่นออกมา ผมเหมือนจะเป็นบ้าเพราะเสียงนั่น เซฮุนเอาแต่ทุบอกทุบแขนผมไปมาอยู่อย่างนั้นตอนที่ผมกำลังดึงชายเสื้อขึ้นเซฮุนพยายามปัดมือผมออก แต่ผมไม่สนใจแล้ว ผมคิดว่า ผมหยุดไม่ได้ แต่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรนะจริงๆ ผมก็แค่สนุก สนุกกับการแกล้งคนก็แค่นั้น

แอดดดดดด~

"ไอ้ชาน! อยู่มั้ยวะคืนนี้ไปเที่ยวผับกับกูป่าว อ่าวเห้ยยยย!"

ผมสะดุ้งแล้วรีบผละออกจากริมฝีปากหอมหวานของเซฮุนทันที เพราะดันมีคนนอกเปิดประตูเข้ามาตอนที่ผมกำลังจะทำเรื่องอย่างว่า ผมดันตัวเองขึ้นมาก่อนจะหันมามองต้นเสียง เซฮุนเองก็ดูจะตกใจไม่น้อย

"โถ่ไอ้จงแด ไอ้สัสเอ้ยยยย! มึงมาทำเหี้ยไรตอนนี้วะ!"

"อ่าว ไอ้เหี้ย แล้วกูจะรู้มั้ยล่ะว่ามึงกำลังตึดอยู่ กูปั่นจักรยานมาซื้อของ ผ่านบ้านมึงกะจะแวะมาชวนไปเที่ยวผับคืนนี้ กูผิดอีก!"

"แล้วทำไมมึงไม่เคาะประตูก่อนวะไอ้สัส! มึงเข้ามาได้ไง!"

"ก็ประตูมันไม่ได้ล็อค ใครจะไปรู้ละ แล้วทำไมไม่ไปทำกันข้างบน ทำเหี้ยไรบนโซฟา มึงนี่นะไอ้ชาน ความอดทนต่ำรึไง ขึ้นไปอีกชั้นก็ห้องนอนมึงละ"

"นั่นปากเรอะที่พูดน่ะ เดี๋ยวมึงเจอตีนกูไอ้จงแด จะตรงไหนกูก็ทำได้หมดแหละ โว๊ะ! หมดอารมณ์เลยแม่ง"

"เอองั้นกูกลับก็ได้ โทษละกันที่มาขัดจังหวะมึง เอาเลยต่อเลย ทำไรทำไป"

"เดี๋ยว กูไม่มีอารมณ์ต่อแล้ว ไหนๆมึงก็มาขัดจังหวะกู ขนกระเป๋าสองใบนี้ขึ้นไปในห้องข้างๆห้องนอนกูเลย"

"โห มาถึงก็ด่า ด่าแล้วก็ใช้กู คิดว่ากูกลัวมึงหรอ ขนเองดิโด่วววว"

"มึงจะขนมั้ย"

"ขนค้าบบบบบบ"

ต้องให้ใช้เสียงใช้สายตาข่มตลอดเพลียกับมัน พอทุกอย่างเรียบร้อย กระเป๋าอะไรถูกขนขึ้นไปเข้าที่หมดแล้ว ผมก็ไล่เซฮุนให้ขึ้นห้องทันที พร้อมกับสั่งไม่ให้ลงมา ไม่ไว้ใจไอ้ห่านี่เลยชอบแอบมองตลอด

"อ่าวมึง มึงก็รีบไล่น้องเค้าขึ้นห้องเนาะ ไม่คิดจะแนะนำกูให้น้องเค้ารู้จักหรอวะ"

"ทำไมต้องแนะนำมึงให้น้องเค้ารู้จัก มึงไม่สำคัญขนาดนั้น"

"หวงหรอ"

"..."

"วูววววว เงียบแบบนี้ แสดงว่าใช่~"

"เรื่องของกูอย่ายุ่ง! กลับบ้านมึงไปเลยไป๊! เดี๋ยวกูอาบน้ำแล้วไปเจอกันที่หน้าผับเลยไม่ต้องเสือกมารับกูที่นี่"

"แหม่ ตัดช่องทางกูเจอน้องเค้าเลยนะไอ้ห่า เออๆ อย่านานนะมึง ไม่ใช่ขึ้นไปตึดต่ออีก กูขี้เกียจรอ"

พูดเสร็จไอ้เพื่อนเวรก็วิ่งถลาไปที่จักรยายทันที

"ไอสัสมึงกลับมานี่เลย กูขอฟาดทีเหอะ!"

"เง้ยยยยย เขินอ่ะดิ ไปละไอ้หูกางงงงง~"

ไวจังเลยนะไอ้เรื่องหลบตีนเนี่ย แม่งออกตัวแรงถีบจักรยานซะฉิวเลย กวนตีน กลับๆไปซักที หลังจากไอ้จงแดกลับไป ผมก็ปิดประตูบ้าน จัดแจงเก็บหมอนที่หล่นจากโซฟาให้เข้าที ก่อนจะเดินขึ้นข้างบนเตรียมตัวอาบน้ำไปผับ แต่พอผ่านห้องของไอ่เด็กนั่น มันเหมือนมีแรงดึงดูดอะไรทำไมผมต้องก้าวเท้าไปใกล้ห้องนั้นด้วย แต่เดี๋ยวคืนนี้ผมกลับดึก สั่งเสียไว้ก่อนดีกว่า

 

ก๊อกๆๆ

เงียบ...

ก๊อกๆๆ

"เซฮุนเปิดประตู"

เงียบอีก...

ก๊อกๆๆ

"ตายยัง ทำไรอยู่ทำไมไม่เปิดห๊ะ"

ก๊อกๆๆ

"ถ้าไม่เปิดฉันจะพังประตูเข้าไป แล้วอย่าหาว่าฉันใจร้าย จะได้เปลี่ยนจากบนโซฟามาเป็นบนเตียงเลยเอาไง!"

ก๊อก ก๊อ..

"มีอะไร! ฉันกำลังจะนอน!"

อยู่ดีๆไอ้เด็กบ้านี่ก็เปิดประตูกระทันหัน ผมแอบสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ ไม่รอช้าผมไล่สายตาสำรวจใบหน้าเรียวหวานนั่น ตาแดงๆ เสียงดูสั่นเครือ... ร้องไห้งั้นหรอ เซฮุนหลบตาผมเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทางนึง

"เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เสียใจที่โดนฉันจูบหรอ"

"ไม่ใช่ซักหน่อย! ฉันแค่คิดถึงแม่ อยากกลับบ้าน!"

"เหอะ แล้วบอกว่าโตแล้ว แต่มาร้องไห้คิดถึงแม่ มาได้ไม่ถึงวันเองนะ ตลก"

"เรื่องของฉัน นายมีธุระอะไรรีบๆพูดฉันจะอาบน้ำนอนแล้ว ฉันเหนื่อย"

"คืนนี้ฉันจะกลับดึก นอนก่อนเลยไม่ต้องรอ แล้วอย่าคิดหนีล่ะ เพราะถ้าฉันจับได้ นายไม่รอดแน่"

"รู้แล้วน่าไม่มาต้องมาสั่ง แค่นี้ใช่มั่ยที่จะพูด"

ปัง!

หื้มมม... ปิดใส่หน้ากูอย่างแรง นี่คงไม่ใช่คิดถึงแม่แล้วล่ะ กำลังโกรธสินะ เออ แล้วแต่เลยไม่สน อาบน้ำไปเที่ยวกับไอ้จงแดดีกว่า~

*******************************

"กินไรสั่งเอาละกันไอ้จงแด เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง"


"เหยดดดดดด ใจป๋าสัสเลยหว่ะ ไม่ต้องเลี้ยงกูหรอก แต่กูขออย่างอื่นแทนได้มั้ยล่ะ"

"อะไร"

"ก็คนที่มึงเอ่อ เอ่อที่มึงนัวเนียที่โซฟาไง"

"ไม่ได้"

"โห ไอ้เหี้ยชัดเจนโคตรเด็ดขาด แบ่งๆกันสิวะหวงทำไม"

"ก็กูบอกว่าไม่ได้ไง พูดไม่รู้เรื่องหรอวะ!?"

"แล้วทำไมต้องขึ้นเสียงใส่กูด้วย! จริงจังไปนะมึงอ่ะ เออๆ ไม่เอาก็ได้ น้องเค้าแค่น่ารักดีก็แค่นั้น ว่าแต่ชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหนล่ะ กูไม่คุ้นเลย"

"เซฮุน น้องกูเอง เพิ่งบินมาจากเกาหลี"

"ห๊ะ!? น้องมึงหรอ? ไอ้เหี้ยยยยยยยย! มึงมันเลววววว นี่มึงจะเอาน้องมึงเองหรอ กับน้องแท้ๆมึงยังไม่เว้น!"

"เอาพ่องดิ น้องแต่ไม่ใช่น้องแท้ๆ พ่อกับแม่เก็บมาเลี้ยง กูเกลียดมันจะตาย ไม่เคยคิดจะเป็นพี่มันเลยด้วยซ้ำ"

"ไม่อยากเป็นพี่แต่อยากเป็นผัวใช่มั้ยละ กูรู้หรอก"

ผั๊วะ!!!

โบกหัวซักที หมั่นไส้มากดูมันพูด

"ไอ้เหี้ยชาน มึงโบกหัวกูทำไมวะ เจ็บนะสัส!"

"ก็มึงพูดส้นตีนไรเนี้ย พี่ๆผัวๆอะไร ที่กูจูบเซฮุนวันนี้กูแค่จะเอาชนะเฉยๆเว้ย ปากดี หยิ่งอย่างนั้นก็สมควร"

"โหยยย เชื่อมึงก็บ้าละ คนเกลียดกันเค้าจูบกันหราาา กุถามจริง หรือมึงจะใช้วิธีนี้กังขังเค้าไว้ "

"ก็ใช่ไง เอามาขังไว้เล่นๆ ยิ่งเกลียดกูก็ยิ่งแกล้งคอยดู"

"อ่ออออ คนนี้สินะที่มึงถามกูวันนั้น ระวังนะมึง เล่นกับความรู้สึกเค้ามันเจ็บมากนะเว้ย"

"เจ็บสิดี กูอยากเห็นมันเจ็บปวดที่สุดเลยมึงรู้มั้ยเทียบกับแต่ก่อนที่กูเหมือนหมาหัวเน่าที่บ้านตัวเอง มึงบอกกูเองไม่ใช่หรอว่าเล่นกับความรู้สึกคนมันสนุกที่สุด"

"เออ มันสนุก นอกจากเซฮุนจะเจ็บแล้ว แต่คนที่จะเจ็บกว่า คือมึง"

"..."

"นี่มันแค่การเริ่มต้น ต่อไปมึงจะตายทั้งเป็นกับสิ่งที่มึงทำ ยิ่งเกลียดยิ่งแกล้ง มารู้ตัวอีกทีระวังจะรักเค้าซะเอง เจ็บเองเลยนะมึงกูเตือนไว้"

"... มันจะไม่มีวันนั้นสำหรับกู"

"เห้อออ มั่นใจเข้าไป กุล่ะเบื่อ เอ้ากินๆ ไม่รักก็ไม่รัก จบ"


ผมหันไปมองหน้าจงแดอีกครั้ง แล้วหันมามองแก้วที่มีน้ำสีอำพันในมือ สิ่งที่ผมทำกับเซฮุนวันนี้ก็ลอยเข้ามาในความคิด นี่ผมกำลังอ่อนแออย่างนั้นหรอ ไม่หรอกน่า... ผมสร้างกำแพงแห่งความเกลียดไว้สูดเฉียดฟ้าซะขนาดนั้น ความรักทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะผมไม่ได้รักไอ้เด็กบ้านั่นต่างหาก

**********************************

 

                                             

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา