memorable guy ผู้ชายที่ไม่เคยลืม

9.2

เขียนโดย BLACK_SEA

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.02 น.

  5 chapter
  12 วิจารณ์
  11.51K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 12.58 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) ลองชุด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

‘พรึ่บ’

 

 

ไฟในห้องถูกเปิดสว่างขึ้น

 

 

แก้วเดินตรงไปหยิบอัลบั้มรูปเล็กๆข้างๆไดอารี่ในลิ้นชักของโต๊ะตัวโปรดของเธอออกมา ไล่เปิดดูรูปในวัยเด็กของเธอ..

 

 

รูปแรกเป็นรูปตั้งแต่เธอเพิ่งจะอายุไม่ถึงเดือนกำลังนอนอยู่บนเบาะเล็กๆ ข้างๆมีเด็กผู้ชายตัวใหญ่กว่าเธอพอสมควรนอนอยู่ด้วย

 

 

รูปที่สองเป็นรูปที่เธอโตขึ้นมาอีกนิดหน่อยกำลังกินนมจากขวด โดยมีเด็กผู้ชายนั่งอยู่ข้างๆ

 

 

รูปที่สามเป็นรูปที่เธอกำลังนั่งเล่นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ขณะที่เด็กผู้ชายข้างๆนั่งถือตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ อันที่จริงของเขาควรจะเป็นตัวใหญ่.. แต่เขาก็เสียสละให้เธอ

 

 

รูปที่สี่เป็นรูปตอนเธออายุประมาณสี่ขวบกำลังเล่นหุ่นยนต์อยู่ด้วยท่าทางสนุกสนาน ในขณะที่เด็กผู้ชายข้างๆกำลังถือตุ๊กตาบาร์บี้ของเธออยู่ อันที่จริงหุ่นยนต์นั่นก็ของเขา...

 

 

รูปที่ห้าเป็นรูปที่เธอกำลังยืนเป่าเทียนข้างๆเขาตอนงานวันเกิดของเขา.. เขาเป็นเจ้าของงานแต่เธอเป็นคนเป่าเพราะว่าเธองอแงอยากจะเป่า.. เขาก็ยอมให้เธอเป่า

 

 

แก้วหยิบรูปอีกหลายร้อยใบขึ้นมาดู เธอยิ้มในใจ.. ทุกๆรูปจะต้องมี ‘โทโมะ’ อยู่ด้วยตลอดเลยสินะ..

 

 

เธอไล่ดูจนมาหยุดที่รูปสุดท้ายที่ถ่ายด้วยกัน... เป็นรูปก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อ.. ก่อนที่จะต้องแยกจากกันไป..

 

 

รูปใบสุดท้ายเป็นรูปที่เธอกับเขาถ่ายคู่กันที่สนามเด็กเล่น เธออยู่ในชุดเจ้าหญิงใส่มงกุฎดอกไม้ที่เขาทำให้ ส่วนเขาอยู่ในชุดสูทของเด็กโต ซึ่งดูแล้วเหมือนงานแต่งงานไม่มีผิด

 

 

แก้วยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้นั่งดูรูปที่เธอเก็บรักษาไว้อย่างดี เธอดึงอัลบั้มรูปนั้นมาแนบอกแล้วเดินไปล้มตัวนอนลงบนเตียง

 

 

‘ผลุบ’

 

 

เสียงของรูปใบหนึ่งหล่นออกมาจากอัลบั้ม แก้วมองไปที่รูปใบนั้นก่อนจะหยิบขึ้นมาดู

 

 

“เอ๋? นี่มัน...” แก้วขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเป็นรูปของเด็กสามคนยืนจับมือกันเป็นแถวหน้ากระดานเรียงตามความสูงด้านขวาสุดคือโทโมะ ตรงกลางคือเธอเอง แล้วด้านซ้ายนี่ใครกันล่ะ..

 

 

แก้วนั่งคิดอยู่สักพักก่อนจะเลิกสนใจ แล้วนำรูปใบนั้นเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์ของเธอแทนที่จะเก็บไว้ในอัลบั้มตามเดิม..

 

 

 

 

 

 

 

 

“โทโมะพาแก้วไปลองชุดมารึยังลูก” เมื่อเดินพ้นประตูเข้ามาในบ้าน ผู้เป็นแม่ก็เอ่ยถามอย่างสดใส

 

 

“ยังครับแม่ วันนี้แค่พาไปข้างนอก” โทโมะหันไปตอบ

 

 

“ทำไมล่ะลูก แม่ก็บอกแล้วไงว่าให้พาไปน่ะ” แม่ทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่ลูกชายตัวดีไม่ทำตามที่สั่งไว้

 

 

“ไว้วันหลังละกันครับแม่ ผมขอตัวก่อน ผมง่วงแล้วครับ” โทโมะกล่าวลาแล้วเดินหนีขึ้นไปบนบ้านทันที

 

 

 “โทโมะ!!!” ผู้เป็นแม่ตะโกนไล่หลังไป แต่ลูกชายก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมา เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาเพื่อนรักทันที..

 

 

 

 

 

 

 

 

‘ก๊อกๆ’

 

 

“แก้ว นอนหรือยังลูก”

 

 

“ยังค่ะแม่”

 

 

“แม่เข้าไปนะ” แม่บอกก่อนจะเปิดเข้าไปในห้อง แก้วละสายตาจากโน้ตบุ๊คตรงหน้าหันไปหาแม่ของตน

 

 

“คือคุณป้าฮานะโทรมาบอกว่า พรุ่งนี้ให้เราไปลองชุดแต่งงานจ้ะ”แม่มลบอกตามที่เพื่อนรักโทรมาบอกเมื่อสักครู่

 

 

“จริงหรอคะ แล้วพี่โทโมะ..”แก้วทำหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วเหมือนจะถามอะไรต่อ

 

 

“พี่โทโมะก็ไปด้วยจ้ะ” แม่มลรู้ว่าลูกอยากจะรู้อะไรก็ตอบไปแบบไม่ต้องฟังคำถาม ซึ่งนั่นก็ทำให้แก้วยิ้มออก

 

 

“พรุ่งนี้ 8 โมงออกจากบ้านนะลูก รีบนอน รีบตื่น เข้าใจนะจ๊ะ ฝันดีจ้ะ”

 

 

“ค่ะแม่” แม่มลลูบหัวลูกสาวเบาๆก่อนเดินออกไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่ โทโมะ แม่เข้าไปนะ”ผู้เป็นแม่บอกก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องลูกชาย

 

 

“มีอะไรหรอครับแม่” โทโมะที่นอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียงเอ่ยถามขึ้น

 

 

“พรุ่งนี้ไปลองชุดแต่งงานนะลูก”โทโมะหันขวับมาทันที

 

 

“ฮะ! นี่คุณแม่พูดจริงหรอครับ?”

 

 

“อื้ม แม่นัดทั้งน้ามล ทั้งหนูแก้วไว้ให้แล้ว”แม่ของโทโมะพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ

 

 

“คุณแม่ครับ ผมบอกว่าผมไม่อยากแต่งไง” โทโมะเริ่มขึ้นเสียง

 

 

“โทโมะ ดูนี่” แม่ยื่นเอกสารบางอย่างให้กับโทโมะ โทโมะรับมาอ่านสักพักหนึ่ง แล้วพบว่ามันคือเอกสารที่ออกโดยโรงพยาบาลชื่อดัง และมีชื่อของนายแพทย์ที่เค้าคุ้นเคย ‘นายแพทย์ภาณุ จิระคุณ’ เพื่อนสนิทของเขากำกับอยู่

 

 

“นี่แม่เป็นมะเร็งหรอครับ..”โทโมะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ใบหน้าของเขาดูเศร้าลงถนัดตา

 

 

“อื้อ ระยะที่สามแล้วแหละ แม่ว่าแม่คงจะอยู่ได้อีกไม่นานเท่าไหร่” ได้ยินดังนั้น ความเสียใจก็เข้ามาแทรกซึมเข้าสู่ทุกส่วนในร่างกาย..มันชาไปหมดเลย..

 

 

“แม่เป็นมานานรึยัง ทำไมแม่เพิ่งจะมาบอกผม”น้ำใสๆค่อยๆไหลรินจากดวงตาคู่สวยของโทโมะ

 

 

“แม่แค่อยากเห็นลูกแม่แต่งงานกับคนที่แม่ชอบก่อนแม่จะจากโลกนี้ไป แค่นี้ ลูกช่วยทำให้แม่หน่อยได้มั้ย”แม่ของโทโมะเดินไปนั่งลงที่เตียงข้างๆลูกชาย

 

 

“ได้มั้ย...โทโมะ..” เธอโอบกอดลูกชายที่กำลังร้องไห้ เธอไม่ได้อยากเห็นลูกเป็นอย่างนี้เลย..

 

 

“ครับ..แม่ ผมจะแต่งงานกับแก้ว” โทโมะพยักหน้ารับคำของมารดาพร้อมกอดและซุกหน้าไปที่อกของเธอเธอลูบผมลูกชายช้าๆ ก่อนเขาจะหลับไป..

 

 

เวลาผ่านไป..เมื่อหญิงวัยกลางคนแน่ใจว่าลูกชายของเธอหลับสนิทแล้ว เธอก็ค่อยๆย้ายหัวลูกชายของเธอที่อยู่บนตักไปไว้ที่หมอนนุ่มๆบนเตียงแทนก่อนที่จะลงยืนข้างเตียงพร้อมก้มหน้าไปจุมพิตที่ศีรษะของลูกชายเธอ

 

 

“แม่รักลูกนะ..โทโมะ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันต่อมาแม่มลพาแก้วออกไปยังร้านชุดแต่งงานเมื่อวานที่โทโมะพาเธอผ่านมา

 

 

“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า” แก้วยกมือขึ้นไหว้พ่อและแม่โทโมะอย่างนอบน้อม

 

 

“สวัสดีจ้ะหนูแก้ว แต่บอกแล้วไงว่าให้เรียกแม่กับพ่อน่ะลูก” พ่อและแม่ของโทโมะรับไหว้

 

 

“ค่ะคุณแม่ แล้วพี่โทโมะล่ะคะ” แก้วถามพลางมองหาคนที่พูดถึง

 

 

“เดี๋ยวก็มาจ้ะ เดี๋ยวหนูแก้วไปลองชุดก่อนเลยนะ ชอบชุดไหนบอกเค้าเลยนะลูก” 

 

 

“เชิญทางนี้เลยค่ะ” พนักงานผายมือไปทางห้องลองชุดก่อนจะเดินนำไป แก้วจึงเดินตามพนักงานไป

 

 

ทั้งสามคนที่เหลือนั่งคุยกันไปเรื่อยๆตามประสาเพื่อนเก่าแก่ สักพักก็มีคนผลักประตูเข้ามาในร้าน

 

 

“สวัสดีค่ะ คุณแม่” หญิงสาวไหว้แม่มล

 

 

“อ้าว หนูฟาง สวัสดีจ้ะ นั่งก่อนสิ นี่พ่อกับแม่พี่โทโมะเค้าน่ะ ส่วนนี่หนูฟางเพื่อนแก้วเค้าน่ะ” แม่มลแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน

 

 

“สวัสดีค่ะ หนูเคยเจอพี่โทโมะแล้ว พี่เค้าน่ารักดีนะคะ ดูเป็นคนดี ต้องดูแลเพื่อนหนูได้แน่นอนค่ะ” ฟางพูดยิ้มๆ

 

 

“จริงหรอจ๊ะ ขอบคุณจ้ะ แล้วนี่หนูฟางมีแฟนรึยังเนี่ย สวยๆอย่างนี้ต้องมีแล้วแน่ๆเลย” แม่โทโมะถามแล้วยิ้มให้ฟาง

 

 

“โหยย ยังไม่มีหรอกค่ะคุณป้า นี่หนูก็รออยู่เหมือนกันว่าจะมีสักวันหนึ่งที่พระเจ้าจะส่งใครสักคนมาให้หนู ฮ่าๆๆๆ” คำพูดของฟางทำให้ทุกคนหัวเราะชอบใจกันใหญ่

 

 

“ว่าแต่หนูฟางมากับแก้วแต่เช้าอย่างนี้หนูกินข้าวมารึยังจ๊ะเนี่ย” แม่มลถามขึ้น

 

 

“อ๋อ หนูรอแก้วลองชุดเสร็จก่อน แล้วค่อยไปกินพร้อมแก้วอ่ะค่ะ”ฟางตอบ แต่ตอนนี้เธอว่าเธอก็เริ่มจะหิวๆแล้วเหมือนกันแฮะ

 

 

“อ้าว นี่ยัยแก้วตัวแสบไม่ได้บอกหรอว่ากินข้าวมาจากบ้านแล้ว” แม่มลตกใจเมื่อรู้ว่าฟางยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ เดี๋ยวอีกสักพักฟางค่อยออกไปกินก็ได้” ฟางยิ้มให้แม่มล แล้วชวนคุยเรื่องอื่นแทน และอีกหลายๆบทสนทนาของฟางนั้นก็สามารถทำให้ทุกคนหัวเราะได้อย่างสนุกสนาน

 

 

“คุยอะไรกันอยู่ครับ น่าสนุกเชียว” โทโมะเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง

 

 

“สวัสดีครับน้ามล” โทโมะสวัสดีแม่ของแก้ว

 

 

“อ้าว โทโมะ มาแล้วหรอเข้าไปในห้องเลยไป น้องแก้วเข้าไปตั้งนานแล้วเนี่ย”ผู้เป็นแม่เอ่ยไล่

 

 

“ครับแม่ งั้นผมฝากเพื่อนผมด้วยนะครับ” โทโมะทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินเข้าไป

 

 

“คุณแม่ครับสวัสดีครับ คุณน้าครับสวัสดีครับ” ชายหนุ่มเพื่อนของโทโมะยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

 

 

“สวัสดีจ้ะ เป็นไงมาไงล่ะตาป็อป วันนี้ไม่มีงานหรอ” แม่ของโทโมะรับไหว้ ก่อนจะไถ่ถามความเป็นมา

 

 

“ครับ วันนี้เข้าเวรดึกเลย อีกอย่างนึง ป็อปอยากจะมาเห็นว่าที่เจ้าสาวไอ้โทโมะมันหน่อยน่ะครับ” ป็อปปี้พูดยิ้มๆ

 

 

“แก้วเพื่อนฟางอ่ะสวยอยู่แล้วน่า” ฟางพูดขึ้นมา ทำให้ป็อปปี้หันไปมองหน้าฟางงงๆ

 

 

“เธอเป็นใครเนี่ย” ป็อปปี้ถาม

 

 

“อ๋อ แม่ก็ลืมแนะนำ นี่พี่ป็อปนะหนูฟาง เป็นเพื่อนโทโมะเค้าน่ะ ส่วนนี่น้องฟางนะเจ้าป็อป เป็นเพื่อนว่าที่เจ้าสาวเจ้าโทโมะน่ะ” แม่ของโทโมะแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน

 

 

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องฟาง” ป็อปปี้ยิ้มให้ฟางแล้วยื่นมือออกไปข้างหน้าหญิงสาว

 

 

“ค่ะ เช่นกัน” ฟางยิ้มตอบพร้อมยื่นมือออกไปจับมือป็อปปี้แล้วชักกลับอย่างรวดเร็ว

 

 

“คุณแม่ครับ คุณน้าครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปทานข้าวก่อนนะครับ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยเจ้าโทโมะเล่นไปตามถึงคอนโดตั้งแต่เช้าเชียว” ป็อปปี้พูดพลางเอามือลูบท้องเป็นเชิงว่าหิวจริงๆ

 

 

“ตามสบายเลยลูก เอ๊ะ หนูฟางก็ยังไม่ได้กินอะไรมานี่ ไปกินกะพี่ป็อปเค้าไปลูก” แม่ของโทโมะหันไปบอกฟาง

 

 

“ฟางว่า เดี๋ยวฟางไปเองดีกว่าค่ะ ฟางเกรงใจ” ฟางยิ้มแห้งๆให้ แหมคนมันเกิดมายังไม่เคยไปนั่งกินข้าวกับผู้ชายสองต่อสองนี่หว่า.. แถมเพิ่งจะรู้จักกันอีก

 

 

“มาเถอะ ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า” ป็อปปี้ดึงมือฟางให้ลุกขึ้น ฟางที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็เซจะล้มลง

 

 

“เหวอออออ” ฟางร้องออกมา แล้วชนป็อปปี้ล้มลงไปนั่งที่พื้น

 

 

“โอ๊ย เจ็บนะเนี่ย” ป็อปปี้ที่นั่งลงไปกองที่พื้นร้องออกมา

 

 

“ขอโทษ ก็ใครบอกให้ดึงกันเล่า” ฟางทำหน้าสำนึกผิดเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือออกไปให้ป็อปปี้

 

 

“อ่ะ ลุกสิ” ป็อปปี้มองมือฟางที่ยื่นมาแล้วจึงจับมือฟางแล้วลุกขึ้น

 

 

“ไปกินข้าวกันได้ยังอ่ะ ทีนี้” ป็อปปี้ถาม

 

 

“ไปก็ได้” ฟางตอบแล้วเดินนำป็อปปี้ออกไป

 

 

“นี่ เดี๋ยวๆ รอด้วยสิ” ป็อปปี้มองฟางที่เดินออกไปอย่างรวดเร็วก็วิ่งตามไป

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา