พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+

9.8

เขียนโดย sebbynoi

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.

  31 บท 3 ตอน พ่อบ้านผู้นั้นกับการแข่งขัน
  11 วิจารณ์
  57.51K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) ตอนที่ 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ในระหว่างนั้นทางผู้รับคำด่าของชิเอลในตอนนี้กำลังยืนรอให้หนุ่มหน้าหวานเขียนแผนที่ให้อยู่อย่างใจเย็น พอรู้สึกถึงความร้อนที่อกเสื้อเขาจึงล้วงมือเข้าไปหยิบขวดโหลที่มีดวงไฟสีแดงขึ้นมาทำท่าจะเปิดข้อความในจดหมายออกมาดู แต่ทว่า

เมี๊ยว เมี๊ยว เมี๊ยวเสียงแมวจากที่ไหนสักแห่งดังขึ้นใกล้ๆประตูห้องของซีทานน่ะสิ

"เห.."ชายหนุ่มร่างสูงจึงชะงักหยุดเปิดฝาขวดโหลดวงไฟสื่อสารขึ้นมาอย่างกระทันหัน แล้วหันไปมองรอบๆอย่างแปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้ยินเสียงแมว เสียงที่ทำให้เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ยิน มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

เมี๊ยววว เมี๊ยวว

"อ่า 0_0"เซบาสเตียนเบิกตากว้างมือขวาถือขวดโหลดวงไฟสื่อสารสีแดงค้างไว้อย่างงั้น แล้วหลับตาลงเพื่อสงบสติอารมณ์ เพราะบางทีหูของเขาอาจจะแว่วไปเอง

เมี๊ยววว เมี๊ยววว นั่น!!ได้ยินเสียงนั้นอีกแล้ว

ชายหนุ่มเริ่มอยู่ไม่สุข เขาเดินไปมองดูรอบๆห้องหาที่มาของเสียงหวานๆนั้น พอเสียงเงียบไปเขาจึงเดินมาถามชายที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานผู้ซึ่งกำลังเขียนแผนที่ให้อยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ

"คุณซีทาน!!"จู่ๆชายหนุ่มร่างสูงก็เรียกหนุ่มหน้าหวานที่ยังคงก้มหน้าก้มตาเขีนแผนที่ให้อยู่ จนเขาเงยหน้าขึ้นหันมามอง

"ว่าไงครับ คุณเซบาสเตียน"ซีทานถามเสียงเรียบเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย

"เมื่อกี้คุณได้ยินเสียงมัยครับ ผมรู้สึกว่าเสียงนั้นมันเป็นเสียง.."เซบาสเตียนถามซีทานดูว่าได้ยินอย่างที่เขาได้ยินหรือเปล่า เขากลัวว่าตนจะหูฝาดไปเอง

"อ้อ..ได้ยินสิครับ นั่นเสียงของเจ้าโคปอล แมวของผมเอง พึ่งเอามาเลี้ยงได้ไม่กี่วัน ผมขอนายท่านแล้วเขาก็อนุญาติล่ะ นี่มันคงออกไปหาหนูกินมาอีกแล้วสิเนี่ย ใช่มัย โคปอล เมี้ยวๆ"ซีทานหันมาพูดก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปเปิดประตูซึ่งในตอนนี้ไม่มีใครอยุ่แถวนั้นแล้ว

ดูเหมือนบอด็อกกับมักเกิลจะเผ่นกลับที่พักไปแล้วเพราะเสียงและการปรากฎตัวของเจ้าเหมียวนี่ ชายหน้าหวานจึงหยุดยืนที่หน้าประตูแล้วก้มตัวลงจับรวบตัวแมวสีนิลดวงตาคมโตสีม่วงขึ้นมาอุ้มกอดไว้แนบอกแล้วยิ้มให้มันด้วยแววตาอ่อนโยนเอามือเกาคางมันเล่นอย่างเอ็นดูและเขารู้สึกดีใจมากที่ได้เลี้ยงแมวที่เขาโปรดปรานที่หุบเขานี้

เมี๊ยวว เสียงตอบรับอ่อนหวานของแมวน้อยตัวสีดำขนเป็นมันเงามีดวงตาคมโตสีม่วงขานรับคำพูดของนายของมันอย่างอารมณ์ดี มันยังเป็นลูกแมวอยู่น่าจะอายุไม่ถึงหกเดือนและเป็นแมวที่ขี้อ้อนสุดๆเลยทีเดียว

"อ่า 0///0"เซบาสเตียนถึงกลับหน้าแดงซ่านสายตามองดูเหม่อค้างราวกับตกอยู่ในภวังค์ เมื่อได้เห็นท่าทางการเล่นกับแมวของชายหน้าหวานยิ่งทำให้ชายหนุ่มร่างสูงผู้บ้าแมวถึงกลับใจเต้นแรงเลยทีเดียวและตกตลึงกับความน่ารักทั้งเจ้านายและเจ้าเหมียวจนเขาลืมไปเลยว่าตนมาที่นี่ทำไม มาทำอะไรกันแน่ ไม่สนใจแม้แต่ดวงไฟสีแดงกระพริบๆที่อยู่ในมือ ดูเหมือนจะถูกความน่ารักของแมวและเจ้าของสะกดเอาไว้ซะแล้ว ตาสีทับทิมคู่สวยนั้นมองค้างแทบไม่กระพริบเลยทีเดียว 

"หึ มันน่ารักและฉลาดมากเลยนะครับคุณเซบาสเตียน หาอาหารกินเองเป็นด้วยทั้งที่ยังเป็นเจ้าเหมียวน้อยอยู่เลยแท้ๆ"ซีทานหันมาบอกยิ้มๆแล้วอุ้มเจ้าโคปอลมาหาเซบาสเตียนแล้วโชว์มันให้ซาตานบ้าแมวดู ให้อิจฉาเล่น

"อ่า...0////0"เซบาสเตียนเกิดอาการติดอ่างไปในทันที พูดอะไรไม่ออกเลย สายตาเอาแต่จับจ้องมองดูเจ้าเหมียวในอ้อมแขนของหนุ่มน่ารักอย่างไม่วางตา ด้วยความรู้สึกอยากจะแตะสัมผัสเจ้าเหมียวนั้น อยากอุ้ม อยากกอด อยากเล่น สายตาที่จ้องมองนั้นดูราวกับเด็กยากจนที่กำลังมองของเล่นราคาแพงของเพื่อนที่มาเล่นอวดไม่มีผิดเลย

"ท่าทางคุณคงอยากจะอุ้มมันล่ะสิ มองตาไม่กระพริบเลยนะครับ หึหึหึ"ซีทานพูดยิ้มๆแล้วอุ้มแมวยื่นส่งให้ชายที่กำลังมองจับจ้องพวกตนอยู่อย่างขบขันในท่าทีของชายหนุ่มบ้าแมว

"อืมๆ อยากๆ 0///0"เซบาสเตียนถึงกลับละล่ำละลักบอกอย่างรัวเร็วหน้าแดงซ่านด้วยความอยากอุ้มเจ้าเหมียวตาม่วงมีเสน่ห์นั้นใจจะขาด

แล้วซีทานก็ยื่นส่งแมวให้เซบาสเตียนอุ้มในทันที 

"อา...โคปอล..^////^"เซบาสเตียนถึงกลับเพ้อหน้าแดงกล่ำอย่างดีใจสุดๆที่ได้อุ้มแมวน่ารักๆแบบนี้ นับว่าการมาหาหนุ่มหน้าหวานนี่ไม่ขาดทุนเลยจริงๆได้เล่นกับแมวด้วย

"หึ ท่าทางโคปอลจะชอบคุณนะดูสิ คลอเคลียใหญ่เลย อ้อนเก่งจริงๆนะเรา เจ้าตัวน้อยเอ๊ย หึหึหึ"ซีทานพูดกลั้วหัวเราะมองดูลูกแมวน้อยอย่างเอ็นดู เอามือมาลูบหัวมันในขณะที่เซบาสเตียนยังโอบอุ้มมันไว้ในอ้อมกอด

"นั่นสิๆ ดูมันชอบให้ผมเกาคางด้วยล่ะคุณซีทาน ไงเคลิ้มเชียวนะ โคปอล หึหึหึ"เซบาสเตียนเดินมานั่งที่เก้าอี้อีกตัวซึ่งวางอยู่ใกล้ๆเตาผิงแล้วก้มลงมาเล่นกับแมวน้อยตาสีม่วงอย่างสนุกสนาน ซีทานก็ยื่นหน้ามาแกล้งเกาพุงเจ้าเหมียวน้อยไปด้วย แล้วชายหนุ่มทั้งสองต่างก็หัวเราะเล่นกับแมวน้อยกันอย่างสนุกสนานจนลืมโลกไปเลย 

และพอทั้งสองยื่นหน้ามาใกล้กันในระยะประชิด 

"อ๊ะ 0///0"ซีทานถึงกลับร้องอุทานอย่างตกใจหน้าแดงซ่านรีบผละถอยออกมาห่างๆเซบาสเตียนทันที 

"เอ่อ.."เซบาสเตียนเองก็ตกใจไม่แพ้กันไม่นึกว่าแค่เล่นกับแมวก็ทำให้เขาอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของแมวได้มากขนาดนี้ 

"เอ่อ.."ซีทานเองก็พูดอะไรไม่ออกเอาแต่หลับหน้าด้วยความเขินที่เมื่อครู่นี้หน้าของเขาเกือบจะชิดใบหน้าของเพื่อนอีกาไปเสียแล้ว

"มะ มันน่ารักดีนะครับ "เซบาสเตียนพยายามจะหาเรื่องมาพูดเขาเองก็เขินไม่แพ้กัน ก็เมื่อครู่นี้หน้าของเขากับซีทานอยู่ใกล้กันมาก หากหันมาไม่ระวังคงได้จูบกันแน่ๆ

"อ่า เอ่อ ชะใช่ มะมันน่ารัก ก็ ลูกแมวนี่นะ เอ่อ..ผมไปเขียนแผนที่ให้คุณต่อดีกว่า"ซีทานพูดอย่างเคอะเขิน รีบหลบหน้าเดินมานั่งเขียนแผนที่ใกล้เเคียงให้เซบาสเตียนต่อและพยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้เจ้าเหมียวน้อยอยู่เล่นกับอีกาหนุ่มไป

"อ่า อืมๆ"เซบาสเตียนได้แต่อ้ำอึ้ง พูดไม่ออกไปเช่นกัน 

จากนั้นเขาก็พาเจ้าโคปอลมานั่งเล่นบนพื้นไม้ใกล้เตาผิงแทนการนั่งเก้าอี้เพราะนั่งบนนั้นเล่นไม่สะดวกจึงลงมานั่งที่พื้นรอเวลาไปจนกว่าชายหน้าหวานจะเขียนแผนที่เสร็จ ส่วนเรื่องขวดโหลไฟสื่อสารเขาลืมมันไปแล้ว เขาเอาเก็บใส่กระเป่าไว้ตามเดิมไม่สนใจที่จะดูข้อความอีกแล้วเพราะในตอนนี้มีสิ่งน่าสนใจกว่าอยู่ในมือแล้วนี่นา

ตอนนี้ชายบ้าแมวกำลังเล่นกับแมวน้อยอย่างเพลิดเพลินถึงขนาดเสกขนนกออกมาแหย่พุงมันเล่น จักจี้มันแล้วหัวเราะชอบใจอย่างสนุกสนาน ซีทานหันมามองแล้วหัวเราะตามเป็นระยะ สลับกับก้มหน้าก้มตาเขียนแผนที่ต่อไปอย่างช้าๆ

ในระหว่างนั้นทางเจ้าของจดหมายที่กำลังถือขวดโหลมองดูอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่ไฟสีฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเสียที เขาอยากรู้ว่าเซบาสเตียนจะเขียนมาหาเขาว่ายังไง จะด่ากลับมัย หรือว่าจะอธิบายแก้ต่างอะไรเพิ่มหรือเปล่า แต่เขารอมาหลายนาทีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการตอบจดหมายกลับมาเลย รอจนจะเริ่มหงุดหงิดแล้วนะเนี่ย

"ให้ตายสิ ทำไมจนป่านนี้เจ้านั้นไม่ส่งข้อความอะไรตอบกลับมาสักทีนะ รอนานแล้วนะเนี่ย หรือว่าจะกำลังยุ่งอยู่จริงๆ หรือเราส่งจดหมายไปไม่ถึงมือเจ้านั้นกันแน่นะ"เด็กหนุ่มตาสีฟ้าที่กำลังนั่งถือขวดโหลไฟสื่อสารอยู่บนโซฟาในบ้านแลนกาบ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ เขามัวแต่รอจดหมายของเซบาสเตียนจนไม่ยอมหลับยอมนอนทั้งๆที่

"ฮ้าววว"ง่วงจะแย่แล้ว แต่ชิเอลก็ยังข่มตาฝืนทนรอคอยจดหมายตอบกลับจากพ่อบ้านของเขาอยู่อย่างใจจดใจจ่อ เอาแต่จ้องมองขวดโหลอยู่อย่างงั้น ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง เขาชักกังวลขึ้นมาซะแล้วสิ ว่าเจ้านั้นกำลังตกอยู่ในสภาวะคับขันหรือเปล่าถึงไม่ยอมรับจดหมายที่เขาส่งไปเสียที

และในสภาวะคับขันที่ชิเอลคิดกังวลในตอนนี้ พ่อบ้านหนุ่มของเขากำลังเล่นสนุกกับแมวอยู่ คับขันมากเลยทีเดียว เล่นเพลินจนลืมเวลา ลืมอ่านข้อความในขวดโหลไฟสื่อสารที่ยังคงเป็นไฟสีแดงร้อนแรงอยู่ แต่ดูท่าพ่อบ้านหนุ่มจะเอามันออกมาจากอกเสื้อพ่อบ้านเอามาวางไว้ข้างตัว แต่เขายังคงสนใจแต่ 

เมี๊ยววว สนใจแต่แมว

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ๆๆๆ"และเอาแต่หัวเราะขบขันกับความน่ารักของเจ้าเหมียวเวลามันเล่นซุกซนเอามือนุ่มๆเล็กๆนั้นตะกุย คุ้ยเขี่ยขนนกที่ชายหนุ่มแหย่มันเล่น ปล่อยให้ไฟสื่อสารนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นไปไม่มีทีท่าจะสนใจเลยแม้แต่น้อย

และเจ้าของข้อความในตอนนี้เริ่มหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นแล้วเพราะมันนานหลายทีนาทีแล้วทำไมถึงไม่มีอะไรส่งมาหาเขาเลย

"โอย เมื่อไหร่เจ้าบ้านั่นจะส่งข้อความตอบกลับมาซะที ฉันขี้เกียจรอแล้วนะ ฮ้าววว ง่วงนอนแล้ว สงสัยคงส่งไม่ถึงเจ้านั่นแหง๋เลย เอ้า..เขียนใหม่ก็ได้ จะด่าๆให้สะใจเลยคอยดู อึ่ม"ชิเอลไม่ยอมแพ้ ในเมื่อไม่ตอบกลับมาเขาก็จะเขียนส่งไปอีก ดูซิว่าจะตอบกลับมามัย 

จากนั้นชิเอลก็เอื้อมมือมาหยิบกระดาษเปล่าอีกแผ่นและปากกาขนนกจุ่มหมึกมาเขียนข้อความหาเซบาสเตียนอีกรอบ คราวนี้เขาจะเขียนชื่อผู้รับให้ตัวเท่าฝาบ้านเลยคอยดู

แล้วเวลาก็ผ่านไปหลายนาที จากที่กำลังเขียนๆอยู่ตาสีท้องฟ้าของชิเอลก็เริ่มตาพร่า หาวแล้วหาวอีก ดวงตาแสบร้อนจากความง่วงนอน เปลือกตาเริ่มค่อยๆหนักขึ้น หนักขึ้น จะกระทั่งเริ่มนั่งสัปหงก ตาปรือหรี่ลง หรี่ลงจนหลับสนิท มือยังถือปากกาค้างเอาไว้อยู่ แล้วนาทีต่อมาก็นอนฟุบหน้าลงไปบนโต๊ะรับแขกด้วยความง่วงนอนจัด จนหน้าตาเลอะหมึกดำๆหมดเลย แล้วก็ผลอยหลับไปในที่สุดเพราะฤทธิ์ของยาลดไข้ที่กินเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว เพื่อให้คนป่วยได้นอนพักผ่อนได้เต็มที่ 

ตุ้บ!! แล้วปากกาขนนกก็หลุดออกจากมือที่อ่อนปวกเปียกนั้น พร้อมกับการนอนเอาหน้าถูไถไปกับกระดาษที่เขียนข้อความไปได้สองสามบรรทัดและหมึกยังไม่ทันจะแห้ง หน้าจึงเลอะหมึกไปอย่างช่วยไม่ได้ มืออีกข้างเผลอปัดไปโดนขวดหมึกจนหกเลอะพื้นบ้านแลนกาบหมดเลย 

ในระหว่างนั้นแลนกาบได้ยินเสียงเหมือนอะไรตกลงบนพื้นจึงลงบันไดมาดู เขาเป็นปีศาจที่หูดีมาก แม้แต่เสียงเข็มตกเขายังได้ยินเลย นับประสาอะไรกับขวดหมึกใบเบ่อเร้อ และพอเดินลงมาก็มองเห็นสภาพของชิเอลเข้าถึงกลับหัวเราะอย่างขบขันในทันที

"อ้าว เจ้าปีศาจน้อยชิเอล ทำไมมานอนฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะแบบนี้เล่า เอาๆดูซิ หน้าตาเลอะหมึกหมดแล้ว หึหึหึ เจ้าหนูน้อยเอ๊ย มาๆข้าจะพาไปนอนที่โซฟานะ ดูซิ หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย ฮึบ"แลนกาบพูดยิ้มๆพรางค่อยประคองรวบตัวชิเอลขึ้นมาอุ้มในอ้อมแขนพามาวางนอนที่โซฟาอย่างช้าๆ แล้วเอาผ้าห่มมาคลุมห่มให้ เอามือแตะเบาๆที่หัวดูว่าตัวร้อนหรือเปล่า

"อืม..ตัวไม่ค่อยร้อนและ ปล่อยให้นอนไปก่อนดีกว่าไว้ตื่นมาเจ้าหนูอาจจะกลับมาแล้วก็ได้ ข้าไปนอนก่อนนะชิเอล ขอให้ฝันดี"แลนกาบพูดเสียงแผ่ว พอจัดแจงส่งเด็กเข้านอนแล้วเขาก็เดินกลับขึ้นไปนอนที่ห้องตามเดิม ตอนนี้ชิเอลหลับไปแล้วเขาคงไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว จึงขึ้นไปนอนได้อย่างสบายใจแล้วก็แทบจะผลอยหลับไปในทันทีเมื่อหัวถึงหมอน

และในยามนี้ทางด้านเซบาสเตียนก็ยังคงเล่นกับแมวรอซีทานเขียนแผนที่อยู่อย่างเพลิดเพลิน แต่ดูท่าเขาจะเขียนไม่เสร็จสักทีเพราะไม่มีสมาธิเขียนเลยน่ะสิ

"นี่คุณเซบาสเตียน คืนนี้ตกลงคุณจะค้างที่นี่หรือเปล่าครับ"ซีทานพักมือจากการเขียนหันมาถามชายที่กำลังเล่นกับแมวอยู่บนพื้นใกล้เตาผิง

"เอ่อ..ผมกะว่าถ้าคุณเขียนแผนที่ให้เสร็จแล้วผมจะเดินทางกลับเกาะปีศาจไปตามล่าหาซีโร่เลยน่ะครับ"เซบาสเตียนเงยหน้าขึ้นมาพูดหยุดเอาขนนกแหย่พุงเจ้าเหมียวโคปอลชั่วคราว

"จะไปทั้งๆที่ยังมืดตื๊ดตื๋ออยู่แบบนี้จะดีหรือครับไม่กลัวพวกแวมไพร์รุมดูดเลือดเอาเหรอ น่าจะพักผ่อนสักหน่อยนะท่าทางวันนี้คุณดูเหนื่อยๆ นอนค้างซะที่นี่สักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยเดินทางดีกว่ามัยครับ อีกอย่างตอนนี้ผมง่วงนอนน่าดูเลย ฮ้าว ตาจะปิดแล้ว ท่าทางคงจะเขียนแผนที่ให้ต่อไม่ไหวและอ่ะ ฮ้าว"ซีทานพูดตะล่อมให้เซบาสเตียนอยู่ค้างคืนกับเขาที่นี่ เพราะเขาขี้เกียจเขียนแผนที่แล้วง่วงและเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

"เห...เอ่อ..แต่ว่า...ผม.."เซบาสเตียนไม่รู้จะบอกยังไงดี เขาอยากกลับไปหาชิเอลสักหน่อย ไม่รู้ป่านนี้เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้างนอนหลับหรือยังก็ไม่รู้ 

"เอาน่า มานอนค้างที่ห้องผมสักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปเหอะ ฮ้าววว ผมง่วงจะแย่แล้ว คงเขียนแผนที่ต่อให้เสร็จไม่ไหวแน่ๆหรือว่าคุณรังเกียจ.."ซีทานพูดชักชวนไปพรางปิดปากหาวหวอดๆไปพรางด้วยความง่วงนอนจัด เพราะในยามนี้เวลาล่วงเลยไปน่าจะใกล้จะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว เขาควรจะนอนเสียทีเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่เช้าหากไม่นอนเขาคงไม่มีแรงจะทำงานหรือไม่ก็อาจจะหลับไประหว่างทำงานก็เป็นได้

"เอ่อ..จะดีหรือครับ ผมเกรงใจคุณจริงๆ ถ้ายังเขียนไม่เสร็จผมค่อยมารับแผนที่ไปพรุ่งนี้ก็ได้ ผมว่าจะไปหาโรงแรมใกล้ๆแถวนี้พักน่ะ"เซบาสเตียนพูดอย่างเกรงใจถึงจะรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันแต่เขาก็ไม่เคยนอนร่วมห้องกับชายใดมาก่อนนอกจากนายน้อย และท่านพ่อของเขาที่โลกปีศาจ

"หึ จะไปเสียงเงินเช่าโรงแรมทำไมกันเล่า หรือคุณไม่อยากนอนกับเจ้าโคปอล คืนนี้เจ้าเหมียวน้อยจะมานอนกับผมด้วยนะ ปกติผมกับมันก็นอนด้วยกันทุกคืน มันชอบนอนในที่อุ่นๆมากเลยล่ะ "ซีทานพูดเกลี่ยกล่อมพรางเดินมาอุ้มเจ้าแมวน้อยตาสีม่วงมากอดไว้แนบอกพามันตรงไปที่เตียง ตอนนี้เขาอยากนอนเต็มแก่แล้ว

เซบาสเตียนมองดูอย่างอิจฉา เขาอยากมีแมวมานอนกอดแบบนั้นบ้างจังเลย เสียดายที่นายน้อยไม่ยอมให้เลี้ยงแมว นี่ถ้าได้นอนกอดโคปอลเขาคงจะหลับฝันดีแน่ๆเลย

"ว่าไงล่ะครับ ตกลงจะค้างที่นี่หรือเปล่า "ซีทานหันมาถามด้วยท่าทียิ้มๆ

"เอ่อ..คะค้างก็ได้..ตะแต่..ขอผมนอนที่พื้นแล้วกันนะครับ"เซบาสเตียนยังตัดใจจากเจ้าเหมียวไม่ลง เขาจึงต้องยอมนอนที่ห้องของซีทานเพื่อที่จะได้นอนกอดแมวตัวน้อยนั่นสักนิดก็ยังดี

"อ้าวทำไมไม่นอนเตียงล่ะ เตียงก็ออกจะกว้างน่าจะนอนได้หลายคนอยู่นะ หรือคุณรังเกียจผม"ซีทานหันมาพูดท้าทายยิ้มๆ เซบาสเตียนเริ่มชินกับรอยยิ้มน่ารักนั้นแล้วเลยไม่ค่อยเขินเท่าไหร่ มองดูไปก็น่ารักดีเขาคิดแบบนั้นแหละ

"ไม่ล่ะครับผมชอบนอนพื้น ให้ผมนอนที่พื้นเถอะ ผมไม่อยากนอนเบียดเดี๋ยวคุณจะนอนไม่สบาย ไม่ใช่ว่ารังเกียจอะไรหรอกนะครับ"เซบาสเตียนพยายามบ่ายเบี่ยง ถึงพวกเขาจะไม่คิดอะไรเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน แต่มันก็คงจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่หากพวกเขามานอนร่วมเตียงกัน เขาไม่อยากนอกใจนายน้อย คนที่เขาจะยอมนอนด้วยบนเตียงคือเด็กคนนั้นคนเดียวเท่านั้น อ้อขอเว้นเจ้าเหมียวไว้สักตัวละกันเขาอยากนอนกอดแมวเอามากๆเลย

"อืม งั้นเชิญตามสบายนะ ผมจะเอาผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มและหมอนให้คุณแล้วกัน"ซีทานพูดยิ้มๆพรางวางเจ้าโคปอลลงที่พื้นแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบผ้าปูที่นอนนวมอุ่นๆกับผ้าห่มและหมอนออกมาถือไว้เต็มอ้อมแขน

เซบาสเตียนมองดูซีทานอย่างแปลกใจว่าแค่มาทำงานได้สองสามวัน ชายผู้นี้ถึงกลับมีชุดเครื่องนอนสำรองใส่ตู้ไว้แล้วเหรอ ท่าทางจะได้เงินเดือนเยอะสินะหมอนี่ ผิดกับเขาลิบลับ สามวันที่เป็นทาสมานี้เขาแทบไม่มีอะไรเลยห้องก็คับแคบเล็กยังกับรูหนู ที่นอนหมอนมุ้งก็ได้จากการอนุเคราะห์จากบอด็อกและมักเกิล ช่างอนาถดีแท้หนอ

"หือ มองผมทำไมหรือครับ คุณเซบาสเตียน"ซีทานหันมาสบตาเข้าพอดีเลยถามอย่างสงสัยพร้อมกับหอบกองผ้าปูนวมอุ่นๆออกมาจากตู้ที่ตนถือไว้เตรียมจะยื่นส่งไปให้เพื่อนอีกาของเขายืมใช้ชั่วคราว

"อ้อ เปล่าครับ ผมเพียงแค่สงสัยว่าคุณไปเอาข้าวของพวกนี้มาจากไหน และห้องนี้ก็ไม่ใช่ห้องโถงกลางที่คุณบอด็อกบอกด้วยนี่นา"เซบาสเตียนถามข้อข้องใจในทันทีอย่างตรงไปตรงมา

"อ้อ นายท่านเป็นคนพาผมไปซื้อข้าวของเครื่องใช้พวกนี้ที่ในเมืองเมื่อวันก่อนน่ะครับ และผมก็ไปเจอกับโคปอลเข้าโดยบังเอิญเลยอ้อนวอนขอเขาเลี้ยงมัน นายท่านตอนแรกไม่ยอมให้เลี้ยงเพราะเขากลัวผมจะเอาแต่เล่นกับแมวจนลืมทำงานให้ ผมเลยรับปากกับเขาว่าจะทำงานให้เต็มที่หรือจะให้ไปทำงานล่วงเวลาก็ยังได้แต่ขอเลี้ยงแมวตัวนี้ นายท่านมองผมอย่างไม่พอใจ แต่พอเห็นว่าผมจริงจังและมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้ เขาจึงอนุญาติให้ผมเลี้ยงดูมันที่นี่ได้ โดยให้รับปากว่าจะต้องดูแลมันไม่ให้ไปทำเลอะเถอะหรือทำลายข้าวของเสียหายน่ะ ส่วนเรื่องห้องนี้เดิมทีเป็นห้องเก็บซากศพมนุษย์เก่าดั้งเดิม แต่ว่าในปัจจุบันห้องนี้ถูกปิดตายเอาไว้ไม่ได้ใช้งานอะไรหลังจากที่พวกเขาย้ายซากศพไปไว้ห้องใต้ดินแล้ว ผมจึงได้มาอยู่ห้องนี้แทนการไปนอนที่ห้องโถงกลางชั่วคราวน่ะ ตอนแรกที่มาเห็นตกใจแทบช๊อก พื้นมีแต่เลือดเต็มไปหมดกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง หัวหน้าคนใหม่ คุณมักเกิลเลยให้ผมเลือกว่าจะอยู่ห้องนี้หรือว่าจะไปนอนที่ห้องนอนเก่าของเขาซึ่งเต็มไปด้วยน้ำแข็งที่เย็นเฉียบทั้งห้อง ผมกลั้นใจเลือกที่จะอยู่ห้องเก็บศพ เพราะผมคุ้นเคยกับความตาย ซากพวกนี้ก็เห็นจนชินตาแล้วเลยไม่รู้สึกอะไรมากนัก ผมก็เลยก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดไป จัดการเปลี่ยนพื้นใหม่เอาพื้นไม้มาปูทับกลบลอยเลือดที่ขัดยังไงก็ขัดไม่ออกเอาไว้ ส่วนผนังก็ทาสีใหม่หมดทั้งห้องในโทนสีเดียวกับพื้น ไปจิ๊กเตาผิงมาจากบ้านหลังนึงที่เจ้านายดูดเอาวิญญาณพวกนั้นไป พร้อมกับขนโต๊ะยาวของคุณมาทำเป็นเตียง ไปหาซื้อฟูกมาใหม่ ผ้าปู ผ้าห่ม หมอน และอื่นๆอีกมากมายเพราะพอได้เป็นข้ารับใช้เต็มตัวก็ได้เงินเดือนมาแล้วมีตังซื้อสบายเลย ของตามร้านค้าของพวกมนุษย์น่ะถูกจะตายไปแค่เอาเงินจากนายท่านไปแลกเป็นเงินดอลล่าที่ธนาคารพวกมนุษย์ผมก็ได้เงินมาใช้เพียบเลยล่ะ และจากนั้นก็แต่งห้องไปเรื่อยๆจนกลายมาเป็นห้องที่น่าอยู่แบบนี้ไงจนไม่เห็นเค้าของการเป็นห้องเก็บศพเลยใช่มัยล่ะ"ซีทานอธิบายยาวเหยียดเล่าถึงตอนที่เขาได้ห้องนี้มาใหม่ๆให้เพื่อนอีกาฟัง

"อ้อ.งั้นหรือครับ..เก่งจังเลยนะครับเนรมิตรห้องเก็บศพที่น่ากลัวมาเป็นห้องที่แสนอบอุ่นแบบนี้ได้เพียงไม่กี่วันเอง เยี่ยมจริงๆ"เซบาสเตียนเอ่ยปากชมพรางสำรวจมองดูรอบๆห้องอย่างทึ้งๆ เขาไม่เห็นความน่าสยอดสยองของห้องเก็บศพเลยแม้แต่น้อย กลิ่นคาวเลือดก็ไม่มี จัดว่าพอแต่งใหม่แล้วเป็นห้องที่น่าอยู่ทีเดียว

"แหมไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ คุณเซบาสเตียน อ่ะเอาที่นอนนี่ไปผมถือจนเมื่อยและ คืนนี้อากาศเย็นมากผมจึงต้องจุดไฟเตาผิงเอาไว้ตลอด ผมเป็นปีศาจขี้หนาวน่ะ"ซีทานพูดยิ้มๆพรางเอาเครื่องนอนยื่นส่งให้เซบาสเตียนไปเสียทีเขาถือค้างไว้มาสักพักแล้วเลยเริ่มเมื่อยแขน

"ขอบคุณครับ คุณนอนไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าๆไม่ใช่เหรอ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางยื่นมือมารับชุดเครื่องนอนสำรองของซีทานเอามาจัดแจงปูนอนด้วยตัวเอง ส่วนซีทานพอส่งเครื่องนอนให้เพื่อนเสร็จเขาก็เดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียงหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วหลับตา

เมี๊ยว เจ้าโคปอลพอเห็นเซบาสเตียนปูที่นอนบนพื้นเสร็จแล้วชายหนุ่มทำท่าจะล้มตัวลงนอน เจ้าเหมียวน้อยขี้อ้อนจึงเดินไปล้มตัวแปะลงนอนกลิ้งไปมาบนที่นอนอุ่นๆ พรางเอาหัวคลอเคลียที่แขนของอีกาหนุ่มอย่างออดอ้อน

"หึหึหึ อยากนอนด้วยเหรอโคปอล มาสิ มานอนด้วยกัน"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆก้มลงมองดูเจ้าแมวขี้อ้อนอย่างเอ็นดูพรางเอามือค่อยๆลูบหัวมันเบาๆแขนโอบกอดเหมียวน้อยเอาไว้แทนนายน้อยของเขา แล้วหยิบผ้าห่มที่ซีทานให้มาคลุมตัวก่อนจะล้มตัวลงนอนหัวหนุนหมอนถอนใจเฮ้อหนึ่งทีก่อนจะหลับตาลงนอนพักผ่อน เขาเป็นปีศาจที่นอนง่ายหลับที่ไหนก็หลับได้ และด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันทำให้ชายหนุ่มผลอยหลับไปแทบจะทันทีเมื่อหัวถึงหมอน 

"ฮ้าว...นายน้อย พรุ่งนี้ผมจะไปรับนะ ขอให้คุณฝันดี..ราตรีสวัสดิ์"เซบาสเตียนพึมพำตาหลับนึกถึงชิเอลและอวนพรให้เขาฝันดี 
แล้วจากนั้นไม่นาน

"Zzzzzzzzzzz คร่อก...ฟี้..."และเซบาสเตียนกับซีทานก็หลับไปทั้งคู่รวมทั้งเจ้าเหมียวน้อยในอ้อมแขนของอีกาหนุ่มก็หลับอย่างเป็นสุขด้วยเช่นกัน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง จนเกือบจะเช้าแล้ว จู่ๆซีทานก็ลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยสภาพที่ยังหลับตาอยู่เขากำลังนอนละเมอ ฝันถึงว่าตนเจอหมอนข้างตกอยู่ที่พื้นเลยเดินไปทรุดตัวลงนอนข้างๆหมอนข้างที่เขาเจอแล้วก็..

"อืม...หมอนข้าง..จ๋า..อืม.."ซีทานละเมอพลิกตัวมานอนกอดก่ายหมอนข้างในทันที..

"เฮือก!=[]=!อ๊อก"จู่ๆเซบาสเตียนถึงกลับสะดุ้งตื่นรีบลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อตนเริ่มรู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมานอนกอดก่ายโถมทับตัวเขามือวางพาดที่อก นอนตะแคงโถบทับมาทางเขาทั้งตัว แถมขาหนักๆยังก่ายมาพาดที่จุดยุทธศาตร์(เป้ากางเกง)เข้าไปเต็มลักอย่างแรงไม่เกรงใจอีกทำเอาหมอนข้างที่มีชีวิตแทบจุกเลยทีเดียว

ส่วนเจ้าเหมียวที่เกือบจะโดนเจ้านายตนเองมานอนทับ มันถึงกลับตกใจตื่นลุกแผวขึ้นมายืน จ้องหน้าชายหน้าหวานที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวกอดก่ายหมอนข้างที่มีชีวิตอยู่ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เจ้าเหมียวน้อยเลยขู่ฟอๆใส่อย่างไม่สบอารมณ์หนีขึ้นไปนอนบนเตียงแทนที่เจ้านายซะเลย 
ส่วนผู้ที่เป็นหมอนข้างน่ะเหรอ...

"อูยยยยย จุก!! >[] < พาดขามาซะแรงเลย เจ้าบ้าเอ๊ย อูยยยย ซีดดด"หมอนข้างจำเป็นถึงกลับร้องโอดครวญผุดลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าเอามือมากุมจุดยุทธศาตร์ของตนเองไว้ด้วยความจุกแอ๊กจากการโดนท่อนขาของคนละเมอกระแทกใส่ตรงนั้นของเขาอย่างแรงเข้าอย่างจัง

"คร่อก.....Zzzzzz"ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุให้เซบาสเตียนจุกในตอนนี้ยังคงหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แถมยังนอนกรนอีกต่างหาก

"หนอยเจ้าซีทาน นอนละเมออะไรกันขนาดนี้เนี่ย ทำเอาจุกเลย บ้าเอ๊ย เอ้า..นอนให้มันดีๆซี่ ผมไม่ใช่หมอนข้างนะ นี่แน่ะๆ อึ้ย!!"เซบาสเตียนพออาการจุกลดลงแล้วเขาก็หันมาใช้เท้าถีบยันสะโพกให้เจ้าหนุ่มหน้าหวานนี่ผละไปนอนไกลๆเขาอย่างทุลักทุเลและเป็นการเอาคืนที่บังอาจมาทำน้องชายของเขาเจ็บ

จากนั้นเซบาสเตียนก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน เอามือขยี้ตาลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง เขาจะไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นสักหน่อย ไหนๆก็ตื่นมาแล้วนี่ กลับไปนอนต่อไม่ได้แล้วเพราะนอนมาเต็มอิ่มแล้ว แม้ว่าจะถูกปลุกแบบจุกๆก็ตามที

พอมาถึงห้องน้ำเขาจึงเดินไปที่บ่อน้ำเย็นหยิบขันที่วางอยู่ข้างๆมาตักน้ำแล้วเอามาลูบหน้าให้สดชื่น

"เฮือก! น้ำเย็นชะมัด แต่ก็ทำให้เราหายง่วงเป็นปลบทิ้งเลย เอาไงดีอาบน้ำสักหน่อยดีมัยนะ เดี่ยวซีทานตื่นมาค่อยให้เขียนแผนที่ให้เสร็จแล้วเราจะกลับไปหานายน้อยที่บ้านแลนกาบแล้วกัน จากนั้นค่อยวางแผนกันอีกทีว่าเอายังไงเรื่องเจ้าซีโร่"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองในเงาน้ำที่สะท้อนมาจากในบ่อคิดวางแผนการเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะทำอะไรต่อไปดี

"จริงสิ นี่กี่โมงแล้วนะเอานาฬิกามาดูหน่อยดีกว่า"พูดแล้วเซบาสเตียนก็เอามือล้วงไปหยิบเอาวัตถุสีเงินกลมๆขึ้นมาเปิดฝาออกดูเวลา

"อืม..พึ่งจะตีห้าสี่สิบ อาบน้ำก่อนละกัน กว่าจะอาบเสร็จคงหกโมงเช้าพอดีแหละ"เซบาสเตียนตัดสินใจจะอาบน้ำก่อนเพราะตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้อาบน้ำเลย เขาจึงรู้สึกเหนียวตัวขึ้นมาเล็กน้อย จึงไม่รอช้าเดินตรงไปตักน้ำมาเทใส่ลงในอ่างหิน หลายสิบขันจนน้ำเต็มอ่างจากนั้นหลับตาลงเอามือทาบลงที่ตัวอ่านหินแล้วท่องคาถาไพนรกอังอ่างต้มน้ำให้ร้อนอย่างรวดเร็ว เขาได้แต่หวังว่าจะไม่มีใครตื่นมาแย่งเขาอาบน้ำแต่ไก่ยังไม่ทันโห่หรอกนะ

หลังจากนั้นไม่นาน

"อ้า...น้ำน่าจะอุ่นได้ที่แล้ว รีบๆอาบก่อนที่จะมีใครมาเห็นดีกว่า"ชายหนุ่มร่างสูงพูดพรางเดินไปที่ประตูผ้าม่าน คอยมองชะเง้อดูลาดเลาว่ามีใครอยู่แถวนั้นหรือเปล่า พอเริ่มแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้นเขาจึงปิดผ้าม่านเดินมาที่อ่างน้ำอุ่นแล้วทำการค่อยปลดเปลื้องเสื้อผ้าตนเองถอดออกทีละชิ้นอย่างรวดเร็วจนล้อนจ้อน แล้วเอากองเสื้อผ้ามาวางไว้ที่โต๊ะใกล้ๆทางออกรวมถึงถอดรองเท้าถุงเท้าไว้ใกล้ๆกองเสื้อผ้าด้วย

จากนั้นชายหนุ่มร่างเปลือยตัวขาวเนียนผุดผ่องเดินตรงมาก้าวขาจุ่มลงไปในอ่างน้ำทีละข้างๆแล้วหย่อนก้นลงนั่งแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์ พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบน้ำยาโซบัทออกมาเทใส่ฝ่ามือเอามาชะโลมทาเนื้อทาตัวชะละล้างคราบไคลต่างๆให้สะอาดหมดจรด พรางเอนกายลงนอนหลังพิงผนังอ่างหินหลับตาลงทำตัวให้ผ่อนคลายให้เต็มที่ก่อนที่เขาจะเดินทางไปสู้รบกับซีโร่เพื่อแย่งชิงดวงวิญญาณของพวกแฟนท่อมไฮด์กลับมาให้ทันก่อนร่างกายพวกนั้นจะเน่าเปื่อยให้ได้ 

"อืม...ป่านนี้นายน้อยเป็นยังไงบ้างน้า ตื่นหรือยัง ตัวร้อนหรือเปล่า อาการไอหายหรือยัง"ในระหว่างที่นอนแช่น้ำก็หลับตาเกิดนึกถึงชิเอลขึ้นมาพึมพำถามตนเองไปว่าเด็กคนนั้นป่านนี้เป็นยังไงบ้าง ไข้ลดหรือยัง และก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอีกสักพัก

และเด็กที่เซบาสเตียนกำลังนึกถึงในขณะอาบน้ำตอนนี้กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟามีผ้าห่มอุ่นๆห่มคลุมกายมิดชิด เขายังคงหลับไปอีกนานหากไม่มีใครมาปลุกก็จะสามารถนอนแบบนั้นไปอีกเรื่อยๆนั่นแหละ ยังดีที่คืนนี้เขาได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ไม่มีพ่อบ้านตัวยุ่งมาคอยกวนชวนเล่นกิจกรรมยามค่ำคืนฝืนสังขาลตนเองไปอีก ทำให้สภาพร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว โดยเฉพาะปีศาจน้อยดาร์กชิล พลังปีศาจของเขาฟื้นฟูขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งบาดแผลที่มือของชิเอลที่มีผ้าเช็ดหน้าพันเอาไว้สามารถสมานตัวสนิทจนไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน อาการปวดตามร่างกายก็ค่อยๆทุเลาลงอย่างช้าๆค่อยเป็นค่อยไป อีกไม่นานก็คงจะหายเป็นปกติสามารถเดินเหินได้เต็มที่แล้ว ไม่ต้องพึ่งพาใครมาคอยพยุงตัวเขาอีกต่อไป 

ส่วนพ่อบ้านตัวยุ่งที่ชอบชวนเล่นจ้ำจี้ในตอนนี้กำลังลงจากอ่างเอาผ้าเช็ดตัวในตู้มาเช็ดๆตัวเช็ดผมให้แห้งแล้วเดินมาหยิบเสื้อผ้าตัวเดิมมาสวมใส่แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำกลับไปยังห้องพักของหนุ่มหน้าหวานซีทานเผื่อว่าจะได้นอนต่ออีกสักนิดก็ยังดีเพราะตอนนี้เขากำลังรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว อยากจะไปนอนมุดผ้าห่มอุ่นๆอีกสักนิดรอจนกว่าจะถึงเวลาที่ซีทานจะตื่นมานั่งเขียนแผ่นที่ให้เขาต่อให้เสร็จนั่นแหละ

และพอมาถึงที่นอนเซบาสเตียนจึงเดินไปนอนบนเตียงแทนซีทานซะเลยอยากมาแย่งที่นอนเขาที่พื้นดีนักพอหัวถึงหมอนก็ผลอยหลับไปแทบจะทันทีพร้อมกับเอาเจ้าโคปอลมานอนกอดด้วยยิ่งทำให้การนอนเป็นไปอย่างสุขใจมากยิ่งขึ้นไปอีก 

จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายนาที 

เอกอิเอกเอ้ก เสียงไก่ขันพร้อมทั้งเสียงการตีฆ้องดังแว่วๆเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

แก๊งงงงง แก๊งงงง เสียงลูกตุ้มนาฬิกาในห้องนั่งเล่นของนางปีศาจหิมะดังขึ้นบ่งบอกว่าในยามนี้เป็นเวลา หกโมงเช้าแล้วได้เวลาที่ทุกคนจะต้องตื่นกันแล้ว

ก๊องๆ ก๊องๆ!!!!ๆๆๆ

"เอ้าตื่นได้แล้ว!!!ทุกคน เช้าแล้วเว้ย!!ตื่นๆ!!อย่ามัวแต่นอนอยู่ ออกมารายตัวกับข้าเดี่ยวนี้!ใครไม่ตื่นเดี๋ยวข้าจะเอาแส้ไปปลุก!!ตื่นๆ ตื่นเว้ยเจ้าขี้เซาทั้งหลาย"เสียงของหัวหน้าปีศาจส่งเสียงปลุกบันดาลูกน้องดังมากขึ้นเรื่อยๆแข่งกับเสียงฆ้องที่เขาตีดังปลุกทุกคนในหุบเขาให้ตื่นขึ้นไม่เว้นแม้กระทั่ง ....

"อืม..."เสียงซีทานครางเบาๆแล้วค่อยๆลืมตาตื่นลุกขึ้นมานั่งมองไปรอบๆตัวอย่างงงๆว่าตนมานอนที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมเซบาสเตียนถึงไปนอนบนเตียงได้ล่ะเนี่ย

"คุณเซบาสเตียน ตื่นๆ นี่คุณมานอนบนเตียงผมได้ไงเนี่ย เอ้าตื่นๆ"ซีทานลุกขึ้นเดินมาเขย่าตัวเพื่อนอีกาปลุกให้ตื่นแล้วถามอย่างแปลกใจว่าทำไมการนอนของพวกเขาถึงได้สลับที่กันได้

"อืม.."เซบาสเตียนครางเบาๆก่อนจะลืมตาขึ้นมาลุกขึ้นนั่งสายตาสีทับทิมที่กำลังงัวเงียสบเข้ากับตาของหนุ่มหน้าหวานเข้าพอดีเลย

"มานอนบนเตียงได้ไงเนี่ย แล้วทำไมผมถึงมานอนที่พื้นล่ะ"ซีทานถามพรางเอามือเกาหัวแกรกๆอย่างงงๆก็เมื่อคืนเขาจำได้ว่าตนเองนอนบนเตียงนี่หว่า ทำไมพอตื่นมาถึงได้มานอนอยู่บนที่นอนของเซบาสเตียนได้ล่ะไม่เข้าใจเลยแฮะ 

"หึ ก็คุณซีทานนอนละเมอลงมานอนข้างล่างพยายามจะกอดก่ายผม เห็นผมเป็นหมอนข้างของคุณ ผมเลยหนีไปนอนข้างบนเตียงแทนไง ก็คุณอยากมาแย่งที่นอนผมก่อนนี่นา หึหึหึ"เซบาสเตียนหลับตาพูดยิ้มเยาะ

"อ่า..จริงเหรอ นี่ผมนอนละเมอขนาดนั้นเลยเหรอ ตายจริง 0///0 ขอโทษนะครับ ผมทำอะไรคุณไปหรือเปล่าเนี่ย"ซีทานพูดอย่างเขินอายหน้าแดงซ่านรีบหันหน้าหนี พรางผละถอยออกมายืนห่างๆเตียงตัวเองเอามือลูบผมตนเองป้อยๆแก้เขินไปในที

ส่วนเซบาสเตียนไม่ได้คิดอะไรมากเขาก้าวขาลงมาจากเตียงวางเจ้าเหมียวโคปอลลงบนเตียงมันเองก็ตื่นแล้วเช่นกัน ตื่นมาก็หาวหวอดๆร้องเหมี๋ยวๆเดินมาอ้อนอีกาหนุ่มให้เกาคางให้มันอีก

เมี๊ยววว เมี๊ยววว
"ไง..โคปอล อยากให้เกาคางเหรอ มาเกาให้ๆหึหึหึ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆจับอุ้มเจ้าเหมียวน้อยตาสีม่วงมาเล่นเกาคางให้มันอย่างร่าเริง 
ซีทานเองพอหายเขินก็พลอยหัวเราะมองเจ้าโคปอลด้วยความชอบใจไปด้วย แต่ทว่า

ปั้งๆ จู่ๆก็มีเสียงคนทุบมาประตูดังสนั่นตามด้วยเสียงเรียกของหัวหน้าปีศาจหิมะ

"ซีทาน นั่นแกตื่นหรือยัง ออกมาเข้าแถวเดี๋ยวนี้!!"เสียงทุ้มดุของมักเกิลนั้นเอง เขากำลังเรียกลูกน้องให้มายืนเข้าแถวรายงานตัวตามทำเนียมที่เคยปฎิบัติกันมายาวนานสืบต่อจากบอด็อกนั่นแหละ

"อ่า ครับหัวหน้ารอเดี่ยวครับ หวีผมแป๊บ"ซีทานตอบรับพรางรีบวิ่งไปที่โต๊ะเอาหวีมาหวีเผ้าผมตนเองอย่างลวกๆแล้วรีบเดินมาเปิดประตูออกไปยืนเข้าแถวที่หน้าห้องพักของตนเตรียมรายงานตัวกับหัวหน้าในทันที ทิ้งให้เซบาสเตียนยืนมองอยู่ในห้องเขาไม่ได้เป็นทาสแล้วจึงไม่ต้องออกมารายงาตัวทุกๆเช้าเหมือนสมุนปีศาจตนอื่นๆอีกแล้ว 

ในตอนนี้เขาเป็นแขกของที่นี่ มักเกิลเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยสักคำถ้าอดีตทาสอย่างอีกาหนุ่มไม่ออกมารายงานตัวเหมือนปีศาจตนอื่นๆล่ะก็นะ

แต่เซบาสเตียนกลับนึกสนุกเดินอุ้มแมวตามซีทานออกมายืนข้างนอกข้างๆหนุ่มหน้าหวานด้วย เล่นทำเอาพวกปีศาจหิมะตนอื่นๆมองกันอย่างแปลกใจว่าเจ้าอีกานี่มาได้ยังไงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตอนที่พวกเขาออกไปต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้นเองที่รู้ว่าเขากลับมา

"หวัดดีทุกคน อรุณสวัสดิ์ครับหัวหน้า หึหึหึ"เซบาสเตียนแกล้งแซวมักเกิลเล่นโบกมือทักทายยิ้มๆ

"เอ้ย..ใครเป็นหัวหน้าแกไม่ทราบ..เจ้าอีกา..หึหึหึ"มักเกิลร้องโวยหันมามองหน้าแล้วอมยิ้มก่อนจะเดินไปเช็กชื่อลูกน้องคนอื่นๆ เลิกสนใจเซบาสเตียนชั่วคราว 

"แกมาที่นี่อีกทำไมเจ้าอีกา โดนใช้งานเป็นทาสมาสองสามวันไม่เข็ดหรือไง หรือแกอยากจะเป็นทาสคอยรับใช้พวกข้าอีก"บีเกิลหันมาถามอย่างสงสัยเมื่อคืนเขาหลับไปตั้งแต่ช่วงหัวค่ำเลยไม่รู้ว่าเซบาสเตียนมาที่นี่และอยู่ค้างกับซีทานด้วย

"เอ่อ..คือ.."เซบาสเตียนกำลังจะตอบ แต่มักเกิลกลับพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

"หุบปากน่าบีเกิล เจ้าเซบาสเตียนแวะมาหาซีทานน่ะ เมื่อคืนคงจะนอนค้างด้วยกันสินะ"มักเกิลตอบตามความเข้าใจของเขา

เซบาสเตียนกับซีทานพยักหน้ารับไม่ได้พูดอะไรเท่าไหร่ บีเกิลเลยไม่รู้จะพูดอะไรอีกเขาหายคับข้องใจแล้วเลยยืนนิ่งในแถวรอให้หัวหน้ามักเกิลเช็กชื่อไปจนกว่าจะครบหมดทุกคนด้วยท่าทีบอกบุญไม่รับ ก็ตนอยากจะเป็นหัวหน้าบ้างนี่เลยอดอิจฉามักเกิลไม่ได้ทั้งๆที่ก่อนหน้าก็เป็นลูกน้องเหมือนกันแท้ๆแต่เพียงแค่ช่วงข้ามคืนหลังจากผ่านการประลองไปทำให้พวกเขาแตกต่างกันไป แค่ต่อสู้เก่งกว่าตนหน่อยเดียวเองแท้ๆทำไมถึงได้เป็นหัวหน้าก็ไม่รู้

"มีอะไรงั้นรึ บีเกิล"มักเกิลหันมาถามด้วยท่าทีสงบเขาเป็นหัวหน้าที่ดี หากลูกน้องมีปัญหาอะไรก็จะถามไถ่เสมออย่างใจเย็น

"เปล่า.."บีเกิลหันหน้าหนีกัดฟันพูดตอบไปห้วนๆไม่มีท่าทีจะเคารพมักเกิลเลยแม้แต่น้อย เขายังคงเขม่นมักเกิลอยู่และคงจะเป็นอย่างงั้นในอีกสักพัก ซึ่งเซบาสเตียนกับซีทานต่างก็มองหน้ากันและยักไหล่ให้กัน นี่มันเรื่องปกติธรรมดาที่จะมีการอิจฉาริษยากันในกลุ่มปีศาจ 

"งั้นข้าเช็คชื่อต่อนะ..ป้อกกี้..โลตัส..ชอกกี้..คาลอน "มักเกิลทำเป็นไม่แยแสหันไปเช็คชื่อพวกพ้องของตนต่อ เขาทำใจไว้แล้วว่ายังไงพวกพ้องบางตนคงจะไม่ยอมรับเขาเป็นหัวหน้าง่ายๆนักหรอก และก็คงจะมีแต่พวกอิจฉาตาร้อนอยู่อีกหลายตน อาจจะถึงขั้นทำตัวกระด้างกระเดื่อง ต่อต้าน แต่การเป้นหัวหน้ามือใหม่อย่างเขามันก็ต้องเจออุปสรรคแบบนี้กันทั้งนั้น เขาต้องยืนหยันผ่านมันไปให้ได้ 

แล้วจากนั้นพอเช็กชื่อเสร็จแล้วมักเกิลก็ออกคำสั่งพวกพ้องอย่างจริงจัง

"ทั้งหมดแถวตรง"มักเกิลออกคำสั่ง และมีเพียงไม่กี่คนทำเท่าที่ทำตามคำสั่งของเขา ส่วนพวกที่ต่อต้านเขาก็ทำเป็นยืนคุยกันบ้าง บางทีก็ทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในห้องพัก ไม่สนใจจะทำตามคำสั่งของหัวหน้าคนใหม่เลย

"นี่พวกเจ้าจะไปไหนกัน ข้าสั่งให้ยืนตรงในแถวไม่ใช่เหรอ กลับมาเข้าแถวเดี่ยวนี้นะ"มักเกิลออกคำสั่งมองดูพวกพ้องด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ที่พวกนั้นขัดคำสั่งของเขา

เซบาสเตียนกับซีทานก็ยืนดูอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร รอดูไปว่ามักเกิลจะจัดการกับลูกน้องให้เชื่อฟังได้ยังไง นั่นก็ถือเป็นบททดสอบแรกที่หัวหน้าจะต้องเจอ คือการต่อต้านไม่ให้ความร่วมมือของลูกน้องนั่นยังไงล่ะ

"เหอะ พึ่งจะมาเป็นหัวหน้าไม่กี่วันมาทำเป็นกร่าง เรื่องอะไรที่พวกข้าจะต้องเชื่อฟังปีศาจรุ่นน้องอย่างแกด้วย ไอ้มักเกิล"บีเกิลเป็นตัวตั้งตัวตีในการต่อต้านในทันที 

"หนอยนี่แกจะมาต่อต้านข้าเหรอ ไอ้บีเกิล ไอ้ป๊อกกี้ พวกแกอยากโดนแส้หวดนักใช่มัย กลับมาเข้าแถวเดี่ยวนี้เลยนะ ผลการประลองพวกแกก็เห็นแล้วนี่ในเมื่อเจ้าแพ้ข้าก็ยอมรับความจริงกันบ้างสิ กลับมายืนเข้าแถวเดี๋ยวนี้อยากโดนลงโทษกันหรือไง ถ้ายังขืนมาทำตัวมีปัญหากับหัวหน้าอย่างข้าอีก ข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ"มักเกิลพูดด้วยท่าทีจริงจัง เขามีความสามารถมากกว่าเก่งกว่า พวกพ้องไม่เคยกลัวใครห้าไหนอยู่แล้ว ถ้าอยากมีเรื่องก็เข้ามาเลย

"ใช่ ข้าอยากจะรู้นักว่าหัวหน้าอย่างแกจะสู้พวกข้าได้มัยหากว่าพวกข้าจะรุมแก เอ้ย ใครเห็นด้วยกับข้าที่เจ้ามักเกิลไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้ายกมือขึ้น"บีเกลิพูดด้วยท่าทีท้าทาย หักข้อนิ้วๆเปาะๆเดินย่างสามขุมเข้ามาหามักเกิลอย่างไม่กลัวเกรงพร้อมกับพวกพ้องของตนที่ไม่พอใจหัวหน้าคนใหม่ก็เดินตามตัวตั้งตัวตีสมทบด้วย พวกเขาจะลบล้างอำนาจของมักเกิล

และพวกผู้ติดตามบีเกิลอีกหลายคนต่างค่อยๆทยอยกันยกมือขึ้น 

ส่วนพวกที่วางตัวเป็นกลางอย่างซีทานกับเซบาสเตียนได้แต่ยืนมองดูตาปริบๆ ท่าทางพวกปีศาจหิมะจะเกิดปัญหาเข้าซะแล้วสิ

"เซบาสเตียน ซีทานพวกเจ้าเข้าไปอยู่ในห้องกันก่อนนะ ขอข้าเคลียกับเจ้าพวกนี้ก่อน เสร็จแล้วข้าจะมาคุยกับพวกเจ้าทีหลัง"มักเกิลหันมาบอกกับเซบาสเตียนกับซีทานผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้หลบฉากเข้าไปอยู่ในที่ปลอดภัยในห้องพักของซีทานก่อน เขาจะต้องชำระสะสางกับพวกลูกน้องจอมพยศทั้งหลายนี้ให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย

"อืม / ครับ"ทั้งเซบาสเตียนและซีทานต่างตอบรับก่อนจะพากันเดินกลับเข้าไปในห้อง เขามั่นใจว่ามักเกิลต้องจัดการทุกอย่างได้อย่างแน่นอน จึงไม่จำเป็นต้องช่วยอะไรยอมเข้าไปหลบในห้องและทำเหมือนว่าข้างนอกห้องม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย 

"จริงสิ ผมต้องรีบเขียนแผนที่ให้คุณต่อให้เสร็จแล้วล่ะ คุณนั่งเล่นกับโคปอลไปก่อนนะครับ ผมเหลือเขียนอีกนิดหน่อยก็จะเสร็จแล้วล่ะ"ซีทานหันมาบอกก่อนจะทำการปิดประตูแล้วล๊อกกลอนเอาไว้ แล้วเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานของตน ทรุดตัวลงนั่งเขรยนแผนที่ต่อ 

"เอ่อ..เวลาอย่างงี้ยังจะมีกะจิตกะใจเขียนได้อีกหรือครับ ข้างนอกห้องดูเหมือนกำลังจะเกิดสงครามนะครับ"เซบาสเตียนถามอย่างแปลกใจที่เห็นหนุ่มหน้าหวานไม่มีทีท่าทุกข์ร้อนอะไรเลย เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นข้างนอกนั่นแหละ และยังพูดไม่ทันจะจบ

ตุ้มมมม โครม เปี้ยงงง ตึ้งงงง!!! เสียงระเบิดดังลั่นมาจากนอกห้องของซีทานจนทำให้ห้องสั่นกระเทือน ตามด้วยเสียงการฟาดฟันกันระหว่างปีศาจหิมะด้วยกันแลดูสับสนวุ่นวายอุตหลุดทีเดียว

"โหว....เกิดอะไรขึ้นข้างนอกกันแน่น่ะ"เซบาสเตียนหันมาถามซีทานอย่างตกใจเสียงระเบิดดังกึกก้องนั่น น่ากลัวว่าจะปลุกบอด็อกกับนางปีศาจหิมะ ให้ตื่นขึ้นมาได้เลยนะเนี่ย

"ไม่ต้องไปสนใจ ตั้งแต่คุณมักเกิลได้เป็นหัวหน้า เหตุการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติครับคุณเซบาสเตียน เกิดการทะเลาะกันประจำแหละ ผมชินแล้ว"ซีทานหลับตาพูดพรางก้มหน้าก้มตาเขียนแผนที่ต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

"เห..แล้วผลเป็นยังไงหรือครับ"เซบาสเตียนถามเขาอดห่วงเพื่อนของเขาไม่ได้ ท่าทางมักเกิลจะรับศึกหนักเอาการทีเดียวในฐานะของหัวหน้าปีศาจหิมะ

"หัวหน้าชนะทุกครั้ง พวกคุณบีเกิลถึงกลับโดนเล่นงานจนสะบักสะบอมเลยทีเดียว หัวหน้าเก่งมากครับ สมแล้วที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าต่อจากนายท่าน"ซีทานหันมาบอกยิ้มๆก่อนจะหันกลับไปเขียนแผนที่ต่ออย่างช้าๆ

แล้วไม่นานนักประตูห้องซีทานก็มีคนมาเคาะเรียก

"ซีทาน..เปิดประตูได้แล้ว ข้าเคลียเสร็จแล้วล่ะ"มักเกิลส่งเสียงมา ซีทานลุกจากเก้าอี้เดินไปเปิดประตูให้ แล้วมักเกิลก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางเหนื่อยเล็กน้อย ส่วนพวกบีเกิลน่ะเหรอ นอนสลบคาที่กองเกลื่อนพื้นหน้าห้องเลยทีเดียวในสภาพยับเยินเลือดสีเขียวไหลโทรมกาย ตัวมีแต่เกร็ดหิมะปรกคลุม

"โหว...นอนตายเกลื่อนเลยนะเนี่ยเจ้าพวกนั้น เก่งจังเลยนะครับ คุณมักเกิล จัดการได้หมดเลย"เซบาสเตียนเอ่ยปากชม มือของเขายังคงอุ้มแมวเอาไว้ สายตาก็มองดูพวกปีศาจหิมะที่โดนหัวหน้าคนใหม่เล่นงานจนสลบเหมือดอย่างเห็นใจเล็กน้อย 

"หึ อยากมาต่อต้านข้าดีนักเลยสั่งสอนไปนิดหน่อย ว่าแต่เรื่องของเจ้าไปถึงไหนแล้วล่ะ เซบาสเตียน"มักเกิลถามยิ้มๆเขายังชิวๆอยู่เลยท่าทางแข็งแกร่งไม่น้อย

"ตอนนี้ผมรอให้คุณซีทานเขียนแผนที่ให้เสร็จก่อนน่ะครับ แล้วเดี๋ยวผมก็จะเดินทางกลับเกราะปีศาจไปหานายน้อยสักหน่อย"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี

"อืมขอให้เจ้าทำงานสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้ก็แล้วกัน"มักเกิลอวยพรอย่างมีไมตรี

"ขอบคุณครับ คุณมักเกิลเองก็ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตพวกนี้ไปได้เร็วๆนะครับ"เซบาสเตียนเองก็อวยพรกลับเช่นกัน

และพอคุยกันได้ไม่นาน ซีทานก็เขียนแผนที่ใกล้เคียงให้เซบาสเตียนเสร็จพอดีจึงเดินเอาแผนที่มาให้เซบาสเตียนที่นอกห้องพักของตน

"อ้า...เสร็จแล้ว..นี่ครับคุณเซบาสเตียน ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆที่ช่วยคุณได้แค่นี้ ผมไม่อาจบอก.."ซีทานพยายามจะแก้ต่าง ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ พยายามจะอธิบาย
"ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ เขียนมาแค่สถานที่ใกล้เคียงก็พอแล้วล่ะ เดี๋ยวผมไปหาเอง"เซบาสเตียนบอกอย่างเกรงใจปล่อยเจ้าโคปอลลงกับพื้นแล้วยื่นมือไปรับแผนที่มาจากซีทาน เขาไม่อยากล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของซีทานมากเกินไปนัก ในเมื่อชายหน้าหวานอุตส่าห์ยอมเขียนแผนที่บอกสถานที่ใกล้เคียงแล้วทั้งทีเขาคงไม่มาคอยตื้อฝืนใจให้ทำอะไรไปมากว่านั้นหรอก ได้มาแค่นี้ก็ดีมากแล้ว ดีกว่ามานั่งงมหาทางเองอย่างไม่รู้ทิศรู้ทาง ซึ่งมันคงจะยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

"อืม...แล้วจะออกเดินทางตอนนี้เลยเหรอครับ"ซีทานถามอย่างเสียดาย เขายังอยากจะให้เซบาสเตียนอยู่คุยกับเขานานๆกว่านี้หน่อย น่าเสียดายจริงๆ

"ครับ ผมต้องรีบแล้วล่ะ เวลามันกระชั้นเข้ามาทุกที ผมไม่แน่ใจนักว่ากว่าจะหาคนๆนั้นเจอต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน อาจจะวันหรือสองวันหรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้ผมก็ได้แต่หวังว่าศพคนของผมคงจะไม่เน่าไปเสียก่อนที่ผมจะนำวิญญาณพวกเขากลับมานะ"เซบาสเตียนพุดด้วยท่าทีจริงๆจังก้มหน้าก้มตาดูแผนที่ไปแล้วลองนึกดูว่าสถานที่ในภาพที่ซีทานเขียนนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ คงต้องไปค้นหาให้เห็นด้วยตาตัวเองซะแล้ว

"อืม ไว้พบกันใหม่นะเซบาสเตียน"มักเกิลบอกยิ้มๆ

"ครับคุณมักเกิล คุณซีทาน ลาก่อนครับ ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ"เซบาสเตียนหันมาบอกลาปีศาจหนุ่มทั้งสองแล้วกลับหลังหันเดินถือแผนที่ออกไปทำท่าจะออกไปจากหุบเขาแต่ทว่า

"นี่คิดจะไปโดยไม่บอกลาข้าสักคำเลยเหรอเซบาสเตียน"เสียงคุ้นๆ ชายหนุ่มร่างสูงจึงหันกลับไปดู

"อ้าวอรุณสวัสดิ์คุณบอด็อก ตื่นแล้วหรือครับ"เซบาสเตียนหันมาทักทายยิ้มๆ

"อืม พึ่งตื่นเมื่อกี้ตอนได้ยินเสียงระเบิด ข้าเลยรีบมาดู นี่มันเรื่องอะไรกันอีกล่ะ เจ้ามักเกิล เมื่อวานก็ทีนึงแล้ว พวกแกนี่ชอบทะเลาะกันจริงๆเลยนะ เดี่ยวข้าก็จับมาลงโทษให้หมดเลยนี่"บอด็อกหันมาต่อว่ามักเกิลทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ที่มาเห็นสภาพลูกสมุนตนอื่นๆหลายสิบตนนอนสลบเลือดอาบตัวเกลื่อนตามทางเดินบริเวณที่พัก

"ขอโทษขอรับนายท่าน พวกพ้องของข้ามันดื้อรั้นคิดจะต่อต้านไม่ยอมเชื่อฟังข้า เลยสั่งสอนพวกมันไปนิดหน่อย "มักเกิลพูดพรางก้มหัวขอขมาบอด็อกอย่างรู้สึกผิดที่ตนไม่สามารถทำให้พวกพ้องยอมรับการเป็นหัวหน้าของเขาได้

"หึ รู้สึกจะหนักมือไปหน่อยสินะ เล่นกันเลือดอาบเลยนี่ หึ ถ้าพวกมันยังต่อต้านเจ้าอีก ข้าจะจับพวกมันไปลงโทษซะเลยดีมัย ข้าจะลงโทษให้หนักเลยชอบก่อความวุ่นวายกันดีนัก"บอด็อกพูดพรางก้มลงไปดูสภาพของพวกลูกสมุนที่คิดจะต่อต้านหัวหน้าอย่างไม่พอใจ คิดจะจับเจ้าพวกนี้ไปลงโทษให้หนักๆจะได้เลิกก่อความวุ่นวายกันสักที

"ไม่เป็นไรมิได้ขอรับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะนายท่าน ข้าเป็นหัวหน้าของพวกมัน ยังไงเรื่องนี้ข้าก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วขอรับ"มักเกิลพูดอย่างใจเย็นขอขอรับผิดชอบเองในฐานะของหัวหน้าปีศาจหิมะ

"แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อไปล่ะมักเกิล จับพวกมันทั้งหมดไปโบยดีมัย ข้าจะได้ช่วยจัดการด้วย"บอด็อกถาม เซบาสเตียนกับซีทานก็ยืนฟังอยู่ด้วยที่นอกห้อง

"อย่าเลยขอรับแค่โดนข้าเล่นงานไปแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ ถึงยังไงเจ้าพวกนี้ก็ยังคงเป็นเพื่อนของข้า ข้าไม่อยากให้พวกนั้นยอมรับข้าเพียงเพราะความหวาดกลัว แต่ข้าอยากให้พวกนั้นยอมรับข้าด้วยความจริงใจต่างหาก ข้าอยากเป็นหัวหน้าที่ดีเหมือนนายท่าน ถึงในตอนแรกๆนี้จะมีอุปสรรคไปบ้าง แต่ข้าก็จะอดทนจนกว่าจะผ่านพ้นมันไปให้ได้ ข้าเชื่อว่าความจริงใจของข้าจะต้องเอาชนะใจของพวกพ้องได้สักวัน"มักเกิลพูดยิ้มๆด้วยจิตใจที่เข้มแข็งมุ่งมั่น

"อืม ข้าจะรอดูความสำเร็จของเจ้านะมักเกิล สู้ๆอย่าท้อล่ะ"บอด็อกพูดยิ้มๆเอามือมาตบไหล่มักเกิลให้กำลังใจ

"ขอบคุณขอรับ นายท่านเองก็ต้องเอาชนะใจนายหญิงให้ได้นะขอรับ"มักเกิลเองก็ให้กำลังใจบอด็อกเช่นกัน 

เซบาสเตียนกับซีทานยืนมองดูด้วยความประทับใจในมิตรภาพของปีศาจหิมะทั้งสองนี้ แล้วจากนั้นพอนึกขึ้นได้ว่าเสียเวลามามากแล้วอีกาหนุ่มจึงถือโอกาสเอ่ยลากันเสียที

"เอ่อ..ผมคงต้องไปแล้วล่ะครับทุกคน ไว้วันหลังจะมาเยี่ยมใหม่นะครับ"เซบาสเตียนบอกลายิ้มๆ

ซีทาน มักเกิลและบอด็อกต่างเดินมาหาแล้วพยักหน้าให้

"จะไปแล้วเหรอ เออๆ โชคดีๆ"บอด็อกพูดอวยพรอีกคน

"มาข้าจะไปส่งที่หน้าหุบเขา"มักเกิลพูดยิ้มๆอาสาจะพาเพื่อนอีกาไปส่งข้างนอกหุบเขาดิวอี้

"ผมเองก็จะไปส่งคุณเช่นกัน"ซีทานเองก็อยากจะไปส่งเพื่อนเหมือนกัน

"อืม ขอบคุณนะ ทุกคน"เซบาสเตียนพยักหน้ารับยอมให้เพื่อนปีศาจไปส่ง

แล้วจากนั้นก็พากันเดินไปตามทางออกไปจากหุบเขา บอด็อกเป็นคนเดินนำ เซบาสเตียน ถัดมาเดินมาพร้อมกับซีทาน และมีมักเกิลเดินตามหลังเป็นคนสุดท้าย ทยอยกันออกมาที่ปากถ้ำ เดินต่อไปอีกก็ถึงทางออกไปจากบิรเวณหุบเขาดิวอี้แล้ว

"ข้าส่งเจ้าแค่นี้นะ ตอนนี้แดดเริ่มจะออกแล้วข้าไม่ค่อยชอบแดด"บอด็อกหันมาบอกเซบาสเตียนเขามาส่งอีกาหนุ่มที่หน้าปากทางเท่านั้น 

"ข้าเองก็เช่นกัน บ๊ายบาย"มักเกิลพูดยิ้มๆแล้วโบกมือลา

"ผมเองก็ด้วย ขอให้หาบ้านหลังนั้นเจอไวๆนะ คุณเซบาสเตียน ขอให้ช่วยคนของคุณได้สำเร็จ"ซีทานอวยพรแล้วโบกมือลาส่งยิ้มน่ารักๆให้

"บ๊ายบายครับทุกคน"เซบาสเตียนหันมาโบกมือลาแล้วเดินถือแผนที่เดินจากไป ไกลเรื่อยๆจนลับสายตาพวกปีสาจหิมะและปีศาจนกพิราบสีเทา
จากนั้นเขาก็เอาแผนที่มาพับเก็บใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยเตรียมกางปีกบินกลับเกราะปีศาจในทันที เขาจะต้องตามหาซีโร่ให้เจอให้ได้

ส่วนพวกบอด็อก กับมักเกิลก็แยกย้ายกันไปเก็บกวาดเจ้าพวกลูกสมุนพาไปทำแผลรักษาตัวไปตามระเบียบ

ซีทานเองก็กลับไปที่ห้องพักของตน จัดการเก็บที่นอนให้เรียบร้อยแต่ในขณะที่กำลังเก็บข้าวของภายในห้องอยู่นั้น เขาก็เหลือบไปเห็นขวดโหลใส่ลูกไฟดวงเล็กๆสีแดง เขาจึงรู้ในทันทีว่ามันคืออะไร

"เอ๊ะ นี่มัน ขวดไฟสื่อสารของคุณเซบาสเตียนนี่ สงสัยคงจะลืมเอาไปแหง๋เลย"ซีทานพึมพำพรางก้มลงมาเก็บขวดโหลไฟสื่อสารเอามาพิจาณาดู แล้วหันไปมองที่ประตูอย่างไม่แน่ใจ

"ถ้าเราจะเอาไปให้คุณเซบาสเตียนตอนนี้ เค้าจะไปไกลแล้วหรือยังนะ"ซีทานพูดพรางก้มลงมองดูดวงไฟสีแดงอย่างพินิจพิเคราะห์

"ไฟสีแดงแบบนี้ แสดงว่าต้องมีใครส่งข้อความมาหาเขาแน่ๆ อืม..แอบเปิดดูดีกว่า..ใครกันน้าเขียนถึงเขา แอบอ่านดีกว่า หึหึหึ"ซีทานพูดไปพรางเอาขวดโหลมาแอบเปิดฝาแล้วหยิบข้อความในดวงไฟสีแดงขึ้นมาดู ด้วยความอยากรู้อยากเห็น (รู้สึกว่านายจะชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่นเกินไปแล้วนะเจ้าซีทาน)

และจากนั้นซีทานก็เอากระดาษที่หยิบมาจากดวงไฟสีแดงซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นสีฟ้าไปเรียบร้อยแล้วมาคลี่เปิดออกอ่านด้วยความอยากรู้อยากเห็นในทันที

และในกระดาษมีข้อความดังนี้ ซึ่งเขียนชื่อผู้รับตัวเบ่อเร่อเลยทีเดียว สร้างความขบขันให้กับคนแอบอ่านเป็นอย่างมาก

[ เจ้าบ้าเซบาสเตียน ไอ้ปีศาจใจร้าย ไอ้บ้าจอมหื่น ไอ้อีกาตัวดำปี๋ ไอ้เสาไฟข้างถนน แกทำอย่างงี้กับฉันได้ยังไง แอบหนีไปไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำ ปล่อยให้ฉันอยู่ตามลำพังกับตาลุงนั่น แถมยังมาทำอะไรกับตาขวาของฉันอีก กะว่าจะไม่ให้ฉันเรียกหาแกเลยใช่มัย ใช่ซี่ฉันมันเป็นตัวถ่วงของแกนี่ แกถึงอยากจะทิ้งฉันและหนีไปให้พ้นๆ ฉันรอแกตั้งนานทำไมแกถึงไม่ยอมติดต่อมาบ้างเลย ฉันจะเป็นตายร้ายดียังไงแกก็ไม่สนใจงั้นสินะ คอยดูนะถ้าแกกลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะสั่งงดเล่นจ้ำจี้เป็นอาทิตย์เลย คอยดู เอาหล่ะด่าพอและมาเข้าเรื่องงานต่อแล้วกัน เรื่องพวกคนใช้พวกนั้นนายจัดการไปถึงไหนแล้ว ส่งข่าวมาบอกบ้างสิ ตอนนี้ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดียังไงไม่รู้ นายช่วยคนพวกนั้นได้หรือยัง แล้วช่วยรีบกลับมารับฉันเร็วๆด้วยนะ มาเล่าให้ฟังด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นทางนั้นบ้างฉันจะรอ 

ปล ฉันได้ดวงไฟสื่อสารเป็นของตนเองแล้วล่ะ อีกหน่อยหากเราต้องแยกไปทำงานจะได้ติดต่อหากันได้สะดวกไง ฉันได้แต่หวังว่านายจะรีบมาหาฉันนะ 

จาก ชิเอล แฟนท่อมไฮด์ 

ผู้รับ
เซบาสเตียน มิคาเอลลิส ]

"หึหึหึ เขียนชื่อผู้รับตัวเบ่อเร่อเลยนะเนี่ย เด็กคนนั้น เล่นด่าใส่คุณเซบาสเตียนเป็นชุดเลยแฮะ เอาไงดีเขียนบอกดีมัยนะว่า คุณเซบาสเตียนกำลังจะกลับไป หึ อยากด่าคุณเซบาสเตียนดีนักเขียนแกล้งสักหน่อยดีกว่า หึหึหึ "ซีทานยิ้มกริ่มกะแกล้งเด็กเอาแต่ใจเล่นสักหน่อยจึงเขียนตอบไป

พอซีทานเขียนเสร็จเขาก็เอากระดาษข้อความที่ตนเขียนหย่อนใส่กลับลงไปในขวดโหลดวงไฟจึงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงไม่นานก็กลับมาเป็นสีฟ้าตามเดิมพร้อมกับข้อความที่อันตธานหายไป

"หึ คราวนี้ก็เรียบร้อย ไปอาบน้ำดีกว่าเดี๋ยวจะได้ไปทำงานต่อ"พอจัดการส่งข้อความไปเรียบร้อยแล้วซีทานก็ลุกจากเก้าอี้เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหาเสื้อผ้าตัวใหม่มาใส่แล้วจากนั้นก็ออกไปจากห้องโดยทิ้งขวดโหลไฟสื่อสารเอาไว้ที่โต๊ะทำงาน 

ส่วนทางด้านเซบาสเตียนผู้ขี้ลืม ในตอนนี้กำลังหายตัวไปที่ริมชายฝั่งลอนดอน เขาจำจุดแลนดิ้งได้จึงสามารถหายตัวไปได้อย่างช่ำชอง แล้วกางปีกโบยบินขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็ว พุ่งทยานขึ้นมาสูงลิ่วเหนือก้อนเมฆไปเรื่อยๆ ในใจก็อดเป็นห่วงนายน้อยของเขาไม่ได้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ 

"นายน้อยรอผมก่อนนะ ผมจะรีบไปหาคุณ เดี๋ยวนี้แหละ"เซบาสเตียนพูดกับตนเองอย่างมุ่งมั่นพรางเร่งสปีดความเร็วในการบินกลับเกราะปีศาจอย่างเร็วจี๋ 

ท้องฟ้าเริ่มสว่างมากขึ้นเรื่อยๆจากการขึ้นของดวงอาทิตย์ ที่ขอบฟ้า เป็นแสงแห่งอรุณรุ่งที่สวยงามตระการตา จนอีกาหนุ่มถึงกลับเอาแขนมาปิดบังแสงที่สะท้อนไปกับผิวน้ำ ป่านนี้ปีศาจอย่างพวกแวมไพร์คงจะพากันกลับสู่โลงกันเกือบหมดแล้วแน่ๆ และบันดาเหล่าปีศาจที่ชอบตื่นกันเช้าๆ บ้างก็ออกมาดินเล่นตามลิมน้ำ บ้างก็ไปวิ่งออกกำลังกาย บ้างก็เตรียมอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีวิถีชีวิตที่ไม่ค่อยจะแตกต่างไปจากพวกมนุษย์มากนัก

เซบาสเตียนบินลอดผ่านซุ้มประตูสีแดงเลือดเข้ามาถึงในเมืองซาตานเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้มาเห็นพวกปีศาจต่างพากันมาเดินจับจ่ายซื้อของกันแต่เช้าเลยทีเดียว ซาตานหนุ่มล่อนลงมาเดินหาที่สงบๆตามซอกตึกแล้วหยิบแผนที่ ซึ่งซีทานเขียนเอามาพิจารณาดูและมองไปรอบๆเพื่อหาสถานที่ที่ระบุอยู่ในแผนที่ไปด้วย ในระหว่างที่เขากำลังเดินตรงไปยังบ้านของแลนกาบปีศาจวัยกลางคนที่แสนดีไปเรื่อยๆเพื่อไปหาคนสำคัญของเขา

"อืม แทบจะมองไม่ค่อยออกเลยแฮะว่า จุดสังเกตของสถานที่ใกล้เคียงที่ซีทานระบุมันอยู่ตรงส่วนไหนของเมืองซาตานกันแน่นะ"เซบาสเตียนเดินไปพรางก้มลงมองดูแผนที่ไปพราง เงยหน้ามองไปรอบๆไปพรางเขาก็ยังหาจุดสังเกตที่ระบุในแผนที่ไม่เจอเลย 

"เฮ้อ..ช่างเถอะ ไปปรึกษานายน้อยก่อนดีกว่า ใกล้ถึงบ้านคุณแลนกาบและ"เซบาสเตียนพูดพรางพับแผนที่เก็บใส่กระเป๋าเสื้อแล้วเดินไปตามทางไปเรื่อยๆผ่านตอกซอยต่างๆจนกระทั่งมาถึงที่หมายนั่นก็คือ บ้านของแลนกาบนั่นเอง 

ชายหนุ่มร่างสูงเดินดุ่มๆเข้าไปในบริเวณบ้านแล้วก็มาเคาะประตูเรียก

ก๊อกๆ ก๊อกๆ

"คุณแลนกาบครับเปิดประตูหน่อย"เซบาสเตียนเรียกเสียงดังพรางเอามือเคาะประตูสองสามที

"ใครน่ะ!!"เสียงที่คุ้นเคยถามขึ้นมาก่อนจะเดินมาเปิดประตูให้ ท่าทางแลนกาบจะตื่นมาได้สักพักแล้วสินะ

"ผมเองครับ เซบาสเตียน"เซบาสเตียนตอบกลับไป แล้วยืนรอ

แอ๊ดดดดด แล้วประตูบ้านก็ถูกชายผมแดงเปิดออกแล้วโล่หน้าออกมา ก่อนจะยิ้มให้อย่างมีไมตรีเขาพึ่งตื่นนอนเลยยังสวมชุดนอนอยู่ ยังไม่อาบน้ำเลย

"อ้าวกลับมาแล้วเหรอ เจ้าหนู เป็นไงบ้างล่ะ ทำงานสำเร็จมัย"แลนกาบถามด้วยความห่วงใย

"เฮ้อ.......-*-."เซบาสเตียนได้แต่ถอนใจแล้วส่ายหน้าอย่างปลงๆ

"อ้าว ทำไมถึงถอนใจแบบนั้นเล่า ตกลงว่าไม่สำเร็จเหรอ "แลนกาบถามต่อมองหน้าเจ้าหนูของเขาอย่างแปลกใจ

"ครับ ไปช่วยไม่ทัน คนของผมถูกดูดวิญญาณไปอีกแล้ว" เซบาสเตียนบอกอย่างกลัดกลุ้ม

"ตายจริงทำไมคนพวกนั้นของเจ้าถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้ล่ะ เจ้าอุตส่าห์ช่วยพาหนีออกมาจากพวกข้าแท้ๆเชียว แล้วคราวนี้ปีศาจตนไหนจับวิญญาณไปกันล่ะ "แลนกาบร้องอุทานอย่างตกใจเอามือทาบอก พรางเงยหน้ามองดูสีหน้าท่าทางของเซบาสเตียนอย่างสงสารเห็นใจ

"ปีศาจเหยี่ยวดำครับ ที่มีโคดเนมว่า ซีโร่"เซบาสเตียนก้มหน้าพูดอย่างเหนื่อยใจ

"ซีโร่เหรอ..อืม..ใครกัน ข้าไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย เอ่อไปคุยกันที่สวนหลังบ้านข้าดีกว่า มายืนคุยหน้าประตูบ้านแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ไปๆ เจ้าปีศาจน้อยชิเอลยังหลับอุตุอยู่เลยแน่ะ ปล่อยให้นอนไปจนกว่าเค้าจะตื่นเองไปเถอะ อย่าไปปลุกเค้าเลย ไปนั่งคุยที่สวนดีกว่า เช้าๆนี้อากาศดีนะ"แลนกาบเอ่ยปากชักชวนเซบาสเตียนเดินตามเขาไปนั่งคุยกันที่สวนหลังบ้าน

"ครับ คุณแลนกาบ"เซบาสเตียนตอบรับพรางเดินตามชายผมแดงไปเรื่อยๆจนมาถึงสวนหลังบ้าน ซึ่งบริเวณนั้นมีโต๊ะหินตั้งไว้พร้อมกับเก้าอี้หินอยู่สองสามตัวซึ่งโดยรอบๆมีรูปปั้นและสวนหย่อมถูกจัดตกแต่งเอาไว้จัดเอาไว้สำหรับการนั่งพักผ่อนมองดูดอกไม้ไปเพลินๆเวลาเพื่อนฝูงแวะมาเยี่ยมเยียนบ้านพวกเขาก็พากันมานั่งคุยสังสรรค์กันแถวนี้นั่นแหละ

"เอาหล่ะ นั่งลงตรงนี้ก่อนเซบาเตียน เดี๋ยวข้าไปเอาน้ำมาให้นะรอแป๊บนึง "แลนกาบพูดยิ้มๆเชื้อเชิญให้เซบาสเตียนมานั่งที่เก้าอี้หินรอไปก่อน ชายหนุ่มพยักหน้ารับแล้วค่อยๆหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ที่เจ้าของบ้านจัดเอาไว้อย่างว่าง่าย ส่วนเจ้าของบ้านก็เดินกลับเข้าบ้านไปจัดแจงเตรียมน้ำมาเสริฟให้ตามมารยาทที่ดีของการต้อนรับแขกมาที่บ้านตามปกติ

เซบาสเตียนนั่งมองดูดอกไม้ดูวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอให้แลนกาบเอาน้ำมาเสริฟให้ พรางหัลตาเงยหน้าขึ้นสูดอากาศรอบๆตัวด้วยความรู้สึกสดชื่น รื่นรมย์ไปพรางๆ 

จากนั้นไม่นานแลนกาบก็เดินมาพร้อมกับถาดที่มีแก้วน้ำสองใบและน้ำเปล่าเย็นๆหนึ่งเหยือกใหญ่ๆ เอามาวางที่โต๊ะแล้วหยิบเหยือกน้ำมาเทใส่แก้วแล้วเอามาวางไว้ตรงหน้าเซบาสเตียนก่อนจากนั้นก็รินใส่ในแก้วอีกใบสำหรับตนเอง

"แหมไม่ต้องบริการถึงขนาดนี้ก็ได้ครับ คุณแลนกาบ แค่คุณยอมรับฝากเด็กคนนั้น ผมก็เกรงใจคุณจะแย่แล้วครับ"เซบาสเตียนพูดอย่างเกรงใจแต่ก็ยอมรับแก้วที่มีน้ำเย็นๆมาดื่มแก้กระหายไปอย่างไม่ลังเลเลย เขาไม่คิดหรอกว่าปีศาจที่แสนดีอย่างแลนกาบจะวางยาอะไรเขาแน่ๆ

"ไม่ต้องเกรงใจข้าหรอก เราเป็นคนกันเองทั้งนั้น ยังไงพวกเจ้าก็เหมือนเป็นลูกเป็นหลานข้าอยู่แล้ว จะฝากเอาไว้กี่วันก็ได้ข้าไม่ว่าอะไรหรอก เจ้าหนูชิเอลเองก็เป็นเด็กดีไม่ค่อยดื้อสักเท่าไหร่ ให้มาอยู่ด้วยข้าก็จะได้มีเพื่อนคุยไม่เหงาไง"แลนกาบพูดยิ้มๆอย่างอารมณ์ดี เขารักและเอ็นดูเซบาสเตียนและชิเอลเหมือนเป็นลูกหลานของตนเองจริงๆ การที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนทำหใเขาคลายความเหงาไปได้เยอะทีเดียว

"อ่า..จริงหรือครับ งั้นถ้าผมจะขอฝากเอาไว้อีกสักวันสองวันล่ะ ผมอยากให้เขาได้พักผ่อนให้เต็มที่น่ะครับ จะได้หายป่วยสักที ตอนนี้ผมเองก็กำลังจะทำงานใหญ่และต้องทำให้สำเร็จด้วย ถึงแม้ว่ามันจะยากสักเพียงไหนก็ตามผมจะต้องตามล่าหาตัวซีโร่ให้เจอให้ได้ภายในเจ็ดวันนี้

"อืม..จะให้ข้าช่วยอะไรก็บอกนะ สถานที่ทั้งเกาะแถวนี้ข้ารู้จักหมดน่ะแหละ"แลนกาบพูดยิ้มๆอาสาจะเป็นผู้ช่วยเจ้าหนูของเขาอย่างเต็มที่เลยทีเดียว

"เห...จริงหรือครับ คุณแลนกาบรู้จักเกราะนี้ดีหมดทั้งเกราะเลยเหรอ"เซบาสเตียนร้องถามอย่างมีความหวังขึ้นมาทันที

"อืม ก็ข้าอยู่ที่นี่มาตั้งหลายร้อยกว่าปีแล้วนี่นา สำหรับปีศาจวัยเยาว์ที่พึ่งมาอยู่ได้ไม่นานอย่างพวกเจ้าไม่มีทางที่จะรู้ดีไปกว่าข้าได้หรอก หึหึหึ"แลนกาบพูดยิ้มอวดอ้างสรรพคุณตนเองด้วยความมั่นอกมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเจ้ากาหนุ่มนี่ได้แน่ๆ

"ถ้าอย่างงั้น นี่ครับ แผนที่ ช่วยดูหน่อยว่าสถานที่ใกล้เคียงบ้านของซีโร่อยู่ที่ไหน"เซบาสเตียนพูดพรางเอาแผนที่มากางออกแล้วยื่นไปตรงหน้าให้แลนกาบดูด้วยท่าทีจริงจัง

"อืม..."แลนกาบพูดพรางหยิบแผนที่มาพิจาณาดูใกล้ๆแล้วหลับตานึกดูว่าจุดสังเกตที่ระบุในแผนที่นั้นอยู่ตรงส่วนไหนของเกาะปีศาจ
เซบาสเตียนนั่งคอยสายตาจับจ้องมองดูแลนกาบตาไม่กระพริบด้วยความลุ้นว่าแลนกาบจะช่วยเขาหาตัวซีโร่ได้หรือเปล่า

"อืม...เอ...คุ้นๆอยู่นะ..ถ้าจำไม่ผิดนี่มันน่าจะอยู่ในเขตชนบทนอกเมืองซาตาน... "แลนกาบดูแผนที่ไปปากก็พึมพำคิ้วขมวดมุ่นหลับตานึกไปเรื่อยๆ

"เห..นอกเมืองซานตานงั้นหรือครับ"เซบาสเตียนถามกระพริบตาปริบๆเพื่อขอคำยืนยันจากปากของแลนกาบ

"ใช่แล้วล่ะ..เพราะเท่าที่ข้าดูจุดสังเกตที่ระบุไว้ในแผนที่ไม่น่าจะมีอยู่ในเมืองซาตานแน่ๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปีก็ตาม"แลนกาบยืนยันด้วยเสียงหนักแน่น

"ถ้ามันอยู่ในเขตชนบทนอกเมือง จะเป็นไปได้มัยว่ามันอยู่แถวๆป่า หรือไม่ก็ทุ่งหญ้าอะไรพวกนั้น"เซบาสเตียนถามต่อไปอีกด้วยความสนใจ

"ใช่ มันน่าจะเลยป่าไป น่าจะอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าหมูบ้าน ลันดอนกอล หรืออะไรกอลๆนี่แหละ"แลนกาบพูดออกมาตามความคิดของตนเองแต่เขาไม่แน่ใจว่าเอ่ยชื่อหมู่บ้านถูกหรือเปล่า

"เห...ในเกาะนี้มีหมู่บ้านลันดอนกอนด้วยเหรอครับ ผมไม่เห็นจะเคยได้ยิน"เซบาสเตียนถามอย่างงุนงง เขาไม่เห็นจะเคยได้ยินชื่อหมู่บ้าที่แลนกาบบอกมาก่อนเลย 

"เอ่อ..ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าหมู่บ้านนั้นมันมีชื่อว่าอะไรกันแน่ แต่รู้มาว่าหมูบ้านนั้นอยู่ไม่ไกลจากป่า "แลนกาบพูดอย่างไม่มั่นใจแต่เขาน่าจะคิดมาถูกทางแล้วล่ะ

"ถ้าเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ป่า และทุ่งหญ้า ก็คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก หมู่บ้านแลนดิกอล!ใช่มัยครับ แลนกาบ!"เซบาสเตียนพูดโพล่งออกมา ตอนนี้เขาถึงบางอ้อแล้วที่แลนกาบบอกว่าอะไรกอลๆนี่แหละ มันก็คือชื่อหมู่บ้านของเขาเอง 

"เออๆ แลนดิกอล ใช่แล้ว เหอะๆ ไอ้ข้าก็ดันจำสับสนดันไปอ่านว่า ลันดอนกอลไปซะได้ ฮ่า ฮ่า อ่า"แลนกาบพยักหน้าเห็นด้วยเอามือตบหน้าผากตนเองแล้วหัวเราะอย่างขบขันตัวเองที่ดันไปเรียกชื่อหมู่บ้านผิดถูกไปเสียได้

"หึหึหึ ลันดอนกอล ชื่อเก๋ดีนะครับ เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านให้เสร็จสรรพเลยคุณนี่"เซบาสเตียนแซวยิ้มๆ 

"แหมก็ข้าไม่ค่อยได้ไปแถวนั้นจะไปจำชื่อจริงๆของมันได้ยังไงกันเล่า แล้วนี่เจ้ารู้จักหมู่บ้านนั้นได้ยังไง"แลนกาบแก้ต่างอย่างเขินๆแล้วถามต่อมองหน้าเซบาสเตียนอย่างสงสัย

"ก็เคยผ่านไปแถวนั้นบ่อยๆตอนกลับบ้านน่ะครับ"เซบาสเตียนพูดอ้อมๆไปไม่อยากจะบอกหรอกว่านั้นมันหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่

"บ้านเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ"แลนกาบถามอย่างตรงไปตรงมา

"ก็อยู่แถวๆนั้นแหละครับ เอาหล่ะ ผมพอจะรู้แล้วว่าบ้านเจ้าซีโร่มันอยู่ไหน ขอบคุณมากครับที่ช่วยแนะแนวทางให้ ผมไปก่อนล่ะ ฝากเด็กคนนั้นอีกสักพักนะครับ แล้วผมจะรีบกลับมา ขอตัวไปเซอร์เวยเส้นทางตามแผนที่ก่อนนะครับ "เซบาสเตียนพูดแบบขอไปทีแล้วผุดลุกขึ้นยืนคว้าแผนที่ไปถือไว้เสียเอง ทำท่าจะรีบร้อนออกไปตามหาซีโร่ต่อ ตอนนี้เขาพอจะรู้แล้วว่าจะคลำทางหาเจ้าเหยี่ยวดำนั่นได้ที่ไหน มันอยู่แถวๆบ้านเขาน่ะเอง แหมจุดใต้ตำตอจริงๆ เขาไม่น่าโง่คิดไม่ออกเลย นี่ถ้าไม่ได้แลนกาบเป็นผู้จุดประกายความคิดให้ล่ะก็ป่านนี้เขาคงงงเป็นไก่ตาแตกหาทางงมเองไม่ถูกแน่ๆ

"อะไรกันจะรีบไปแล้วเหรอ มาอยู่คุยกับข้าต่ออีกสิ พึ่งคุยกันได้นิดเดียวเอง จะรีบร้อนไปไหน"แลนกาบร้องประท้วงอย่างไม่พอใจเล็กน้อยที่เจ้าหนูของเขานึกจะไปก็ไปนึกจะมาก็มา น่าจะอยู่คุยกับเขานานๆให้หายคิดถึงหน่อยก็ไม่ได้

"เอาไว้เสร็จงานนี้แล้วผมจะมาแวะคุยบ่อยๆนะครับ ตอนนี้ขอตัวไปทำธุระสำคัญต่อให้สำเร็จก่อน..อ้อจริงสิเรื่องเหยื่อผมเตรียมเหยื่อเอาไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ขนมาให้พวกคุณเลย ครั้งนี้น่าจะได้หลายคนอยู่ พวกคุณเตรียมจัดปาตี้กันที่ริมชายฝั่งได้เลยนะครับ ไว้เสร็จงานนี้เมื่อไหร่ผมจะลำเลียงเหยื่อส่งไปให้พวกคุณทันที แล้วผมจะติดต่อไป คิดว่าน่าจะไม่เกินวันสองวันนี้แหละ บ๊ายบาย"เซบาสเตียนหันมาบอกก่อนจะเดินตัวปลิวไปกับแผนที่ออกไปจากบ้านของแลนกาบอย่างรวดเร็ว 

"มาไวไปไวเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิดเลยน้า เจ้าหนูเอ๊ย เฮ้อ.."แลนกาบเดินตามมาหยุดยืนบ่นที่หน้ารั้วบ้านส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจในการหนีหายไปไวของอีกาหนุ่มที่หายไปอย่างรวดเร็วจนเรียกหรือรั้งเอาไว้ไม่ทันเลยทีเดียว แต่เขาก็ไม่ถือสาอะไรนักหรอก ก็อีกาหนุ่มตนนี้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วนี่นะ ทำอะไรว่องไวลื่นไหลยังกับสายน้ำ จับไม่ได้ไล่ไม่ทันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่

และเจ้าหนูที่แลนกาบยืนบ่นอยู่หน้ารั้วบ้านในตอนนี้กำลังบินขึ้นฟ้ากลับบ้านของตน เขาจะไปงมหาเส้นทางต่อจากปากทางเข้าบ้านของเขาเองนั่นแหละ งานนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาดว่าบ้านของเขาอยู่ไหน เขาจึงต้องบุกตลุยเดี่ยวทำงานตามลำพังอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้

ชายหนุ่มล่อนลงมายืนที่หน้าปากทางแล้วก็เดินมองดูรอบๆสลับกับเอาแผนที่มากางดู มองหาจุดสังเกตุให้เจอ ไปเรื่อยๆ 

"เห....ในแผนที่ระบุถึงซากปรักหักพังงั้นเหรอก็บ้านเราเองนี่หว่า จริงสิ สายตาของคนนอกจะมองเห็นเป็นแบบนั้นสินะ อืม...เริ่มจะมาถูกทางแล้ว เดินต่อไปอีกเรื่อยๆงั้นเหรอ..."เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองไปเดินไปตามเส้นทางโดยที่ตาของเขาเอาแต่จับจ้องมองดูแผนที่ลายแทงขุมทรัพย์อย่างไม่ลดละ 

"เดินไปอีกหนึ่งร้อยเมตร จะเจอ สุสาน...สินะ"เซบาสเตียนพูดไปพรางเดินตามแผนที่ไปพราง
พอเดินไปตามทางได้สักพักเซบาสเตียนก็เงยหน้าขึ้นหันไปมองรอบๆแล้วเขาก็เจอ...

"นี่ไงสุสาน จากนั้นไปทางขวาสินะ อืมๆ"เซบาสเตียนเดินไปพึมพำไปตามแผนที่ไปเรื่อยๆพอเจอสุสานเขาก็เจอกับทางแยกสองทาง เขาก็เดินเลี้ยวไปขวา

"ผ่านสะพานข้ามน้ำเดินไปอีกเรื่อยๆจนถึงทุ่งเลี้ยงสัตว์ แล้วก็จะถึงสถานที่ใกล้เคียงบ้านของซีโร่ อืม..เข้าใจล่ะ ต้องหาบ้านเจ้าเหยี่ยวนั้นให้เจอให้ได้ ลองไปถามปีศาจแถวนี้ดูดีกว่าเผื่อพวกนั้นจะรู้จักบ้านของเจ้าเหยี่ยวดำก็เป็นได้"เซบาสเตียนยืนมองดูไปรอบๆหาใครสักคนที่จะช่วยเขาค้นหาบ้านของซีโร่ แต่ดูเหมือนแถวๆนี้จะไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมาเลย ทั้งๆที่อยู่ในอาณาเขตของหมู่บ้านแท้ๆและเต็มไปด้วยบ้านคนหลายสิบหลัง แล้วเขาจะรู้มัยล่ะเนี่ยว่าบ้านหลังไหนเป็นบ้านของเจ้าเหยี่ยวดำ หรือปีศาจพวกนั้นนยังนอนกันไม่ตื่นกันแน่นะ

"ทำไมไม่เห็นจะมีปีศาจที่ไหนผ่านมาแถวนี้บ้างเลย บ้านแต่ละหลังก็เงียบกริบแล้วเราจะไปถามใครดีล่ะ หรือจะลองเสี่ยงไปเคาะตามบ้านถามดูดีมัยนะ"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองยืนมองดูรั้วบ้านในแต่ละหลังอย่างไม่มั่นใจ เขาจะต้องถามใครสักคนที่อยู่แถวนี้สินะ

"เอาหล่ะเป็นไงเป็นกัน"พอคิดตัดสินใจได้แล้ว เซบาสเตียนจึงเดินตรงไปยังบ้านหลังหนึ่งแล้วกดกริ่งเรียกเจ้าของบ้านในทันที

กริ๊งงงงงง เสียงเซบาสเตียนยื่นมือมากดกริ่งหน้าบ้านของปีศาจแถวๆนี้แล้วจากนั้นก็ยืนรอให้เจ้าของบ้านออกมา

และเพียงไม่นานหลังจากที่ซาตานหนุ่มกดกริ่งไปแล้วเจ้าของบ้านหลังสีขาวก็เปิดประตูเดินออกมา ท่าทางงัวเงียสงสัยคงพึ่งตื่นนอน หรือไม่ก็คงสะดุ้งตื่นเพราะเสียงกริ่งรบกวนของแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่นแหละ

"มาหาใครล่ะพ่อหนุ่ม"ปีศาจสาวเจ้าของบ้านเดินออกมายืนถามข้างในรั้วบ้านยังไม่ยอมเปิดให้คนแปลกหน้าเข้ามาข้างในหรอก

"ผมมาหาปีศาจน่ะครับ คือว่าผมจะมาเยี่ยมเพื่อนพอดีผมดันซุ่มว่ามทำแผนที่ของเพื่อนหาย ผมเลยไม่รู้ว่าบ้านของเขาอยู่ที่ไหน ไม่ทราบว่าคุณพอจะรู้จักปีศาจที่เป็นเหยี่ยวดำที่มาพักแถวๆนี้บ้างหรือเปล่าครับ"เซบาสเตียนลองถามดูเผื่อปีศาจสาวตนนี้จะช่วยได้

"เหยี่ยวดำ เพื่อนของเจ้าเป็นเหยี่ยวดำงั้นรึ"ปีศาจสาวถามมองหน้าชายร่างสูงอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ

"ใช่ครับ เป็นเหยี่ยวดำ ผมพึ่งเดินทางมาจากโลกปีศาจจะมาหาเขาน่ะ คุณพอจะบอกผมได้หรือเปล่าครับว่าเจ้าเหยี่ยวดำนั่นพักอยู่บ้านหลังไหน แถวนี้มีบ้านเยอะมากผมไม่รู้ว่าจะไปหาที่หลังไหนดี"เซบาสเตียนพยายามตะล่อมถามอย่างใจเย็น

"เจ้าเป็นใครกันถึงบังอาจมาแอบอ้างว่าเป็นเพื่อนกับท่านผู้นั้นได้ ตั้งแต่ข้าอยู่ที่นี่มายังไม่เห็นเคยได้ยินข่าวเลยว่าท่านผู้นั้นจะมีสหายจากโลกปีศาจ"นางปีศาจสาวเจ้าของบ้านเงยหน้ามาจ้องตาชายที่แอบอ้างเป็นเพื่อนกับท่านผู้นั้นที่มียศถาบันดาศักดิ์สูงส่งแบบนั้นได้

"ก็ผมบอกแล้วไงว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าเหยี่ยวดำ คุณจะสงสัยอะไรงั้นหรือครับ"เซบาสเตียนพยายามพูดอย่างใจเย็น

"ถ้าเจ้าเป็นเพื่อนกับท่านผู้นั้นจริง ไหนลองบอกรหัสลับประจำตัวท่านผู้นั้นมาดูซิ ถ้าเจ้าเป็นสหายของเขาจริงๆล่ะก็ เขาคงจะยอมบอกให้เจ้ารู้อยู่แล้วสินะใช่มัยล่ะ"นางปีศาจสาวต้องการรหัสยืนยันว่ารู้จักกับชายผู้นั้นจริง

"เอ่อ...รหัสอะไรหว่า..เอ่อ..ใช่ซีโร่หรือเปล่านะไม่มั้ง"เซบาสเตียนพึมพำอย่างไม่มั่นใจ

"อะไรนะ พูดอีกทีซิ"นางปีศาจสาวถามดูเหมือนนางจะได้ยินไม่ชัด

"ซะ..ซีโร่ ใช่หรือเปล่าครับ"เซบาสเตียนลองตอบดู

"นั่นมันโคดเนม ไม่ใช่รหัสประจำตัวซักหน่อย เจ้าเป็นเพื่อนของเขาแน่เหรอ"นางปีศาจสาวหลับตาพูดส่ายหน้าไปมาแล้วหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ เพราะชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้ตอบคำถามของนางผิด

"เห..เอ่อ..งั้นเหรอครับ แหะๆ ผมคงจำสับสนไปน่ะ ขออภัยด้วยครับ ผมว่าผมไปหาเขาเองดีกว่า ไม่รบกวนคุณแล้วล่ะ"เซบาสเตียนรีบบอกลาชิ่งหนีก่อนที่จะถูกสงสัยไปมากกว่านี้ และตอนนี้เขากลับคิดว่าการเข้าถึงตัวซีโร่ดูท่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิดซะแล้วสิ เล่นมีการกำหนดรหัสลับกันในหมู่บ้านซะด้วย เจ้าหมอนี่ท่าทางจะมีอิธิพลน่าดูทีเดียว

แล้วจากนั้นเซบาสเตียนก็เผ่นแนบไปทันที เขาต้องคิดแผนใหม่ซะแล้ว ต้องสืบให้รู้ให้ได้ว่ารหัสลับของซีโร่มันคืออะไร แล้วค่อยมาถามปีศาจพวกนี้อีกที 

"เฮ้อ....ตอนแรกนึกว่ามาถึงถิ่นเจ้าซีโร่แล้วจะหาตัวมันได้ง่ายๆ ไปๆมาๆดันมาเจอตอ กับคำถามบ้าๆของยัยนั่นเข้าให้อีก แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ รหัสประจำตัวเจ้าเหยี่ยวนั้นมันคืออะไรกันแน่นะ"เซบาสเตียนเดินมาแอบหลบตาซอกตึกเอาหัวโขลกกำแพงอย่างไม่สบอารมณ์ที่การหาตัวคนร้ายนั้นท่าจะไม่หมูซะแล้ว ต้องมาสืบเกี่ยวกับรหัสบ้าๆนั้นอีก แล้วเขาจะไปหารหัสพวกนั้นมาจากไหนล่ะเนี่ย โอยยา กลุ้ม 

ปึก ปึก !!เสียงเซบาสเตียนเอาหัวโขลกกำแพงระบายอารมณ์หงุดหงิดและความกลัดกลุ้มใจ ไม่รู้จะระบายความอัดอั้นกับใครดีจึงมาระบายกับกำแพงบ้านยัยปีศาจที่ตั้งคำถามเรื่องรหัสลับแทนซะเลย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา