พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+

9.8

เขียนโดย sebbynoi

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.

  31 บท 3 ตอน พ่อบ้านผู้นั้นกับการแข่งขัน
  11 วิจารณ์
  57.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) ตอนที่ 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"หึ นี่มันเรื่องส่วนตัวของผม ขอไม่บอกแล้วกันนะครับ ผมไม่อยากจะนึกถึงคนๆนั้นอีก นึกถึงทีไรทำให้ผมอดโมโหมันไม่ได้ทุกที คนทรยศแบบนั้น ผมไม่มีวันให้อภัยมันหรอก ไม่มีวัน" ชิเอลหลับตาพูดอย่างไม่สบอารมณ์
"งั้นเหรอ ท่าทางคนที่ชื่อราอุลอะไรนั้นจะทำเรื่องไม่ดีเอาไว้กับเจ้านักหนาสาหัสทีเดียวเลยสินะ ถ้าเจ้าไม่อยากจะนึกถึงข้าก็จะไม่เซ้าซี้อะไรอีก ว่าแต่ตอนนี้ได้เวลาที่เจ้าจะต้องกินยาแล้วไม่ใช่เหรอ ชิเอล"แลนกาบเอ่ยเตืิอนเรื่องกินยาอีกเช่นเคย
ชิเอลหันมามองหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ที่ตาแก่นี่มาบังคับให้เขากินยาอีกแล้ว 
"ไม่...ผมจะรอให้เซบาสเตียนกลับมาก่อน แล้วผมค่อยกิน"ชิเอลโต้กลับมองหน้าแลนกาบอย่างท้าทาย
"ไม่ได้ จะต้องกินยาให้เป็นเวลา ไม่งั้นก็ไม่หายป่วยกันพอดีน่ะสิ กินยาเดี่ยวนี้เลยนะชิเอล "แลนกาบพุดด้วยท่าทีจริงจัง เขาไม่ยอมให้เด็กมาดื้อกับเขาได้หรอก
"ทำไมจะต้องมายุ่งกับผมด้วยเนี่ยคุณแลนกาบผมจะรอเซบาสเตียนมาก่อนค่อยกิน"ชิเอลเถียง
"กว่าเจ้าหนูจะมาก็คงจะอีกนาน เจ้ากินยาไปก่อนจะเป็นอะไรไปล่ะ กินยาเดี่ยวนี้เลยชิเอลอย่ามาดื้อกับข้านะ ข้าขอบอกไว้ก่อนว่าข้าไม่ปราณีเด็กดื้อเป็นอันขาด ถ้าไม่ยอมกินดีๆล่ะก็ข้าจับกรอกแน่ๆเชียว"แลนกาบพูดเสียงดุ พรางหยิบน้ำมาเทใส่ลงในแก้วแล้วเอามาวางที่โต๊ะตรงหน้าชิเอลพร้อมกับหยิบถุงยาเอามาเทใส่บนฝ่ามือตนเองก่อนจะยื่นไปจ่อที่ปากของเด็กดื้อบังคับให้ทานยาให้ได้
"กินยาเข้าไปซะยาน่ะจะได้หายไวๆเจ้าจะได้เดินทางไปไหนกับเจ้าหนูได้เร็วๆไง หรือเจ้าอยากจะติดแหงกอยู่ที่นี่กับข้าอีกหลายวันกันล่ะ"แลนกาบพูดหลอกล่อให้เด็กดื้อยอมกินยาอย่างชาญฉลาด
"เฮ้อ กินก็ได้ ผมเองก้อยากจะหายป่วยเร็วๆเหมือนกัน"ชิเอลเลยต้องยอมจำนนให้กับแลนกาบยอมรับยามาจากปีศาจผมแดงเอามายามาถือไว้ก่อนจะกลั้นใจกระดกยาใส่ปากรวดเดียวหมดแล้วหยิบน้ำมาดื่มตามเข้าไป ยอมกินยาอย่างว่าง่าย
แลนกาบยิ้มมองดูเด็กหนุ่มที่ยอมกินยาอย่างเอ็นดู 
"ดีมากชิเอล กินยาให้ตรงเวลาและพักผ่อนให้มากๆ ข้าเชื่อว่าพอเจ้าหนูกลับมาเจ้าต้องอาการดีขึ้นอย่างแน่นอนเลย นี่ก็ตัวไม่ร้อนเท่าไหร่แล้วนี่"แลนกาบพุดยิ้มๆเอามือมาแตะดูที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน ดูแลเป็นอย่างดีเหมือนกับเป็นลูกเป็นหลานเลยก็ว่าได้
"ครับ ผมนอนต่ออีกหน่อยดีกว่า ยังง่วงๆอยุ่เลย ฮ้าวว"พูดไปพรางหาวไปพราง ก่อนจะค่อยๆไถลตัวลงนอนบนโซฟา 
"อืม นอนไปก่อนแล้วกันนะชิเอล"แลนกาบพุดพรางเอื้อมมือมาหยิบผ้าห่มมาคลุมห่มให้ชิเอลอย่างมีเมตตา ผิดกับรูปร่างหน้าตาของเขาเลย
ชิเอลยิ้มอย่างขัดเขิน มองหน้าแลนกาบอย่างแปลกใจ เขาไม่เคยเจอใครที่มาทำแบบนี้ให้เขามาก่อนเลยนอกจากพ่อแม่และเซบาสเตียน จากนั้นเขาก็ค่อยๆหลับตานอนพักรอจนกว่าพ่อบ้านของตนจะกลับมา
และในตอนนี้พ่อบ้านของชิเอลเดินทางผ่านซุ้มประตูเมืองซาตานออกมาจากเมืองเรียบร้อยแล้ว กำลังกางปีกสีดำสง่าขึ้นเตรียมจะบินขึ้นฟ้าข้าวหุบเขากลับไปที่เมืองมนูษย์ เขาได้ข้อสรุปมาแล้วว่าไม่มีทางที่จะขอยืมเรือมาจากพวกราอุลได้อีกแล้วเพราะชิเอลไม่ยอมไปพบคนพวกนั้น ในตอนนี้สิ่งที่เขาพอจะทำได้คือการดักปล้นเรือสินค้าลำใหญ่ๆตามแม่น้ำนั่นแหละ เพื่อขอยืมมาขนศพจำนวนนับสิบไปส่งให้พวกสกอเปียตามที่เขาได้รับปากกับแลนกาบเอาไว้แล้วให้สำเร็จให้จงได้เลย ก่อนจะถึงเวลาไปพบกับซีโร่ที่ป่าหลังหมู่บ้านของเขาซึ่งเป็นอีกภาระกิจหนึ่งที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จก่อนจะที่ร่างกายของพวกคนใช้แฟนท่อมไฮด์ทั้งสามจะเน่าและตายไปเสียก่อน 
และเพียงไม่นานเวบาสเตียนก็เดินทางมาถึงชายฝั่งของลอนดอน
"เฮ้อ นี่เราต้องปล้นเรือสินค้าจริงๆน่ะเหรอ เหนื่อยอีกแล้วสิเนี่ย นายน้อยนี่ล่ะน้าจะแค้นเคืองอะไรกันนักหนาผ่านไปตั้งนานแล้วยังไม่ลืมเรื่องพวกนั้นอีก "พอมาถึงที่หมายเซบาสเตียนก็บ่นไปพรางคอยมองหาเรือสินค้าลำใหญ่ๆไปพราง อย่างขมักเขม่นจนกระทั่งเห็นเรือสินค้าผ่านมาลำหนึ่ง 
"นั่นไงเจอเหยื่อและได้เวลาปล้นเรือแล้ว หึหึหึ"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองก่อนจะตัดสินใจหายตัววับไป
เปี้ยง!!แล้วซาตานหนุ่มก็มาปรากฎตัวที่ห้องของกัปตันเรือ แล้วเอากริกเงินจ่อที่คอของคนขับแล้วพูดข่มขู่
"ถ้าไม่อยากตายสละเรือเดี่ยวนี้!!"เซบาสเตียนพูดพรางรีบเอาหน้ากากที่เสกขึ้นมาสวมอำพรางหน้าเล็กน้อย แต่ถึงไม่ปลอมตัวคนเขาก็ไม่รู้จักอยู่ดีแหละ 
"อย่าฆ่าผมเลย ผะ ผมมีเมียมีลูกสามคนต้องดูแล ช่วยด้วย!! คนร้าย อุป!!"กัปตันเรือละล่ำละลักพุดด้วยความตื่นตกใจกลัวแต่แหกปากร้องได้ไม่นานก็ถูกมือของผู้ก่อการร้ายตัวสูงนี่ปิดปากเอาไว้ พร้อมกับถูกกริกแหลมคมจ่อที่คอแบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลย กัปตันชราถึงกลับหน้าถอดสีตื่นตระหนกคาดไม่ถึงว่าตนจะถูกจู่โจมแบบกระทันหันแบบนี้โดยที่ไม่รู้ตัวเลย และอดสงสัยไม่ได้ว่าคนร้ายผู้นี้มาได้ยังไง โผล่มาจากไหน ทำไมเขาถึงไม่ได้ยินเสียงเลยล่ะ
"หึหึหึ ไม่ได้คิดจะฆ่าหรอกนะ แต่แค่ยืมเรือไปทำธุระสักหน่อยเดี่ยวเอามาคืน"ชายร่างสูงสวมหน้ากากสีดำพูดพรางคว้าตัวกัปตันเรือผู้เคราะห์ร้ายลากตรงไปที่กาบเรือ เตรียมจะถีบลงน้ำในอีกไม่ช้า 
แต่ระหว่างนั้นพวกบันดาลูกเรือที่ได้ยินเสียงร้องของกัปตันก็พากันกรูกันเข้ามาในห้องบังคับเรือ
"คนร้าย!!ช่วยกันจับมันเร็วอย่าให้กัปตันของเราต้องเป็นอะไร"หนี่งในลูกเรือร้องสั่งพวกพ้องให้ช่วยกันจับคนร้ายที่กำลังจะจับกัปตันของพวกเขาโยนลงแม่น้ำไป
เซบาสเตียนไม่รอช้าจับตัวกัปตันโยนลงน้ำไปในทันทีพร้อมกับจู่โจมพวกลูกเรือจับโยนลงน้ำไปทีละคนๆทีละคนอย่างง่ายดาย
ว๊ากกกกกกกกก อ๊ากกกก !!!! ตู้ม!!!!ๆๆๆๆ บัันดาผู้คนที่อยู่ในเรือที่เหลือต่างพากันส่งเสียงกรีดร้องเมื่อถูกชายร่างสูงสวมหน้ากากจับโยนลงน้ำไปอย่างที่ไม่อาจต่อสู้หรือโต้ตอบใดๆได้เลยเพราะชายหนุ่มผู้นี้ลงมืออย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง
"หึ ขอยืมเรือไปก่อนนะทุกคนไว้เสร็จงานเมื่อไหร่จะกลับมารับ ขอให้อย่าพึ่งจมน้ำตายไปก่อนล่ะ บ๊ายบาย"เซบาสเตียนยืนโบกมือให้เหล่าเจ้าของเรือที่ตอนนี้ต้องระเห้ดลงไปรอยคออยู่ที่แม่น้ำกันหมดทุกคนเลย เขาจะพาคนพวกนั้นไปด้วยไม่ได้หรอกเดี่ยวโดนปีศาจฆ่าตายหมดยกเรือ จึงต้องปล่อยให้ลอยแพอยู่ในน้ำ แต่ก่อนที่เขาจะกลับไปที่ห้องควบคุมเรือเขาคิดว่าจะเอาเรือยางสำรองที่มีอยู่โยนส่งให้พวกนั้นเอาไว้ใช้แก้ขัดไปก่อน
"อ่ะ เอาเรือยางไปใช้แก้ขัดก่อน ขออภัยด้วยที่ต้องทำแบบนี้นะ ขอยืมไปใช้ไม่นานหรอกเดี่ยวเอามาคืน โชดดีนะครับทุกคน"เซบาสเตียนพุดพรางเดินไปหยิบพวกเรือชูชีพโยสลงไปให้พวกกัปตันเอาไว้ใช้สองสามลำ ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องควบคุมเรือแล้วแล่นเรือจากพวกที่ลอยแพไปในทันที
"เอ้ยยยย เอาเรือของพวกฉันมานะ เจ้าบ้า เอาคืนมา!!"อดีตกัปตันเรือที่พึ่งปีนขึ้นมานั่งในเรือยางชูชีพเมื่อครู่ร้องโวยลั่นอย่างโมโหที่โดนคนร้ายยึดเรือไปต่อหน้าต่อตา ก่นด่าสาปแช่งต่างๆนานาๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากลอยแพอยู่บนเรือยางไปอย่างงั้น ไม่มีพายเอาไว้พายด้วยสิ คงต้องรอจนกว่าคนร้ายผุ้ใจดีเอาเรือมารับนั่นแหละ แต่ว่าคนร้ายผุ้นั้นจะกลับมารับพวกเขาจริงๆน่ะเหรอ 
และคนร้ายที่ถูกเจ้าของเรือที่ตนยึดมาได้ก่นด่าในตอนนี้เขาเอาหน้ากากสีดำออกแล้วและกำลังบังคับเรือไปยังท่าเรือซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบริเวณโกดังร้างที่มีศพนอนตายเกลื่อนนั่นแหละ นี่ยังดีที่ไม่มีใครเห็นไม่อย่างงั้นคงเป็นข่าวหน้าหนึ่งเลยทีเดียวและศพพวกนั้นอาจจะโดนขนย้ายไปที่อื่นแล้วก็ได้ 
"เอาหล่ะต่อไปก็ต้องให้ศพเดินมาขึ้นเรือเอง เวทมนต์ที่ท่านพ่อสอนให้ได้เวลางัดเอามาใช้สักที"เซบาสเตียนพูดในขณะที่กำัลังจะหายตัวไปที่โกดังร้างเพื่อพาศพมาขึ้นเรือเอาไปส่งให้พวกสกอเปียอย่างมุ่งมั่น
เปรี้ยง และไม่นานซาตานหนุ่มก็มาปรากฏตัวที่โกดังร้าง ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีใครมายุ่งกับศพคนตายพวกนี้เลย แต่สภาพศพเริ่มใกล้เน่าเต็มทีแล้ว 
"หืม เริ่มมีกลิ่นแล้วสิ รีบเอาไปส่งให้พวกสกอเปียเลยแล้วกัน "ชายร่างสูงเดินมาสำรวจศพพรางบ่นเล็กน้อยทำหน้าเบ้รู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นของซากศพพวกนี้ที่เริ่มใกล้เน่าเต้มทีแล้ว เขาจึงต้องรีบเอาศพพวกนี้ไปส่งก่อนที่อาหารของพวกนั้นจะเน่าเสียไป นี่ยังดีที่เขาตัดสินใจมาส่งเหยื่อในวันนี้ หากมาพรุ่งนี้อาจจะไม่ทันกาลศพเน่าเสียไปก่อนก็เป็นได้
"เอาหล่ะ ส่งข่าวบอกแลนกาบเลยดีกว่า"พูดจบเซบาสเตียนเอามือล้วงไปในกระเป่าเสื้อหยิบขวดโหลดวงไฟสื่อสารที่พึ่งไปเอาคืนมาจากซีทานก่อนหน้านี้ เอามาเปิดฝาแล้ววางลงที่พื้นก่อนจะหยิบสมุดจดเล่มเล็กๆพร้อมปากกาเอามาขีดๆเขียนๆข้อความส่งให้แลนกาบอย่างคล่องแคล้ว 
พอเซบาสเตียนเขียนเสร็จแล้วเขาจึงฉีดกระดาษออกจากสมุดจดเอามาหย่อนใส่ลงไปในดวงไฟสีฟ้าวึ่งพอใส่กระดาษไปปุ๊บดวงไปกลับแปลเปลี่ยนเป็นสีแดง การส่งเมสเสสเป็นไปอย่างสมบูรณ์ แล้วจากนั้นเขาก็ได้แต่รอให้แลนกาบส่งตอบกลับมา
และทางด้านแลนกาบตอนนี้เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาเดี่ยวคอยนั่งเฝ้าดุแลชิเอลอยุ่ แต่แล้วเขาก็สะดุ้งเล็กน้อยที่จู่ๆขวดโหลไฟสื่อสารของตนเกิดร้อนขึ้นมาจึงรีบเอามือล้วงไปในเสื้อหยิบขึ้นมาเปิดฝาหยิบข้อความขึ้นมาอ่านในทันที
"อืม เจ้าหนูส่งข่าวมาแล้วสินะ คงหาเรือได้แล้ว เอาหล่ะ เราส่งข่าวไปบอกท่านสกอเปียเลยดีกว่าให้ไปรอรับเหยื่อที่ชายฝั่ง อีกหนึ่งชั่วโมงน่าจะมาถึงสินะ"แลนกาบพึมพำบอกกับตนเองสายตาอ่านข้อความที่เซบาสเตียนเขียนส่งมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระดาษกับปากกกาส่งข่าวไปบอกสกอเปียก่อน จากนั้นก็ส่งตอบรับไปที่เซบาสเตียนอีกฉบับอย่างรวดเร็ว
และเพียงไม่นานข้อความจากแลนกาบก็ถูกส่งมาหาเซบาสเตียนตอบรับมาแทบจะทันที
"โอ้ตอบกลับมาแล้ว เร็วดีจังคุณแลนกาบนี่นะ"เซบาสเตียนพุดยิ้มๆหยิบข้อความออกมาจากดวงไฟสื่อสารสีแดงเอามาอ่านอย่างรวดเดียวจบก่อนจะเอากระดาษแผ่นนั้นยัดใส่กระเป๋าพร้อมทั้งขวดโฟลไฟสื่อสารแล้วเริ่มดำเนินการตามแผนที่ตนคิดต่อไป
"เอาหล่ะได้เวลาพาศพขึ้นเรือแล้ว"เซบาสเตียนพูดพรางเดินไปแตะที่หน้าผากของศพแต่ละศพไปเรื่อยๆจนครบหมุดทุกคน
จากนั้นเขาหลับตาลงร่ายคาถาควบคุมศพให้ลุกขึ้นเดินเองได้ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากพวกผีดิบ แม้ไม่มีวิญญาณแต่ร่างกายกลับขยับลุกขึ้นมาได้เอง
"เอาล่ะพวกแกลุกขึ้นมาได้แล้ว!!"เซบาสเตียนออกคำสั่งซากศพพวกนั้นให้ลุกขึ้นมายืนได้หมดทุกคนที่เขาแตะสำผัสที่หน้าผากของศพพวกนั้น บงการสั่งให้พวกมันเดินเรียงแถวตอนหนึ่งเดินออกไปจากโกดังร้างไปอย่างมีระเบียบ นี่เป็นเวทมนต์ขั้นสูงที่เขาได้เรียนรู้มาจากบิดาของเขาซึ่งนานๆจะเอามาใช้ที 
ซาตานหนุ่มเดินนำซากศพพวกนั้นไปจนถึงท่าเรือ พวกศพที่ไร้วิญญาณพวกนั้นก็เดินกันอย่างเก้ๆกังบ้างชนกันเองบ้าง หยุดเดินเอาเสียดื้อๆ เซบาสเตียนหันมาดูพวกซอมบี้ทั้งหลายพากันเดินแตกแถวสะเปะสะปะ
"อ้าว นั่นพวกแกจะเดินไปไหนกัน ทางนี้ เจ้าพวกไร้สมอง"เซบาสเตียนต่อว่าเจ้าซากศพคนร้ายสองสามคนที่เดินชนกันแล้วเดินเปลี่ยนทิศหนีไม่เดินไปตามแถวจึงต้องมาควบคุมอย่างรัดกุมไม่ให้แตกแถวไปไหนอีก
พวกซากศพที่แตกแถวเริ่มหันกลับมาแล้วเดินไปสมทบกับพวกพ้องไปอย่างว่าง่ายไปอย่างมีระเบียบไม่มีการแตกแถวอีกเพราะเซบาสเตียนคอยควบคุมอยู่ตลอด บงการพวกศพไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงท่าเรือที่เขาจอดเรือสินค้าที่ยึดมาได้ 
"ขึ้นไปบนเรือได้แล้ว อย่าแตกแถวล่ะ และห้ามเดินชนกันด้วย"ซาตานหนุ่มออกคำสั่งเสียงเรียบชี้มือไปที่บันไดทางขึ้นไปบนเรือสินค้าลำใหญ่จัดระเบียบให้พวกซากศพเดินได้ค่อยๆเดินเรียงแถวขึ้นเรือไปทีละคนๆ จนกระทั่ง ครบหมดทุกคน ซาตานหนุ่มคอยมองดูลาดเลาว่ามีใครเห็นหรือเปล่าถ้ามีคนเห็นก็คงเห็นแค่ว่าเขากำลังลำเลียงคนเดินขึ้นเรือไปเท่านั้นเอง คงไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่หรอก ขนาดคนที่เดินผ่านไปผ่านมายังไม่สงสัยอะไรเลย
พอลำเลียงคน(ศพ)ขึ้นเรือไปหมดแล้วเซบาสเตียนก็เดินตามขึ้นไปเป็นคนสุดท้ายแล้วไปประจำการที่คันบังคับเรือให้มุ่งตรงไปยังเกาะปีศาจในทันที
ในระหว่างนั้นทางด้านแลนกาบตอนนี้เขากำลังเดินออกไปหาพวกสกอเปียเพื่อชักชวนกันไปกินเลี้ยงกันที่ชายฝั่งของเกาะปีศาจ
"ท่านสกอเปียเมื่อกี๊เจ้าหนูส่งข่าวมาบอกข้าว่าจะส่งเหยื่อมาให้หลายสิบคนเลยขอรับ เขาบอกให้เราไปรอจัดงานปาตี้กันได้ที่ชายฝั่ง ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานเขาก็จะมา"แลนกาบมาหาสกอเปียที่บ้านเพื่อส่งข่าวให้ระดมพลไปรอรับเหยื่อกันที่ชายฝั่งได้เลย
"อ้าในที่สุดก็ได้กินอาหารเสียที ไปพวกแก ไปเตรียมตัวส่งข่าวให้พวกเราที่เหลือไปรอเจ้าหนูเซบาสเตียนเอาเสบียงมาส่งกันได้แล้ว"สกอเปียหันมาบอกพวกจีเลน และลุกน้องตนอื่นๆที่ทยอยมาสมทบกันที่บ้านของหัวหน้าตนเองกันเกือบจะเต็มบ้านแล้ว
"ขอรับท่านสกอเปีย"พวกพ้องของสกอเปียตอบรับกันอย่างพร้อมเพรียงแล้วพากันออกไปส่งข่าวให้พวกพ้องที่เหลือให้ไปสมทบกันที่ชายฝั่งกันทันที
แล้วจากนั้นพวกของสกเปียพากันออกไปกันเกือบหมดเหลือแต่สกเปีย จีเลน และแลนกาบที่ยังยืนคุยกันอยู่ในบ้านของพวกเขา
"เจ้าจะไปด้วยหรือเปล่าแลนกาบ"จีเลนหันมาถามเพื่อนปีศาจของตนเพื่อชักชวนไปร่วมงานเลี้ยงกันที่ชายฝั่งด้วย
"ไม่หล่ะข้ากำลังจำศีลและมีเด็กที่ต้องดูแล พวกเจ้าไปกินกันก่อนเถอะ ข้าจะอยู่ที่บ้านดีกว่า"แลนกาบบอกยิ้มๆเขาไม่อยากไปเห็นอาหารให้แถลงใจหรอก เขากำลังจำศีลอยู่เดี่ยวเห้นอาหารจำนวนมากแล้วเขาจะอดใจไม่ไหวตะบะแตกไปเสียก่อน
"อ้าวแล้วแกไม่ไปพบเจ้าหนูเหรอแลนกาบ"จีเลนถามพรางเอาแขขโอบกอดคอเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
"หึหึหึ ข้าพบกับเจ้าหนูมาทั้งวันแล้ว และคิดว่าเดี่ยวส่งเสบียงให้พวกแกเสร็จเขาก็จะกลับมาสมทบที่บ้านข้าอีกอยู่ดี สู้ข้ารอเขาอยู่ที่บ้านดีกว่า พวกแกไปกันเถอะไม่ต้องมาชวนข้าหรอกจีเลน กินให้อร่อยนะ"แลนกาบพูดพรางตบบ่าของเพื่อนตอบโต้ไปแล้วยิ้มให้ จากนั้นเขาก็เดินไปบอกลาสกอเปีย
"หัวหน้าขอรับ ข้าคงต้องกลับไปที่บ้านแล้วล่ะ ทิ้งเด็กเอาไว้ที่บ้านตามลำพังนานๆไม่ได้ ขอตัวก่อนขอรับ ขอให้ทานให้อร่อยนะทุกท่าน ข้าไปล่ะ"แลนกาบพุดบอกลาสกเปียและหันมาลาพวกพ้องที่พึ่งทยอยมาสมทบกันหลายตน แล้วหันหลังกลับออกไปจากบ้านของสกเปียกลับไปยังบ้านของตนในทันที 
สกอเปียก็ไม่ได้แยแสอะไรพวกพ้องของตนมากนักใครจะกินหรือไม่ก็ไม่สนใจหรอก ขอแค่เขามีกินก็พอแล้ว จึงทำได้แค่พยักหน้าให้แลนกาบรับทราบไปเท่านั้น แล้วจากนั้นเขาก็พาพวกพ้องตามแลนกาบออกจากบ้านไป แต่แยกกันไปคนละทาง แลนกาบตรงกลับไปยังบ้านของตน ส่วนพวกสกอเปียตรงไปยังซุ้มประตูเมืองซาตานออกไปรอรับเหยื่อที่จะมาถึงในอีกไม่ช้าที่ชายฝั่งซึ่งครั้งนี้จะได้กินกันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว
และคนที่จะมาส่งเหยื่อในตอนนี้กำลังบังคับเรือแล่นไปตามน้ำไปเรื่อยๆเรือลำใหญ่แบบนี้ค่อนข้างจะบังคับลำบากอยู่สักหน่อย ส่วนพวกซากศพก็ถูกใช้แรงงานมาช่วยเร่งเรือที่ห้องกลไกของเรือซึ่งตอนนี้กลายเป้นการใช้แรงงานคน(ศพ)แทน ได้หลายๆแรงมาช่วยกันสเหมือนเป็นลูกเรือจำเป้น เรือจึงแล่นฉิวไปอย่างรวดเร็ว วาตานหนุ่มทำเพียงแค่คอยบังคับทิศทางเรือแค่นั้นเอง พรางหยิบนาฬิกาพกขึ้นมาดูเวลา
"อืม...ป่านนี้พวกสกเปียคงจะมุ่งหน้ามารอกันที่ชายฝั่งแล้ว คงต้องเรียงความเร็วอีกหน่อย"เซบาสเตียนพุดพรางเอานาฬิกาพกเก็บใสกระเป่ากางเกงไว้ตามเดิมแล้วเดินลงบันไดไปที่ห้องใต้เรือแล้วทำการใช้คาถาเร่งความเร็วของเรือไปอีกหน่อย พวกซากศพก็ช่วยกันทำงานอย่างเต็มกำลังเลยทีเดียว
"เอ้าพวกแกเร่งความเร็วเรือเร็วๆหน่อย แกเอาฟืนใส่ไปอีก ส่วนแกออกแรงบังคับคันโยกอีกนิดซิ "ซาตานหนุ่มออกคำสั่งบังคับซากศพให้ทำงานตามที่เขาต้องการอย่างขันแข็ง 
พอได้แรงงานจากพวกซากศพเรือก็แล่นไปอย่างรวดเร็วเลย ซาตานหนุ่มกลับไปบังคับเรือเป็นกัปตันต่อ ชักรู้สึกสนุกที่ได้เป็นกัปตันจำเป้นขึ้นมาหน่อยๆ ซะแล้วสิ
หลังจากที่ได้เร่งเรือจนแล่นฉิวไปได้ไม่นานในที่สุดเรือสินค้าลำใหญ่ที่กลายมาเป้นเรือบันทุกศพนี้ก็แล่นเข้าสู่อาณาเขตของเกาะปีศาจ สายหมอกปกรกคลุมไปทั่วทุกลำเรือ อาการเย็นลงมากกว่าเดิมหลายองศาเลยทีเดียว
"บรึ๋ยหนาวชะมัด ดูเหมือนอากาศเริ่มเย็นลงอีกแล้วสิ ต้องรีบไปก่อนที่น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งซะแล้ว นี่ก็น่าจะใกล้จะถึงแล้ว อ่ะนั่นไงเห็นหุบเขาแล้ว ไปเร่งเจ้าพวกนั้นให้รีบไปอีกหน่อยดีกว่ารู้สึกความเร็วจะตกลงไป พวกมันมัวทำอะไรอยู่นะ"พอบังคับเรือให้ไปตามทิศทางไปเรื่อยๆเขาก้เดินไปดูทิศทางที่กาบเรือเพื่อตัดสินใจทำอะไรต่อไปอย่างมีระบบ ซาตานหนุ่มจึงเดินลงไปที่ห้องใต้ท้องเรือเพื่อสังการซากศพให้เร่งเรือให้เร้วขึ้นอีกเพราะตอนที่เขาไม่ได้ควบคุมดุเหมือนเจ้าพวกนั้นจะแอบอุ้งาน เขาจึงต้องไปคอยดูแลการทำงานไปอย่างต่อเนื่อง
และในที่สุดเซบาสเตียนก็พาเรือบันทุกศพแล่นมาจนถึงชายฝั่งของเกาะปีศาจในที่สุด เขาก็ออกคำสั่งซากศพให้ทยอยลงจากเรือไปพาไปส่งให้กับพวกสกเปียที่ดูเหมือนจะมารอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาทีเดียว ขาดก็แต่ปีศาจผมแดงลุงแลนกาบที่เคารพนั่นตนเดียวที่ไม่ได้มาด้วย
"มาจนได้นะ เจ้าหนูเซบาสเตียน"สกอเปียอ่านทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นอีกาหนุ่มเดินตามซากศพลงมาจากเรือที่เทียบชายฝั่งจอดนิ่งสนิทดีแล้ว พากันทยอยลงมาอย่างมีระเบียบ
"หวัดดีครับ สกอเปียผมเอาเหยื่อมาส่งตามที่ตกลงไว้ ครั้งนี้ผมพามาเอ่อ...ประมาณยี่สิบคนเชิญทานกันให้อร่อยนะครับ "เซบาสเตียนพุดอย่างอารมณ์ดี พรางบังคับให้ซากศพเดินมายืนเข้าแถวเรียงหน้ากระดานตรงหน้าเหล่าปีศาจผู้กระหายเนื้อมนุษย์ ต่างพากันมองเหยื่อตรงหน้าน้ำลายศอกันเลยทีเดียว
สกอเปียถึงกลับอา้ปากค้างอดมองเซบาสเตียนอย่างทึ่งๆได้ไม่ที่อีกาหนุ่มสามารถบังคับให้ศพเดินมายืนเรียนงแถวได้อย่างมีระเบียบเลยทีเดียว
"โอ้โหไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมีความสามารถถึงขนาดบังคับให้ศพพวกนี้เดินมาเองได้นะเนี่ย เก่งมาก เจ้าหนู"สกอเปียเอ่ยปากชมพรางมองดูเหล่าซากศพที่ยืนนิ่งเรียงแถวอย่างชื่นชม
"ขอบคุณครับที่ชม เอ่อ..แลนกาบล่ะไม่ได้มาด้วยกันหรอกเหรอ"เซบาสเตียนถามชะเง้อคอมองหาปีศาจผมแดงอย่างสงสัย
"หึ เจ้านั่นมันไม่มาหรอก มันกำลังจำศีล มันบอกว่าต้องดูแลเด็ก ป่านนี้คงนอนเล่นอยุ่ที่บ้านน่ะแหละ แกมีอะไรจะพูดกับมันก็ไปหามันเองแล้วกัน พวกข้าอยากกินอาหารจะแย่แล้ว"สกอเปียบอกอย่างอารมณ์ดี มองดุเหล่าอาหารที่ยืนนิ่งอย่างกระหายอยากจะลิ้มลองเหยื่อจะแย่แล้ว
"งั้นเชิญทานอาหารกันตามสบาย ผมขอตัวเอาเรือไปคืนเจ้าของก่อนแล้วผมจะกลับไปหาคุณแลนกาบเอง ทานให้อร่อยนะครับ บ๊ายบาย"เซบาสเตียนบอกก่อนจะปลีตัวเดินหนีพวกสกเปียกลับไปที่เรือแล้วขึ้นไปนั่งบังคับเรือ
"เอาหล่ะ เอาเรือกลับไปคืนให้เจ้าของก่อนดีกว่าป่านนี้เป็นยังไงบ้างไม่รู้คงไม่จมน้ำตายไปก่อนหรอกนะไม่งั้นคงบาปแย่"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองพรางจับคันบังคับเลี้ยวหัวเรือวกกลับไปยังเส้นทางเดิมเอาเรือไปคืนเจ้าของก่อนที่คนพวกนั้นจะเป็นอะไรไปซะก่อน(นายรู้สึกผิดบาปเป็นกับเขาด้วยเหรอเซบ)
ส่วนพวกสกอเปียก็พากันลุมกินเหยื่อกันอย่างเต็มคราบกินจนพุงกางอิ่มหนำไปอีกนานเลยทีเดียว
ส่วนแลนกาบที่ต้องอดกินเพราะจำศีลในตอนนี้กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน ทิ้งให้ชิเอลนอนหลับอุตุอยู่ที่โซฟาไป เขาไม่อยากปลุกเด็กที่กำลังป่วยอยู่หรอก นอนพักให้เต็มที่นั่นแหละจะได้หายป่วยเร็วๆ ซึ่งยากินที่หมอมนุษย์จัดยาให้กินต่อเนื่องมาตลอดจนไข้ของชิเอลลดลงไปเยอะเลยทีเดียว 
พอแลนกาบอาบน้ำเสร็จเขาก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาดูอาการของชิเอลเอาหลังมือแตะที่หน้าผากดูอุณหภูมิร่งกายของชิเอลแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ
"อืมตัวไม่ค่อยร้อนแล้วนี่ เดี่ยวคืนนี้กินยาและนอนพักอีกสักหน่อยพรุ่งนี้ก็น่าจะเดินเหินได้เต็มทีแล้วล่ะนะ ชิเอล ดีใจด้วยนะ"แลนกาบพูดอย่างมีเมตตารู้สึกยินดีที่เด็กคนนี้จะหายป่วยเสียที ทำไงได้ห้องอาบน้ำอยู่ข้างล่างนี่นายังไงก็ต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นอยู่ดีเลยแวะมาดูอาการของชิเอลก่อนแล้วตนค่อยขึ้นบันไดไปแต่งตัวที่ห้องทีหลัง 
ส่วนทางด้านเซบาสเตียนตอนนี้เขาลอยเรือไปเรื่อยๆไม่ได้เร่งอะไรเลย เรือจึงแล่นเอื่อยๆไหลไปตามกระแสน้ำไปอย่างช้าๆน่ากลัวว่ากว่าจะไปถึงที่หมายคงจะเย็นซะก่อนพวกเจ้าของเรือคงรอนานแย่เลย แต่ทำไงได้ก็เขาขี้เกียจเร่งเรือนี่นาปล่อยให้ลอยละล่องไปแบบนี้แหละเดี๊่ยวก็ถึงเอง (นายไม่ห่วงชิเอลเหรอเซบ)
และในขณะที่เซบาสเตียนกำลังลอยเรือไปเรื่อยๆเอื่อยๆอยู่ตามแม่น้ำทางด้านซีโร่ในตอนนี้เขาพึ่งตื่นนอน (นายจะนอนนานไปและนะอัลลอย) เพราะมัวแต่ฝันหวานเรื่องเด็กที่เขาเคยเจอกันบนรถม้าอยู่นานจนลืมเวลาไปเลย พอรู้สึกตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไปจนเกือบจะเย็นแล้ว
"อืม....กี่โมงแล้วเนี่ย!!"อัลลอยถามกับตนเองเสียงงัวเงียเขาพึ่งตื่นนอนหัวฟูกระเซิง เอามือขยี้ตาให้ตนหายง่วงนอนไปพราง หันไปมองดูรอบๆตัวไปพรางจนเห็นหน้าปัดนาฬืกาบนผนังบ่งบอกว่าขณะนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว
"หือ สามโมงแล้วเหรอ ทำไมเจ้าลูชไม่ยอมมาปลุกนะปล่อยให้เรานอนอยู่ได้ แต่ก็เอาเถอะนอนเอาแรงไว้คืนนี้เราจะได้สู้กับเจ้าเซบาสเตียนให้เต้มที่ไปเลย หึหึหึ แกกับฉันได้เจอกันแน่ เจ้าปีศาจทรยศต่อเผ่าพันธุ์ ฮ้าววว ไปอาบน้ำดีกว่า เดี่ยวจะไปเดินช๊อปปิ้งสักหน่อย เผื่อว่าจะได้เจอกับเด็กคนนั้น ชิเอล เมื่อไหร่ผมจะได้พบกับคุณสักทีน้า ชิเอล ชิเอล.... "ชายหนุ่มหัวฟูพูดอย่างมุ่งมั่นเมื่อนึกถึงเซบาเตียน แต่พอนึกถึงชิเอลขึ้นมาชายหนุ่มหัวพูหน้าหล่อก็หยิบหมอนมากอดอีกรอบปากก็พร่ำเพ้อหาแต่เด็กหน้าสวยคนนั้น ชิเอล ชิเอล ไม่หยุดปากเลยทีเดียว
แต่ก็ต้องหยุดพูดเมื่อรับรู้ถึงการมาของคนรับใช้ซึ่งเกิดห่วงเจ้านายขึ้นมาเลยขึ้นมาดูว่าทำไมเย็นป่านนี้แล้วเจ้านายของตนยังไม่ตื่นอีก
แอ๊ดด ประตูห้องนอนของอัลลอยก็ถูกเปิดออก
"คุณชาย อ้าวนั่นท่านกำลังทำอะไรอยู่บนเตียงน่ะขอรับ ผมนึกว่าท่านยังไม่ตื่นซะอีกเลยกะจะมาปลุกอยู่พอดีเชียว"ลูชยื่นหน้าเข้ามาเรียกแต่พอเห็นว่าเจ้านายของตนตื่นแล้วและกำลังนั่งกอดหมอนเล่นอยู่บนเตียงเลยถามขึ้นมาสายตาคมมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอย่างแปลกใจ
"อ้อ..เอ่อ..ก็..กำลังจะลุกไปอาบน้ำ แกดันทะเล่อทะล่าเข้ามาซะก่อน บอกแล้วไงว่าให้เคาะประตูก่อนไม่ใช่พรวดพราดเข้ามาแบบนี้นะ ลูช!อึ้ย!" คุณชายหัวฟูผุดลุกขึ้นมาจากเตียงปล่อยหมอนให้ตกลงไปที่ฟูกแล้วรีบเดินจ้ำๆหนีคนรับใช้ไปที่ห้องน้ำหันหลังพูดต่อว่าคนรับใช้ทำทีแสร้งทำเป็นโกรธกลบเกลื่อนความเขินอายก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำโดยที่ยังไม่ทันได้เตรียมเสื้อผ้าจะสวมใส่ก่อนเลย เดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำไปแล้วปิดประตูใส่หน้าลูชเสียงดังปัง
"อ้าว คุณชาย เสื้อผ้าไม่เอาไปหรือขอรับ แล้วท่านจะใส่อะไรผลัดเปลี่ยนออกมาหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วล่ะ ดูสิ ผ้าเช็ดตัวก็ไม่ได้เอาไปอีก จะแก้ผ้าออกมาจากห้องน้ำหรือขอรับเนี่ย โถๆคุณชายของบ่าวไม่น่าเลย.."ลูชบอกพรางส่ายหน้าอย่างเอือมระอาที่เจ้านายดันลืมเตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับผลัดเปลี่ยนตอนอาบน้ำเสร็จไปเสียได้ แต่คนรับใช้ผู้แสนดีอย่างเขามีหรือจะปล่อยให้เจ้านายลำบากเดินตัวล่อนจ้อนออกมาจากห้องน้ำเขาต้องมาคอยจัดเตรียมให้ด้วยความหวังดีและห่วงใยอยู่เสมอ
หนุ่มขี้ลืมที่พึ่งลงไปแช่น้ำในอ่างเกิดพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตนลืมอะไรไป จึงค่อยลุงจากอ่างเดินมาๆแง้มประตูห้องน้ำออกมาสั่งอย่างเขินๆหน้าแดงเล็กน้อย ปกติเขาได้ได้เป็นหนุ่มขี้ลืมสักเท่าไหร่ แต่ทำไมวันนี้เขาถึงได้ชอบลืมนั่นลืมนี่อยู่เรื่อยเลย
"เอ่อ...ละลูช เอาผ้าเช็ดตัวส่งมาให้หน่อยสิ ผมหนาว.เร็วๆ.."หนุ่มขี้ลืมเนื้อตัวเปียกปอนเอ่ยสั่งคนรับใช้ให้ไปหยิบผ้าเช็ดตัวส่งไปให้เขาอย่างอายๆ
"ขอรับ ท่านอัลลอยจะให้กระผมหยิบเสื้อผ้าส่งให้ท่านด้วยหรือเปล่าขอรับ"ลูชถามยิ้มๆมองเจ้านายของตนด้วยความห่วงใย
"ไม่ต้องเอาแต่ผ้าเช็ดตัวส่งมาก็พอ เดี่ยวค่อยออกไปแต่งตัวเองอีกที"อัลลอยบอกพรางยื่นแขนออกมารอรับผ้าเช็ดตัวจากคนรับใช้ เอามาเตรียมไว้ก่อน เดี่ยวเขาจะกลับไปแช่น้ำในอ่างต่อ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา