บ่วงรักรอยอดีต

9.1

เขียนโดย Chapond

วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.11 น.

  45 ตอน
  448 วิจารณ์
  116.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 12.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) 11 ความอิจฉาริษยา2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อะไรนะคะ พี่ฟางไม่สบาย ค่ะๆจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”เฟย์ที่เพิ่งเรียนเสร็จรับสายจากแก้วก็รีบเดิน

ออกมาเพื่อโบกแท้กซี่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตุบ ด้วยความที่วิ่งแล้วไม่ดูทางทำให้ชนกับใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่เคนไหนว่าพี่ติดงานมารับเฟย์ไม่ได้ไงคะ”เฟย์อึ้งเมื่อชนกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วมีเคนประคองกอดไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

“เคนคะไหนบอกว่าเลิกกับเด็กนี่แล้วไงคะนี่มันหมายความว่าไง”ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างไม่พอใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่เคนบอกกับผู้หญิงคนนี้ว่าพี่เลิกกับเฟย์แล้วงั้นหรอคะ พี่ทำงี้ได้ไง งั้นช่วงที่พี่หายไปพี่ก็อยู่กับ

ยัยนี่ใช่มั้ย ที่พี่ไม่ไปกับเฟย์ที่บ้านคุณย่าก็เพราะแบบนี้ใช่มั้ยคะ พี่ตอบเฟย์มานะ”เฟย์โวยวายพร้อมกับเข้าไปทุบตีเคน

 

 

 

 

 

 

 

“นี่เงียบได้แล้วเด็กบ้า ชั้นกับเคนเราคบกันตั้งแต่ช่วงที่เธอไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกาแล้วล่ะ

เชอะ ทำเป็นใสซื่อหน้าอย่างเธอไปเรียนแลกเปลี่ยนตั้งครึ่งปีมีหรอจะไม่ใจง่ายไปกับฝรั่งพวกนั้น

ล่ะ เลิกหลอกเคนว่าเป็นสาวน้อยใสซื่อได้แล้ว รู้เอาไว้ซะว่าเคนเค้าเบื่อเธอแค่ไหนที่ทนคบเพราะว่าสงสารหรอกนะ”ผู้หญิงคนนั้นว่า

 

 

 

 

 

 

 

 

“อย่ามาว่าชั้นนะ”เฟย์โกรธจัดก็พุ่งเข้าไปจิกทึ้งผมของผู้หญิงคนนั้นทันที

 

 

 

 

 

 

“เฟย์เลิกบ้าได้แล้ว”เคนตกใจรีบดึงผู้หญิงคนนั้นเข้ามากอดและผลักเฟย์ล้มลงกองกับพื้น

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่เคนนี่พี่ปกป้องมันมากกว่าเฟย์งั้นหรอ”เฟย์อึ้งแล้วมองคนรักที่สนใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฟย์พี่ว่าเราห่างกันเกินไปเลยทำให้พี่รู้สึกกับเฟย์ไม่เหมือนเดิม พี่ว่าจะบอกเราหลังเรียนจบ แต่ในเมื่อรู้ความจริงแบบนี้แล้วก็บอกมันตอนนี้เลยแล้วกัน เราเลิกกันเถอะ”เคนนิ่งสักพักก่อนจะตัดสินใจพูดแล้วประคองผู้หญิงคนนั้นเดินไปโดยที่ไม่เหลียวแลเฟย์เลย เฟย์นั่งร้องไห้ตรง

นั้นอย่างไม่อาย

 

 

 

 

 

 

 

 

“เห็นมั้ยชั้นบอกแล้วว่าเธอน่ะควรเลิกกับแฟนเธอซะ”เขื่อนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเดินมานั่งข้างๆ

 

 

 

 

 

 

 

“ฮือๆ ชั้นอกหักอยู่ก็ยังมาซ้ำเติมชั้น ไอ้คนเฮงซวย”เฟย์ปล่อยโฮยิ่งกว่าเดิมเมื่อเจอหน้าเขื่อน

 

 

 

 

 

 

 

“เอ้าก็ชั้นพูดความจริงนี่นา ว่าเธอกับหมอนั่นไม่ใช่ตู่แท้กันหรอก”เขื่อนพูดแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้

เฟย์

 

 

 

 

 

 

“ฮือๆ บอกแล้วไงว่าอย่าพูดซ้ำเติมชั้น”เฟย์ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นทำให้เขื่อนที่ตกใจรีบพาเฟย์ไปสงบ

สติอารมณ์ที่รถของเขา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แก้วทำไมคุณฟางถึงเป็นแบบนี้ได้น่ะ”ระหว่างรอหมอตรวจอาการ พิมก็รีบถาม

 

 

 

 

 

 

“ชั้นก็เข้าไปตามคุณฟางนั่นล่ะ ชั้นเองก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นสภาพคุณฟางแบบนี้”แก้วพูด

 

 

 

 

 

“โทโมะเดี๋ยวถ้าหมอออกมาแล้วเอาสร้อยพระนี่ไปห้อยคอให้น้องนะลูก”ย่าจำปาพูดแล้วเอาสร้อย

พระออกมา

 

 

 

 

 

 

“ทำไมครับย่า เกิดอะไรขึ้นกับน้องครับ”โทโมะมองย่าตัวเองแล้วถาม

 

 

 

 

 

 

“แม้คุณใหญ่จะเป็นปากร้ายเอาแต่ใจ แต่ใช่ว่าคุณใหญ่จะใจจืดใจดำกับพี่นันท์นะ ทำไมฟางถึงฝัน

เห็นเรื่องราวร้ายๆของคุณใหญ่แค่นั้นนะ”ย่าจำปาพูดแล้วย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่นันท์ถูกล่ามโซ่แล้ว

คุณใหญ่ไปไขกุญแจให้และเหตุการณ์วันนั้นที่ริมน้ำก่อนที่จะสร้างบ้านริมน้ำหลังนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ้าว นันท์จำปามาพอดี ชั้นซื้อของมาฝาก แล้วี่เอาไปแบ่งกับคนใช้คนอื่นที่เรือนคนใช้นะ”คุณ

หญิงแขไขพูดเมื่อนันท์กับจำปาลงมาจากทำความสะอาดชั้นบนของบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

“โอ้โห สวยจังเลยจ้ะ”จำปาพูดเมื่อแกะออกมาเป็นกิ๊บติดผมรูปดอกไม้

 

 

 

 

 

 

 

“ชอบใช่มั้ย ชั้นกะแล้วว่าเธอต้องชอบมัน ชั้นเห็นมันเข้ากับวัยของเธอดีนะจำปา”คุณหญิงแขไข

พูด

 

 

 

 

 

 

 

“แต่นันท์ว่าคุณท่านไม่น่าเสียเงินซื้อของแบบนี้ให้นันท์เลยนะคะนันท์เองก็แค่ทาสไม่มีค่าพอที่จะ

ได้ของแบบนี้หรอกจ้ะ”นันท์พูดแล้วแกะกล่องออกมาคือสร้อยรูปดอกกุหลาบเล็กๆดูมีราคา

 

 

 

 

 

 

 

“นันท์ คุณพระบอกชั้นแล้วนะว่าสอนหนังสือให้เธอแล้วเธอเองก็หัวไวเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนนี่ เด็กดี

ควรจะได้รับรางวัลแบบนี้นะ”คุณหญิงแขไขพูดแล้วมองนันท์ที่ยังคงเจียมเนื้อเจียมตัวเหมือนเดิม

ไม่เปลี่ยน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวนี้คุณแม่กลับมาคุณแม่ซื้อชองฝากให้พวกคนใช้ก่อนลูกรักอีกหรอคะ”คุณเล็กเดินเข้ามา

พร้อมเขริกาและภาณุก็ว่า

 

 

 

 

 

 

 

 

“คุณหญิงป้าสวัสดีค่ะ วันนี้เขมทำขนมปั้นขลิบกับช่อม่วงมาฝากค่ะ”เชริกาพูดก่อนจะให้จำปาเอา

ขนมไปจัดใส่จาน

 

 

 

 

 

 

 

 

“หนูเขมทีหลังไม่ต้องลำบากแบบนี้นะลูก เราก็คนกันเองทั้งนั้น”คุณหญิงแขไขพูดแล้วมองวาที่

สะใภ้ด้วยสายตาเอ็นดู

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่เปนไรค่ะเขมเองก็ชอบทำขนมด้วย คุณหญิงป้านี่ใจกว้างเหมือนเดิมเลยนะคะ ซื้อของเล็กๆ

น้อยๆให้คนใช้ด้วย”เขมพูดแล้วเหล่ตามองนันท์ที่นั่งพับเพียบข้างๆคุณหญิงแขไข

 

 

 

 

 

 

 

“เพราะว่าคนใช้ที่นี่ชอบประจบสอพลอหวังของเล็กๆน้อยๆจากเจ้านายน่ะสิ พวกคางคกขึ้น

วอ”ภาณุว่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ตาใหญ่ นันท์เค้าไม่ได้ประจบแม่นะ แม่เห็นว่านันท์เค้าเป็นเด็กดี และเค้าก็น่าสงสารแม่เลยเอ็นดู

ซื้อของให้แค่นี้เอง อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยลูก”คุณหญิงแขไขพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“จริงค่ะใหญ่ ดูสิคะ ก็แค่สร้อยคริสตันรูปดอกกุหลาบแค่นี้เอง”เขริกาพูดแล้วเหล่มองสร้อยใน

กล่องของนันท์อย่างหมั่นไส้

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่ถ้าให้มันบ่อยๆเผลอจะเอาข้าวของพวกนี้ไปให้คนรักของมันแล้วให้คนรักจนๆของมันยกพวก

มาปล้นพวกเราได้นะคะพี่เขม อย่าไปหลงเชื่อมัน”คุณเล็กรีบพูดว่านันท์

 

 

 

 

 

 

 

“ยัยเล็กก็อีกคน ไปกันใหญ่ละ”คุณหญิงแขไขพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นันท์ขอตัวไปดูอาหารเย็นให้พวกคุณๆที่ครัวก่อนนะคะ”นันท์พูดแล้วเดินหนีออกมาที่ครัวทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่นันท์ คือว่าคุณเล็กกับคุณใหญ่เค้าเรียกให้พี่นันท์ไปรับใช้แทนจำปาน่ะจ้ะ”จำปาเดินกลับมาบ

อกเมื่อยกของว่างขึ้นไปที่เรือนใหญ่ นันท์ถอนหายใจและยอมรับชะตากรรมเพราะคิดว่ายังไงซะก็

ต้องโดนแกล้งอยู่ดี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เดินอ้อยอิ่งชักช้าอยู่ทำไม คิดว่าเป็นคนโปรดพ่อแม่ชั้นแล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจได้รึ

ไงห้ะ”ภาณุว่าเมื่อนันท์ยกถาดน้ำส้มและของว่างที่เหลือมาให้ที่ระเบียงชั้น2ที่ยื่นออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นันท์เค้าถือของหนักอาจจะทำให้ถือของลำบากงั้นเขมเข้าไปช่วยดีกว่านะคะจะได้เสร็จไวๆ”เข

ริกาพูดแล้วเดินไปช่วยหยิบขนมวางบนโต็ะ คุณเล็กเห็นนันท์ก็หมั่นไส้หมายจะผลักให้ล้ม

 

 

 

 

 

 

 

 

 “ว้าย”นันท์และเขริการ้องเมื่อนำส้มในถามหกรด2สาวจนเลอะเทอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แก นังนันท์นังคนซุ่มซ่ามแกทำพี่เขมงั้นหรอ”คุณเล็กว่าก่อนจะเอาจานขนมบนตะบี้ใส่ผมของ

นันท์จนเลอะเทอะ เขริกามองภาพนั้นก็แอบยิ้มนิดนึงก่อนจะถูกภาณุประคองไปนั่ง

 

 

 

 

 

 

“กราบขอโทษพี่เขมเดี๋ยวนี้นังทาส”คุณเล็กสั่ง

 

 

 

 

 

 

“อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยจ้ะเล็ก พี่ไม่เป็นอะไรเดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำล้างคราบน้ำส้มก็ได้”เขริกา

พูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ได้ค่ะ มันประจบสอพลอคนอื่นได้แต่ไม่ใช่เล็ก พี่เขมและก็พี่ใหญ่แบบนี้”คุณเล็กว่าก่อนจะจับ

นันท์ให้ก้มคุกเข่ากราบเขริกา นันท์ที่ถูกกลั่นแกล้งก็เริ่มร้องไห้ออกมาและก้มลงกราบก่อนจะรีบวิ่ง

หนีออกไปทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮึก ฮือๆ”นันท์วิ่งออกมาจากเรือนจันทร์วิ่งมาเรื่อยๆจนถึงพื้นที่รกริมน้ำแล้วทรุดลงร้องไห้ตรงนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พ่อจ๋าแม่จ๋า นันท์ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พี่กร ฮือๆ”นันท์ร้องไห้หาคนที่ตัวเองรักอยู่ตรงนั้นอย่างน่า

สงสาร

 

 

 

 

 

 

 

 

ฟู่ๆ เสียงขู่ของงูและเลื้อยเข้ามาใกล้นันท์ แต่ช้าไปเมื่อนันท์หันกลับไปงูเห่าก็อยู่ใกล้เธอมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กรี๊ดด”นันท์ร้องด้วยความเจ็บเมื่องูเห่าฉกมาที่หัวเข่าที่เธอใส่ผ้าถุงเลยเข่า นันท์ทรุดลงแล้วมอง

ท้องฟ้ายามเย็น

 

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้านี่คือโชคชะตาของนันท์ นันท์ควรจะยอมรับมันสินะ ลาก่อนพ่อ แม่ ลาก่อนพี่กร”นันท์เริ่มสติ

เลือนลางแล้วพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มานอนอะไรตรงนี้ของเธอห้ะ นี่คิดจะเรียกร้องความสนใจไปถึงไหน”มีเสียงของใครคนหนึ่งพูดแต่

ตอนนั้นนันท์เองที่เหนื่อยล้าเต็มทีเริ่มหนักและไม่อยากลืมตาขึ้นมาดู

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มัน เฮ้ นี่เธอจะหลับแบบนี้ไม่ได้นะ เธอถูกงูกัดนิ”ชายคนนั้นพูดและพยายามตบหน้านันท์ให้

นันท์ได้สติ นันท์จึงค่อยๆปรือตาออกมาดูแต่มองไม่ชัด ชายคนนั้นกำลังดูดพิษงูที่หัวเข่าของเธอ

และพยายามเลิกผ้าถุงขึ้นเพื่อเอาผ้าเช็ดหน้ามารัดที่ต้นชา นันท์พยายามเพ่งมองชายคนนั้นดีๆ

ลักษณะแบบนี้ คุณใหญ่งั้นหรอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไอ้สม ไอ้ชิดมาเร็วๆหน่อยสิวะ คนกำลังจะตายอยู่แล้วไปเอารถออก”นันท์รู้สึกเหมือนกับมีใครคน

หนึ่งอุ้มเธอและสั่ง นี่เธอกำลังฝันไปใช่มั้ย คนอย่างคุณใหญ่น่ะหรอจะมาช่วยชีวิตเธอ นั่นสินะ เขา

เกลียดเธอจะตาย นี่เธอคงฝันไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ตื่นมาเถอะนะคนดีของป๊อป ป๊อปมาแล้ว ตื่นมาเถอะนะ”เสียงกระซิบของป๊อปปี้ทำให้ฟางเริ่มขยิบ

ตาและขยับตัว เธอค่อยๆลืมตาพบว่าป๊อปปี้กำลังกอดเธอไว้แน่น นี่เธออยู่โรงพยาบาลงั้นหรอ

 

 

 

 

 

 

 

 

“คุณฟางฟื้นแล้วโล่งอกไปที นึกว่าคุณฟางจะเป็นอะไรมากกว่านี้ซะอีก”พิมรีบพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่ถึงกับต้องพาฟางมานอนโรงพยาบาลเลยหรอ พี่โทโมะฟางบอกแล้วไงว่าฟางไม่บ้าฟางปกติ

นะ”ฟางรีบหันขวับไปหาโทโมะแล้วว่าชายหนุ่มเพราะเข้าใจว่าตัวเองคงโดนโทโมะลากมาตรวจที่

โรงพยาบาลแน่ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

“อะไรๆ พี่ต่างหากที่ต้องถามเราว่าเราไปทำอะไรที่โรงเก็บของที่เรือนจันทร์เจ้า ที่นั่นรกจะตายเกิด

งู แมงป่อง ตะขสบกัดเราขึ้นมาล่ะจะว่ายังไง”โทโมะรีบบ่นฟางเป็นชุดยาวเหยียด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คือคุณฟางเป็นลมน่ะค่ะ สลบตรงหน้าโรงเก็บของเก่า แก้วกับคุณโทโมะไปเจอเข้าเลยรีบพามา

ส่งที่โรงพยาบาลก่อน เพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรไป”แก้วอธิบายต่อจากโทโมะ

 

 

 

 

 

 

“สงสัยฟางเดินไม่ดูตาม้าตาเรือมั้งคะ เลยหน้ามืดเป็นลมไป แหะๆ ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่

ทำให้ทุกคนเป็นห่วงแบบนี้”ฟางพูดและขอโทษทุกคน

 

 

 

 

 

 

“ดีแล้วนะที่ฟางไม่เป็นอะไร ป๊อปตกใจแทบแย่เลยนะที่ฟางเป็นลมแล้วเข้าโรงพยาบาลแบ

บนี้อ่ะ”ป๊อปปี้พูด

 

 

 

 

 

“ขอโทษน้าที่ทำให้เป็นห่วง ต่อไปนี้ฟางสัญญานะจะไม่ก่อเรื่องให้ป๊อปวุ่นวายแบบนี้แล้วค่า”ฟาง

รีบอ้อนสามี

 

 

 

 

 

 

 

 

“จริงสิฟาง ย่าไปถามหมอข้างนอกเค้าบอกว่าเราต้องพักที่นี่คืนนึง เอาอย่างนี้ ช่วงระหว่างที่เราอยู่

ที่นี่เราสวมสร้อยพระเส้นนี้นะลูก”ย่าจำปาพูดก่อนที่โทโมะจะสวมสร้อยพระให้ฟาง

 

 

 

 

 

 

 

 

“ขอบคุณคุณย่ามากนะคะที่ห่วงฟาง”ฟางขอบคุณก่อนที่ย่าจำปาจะเดินออกมาข้างนอกกับแก้ว โท

โมะ และพิม

 

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นแสดงว่าที่คุณย่าเล่าให้พวกเราฟังเรื่องที่คุณใหญ่เป็นคนช่วยชีวิตนันท์ คุณใหญ่ไม่ใช่คนร้าย

อะไรนี่ครับ ถ้าฟางคือนันท์ที่กลับชาติมาเกิดจริงๆแต่ทำไมฟางถึงฝันถึงเหตุการณ์ร้ายๆที่คุณใหญ่

ทำร้ายนันท์ ทำไมไม่คิดถึงสิ่งดีๆที่ทำให้นันท์ล่ะครับ”โทโมะพูดเมื่อตอนที่ฟางสลบอยู่ย่าจำปาเล่า

เรื่องที่คุณใหญ่ช่วยชีวิตนันท์ให้ทุกคนในห้องฟังก่อนป๊อปปี้จะตามเข้ามาดูอาการของฟาง

 

 

 

 

 

 

 

 

“เรื่องนี้ย่าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หรืออาจจะเพราะความผิดที่ฟางในชาติที่แล้วเคยก่อไว้กับคุณ

ใหญ่ที่คือป๊อปปี้ละมั้ง เลยมีคนผูกใจเจ็บกับเรื่องนี้อยู่”ย่าจำปาพูดพลางถอนหายใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อย่าเป็นอะไรไปอีกนะฟางไม่งั้นป๊อปคงบ้าตายแน่ๆ”ป๊อปปี้พูดแล้วนั่งข้างๆฟางกอดฟางไม่ปล่อย

 

 

 

 

 

 

“ป๊อปอ่ะเป็นแบบนี้อีกแล้วฟางไม่หนีป๊อปไปไหนหรอกน่า”ฟางยิ้มและกอดป๊อปปี้ก่อนจะหอมแก้ม

สามีด้วยความรัก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ใช้ความสุขที่มีกันให้พอ เพราะของที่แย่งคนอื่นมา อีกไม่นานเท่านั้น แกก็จะต้องเจ็บเหมือนที่ชั้น

เคยเจ็บนังนันท์ใหญ่จะเป็นของชั้นคนเดียว”เขริกามองฟางและป๊อปปี้นอกกระจกโรงพยาบาลแล้ว

พูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

งานนี้อุปสรรคมาเต็ม บอกเลยจะรีบให้แฮปปี้ทำไมล่ะเพิ่งตอนต้นๆเอง555555

 

 

 

อย่าลืมเม้นกับโหวตด้วยน้า ไรเตอร์พยายามกลับมาอัพแล้วถ้าไม่ติดงานรึป่วยอะไร แต่รีดเดอร์ที่น่ารักก็อย่าพึ่งหายไปล่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา