พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท3 YAOI 18+

9.8

เขียนโดย sebbynoi

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.51 น.

  31 บท 3 ตอน พ่อบ้านผู้นั้นกับการแข่งขัน
  11 วิจารณ์
  57.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 09.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) ตอนที่ 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

และทางด้านแลนกาบในตอนนี้เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา เขาเกิดเหลือบไปเห็นแสงสีแดงสว่างจ้าขึ้นมาจากขวดโหลไฟสื่อสาร จึงรีบปิดหนังสือเอื้อมมือมาหยิบขวดโหลมาเปิดฝาและเอามือมาหยิบข้อความจากลูกไฟขึ้นมาดู

"หือ...ข้อความจากเจ้าหนูนี่นา....."ชายผมแดงที่รวบผมเป็นหางม้า หยิบมาคลี่เปิดออกอ่านและข้อความมีดีงนี้

:[ถึงคุณแลนกาบ ผมมีเรื่องจะขอร้องคุณหน่อยน่ะครับ คือ...ผมจะต้องไปทำธุระที่อันตราย จึงอยากจะขอร้องให้คุณช่วยดูแลชิเอลแทนผมหน่อยได้มัยครับ แค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง ผมพาเด็กคนนั้นไปด้วยไม่ได้เพราะเขากำลังป่วยอยู่หากพาไปด้วยจะเป็นภาระทำให้ผมทำงานไม่สะดวก คุณจะอนุญาติหรือไม่ช่วยติดต่อกลับผมหน่อยนะครับตอนนี้ผมยังอยู่ที่เมืองมนุษย์กำลังจะเดินทางไปหาคุณ ที่ผมส่งข้อความมาถามก่อนเพราะผมไม่แน่ใจว่าคุณจะอนุญาติหรือเปล่า ผมเคารพในการตัดสินใจของคุณนะครับ และผมได้แต่หวังว่าคุณจะเมตตา ผมเกรงใจคุณจริงๆที่ต้องมารบกวนแบบนี้ แต่ผมก็ไม่รู้จะหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครอีกแล้วนอกจากคุณ คุณเป็นปีศาจตนเดียวที่ผมเชื่อใจมากที่สุดนะครับ 

จาก เซบาสเตียน มิคาเอลลีส]:

"หึ เจ้าหนูจะเอาปีศาจน้อยมาฝากดูแลชั่วคราวงั้นเหรอ ก็ได้ข้าเองก็อยู่ว่างๆไม่ได้ทำอะไร มีคนมาคุยแก้เหงาบ้างก็ดีเหมือนกัน"แลนกาบพึมพำกับตนเองยิ้มๆแล้วจากนั้นเขาก็หยิบปากกามาเขียนตอบที่ด้านหลังข้อความของเซบาสเตียนสั้นๆว่า

:[ตกลง]: แล้วก็เขียนชื่อตนเองลงไปพร้อมกับเอาข้อความหย่อนใส่กลับลงไปในลูกไฟสีฟ้าส่งกลับไปให้เซบาสเตียนอย่างรวดเร็ว
ทางด้านเซบาสเตียนพอเขาเห็นลูกไฟเปลี่ยนเป็นสีแดงก็รีบหยิบกระดาษข้อความออกมาจากขวดเอาขึ้นมาอ่านอย่างลุ้นๆ

"อ้า...ตกลงงั้นหรือ ดีล่ะส่งไปขอบคุณก่อน"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆก่อนจะพับครึ่งกระดาษตรงใต้ชื่อผู้ส่งแล้วเขียนคำว่าขอบคุณลงไปสั้นๆก่อนจะหย่อนใส่ลงไปในลูกไฟซึ่งตอนนี้เป็นสีฟ้าตามเดิมพอใส่ข้อความส่งไปปั๊บไฟก็แปลเปลี่ยนเป็นสีแดงชั่วขณะหนึ่งแล้วพอข้อความหมายไปแล้วลูกไฟก็กลับมาเป้นสีฟ้าตามเดิมอีกครั้ง 

ทางด้านผู้รับหยิบกระดาษขึ้นมาดูแล้วพยักหน้ายิ้มๆ

"หึ แล้วเจอกันนะเจ้าหนู"แลนกาบบอกยิ้มๆแล้วจากนั้นเขาก็หยิบหนังสือมานั่งอ่านต่อรอให้เซบาสเตียนมาหาที่บ้านไปพรางๆ

ส่วนเซบาสเตียนพอไม่มีข้อความอะไรส่งมาอีกเขาก็เอาขวดปากว้างใส่ไฟสื่อสารมาปิดฝาแล้วแล้วเอาใส่กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อตามเดิมพร้อมกับกระดาษและปากกา จากนั้นรวบตัวชิเอลขึ้นมาอุ้มพาดบ่าดันตัวเองลุกขึ้นยืน แล้วจัดท่าจัดทางนายน้อยของเขาอุ้มให้กระชับก่อนจะมองซ้ายมองขวาดูว่ามีใครเห็นหรือเปล่า ก่อนจะทำการหลับตาลงสยายปีกกางออกเพื่อจจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้ากลับไปยังเกราะปีศาจ แต่ก่อนจะออกเดินทางซาตานหนุ่มเอามือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบวัตถุสีเงินกลมๆออกมา

"อืม...ใกล้จะ1ทุ่มแล้วสินะ ต้องรีบไปแล้วล่ะก่อนจะมืดค่ำ เดี๋ยวจะเจอกับพวกแวมไพร์มาตามรังควาญอีกจะยิ่งแย่ไปใหญ่"เซบาสเตียนพูดในขณะที่ก้มลงมองดูหน้าปัดนาฬิกาสีเงินกลมๆบอกเวลาก่อนจะเเอามันเก็บเข้าไปไว้ในกระเป๋าตามเดิม พรางกับจับยึดตัวชิเอลให้กระชับอีกครั้งก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นสู้ฟากฟ้า บินเร็วจี๋ผ่านข้ามแม่น้ำมุ่งตรงไปสู่จุดหมายไปในทันที ซึ่งการเดินทางครั้งนี้แทบไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่เพราะพึ่งจะพลบค่ำเหล่าแวมไพร์ยังไม่ออกมาจนกว่าท้องฟ้าสีส้มจะแปลเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มนั่นแหละ

ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ชิเอลหลับไปตลอดทางเพราะฤทธิ์ของยาลดไข้ทำให้เซบาสเตียนไม่ต้องคอยชะลดความเร็วเพื่อเด็กคนนี้อีก เขาบินฉิวพุ่งทะยานขึ้นเขาลงห้วยอย่างคล่องแคล้วว่องไว จนกระทั้งเพียงไม่นานก็มาถึงหน้าปากทางเข้าสู่เมืองซาตานก่อนจะมืดค่ำในที่สุด

"เฮ้อ...มาถึงก่อนมืดนับว่าดีแล้ว รีบไปที่บ้านแลนกาบเลยดีกว่า นายน้อยนี่หลับนานเหมือนกันแฮะ แต่ก็ดีแล้วจะได้ไม่มาร้องโวยวายเวลาเราบินเร็วเกินไปอีก"เซบาสเตียนพูดพรางก้มลงมองดูใบหน้ายามหลับของชิเอลซึ่งตอนนี้ซาตานหนุ่มเปลี่ยนท่าอุ้มจากพาดบ่ามาเป้นอุ้มในอ้อนแขนแทนและพาเดินผ่านลอดซุ้มประตูเมืองซาตานสีแดงเข้าไปในเมือง พร้อมกับเดินลัดเลาะไปตามถนนหนทาง แผนตรอกนั้น ซอยนี้จนกระทั้งมาถึงหน้ารั้วบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนักแต่อยู่ได้อย่างสุขสบายไม่แออัด ซาตานหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านสีดำและทำท่าจะเคาะประตู แต่ทว่า มีคนมาเปิดประตูเสียก่อนเพราะเจ้าของบ้านได้รู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีคนมาเยี่ยมบ้านตนในคืนนี้

"ไงเจ้าหนู มาเร็วดีนี่ ข้ารอแค่ไม่กี่นาทีเอง"ชายผมแดงโผล่หน้าออกมาจากช่องประตูที่พึ่งเปิดออกเมื่อครู่แล้วยิ้มให้แขกผู้มาเยือนอย่างเอ็นดู

"ต้องรีบเดินทางก่อนจะมืดน่ะครับ ผมไม่อยากเสี่ยงกับการเจอแวมไพร์ระหว่างทาง จึงต้องรีบทำเวลาสักหน่อย ขออภัยจริงๆที่ต้องมารบกวนคุณแบบนี้นะครับแลนกาบ"เซบาสเตียนพูดอย่างเกรงใจ รีบขอขมาเอาไว้ก่อนพ่อสอนไว้

"อ้อไม่รบกวนอะไรหรอก มาๆเข้ามาคุยกันข้างในก่อน"แลนกาบพูดเชื้อเชิญอย่างเป็นกันเองแล้วหลีกทางให้เซบาสเตียนกับชิเอลเข้ามาในบ้านของตน 

"อ้อ ครับ"เซบาสเตียนพยักหน้าให้ก่อนจะอุ้มชิเอลพาตรงเข้ามาภายในบ้านของแลนกาบแล้วค่อยๆวางร่างเล็กที่หลับสนิทลงบนโซฟา ท่าทางนายน้อยของเขาจะหลับลึกน่าดู จนป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย

"แล้วนี่เป็นไงมาไงเด็กคนนี้ถึงได้สลบไสลแบบนี้ล่ะ"แลนกาบถามพรางมองดูชิเอลที่หลับสนิทอยู่บนโซโฟสีแดงในห้องนั่งเล่นของตนอย่างสงสัย

"ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับคงแค่อ่อนเพลียนิดหน่อยน่ะ"เซบาสเตียนตอบอย่างเลี่ยงๆใจความสำคัญ เขาไม่อยากให้แลนกาบมาคอยเป็นกังวลอะไรมากนัก แค่มาขอฝากไว้ชั่วคราวก็เกรงใจจะแย่แล้ว

"อืม..จะพาขึ้นไปนอนที่ห้องของข้าก็ได้นะ ถ้าเจ้าเชื่อใจข้า"แลนกาบบอกอย่างเป็นกันเอง สายตาสีแดงคอยมองดูท่าทีของอีกาหนุ่มว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"เอ่อ...จะดีหรือครับ ผมเกรงว่าเด็กคนนี้จะไปแย่งที่นอนคุณน่ะสิ ให้เขานอนที่โซฟาไปก่อนก็ได้นะครับ"เซบาสเตียนพูดอย่างเกรงใจ เขาไม่ได้ติดใจระแวงอะไรแลนกาบหรอกเพราะถึงยังไงชายผู้นี้ไว้ใจได้ร้อยเปอร์เซ็นว่าจะไม่ทำอะไรนายน้อยของเขาแน่นอน

"ถ้าเจ้าไม่ไว้ใจข้าก็ไม่เป็นไร ข้าให้เด็กคนนี้นอนบนห้องและข้ามานอนที่โซฟาก็ได้นะ"แลนกาบพูดอย่างน้อยใจที่เจ้าหนูที่เขารักเหมือนลูกหลานนั้นไม่ไว้ใจเขา

"โถ่แลนกาบผมเชื่อใจคุณนะครับ เพียงแต่แค่เกรงใจน่ะ ผมไม่คิดว่าปีศาจที่แสนดีอย่างคุณจะทำอะไรเด็กคนนี้หรอกครับ คุณก็เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของผมเช่นกัน"เซบาสเตียนรีบแก้ต่างเขาไว้ใจแลนกาบเสมอแหละ

"งั้นข้าให้ชิเอลนอนที่ห้องกับข้าละกันนะ ยิ่งป่วยอยู่ข้าจะได้ช่วยเจ้าดูแลได้สะดวกไง"แลนกาบพูดยิ้มๆอย่างมีไมตรี

"เอ่อ....คือ...."เซบาเตียนเกิดอาการลังเลไม่แน่ใจขึ้นมา จริงอยุ่ว่าเขาไว้ใจแลนกาบแต่ว่า ถึงกลับให้นายน้อยของเขานอนด้วยกันบนเตียงกับคนที่เด็กคนนั้นพึ่งรุ้จักกันไม่กี่วันแบบนี้มันจะดีเหรอ แถมเป็นปีศาจกินเนื้อโตเต็มวัยอีกด้วยเกิดนึกอยากกินนายน้อยของเขาขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ กลิ่นเลือดของนายน้อยยิ่งเหมือนกลิ่นเลือดของมนุษย์อยู่ด้วยถึงแม้แลนกาบจะจำศีลอยู่ก็เถอะ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้หากปีศาจที่หิวกระหายมาอยุ่ใกล้ๆเหยื่อแบบนี้

"ดูท่าทางเจ้าจะไม่ค่อยสะดวกใจที่ให้เด็กของเจ้ามานอนกับข้านะ เจ้าหนู ทำไมกันล่ะ เจ้าคิดว่าปีศาจจำศีลอย่างข้าจะทำร้ายเด็กคนนี้หรือไง ถ้าเจ้าไม่ไว้ใจข้าก็ตามใจเชิญพาเด็กของเจ้ากลับไปได้เลยนะ"แลนกาบพูดด้วยท่าทีไม่พอใจเล็กน้อย

"เอ่อ..เอาเป็นว่า ผมขอฝากไว้ที่นี่ก่อน ส่วนเรื่องการนอนคงต้องให้เจ้าตัวตัดสินใจเองแล้วล่ะครับ ผมยังไงก็ได้"เซบาสเตียนพูดแบบไว้เชิงเพื่อตัดปัญหานี้ไป เขาจะได้ไปทำงานช่วยคนใช้แฟนท่อมไฮด์ต่อเสียที

"อ้อ เอางั้นก็ได้ รีบไปทำธุระของเจ้าเถอะเดี่ยวชิเอลข้าจะดูแลให้เอง ไม่ต้องห่วงนะ ข้าไม่คิดจะทำอะไรเด็กคนนี้หรอก ข้ามันแก่แล้ว"แลนกาบพูดเพื่อสร้างความมั่นใจให้เซบาสเตียนฝากชิเอลไว้อย่างสนิทใจ เขาไม่คิดทำอะไรเด็กหรอก เขามีเมียแล้วแต่ยังไม่มีลูกแค่นั้นเอง 

"หึ พูดแบบนี้คิดว่าผมไม่ไว้ใจคุณเหรอครับ ผมเชื่อใจคุณนะ ผมไปก่อนล่ะ อ้อ ถ้าเด็กคนนี้ตื่นมาแล้วบอกเค้าด้วยว่า ถ้าเสร็จธุระแล้วจะรีบมารับนะครับขออภัยที่ไม่ได้ปลุกและจากไปเงียบๆ ขอให้คุณพักผ่อนให้เต็มที่ฝันดีขอรับ ฝากบอกเค้าด้วยนะครับ แลนกาบ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางก้มลงมองดูชิเอลที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ที่โซฟาบ้านของแลนกาบอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยว่า ตนโดนพ่อบ้านทิ้งซะแล้ว

"ได้ๆข้าจะบอกให้เอง เจ้ารีบไปเถอะ"แลนกาบพยักหน้ารับว่าจะบอกชิเอลให้เมื่อตื่นขึ้นมาอีกที

"ขอบคุณมากครับคุณแลนกาบ อ่ะนี่ถุงยาของเด็กคนนี้ ถ้าหากถึงพรุ่งนี้เช้าแล้วผมยังไม่กลับฝากเอายาพวกนี้ให้เค้ากินด้วยนะครับ เป็นยาลดไข้และรักษาอาการป่วยน่ะ ถ้าเด็กคนนั้นเกิดมีไข้ตัวร้อนขึ้นมากลางดึก คุณแลนกาบจะช่วยเช็ดตัวให้เขาแทนผมหน่อยได้หรือเปล่าครับ"เซบาสเตียนร้องขอพรางยื่นถุงยาส่งให้แลนกาบเพื่อขอความช่วยเหลือ

"ได้สิ ข้าเองก็เอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ต่างไปจากเอ็นดูเจ้าหรอกนะ เจ้าหนู รีบไปทำธุระได้แล้ว ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก ข้าจะดูแลชิเอลให้เอง แล้วหากเจ้ามีอะไรจะปรึกษาข้าก็ส่งข้อความมาได้นะ สำหรับเจ้าแล้วข้ายินดีช่วยเต็มที่ เจ้าก็เหมือนเป็นลูกเป็นหลานของข้านั่นแหละเซบาสเตียน"แลนกาบพูดแล้วยิ้มให้อย่างมีไมตรี เขารักเซบาสเตียนเหมือนเป็นลูกเป็นหลานของเขาจริงๆ

"ขอบคุณอีกครั้งนะครับ คุณแลนกาบ ผมไปล่ะ"

"อืม เดินทางดีๆล่ะ ระวังพวกแวมไพร์ด้วยนะ เจ้าหนู"แลนกาบอวยพรให้ก่อนเซบาสเตียนจะไปด้วยความห่วงใย

"บ๊ายบายครับ "เซบาสเตียนหันมาโบกมือลาแลนกาบแล้วยื่นมือมาแตะที่ตาขวาของชิเอลแล้วท่องมนต์ตราบางอย่างในใจพรางก้มมองดูใบหน้ายามหลับเด็กหนุ่มด้วยความอาลัยอาวร ก่อนจะตัดสินใจหายใจเข้าออกลึกๆหลับตาลงแล้วหันหลังเดินออกจากประตูบ้านของแลนกาบไปแบบไม่เหลียวหลัง คิดปลอบใจตนเองไปว่า 

--คุณปลอดภัยแล้วนะครับนายน้อย แล้วผมจะรีบกลับมารับ ขอให้คุณฝันดี ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะไปช่วยพวกฟินนี่ บันโดและเมย์ลินกลับมาอย่างปลอดภัยทุกคนให้ได้ขอรับ -- เซบาสเตียนคิดในใจแล้วรีบเดินลิ้วๆออกไปจากบ้านของแลนกาบด้วยความมุ่งมั่นจริงจังแล้วโบยบินขึ้นฟ้าบินตรงกลับไปยังลอนดอนในทันที อย่างรวดเร็ว เขาจะไปคิดบัญชีกับพวกซีโร่และชิงตัวคนใช้แฟนท่อมทั้งสามกลับมาก่นถึงเช้าให้ได้
ในระหว่างนั้นทางบ้านแลนกาบ

"หึ..ท่าทางจะหลับนานสินะ ปล่อยให้นอนบนโซฟาไปก่อนและกัน ข้าไปอาบน้ำก่อนนะชิเอล"แลนกาบเดินมาดูชิเอลที่โซฟาแล้วพูดกับเด็กหนุ่มที่ยังหลับอยู่ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชะระร่างกายให้สดชื่นก่อนเข้านอนตามปกติ
และพอแลนกาบหายกลับขึ้นไปชั้นสองแล้ว ชิเอลก็เริ่มรู้สึกตัว

"อืม....โอย ปวดหัวจัง..เซบาสเตียน"พอตื่นมาชิเอลก็ร้องเรียกหาพ่อบ้านของเขาทันทีเลย พรางค่อยๆตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่งอย่างทุลักทุเล แล้วหันไปมองดูสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเพื่อหาใครสักคนที่เขาอยากเจอมากที่สุด

"อ้าว...เซบาสเตียนไปไหนแล้วล่ะ แล้วที่นี่ที่ไหน อา ปวดหัวชะมัด แค่ก แค่ก"ชิเอลพึมพำกับตนเองมองหาพ่อบ้านของเขาด้วยท่าทางงุนงง ไอคอกไอแค่ก เพราะยังเจ็บคออยู่ เด็กหนุ่มมองดูรอบๆตัวด้วยความรู้สึกสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่ากำลังหลับอยู่บนบ่าของอีกาหนุ่มนี่นา ไหงถึงมานอนอยู่บนโซฟาสีแดงนี่ได้ล่ะ

"แล้วบ้านหลังนี้..จริงสิ เจ้านั่นเอาเรามาฝากไว้กับลุงแลนกาบนี่นา แล้วเขาหายไปไหนแล้วล่ะ"ชิเอลเอาแต่ถามกับตัวเองเพราะตอนนี้เขาไม่เห็นใครเลยสักคนเดียว ไม่เห็นแลนกาบปีศาจใจดี และเจ้าอีกานั่นก็ไม่เห็นจึงพยายามลุกขึ้นเดินโซเซ รู้สึกขาของตนไม่มีแรงจะเดินเลย 
ตุ้บ แล้วชิเอลก็หกล้มหน้าคะมำเกือบจะจูบพื้น เพราะจู่ๆขาก็ไม่มีแรง

"โอ๊ย!! อึ้ย บ้าเอ๊ย ทำไมขาไม่มีแรงเลย พอดาร์กชิลไม่รักษาร่างเราถึงกลับเดินไม่ได้เลยจริงๆเหรอเนี่ย แล้วเซบาสเตียนไปไหนแล้วล่ะ "ชิเอลถามกับตนเองไปสบทกับตนเองไปด้วยความเจ็บใจที่ขาตนไม่มีแรงจะยืนหรือเดินด้วยซ้ำ 

"เซบาสเตียน!! เซบาสเตียน นายอยู่ไหน เซบาสเตียน มาหาฉันเดี่ยวนี้!!โอ๊ยปวดหัว..ขาก็ไม่มีแรง..นายอยู่ไหนเซบาสเตียน เซบาสเตียน..." ปากก็ร้องเรียกหาพ่อบ้านของเขา ในยามนี้ชิเอลอยากให้ชายผู้นั้นอยู่ใกล้ๆมากที่สุด แม้จะลองใช้ตาขวาเรียกแล้วแต่ดูเหมือนพันธะสัญญานั้นจะไม่ทำงานไปซะอย่างงั้น

"เอ้ย.ไม่จริงน่า.ทำไม..พันธะสัญญาไม่ทำงาน เซบาสเตียน!! เซบาสเตียน!!"ชิเอลร้องเรียก ถึงกลับเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก เขาเรียกเซบาสเตียนให้มาหาไม่ได้ เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่เขาถูกทิ้งให้อยู่ที่ปารีสตราพันธะสัญญาก็ไม่ทำงานเช่นกัน นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นกับเขากันแน่นะ

"ไม่นะ เจ้านั่นทำอะไรกับตาของเรา คิดจะทิ้งเราอีกแล้วงั้นเหรอ อึ้ย เจ็บใจนัก เจ้าบ้าเซบาสเตียน!!"ชิเอลส่ายหัวไปมาอย่างเจ็บใจที่ครั้งนี้เขาโดนพ่อบ้านปีศาจนั้นทิ้งอีกแล้ว แถมพันธะสัญญาไม่ทำงานอีกจะเรียกให้เจ้านั้นมาหาก็ทำไม่ได้ 

"หนอย..จะมากไปแล้วนะ นี่นายเห็นฉันเป็นตัวถ่วงมากขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงทิ้งฉันให้อยู่ที่นี่แล้วจากไปแบบนี้น่ะ ไอ้ปีศาจใจร้าย!!นายทิ้งฉันสามครั้งแล้วนะ อึ้ย ไอ้ขาบ้านี่ แค่ก แค่ก"ชิเอลต่อว่าเซบาสเตียนยกใหญ่ที่เจ้าอีกานั่นแอบหนีเขาไปไม่บอกลาสักคำ เห็นเขาเป็นตัวปัญหาอยากจะหนีไปให้ไกลๆงั้นสินะ

และด้วยความเจ็บใจชิเอลที่ถูกเซบาสเตียนทิ้งจึงพยายามจะลุกขึ้นเดินให้ได้แต่เขากลับล้มลงไปอีกเพราะขาไม่มีแรงจะรองรับน้ำหนักตัวได้ ตอนนี้เขาอยู่เพียงลำพัง 

"โอ๊ย!! อึด ต้องลุกขึ้นให้ได้ ฉัน ไม่ยอมแพ้หรอก อืด โอ๊ย"ชิเอลกัดฟันพูดฝืนร่างกายตนเองพยายามลุกขึ้นมาให้ได้ แต่เขาก็ล้มลงไปอีก 
หลังจากที่ชิเอลล้มลุกคุกคลานอยู่ได้ไม่นาน ชายผมแดงที่พึ่งอาบน้ำเสร็จก็เอาผ้าขนหนูเช็ดหัวเดินลงบันไดมาดูว่าชิเอลตื่นหรือยังและเขาก็ได้ยินเสียงเด็กคนนั้นร้องโวยวายเข้าพอดี

"อ้าวชิเอล ตื่นแล้วเหรอ"ชายผมแดงที่กำลังเดินตรงมาเอ่ยทักอย่างอารมณ์ดี

"แฮ่ก!!แฮ่กๆ ลุง..แลนกาบเซบาสเตียน เค้า.."ชิเอลหันมาพูดพยายามจะลุกขึ้นยืนให้ได้ถึงกลับหอบแฮ่กๆด้วยความเหน็ดเหนื่อย

"ตายจริง มานั่งทำอะไรบนพื้นล่ะ เจ้าหนูชิเอล มา ลุกไหวมัย ข้าช่วยพยุงนะ"แลนกาบเดินตรงมาวางผ้าเช็ดตัวลงที่โต๊ะรับแขกแล้วเดินมาช่วยฉุดตัวชิเอลขึ้นมายืนแล้วประคองพาไปนั่งที่โซฟา

"เอ่อ..คือ..ผม.."ชิเอลพยายามจะปฎิเสธแต่ก็ไม่มีโอกาสพูดเพราะตอนนี้ตัวของเขาถูกปีศาจผมแดงพยุงพากลับไปนั่งที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว

"ตัวร้อนจี๋เลยนะเรา ถ้าไม่มีแรงจะลุกไหวก็อย่าฝืนสิ เดี๋ยวอาการป่วยก็ทรุดหนักลงไปอีก เจ้าหนูจะมาโวยหาว่าข้าดูแลเจ้าไม่ดีหรอก"แลนกาบพูดเสียงดุ พรางจับชิเอลดันตัวให้เอนนอนพิงพนักโซฟาในท่าที่สบายๆ

"เจ้าหนู ชิ ป่านนี้เจ้านั้นคงไม่มาสนใจผมอีกหรอก ทิ้งผมไปแล้วนี่ จากไปไม่บอกลาสักคำ แค่กๆ แค่กๆ"ชิเอลพูดอย่างไม่สบอารมณ์พรางไอโขลกๆไม่หยุด

"หึ เด็กโง่เอ๊ย ใครเขาทิ้งเจ้ากันล่ะ เขาแค่ฝากเจ้าไว้กับข้าชั่วคราวเท่านั้นแหละ อ่ะแล้วนี่ถุงยาที่เจ้าหนูฝากข้าเอาไว้ให้เจ้า คืนนี้เจ้าจะต้องอยู่กับข้าที่นี่ และที่เขาแอบไปตอนเจ้าหลับเพราะไม่อยากรบกวนการนอนของเจ้า เขาอยากให้เจ้าพักให้เต็มที่จนกว่าเจ้าจะตื่นเอง"แลนกาบพูดยิ้มๆอย่างมีไมตรีพรางยื่นถุงยาส่งให้เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งเอาหลังพิงพนักโซฟานุ่มๆอยู่

ชิเอลรับถุงยามาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ถึงยังไงเขาก็ยังงอนเจ้าอีกานั่นอยู่ดี ที่ทิ้งเขาไปไม่บอกลาสักคำ แถมยังทำอะไรกับตาของเขาทำให้พันธะสัญญาไม่ทำงานอีก น่าโมโหจริงๆเลย

"หนอย..เจ้าบ้าเซบาสเตียน แค่ก แค่ก กลับมาล่ะน่าดู อึ่ม แค่ก แค่ก"ชิเอลสบทอย่างหงุดหงิดพรางไอโขลกๆ มือกำแน่นด้วยความเจ็บใจที่ตนถูกทิ้งให้อยู่กับแลนกาบตามลำพังแบบนี้ แถมไปไม่ยอมบอกสักคำ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห คอยดูนะถ้าเจ้าอีกานั่นกลับมาเมื่อไหร่จะลงโทษให้สาสมเลย

"เอ้าๆไอใหญ่แล้ว เจ้าหนูชิเอล ยาในถุงน่ะรีบๆกินซะ เดี๋ยวข้าไปเอาน้ำมาให้ นั่งรออยู่นี่แหละ"แลนกาบพูดด้วยความหวังดีพรางเดินตรงเข้าไปหาน้ำมาให้ชิเอลดื่มแก้กระหายและเอามาเพื่อกินยา

ชิเอลพยักหน้ารับแล้วนั่งรออย่างว่าง่าย แต่ในใจกลับว้าวุ่นด้วยความโมโหและน้อยใจในความใจร้ายของพ่อบ้านของเขา ทำไมเจ้านั่นต้องทำแบบนี้กับเขาด้วย ทิ้งเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังไม่สามารถเรียกให้มาหาได้อีก คงทำได้แต่รอ และก็รอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

และในระหว่างที่ชิเอลกำลังคิดด่าทอพ่อบ้านของเขาอยู่ในใจ แลนกาบก็เดินมาหาพร้อมกับขวดน้ำเปล่าที่ไม่ได้แช่เย็นกับแก้วสะอาดหนึ่งใบ ถือตรงมาแล้วเอามาวางที่โต๊ะรับแขกพร้อมกับเทน้ำในขวดรินใส่แก้วก่อนจะยื่นส่งให้เด็กหนุ่มตัวร้อนที่กำลังนั่งมองอยู่บนโซฟา 

"อ่ะดื่มน้ำก่อนนะ แล้วอย่าลืมกินยาล่ะ นี่ก็จะใกล้เวลาที่เจ้าจะต้องเข้านอนแล้วนะ เด็กที่กำลังป่วยควรนอนพักผ่อนให้มากๆ เดี่ยวกินยาเสร็จข้าจะพาเจ้าไปนอนที่ห้องเอง "แลนนกาบพูดอย่างอ่อนโยน

"ขอบคุณครับ คุณแลนกาบ ให้ผมนอนที่โซฟานี่ก็ได้ ผมไม่อยากรบกวนคุณไปมากกว่านี้แล้ว"ชิเอลพูดก่อนจะรับน้ำมาดื่มสองอึกแล้วส่งแก้วคืนให้แลนกาบ เขาไม่ค่อยจะไว้ใจใครสักเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านๆมาเขาเจ็บตัวเพราะปีศาจมานักต่อนักแล้วเลยค่อนข้างระแวงไม่เชื่อใจใครง่ายๆอีก 

"หึ เจ้านี่พูดเหมือนเซบาสเตียนเลยนะ เขาเองก็บอกกับข้าว่าให้เจ้านอนที่โซฟา เขาคงเกรงใจข้าน่าดูทีเดียว หรือไม่ก็อาจจะไม่ไว้ใจข้า กลัวว่าข้าจะจับเจ้ามากินล่ะมั้ง"แลนกาบพูดทีเล่นทีจริง เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กคนนี้จะไว้ใจเขานักหรอก เพระพึ่งจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่เขาก็รับปากกับเจ้าหนูของเขาเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรเด็กคนนี้เป็นอันขาด

"เปล่า..ผมเพียงแค่ไม่อยากรบกวนคุณแลนกาบมากนักน่ะครับ หากผมนอนที่ห้องบนเตียงของคุณ แล้วคุณจะไปนอนที่ไหนล่ะมันคงดูไม่ดีแน่ๆถ้าให้เจ้าของบ้านระเห็ดมานอนที่โซฟาแทนผมน่ะ ทางที่ดีให้ผมนอนที่โซฟานี่ดีกว่านะครับ "ชิเอลยืนยันว่าจะขอนอนรอเซบาสเตียนที่โซฟา 

"เอางั้นก็ได้ เจ้าอยากจะนอนที่ไหนก็แล้วแต่เจ้า จะนอนโซฟานี่ก็ได้ เดี่ยวข้าไปเอาผ้าห่มกับหมอนมาให้แล้วกัน รอเดี๋ยวนะ"แลนกาบพูดอย่างตามใจพรางเดินขึ้นบันไดกลับไปยังห้องนอนของตนเอง

เตียงนอนของแลนกาบเป็นเตียงคู่เพราะนานๆทีภรรยาของเขาจะมาพัก น่าเสียดายที่แต่งงานกันมาหลายสิบปียังไม่มีลูกสักที เขาล่ะอดอิจฉาเจ้าจีเลนไม่ได้จริงๆที่มีลูกชายสมใจอยาก แต่เขานี่สิไม่มีวี่แววจะมีลูกเลยสักคนเดียว

"เฮ้อ...เมื่อไหร่ข้าจะมีลูกเหมือนปีศาจตนอื่นๆสักทีน้า เมียข้าก็ไม่ยอมกลับมาหาข้าบ้างเลย ปล่อยให้นอนตามลำพังมาหลายปีแล้วนะเนี่ย เมียจ๋า ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน ยิ่งเห็นข้าวของพวกนี้ของเจ้า ข้าก็ยิ่งคิดถึงเจ้า เมื่อไหร่เจ้าจะกลับมา"แลนกาบรวบเอาผ้าห่มของภรรยาในตู้กับหมอนของนางถือเอาไว้แล้วก้มลงมองดูข้าวของต่างๆของนางไปบ่นไปพราง เพราะยิ่งเห็นของพวกนั้นของนางทำให้เขาอดคิดถึงภรรยาผู้เป็นที่รักไม่ได้ นางไปทำงานในเมืองที่โลกปีศาจนานๆจะกลับมาหาเขาที ชีวิตนี้ช่างแสนเงียบเหงาหากไม่มีเพื่อนเขาคงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกยังดีที่เขายังมีเพื่อนอย่างจีเลนอยู่ ยามเหงาก็พากันไปสังสรรค์พบปะพูดคุยกันในหมู่พวกพ้องได้เสมอ

"เมียจ๋า ข้าจะขอยืมเอาผ้าห่มและหมอนของเจ้าไปให้ชิเอลยืมใช้ชั่วคราวนะ หวังว่าเมียจะไม่โกรธสามีนะ"แลนกาบพูดอย่างรู้สึกผิดที่เอาของดูต่างหน้าภรรยามาให้เด็กที่พึ่งรู้จักกันไม่นานเอาไปใช้แบบนี้โดยไม่ได้ขออนุญาตินางเลยสักคำ หากนางรู้จะโกรธเขาหรือเปล่านะ
ชายหนุ่มยืนมองดูผ้าห่มและหมอนของภรรยาอยู่นานเพื่อตัดสินใจว่าจะเอาไปให้ชิเอลดีมัยหรือว่าจะเปลี่ยนเอาผ้าของเขาไปให้เด็กคนนั้นแทนดี

"ไม่เอาดีกว่า เอาผ้าห่มของข้าไปให้เด็กคนนั้นแทนดีกว่า ส่วนผ้ากับหมอนพวกนี้ข้าจะเอามาใช้เองก็มันเป็นของเมียสุดที่รักของข้านี่นา เอาล่ะ เปลี่ยนๆ"แลนกาบจึงตัดสินใจเปลี่ยนผ้าห่มและหมอนโดยเอาของเขาไปให้ชิเอลใช้แทนของภรรยาซึ่งเขาจะเอามาใช้เสียเอง เพราะเขามั่นใจว่าหากภรรยาของเขากลับมารู้ว่าเขาเอาของนางมาใช้เองนางจะได้ไม่โกรธเขา
แล้วแลนกาบก็ทำการเปลี่ยนผ้าห่มและหมอนเอาของตนเองถือลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว 

"อ่ะเอาไป นี่หมอน นี่ผ้าห่ม เจ้านอนที่ห้องรับแขกข้างล่างคนเดียวได้ใช่มัย ชิเอล"แลนกาบพูดพรางเอาเครื่องนอนส่งให้ชิเอล

"ได้ครับ คุณแลนกาบ แค่ก แค่ก"ชิเอลตอบรับเสียงแหบพรางไอโขลกๆไม่หยุด ท่าทางไข้จะขึ้นมาอีกแล้ว เขายังไม่ยอมกินยาที่แลนกาบยื่นส่งให้ กินแต่น้ำเพียงอย่างเดียว

"อืม แล้วนี่กินยาที่ข้าให้ไปหรือยัง"แลนกาบถามเสียงเรียบ ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ข้างๆโต๊ะรับแขกสายตาสีแดงยังคงมองดูเด็กหนุ่มที่กำลังป่วยไอโขลกอยู่อย่างสงสารเห็นใจ

"กินแล้วครับ"ชิเอลพูด เขาไม่อยากกินยาเลยโกหกแลนกาบไปว่ากินยาเรียบร้อยแล้วพรางค่อยๆไถลเอนตัวลงนอนเอาหมอนที่แลนกาบส่งมาให้มาหนุนและเอาผ้าห่มมาคลุมตัวให้ร่างกายอุ่นขึ้นแล้วหลับตาลงเตรียมจะนอน

"อืม กินยาเสร็จแล้วก็นอนซะ ข้าจะไปปิดล๊อกประตูบ้านก่อน เดี่ยวข้าก็จะขึ้นไปนอนแล้วเหมือนกัน คืนนี้อากาศเย็น เจ้าก็ห่มผ้าให้ดีๆล่ะ ขอให้ฝันดีนะเด็กน้อย"แลนกาบบอกยิ้มๆแล้วเขาก็เดินไปปิดประตูหน้าต่างคอยดูความเรียบร้อยของบ้านก่อนจะเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องนอน ทิ้งให้ชิเอลนอนอยู่ที่โซฟาเพียงลำพัง

แต่พอแลนกาบไปนอนแล้ว ชิเอลกลับลืมตาขึ้นแล้วค่อยๆดันตัวขึ้นมานั่งบ่นด้วยความโมโหในการกระทำของเซบาสเตียน

"เฮ้อ...นอนไม่หลับเลย ป่านนี้เจ้าอีกานั่นไปถึงไหนแล้วนะ ทำไมต้องทำให้พันธะสัญญาไม่ทำงานด้วย ไม่เข้าใจเลยทำไมนายไปไม่บอกลาฉันก่อนนะ น่าโมโหชะมัดเจ้าอีกาใจร้าย ใจร้ายๆๆๆ อึ้ย ใครจะไปหลับลงกันเจ้าบ้า บ้าที่สุดเลย คอยดูนะถ้านายกลับมาฉันจะฆ่านาย"ชิเอลได้แต่สบทอย่างหงุดหงิด ปากก็เอาแต่ต่อว่าพ่อบ้านใจร้ายนั่นอยู่ตลอดจนนอนไม่หลับเลย สายตาก็เหม่อมองดูนาฬิกาแขวนผนังที่เดินไปเรื่อยๆอย่างเซ็งๆและหงุดหงิดว้าวุ่นใจ เขาเกลียดการรอคอยที่ไร้การติดต่อแบบนี้

และเจ้าอีกาที่ชิเอลพูดถึง ในตอนนี้เขาเดินทางมาถึงชายฝั่งลอนดอนแล้วกำลังมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านฮาวเวิร์ด เขาจะไปหาเบาะแสในการติดตามหาตัวคนร้ายเขาไม่ต้องห่วงนายน้อยอีกแล้วเพราะว่าเขาสะกดการทำงานของพันธะสัญญาเอาไว้ชั่วคราว นายน้อยจะไม่สามารถเรียกหาเขาได้ เขาจะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่เสียที ไม่ต้องมาคอยห่วงหน้าพะวงหลังเหมือนที่แล้วๆมาอีก ตอนนี้เขาทำได้แค่การยืนหลับตาอยู่บนหลังคาคอยตรวจจับพลังปีศาจของซีโร่อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทว่า..

"แปลก.ทำไมถึงตรวจจับพลังของเจ้าเหยี่ยวนั้นไม่เจอเลย.. .ถ้าหากว่าซีโร่ยังอยู่ในเมืองมนุษย์ เราก็น่าจะตรวจจับพลังปีศาจแถวๆนี้ได้นี่นา หรือเจ้าเหยี่ยวนั้นจะหนีกลับเกาะปีศาจไปแล้ว"ชายหนุ่มร่างสูงลืมตาขึ้นมาบ่นพึมพำกับตนเองเบาๆด้วยความแปกลใจที่เขาไม่สามารถตรวจจับหาพลังปีศาจของคนร้ายรายใหญ่ได้เลย น่ากลัวว่าจะคลาดกันมากกว่า 

"คงไม่ล่ะมั้ง เจ้าหมอนั่นต้องการจะพบเรากับนายน้อยไม่ใช่เหรอ ก็ต้องอยู่คอยเราจนกว่าจะเจอกันสิ ไม่น่าจะหนีกลับเกราะปีศาจไปก่อนได้เลยนี่นา หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเหยี่ยวนั้นจนต้องรีบกลับบ้านหรือเปล่านะ"เซบาสเตียนยืนคิดอยู่บนหลังคาบ้านพักตากอากาศที่ร้างผู้คนอาศัยอย่างกลัดกลุ่ม

"เหอะ ท่าทางจะมาเสียเที่ยวซะแล้วสิ เจ้าซีโร่นั้นคงปล่อยให้ลูกน้องเฝ้าเหยื่อเองสินะ ส่วนตัวมันคงหนีกลับเกราะไปแล้วแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างงั้นคงต้องใช้สัตว์สี่เท้าดมกลิ่นตามหาคนใช้พวกนั้นแทนแล้วล่ะ กลับเข้าไปหาของในบ้านก่อนดีกว่า"เซบาสเตียนจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนการติดตามหาคนร้ายจากที่แค่คอยตรวจจับพลังปีสาจไปรอบๆเมืองเขากลับมาใช้วิธีของมนุษย์คือการใช้หมาแมวในการดมกลิ่นตามหาเบาะแส ร่องรอยของคนใช้แฟนท่อมไฮด์แทน

ชายหนุ่มกระโจมเข้าบ้านมาทางหน้าต่างชั้นสองที่ห้องนอนของชิเอลที่ยังเปิดอยู่ แล้วเดินลงบันไดไปยังห้องของฟินนี่และบันโดเพื่อหาข้าวของเครื่องใช้ที่มีกลิ่นของคนพวกนั้นอยู่ จากนั้นก็มาค้นที่ห้องของสาวใช้เมย์ลินแล้วหยิบผ้ากันเปื้อนของเธอมา พอหาได้ครบทั้งสามชิ้นแล้วชายหนุ่มก็ออกมาจากบ้านคอยมองหาแมวแถวๆนั้นเผื่อว่ามันจะช่วยเขาตามหาคนได้ เขาไม่อยากจะพึ่งพาหมาหรอกก้เขาเกลียดหมานี่นา

"เอาหล่ะ หวังว่าจะเจอแมวใจดีสักตัวยอมช่วยบ้างแหละนะ"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองพรางสอดส่องสายตาไปตามทางมองหาแมว แมว และก็แมว ถึงหมู่บ้านนี้จะเต็มไปด้วยหมาก็เถอะ น่าจะมีใครสักคนเลี้ยงแมวบ้างแหละน่า

หลังจากที่เดินค้นหาแมวอยู่ได้เกือบสิบนาที ไม่มีวี่แววของแมวจรจัดให้เซบาสเตียนได้ใช้งานเลยสักตัวเดียว ไปที่ไหนก็เจอแต่หมา หมาและก็หมาเต็มถนนหนทางไปหมด สมแล้วที่เป็นหมู่บ้านของหมา เอ้ยของนายน้อย 

"เฮ้อ...ทำไมหาแมวไม่มีสักตัวเลย มันหายไปไหนกันหมดนะหรือว่าเราจะไปขอให้ตำรวจช่วยดีนะ ไม่ๆหากเจ้าซีโร่มันอยู่กับพวกคนร้ายล่ะ พวกตำรวจอาจโดนฆ่าตายหมดก็ได้ เราไม่อยากเอาคนอื่นมาเสี่ยงอีกแล้ว "เซบาสเตียนส่ายหน้าเขาไม่อยากให้ใครต้องตายเพราะฝีมือปีศาจอีก เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเองเสียแล้ว

"เอาหล่ะ ในเมื่อไม่มีแมวก็ ใช้หมาแทนแล้วกัน หมาที่นี่เยอะแยะน่าจะเรียกระดมพลได้ล่ะนะ"เซบาสเตียนจึงตัดสินใจฝืนความรู้สึกตนเองยอมใช้หมาเป็นเครื่องมือค้นหาตัวคนใช้ทั้งสามแทนแมวเพราะที่หมู่บ้านนี้ไม่มีใครเลี้ยงแมวเลย เขาอุตส่าห์เดินหาจนทั่วหมู่บ้านแล้วนะเนี่ย
พอตัดสินใจได้แล้วเซบาสเตียนก็หลับตาลงแล้วเอามือมาทำท่าผิวปาก

"วีดดดดดดดดดด"เสียงผิวปากเรียกระดมพลสุนัขดังระงมทั่วทั้งหมู่บ้าน เสียงนี้เป็นคลื่นความถี่ที่มีแต่หมาเท่านั้นที่จะได้ยิน
แล้วฉับพลันนั้นเอง บรรดาหมาตามที่ต่างๆทั่วทั้งหมู่บ้านต่างก็พากันวิ่งตรงมาซาตานหนุ่มผู้ซึ่งกำลังยืนหลับตานิ่งทำใจและลดทิฐิของตนเองลงเพื่อขอความช่วยเหลือจากสัตว์สี่เท้าผู้ซื่อสัตย์ที่เขาแสนจะเกลียดนี้ให้ได้

โฮ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงบรรดาน้องหมาทั้งหลายพากันส่งเสียงเห่าตอบรับการเรียกของเซบาสเตียนดังไปทั่วหมู่บ้าน แต่พอชายหนุ่มหันมาถลึงตาใส่ บรรดาหมาทั้งหลายต่างก็หยุดเห่าแล้วทรุดตัวลงมอบอย่างว่าง่ายทำตัวสงบเสงี่ยมในทันทีราวกับว่าชายหนุ่มตาสีทับทิมผู้นี้เป็นเจ้านายของพวกมันก็ไม่ปาน

หงึงๆๆๆๆเสียงบรรดาหมาทั้งหลายร้องครางด้วยความหวาดกลัวชายผู้นี้ มันไม่กล้าเห่าหรือกระโจมใส่

"ทั้งหมดหมอบ"เซบาสเตียนออกคำสั่ง เจ้าหมาทั้งหลายสิบตัวต่างทำตามคำสั่งโดยทันที

"ทั้งหมดลุกขึ้น"เซบาสเตียนสั่งอีกเพื่อดูว่าคาถาควบคุมสุนัขใช้ได้ผลดีหรือเปล่า 
แล้วบรรดาสุนัขทั้งหลายต่างก็ทยอยกับลุกขึ้นตามคำสั่งของเซบาสเตียน 

"ดีมาก ทุกตัว เอาหล่ะ ฉันมีงานให้พวกแกทำ หากพวกแกทำได้สำเร็จ ฉันจะเอาอาหารมาให้พวกแกทุกตัวเลย"เซบาสเตียนเริ่มสั่งการน้องหมาทั้งหลายอย่างแน่วแน่มั่นคง ในยามนี้ไม่มีคำว่าทำไม่ได้อยู่ในหัวเขาอีกแล้ว 
เจ้าหมาทั้งหลายต่างตั้งใจฟังยืนนิ่งราวกับต้องมนต์สะกดของชายร่างสูงผู้นี้ มันกำลังรอคำสั่งว่าจะให้มันทำอะไร
เซบาสเตียนเอาข้าวของพวกคนใช้แฟนท่อมไฮด์เอาไปให้หมาพวกนั้นดมกลิ่น

"เอาหล่ะ พวกแกจงจำกลิ่นพวกนี้เอาไว้ให้ดี แล้วแยกย้ายกันไปค้นหา ใครค้นหาได้แล้วให้หอนบอกฉันทันที"เซบาสเตียนสั่งพรางเอาข้าวของของคนใช้ไปยื่นส่งให้หมาดมหลายๆรอบ 

"โฮ่งๆๆๆ"บรรดาน้องหมาต่างพากันมาดมกลิ่นจากข้าวของในมือของเซบาสเตียนจนเริ่มจำกลิ่นได้แม่นยำแล้วจึงเห่าตอบรับก่อนจะพากันแยกย้ายไปค้นหาตามกลิ่นที่พวกตนดมมา

แล้วจากนั้นเซบาสเตียนก็ยืนรอให้หมาพวกนั้นมาพาเขาไป
และเพียงไม่นานเจ้าตุบหูตกห้อยวิ่งมาหาแล้วส่งเสียงหอนบอกว่ามันหาเจอที่หมายแล้ว

"โบ๋ววววว "เจ้าตุบน้อยส่งเสียงหอนยาวๆ แล้ววิ่งนำชายร่างสูงไปทันที

"อ้าว..แกเจอแล้วเหรอ"เซบาสเตียนบอกอย่างดีใจพรางรีบวิ่งตามเจ้าตุบตัวนั้นไปทันที เจ้าตูบน้อยวิ่งนำไปพร้อมกับเพื่อนๆหมาของมันอีกหลายตัวที่พากันมาสมทบแล้วช่วยกันนำทางเซบาสเตียนไป แม้ในยามยากเจ้าหมาพวกนี้ก็มีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว หากว่าไม่เคยเกิดเหตุครั้งนั้นเขาก็คงไม่เกลียดหมาแบบนี้หรอก

เจ้าตูบน้อยวิ่งไปดมกลิ่นไปนำชายหนุ่มไปตามทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง 

"ที่นี่มัน.."เซบาสเตียนจำได้ในทันที ใช่มันคือโกดังหลังเดิมที่เขาเคยไปช่วยเด็กๆออกมาจากเงื้อมือคนร้ายลักพาตัวเมื่อหลายวันก่อนนั่นยังไงล่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนร้ายคิดจะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่กบดาลของพวกมันอีก เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆพวกตำรวจเองก็เช่นกันสินะ

"โบ๋ววววววววว"เจ้าตูบน้อยส่งเสียงหอนบอกเซบาสเตียนว่ามันได้กลิ่นจากแถวๆนี้ แล้วจากนั้นมันก็วิ่งนำชายหนุ่มเข้าไปข้างในโกดังร้างในทันทีอย่างกล้าหาญ

"เดี๋ยวหยุดก่อน พอแล้วพวกแกไม่ต้องเข้าไป ที่นี่มันอันตรายแยกย้ายกันกลับไปกันได้แล้ว ไว้ฉันช่วยคนได้สำเร็จเมื่อไหร่จะเรียกพวกแกมารับรางวัลทีหลัง"เซบาสเตียนสั่งเสียงเรียบแผ่วเบาบอกบันดาน้องหมาให้หนีไปให้ไกลจากสถานที่นี้ เขาไม่อยากเห็นมหาพวกนี้ถูกคนร้ายฆ่าตาย

"แฮ่ๆๆๆ"เจ้าหมาทั้งหลายต่างเชื่อฟังคำสั่งของเซบาสเตียนกันหมด พวกมันพยักหน้าให้แล้วก็พากันแยกย้ายสลายตัวกลับไปยังที่ของมัน เจ้าตูบน้อยเองก็เช่นกันตามพวกพ้องของมันกลับไปบ้านในทันที

พอบรรดาน้องหมาสลายตัวไปกันหมด เซบาสเตียนก็บุกตะลุยเดี่ยวเข้าไปในโกดังอย่างไม่กลัวเกรง สายตาคอยสอดส่องไปรอบๆหาคนร้าย หรือไม่ก็หาร่างของคนใช้ทั้งสาม

เขาเดินสำรวจไปตามที่ต่างๆแล้วเขาก็เจอเจ้าพวกนั้น ชายหนุ่มรีบหายตัววับขึ้นมาแอบซ่อนตัวบนหลังคาโกดังแล้วค่อยๆห้อยหัวลงมาดูความเคลื่อนไหวของพวกคนร้ายภายในโกดังอย่างระแวดระวัง

"หึ..โดนจับไปรอบนึงแล้วยังไม่เข็ดอีกนะพวกแก คราวนี้สงสัยคงต้องฆ่าให้ตายซะแล้ว"เซบาสเตียนพึมพำกับตนเองคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของคนร้ายพวกนั้นไปอีกสักพัก

แต่ระหว่างนั้นเขากลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างกำลังจะใกล้เข้ามา จึงรีบดันตัวขึ้นมาหันไปมองรอบๆตัวอย่างระแวดระวัง ความรู้สึกแบบนี้มัน.....

"อร๊ายยย เซบาส...จัง "เสียงที่คุ้นหูมาพร้อมกับการโผลเข้ากอดด้วยความคิดถึงของยมทูตผมแดง

"มาทำไมไม่ทราบครับ เกรล ซาโตครีฟ"เซบาสเตียนหลบไม่ทันเลยโดนยมทูตหัวแดงกอดไปเต็มลัก ซาตานหนุ่มจึงหรี่ตาถามถามอย่างเซ็งๆที่ต้องมาเจอกับหมอนี่อีกจนได้ 

"แหม..ก็มา หา เธอ ยังไงล่ะจ๊ะ อูมมมม "เกรลพูดด้วยท่าทีคิคุอาโนเนะ ยื่นหน้ายื่นปากมาใกล้ๆทำท่าจะจูบซาตานหนุ่มให้ได้
เซบาสเตียนทำได้แค่เอามือคอยดันปากดันหน้าเจ้ายมทูตจอมหื่นนี่ไปห่างๆเท่านั้น เขาทำอย่างอื่นไม่ได้เดียวเกิดเสียงดังพวกคนร้ายจะไหวตัวเสียก่อน

"แล้วนี่เซบาสจังมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ หรือว่าจะเป็นบุพเพสันนิวาสให้นำพาเรามาพบกันในยามค่ำคืนนี้ใช่มัยล่ะจ๊ะ คืนนี้เรามานั่งชมจันทร์จนถึงเช้าเลยน้าตัวเอง"เกรลพูดเสียงอ่อนเสียงหวานพรางคว้าตัวซาตานหนุ่มมาซุกซบไหล่

"อย่ามาพูดให้ชวนอ้วกได้มัย บอกมาได้แล้วว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ คุณ เกรล"เซบาสเตียนถามเสียงเรียบ

"แหม..ก็มาเก็บวิญญาณแถวนี้น่ะสิจ๊ะ และก็ได้บังเอิญมาเจอเธอที่นี่พอดี อย่างงี้ไม่เรียกว่าบุพเพสันนิวาสได้ยังไงล่ะจริงมะๆ"เกรลพูดพรางเอาหัวซุกซบไหล่ออเซาะซาตานหนุ่มไม่หยุด ชายหนุ่มก็พยายามผละถอยแต่ก็โดนไล่ต้อนจนมุมหากถอยไปมากกว่านี้คงตกจากหลังคาหัวทิ่มแน่ๆ

"เออจะอะไรก็ช่างเหอะ ช่วยเงียบเสียงลงหน่อยได้มัย เดี่ยวพวกคนร้ายในโกดังก็ไหวตัวหนีไปกันหมดหรอก"เซบาสเตียนเตือนไม่ให้เจ้ายมทูตหัวแดงพูดเสียงดัง

"ก็ได้ๆว่าแต่เธอมาทำอะไรที่นี่ ยังไม่ตอบฉันเลยนะ เซบาสจัง"เกรลยอมทำตามที่ซาตานหนุ่มบอกพูดเสียงกระซิบในทันที

"มาช่วยคนและฆ่าคน"เซบาสเตียนบอกด้วยท่าทีเย็นชา

"อ๊า งั้นผู้ที่จะฆ่าคนพวกนั้นคือเธอเองหรอกเหรอ เซบาสจัง"เกรลร้องอย่างตกใจ ไม่นึกว่าเซบาสเตียนจะฆ่าคนพวกนี้เอง เขาคิดว่าคนพวกนี้จะตายเพราะโดนคนอื่นสังหารตามที่ระบุวิธีการตายของคนพวกนี้ในบัญชีคนตายเสียอีก

"ใช่ผมจะฆ่าพวกมันเอง พวกคนเลวเดนสังคมแบบนี้ปล่อยไว้ดีแต่สร้างปัญหาให้คนอื่นผมอุตส่าห์ให้พวกมันได้มีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดในคุกแต่กลับมีปีศาจอีกตนมาช่วยปล่อยพวกมันออกมาได้อีกแถมยังจับคนของผมไปเป็นตัวประกันเพื่อแลกกับนายน้อยผมไม่มีทางปล่อยให้พวกมันลอยนวลอีกแล้ว พวกมันรนหาที่ตายชัดๆ เกรล ขอยืมเดสไซด์หน่อยได้มัยครับ ไหนๆลิสคนตายก็มีชื่อพวกมันอยู่แล้วนี่นะจะตายด้วยมือของยมทูตหรือปีศาจก็ไม่ต่างกกันนักหรอก ผมจะดูด้วยว่าใครคือตัวการใหญ่ที่บงการพวกมันมาจับคนใช้ทั้งสามของแฟนท่อมไฮด์ไป"เซบาสเตียนหันมาพูดกับเกรล ซาโตครีฟด้วยท่าทีจริงจัง

"เอ่อ..จะดีเหรอ มันผิดกฏน้า ถ้าวิลรู้ว่าฉันเอาเดสไซด์ให้ซาตานยืมใช้ฆ่าคน ฉันคงโดนลิบเดสไซด์ไปอีกแน่ๆเลยอ่ะ"ยมทูตผมแดงเอาเล็บมากัดพูดอย่างไม่มั่นใจ เขาไม่กล้าให้ใครยืมเดสไซด์สักเท่าไหร่ 

"ขอร้อง"เซบาสเตียนยื่นหน้ามาพูดด้วยท่าทีออดอ้อน

"อ๊ายยย...กรี๊ดดดด อะ เอาไปเลยจ้า เอาไปเลย เอาไปให้หมดเลย รวมทั้งตัวและหัวใจของฉันด้วย ยกให้เธอหมดเลย อ๊า"มีหรือที่เกรลจะไม่หลงเสน่ห์ของซาตานหนุ่มใบหน้าของยมทูตผมแดงถึงกลับแดงกล่ำยิ่งกว่าผมของตนเสียอีกด้วยความดีใจสุดๆ 

"หึหึหึ ขอบคุณนะ แต่ขอแค่เดสไซด์อย่างเดียวก็พอ ส่วนตัวคุณ ไว้จบงานนี้เมื่อไหร่..ผมค่อยมารับไปทีหลังแล้วกันนะครับ คุณเกรล"เซบาสเตียนพูดหว่านเสน่ห์เขาแค่พูดไปงั้นแหละ พรางคว้าเลื่อยไฟฟ้าที่วางอยู่บนตักของยมทูตหัวแดงมาถือไว้แล้วกระโจมหนีลงมา โดยที่ยททูตผู้นั้นยังอยู่ในสภาพตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน ลมๆแล้งๆไป

"-/////-"เกรลทำได้แค่นั่งเหม่อเพ้อฝันถึงคำพูดของซาตานหนุ่ม หารู้ไม่ว่าตอนนี้ตนถูกชายผู้นั้นทิ้งให้นั่งตากลมตามลำพังอยู่บนหลังคาไปเรียบร้อยแล้วรวมทั้งเดสไซด์ถูกขโมยไปหน้าตาเฉยเลยทีเดียว

และในตอนนี้ซาตานหนุ่มกำลังเดินถือเดสไซด์เข้าไปในโกดังอย่างไม่กลัวเกรง เพราะเขามีอาวุธสังหารคนร้ายแล้วนับว่าการปรากฎตัวของเกรล ซาโตครีฟจัดได้ว่าเป็นตัวช่วยได้ดีทีเดียว เขาจะรีบจัดการกับคนพวกนั้นให้เสร็จๆไปและช่วยคนใช้แฟนท่อมไฮด์กลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้
และพอคนร้ายเห็นชายร่างสูงก็รีบชักปืนออกมาเตรียมยิงในทันที แต่ก่อนที่คนพวกนั้นจะทันได้เหนี่ยวไกก็โดนเดสไซด์พรากวิญญาณไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแต่อย่างใดตายอย่างสงบและรวดเร็วพร้อมกับเปิดเผยความทรงจำชิเนมาติกให้ซาตานหนุ่มได้ดูความเคลื่อนไหวของคนพวกนั้นก่อนตายด้วย

"หึ คิดว่าปืนกระจอกๆพวกนั้นจะมาสู้เคียวพรากวิญญาณได้งั้นเหรอ ท่าทางจบงานนี้จะได้ของฝากส่งไปให้ลุงแลนกาบได้หลายคนเลย "เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีเย็นชา รีบเดินบุกตะลุยเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว และก็ได้เก็บเกี่ยววิญญาณไปอีกหลายคน 

เขาไม่สนใจคนพวกนั้นหรอก ตอนนี้เขากำลังหาเจ้าหน้ากากนกอินทรี เจ้าซีโร่ต่างหาก แต่ดูเหมือนเขาจะมาเสียเที่ยวซะแล้วสิ พอบุกตลุยฆ่าพวกคนร้ายไปหลายสิบคนคอยดูชิเนมาติกของคนพวกนั้นไปทีละคนๆเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่มีใครได้พบซีโร่เลยสักคน พวกนั้นแค่มาทำหน้าที่เฝ้าโกดังซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวประกันเท่านั้น ส่วนพวกที่เคยเห็นซีโร่เขายังไม่เจอเลยสักคนหรือว่านี่จะเป็นแผนล่อลวงเขามาติดกับกันแน่นะ

"ซีโร่อยู่ไหน"เซบาสเตียนถามก่อนที่จะลงมือสังหารคนร้ายชะตาขาดพวกนี้

"อย่าฆ่าผมเลย ผมไม่รู้ ผมไม่เคยเห็นนายใหญ่"หนึ่งในคนร้ายขี้ขลาดพยายามอ้อนวอนร้องขอชีวิต ละล่ำละลักบอกด้วยความสัตย์ว่าเขาไม่เคยเห็นหัวหน้าใหญ่เลยสักครั้ง 

"หึ งั้นตายดีกว่านะอย่าอยู่เลย"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีเลือดเย็นแล้วใช้เลื้อยไฟฟ้าปาดคอคนร้ายนั่นทันทีอย่างไร้ความปราณี ชายผู้ร้องขอชีวิตก็ตายในทันที พร้อมกับชีเนมาติกปรากฎภาพต่างๆให้ซาตานหนุ่มเห็นไปฉากๆ เป็นภาพที่ชายผู้นี้กับพรรคพวกคนอื่นๆกำลังเดินทางมาที่บ้านพักตากอากาศ แล้วบุกเข้าไปในบ้าน เกิดการต่อสู้กับระหว่างคนร้ายกับพวกคนใช้ทั้งสาม ฟินนี่ยกโต๊ะมาทุ่มใส่คนร้าย เมลินทั้งเตะทั้งต่อย น่าเสียดายที่เธอไม่ได้เอาปีนมาจากแฟนท่อมไฮด์ จึงทำได้แค่ต่อสู้ด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น ส่วนบันโดเองก็ไม่มีอาวุธเขาใช้ข้าวของภายในบ้านเป็นอาวุธ ต่อสู้กันอย่างอุตหลุดจนข้าวของภายในบ้านแตกหักเสียหาย หล่นเกลื่อนพื้นไปหมด และในระหว่างที่กำลังสู้กันอยู่....ภาพชิเนมาติกก็จบลงแค่นั้นไม่มีอะไรอีก

"อ้าว..ทำไมมีแค่นี้..ฉายต่อสิ"เซบาสเตียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์เขาเกือบจะรู้แล้วเชียวว่าเกิดอะไรขึ้นอีกที่บ้านพักตากอากาศ แต่ทำไมความทรงจำของชายผู้นี้ถึงมีแค่นี้ล่ะ ชายหนุ่มจึงลองรอดูต่อไปอีก แต่ภาพชิเอมาติกนั้นกลับดำมืดไม่มีภาพอะไรอีกเลยราวกับว่ามีพลังอะไรบางอย่างลบความทรงจำคนพวกนี้ไป

พอไม่มีอะไรจะดูอีกแล้วเซบาสเตียนก็ปล่อยมือจากร่างที่ไร้ลมหายใจนั่นแล้วหยิบเดสไซด์มาถือไว้แล้วยืนขึ้นเดินไปตามทางสำรวจโกดังร้างให้ทั่วๆ แต่เขาก็ไม่พบเจอใครอีกแล้ว นอกจากร่างโชกเลือดของคนใช้ทั้งสามที่ถูกจับแขวนเอาไว้ที่กำแผง หัวตกห้อย

"พวกนาย!!"เซบาสเตียนร้องเรียกพรางรีบเดินมาดูร่างคนใช้แฟนท่อมไฮด์ทั้งสามที่ถูกจับมัดมือแขวนห้อยลงมาจากเพดานตามนาบติดผนังโกดัง เลือดไหลโทรมกาย

"ว่างเปล่า..ไร้วิญญาณ อีกแล้ว -*-"เซบาสเตียนพูดอย่างเซ็งๆที่เจ้าคนใช้ทั้งสามโดนพรากวิญญาณไปอีกแล้ว เหลือไว้แต่ร่างให้ดูต่างหน้าเท่านั้นสินะ และตรงกำแพงด้านหลังศพของคนใช้ทั้งสามเขียนข้อความด้วยเลือดด้วยอักขระรูนเอาไว้ว่า...

"ถ้าอยากได้วิญญาณคนพวกนี้คืนล่ะก็ จงนำตัวลูกขุนนางมาแลกที่เกราะปีศาจในวันแข่งประลองดาบ ข้ารู้ว่าแกต้องไม่ใช่คน ไว้เจอกันนะ เซบาสเตียน มิคาเอลลิส"เซบาสเตียนอ่านข้อความเลือดนั้นออกเสียงด้วยความตระหนก ที่เจ้าซีโร่รู้ด้วยว่าเขาเป็นใคร

"หนอยเจ้าซีโร่ แกนะแก!!อึ้ยเจ็บใจนัก "เซบาสเตียนสบทด้วยความเจ็บใจที่มาช่วยคนพวกนั้นไม่ทัน โดนพรากวิญญาณไปเสียแล้ว แถมยังต้องรอให้ถึงวันแข่งฟันดาบอีก ซึ่งอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะถึงวันแข่ง แล้วเจ้าพวกนี้จะทำยังไงล่ะ หากวิญญาณออกจากร่างเกินเจ็ดวันคนพวกนี้ก็จะตายไปจริงๆต่อให้ได้ดวงวิญญาณคืนก็ไม่สามารถพากลับเข้าร่างได้อีกแล้วน่ะสิ

"โอยยา กลุ้ม จะทำยังไงดี ถ้าพาวิญญาณกลับมาไม่ทันเจ็ดวัน เจ้าพวกนี้ก็จะตายไปจริงๆ ทำยังไงดี อุตส่าห์เอานายน้อยไปฝากลุงแลนกาบไว้แล้วจะได้มาช่วยคนพวกนั้นได้เต็มที่ แต่สุดท้ายก็..มาช่วยไม่ทันจนได้ โอยยา กลุ้ม!!"เซบาสเตียนเอามือกุมขมับด้วยความกลัดกลุ้มตอนนี้เขามืดแปดด้านไปหมดไม่รู้จะหาทางช่วยคนใช้แฟนท่อมไฮด์ยังไงดี ต้องตามหาซีโร่ให้เจอแล้วแย่งชิงดวงวิญญาณคนพวกนั้นมาให้ได้ แต่ว่า จะหาเจ้าเหยี่ยวนั้นได้ที่ไหนล่ะ

แล้วเซบาสเตียนเดินไปเดินมาพยายามคิดหาทางออกของปัญหาพวกนี้ให้ได้ เขาจะไปหาซีโร่ได้ที่ไหน ถึงเจ้านั่นจะอยู่เมืองซาตานแต่เขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันอยู่บ้านหลังไหน ถ้าหากถามใครสักคนที่รู้จักบ้านเจ้าซีโร่ได้ก็คงจะพอมีหนทาง แต่ว่าเวลาอย่างนี้เขาจะไปถามจากใครล่ะ พวกคนร้ายที่เขาฆ่าตายก็ไร้ประโยชน์เพราะดุเหมือนจะโดนลบความทรงจำไปหมดเลย

"ใครกันนะที่รู้จักบ้านของซีโร่ ใครกัน.."เซบาสเตียนพยายามเดินคิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาถึงบางอ้อในที่สุด

"ใช่แล้ว ซีทานไง!!เขาต้องรู้จักบ้านเจ้าซีโร่แน่ๆเขาเคยรับใช้หมอนั่นมาก่อนนี่ "เซบาสเตียนพูดเมื่อนึกขึ้นได้ คนที่จะช่วยเขาได้มีแต่ชายคนนั้นเขาต้องกลับไปหุบเขาดิวอี้อีกครั้งเพื่อขอความช่วยเหลือปีศาจพวกนั้นเสียแล้ว

พอตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มหน้าหวานมิตรเก่าที่หุบเขาดิวอี้เซบาสเตียนจึงเดินมาที่ร่างคนใช้ทั้งสามที่โชกเลือดไร้วิญญาณแล้วจากนั้นเขาก็ใช้เดสไซด์ตัดเชือกที่มัดร่างคนพวกนั้นจนร่างที่อ่อนปวกเปียกไร้การรับรู้ตกตุบลงมานอนคว่ำหน้าที่พื้น ซาตานหนุ่มจึงจัดการแบกร่างศพทั้งสามดดยจับฟินนี่อุ้มพาดบ่าซ้าย เมย์ลินอุ้มพาดบ่าขวา และบันโดก็หิ้วคอเสื้อดึงลากไถลไปตามพื้นเพราะเจ้ามือระเบิดนี่ตัวหนักและใหญ่เทอะทะ อุ้มไม่ถนัด

แล้วก็ทิ้งเดสไซด์เอาไว้เผื่อเกรลจะมาเอาคืน พอออกมาจากโกดังก็เจอกับเจ้าหัวแดงเข้าพอดี

"เจอแล้วเซบาสจัง ทำไมหนีมาแบบนี้ไม่ยอมคอยกันมั่งเลยนะตัว"เกรลพูดตัดพ้ออย่างงอนๆ

"ขออภัยพอดีมีธุระต้องทำเร่งด่วน ที่เหลือฝากเก็บกวาดด้วยแล้วกันนะครับ ส่วนเดสไซด์ผมวางไว้ที่พื้นฟางข้างในโกดัง คุณเกรลไปหาเอาเองนะ ผมขอตัวก่อนล่ะ"เซบาสเตียนพูดอย่างรวดเร็วแล้วจากนั้นก็แบกศพคนใช้แฟนท่อมไฮด์ทั้งสามชิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เกรล ซาโตครีฟพอรู้ว่าเดสไซด์ถูกทิ้งไว้ไหนก็รีบเข้าไปหาทันที หากทำหายไปล่ะก็โดนวิลเลี่ยมเล่นงานตายแน่ๆ

"อ๊า เจอแล้วเดสไซด์ของฉัน เอาหล่ะ ดูท่าเราไม่ต้องทำงานแล้วก็เซบาสจังจัดการเก็บวิญญาณคนพวกนี้มาได้หมดเลยนี่กลับไปรายงานวิลก่อนดีกว่า "ยมทูตผมแดงหยิบเดสไซด์มาถือไว้แล้วเดินออกไปจากโกดังกลับไปยังบริษัทยมทูตเพื่อรายงานว่าเก็บเกี่ยววิญญาณมาหมดเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเซบาสเตียนในตอนนี้เดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศแล้ว และกำลังจะเอาศพของคนใช้แฟนท่อมไฮด์มาวางนอนเรียงกันที่พื้นหน้าเตาผิงอีกครั้ง จากนั้นก็ยืนมองดูสภาพศพพวกนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ มันน่าจะมีวิธีดองศพให้อยู่ได้นานๆสิ 

"นี่ถ้าหากเราสามารถแช่แข็งศพพวกนี้ไม่ให้เน่าเปื่อยหรือหมดพลังชีวิตได้ก็คงจะดีแต่คงไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เราไม่ใช่พวกปีศาจหิมะสักหน่อย เลิกคิดไปดีกว่า รีบหาตัวเจ้าซีโร่แล้วชิงดวงวิญญาณมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน เอาหล่ะกลับไปหาซีทานที่ดิวอี้เลยแล้วกัน ป่านนี้ยัยทวดพันปีนั่นท้องป่องยังน้า"พอคิดได้แล้วเซบาสเตียนก็ออกเดินทางในทันที โดยเอากุญแจล๊อกประตูบ้านพักตากอากาศเอาไว้แล้วกางปีกบินขึ้นฟ้าตรงไปยังหุบเขาดิวอี้ในทันที

ส่วนทางด้านชิเอลในตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะนอนเลย เขาพยายามจะล้มตัวลงนอนที่โซฟาแล้วแต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็นอนไม่หลับ เขาอดรู้สึกกังวลไม่ได้ว่า เจ้าอีกานั่นจะช่วยคนใช้แฟนท่อมไฮด์ได้สำเร็จหรือเปล่า

"เฮ้อ นอนไม่หลับเลย แค่ก แค่ก ป่านนี้เจ้านั่นกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ ไม่รู้จะช่วยคนพวกนั้นได้หรือเปล่า รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดียังไงไม่รู้สิ นายรีบกลับมาสักทีสิ เซบาสเตียน "ชิเอลได้แต่พึมพำอยู่บนโซฟาไป เขาพยายามจะนอนอยู่หลายครั้งแต่ก็นอนไม่หลับ เพราะตอนนี้เขาทั้งโมโหเซบาสเตียนและกังวลเรื่องการช่วยชีวิตพวกคนใช้ว่าเจ้านั่นจะทำสำเร็จหรือเปล่า เขาอยากจะติดต่อหาเจ้านั่นจริงเลย นี่ถ้าหากว่าเขามีโหลใส่ไฟสื่อสารเป้นของตนเองล่ะก็ เขาคงจะส่งข้อความไปถามแล้วล่ะ จะได้นอนหลับหายกังวลเสียที

"จริงสิ คุณแลนกาบบอกว่าจะทำดวงไฟสื่อสารให้เรานี่นา แต่ว่าป่านนี้คงนอนแล้วมั้งถ้าเราไปเรียกจะเป็นการรบกวนตาลุงนั่นหรือเปล่านะ"ชิเอลพึมพำพรางเอี้ยวตัวชะเง้อคอมองดูที่บันไดแล้วกำลังคิดตัดสินใจอยู่ว่าเขาจะทำยังไงต่อไปดี เพราะมีอยู่วิธีเดียวที่จะปลุกให้แลนกาบตื่นก็คือส่งเสียงดังๆแต่อาจจะต้องแลกกับการโดนต่อว่า แต่หากบอกเหตุผลไปบางทีตาลุงนั่นอาจจะใจอ่อนบ้างก็ได้ 

"เอาหล่ะ เป็นไงเป็นกัน โดนด่าก็ช่าง ต้องเรียกให้ตาลุงนั้นลงมาหาเรา"ชิเอลจึงตัดสินใจที่จะก่อกวนการนอนของแลนกาบ
แล้วจากนั้นชิเอลก็หยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกมาถือไว้ แล้วจากนั้นก็แกล้งทำเป็นมือไม่มีแรงปล่อยแก้วตกลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง

เพล้ง!!!! เสียงแก้วแตกกระจายดังสนั่น ดังจนได้ยินไปถึงข้างบนเลย แล้วนาทีต่อมา

"เกิดอะไรขึ้นน่ะ ชิเอล!!"แลนกาบส่งเสียงถามมาก่อนที่ขาของเขาจะก้าวลงบันไดมาด้วยความตกใจ

"ผะผมขอโทษครับ ผมพยายามจะหยิบน้ำมาดื่มแต่มือของผมมันไม่มีแรงเลย ผมเลยเผลอทำแก้วหลุดมือ"ชิเอลละล่ำละลักแก้ต่างให้ตนเองแสร้งทำสีหน้าสลดรู้สึกผิดเรียกร้องความเห็นใจจากปีศาจผมแดง

"อ่า งั้นเหรอ จะกินน้ำอีกมัยเดี่ยวข้าไปเอาแก้วมาให้ใหม่"แลนกาบพูดอย่างใจเย็น อาสาจะไปเอาแก้วใบใหม่มาให้

"เอ่อ..ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมไม่หิวน้ำแล้ว ผม เอ่อ..คือ"ชิเอลพยายามจะเริ่มนำเข้าสู่ประเด็นหลัก แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะพูด กลัวแลนกาบจะต่อว่าหาว่าเขาไร้มารยาทน่ะสิ

"อ่ะมีอะไรก็พูดมา ไหนๆเจ้าก็ทำข้าตื่นมาแล้วนี่ "แลนกาบพูดอย่างรู้ทัน แผนการเรียกร้องความสนใจของชิเอลดี

"ผมอยากติดต่อหาเจ้าอีกานั่นอ่ะ จะถามเจ้านั่นว่าทำงานไปถึงไหนแล้ว ไม่งั้นผมคง แค่กๆคงนอนไม่หลับแน่ๆเลยครับ"ชิเอลพูดเข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมแล้ว พรางไอโขลกๆเพราะฝืนพูดใช้เสียงมามากเลยอาการเจ็บคอกำเริบ

"หึหึหึ เป็นห่วงเขาสินะ"แลนกาบพูดยิ้มๆมองชิเอลอย่างเอ็นดู

"ปละเปล่าสักหน่อย"ชิเอลพูดอย่างเขินๆรีบหันหน้าหลับตาหนี

"หึหึหึ"แลนกาบได้ทีหัวเราะเยาะใหญ่เลย

"หยุดหัวเราะเยาะผมสักทีเหอะน่า ผมไม่ใช่ตัวตลกนะ แค่ก แค่ก"ชิเอลหันมาโวยใส่แล้วก็ไอโขลกๆคอเริ่มเจ็บมากยิ่งขึ้น

"เอ้าๆไอใหญ่แล้ว เดี่ยวข้าไปเอาน้ำมาให้ใหม่ดีกว่า ดื่มน้ำอุ่นแล้วกันนะ กินน้ำเย็นยิ่งทำให้เจ้าแย่ลง"แลนกาบบอกอย่างห่วงใย

"แค่ก แค่ก ขอบคุณครับ คุณแลนกาบ แค่ก แค่ก"ชิเอลไอไปพูดไปสายตามองดูปีศาจผมแดงอย่างชื่นชมในความใจดีมีเมตตาของปีศาจวัยกลางคน และกลับรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่ มีคนคอยดูแลเป็นอย่างดี

แล้วจากนั้นชิเอลก็นั่งรอแลนกาบอยู่ที่โซฟา และไม่กี่นาทีต่อมาปีศาจใจดีก็ถือแก้วใส่น้ำอุ่นเดินตรงมา

"อ่ะ น้ำมาแล้ว"แลนกาบพูดยิ้มๆพรางค่อยยื่นแก้วน้ำอุ่นส่งให้ชิเอลอย่างช้าๆ

"ค่อยๆดื่ม ระวังจะลวกคอ ลองจิบนิดนึงก่อนถ้าร้อนเกินไปเดี่ยวข้าเอาน้ำเย็นเติมให้"แลนกาบพูดด้วยความหวังดีค่อยๆจับประคองแก้วไว้ให้ชิเอลยกขึ้นจิบช้าๆ

ชิเอลลังเลครู่หนึ่งเขากลัวโดนวางยา ยังไม่เชื่อสนิทใจกับปีศาจวัยกลางคนผู้นี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเซบาสเตียนคงจะยอมดื่มน้ำอุ่นแก้วนี้โดยไม่ลังเลเลยสินะ

"หึ ไม่กล้าดื่มกลัวข้าวางยาเจ้างั้นรึ ชิเอล"แลนกาบพูดดักคอยิ้มอย่างขบขัน

"อ่า..คือ..ผม.."ชิเอลอักอักพูดไม่ออกไม่รู้จะบอกว่ายังไงดี ก้เขาระแวงจริงๆนี่ แต่หากพูดไปอาจทำให้ปีศาจแถวนี้เสียน้ำใจน่ะสิ

"ข้าจะวางยาเจ้าไปทำไมกัน ตกลงจะดื่มหรือไม่ดื่ม ข้าอุตส่าห์อุ่นน้ำให้เจ้าดื่มแก้เจ็บคอแท้ๆเชียว"แลนกาบพูดเกลี่ยกล่อมอย่างใจเย็น

"ก็ได้ครับ ดื่มก็ดื่ม"ชิเอลจึงยอมดื่มเพื่อรักษาน้ำใจชายผู้นี้และเพื่อตัดบทไม่อยากให้เรื่องเลยเถิดไปกันใหญ่

แล้วจากนั้นชิเอลก็ค่อยยกแก้วน้ำอุ่นๆซดอย่างช้าๆ ความอุ่นของน้ำทำให้เขารู้สึกชุ่มคอดีไม่น้อย เด็กหนุ่มดื่มไปหลายอึกใหญ่ๆอย่างไม่ลังเล เขาต้องเชื่อใจแลนกาบสิ ขนาดเซบาสเตียนยังเชื่อใจชายผู้นี้เลยนี่นา

พอดื่มไปได้ครึ่งถ้วยชิเอลก็เอาแก้ววางที่โต๊ะ โดยมีมือของแลนกาบคอยประคองเอาไว้เพราะเขารู้ว่าชิเอลป่วยหนักมือและเท้าไม่มีแรงจะทำอะไรเลย

"เอาหล่ะ นี่ก็ได้เวลาที่เจ้าต้องกินยาแล้วไม่ใช่เหรอ "แลนกาบพูดพรางเอื้อมมือไปหยิบถุงยาที่เวบาสเตียนฝากเอาไว้มาเปิดออกดูแล้วหยิบยาออกมาวางเอาไว้ที่โต๊ะรับแขก

"เอ่อ..ผมกินไปแล้ว.."ชิเอลหลับตาพูด

"อย่ามาโกหก ข้าไม่เห็นเจ้ากินสักนิด "แลนกาบพูดเสียงดุ

"ผมกินแล้วจริงๆ"ชิเอลเถียงมองแลนกาบอย่างไม่สบอารมณ์ ที่ปีศาจตนนี้มายุ่งวุ่นวายกับเขาอยู่ได้
แลนกาบหยิบยามาอ่านฉลากดู เขาใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์มานานเลยเรียนรู้ภาษาของมนุษย์มามากพอสมควร เขาจึงอ่านฉลากยาออกว่า ยาพวกนี้เป็นยาอะไรและกินเวลาไหน

"แต่ยานี่บอกเอาไว้ว่าจะต้องกินก่อนนอน แล้วนี่ก็น่าจะถึงเวลาแล้วด้วย เอาไปกินซะ อย่าดื้อ เดี่ยวก็ไม่หายหรอก เอ้า เอาไป "แลนกาบพูดด้วยท่าทีจริงจังพรางจัดแจงเทยาเม็ดใส่มือชิเอลและถือแก้วเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพ
ชิเอลทำหน้าบอกบุญไม่รับที่โดนแลนกาบบังคับให้ทานยา เขาเป็นเด็กที่กินยายากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขนาดเซบาสเตียนบังคับให้กินเขายังไม่ค่อยจะยอมกินเลยนับประสาอะไรกับปีศาจที่พึ่งจะรู้จักกันไม่นานอย่างแลนกาบ

"กินเข้าไปไม่งั้นข้าจะจับกรอกนะ กินซะ บอกไว้ก่อนนะเด็กดื้อข้าไม่ปราณีหรอกนะ อย่าคิดว่าเจ้าหนูจะตามใจเจ้าแล้วคนอื่นๆจะตามใจเจ้าเหมือนกับเขา ยังไงก็ต้องกินยาจะได้หายป่วยไวๆ กินเข้าไปเดี่ยวนี้เลย ชิเอล "แลนกาบพูดด้วยท่าทีจริงจังตะล่อมให้ชิเอลยอมกินยาให้ได้
แต่ชิเอลนั่งนิ่งทำเป็นหูทวนลมอย่างดื้อรั้น เขาเริ่มไม่ค่อยชอบตาลุงนี่ซะแล้วสิ มาบังคับเขาอยู่ได้ เขาไม่อยากกินยาสักหน่อย แต่แล้วเขาก้ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆแลนกาบก้เริ่มทำการนับเลขขึ้นมา

"1..."แลนกาบเริ่มนับเลข เขาเป็นปีศาจที่เด็ดขาดมาก

"2.."แลนกาบนับต่ออีก
ชิเอลหันมาจ้องหน้าแลนกาบอย่างไม่พอใจ นี่คิดจะทำอะไรกันแน่น่ะ 

"ถ้าข้านับถึงสามเจ้ายังไม่กินยา ข้าจะจับกรอกยาทันที"แลนกาบพูดข่มขู่

"หนอยตาแก่นี่..อึ้ย.."ชิเอลสบทอย่างเจ็บใจ กำมือแน่นที่โดนขัดใจ 

"สะ.."และแลนกาบทำท่าจะนับสาม 

"ก็ได้"ชิเอลตัดสินใจหลับตากระดกยาใส่ปากแล้วเอื้อมมือมาหยิบน้ำอุ่นๆครึ่งแก้วมาดื่มรวดเดียวหมด ยอมกินยาในที่สุด กลัวโดนตาลุงนี่จับกรอกยา

"หึ ดีมาก กินยาแล้วก็นอนได้แล้ว พักผ่อนให้มากๆร่างกายจะได้หายป่วยไวๆ"แลนกาบพูดอย่างอารมณ์ดี เขาก็ทำเป็นดุไปงั้น แต่ใจจริงก็ไม่ได้คิดจะเข้มงวดอะไรนักหรอกก้แค่หวังดีอยากให้หายป่วยไวๆแค่นั้นเอง

"ครับ นอนก็ได้ แต่ว่า ผมอยากติดต่อกับเจ้าอีกานั่นก่อนอ่ะไม่งั้นนอนไม่หลับ"ชิเอลพูดด้วยท่าทีจริงจัง 

"หึ ป่านนี้เจ้าหนูคงจะยุ่งอยู่มั้ง ไว้รอให้เค้าติดต่อมาเองดีกว่านะ อ่ะขวดโหลไฟสื่อสารของเจ้าข้าทำให้แล้ว อยากจะส่งข้อความไปหาเขาก็ตามสบาย ข้าไปนอนก่อนนะ ฮ้าว เริ่มง่วงแล้ว เจ้าเองก็รีบๆเข้านอนซะล่ะ"แลนกาพูดยิ้มๆพรางเอามือล้วงไปในเสื้อหยิบขวดโหลปากกว้างใบเล็กมีฝาหมุนเกลียวออกมาแล้วยื่นส่งให้ชิเอล

"อ้า..ขอบคุณครับ คุณแลนกาบ ว้าว นี่เป็นดวงไฟของผมเหรอ"ชิเอลถึงกลับเบิกตาโตพูดด้วยความดีใจ ความรู้สึกที่ตะขิดตะขวงใจในตัวชายผู้นี้หายไปหมดเลย แล้วรีบยื่นมือมารับขวดโหลดวงไฟของเขาในทันทีด้วยความตื่นเต้น เขาจะมีดวงไฟเอาไว้ติดต่อกับเซบาสเตียนแล้ว

"ใช่แล้ว ดวงไฟนี้ข้าให้ชื่อว่าชิเอล แฟนท่อมไฮด์ เวลาจะใช้ส่งข่าวก็เขียนข้อความส่งถึงเซบาสเตียนได้เลย ข้ากะว่าจะให้เจ้าพรุ่งนี้ พอดีเจ้าเอ่ยขึ้นมาเสียก่อนเลยเอามาให้เจ้าซะเลย ข้าเข้าใจว่าเจ้าคงจะนอนหลับได้ยากเพราะความกังวลใจ ตอนนี้มีอะไรจะถามเจ้าหนูก็เขียนไปเลย อ่ะนี่กระดาษและปากกาขนนก "แลนกาบพูดพรางเดินไปหยิบอุปกรณ์เครื่องเขียนมาวางไว้ที่โต๊ะรับแขกตรงหน้าโซฟาที่ชิเอลกำลังนั่งอยู่

"อือๆ"ชิเอลพยักหน้ารับแล้วยิ้มให้แลนกาบอย่างดีใจ ถึงตาลุงนี่จะดุไปบ้างแต่ก็เป็นปีศาจที่ดี สมแล้วที่เซบาสเตียนไว้ใจฝากให้ชายผู้นี้ดูแลเขา
แล้วแลนกาบก็เดินขึ้นบันไดกลับไปนอนที่ห้องข้างบน ทิ้งให้ชิเอลเล่นสนุกกับดวงไฟสื่อสารไป

"หึ คราวนี้ติดต่อเจ้านั่นได้แล้ว ลองเขียนส่งไปดูหน่อยดีกว่า จะด่าให้น่าดูเลย เจ้าบ้าเซบาสเตียน ฮึ่ม"ชิเอลกัดฟันพูดอย่างไม่สบอารมณ์หยิบกระดาษและปากกาขนนกที่แลนกาบเตรียมไว้ให้เอามาลงเขียนจดหมายหาเซบาสเตียนในทันที ซึ่งเขาตั้งใจว่าจะเขียนด่าใส่เป็นชุดเลย
และในระหว่างที่ชิเอลกำลังเขียนจดหมายอยู่ ทางด้านเซบาสเตียนในตอนนี้เดินทางมาถึงหุบเขาดิวอี้แล้ว และกำลังยืนอยู่ที่ปากทางเข้าถ้ำ เขาไม่จำเป็นต้องเข้าทางผู้บุกรุกอีกต่อไป เขาแค่เดินมายืนที่กำแพงที่มีลูกตาเฝ้ายามแล้วโบกมือทักทาย จนลูกตานั้นกลิ้งกลอกไปมากระพริบตาสีแดง

แล้วฉับพลันนั้นปีศาจหิมะก็ทยอยออกมาจากประตูกลที่กำแพง พอเห็นว่าใครมาบุกรุกที่นี่ก็จำได้ในทันที

"อ้อนึกว่าใครที่แท้ก็เจ้าทาสตัวแสบนี่เอง ไงกลับไปบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาที่นี่อีกล่ะ"เสียงที่คุ้นเคยทักมาก่อนจะเดินมาหาพร้อมกับพวกพ้องสองสามตน 

"หวัดดีครับคุณมักเกิล ไม่ได้เจอกันหลายวันดูคุณสบายดีนะ เอ...แต่การแต่งตัวของคุณดูแปลกๆไปนะเนี่ย "เซบาสเตียนเอ่ยทักเพื่อนเก่าอย่างแปลกใจถึงการแต่งตัวของมักเกิลที่มีความแตกต่างจากพวกพ้องที่ยืนอยู่ข้างๆสองสามตน 

"หึหึหึ มันก็ต้องแปลกอยู่แล้วล่ะ ก็ข้าได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าปีศาจหิมะแล้วนี่นา "มักเกิลพูดยิ้มๆยืดตัวขึ้นวางมาดเท่ห์อวดเพื่อนอีกาของเขาสักหน่อย

"โอ้วจริงเหรอ งั้นคุณบอด๊อกก็ถูกปลดแล้วน่ะสิ ก็ในเมื่อคุณมักเกิลมาเป็นหัวหน้าแทนแบบนี้น่ะ ใช่มะ โถ่ไม่น่าโดนไล่ออกเลยน้าคุณบอด็อกน่ะ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆแกล้งถามไปงั้น

"ปลดบ้านแกน่ะสิ เจ้าอีกา ข้ายังอยู่เว้ย แต่ข้าไม่ได้เป็นหัวหน้าเจ้าพวกนี้แล้วเพราะข้า เป็นนายใหญ่ของที่นี่"อีกเสียงหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาท่ามกลางความมืดแล้วเดินมาสมทบกับลูกสมุนของตน มักเกิลคำนับให้ชายที่มาใหม่แล้วหลีกทางให้เขาเดินมาสนทนากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญที่มาหากันในยามวิกาลแบบนี้

"ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับทั้งคุณบอด็อกและก็คุณมักเกิลสำหรับตำแหน่งใหม่ "เซบาสเตียนพูดแสดงความยินดีแล้วปรบมือให้

"อือ ที่เป็นแบบนี้เพราะเจ้าช่วยนะ เซบาสเตียน ว่าแต่มาทำอะไรที่นี่ดึกดื่นๆ ข้าคิดว่าเจ้าจะกลับไปบ้านแล้วไม่กล้ามาเหยียบที่นี่แล้วซะอีก ดีนะที่พวกข้ายังไม่นอนน่ะ"บอด็อกถามมองเวบาสเตียนอย่างสงสัยว่าอีกาหนุ่มมาที่นี่ทำไมตอนดึกๆ

"พอดีเกิดเรื่องยุ่งๆนิดหน่อยกับคนของผมน่ะ เอ่อ..ไม่ทราบว่า ซีทานยังทำงานอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ คุณบอด็อก"เซบาสเตียนถามเข้าสู่ประเด็นทันทีเขาไม่อยากจะเสียเวลามากไปกว่านี้แล้ว

"อยู่ เจ้าหนุ่มนั่นทำงานเก่ง ขยันน่าดู นี่ก็ได้เข้าทำงานเป็นข้ารับใช้เต็มตัวแล้ว มีเงินเดือนให้ด้วย และดูท่าซีเบลจะถูกใจในการทำงานของเจ้าหมอนั่นน่าดู "บอด็อกบอกยิ้มๆ

"งั้นหรือครับ ช่วยพาผมไปพบซีทานหน่อยได้มัย ผมมีเรื่องสำคัญจะปรึกษาเขาหน่อยน่ะ"เซบาสเตียนบอกไปตามตรงเลย

"ได้สิ ป่านนี้เจ้าหนุ่มนั่นคงกำลังอาบน้ำเตรียมเข้านอนล่ะ ก็นี่น่าจะเกือบห้าทุ่มแล้วนี่"บอด็อกตอบรับพรางเดินนำเซบาสเตียนเข้าไปข้างในหุบเขา เพื่อไปรอพบหนุ่มหน้าหวานที่ห้องพัก

เซบาสเตียนเดินตามนายใหญ่ของปีศาจหิมะเข้าไปในหุบเขาแล้วเดินไปตามทางตรงไปยังห้องพักของซีทาน ซึ่งเป็นห้องพักใหม่ที่ไม่ใช่ห้องเก็บของเพราะบอด็อกย้ายมานอนกับนางปีศาจหิมะส่วนห้องพักเก่าของตนก็ยกให้มักเกิลไปเพราะได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าปีศาจหิมะต่อจากเขา หลังจากผ่านการประลองไปเมื่อสองวันก่อน

"เห ดูเหมือนว่าที่นี่จะเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยนะครับ บอด็อกห้องเก้บของนั่นถูกปิดไปแล้วเหรอครับ"เซบาสเตียนหันมาถามชายที่เดินนำหน้าเขาอย่างสงสัยแปลกใจ

"ใช่ นายหญิงสั่งให้ปิดตายห้องนั้นทันทีหลังจากที่เจ้าออกไปจากที่นี่แล้ว แล้วสั่งย้ายซีทานไปนอนที่ห้องของข้าชั่วคราว เจ้าหนุ่มนั่นบ่นใหญ่เลยบอกว่าหนาว นายท่านเลยสงเคราะห์สั่งให้ไปนอนที่ห้องโถงกลางไปก่อนชั่วคราว ที่ห้องนั้นพื้นทำจากไม้ไม่ใช่น้ำแข็งน่ะ เจ้าซีทานเลยยอมนอนที่นั่นจากนั้นเขาก็ไม่บ่นเลยว่าหนาว หึหึหึ"มักเกิลเป็นคนตอบเขากำลังเดินตามเซบาสเตียนมาด้วย

"อืม เป็นผมหากไปนอนในห้องที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งก็หนาวเหมือนกันนะ ดีแล้วที่ซีทานได้นอนในที่อุ่นๆ"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆ

"ใช่ หลังจากนั้นไม่กี่วันนายใหญ่จัดการประลองขึ้นเพื่อหาหัวหน้าคนใหม่มาทำหน้าที่แทนท่าน เพราะท่านต้องไปคอยดูแลนายหญิง งานการต่างๆเลยต้องหาคนมาทำแทน ข้าก็เลยลองลงแข่งดูปรากฏว่าเป็นไงรู้มัย"มักเกิลเล่าให้เพื่อนอีกาฟังอย่างดีใจ

"คุณก็ประลองชนะใช่มัยล่ะครับ"เซบาสเตียนลองเดาดู

"ใช่แล้วล่ะ ข้าล่ะดีใจสุดๆเลยนะที่ข้าสามารถเอาชนะพวกพ้องได้จนนายหญิงและนายท่านยอมรับ แต่งตั้งให้ข้าขึ้นมาเป็นหัวหน้าแทนน่ะ"มักเกิลหลับตาพูดอย่างภาคภูมิใจ เซบาสเตียนก็พยักหน้าเห็นด้วยแล้วเดินตามบอด็อกไปเงียบๆจนกระทั่งมาถึงห้องพักใหม่ของซีทาน ซึ่งเป็นห้องที่มีเตาผิงอุ่นๆพื้นหิมะละลายไปหมดชายหนุ่มจึงไปหาแผ่นไม้มาทำเป็นพื้นและหาซื้อพรมมาปู ทำให้ห้องนี้อุ่นสบายน่านอนทีเดียว

"โหว...ท่าทางจะอุ่นสบายทีเดียวเลยนะครับ นี่คุณซีทานเค้าแต่งห้องเองเหรอ"เซบาสเตียนหันมาถาม บอด็อกกับมักเกิลพยักหน้าตอบรับ
และในระหว่างที่กำลังมองดูห้องพักใหม่ของซีทาน เจ้าของห้องก็เดินผ่านมาพอดี

"อ้าวพวกคุณมาทำอะไรในห้องของผมครับ นายท่าน หัวหน้า"เสียงนุ่มๆหวานเอ่ยทักมาจากที่ด้านหลังประตู เขาพึ่งกลับมาจากการอาบน้ำสระผมในห้องน้ำกำลังจะเข้านอน

"ไงคุณซีทาน พึ่งอาบน้ำเสร็จหรือครับ"เซบาสเตียนเดินมาทักทายมิตรสหายในทันที

"อ้าวคุณเซบาสเตียน เป็นไงมาไงถึงได้มาที่นี่ล่ะครับเนี่ย ผมกะว่าจะลองไปหาคุณที่บ้านนายน้อยของคุณอยู่เชียว แต่ก็ยังไม่มีเวลาจะไปเลย งานที่นี่เยอะน่าดู หัวหน้าเอย นายท่านเอย รุมโขลกสับสั่งงานจนไม่มีเวลาพักเลย หึหึหึ"ซีทานพูดประชดยิ้มๆเขาไม่ได้คิดมากหรอกที่งานล้นมือเขาออกจะสนุกด้วยซ้ำที่ได้ทำงานและได้มีห้องพักเป็นของตนเองเสียที

"ผมมีธุระจะมาคุยกับคุณน่ะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนและสำคัญมาก เกี่ยวกับ..นายเก่าของคุณ"เซบาสเตียนเริ่มนำเข้าประเด็นเขาไม่อยากจะรบกวนเวลานอนของปีสาจพวกนี้มากนัก เดี่ยวได้ข้อมูลของซีโร่เสร็จเขาก็จะรีบเดินทางไปทันที

"อ่า เชิญเข้าไปนั่งคุยกันข้างในก่อน หัวหน้าครับ นายท่านครับ ผมขอคุยธุระกับคุณเซบาสเตียนตามลำพัง"ซีทานบอกเขาไม่อยากให้ใครมาแอบฟัง

"อ้อ..ได้..เชิญ..ข้ากลับไปดูแลซีเบลก่อนดีกว่า ป่านนี้นางนอนหรือยังไม่รู้ ส่วนเจ้า มักเกิลกลับไปนอนได้แล้วไป "บอด็อกหันมาสั่งลูกสมุนของตนพร้อมกับคว้าแขนลากตัวพาออกมาจากห้องพักของซีทานทำทีเป็นเดินกลับไปยังห้องพัก แต่พอซีทานเดินมาปิดประตูแล้ว ปีศาจหนุ่มทั้งสองก็มาแอบฟังในทันทีด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"นายท่านมาแอบฟังแบบนี้จะดีหรือขอรับ"มักเกิลหันมากระซิบถามบอด็อกอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

"เอาเถอะน่าหรือแกไม่อยากรู้ว่าเจ้าซีทานกับเซบาสเตียนกำลังคุยเรื่องอะไรกัน"บอด็อกพูดเสียงกระซิบแล้วก้ค่อยๆเอาหูแนบกับประตูแอบฟังคนข้างในคุยกันและพวกเขาก็ได้ยินเสียงของซีทานเล็ดลอดออกมา

"เอาหล่ะ จะถามอะไรว่ามา"ซีทานเปิดประเด็นพรางเดินมานั่งที่เตียงซึ่งเตียงนี้เขาได้มาจากโต๊ะยาวอดีตเตียงของเซบาสเตียนนั่นแหละ เขาแค่ไปหาซื้อฟูก ผ้าปู และผ้าห่มมาใหม่เท่านั้น 

"งั้นขอพูดตามตรงเลยนะครับ คือว่าผมอยากได้ที่อยู่ของซีโร่"เซบาสเตียนพูดอย่างตรงไปตรงมา

"หา..อะไรนะ จะเอาไปทำไม!!"ซีทานร้องถามอย่างตกใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าเพื่อนอีกาจะกล้ามาขอที่อยู่ของอดีดเจ้านายเลือดเย็นนั้นกับเขา 

"ซีโร่จับวิญญาณคนของผมไป ผมต้องรีบไปชิงวิญญาณคืนกลับสู่ร่างให้ทันก่อนครบเจ็ดวัน ไม่อย่างงั้นคนพวกนั้นจะต้องตายไปจริงๆ"เซบาสเตียนพูดด้วยท่าทีจริงจัง

"แต่ว่า...ซีโร่เป็นเอสคราสนะ ถ้าคุณไปก็เท่ากับรนหาที่ตาย คุณเป็นปีศาจทั่วไปไม่ใช่เหรอ "ซีทานเงยหน้ามาโต้แย้งเขาไม่อยากให้เพื่อนอีกาไปเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยวิญญาณมนุษย์พวกนั้น

"เปล่าจริงๆแล้วผมเป็นเอสคราส ผมต้องขอโทษด้วยที่ตอนนั้นผมไม่กล้าพูดบอกคุณไปตรงๆเพราะยังเห็นว่าคุณมีท่าทีหวาดกลัวเอสคราส"เซบาสเตียนตัดสินใจสารภาพไปตามตรงว่าตนโกหกว่าเป็นปีศาจทั่วไป
ซีทานหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจที่เพื่อนอีกามาหลอกเขาให้เข้าใจผิดไปเสียได้

"ขออภัยจริงๆนะครับคุณซีทาน อย่าโกรธผมเลยนะผมแค่ไม่อยากให้คุณหวาดกลัวผมเท่านั้นเองอ่ะ ตอนนี้คุณก็รู้แล้วคุณอาจจะเกลียดผมแล้วก็ได้ แต่ถึงยังไงก็ช่วยบอกที่อยู่ของซีโร่ให้ผมหน่อยเถอะผมต้องไปช่วยคนของผมกลับมาให้ได้ "เซบาสเตียนพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากหนุ่มหน้าหวาน

"ผมบอกไม่ได้หรอก "ซีทานหลับตาพูดด้วยท่าทีจริงจัง

"ทำไมล่ะครับ"เซบาสเตียนถามมองหน้าซีทานอย่างสงสัย ทำไมกันล่ะ ทำไมถึงบอกไม่ได้

"ถึงผมจะหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้ว ผมก็ไม่ควรจะบอกที่อยู่นั้นให้คนอื่นรู้ มันผิดจรรยาบรรณของการเป็นข้ารับใช้ ผมรู้สึกกระดากปากเกินกว่าจะบอกได้"ซีทานหลับตาพูดเขาไม่อาจบอกได้จริงๆ

"แต่นี่มันสำคัญมากสำหรับผมนะ ช่วยหน่อยเถอะครับ ถ้าไม่พูดออกมาก็เขียนก็ได้ หรือบอกสถานที่ใกล้เคียงก็ได้แล้วผมจะไปค้นหาเอง"เซบาสเตียนลองเสนอแนะดู

"เอ่อ..ถ้าเป็นสถานที่ใกล้เคียงผมพอจะเขียนให้ได้ แต่ผมไม่อาจเขียนระบุได้ว่าซีโร่อยู่ที่บ้านหลังไหนนะครับ"ซีทานเงยหน้าขึ้นมายื่นเงื่อนไข

"ได้ครับ เอาแค่ที่ใกล้เคียงก็พอ"เซบาสเตียนยอมถอยมาหนึ่งก้าว ไม่รุกร้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไป

"งั้นผมจะเขียนให้ก็แล้วกัน"ซีทานตอบรับ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะเปิดลิ้นชักหยิบกระดาษกับปากกาออกมาแล้วก็เริ่มทำการร่างแผนที่ที่เกาะปีศาจเขียนแค่สถานที่ใกล้เคียงเท่านั้น เซบาสเตียนยืนรอคอยอย่างสงบ

ในระหว่างนั้นทางชิเอลก็พึ่งเขียนจดหมายด่าเซบาสเตียนเสร็จและกำลังจะเอามาหย่อนใส่ลงในดวงไฟสีฟ้า แต่ก่อนจะหย่อนเขาลองอ่านทวนอีกครั้งว่าตนเขียนหนังสือได้ถูกต้องดีหรือเปล่าเพราะเซบาสเตียนค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการเรียงประโยค ขืนเขียนผิดสิมีหวังเจ้านั้นกลับมาเอาไม้เรียวมาตีมืออีกแหง๋ๆ

"อืม...คำนี้สะกดถูกเปล่าหว่า....จะเขียนด่าเจ้านั่นทั้งทีทำไมมันยุ่งยากอย่างงี้น้า ไม่น่าให้เจ้านั่นมาเป็นอาจารย์เล้ย อืม..น่าจะเรียงถูกแล้วล่ะมั้ง เหอะช่างเถอะส่งไปเดี่ยวก็รู้ว่าเขียนผิดหรือถูก เจ้านั้นคงยุ่งจนไม่มีเวลามาทำโทษเราหรอก เอาหล่ะลองส่งดูแล้วกัน ฮึบ"ชิเอลพึมพำกับตนเองนั่งเอาจดหมายที่ตนเขียนมาอ่านทวนพิจารณาดูหลักไวยากรณ์ว่าเขียนได้ถูกหรือเปล่าอย่างกังวลหน่อยๆ แต่พออ่านทวนไปสองสามครั้งจนแน่ใจแล้วว่าจดหมายอ่านได้ลื่นไหลไม่มีคำอะไรอ่านแล้วสะดุด จึงกลั้นใจหย่อนกระดาษใส่ลงไปในดวงไฟ ดดยก่อนหน้านั้นเขาเขียนชื่อผู้รับตัวเบอเร่อเลยกลัวมันไม่ยอมส่งไป

และทันทีที่ชิเอลหย่อนกระดาษใส่ลงไปในดวงไฟสีฟ้า ก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดง แล้วกระดาษแผ่นนั้นก็หายไปพร้อมกับดวงไฟสีแดงที่พึ่งเปลี่ยนกลับมาเป็นสีฟ้าตามเดิม การส่งข้อความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี (เมสเซสคอมพรีส) เขาได้แต่หวังว่าคำด่าจะไปถึงมือผู้รับนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา