พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+
เขียนโดย sebbynoi
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.
แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
10) ตอนที่ 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความและหลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มหน้าหล่อก็อาบน้ำเสี้จเขาจึงเอาผ้าเช็ดตัวมานุ่งเน็บไว้ที่เอวแล้วเดินดุ่มๆออกไปจากห้องน้ำเพื่อไปหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ ชายหน้าเสี้ยมยังคงไม่ไปไหน เขายังรอเจ้านายของเขาอยู่เพื่อคอยจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ตามปกติ
"วันนี้ท่านจะใส่ชุดไหนดีขอรับ กระผมจะได้ไปจัดเตรียมมาให้"คนรับใช้หน้าแหลมเอ่ยถามผู้เป็นนายเตรียมบริการหาเสื้อผ้ามาให้
"ไม่ต้องฉันจะไปหาเสื้อผ้าใส่เอง แกลงไปรอข้างล่างก่อนแล้วกันนะลูช"อัลลอยปฎิเสธเสียงเรียบ พรางเดินไปเปิดตู้หาเสื้อผ้ามาใส่ด้วยตัวเอง วันนี้เขาอยากจะใส่เสื้อผ้าแบบสบายๆทำอะไรได้คล่องตัวสักหน่อยเผื่อว่าตอนกลางคืนเขาจะต้องไปเผชิญหน้ากับศัตรูจะได้เคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก
"เอางั้นก็ได้ครับ กระผมขอตัวลงไปรอข้างล่างก่อนแล้วกัน"คนรับใช้ผู้มีนามว่าลูชพูดพรางโค้งคำนับให้ทีครั้งหนึ่งก่อนจะหันเปิดประตูหลังเดินออกไปห้องอย่างรวดเร็วทิ้งให้เจ้านายของตนแต่งตัวเองในห้องตามลำพัง
ในระหว่างนั้นทางด้านเซบาสเตียนตอนนี้ก็กำลังลอยเรือไปอย่างเรื่อยๆเอื่อยๆไม่เร่งรีบอะไรสักเท่าไหร่ และไม่ได้ประจำการอยู่ที่คันบังคับมากนักเอาแต่เดินออกไปกินลมชมวิว พอเห็นว่าเรือต้องเลี้ยวเขาก็รีบไปบังคับพวงมาลัยเรือไปเป็นระยะๆกว่าจะถึงจุดที่พวกกัปตันเจ้าของเรือถูกปล่อยลอยแพอยู่คงปล่อยให้คนพวกนั้นต้องรอไปอีกนานเลยทีเดียวช่างน่าสงสารจริงๆ
"อืมอีกไม่นานก็ต้องเลี้ยวแล้วสินะ กลับไปหมุนพวกมาลัยก่อนดีกว่า"เซบาสเตียนพึมพำบอกตัวเองให้กลับไปบังคับเรือสินค้าต่อก่อนที่หัวเรือจะไปชนกับกำแพงเข้าเพราะตอนนี้เรือลำนี้ได้กำลังลอดผ่านอุโมงค์ที่เชื่อมต่อเมืองปีศาจกับมนุษย์แล้ว อีกไม่นานก็จะถึงที่หมาย แต่เมื่อไหร่กันล่ะ
ในระหว่างที่เซบาสเตียนกำลังบังคับเรือไปสลับกับออกไปมองดูวิวที่กาบเรือ เหยี่ยวหนุ่มก็แต่งตัวเสร็จแล้วเตรียมจะออกไปเที่ยวในเมืองเพื่อรอเวลาให้ถึงตอนสองทุ่ม เขาตั้งใจว่าจะเดินทางไปตามลำพังแต่ทว่า
"ให้กระผมไปด้วยเถอะขอรับ ท่านอัลลอย ปล่อยให้ท่านไปคนเดียวกระผมเป็นห่วงกลัวหลงทางน่ะครับ"ลูชพยายามจะรบเร้าของติดตามไปด้วยเพราะความเป็นห่วงเป็นใยผู้เป็นนายจนเขาไม่กล้าปล่อยให้ไปไหนตามลำพังสักเท่าไหร่ หากไม่ใช่เรื่องงานล่ะก็ยังไงก้ต้องคอยติดตามไปดูแลอยู่ดี
"ไม่ต้องมาห่วงเลย บอกมาตามตรงดีกว่าว่าแกอยากจะไปเดินเที่ยวมากกว่าล่ะสิ ใช่มัย"อัลลอยหรี่ตาพูดอย่างรู้ทัน
"แหม นั่นก็เป็นผลพลอยได้น่ะครับ แต่จุดประสงค์หลักของกระผมคือได้คอยดูแลคุณชายไงขอรับ"ลูชรีบพูดแก้ต่าง
"เออ จะไปก็ไปเตรียมรถม้ามาก็แล้วกัน เดี๋ยวจะออกไปรอที่หน้าประตู"หนุ่มหน้าหล่อหลับตาพุดอย่างไม่แยแสอะไรมากนักพรางเดินนำคนรับใช้ออกไปยืนรออยู่ที่หน้าบ้าน กินลมชมวิวไปเรื่อยเปื่อย ส่วนลูชรีบวิ่งตามออกมาแล้วแยกตรงไปยังหลังบ้านเพื่อไปจัดเตรียมรถม้ามารับเจ้านายที่หน้าบ้าน
"กรี๊ด..พึ่งตื่นหรือคะท่านอัลลอย"เสียงสาวๆข้างบ้านเอ่ยทักมาเมื่อเห็นหนุ่มหล่อสุดจะเพอร์เฟคมายืนอ่อยอยู่หน้าบ้านพรางหันมายิ้มใสๆทักทายตอบหญิงสาว
"ตื่นมาสักพักแล้วจ้าแม่สาวน้อยวันนี้อากาศดีจังเลยนะครับ"หนุ่มหน้าใสพูดยิ้มๆเริ่มชวนหญิงสาวข้างบ้านคุยถึงเรื่องลมฟ้าอากาศคร่าเวลารอคนรับใช้นำรถม้าออกมารับไปพรางๆ
"ค่ะอากาศดีมากเลยค่ะ ท่านอัลลอยจะออกไปไหนหรือคะ บอกอัลจี้ได้มัยคะ"หญิงสาวผู้มีนามว่าอัลจี้เอ่ยปากถามพรางมองหน้าชายรูปงามอย่างหลงไหลตาหวานเยิ้มแทบเป็นน้ำเชื่อมเลยทีเดียว
"จะไปเดินเที่ยวตลาดในเมืองหน่อยน่ะ อัลจี้จะฝากผมซื้ออะไรหรือเปล่าเดี๋ยวซื้อมาฝาก"อัลลอยถามอย่างเป็นกันเองอาสารับฝากซื้อของ
"เอ่อ ไม่เอาอ่ะ อัลจี้อยากจะฝากหัวใจเอาไว้กับคุณมากกว่าค่ะ ได้หรือเปล่าคะ"ปีศาจสาวพูดอย่างเขินๆบิดไปบิดมากะจะจีบซาตานหนุ่มรูปหล่อให้เป็นแฟนสักหน่อย
"หา..เอ่อ.."เล่นทำเอาคนฟังถึงกลับอึ้งจนพูดไม่ออกเลยพรางเอามือลูบผมตนเองแก้เก้อเขินเล็กน้อย ถึงยันี่จะไม่ใช่สเปกของเขาก็ตามแต่ก็อดที่จะเขินไม่ได้อยู่ดีที่มีหญิงสาวมาจีบซึ้งๆหน้าแบบนี้ตรงหน้าบ้าน
แต่แล้วอัลลอยก็ยืนนิ่งอึ้งไปได้ไม่นานลูชก็ขับรถม้ามารับ
"เชิญขอรับ"ลูชก้าวลงมาจากที่นั่งคนขับแล้วเดินมาเปิดประตูรถม้าให้กับเจ้านายของตนตามปกติ
"เอ่อ..อืม..ผมขอตัวก่อนนะสาวน้อย บายครับ"อัลลอยเลยถือโอกาสชิ่งบอกลาสาวข้างบ้านแล้วรีบกระโดดขึ้นมาในรถม้าเข้าไปนั่งในตู้รถม้าอย่างรวดเร็ว ขืนอยุ่ต่ออาจมีการถึงเนื้อถึงตัวกันได้ถ้าไม่ระวังให้ดี
และพอเจ้านายขึ้นรถม้าไปหาที่นั่งเรียบร้อยคนรับใช้คนสนิทเดินฉับๆกลับไปประจำที่นั่งคนขับแล้วจับควบม้าให้แล่นไปตามทางตรงไปยังเมืองซาตานในทันที
ในระหว่างนั้นทางเซบาสเตียนเองเริ่มจะเดินทางมาถึงจุดที่มีพวกกัปตันเรือโดนปล่อยลอยแพรแล้วซึ่งจะถึงในอีกไม่ช้านี้ ชายหนุ่มจึงลงไปที่ห้องควบคุมเรือเร่งเรืออีกเล็กน้อย เพราะในเวลานี้เริ่มจะเวลาย็นลงทุกที ขืนไปช้าๆแบบเดิมมืดค่ำอาจจะยังไม่ถึงก็เป็นได้
ซาตานหนุ่มจึงไม่รอช้าลงไปจัดการบังคับเรือ เร่งเรือ ไปเองตามลำพัง ผสมกับการใช้พลังปีศาจของตนอีกเล็กน้อย ให้แล่นไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง มาถึงที่หมายในที่สุด
ซาตานหนุ่มเดินออกมาชะเง้อมองดูเห็นเรือบดลำเล็กลอยอยู่หลายลำ ดูเหมือนกัปตันเรือจะหาทางติดต่อไปยังตำรวจน้ำให้มาช่วยและคอยดักจับคนร้ายขโมยเรือ
"โอ๋ว..ตำรวจน้ำมาคอยต้อนรับกันเต็มเลย เผ่นก่อนดีกว่าเรา.."เซบาสเตียนทำท่าจะชิ่งหนี เขาไม่อยู่รอให้โดนจับง่ายๆหรอก จึงตัดสินใจเปลี่ยนร่างเป็นอีกาสีดำบินขึ้นไปเกาะตามเสากระโดงเรือเพื่อดูความเคลื่อนไหวของผู้คนพวกนั้นว่าจะทำอะไรต่อไป
และสิ่งที่อีกาหนุ่มมองเห็นคือพวกตำรวจน้ำต่างร้องโหวกแหวกแว่วมาแต่ไกลว่า
"นั่นเรือของคุณใช่มัยกัปตัน ท่าทางเจ้าคนร้ายจะกลับมารับแล้วล่ะ ทุกคนเตรียมพร้อม "หัวหน้าตำรวจทางน้ำพูดกับกัปตันเรือที่กำลังนั่งอยุ่บนเรือของเขาแล้วหันไปสั่งการพวกพ้องให้เตรียมจับตัวคนร้ายปล้นเรือในทันทีที่เรือมาใกล้ๆแล้วอย่างมุ่งมั่น
และเมื่อเรือลอยมาใกล้มากขึ้นจนถึงตรงหน้าเรือบดของพวกตำรวจ
"เอ้า ลุย!!"พวกตำรวจรวมทั้งกัปตันจึงรีบบุกกระดจมขึ้นเรือเพื่อไปจับคนร้ายกันอย่างอุตหลุดเลยทีเดียว ต่างคนต่างวิ่งวุ่นค้นหาตัวคนขับเรือกันให้ควั่ก
"ว่าไงกัปตัน เจอคนร้ายที่ห้องบังคับเรือมัยครับ"นายตำรวนสันติบาลทางน้ำเอ่ยถามพรางหันไปมองสำรวจรอบๆบริเวณเรือเพื่อหาตัวคนร้ายไปพรางๆ
"ไม่มีครับคุณตำรวจ ผมหาจนทั่วห้องบังคับเรือแล้วไม่พบใครเลย ท่าทางเจ้านั่นคงทิ้งเรือหนีไปแล้วล่ะ น่าเสียดาย ผมยังอยากจะตะบันหน้ามันสักเปรี้ยงให้หายโมโหที่มันบังอาจมาปล้นเรือ อึ้ย เจ็บใจจริงๆ"กับตันเรือพูดอย่างหงุดหงิดกำมือกำหมัดไว้แน่นอยากจะตะบันหน้าคนร้ายเหลือเกิน
และพวกลูกเรือที่ช่วยกันค้นหาคนร้ายก็วิ่งมารายงาน
"กัปตันพวกเราหาจนทั่วเรือแล้วไม่พบตัวคนร้ายที่ปล้นเรือเราไปเลยครับ"หนึ่งในลูกเรือรายงานอย่างหงุดหงิดเช่นกัน
"ที่นั่นก็ไม่เจอครับ"ลูกเรือที่พึ่งไปตรวจที่ห้องใต้ท้องเรือวิ่งมาบอกกัปตันของเขา
"ที่ดาดฟ้าก็ไม่พบครับ"ลูกเรือที่ไปตรวจค้นที่ดาดฟ้าก็ไม่พบ พวกตำรวจที่แยกย้ายกันหาก็หาไม่พบ
"น่าแปลกทำไมถึงหาไม่เจอก็ไม่รู้ ถ้าคนร้ายทิ้งเรือแล้วเรือแล่นมาเองได้ยังไงจนถึงที่นี่น่ะ"ตำรวจหนวดดกคนหนึ่งพูดขึ้นเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเขาก็คือ
"นั่นน่ะสิหมวดเอ็ดเวิร์ด ไม่มีทางหนีไปได้โดยที่เรือยังแล่นไปเองอยู่หรอกมันต้องแอบซ่อนอยู่แถวๆนี้แหละ "กัปตันเรือแสดงความเห็นที่พอเป้นไปได้
"หรือบางทีคนร้ายอาจจะกระโดดลงเรือแล้วดำน้ำหนีล่ะมั้งครับ"หมวดเอ้ดเวิร์ดพูดพรางเดินไปชะโงกดูที่กาบเรือเผื่อว่าเขาจะเจอสิ่งที่พวกเขาตามหาอยู่
"พวกผมดูในน้ำแล้วไม่พบวี่แววว่าใครจะอยู่ในน้ำเลย"หนึ่งในลูกเรือที่พึ่งขึ้นมาจากเรือหลังจากที่ลงไปงมหาคนร้ายมารายงานในสภาพเนื้อตัวเปียกปอน
"หรือบางทีเขาอาจจะอยู่บนฟ้าก็ได้นะครับกัปตัน หึหึหึ"อีกาหนุ่มพึมพำเบาๆกับตนเองที่เสากระโดงเรือมองดูความเคลื่อนไหวของผู้คนอยู่อย่างขบขันและสะใจที่คนพวกนั้นหาตัวเขาไม่เจอและไม่มีใครเอะใจเลยสักนิดที่มีอีกาตัวดำปี๋มาเกาะอยู่บนเสากระโดงเรือคอยแอบมองดูพวกกัปตันเรือและตำรวจหนุ่มอยู่ และอดแปลกใจไม่ได้ว่า
"ว่าแต่หมวดมาได้แทบทุกงานเลยนะ ยุ่งจริงๆ"อีกาหนุ่มแอบบ่นจ้องมองดูหมวกของหมวดเอ็ดเวิร์ดอย่างไม่สบอารมณ์ที่เจ้าตำรวจหมวดดกนี่ไม่ว่าจะมีคดีอะไรมาได้ทุกงานจริงๆ
และพออีกาหนุ่มเห็นว่าตนไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับเรื่องยุ่งยากพวกนี้แล้วจึงตัดสินใจบินหนีออกไปจากเสากระโดงเรือเตรียมกลับเกาะปีศาจไปหานายน้อยของเขา
"ช่างเหอะยังไงก็ไม่มีใครจับเราได้อยู่ดี บินกลับไปหานายน้อยดีกว่า ป่านนี้ไม่รู้ตื่นยัง"อีกาหนุ่มบอกกับตนเองก่อนที่จะกระพือปีกบินขึ้นสู่ท้องฟ้ายามเย็นกลับสู่รัง เอ้ยกลับสู่เกาะปีศาจไปหาเด้กของเขาที่กำลังรอคอยเขากลับมาอยู่
"ลาก่อนหมวดเอ็ดเวิร์ดไว้ว่างๆค่อยคุยกันนะครับ"อีกาหนุ่มกระซิบบอกแล้วบินฉิวทะยานขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่อยู่ให้ใครมาจับหรอก
หมวดเอ็ดเวิร์ดรู้สึกเหมือนมีใครมากระซิบบอกเขาเบาๆจึงหันไปมองรอบๆตัวอย่างสงสัยว่าเสียงนั้นมาจากไหน พอแหงนมองเขากลับเห็นอีกาสีดำกำลังบินจากเรือทะยานขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็ว
"หึ ก็แค่อีกานึกว่าใครมาพูดกับเราซะอีก เอ๊ะเดี๋ยว อีกาพูดได้ด้วยรึ 0*0!!"หมวดเอ็ดเวิร์ดหลับตาพูดอย่างไม่แยแส แต่ก็เอะใจขึ้นมาได้ว่าอีกาพูดไม่ได้นี่นา แล้วใครกันที่พูดกับเขาล่ะ
"หึหึหึ"อีกาหนุ่มหัวเราะเยาะอย่างขบขันในตอนนี้เขาบินขึ้นมาสูงมากแล้วไม่มีใครได้ยินเสียงหัวเราะของเขาหรอก เขาบินขึ้นสูงไปเรื่อยๆ
จนนายตำรวจมองแทบไม่เห็นตัวแล้วเพราะมีเมฆคอยบดบังกับความรู้สึกแปลกใจว่าทำไมอีกาถึงพูดเอ่ยลาเขาได้
"สงสัยเราคงหูแว่วไปเอง อีกาที่ไหนจะพูดได้ ไม่มีทางหรอก เออหาคนร้ายในเรือต่อดีกว่า"และดุเหมือนว่าตำรวจหนุ่มหนวดดกจะไม่สนใจอีกาตนนั้นไปเสียแล้ว หันมาค้นหาตัวคนร้ายภายในเรือต่อ
ส่วนอีกาหนุ่มในตอนนี้บินฉิวอย่างรวดเร็วจนห่างไกลจากเรือมากขึ้นๆ จนลับสายตาไปมองไม่เห็นเรืออีก
ส่วนทางด้านอัลลอยในตอนนี้เดินทางมาถึงตลาดในเมืองซาตานแล้วกำลังเดินจับจ่ายซื้อของต่างๆอยู่อย่างเพลิดเพลิน
"นี่ลูช แกคิดว่าเด็กขุนนางของเจ้าเซบาสเตียนอะไรนั่นจะเป็นยังไง ถ้ามันเกิดเป็นปีศาจขึ้นมาเราจะเก็บมันไว้อีกดีหรือเปล่า"อัลลอยหันมาถามในขณะที่กำลังเดินชอปปิ้งอยู่กับลูชคนรับใช้คนสนิทของเขาเพื่อขอความเห็น
"กระผมว่ายังไงก็เป็นปีศาจแน่ๆครับ ฟันทงเลยไม่อย่างงั้นเจ้าเซบาสเตียนจะพามาแลกกับวิญญาณมนุาย์ได้ยังไง"ลูชให้ความเห็นที่มีความเป็นไปได้
"หา..แล้วแบบนี้พวกนายทุนจะยังต้องการตัวเด็กคนนั้นอยู่อีกเหรอถ้าเกิดมันเป็นปีศาจเด็กก็ฆ่าไม่ตายกินก็ไม่ได้น่ะสิ แล้วแบบนี้เราจะเก็บมันเอาไว้ทำอะไรดีล่ะ ถ้าเอามาเป็นคนรับใช้ก็มีแกอยู่แล้วอีกอย่างคงจะเป็นพวกคุณหนูทำอะไรไม่เป็นหรอกเอามาเลี้ยงเสียเวลาเปล่า"อัลลอยหลับตาพูดอย่างไม่แน่ใจนักว่าเขาจะยอมรับข้อเสนอของเซบาสเตียนดีหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้วิญญาณคนพวกนั้นดับสลายตายไปเลยดี
"เอาอย่างนี้สิท่านก็รอดูก่อนว่าเด็กปีศาจขุนนางนั้นหน้าตาเป็นยังไง ถ้าหน้าตาดีท่านก็เอามาเล่นเป็นของเล่นแก้เบื่อไปซะเลยสิครับ"ลูชลองเสนิความเห็นดู
"ไม่..ตั้งแต่เจอกับเด็กคนนั้น ฉันก็ไม่อยากจะเล่นกับใครอีก รู้สึกเบื่อๆไงไม่รู้"อัลลอยส่ายหน้าหลับตาตอบปฎิเสธ ถ้าไม่ใช่ชิเอลเขาก็ไม่อยากจะจับมาทำเป็นของเล่นเท่าไหร่นักหรอก
"หาหรือว่าทานจะปิ้งเด็กคนนั้นเข้าแล้วจริงๆ"ลูชถึงกับมองเจ้านายตาเบิกกว้างด้วยความคาดไม่ถึงว่าเจ้านายจะชื่นชอบเด็กที่เจอกันที่รถม้าเข้าแล้วจริงๆงั้นหรือ
"บ้า..ปิ๊งเปิ๊งอะไรกัน ก็แค่อยากจะเอามาเล่นแก้เบื่อแค่นั้นแหละ อย่ามาทำเป็นสู่รู้หน่อยเลยน่าลูช...เชอะ ไปซื้อของต่อดีกว่า "อัลลอยหลับตาพูดอย่างเขินๆเล็กน้อยก่อนจะเดินหนีคนรับใช้ไปดูสินค้าตามร้านค้าต่อ
"แหม พูดเรื่องเด็กคนนั้นทีไรชอบหนีทุกที คุณชายนี่ล่ะก็ หึหึหึ"ลูชได้ทีจึงแซวยิ้มๆก่อนจะเดินถือของตามเจ้านายของตนไปซื้อของต่ออย่างขบขัน
ในระหว่างนั้นทางด้านอีกาเซบาสเตียนในตอนนี้เขาบินมาถึงหน้าซุ้มประตูเมืองซาตานแล้วจึงแปลงกายกลับมาเป็นพ่อบ้านตามเดิมแล้วเดินก้าวฉับๆเข้าไปในเมือง เขาจะกลับไปบ้านไปทำอาหารเย็นให้ชิเอลก่อนแล้วค่อยแวะมาบ้านแลนกาบ
"เอาหล่ะกลับไปพักที่บ้านก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่ำค่อยไปหานายน้อยวันนี้เหนื่อยมาทั้งวันและไปนอนออมแรงไว้ก่อนเผื่อค่ำอาจจะต้องสู้กับซีโร่จะได้มีแรงเยอะๆ"ซาตานหนุ่มบอกกับตนเองก่อนจะตัดสินใจหายตัววับไปที่บ้านอย่างรวดเร็ว แว๊บ!!!
เปรี้ยง!!แล้วเซบาสเตียนก็มาปรากฏตัวที่ห้องนั่งเล่นในบ้านของตนเอง
"เอาหล่ะไปนอนเล่นสักตื่นดีกว่าเดี่ยวค่ำค่อยไปหานายน้อยก็แล้วกัน ตั้งนาฬิกาไว้ก่อน"เซบาสเตียนวางกำหนดการให้ตนเองก่อนจะเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของเขาหยิบนาฬิกาพกออกมาตั้งเวลาปลุกเอาไว้ประมาณหนึ่งทุ่มแล้วเอามาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนจะโผลเข้าหาล้มตัวลงนอนบนเตียงสี่เสาเอาหน้าซุกหมอนแล้วแล้วผลอยหลับไปแทบจะทันที
ส่วนชิเอลก็ยังคงนอนหลับไปอีกนานเลยหากยังไม่มีใครมาปลุกเขาคงนอนไปได้ทั้งวันนั่นแหละและเป็นการดีด้วยที่ได้พักผ่อนเต็มที่จนตอนนี้พลังปีศาจของดารืกชิลกลับมาเต็มเปรี่ยมแล้ว ไข้ของชิเอลจึงลดลงอย่างรวดเร็วอีกไม่นานเขาคงจะหายป่วยเสียที
ส่วนแลนกาบก็นั่งอ่านหนังสือคอยเฝ้าไข้เด็กที่ป่วยไปเรื่อยๆ สลับกับเอามือมาแตะหน้าผากตรวจดูอาการเป็นระยะพอเห็นว่าตัวของชิเอลเย็นลงจนเกือบจะหายเป็นปกติแล้วเขาจึงเดินไปทำนั่นทำนี่ภายในบ้าน ไปตามปกติบางทีก็ออกไปข้างนอกไปคุยกับเพื่อนบ้าน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง จนถึงเวลาหนึ่งทุ่ม
กริ๊งงงง เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นที่ห้องของเซบาสเตียนซึ่งเขาก่อนนอนได้ตั้งเวลาปลุกเอาไว้กันตนเองตื่นมาไม่ทันเวลานัดของซีโร่
"อืม...ทุ่มแล้วเหรอ ฮ้าววว"เสียงครางเบาๆบ่งบอกว่าซาตานหนุ่มได้ตื่นนอนแล้ว และค่อยๆดันตัวลุกขึ้นมานั่งเอามือขยี้ตาปิดปากหาวก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าหยิบนาฬิกาที่กำลังส่งเสียงดังหนวกหูเอามาปิดเสียงไปซะ จากนั้นเขาก็เอานาฬิกามาเก้บใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนเดินไปที่หน้ากระจกจัดการจัดผ้าผมแต่งตัวเสียใหม่ให้เรียบร้อย
"เอาหล่ะใช้ได้แล้ว ลงไปทำอาหารไปฝากนายน้อยกับดาร์กชิลก่อนดีกว่า.."พูดไปพรางเดินไปเปิดประตูออกไปจากห้องลงบันไดตรงมาที่ห้องครัวแล้วจัดแจงวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเย็นจัดใส่ปิ่นโตเอ้ยกล่องใส่อาหารเอาไปฝากชิเอล
ส่วนทางด้านอัลลอยกับลูชในตอนนี้กำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากที่ชอปปิ้งกันจนหนำใจแล้ว (นายจะซื้อให้หมดทั้งตลาดเลยหรือไงช้อปนานเวอร์ -*-)
"ป่ะลูชกลับกันเถอะใกล้จะถึงเวลานัดแล้วฉันต้องกลับไปเอาขวดโหลใส่วิญญาณคนพวกนั้นก่อนสองทุ่ม"อัลลอยหันมาสั่งลูชผู้ซึ่งถือของกองเท่าภูเขาเดินตามเจ้านายแทบมองไม่เห็นทางกันเลยทีเดียว
"อ่าครับคุณชาย โอยหนัก นี่ผมมองทางไม่เห็นแล้วนะครับ นี่ท่านจะขนซื้ออะไรกันเยอะแยะ จะเอาไปแจกใครเหรอครับ"ลูชถามในขณะที่กำลังถือของกองเท่าภูเขาอยู่อย่างทุลักทุเล เดินโซเซแทบจะล้มทั้งยืนด้วยความเหนื่อยล้าจากการขนของตั้งมากมายนี้คนเดียวเจ้านายไม่ยอมช่วยถือเลยเอาแต่เดินซื้อๆแล้วก็โบ้ยมาให้เขาถือทุกครั้งจนตอนนี้แทบจะเอาปากคาบถุงใส่ของแล้ว
"เอาเหอะน่ามีหน้าที่ถือก็ถือไปอย่ามาบ่น แล้วรีบตามมาได้แล้วเดี่ยวก็หนีกลับบ้านไปก่อนซะเลยนี่ชักช้าจริงๆเลยแกเนี่ย"อัลลอยหันมาเร่งคนรับใช้ให้รีบตามเขามาเร็วๆ
คนรับใช้ที่ถือของกองเท่าภูเขาจนแทบมองไม่เห็นทางจึงอดแอบทำหน้าบอกบุญไม่รับไม่ได้ที่เจ้านายตนเองดีแต่ซื้อๆไม่ช่วยถือแล้วยังมาเร่งยิกๆอีก เดินนำหน้าตัวปลิวไปหน้าตาเฉยเลย
จนกระทั่งทั้งสองนายบ่าวเดินมาถึงที่จอดรถม้าแล้วลูชจึงเดินเอาของไปลำเลียงเก็บใส่ในรถให้เรียบร้อยซึ่งกว่าจะสามารถยัดของใส่ไปได้หมดทั้งคันสุดท้ายเจ้านายจึงไม่มีที่เหลือเอาไว้ในนั่ง เขาจึงต้องระเห็ดไปนั่งกับคนรับใช้แทนด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์หน้ามุ่ยจนคนรับใช้แอบอมยิ้มอย่างสะใจนิดๆ
"ยิ้มอะไร"อัลลอยหันมาถามจ้องหน้าคนรับใช้ที่นั่งข้างๆเขม็งอย่างไม่พอใจ
"เปล่าขอรับ หึหึหึ"ลูชรีบปฎิเสธแต่ก็ยังไม่หุบยิ้ม ก็เขาอดขำไม่ได้นี่ที่เจ้านายขนซื้อของมาเต็มตู้รถม้าและบนหลังคาไม่มีที่จะนั่งต้องระเห็ดมานั่งข้างๆคนรับใช้อย่างเขานี่แหละ สมควรแล้ว
"เฮ้อ..กระเถิบไปหน่อยได้มัยมันเบียด!!"อัลลอยหันมาสั่งเอามือผลักดันตัวคนรับใช้ให้กระเถิบออกไปห่างๆเขาหน่อยเขาอึกอัด
"จะให้ผมกระเถิบไปไหนล่ะ นี่เกือบจะตกจากที่นั่งคนขับอยู่แล้วนะขอรับ เดี๋ยวถ้าตกลงไปใครจะขับรถม้าให้คุณชายล่ะ "ลูชพูดพรางค่อยๆกระเถิบออกมาห่างๆตัวเจ้านายเรื่องมากอีกเล็กน้อยจนสุดที่นั่งแล้วถ้าเขาขยับไปอีกคงตกรถม้าไปก่อนที่จะขับรถม้าไปถึงบ้านแน่ๆ
"เออๆไม่ต้องพูดมากแล้วรีบๆควบม้าได้แล้ว เดี่ยวไปไม่ถึงบ้านมืดจะไปตามนัดเจ้าเซบาสเตียนไม่ทัน"อัลลอยเลยพูดตัดบท เขาไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้วอยากกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยก่อนที่จะไปยังที่นัดหมายตอนสองทุ่มตรง
"อ่าครับๆรีบไปแล้วครับเจ้านาย"ลูชจึงเห็นด้วยที่ว่าพวกเขาไม่ควรจะเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว จึงตัดสินใจควบรถม้าเลี้ยวกลับไปยังเส้นทางที่จะกลับบ้านในทันที
ในระหว่างนั้นทางด้านเซบาสเตียนตอนนี้เขาทำอาหารเย็นเสร็จแล้วกำลังเอาใส่กล่องผูกด้วยห่อผ้าเตรียมที่จะเอามาฝากชิเอลกับดาร์กชิลที่บ้านของแลนกาบและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็จัดเตรียมเสร็จ
"เอาล่ะจัดเตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปหานายน้อยเลยดีกว่า"พ่อบ้านหนุ่มจึงตัดสินใจออกไปจากบ้านไปหานายน้อยของเขาในทันที
และเพียงไม่นานเซบาสเตียนก็ได้เดินทางมาถึงบ้านของลุงแลนกาบ
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
"คุณแลนกาบครับ เปิดประตูให้หน่อยครับ"เซบาสเตียนส่งเสียงเรียกพรางเคาะประตูบ้านไปพราง เพราะตาลุงแลนกาบเกิดล๊อกบ้านเอาไว้ท่าทางจะไม่อยู่ซะด้วยสิ
"คุณแลนกาบ!!"เซบาสเตียนจึงตะโกนเรียกอีกทีเพื่อความแน่ใจ
เงียบฉี่ ไม่มีเสียงตอบรับหรือใครเดินมาเปิดประตูให้เลย
"ทำไมไม่มีใครมาเปิดประตูให้เลยล่ะ หรือว่าตาลุงนั่นจะไม่อยู่ เอาไงดีหายตัวเข้าไปละกัน ป่านนี้นายน้อยตื่นหรือยังนะ"สุดท้ายเซบาสเตียนจึงตัดสินใจถือวิสาสะหายตัวบุกเข้าไปเองโดยพละการโดยที่เจ้าของบ้านยังไม่อนุญาติอีกตามเคย
ว๊าบ แล้วชายหนุ่มร่างสูงก็มาปรากฏตัวที่หน้าโซฟาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งในตอนนี้มีเด็กหนุ่มวัยสิบสามกำลังนอนหลับอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวท่าทางจะหลับลึกน่าดูขนาดเดินมาก้มดูใกล้ๆจนแทบจะจูบกันแล้วยังไม่มีทีท่าจะตื่นเลยด้วยซ้ำ
"หึ หลับอุตุเลยนายน้อยของผม จูบสักทีดีมัยนะ ไหนๆตาลุงนั่นไม่อยู่ทั้งทีลักหลับซะเลย หึหึหึ"เซบาสเตียนพูดเสียงกระซิบที่ข้างๆหูของชิเอลเบาๆก่อนจะค่อยๆก้มลงไปหอมแก้มลักหลับเด็กขี้เซาหนึ่งฟอด
จุ๊บ ^^ จูบเบาที่แก้มใสๆนั่นอย่างอ่อนโยน
"อ๊ะ"แล้วคนโดนหอมแก้มกลับรุ้สึกตัวตื่น ท่าทางจะเป็นเด็กที่มีประสาทสัมผัสไวน่าดูขนาดโดนพ่อบ้านหอมแก้มเบาๆยังทำให้ตื่นได้เลย
"อ้าวตื่นเลยหรือครับเนี่ย แหมๆ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆมองชิเอลด้วยความเอ็นดู
"อืม..มาแล้วเหรอเซบาสเตียน ฮ้าวว"ชิเอลพูดเสียงงัวเงียเอามือปากหาวเพราะพึ่งตื่นนอนก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นมานั่งเอามือขยีตาเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองดูคนฉวยโอกาสอย่างเขินๆ
"สมกับเป็นนายน้อยความรู้สึกไวดีจังเลยนะครับ แค่โดนหอมแก้มก็ตกใจตื่นแล้วเหรอครับเนี่ย หึหึหึ"เซบาสเตียนแซวยิ้มๆ
"ชิ ชอบฉวยโอกาสอยู่เรื่อย"ชิเอลจิปากหันหน้าหนีด้วยความขัดเขิน
"หึหึหึ จุ๊บ"เซบาสเตียนหัวเราะเยาะก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาจูบที่แก้มอีกที
"อึ้ย พอแล้วน่า =////="ชิเอลหันหน้าแดงๆหนีด้วยความเขินที่โดนพ่อบ้านฉวยโอกาสหอมแก้มเอาอีก
"พอก็ได้ครับ ว่าแต่นายน้อยอาการตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ ไข้ลดลงบ้างหรือยัง"เซบาสเตียนถามอาการพรางยื่นมือมาแตะที่หน้าผากของชิเอลเบาเพื่อตรวจดูอุณหภูมิของร่างกาย
"อืม อาการดีขึ้นมากแล้วล่ะ"ชิเอลตอบพรางปัดมือเซบาสเตียนออกจากหน้าผากของเขาแล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมหัวแก้เขิน
เซบาสเตียนทำได้แต่ยืนอมยิ้มมองดูเด็กขี้อายด้วยความเอ็นดู
จากนั้นก็เงียบไปสักพัก แล้วชิเอลก็เป็นฝ่ายถามขึ้นมาทำลายความเงียบ
"ตกลงนายจะเอายังไงกับแผนการนั่นจะให้ฉันอยู่ที่นี่กับลุงแลนกาบอีกคืนนึงเหรอ"ชิเอลเงยหน้ามาถามเสียงเรียบ
"ไม่ขอรับผมจะพานายน้อยไปกับผมด้วย ผมต้องการของอะไรบางอย่างจากคุณสักหน่อยเดี่ยวนี้เลย"เซบาสเตียนพูดทิ้งท้ายเป็นปริศนาก่อนจะเอานิ้วมาแตะที่หน้าผากสะกดชิเอลให้หลับไปทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ